วันศุกร์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2556
ผักกูด อาหารต้านอนุมูลอิสระ วิธีปลูก หมอชาวบ้าน ปกหน้าผักกูด
ผักกูด อาหารต้านอนุมูลอิสระ วิธีปลูก หมอชาวบ้าน ปกหน้าผักกูด / ต้นผักกูดจะขึ้นเป็นกอ สูงประมาณ 50-100 เซนติเมเตร มีเหง้าอยู่ใต้ดิน ส่วนของรากฝอยแตกเเป็นกระจุก เจริญิเติบโตแผ่กระจายขนานไปกับผิวดิน ก้านใบแตกจากเหง้ายาวประมาณ 50-80 เซนติเมตร ..ส่วนของยอดอ่อน ปลายยอดม้วนงอแบบก้นหอยและมีขน จะค่อย ๆ คลี่ออกก้านใบยาวขึ้นเมื่อมีการเจริญเต็มที่ ขยายพันธุ์โดยใช้สปอร์ที่สร้างขึ้นบริเวณด้านหลังใบ เมื่อสปอร์ปลิวไปตกบริเวณที่มีมีความชื้นก็จะแตกต้นใหม่ และขยายพันธุ์โดยใช้ต้นใหม่ที่เกิดจากส่วนเหง้าหรือรากฝอยของต้นแม่ ผักกูดต้องการความชื้นค่อนข้างสูงสำหรับการเจริญเติบโตและการแพร่กระจายพันธุ์... ปูโจ๊ะปากู..ภาษามาลายู.. ในสภาพธรรมชาติ จึงพบผักกูดได้ตามที่ชื้นแฉะทุกภาคของประเทศไทย/// การปลูกผักกูดเป็นการค้า ผักกูดเจริญเติบได้ดีในพื้นที่ดินร่วนปนทราย แต่มีความชื้นสูง แสงแดดไม่ร้อนจัดเกินไป การนำมาปลูกเป็นการค้า จึงจำเป็นต้องจัดสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมกับการเจริญเติบโต ก็สามารถปลูกได้ทุกภูมิภาคของประเทศไทย คือ สภาพแปลงปลูกควรมีแสงแดดรำไรหรือมีการพรางแสงและมีแหล่งน้ำตลอดฤดูกาลเพาะปลูก รูปแบบของการปลูก สามารถทำได้ 2 วิธี คือ 1.การปลูกร่วมกับพืชชนิดอื่น เพื่อช่วยพรางแสงให้เหมาะสมกับการเจริญเติบโตของผักกูด โดยพืชที่นำมาปลูกร่วมกับผักกูดควรเป็นพืชที่ชอบน้ำ การให้น้ำไม่มีผลกระทบต่อการออกดอกและการติดผลของพื้ชชนิดนั้น เช่น การปลูกร่วมกับกล้วย หรือปลูกร่วมกับไม้ผลยืนต้น 2.การปลูกภายใต้ร่วมเงาตาข่ายพรางแสงหรือสแลน เลือกสแลนที่สามารถพรางแสงได้ตั้งแต่ 50-80% หากต่ำกว่านี้จะทำให้การเจิรญเติบโตและผผลิตไม่ดี หรืออาจเกิดใบไหม้ได้ในช่วงที่แสงแดดร้อนจัด แต่ถ้าพรางแสงมากเกินไป ทำให้ได้รับแสงแดดไม่เพียงพอ ต้นผักกูดจะเกิดอาการยืดยาว ลักษณะต้นจะสูงไม่แข็งแรง และมีผลต่อการให้ผลผลิต ...วิธีการปลูกผักกูด แยกต้นกล้าผักกูดที่เกิดจากส่วนเหง้าหรือรากฝอยของต้นแม้ นำต้นพันธุ์มาปลูกลงแปลงโดยตรงก็ได้ ก่อนปลูกควรตัดใบออกประมาณครึ่งหนึ่ง เพื่อลดการคายน้ำได้ และลดการตายของต้นกล้า หรือจะนำมาเพาะชำเป็นต้นกล้าก่อน เพาะชำต้นกล้าในถุงดำประมาณ 2 เดือน ได้ต้นกล้าผักกูดที่พร้อมลงลงแปลง เตรียมหลุมปลูกขนาดกว้าxยาวxลึก ประมาณ 30x30x30 เซนติเมตร รองก้นหลุมด้วยปุ๋ยอินทรีย์ 500 กรัม คลุกเคล้าให้เข้ากันกับดินแล้วจึงนำต้นกล้าลงปลูก ระยะปลูกที่ใช้ระหว่างต้นและระหว่างแถวประมาณ 50 เซนติเมตร... การดูแลรักษา การให้น้ำ ผักกูดต้องการความชื้นในการตั้งตัว ดังนั้น ช่วงแรกของการปลูก 1-2 เดือน ควรมีการให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ วันละ 1 ครั้ง เมื่อต้นตั้งตัวได้แล้วจึงให้น้ำ 2-3 วัน/ครั้ง..อย่างไรก็ตาม การให้น้ำแก่ผักกูดต้องดูสภาพอากาศด้วย ถ้าเป็นช่วงหน้าร้อน แสงแดดจัด ต้องให้น้ำมากขึ้น แต่ถ้าเป็นช่วงฤดูฝนความชื้นค่อนข้างสูง การให้น้ำก็จะให้ห่างขึ้น..การใส่ปุ๋ย การปลูกผักกูดเน้นการใช้ปุ๋ยอินทีรย์เป็นหลัก โดยใส่ประมาณ 1-2 กิโลกรัม/ต้น ใส่ทุก ๆ 3 เดือน/ครั้ง ร่วมกับการพ่นปุ๋ยอินทรีย์น้ำชนิดน้ำ 1-2 ครั้ง/เดือน ในช่วงที่เริ่มเก็บผลผลิตแล้ว จะช่วยให้ได้ต้นมีการเจริญเติบโตและผลผลิตดีขึ้น..การป้องกันกำจัดแรคและแมลง เนื่องจากผักกูดไม่ค่อยมีโรคและแมลงรบกวน การปลูกจึงไม่มีการใช้สารเคมีเพื่อป้องกันกำจัดโรคและแมลง จึงเหมาะอย่างยิ่งในการผลิตเป็นพืชผักปลอดสารพิษ หรือผักอินทรีย์...การเก็บเกี่ยวผลผลิต หลังจากปลูกผักกูดประมาณ 6 เดือน จึงเริ่มเก็บผลผลิตได้ โดยเก็บส่วนยอดความยาว 25-30 เซนติเมตร ให้เก็บ 3 วันต่อครั้ง เพื่อให้ต้นผักกูดมีการเจริญเติบโตของยอดได้ระยะที่เหมาะสมต่อการเก็บเกี่ยว..อย่างไรก็ตาม ไม่ควรเก็บยอดที่แตกมาใหม่ทั้งหมด ปล่อยให้ยอดจริญเติบโตเป็นนใบเพื่อทดแทนใบเก่าที่แก่แล้ว เนื่องจากใบผักกูดที่แก่เต็มที่แล้วจะเหลือง และแห้งตายไปในที่สุด ซึ่งแต่ะเดือนควรตัดแต่งใบที่แห้งตายออก ผลผลิตผักกูดที่ได้เฉลี่ยประมาณ 180-200 กิโลกรัม/ไร่/เดือน.. ราคาผลผลิตขายส่งประมาณ 25-30 บาท/กิโลกรัม สามารถสร้างรายได้กับเกษตรกรผู้ปลูก 60,0000-70,000 บาทต่อปี ..มีเบตาแคโรทีน ธาตเหล็กปริมาณสูง บำบัดรักษาโรคโลหิตจางและบำรุงเลือดได้เป็นอย่างดี ช่วยในการระบาย
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ปลูกเล่น ๆ ประมาณ 70 ต้น ที่หลังบ้านมานานแล้วไม่ค่อยสนใจ เพิ่งเก็บมากินดู อร่อยมาก เคี้ยวกลุบ ๆ คล้าย ๆ เห็ด ต้องขยายไปปลูกริม ๆ สวนปาล์ม สัก 800 ต้น เผื่อจะขายได้แต่ต้องโลละ 35 บาท งั้นไม่ขาย
ตอบลบ