สปาเก็ตตี้กุ้งแม่น้ำ / แกงขี้เหล็ก / เมี่ยงปลาทู / หมูตุ๋นปลาเค็ม / สลัดผักสด / แกงจืดมะระผักกาดดอง / ตำลึงไฟแดง / ข้างกล้องอบเผือก / ยำดอกแค /

สปาเก็ตตี้กุ้งแม่น้ำ //มะเขือเทศสุก 6 ลูก / หอมหัวใหญ่ 2 หัว/ มะเขือเทศบดละเอียด 3 ชต.Tomato Pate / ไวน์ขาว 1 แก้ว / น้ำซุป 2 ถ้วย / พริกไทย 1 ชช. / เกลือป่น 3 ชช. / น้ำตาล 1 ชช. / ซุปไก่ก้อน 1/2 ชต. / น้ำมันมะกอก 2 ชต. / +++ เครื่องเทศฝรั่ง / ใบกระวาน 1ใบ (Bay leaf) / ก้านพาร์สลีย์ Parsley 3 ก้าน / ใบพาสลีย์สับ 1 ชต. / ใบไธม์ Thyme 1 ชช. / +++ เครื่องปรุง กุ้งแม่น้ำ 1/2 กก. / สปาเกตตี 400 กรัม / (3mm.) +++ วิธีทำ 1.ตั้งน้ำในหม้อให้ร้อน จุ่มมะเขือเทศลงลวกทีละ 2-3 ลูก นับ 1-10 ตักขึ้น แช่นำเย็น(น้ำแข็ง) /2.ลอกเปลือกมะเขือเทศออก และหั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยม 1x1 ซม. / เขี่ยเม็ดทิ้งไป / 3.ปอกและหั่นหอมหัวใหญ่เป็นสี่เหลี่ยมเช่นเดียวกับมะเขือเทศ / 4.ตั้งกระทะให้ร้อน ใส่นำมันมะกอกลงไป ผัดหอมหัวใหญ่ กระเทียมจนหอม ใส่แป้งและซอสมมะเขือเทศบดละเอียดลงไป แล้วเติมน้ำซุป / 5.ใส่มะเขือเทศหั่นเต๋าลง พร้อมทั้งเครื่องเทศและเครื่องปรุง เติมไวน์ขาว เปิดไฟอ่อน ๆ เคี่ยวซอสจนเข้าเนื้อประมาณ 30 นาที คอยคนอยู่เรื่อยๆ ระวังติดก้นกระทะ / 6.ต้มสปาเกตตีในน้ำเดือดพล่าน เหยาะเกลือนิดหน่อย ดูเวลาที่กำหนดข้างกล่อง ประมาณ 7-8 นาที / 7.ล้างกุ้งให้สะอาด แกะเปลือกออก เหลือหัวและหางไว้ ผ่าเอาไส้กลางหลังออกและตัดหนวดทิ้ง /8.ตักซอสมะเขือเทศใส่กระทะพอประมาณ ตั้งไฟให้ร้อน ใส่กุ้งลงไป ขยับกระทะ 2-3 ครั้งเพื่อให้กุ้งสุก ปิดไฟ ตักราดบนเส้นสปาเกตตี โรยพริกขี้หนูแห้งทอดกรอบ และประดับใบโหระดพาสด รับประทานร้อน ๆ 6+++ ชาวอิตาลีนิยมรับปะทานเส้นพาสต้าทุกขนิดแบบไม่เละเกินไป และค่อนข้างจะแข็ง.แบบที่เรียกว่า "al Dente" คือเกือบจะสุก +++ .... เต้าหู้เห็ดหอมซีอิ๊ว .. เต้าหูขาวอย่าแข็ง 2 แผ่น / เห็ดหอมแห้ง 12 ดอก / ซีอิ๊วขาวสูตร 1... 3 ชต. / ซอสถั่วเหลืองปรุงรส 1 ชต. / พริกไทยป่น 1/2 ชช. / ซีอี๊วดำ 1 ชช. / น้ำซุป 3 ถ้ย/ น้ำตาลปี๊บเล็กน้อย *** วิธีทำ 1.หั่นเต้หู้เป็นสี่เหลี่ยมชิ้นใหญ่พอประมาณ แผ่นละ 6 ชิ้น / / 2.เห็ดหอมล้างน้ำให้สะอาด แช่น้ำให้นิ่ม / 3.ตั้งน้ำซุปในหม้อให้ร้อน ใส่เต้าหู้ที่หั่นแล้วลงในหม้อ ตามด้วยเห็ดหอม ปรุงรสทุกอย่าง พอน้ำเดือดหรี่ไฟลงอ่อน ๆ เคี่ยวไปเรื่อยๆ จนน้ำงวด เหลือตแต่น้ำขลุกขลิก (ในภาพเต้าหู้ทอดก่อน หั่นก่อนทอดก็น่าจะดี ผิวจะตึงตัว ไม่แตกและง่าย).. *** ++++ แกงขี้เหล็ก .. ยอดและดอกขี้เหล็กต้ม 300 กรัม / ปลากรอบย่าง 80 กรัม / มะพร้าวขูด 1/2 กก. / กระชายบุบ สับหยาบ 80 กรัม / หอมเล็กบุบพอแตก 6-7 หัว/ น้ำสุก 3 ถ้วย / ปลาร้า 60 กรัม / น้ำปลา 3 ชต. / +++ เครื่องพริกแกง.. พริกแห้งเม็ดใหญ่ 10 เม็ด / พริกขี้หนูแห้ง 5 เม็ด / กระเทียมเล็ก 5-6 กลีบ / หอมเล็ก 2 หัว / กะปิ 1 ชต. / ผิวมะกรูด 1 ลูก / +++ วิธีทำ 1.ขี้เหล็กต้มแล้วรินน้ำทิ้ง 3 ครั้ง ล้างน้ำเย็น แล้วบีบเอาน้ำออกให้หมด / 2.แบ่งน้ำมาคั้นมะพร้าว 2 ถ้วย / คั้น 2 ครั้ง กรองกะทิใส่หม้อตั้งไฟ / 3.โขลกพริกแกงให้ละเอียด แล้วตักใส่หม้อกะทิ ตามด้วยขี้เหล็ก ใส่หอมเล็กบุบ กระชายบุย ปลากรอบฉีกเป็นชิ้นเล็ก ๆ ใส่ลงเคี่ยวด้วยกัน / 4.ต้มปลาร้ากับน้ำที่เหลือ กรองเอาแต่น้ำ ใส่ลงในหม้อ เคี่ยวไปเรื่อย ๆ จนกะทิแตกมัน แต่ต้องหมั่นคน เพราะแกงขี้เหล็กจะติดก้นหม้อง่าย / 5. ปรุงรส +++ ความจริงขี้เหล็ดสดมีสารพิษ ครั้นเอามาแกงเข้า กลายเป็น "ยาระบาย" ขนานยอดเยี่ยม ใครที่ท้องไส้ผูก รับประทานแกงขี้เหล็กร้อน ๆ กับขนมจีน (ควรนึ่งก่อน) แบบเดียวกับกินขนมจีนน้ำยา จะอร่อยยอดเยี่ยมกว่าราดข้าวธรรมดา ถ้าได้แนมใบเล็บครุฑ ใบทองหลางชุบแป้งทอดร้อน ๆ จะประทับใจยิ่งขึ้น / ** ถ้าแกงดอกขี้เหล้กอย่างเดียวเปรี้ยวไป สู้ปนยอดด้วยไมได้ กลมกล่อมนัก / * แกงขี้เหล็ก ถ้าใส่เนื้อย่างติดมันหั่น ๆ บาง ๆ ตามขวางลงไปในแกงด้วย จะอร่อยยิ่งขึ้น สำหรับคนชอบรับประทานเนื้อหรือใส่เนื้อปลาสละแห้งหั่นเป็นชิ้นก็ดีจ้ะ +++ +++ เมี่ยงปลาทู .. ปลาทู 5 ตัว / ขิงอ่อนหั่นสี่เหลี่ยม 3 ชต./ หอมเล็กหั่นเต๋า 3 ชต. / มะนาวหั่นเต๋าพร้อมผิว 3 ชต. / ถั่วลิสงคั่วใหม่ 6 ชต. / พริกขี้หนูสวนหั่นฝอย *** +++ 1.นำปลาทูมาย่าง แกะเอาแต่เนื้อ หั่นเป็นสี่เหลี่ยม / 2.รับประทานกับใบชะพลู ผักกาดหอมหรือใบทองหลาง โดยนำไปใบเหล่านี้มาห่อปลาทูและเครื่องต่าง ๆ ในลักษณะเมี่ยง +++ ควรใช้ปลาทูย่างเตาถ่าน จะหอมกว่าที่นำไปทอด ใช้ปลาสดหรือปลานึ่งก็ได้ / * เมี่ยงปลาทูนี้ถ้าจะนำไปยำ ก็นำเครื่องทั้งหมดคลุกเคล้าให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยมะนาว เกลือ พริกขี้หนู และน้ำตาลนิดหน่อย แต่หอมเล็กและขิง ควรซอยแล้วรับประทานกกับต้นหอม ผักชี ใบสะระแหน่ ... +++ หมูตุ๋นปลาเค็ม.. ปลาสละเค็ม 50 กรัม/ หมูสามชั้นติดหนัง 150 กรัม / พริกไทยบุบ 8 เม็ด/ ตะไคร้ทุบ 4 ท่อน / กระเทียมเล็ก 10 กลีบ / น้ำมันพืช 1 ชต. / ซอสปรุงรส 1 ชช./ ซีอิ๊วขาว 1 ชช. / +++ 1.ล้างปลาเค็มให้ดี ผึ่งไว้ หั่นชิ้นโต ๆ เท่าหัวแม่มือ / 2.หั่นหมูสามชั้นหนา 1 ซม. กว้าง 4 ซม. (จะใช้หมูเนื้อแดงผสมกับหมูสามชั้นด้วยก็ได้) / 3.ตั้งน้ำมันให้ร้อนในหม้อ ใส่หมูลงไปรวนแล้วเรียงหมูให้ทั่วก้นหม้อ ใส่ตะไคร้ กระเทียม พริกไทย / 4.วางปลาเค็มเรียงข้างบนหมู / 5.ใส่ซอสปรุงรสและซีอิ๊วขาว เติมน้ำพอท่วม ปิดฝา / 6.เปิดไฟอ่อน ๆ จนน้ำงวดและหมูเปื่อยดี / 7.เปิดฝาและตั้งไฟต่อไป จนกว่าหมูจะเริ่มหอมมากขึ้น มีสีเหลืองเกรียม และมีน้ำมันออกมา ยกเสิร์ฟ กินกับข้าวสวยร้อน ๆ +++ สลัดผักสด .. ผักกาดหอม ผักกาดแก้ว ผักกาดหวาน มะเขือเทศลูกใหญ่ มะเขือเทศเชอร์รี่ แตงกวาไทยหรือแตงญี่ป่น หอมหัวใหญ่ กะหล่ำม่วง แครอทซอยฝอย พริกหยวกฝรั่ง แดง เหลือง เครสต่าง ๆ วอเตอร์เครส Watercress มัสตาร์เครส เครสญี่ปุ่น Mastardcress Kei wa rei ไควาระ...---- น้ำสลัดน้ำใส น้ำมันสลัด (300 ml.() 3 ส่วน / ส้มส้มสายชูบัลซามิค (Balsamic Vinegar) 100ml.) 1 ส่วน / มัสตาร์ดีจอง (Dijon Mustard) 1 ชต. / หอมเล็กสับ 1 ชต. / ใบไธม์สด (Thyme) 1 ชช. / เกลือ 1 ชช. / พริกไทยป่น 1/2 ชช. /น้ำตาล 1/2 ชช.... ---++ ... 1.ล้างผักให้สะอาด และจัดใส่จานให้สวยงาม / 2.เตรียมน้ำสลัด โดยใช้ไม้ตีไข่ทรงตะกร้อ ผสมเครื่องปรุงทุกอย่างเข้าด้วยกัน ยกเว้นน้ำมันสลัด แล้วค่อย ๆ เติมน้ำมันสลัดลงในชาม โดยใช้ไม้ตีไข่ตีไปเรื่อย / **** การถนอมผักสลัด วิธีรักษาคุณภาพผักที่วิเศษมากคือ เอาใบตองห่อผัก โดยอย่าเพิ่งล้างผัก เพราะผักจะสำลักน้ำและช้ำชอก ที่ล้างเก็บไว้ก็จะต้องเน่า เพียงเอาน้ำมาพรมน้อย ๆ แค่ให้ชื้น และใส่ถุงพลาสติกยักษ์เก็บไว้ในตู้เย็น จะไม่เหี่ยวไม่เน่า สดสวสยเท่าวันแรก เวลาปจะปรุงอาหารจึงค่อยเอาออกมาล้าง *** น้ำสลัดนี้เก็บในขวดแช่ในตู้เย็นไว้รับประทานได้นาน 3-4 อาทิตย์**** ------ แกงจืดมะระผักกาดดอง / มะระจีนหั่นท่อนยาว 2 นิ้ว คว้านไส้ออก 1 ลูก / กระดูกหมู 300 กรัม / ก้านผักกาดดอง หั่นท่อน 2 นิ้ว 150 กรัม / รากผักชี กระเทียม พริกไทยโขลก 1 ชช./ น้ำซุป 4 ถ้วย / ซีอิ๊วขาวสูตร 1 ** 2.5 ชต. / เกลือ 1/2 ชช. / ผักชี 1 ต้น / พริกไทยป่นเล็กน้อย วิธีทำ1.เอามะระที่คว้านไส้ออกล้างให้สะอาด ผึ่งไว้ /2.ตั้งน้ำซุปให้เดือด ใส่กระดูกหมู พอเดือดให้ช้อนฟองทิ้ง /3.ใส่มะระลงไปพร้อมทั้งผักกกาดดอง พอเดือดอีกที ช้อนฟอง หรี่ไฟให้อ่อน ๆ ต้มไปเรื่อย ๆ จนมะระเปื่อย / 40.ปรุงรสด้วเกลือและซีอิ๊วขาว /5.ชิมรสให้หวานน้ำซุป ตักเสิร์ฟร้อน ๆ โรยหน้าด้วยผักชี เหยาะพริกไทย---++ ... อาหารเทีเป็นเนื้อคู่กันและขาดกันไม่ได้ ถ้าไม่มีซึ่งกันแยละกันก็จะหมดรสหมดอร่อย มีหลายอย่างเช่น มะระกับผักกาดดองเค็มก็ถูกกันจนแยกไม่ออก / หน่อไม้ก็เช่นกัน พอเจอน้ำใบย่านางคั้นเข้าเท่านั้น มีชีวิตชีวาเลิศรสขึ้นทันที / ต้มกะทิสายบัวกับปลาทู ถ้าไม่มีมะดัน หมดรส / ไข่ปลาดุก ถ้าไม่มีมะม่วงดิบ ไข่ปลาดุกกก็ไม่มีความหมาย ***** *****....... ตำลึงไฟแดง .. ตำลึง 100 กรัม / หมูสับ 20 กรัม / กระเทียมสับหยาบ 2 กลีบ / พริกขี้หนูแดงบุบ 4 เม็ด / น้ำซุปหรือน้ำเปล่า 1 ชต. / ซอสหอยนางรม 1 ชต. /น้ำมันพื 1 ชต. +++ วิธีทำ 1.ลวกหมูในน้ำร้อน ตักพักขึ้น / 2.นำตำลึงที่เด็ดแล้วล้างน้ำให้สะอาด และสงขึ้นใส่กระละมัง / 3.เอาเครื่องปรุงทั้งหมดพร้อมหมูลวกใส่บนตำลึง / 4.ตั้งกระทะน้ำมันให้ร้อนจัด คว่ำกะละมังผักตำลึงพร้อมเครื่องปรุงลงใปกระทะ ผัดไปมาเร็ว ๆ เติมน้ำซุปนิดหน่อย ตักใส่จานเสิร์ฟทันที +++.. คุณค่าทางอาหารของผักยังมีมาก ไม่ควรให้เสื่อมไปเพราะใช้ความร้อนนานเกินไป ผักถูกวิธี ต้องใช้ไฟแรงมาก และทำให้ผักสุกในระยะเวลาอันสั้น กระทะรต้องร้อนจัด เอาผักซึ่งล้างแล้วกับซอสปรุง หรือหมูหรือเต้าเจี้ยว ใส่โครมลงพร้อมกันทุกอย่าง แล้วรีบคน ๆ ๆ ๆ อย่างที่เขาเรียกว่า "ผัดผักไฟแดง" +++*.... ข้าวกล้องอบเผือก ... / ข้าวกล้องสุก 1.5 ถ้วย/ หมูสับ 60 กรัม / เผือกต้ม (1x1cm.) 10 ชิ้น / เห็ดหอม 2 ดอก / เม็ดมะม่วงหิมาพนต์(ทอด) 10 เม็ด / เกลือ 1/4 ชช. / น้ำตาล 1/2 ชช. / ซีอิ๊วขาวสูตร 1 ชช. / มาร์การีน 1 ชช. / กุนเชียงทอดหั่นแฉลบ / น้ำมันสำหรับผัด 2 ชต. / พริกไทยป่นเล็กน้อย .. ... วิธีทำ 1.ตักข้าวใส่ชาม ใส่เครื่องปรุงรสทุกอย่าง ลงบนชามข้าว / 2.หั่นเผือกต้มที่หั่นแล้วเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า / 3.เห็ดหอมล้างให้สะอาด แช่น้ำพอนิ่มหั่นชิ้นเล็ก ๆ(หรือน่าจะทำเห็ดหอมทอดน้ำมันเยอะ แล้วเทน้ำมันออก ทำปรุงรสเคี่ยวให้เข้าเนื้อเห็ด) /4. ตั้งกระทะใส่น้ำมัน พอร้อนใส่หมูสับผัดให้สุก แล้วคว่ำชามข้าวลง ผัดให้เข้ากัน ใส่เผือก เห็ดหอม และเม็ดมะม่วงหิมพานต์(ทอดสุกแล้ว) / 5.ใส่เนยหรือมาร์การ์รีนลงไปคลุกให้ทั่ว แล้วตักข้าวใส่หม้อดิน โปะหน้าด้วยกุนเชียงทอดหั่นเฉียงแฉลบ นำไปตั้งไฟอ่อน ๆ ให้ข้าวระอุและหอม เสิร์ฟในหม้อดิน +++ ... ข้าวกล้องคือ ข้าวที่สีเอาเฉพาะเปลือกแข็งออก ไม่มีการขัดขาว เมล็ดข้าวยังสมบูรณ์ มีส่วนที่เรียกว่าจมูกข้าวและรำข้าวติดอยู่ ทำให้ข้าวกล้องมีคุณค่าทางอาหารสูงกว่าข้าวขัดขาว คือมีส่วนของแร่ธาตุต่าง ๆ ที่มีคุณค่า ซึ่งเชื่อกันว่าป้องกันโรคมะเร็งได้ และมีเส้นใยทำให้ระบบขับถ่ายดี ....----------- ยำดอกแค ... ดอกแค 120 กรัม / หมูบด 20 กรัม / ปลาหมึก 4 ชิ้น / กุ้งกุลาดำ 4 ตัว / หอมเล็กซอย 2 ชต. / พริกขี้หนูแดงสับ 1 ชช. / ++ น้ำยำ น้ำมะนาว 1 ชต. / น้ำตาล 2 ชช./ น้ำปลา 1 ชต. --- 1.น้ำใส่หม้อตั้งไฟให้เดือด แล้วลวกหมูบด กุ้ง ปลาหมึก พอสุกตักขึ้น / 2.ใส่ดอกแคลงลวกพอสุก ตักขึ้น ล้างน้ำให้ย็น บีบน้ำทิ้ง / 3.เอาทุกอย่างใส่ภาชขนะ เติมน้ำยำ คลุกเคล้าให้เข้ากันเร็ว ๆ ตักใส่จาน เสิร์ฟทันที อย่าทำทั้งไว้ จะเซ็ง -- ดอกแคและยอดแค โบราณนับถือว่านักว่ามีสรรพคุณป้องกันไข้หวัดใหญ่ (ต้นฤดูหนาว) เวลารับประทานให้เด็ดเกสรออก จะขมน้อยลง ...+++ ****--- ****