วันอังคารที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2556

27สค.56 ห้องสมุดซอยพระนาง.. มีผู้หญิงพอได้ยินเสียง ซึ๊ดจมูก ..ก็หันไปค้อนน้องผู้หญิงอีกคน...เขาก็หันมาทำหน้างง งง ...ส่วนเจ๊ก็ลุกหนีเขยิบไปนั่งมุมถัดไป..

27สค.56 ห้องสมุดซอยพระนาง.. มีผู้หญิงพอได้ยินเสียง ซึ๊ดจมูก ..ก็หันไปค้อนน้องผู้หญิงอีกคน...เขาก็หันมาทำหน้างง งง ...ส่วนเจ๊ก็ลุกหนีเขยิบไปนั่งมุมถัดไป../ ยังไม่วายที่จะหันไปค้อน..เราก็ได้ยินแล้ว..หันไปมองทุกครั้งที่ได้ยินเสียง.. ถ้าไม่ได้นั่งโต๊ะเดียวกันล่ะก็ ฟังไม่รู้หรอกว่าเป็นเสียงของใคร..เพราะมันก้อง รู้แต่ว่าเสียงมาจากทางนั้น.. ข้างโต๊ะที่ผู้หญิงนั่ง (หน้าห้องเจ้าหน้าที่) ถัดไปกลางห้อง มีนักศึกษาสาว 2 คนนั่ง เราคิดว่าน่าจะมาจากโต๊ะนี้ ในที่สุด น้องผู้หญิง(ผู้ต้องสงสัย)ก็กลับไปแล้ว..แต่ยังมีเสียงอีก สุดท้าย ..นศ.สาว 2 คน เป็นเพื่อนกันนั่นเอง.. คนนี้ผิวขาวดูจมูกแดง ๆ แต่ไม่ใช่... เขาลุกขึ้นมาคุยกันก่อนกลับออกไป... จะเห็นได้ว่า คนที่มีอาการอยู่ในข่ายเป็นหวัด..ย่อมต้องเป็นที่รังเกียจ ของคนสุขภาพดีปกติ... ..ส่วนนักฎหมายวันนั้น..ด่า "คุณเลวมาก มาทำกิริยาเลว ๆ ทำท่าเป็นรังเกียจคนอื่น" / อ้อลืมบอกไป..ว่า "ไม่ใช่แค่รังเกีจ กูน่ะ..เกลียดเลยแหละ คนเป็นหวัดแล้วมานั่งแพร่เชื้อในห้องแอร์" ก็กุเคยไปร้าน ซีเอ็ด มีผู้ชายมาทำท่ารังเกียจใส่กุเหมือนกัน.. ด่าด้วยสายตา .แล้วก็สะบัดตูดเดินหนีออกจากร้านไป..(เลยเดินตามไปมองหน้า เขาลงบันไดเอนไปแล้ว เงยหน้าขึ้นมามอง เราก็ด่ากลับไปสิ) เราเป็นหวัด..ฮัดเช้ย ไออะแฮ่ม ครบชุด.. ก็ถูกต้องของเขา..เพราะฉะนั้น ต่อจากนั้นมา ถ้าเราเจอคนเป็นหวัด ไม่หาย 100% ก็ทำมั่งดิ....ผิดตรงไหน..

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น