วันเสาร์ที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2555

เหตุเกิดที่ "วีรสุ" คุณป้า ..."แหมมาแต่เช้าเชียว ได้เก้าอี้แถวหน้า ๆ ใช่มั๊ยคะ"

เหตุเกิดที่ "วีรสุ" คุณป้า ..."แหมมาแต่เช้าเชียว ได้เก้าอี้แถวหน้า ๆ ใช่มั๊ยคะ / "อ๋อ ใช่ค่ะ หนูอยู่แถวเสาวรีย์ฯ มา 62 ต่อเดียวออกเช้าหน่อย ก็ได้แถวหน้า" / "อืม..งั้นพี่ขอฝากซื้อคิวได้มั๊ยคะ" / (แหม..ตามไม่ทันเรยเรา..สวนทันที) "ไม่ได้ค่ะ.. ใครมาก่อนก็ได้ก่อน ใครมาทีหลังก็ได้คิวหลัง... ดูอย่างพี่คนนั้นสิคะ..เขาอยู่จรัลสนิทวงศ์ 13 ออกจากบ้าน ตี 5 นั่งรถไฟฟ้ามา..ถ้าเราทำอย่างนี้ 1 คนฝากซื้อ 2 คิว ถ้า 3 คนหรือ 4 คน ฝากซื้อ..ก็เท่ากับเอาเปรียบ คนที่เขาพยายามมาให้เร็วที่สุด..ใช่มั๊ยคะ ..ไม่รู้่นะคะ พี่อาจจะไม่ชอบ แต่หนูก็คิดตรงๆ พูดตรง ๆอย่างนี้" / ป้า "ค่ะ พี่เข้าใจ น้องพูดถูกแล้ว" .......

ตระกูล "จงมีความสุข" ช่วยอ่านหน่อย ถ้าไม่รังเกียจ จากนังปู สุวรรณา (ลูกแซ่หยี น้องสาวคนเล็กของคุณเกียรติชัย จงมีความสุข" คุณทรงวุฒิ จงมีความสุข (ก๊อหมุก)

หนังสือราชการ "กรมธนารักษ์" ที่ กค0311/20230 การบอกเลิสัญญาเช่าที่ดินฯ ซอยพิพัฒน์ 2 หนังสือราชการ "กรมธนารักษ์" ที่ กค0311/20230 การบอกเลิสัญญาเช่าที่ดินราชพัสดุบริเวณซอยพิพัฒน์ 2 / ผู้เช่ายินยอมให้บอกเลิสัญญาเช่าได้ .....ไม่น้อยกว่า 30 วัน.. ท่านและบริวารจะต้องออกจากที่ดินที่เช่า ขนย้ายทรัพย์สินของท่านฯ.....ให้แล้วเสร็จภายใน 31 ธันวาคม 2556 / โทรศัพท์ 022782426 / ต้องใช้ใบเสริ็จค่าเช่าหลายใบ จากค่ตอบแทนการใช้ประโยชน์ฯ จะเพิ่มทุกๆ ปี..เงินประกันการเช่า.. / กรมธนารักษ์ได้บอกเลิกสัญญาเช่าที่ดินมาตั้งแต่ปี 2545 (10 ปีที่ผ่านมา) แต่เนื่องจากยังให้ผู้เช่าใช้ประโยชน์การที่ดินอยู่ตลอด 10 ปีที่ผ่า่นมา / การดำเนินโครงการใด ๆ ยังไม่มี เพราะยังอยู่ในระหว่างการศึกษาโครงการ การจะนำที่ดินผืนนี้ไปทำประโยชน์อื่นใด จะต้องเข้า ครม.ขออนุมัติก่อน..จึงจะทำการเปิดขายซองประมูลราคาได้.. เพราะฉะนั้น ข้อมูลที่ว่า "เบียร์ช้างประมูลได้แล้วแต่ยังไม่ได้ตกลงราคา" จึงไม่มีมูลความจริง.. (คาดว่าตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ผู้เช่าที่ดินน่าจะต้องได้ข่าวสารข้อมูล เบาะแสมาบ้าง..ว่าทางการจะเอาที่ดินคืนเมื่อไหร่ ถึงแม้ทางการไม่บอก แต่ก็รู้กันทุกคนแล้วตั้งแต่ปี 2545 ว่ากรมธนารักษ์ได้บอกเลิกสัญญาเช่า และให้จ่ายเป็นค่าตอบแทนในการใช้ประโยชน์..ทุกคนมีเวลาเตรียมตัวหาบ้านที่อยู่ หาที่ทำมาหากินใหม่.. แต่ทำไม..นังปูถึงถูกขู่บังคับจะให้ขายของที่ร้านผัก แม้จนกระทั่งถึงวันนี้..ทั้ง ๆที่รู้ว่า ที่ดินพร้อมจะถูกเรียกคืนได้ทุกปี.. ก่อนหน้านี้.."เค้าจะทำอะไรมาขายหน้าบ้านดีมั๊ย" / "ไม่ต้องมาเลย..เดี๋ยวมากัดกับไอป๊อป" / "ตลอด 10 ปีที่นังปูออกจาก ไม่ได้ทำงาน" เล่าให้อี๊ฟัง / "จริงหรือ ..ตั้งแต่อออจากงาน พยายามหาที่เรียนทำขนมเบเกอรีื ทำอาหาร ไม่เคยมีใครส่งเสริม ที่ไปเรียนก็ใช้เงินเออร์ลี่ของตัวเอง..ไม่ได้ขอเงินพ่อ ไม่ได้ขอเงินแม่.. ตอนหนีไปอยู่กับสาว (แม่วูดดี้)..ก็ไม่มีใครตามกลับมาขายของอะไรเลย..ไม่มีใครถามว่ามีเงินใช้มั๊ย..กินอยู่สะดวกสะบาย สบายดีหรือไม่... ร่อนเร่ เป็นลูกจ้างขายซีดี อยู่ร้านซีดี ที่ปราจีนบุรี.. ได้เดือนละ 4,000 บาท..จ่ายค่าเช่าบ้านเดือนละ 2,000 บาท..บ้านต้องเช่า ข้าวต้องซื้อ ยืมเงินเถ้าแก่มา..ตอนหลังไม่ทำ..ก็ต้องโทร.ไปขอยืมเงินแม่ 5,000 บาท แม่บอก "ไม่ค่อยมีเงินนะ" นั่งรถทัวร์ไปเอามาใช้หนี้ให้เถ่าแก่ก่อนออกจากลูกจ้างซีดี..ลูกสาวเขาก็เป็นคนดูถูกคน.. เรียกเขาว่า "เด็กนรก" / แล้วก็ร่อนเร่ไปไหนต่อไหน..ตั้งแต่ปี 2544- ตอนแรกแม่ให้เงินใช้เดือนละ 2,000 บาท แลกกับการอยู่ห้องเก็บของหลังบ้าน(เก็บของออกแ้ล้วทาสีใหม่ แต่สุดท้ายทำอาหารก็มีหนูวิ่งบนลูกกรงเหล็ก วิ่งบนเพดาน แมลงสาบยั๊วะเยี๊ยะ)ตอนหลังหนีไปอยู่บ้านสาว ขนเครื่องครัวทำเบเกอรี่ไปหมด ..ไม่มีเงินลงทุน ทำขนมขาย.. สุดท้ายก็ต้องหนีออกจากบ้านสาว (เพราะเขาเองก็จ๊นจน พี่น้องก็ไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้)มีแต่บ้าที่พ่อแม่ยกให้อยู่อาศัยเท่านั้น น้ำยังต้องใช้น้ำฝนเลย ไม่มีน้ำประปา ใช้น้ำคลอง.. เีลี้ยงน้อง Poom เกิด พย.2547 (ตั้งแต่เกิดถึง 1 ขวบ 10 เดือน หนีออกจากบ้านเขา แล้วกลับไปอีก เขาให้เงินเป็นค่าเฝ้าบ้าน อยู่ถึง 2 ขวบ 3 เดือน ) หนีออกจากบ้านเขา 1 กพ.2550 ไปเช่าบ้านแถวนั้น..ไม่มีเงิน..เลยต้องขอกลับมาอยู่บ้าน..กลับมาได้อยู่ห้องเก็บของชั้น 2 (สกปรก รก เลอะเทอะ) ต้องเลื่อนโซฟาสีฟ้าของคุณป๊อปไปอีกครึ่งห้อง.. เหลือพื้นที่สำหรับทำกับข้าว เตียงไม้กระดาน นอนไม่ถึงครึ่งห้อง..ที่เหลือก็เก็บของสกปรกอย่างนั้น..ก็ต้องอยู่ หลังบ้านก็มีหนูวิ่งขึ้นมาแล้ว..ขี้หนูเต็มเลย.. ตากผ้าก็เหม็นอับ ไม่มีแดด...สรุปกลับมาอยู่ห้องเก็บของ ต้นปี 2550 จนถึงปี 2554 (ป๊าตาย 17 กพ.2554 ปีหน้า 2556 เื่ท่่ากับป๊าตายมา 2 ปีแล้ว) ...2550-2554 เท่่ากับอยู่บ้านดินแดง 4 ปี (อยู่ห้องดาดฟ้า ตอนหลัง)แม่ให้เงินใช้ตอนแรกเดือนละ 3,000 ,,แล้วก็มาเป็นเดือนละ 4,000 แล้วก็มาเป็นเดือนละ 5,000 แต่ปี 2553-2555 ปีนี้ หลังจากป๊าตายก็ไม่ได้ให้เงินใช้ฟรีๆ (แลกกับคำด่า "70 กว่ายังต้องเลี้ยง 40 กว่า หรือ 75 แล้วยังก็ต้องทำงานขายของเลี้ยง 45..ให้มาขายของที่ร้านผัก โชห่วย ก็ไม่มา ขี้เกียจ เอาแต่กินแล้วก็นอน ขี้เกียจ") /***********************แล้วพูดได้ยังไงว่า "10 ปีที่ผ่านมา นังปูไม่ได้ทำงาน" เลี้ยงน้อง Poom ได้ค่าเบี้ยเลี้ยงเดือนละ 4,000 มาปี 2549 เขาถึงได้ให้เดือนละ 6,000 เขาบอกว่า "ให้เดือนละ 6,000 มาตั้งแต่ต้น..เพราะต้องแบ่งเงินใส่ซอง ค่าใช่จ่ายค่าฟอกไตแม่..และค่าเบี้ยเลี้ยงคนเลี้ยงลูกคนละ 6,000 บาท (ซึ่งความเป็นจริง 2 อาทิตย์ เขาจะให้ค่าเบี้ยเลี้ยง 2,000 (1เดือน 2 ครั้งก็เป็น 4,000) เอาเงินเข้าบัญชีธนาคาร แต่ตอนหลังจะไปแล้ว เลยฉีดสมุดบัญชีทิ้ง แต่จดไว้.. เขายังบอกว่า วันนี้ชนวันนี้ก็เท่ากับ วันนี้ชนวันนี้ ก็เท่ากับเป็นเดือนละ 6,000 ไง..(ความจริงเป็นไง จบบัญชี ใครโกงเรื่องตัวเลข.ไม่ได้หรอก รู้หมด) แต่เขาสามารถพูดว่า วันนั้นชนถึงวันนี้ เป็นเดือนละ 6 พัน.. (ตัวเลข ป.2 ยังดูเป็นเลย)....สรุป 2545-2550..นังปู สุวรรณา สุพรรณโกมุท ไม่ได้รับเงินช่วยเหลือจากแม่ เป็นเวลา 5 ปี (ตอนเลี้ยงน้อง Poom พ่อ แม่ ก็ไม่ได้เรียกให้กลับมาดูแล..ไม่ได้เรียกให้กลับมาช่วยขายของ ไม่ได้ใ้ห้เงินฝากแม่น้อง Poom มาให้เราใช้..บอกแค่ ชื่อเราไม่ได้อยู่ในทะเบียนบ้าน 16/4 ซอยพิพัฒน์แล้ว อยู่ที่ทะเบียนบ้าน 138/2ซอยพิพัฒน์ 2..แล้วเราก็รับจ้างเลี้ยงเด็ก ด้วยค่าจ้างเดือนละ 4,000 บาทต่อไป ..ไม่ได้เอาทางบ้านแม้แต่บาทเดียว... สรุป ตีให้ถัวเฉลี่ยเลย ปีแรก 2550เดือนละ 3,000 (ตก 36,000) ปีที่ 2 (2551) เดือนละ3,000(ตก 36,000) ปีที่ 3 เดือนละ 4,000 (ตก 48,000) ปีที่ 4 เดือนละ 5,000 (ตก 60,000) รวมที่ขอเงินแม่ใช้ (ทั้ง ๆ ที่ตอนเด็กทำงานขายของยืนขายให้ทุกอย่าง..ไม่เคยได้มอเตอร์ไซค์ ไม่เคยได้ค่าน้ำมันรถมอเตอร์ไซค์ ไม่เคยได้กีตาร์ ไม่ได้ค่าจ้าง ค่าแรงแม้แต่บาทเดียว) ขายทอดมัน เงินก็ลงเก๊ะทุกบาททุกสตางค์ ... 2550-2554 รวม 5 ปี ประมาณเป็นเงิน 180,000 บาท...(แต่ถ้าแม่คิดว่า 10ปีที่เราไม่ได้ทำงาน แล้วขอเงินแม่ ก็ต้องเฉลี่ยออกมาเป็น ปีละ 18,000 บาท)..... เขียนโดย fannyknit ที่ 2:41 ส่งอีเมลข้อมูลนี้ BlogThis! แบ่งปันไปที่ Twitter แบ่งปันไปที่ Facebook

ตระกูล "สุพรรณโกมุท" ช่วยอ่านหน่อย ถ้าไม่รังเกียจ จาก นังปู สุวรรณา (ลูกแปะกวง สีลม)

หนังสือราชการ "กรมธนารักษ์" ที่ กค0311/20230 การบอกเลิสัญญาเช่าที่ดินฯ ซอยพิพัฒน์ 2 หนังสือราชการ "กรมธนารักษ์" ที่ กค0311/20230 การบอกเลิสัญญาเช่าที่ดินราชพัสดุบริเวณซอยพิพัฒน์ 2 / ผู้เช่ายินยอมให้บอกเลิสัญญาเช่าได้ .....ไม่น้อยกว่า 30 วัน.. ท่านและบริวารจะต้องออกจากที่ดินที่เช่า ขนย้ายทรัพย์สินของท่านฯ.....ให้แล้วเสร็จภายใน 31 ธันวาคม 2556 / โทรศัพท์ 022782426 / ต้องใช้ใบเสริ็จค่าเช่าหลายใบ จากค่ตอบแทนการใช้ประโยชน์ฯ จะเพิ่มทุกๆ ปี..เงินประกันการเช่า.. / กรมธนารักษ์ได้บอกเลิกสัญญาเช่าที่ดินมาตั้งแต่ปี 2545 (10 ปีที่ผ่านมา) แต่เนื่องจากยังให้ผู้เช่าใช้ประโยชน์การที่ดินอยู่ตลอด 10 ปีที่ผ่า่นมา / การดำเนินโครงการใด ๆ ยังไม่มี เพราะยังอยู่ในระหว่างการศึกษาโครงการ การจะนำที่ดินผืนนี้ไปทำประโยชน์อื่นใด จะต้องเข้า ครม.ขออนุมัติก่อน..จึงจะทำการเปิดขายซองประมูลราคาได้.. เพราะฉะนั้น ข้อมูลที่ว่า "เบียร์ช้างประมูลได้แล้วแต่ยังไม่ได้ตกลงราคา" จึงไม่มีมูลความจริง.. (คาดว่าตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ผู้เช่าที่ดินน่าจะต้องได้ข่าวสารข้อมูล เบาะแสมาบ้าง..ว่าทางการจะเอาที่ดินคืนเมื่อไหร่ ถึงแม้ทางการไม่บอก แต่ก็รู้กันทุกคนแล้วตั้งแต่ปี 2545 ว่ากรมธนารักษ์ได้บอกเลิกสัญญาเช่า และให้จ่ายเป็นค่าตอบแทนในการใช้ประโยชน์..ทุกคนมีเวลาเตรียมตัวหาบ้านที่อยู่ หาที่ทำมาหากินใหม่.. แต่ทำไม..นังปูถึงถูกขู่บังคับจะให้ขายของที่ร้านผัก แม้จนกระทั่งถึงวันนี้..ทั้ง ๆที่รู้ว่า ที่ดินพร้อมจะถูกเรียกคืนได้ทุกปี.. ก่อนหน้านี้.."เค้าจะทำอะไรมาขายหน้าบ้านดีมั๊ย" / "ไม่ต้องมาเลย..เดี๋ยวมากัดกับไอป๊อป" / "ตลอด 10 ปีที่นังปูออกจาก ไม่ได้ทำงาน" เล่าให้อี๊ฟัง / "จริงหรือ ..ตั้งแต่อออจากงาน พยายามหาที่เรียนทำขนมเบเกอรีื ทำอาหาร ไม่เคยมีใครส่งเสริม ที่ไปเรียนก็ใช้เงินเออร์ลี่ของตัวเอง..ไม่ได้ขอเงินพ่อ ไม่ได้ขอเงินแม่.. ตอนหนีไปอยู่กับสาว (แม่วูดดี้)..ก็ไม่มีใครตามกลับมาขายของอะไรเลย..ไม่มีใครถามว่ามีเงินใช้มั๊ย..กินอยู่สะดวกสะบาย สบายดีหรือไม่... ร่อนเร่ เป็นลูกจ้างขายซีดี อยู่ร้านซีดี ที่ปราจีนบุรี.. ได้เดือนละ 4,000 บาท..จ่ายค่าเช่าบ้านเดือนละ 2,000 บาท..บ้านต้องเช่า ข้าวต้องซื้อ ยืมเงินเถ้าแก่มา..ตอนหลังไม่ทำ..ก็ต้องโทร.ไปขอยืมเงินแม่ 5,000 บาท แม่บอก "ไม่ค่อยมีเงินนะ" นั่งรถทัวร์ไปเอามาใช้หนี้ให้เถ่าแก่ก่อนออกจากลูกจ้างซีดี..ลูกสาวเขาก็เป็นคนดูถูกคน.. เรียกเขาว่า "เด็กนรก" / แล้วก็ร่อนเร่ไปไหนต่อไหน..ตั้งแต่ปี 2544- ตอนแรกแม่ให้เงินใช้เดือนละ 2,000 บาท แลกกับการอยู่ห้องเก็บของหลังบ้าน(เก็บของออกแ้ล้วทาสีใหม่ แต่สุดท้ายทำอาหารก็มีหนูวิ่งบนลูกกรงเหล็ก วิ่งบนเพดาน แมลงสาบยั๊วะเยี๊ยะ)ตอนหลังหนีไปอยู่บ้านสาว ขนเครื่องครัวทำเบเกอรี่ไปหมด ..ไม่มีเงินลงทุน ทำขนมขาย.. สุดท้ายก็ต้องหนีออกจากบ้านสาว (เพราะเขาเองก็จ๊นจน พี่น้องก็ไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้)มีแต่บ้าที่พ่อแม่ยกให้อยู่อาศัยเท่านั้น น้ำยังต้องใช้น้ำฝนเลย ไม่มีน้ำประปา ใช้น้ำคลอง.. เีลี้ยงน้อง Poom เกิด พย.2547 (ตั้งแต่เกิดถึง 1 ขวบ 10 เดือน หนีออกจากบ้านเขา แล้วกลับไปอีก เขาให้เงินเป็นค่าเฝ้าบ้าน อยู่ถึง 2 ขวบ 3 เดือน ) หนีออกจากบ้านเขา 1 กพ.2550 ไปเช่าบ้านแถวนั้น..ไม่มีเงิน..เลยต้องขอกลับมาอยู่บ้าน..กลับมาได้อยู่ห้องเก็บของชั้น 2 (สกปรก รก เลอะเทอะ) ต้องเลื่อนโซฟาสีฟ้าของคุณป๊อปไปอีกครึ่งห้อง.. เหลือพื้นที่สำหรับทำกับข้าว เตียงไม้กระดาน นอนไม่ถึงครึ่งห้อง..ที่เหลือก็เก็บของสกปรกอย่างนั้น..ก็ต้องอยู่ หลังบ้านก็มีหนูวิ่งขึ้นมาแล้ว..ขี้หนูเต็มเลย.. ตากผ้าก็เหม็นอับ ไม่มีแดด...สรุปกลับมาอยู่ห้องเก็บของ ต้นปี 2550 จนถึงปี 2554 (ป๊าตาย 17 กพ.2554 ปีหน้า 2556 เื่ท่่ากับป๊าตายมา 2 ปีแล้ว) ...2550-2554 เท่่ากับอยู่บ้านดินแดง 4 ปี (อยู่ห้องดาดฟ้า ตอนหลัง)แม่ให้เงินใช้ตอนแรกเดือนละ 3,000 ,,แล้วก็มาเป็นเดือนละ 4,000 แล้วก็มาเป็นเดือนละ 5,000 แต่ปี 2553-2555 ปีนี้ หลังจากป๊าตายก็ไม่ได้ให้เงินใช้ฟรีๆ (แลกกับคำด่า "70 กว่ายังต้องเลี้ยง 40 กว่า หรือ 75 แล้วยังก็ต้องทำงานขายของเลี้ยง 45..ให้มาขายของที่ร้านผัก โชห่วย ก็ไม่มา ขี้เกียจ เอาแต่กินแล้วก็นอน ขี้เกียจ") /***********************แล้วพูดได้ยังไงว่า "10 ปีที่ผ่านมา นังปูไม่ได้ทำงาน" เลี้ยงน้อง Poom ได้ค่าเบี้ยเลี้ยงเดือนละ 4,000 มาปี 2549 เขาถึงได้ให้เดือนละ 6,000 เขาบอกว่า "ให้เดือนละ 6,000 มาตั้งแต่ต้น..เพราะต้องแบ่งเงินใส่ซอง ค่าใช่จ่ายค่าฟอกไตแม่..และค่าเบี้ยเลี้ยงคนเลี้ยงลูกคนละ 6,000 บาท (ซึ่งความเป็นจริง 2 อาทิตย์ เขาจะให้ค่าเบี้ยเลี้ยง 2,000 (1เดือน 2 ครั้งก็เป็น 4,000) เอาเงินเข้าบัญชีธนาคาร แต่ตอนหลังจะไปแล้ว เลยฉีดสมุดบัญชีทิ้ง แต่จดไว้.. เขายังบอกว่า วันนี้ชนวันนี้ก็เท่ากับ วันนี้ชนวันนี้ ก็เท่ากับเป็นเดือนละ 6,000 ไง..(ความจริงเป็นไง จบบัญชี ใครโกงเรื่องตัวเลข.ไม่ได้หรอก รู้หมด) แต่เขาสามารถพูดว่า วันนั้นชนถึงวันนี้ เป็นเดือนละ 6 พัน.. (ตัวเลข ป.2 ยังดูเป็นเลย)....สรุป 2545-2550..นังปู สุวรรณา สุพรรณโกมุท ไม่ได้รับเงินช่วยเหลือจากแม่ เป็นเวลา 5 ปี (ตอนเลี้ยงน้อง Poom พ่อ แม่ ก็ไม่ได้เรียกให้กลับมาดูแล..ไม่ได้เรียกให้กลับมาช่วยขายของ ไม่ได้ใ้ห้เงินฝากแม่น้อง Poom มาให้เราใช้..บอกแค่ ชื่อเราไม่ได้อยู่ในทะเบียนบ้าน 16/4 ซอยพิพัฒน์แล้ว อยู่ที่ทะเบียนบ้าน 138/2ซอยพิพัฒน์ 2..แล้วเราก็รับจ้างเลี้ยงเด็ก ด้วยค่าจ้างเดือนละ 4,000 บาทต่อไป ..ไม่ได้เอาทางบ้านแม้แต่บาทเดียว... สรุป ตีให้ถัวเฉลี่ยเลย ปีแรก 2550เดือนละ 3,000 (ตก 36,000) ปีที่ 2 (2551) เดือนละ3,000(ตก 36,000) ปีที่ 3 เดือนละ 4,000 (ตก 48,000) ปีที่ 4 เดือนละ 5,000 (ตก 60,000) รวมที่ขอเงินแม่ใช้ (ทั้ง ๆ ที่ตอนเด็กทำงานขายของยืนขายให้ทุกอย่าง..ไม่เคยได้มอเตอร์ไซค์ ไม่เคยได้ค่าน้ำมันรถมอเตอร์ไซค์ ไม่เคยได้กีตาร์ ไม่ได้ค่าจ้าง ค่าแรงแม้แต่บาทเดียว) ขายทอดมัน เงินก็ลงเก๊ะทุกบาททุกสตางค์ ... 2550-2554 รวม 5 ปี ประมาณเป็นเงิน 180,000 บาท...(แต่ถ้าแม่คิดว่า 10ปีที่เราไม่ได้ทำงาน แล้วขอเงินแม่ ก็ต้องเฉลี่ยออกมาเป็น ปีละ 18,000 บาท)..... เขียนโดย fannyknit ที่ 2:41 ส่งอีเมลข้อมูลนี้ BlogThis! แบ่งปันไปที่ Twitter แบ่งปันไปที่ Facebook

"เรายกวัดมาไว้ที่เซเว่นฯ" ท่านผู้ดำเนินรายการกล่าว "นิมนต์พระอาจารย์ทั้งที่ดังและไม่ดัง ไม่อยากให้ยึดติดกับพระ"

"เรายกวัดมาไว้ที่เซเว่นฯ" ท่านผู้ดำเนินรายการกล่าว "นิมนต์พระอาจารย์ทั้งที่ดังและไม่ดัง ไม่อยากให้ยึดติดกับพระ" / อันนี้ถูกต้องมาก ๆ เห็นด้วยค่ะ..พระอาจารย์ พระพรหมบัณฑิต ท่านบรรยายธรรมให้สนุกมากค่ะ... หัวเราะกันทั้งห้องเลย.. "คนเราต้องมีความหวัง...ปีหน้าต้องดีกว่าปีนี้" ......

"เรายกวัดมาไว้ที่เซเว่นฯ" ศุกร์ ที่ผ่านมาสิ้นปี

"เรายกวัดมาไว้ที่เซเว่นฯ" ศุกร์ ที่ผ่านมาสิ้นปี / เรานั่งถักโคร์เชต์เอาเก้าอี้มานั่งแอบ ๆ ไม่ให้เกะกะ พี่คนหนึ่งนั่งกับพื้นปู นสพ. รปภ.บอก "รบกวนกระเถิบหน่อยนะครับ"... พี่คนนี้พูด "ไม่ชอบเลย คนไม่ดี ชอบมาพูดคนโน้นแซง คนนี้แซง ชอบมาจำผิดคน (เข้าใจคำว่า ."จับผิด" ผิดความหมายไปหรือเปล่าคะ ที่ฉันพูดคือเห็นพบโดยทันที ..ไม่ได้มาเฝ้าทุกคนตลอดเวลา) แซงแค่คนจะตายหรือยังไง" เราสวนทันที "พี่คะ..หนูก็ไม่ชอบพวกแซง หนูไม่เคยแซงใคร แต่ถ้าใครมาแซงหนูก็สวนทันที.. ถ้าคนไทยขยันแซง แล้วจะพัฒนาความคิดเป็นอารยชน เหมือนพวกฝรั่งอเมริกันได้หรือคะ.. คนไทยก็ไม่ีมีระเบียบ เห็นแก่ตัวตลอดไป.." / ประตูเปิดแล้ว..มาแล้ว พี่ผู้ชายวัย 50 มาเลย.. ผมขอเข้่าก่อนนะครับ ไม่ได้รับของว่าง มีพี่คนหนึ่งถาม "เป็นเจ้าหน้าที่หรือคะ" / ตอบ "ครับ ผมเป็นเจ้าหน้าที่อาสา" เราก็เดินไป เขาก็พูดอีก "ผมไม่ได้รับของว่าง ผมมีสิทธิ์เข้าก่อน" เราพูดเลย "มีสิทธิ์" อื้ม..เข้าใจระ... (พอเรารับของว่างเสร็จ วันนี้รู้ว่าจะมา ..เอาถ้วยบ 7-11 สีน้ำตาล ล้าง..แล้วมารับโอวัลตินซอง..เพราะเห็นคนใช้เสร็จแล้วก็ทิ้ง)... เดินเข้ามาโต๊ะกลมห้องโถง พี่ผู้ชาย ควักเอาเอกสารจากถุง (ทำจากกระดาษห่อกระดาษถ่ายเอสาร) หยิบเอกสารออกมาวางให้..ประมาณว่าแจกฟรี.. อาทิตย์ก่อนหลวมตัวหยิบมา 1 ชุด.. สิทธิ์ใหญ่ขนาดนี้ เห็นทีเราจะไม่ขอรับของฟรี..ซึ่งอาจไม่มีที่มาจากพระอาจารย์ผู้บรรยาย... / เดินเข้ามาอีก พี่ผู้หญิง (ไม่รู้ว่าจะใช่คนเดียวกันกับอาทิตย์ก่อนหรือเปล่า) เอาถ้วย(ใหม่) กดน้ำร้อนใส่ เขย่า ๆ วน ๆ แล้วเทน้ำร้อนทิ้งในถังขยะ (ถ้ากลัวสกปรก ทำไมไม่ไปล้างในห้องน้ำ..ไม่ได้ห่างจากโต๊ะวางหม้อน้ำร้อนเลย.) ถ้ามีอีก 10 คนกดน้ำร้อนล้างถ้วยแบบพี่.. ก็อาจจะเสียน้ำร้อนที่จะชงเครื่องดื่มได้อีก 1 ถ้วย.. (นี่น่ะหรือ..ผู้รับธรรมดา บ่มจิตและความคิด) ...

Central World รปภ.G4S หน้าร้าน Most Burger

Central World รปภ.G4S หน้าร้าน Most Burger / วันนี้เดินซื้อหนังสือที่ร้าน Kinokuniya ชั้น 6 Central World หนังสือนิตติงโคร์เชต์ เล่มละ 220 น้องใส่ถุงพอดีเป๊ะกับความกว้างของเล่มเลย..บอกน้อง "ขอเปลี่ยนถุงใหญ่กว่านี้นิดนึงได้มั๊ย เผื่อใส่ปก" (เป๊ะขนาดนั้น จะเอาออกถุงเีบียด ๆ หน่อยนะคะ) น้องก็ยอมเปลี่ยนให้ 220 บาท...ไปซุ้มห่อปก น้องหยิบปกพอดีกับเล่ม.. ขอเปลี่ยนเป็น "ใหญ่กว่าหน่อยนึง พี่จะหุ้มด้านล่างด้วย ยอมตัดออก" (ห่อแบบนี้ทนกว่า) น้องก็เปลี่ยนให้ ขอบคุณมากค่ะ.... / เดินลงมาชั้น 3 แวะดูหนังสือร้าน Pinn ...ไม่ได้ซื้อ (ไม่มีตังค์แล้วอ่ะ) เดินเข้าห้องน้ำ.. เดินไปซื้อ เฟรนช์ฟราย์ ร้าน Most Burger เป็นประจำ ต่อด้วยโค้กกด 1 ถ้ืวย / คงจะเที่ยง คนแน่นร้านเลย.. ก็เหมือนทุกที ซื้อแบบกลับบ้าน แล้วควักเก้าอี้สีหวาน ออกมานั่งข้าง ๆ กระถางต้นไม้.. กำลังนั่งจกอย่างเพลิดเพลิน.. รปภ.G4S เดินมาห่างจากที่เรานั่ง 3-4 ก้าว... รู้สึกได้ทันที คุณรปภ.ผู้ชาย หันมาเหล่ก้มต่ำ มองถุงหิ้วของเรา (ครั้งแรก เราทำไม่สนใจ) เหล่ครั้งที่ 2 (เอ๊ะ มึงจะเอายังไงกับกู..ทำเป็นไม่มอง จกต่อ) ...รปภ.เหล่ครั้งที่ 3 หันไปมองเลย (เอาไง) ...เขาพูดทันที "ตรงนี้ห้ามนั่งกิน ให้ไปนั่งที่นั่งวงกลมนั่น ห้ามนั่งตรงนี้" งั้นเหรอ.. พอดีมือไม่ว่างกำลังจก มือซ้ายถือถ้วยซอสมะเขือเทศ.. เอางี้ ใช้ปลายเท้าเขี่ยเก้าอี้ไปข้างตะกร้า... (ก่อนนั่งเราก็ประมาณตนแล้วว่า ..ไม่เกะกะชาวบ้าน ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน) ....มองไป เก้าอี้วงกลมแบ่งเป็น 4 ส่วน.. เหลือที่ันั่ง 1 ส่วน... ขี้่เกียจหิ้วตระกร้า.. เลยยืนจกมันซะตรงนั้นเลย..จะมีปัญหามั๊ย (สงสัยถ้าเป็นชาวต่างชาติ เมื่อยนั่งจ๋อมเป็นทีมบนพื้น รปภ. G4S จะบอกเขา ไล่ให้ไปนั่งที่..ที่ CW จัดไว้ให้..) สรุป.. รปภ.G4S ท่านเนี้ย.. มีสมองและความฉลาด มีตับแต่..ไม่มีกึ๋น..

วันพฤหัสบดีที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2555

สุภาษิตจีนว่า "10 ปี ล้างแค้น..ก็ยังไม่สาย" สุวรรณา สุพรรณโกมุท ต้องไปรับจ้างทำงานแม่บ้าน ล้างส้วม หาเงินซื้อปืน...

สุภาษิตจีนว่า "10 ปีแก้แค้น..ก็ยังไม่สาย" สุวรรณา สุพรรณโกมุท ต้องไปรับจ้างทำงานแม่บ้าน ล้างส้วม หาเงินซื้อปืน... / เพราะป๊าให้ใช้เดือนละ 2,000 บาท ไม่พอกิน.. (คุณป๊อป สุชาติ สุพรรณโกมุทได้ เดือนละ 30,000 บาท จากค่าเช่าห้องที่หนองจอก)... ความฝันอันสูงสุดคือ..จะต้องซื้อปืนให้ได้สักกระบอก.. อย่างมีใบอนุญาตครอบครองอย่างถูกต้องตามกฎหมาย.. และใบอนุญาตพกพาอาุวุธปืน... แต่คงไม่สามารถพกปืนไปในที่สาธารณะ...กู นังปู สุวรรณา สุพรรณโกมุท จะนั่งรอพวกมึง.. ไม่ว่าเป็นใครก็แล้วแต่.. แม้กระทั่ง คนที่ไม่ต้องทำงานอะไรเลย แต่ได้เิงินช่วยเหลือไปกินไปใช้ ให้ยืมเงินไปเรียนปริญญาโท นิด้า..(เขาบอกไม่ได้ส่งเสียให้เรียน..แค่ให้ช่วยค่ากินค่ารถนิด ๆ หน่อย ๆ..ความจริงคือ...)... หรือไอ้พวกเก่งแต่ปาก..พวกสันดานนรก ที่เคยด่ากูสารพัด ทำกับกูทุกอย่าง ที่พวกมันจะคิดได้.. ...กู นังปูสุวรรณา สุพรรณโกมุท จะต้องไปรับจ้างทำงานแม่บ้าน ล้างส้วม..หาเงิน เก็บเงินซื้อปืนสักกระบอก ลูกกระสุนด้วย.. ถ้าจะให้แรง ก็ต้อง ออโตเมติก 9 มม. (mm.) ยี่ห้อไหนก็ได้.. จำไว้... "10 ปี ล้างแค้น ...ก็ยังไม่สาย" พ่อมา..กูยิง แม่มา..กูยิง ลูกสาวมันมา..กูยิง.. น้องรักหลินเหี้ยมา.กูยิง... (คุกมีไว้ให้ออกำลังกายอย่างเป็นระเบียบ..มีข้าวกินฟรี มีชุดเครื่องแบบให้ฟรี)....

ตอนเด็ก ๆเคยเล่น "ปืนลูกโม่" น่าจะ 0.357 สมัยนั้นน่าจะยังไม่มี ปืนออโตเมติก

ตอนเด็ก ๆเคยเล่น "ปืนลูกโม่" น่าจะ 0.357 สมัยนั้นน่าจะยังไม่มี ปืนออโตเมติก / จับ จับดูหนักมาก..ขึ้นนกไม่เป็น เหนี่ยวไกก็คงยังไม่มีแรง.. เอาลูกกระสุนใส่รังเพลิง ใส่ทีละลูก แล้วเข้าที่..มันหมุน ๆ แล้วก็กระเด้งออก ลูกกระสุนตกออกจากรังเพลิง..ไม่สนุกเลยเลิกเล่น.. /

วันก่อนยังเห็นมอเตอร์ไซค์ผู้ชาย Kawasaki ของไอป๊อปอยุ่เรย..เช้านี้ไม่มีระ...

วันก่อนยังเห็นมอเตอร์ไซค์ผู้ชาย Kawasaki ของไอป๊อปอยุ่เรย..เช้านี้ไม่มีระ... / 27 ธค.55 คุณชายป๊อปเอามอเตอร์ไซค์ไปแล้ว..ยังเหลือตู้เซฟ (ไร้ค่า) ไว้ให้ดูต่างหน้า 1ตู้... / เอาไม้แขวนเสื้อที่แขวนถุงใส่ของเล็ก ของน้อย วางบนหลังตู้เซฟโสโครก ขี้แมลงสาบ อึีนเรย...

การเดินจงกรม (พระอาจารย์บอก..ไม่ใช่เดินวงกลมนะโยม) ฟอร์จูนทาวน์

การเดินจงกรม (พระอาจารย์บอก..ไม่ใช่เดินวงกลมนะโยม) ฟอร์จูนทาวน์ / ยืนตรง ปลายเท้าห่างกันเล็กน้อยพอทรงตัวได้ดี.. กล่าว ยืนหนอ ยืนหนอ ยืนหนอ.. / อยากเดินหนอ อยากเดินหนอ อยากเดินหนอ / ขวา ย่าง หนอ (ขวายก ย่างพ้นพื้น 2 นิ้ว หนอ..วางบนพื้น ) ซ้าย ย่าง หนอ.. หยุด (เท้ายก เท้าชิดกัน ไม่ก้าวเดิน) / ยืนหนอ ยืนหนอ ยืนหนอ / อยากกลับหนอ อยากกลับหนอ อยากกลับหนอ (อยากกลับตัว.เดินกลับทางเดิมไม่ใช่อยากกลับบ้าน..แ้ล้ว) ยก ย่าง วาง ... ยก ย่าง วาง ... ยก ย่าง วาง (อันนี้สรุปเอง) แบ่งเป็น 3 ช่วง (ขาละ 3 ก้าว รวมเป็น 6 ก้าว) ปลายเท้าทั้งสองจะอยู่ในตำแหน่งตรง พร้อมที่จะเดินไปข้างหน้าต่อไป.. วางประสานมือ ฝ่ามือขวาจับข้อมือซ้า้ย หรือ ฝ่ามือขวา กุมหลังมือซ้ายเบาๆ ตำแหน่งบริเวณหน้าท้อง หรือ ฝ่ามือขวาจับข้อมือซ้าย ไว้ด้านหลังบริเวณกระเบนเหน็บ (พระอาจารย์คะ..หนูเคยได้ยินแต่ ..เหน็บกระเบนน่ะค่ะ) ... ******************วันนี้ของว่างอร่อยมากค่ะ น้ำชา (หาถังขยะไม่เจอ เห็นเขาใส่ในกระบะ เราก็ใส่ตาม พวกซองน้ำตาล คอฟฟี่เมท) ... ของว่างของโรงแรมฟอร์จูน อร่อยมาก..ก... เป็น fruit cake เนื้อเค้กไม่หนัก อร่อยมาก ลูกเกดชุ่มฉ่ำ ปาดหน้า น่าจะแยมใส โรยอัลมอนด์ slize อบ กรอบอร่อยมาก..กับ Puff เห็ด (เป็นชิ้นฝาน ๆ ไม่แน่ใจว่าเป็น เห็ดแชมปิญองหรือเปล่า เพราะไม่น่าจะเป็นเห็ดฟาง( ไส้เห็ด white sauce อร่อยมาก..ก..ก..ขอบอก ขอบคุณ CP Land มากค่ะ..ถามน้อง CP Land ทำอะไร..น้องอธิบายว่า... "ดูแลด้านอสังหาริมทรัพย์ ฯลฯ เกี่ยวกับการซื้อขายที่ดิน อะไรอีกจำไม่ได้แระ".. (นึกขำในใจ คิดว่า CP Land ทำแบบ bird land แดนมหัศจรรย์ พวกเครื่องเล่น สวนสนุก พูดไปล่ะก็ หน้าแตกเรย..)

วุ้นสมุนไพร Verasu

วุ้นสมุนไพร น้ำ 3 ถ้วยตวง /วุ้นผง 4 ช้อนชา / น้ำสมุนไพร 3 ช้อนโต๊ะ / น้ำตาลทราย 180 กรัม/ วิธีทำ...1.ใส่น้ำในถ้วยตวงของเหลวขนาด 2 ลิตร โรยผงวุ้นลงทิ้งไว้สักครู่ ปิดฝา นำเข้าเตาไมโครเวฟ ใช้ไฟ High (800-900 Watt) เวลา 10 นาที นำออกมาเติมน้ำตาลทรายคนจนกระทั่งน้ำตาลทรายละลายหมด เข้าเตาต่ออีก 5 นาที / ***2.นำออกมาเติมน้ำสมุนไพร เข้าเตาไมโครเวฟใช้ไฟ High (800-900 Watt) เวลา 2 นาที คนส่วนผสมให้เข้ากัน เททับบนหน้าวุ้นในพิมพ์พุดดิ้ง (DRO-01646) ที่เตรียมไว้ / ส่วนผสมหน้าวุ้น - น้ำ 1/3ถ้วยตวง / วุ้นผง 1 1/2 ช้อนชา / กะทิสำเร็จรูปอบควันเทียน 1/2 ถ้วยตวง / น้ำตาลทราย 8 กรัม / เกลือป่น 1/4 ช้อนชา / วิธีทำ.. 1.ใส่น้ำในถ้วยตวงของเหลวขนาด 2 ถ้วยตวง โรยผงวุ้นลงทิ้งไว้สักครู่ ปิดฝา นำเข้าเตาไมโครเวฟ ใช้ไฟ High ( 800-900 Watt) เวลา 1 นาที นำออกมาเติม กะทิ น้ำตาลทราย และเกลือป่น คนส่วนผสมให้เข้ากัน เข้าเตาต่ออีกประมาณ 1 1/2-2 นาที / 2.ตักส่วนผสมหน้าหยอดลงในพิมพ์พุดดิงDRO-01646 ถ้วยละประมาณ 2 ช้อนโต๊ะพูน จะได้จำนวน 8 ถ้วย /........สูตรน้ำสมุนไพร น้ำสมุนไพรสีเขียว ได้จากใบเตย 20 กรัม ตัดเป็นชิ้นเล็ก ๆผสมกับน้ำ 1/4ถ้วยตวง ใส่ในโถปั่นใช้เครื่องผสมอาหารมือถือ (hand Blender) ปั่นจนส่วนผสมละเอียด กรองผ่านกระชอน / น้ำสมุนไพรสีแดง.. ได้จากน้ำบีทรูท / น้ำสมุนไพรสีม่วง ได้จากดอกอัญชัญแห้ง 25 ดอก หรือ สด 15 ดอก ผสมกับน้ำ 3 ช้อนโต๊ะ เข้าเตาไมโครเวฟ ใช้ไฟ High (800-900 Watt) เวลา 1 นาที แช่ไว้สักครู่สีจะเข้มขึ้น กรองน้ำอัญชัญที่ได้ผสมกับน้ำมะนาว 1 ช้อนชา คนให้เข้ากัน / ถ้าต้องการวุ้นสีขาวให้ใช้เป็นน้ำมะพร้าวก่อนแทนน้ำ และเพิ่มเนื้อมะพร้าวที่ขูดเป็นเส้นเล็ก /************หมายเหตุ..การทำให้วุ้นแข็งตัว คือตั้งทิ้งไว้เฉย ๆหรือหล่อน้ำ พอวุ้นเริ่มคลายความร้อนให้นำเข้าตู้เย็น จะทำให้ขนมไม่ละลายเมื่ออยู่ในอากาศร้อนและรับประทานเย็น ๆ หวานหอมชื่นใจ /** การเคี่ยววุ้น ไม่ควรเคี่ยวนาน วุ้นจะแข็งเกินไป วุ้นที่อรุ่อยควรนุ่ม ไม่กรอบแข็ง / ก่อนที่จะเทตัววุ้น จะต้องให้หน้าวุ้นที่ผิวแข็งตัวเล็กน้อยก่อน แต่ถ้าทิ้งไว้นานเกินไป เททับลงไปที่ตัวและหน้าจะแยกออกจากตัว ไม่ติดกับตัววุ้นด้านล่าง / ถ้าเตรียมส่วนผสมวุ้นแล้วยังไม่เทลงในพิมพ์ ให้นำภาชนะที่ใส่ส่วนผสมวุ้น แช่ในน้ำร้อนหล่อไว้ก่อน จะ่ช่วยให้วุ้นไม่แข็งตัว..... ไม่ได้เรียน...เลยไม่ได้จดเทคนิค..ถ้วยตวงที่ใช้ในไมโครเวฟ จะเป็นถ้วยตวงทนความร้อน ทรงสูง เพราะวุ้นจะเดือนและอาจล้นได้ ถ้าวุ้นบนถาดแก้วของเตาฯไหม้ ถาดแก้วก็อาจะแตกได้ เพราะอาหารขนม..ที่ไหม้จะยิ่งเพิ่มความร้อนมากขึ้น ถาดแก้วก็จะได้รับความร้อนตรงนี้มาก จะแตก...

หนังสือราชการ "กรมธนารักษ์" ที่ กค0311/20230 การบอกเลิสัญญาเช่าที่ดินฯ ซอยพิพัฒน์ 2

หนังสือราชการ "กรมธนารักษ์" ที่ กค0311/20230 การบอกเลิสัญญาเช่าที่ดินราชพัสดุบริเวณซอยพิพัฒน์ 2 / ผู้เช่ายินยอมให้บอกเลิสัญญาเช่าได้ .....ไม่น้อยกว่า 30 วัน.. ท่านและบริวารจะต้องออกจากที่ดินที่เช่า ขนย้ายทรัพย์สินของท่านฯ.....ให้แล้วเสร็จภายใน 31 ธันวาคม 2556 / โทรศัพท์ 022782426 / ต้องใช้ใบเสริ็จค่าเช่าหลายใบ จากค่ตอบแทนการใช้ประโยชน์ฯ จะเพิ่มทุกๆ ปี..เงินประกันการเช่า.. / กรมธนารักษ์ได้บอกเลิกสัญญาเช่าที่ดินมาตั้งแต่ปี 2545 (10 ปีที่ผ่านมา) แต่เนื่องจากยังให้ผู้เช่าใช้ประโยชน์การที่ดินอยู่ตลอด 10 ปีที่ผ่า่นมา / การดำเนินโครงการใด ๆ ยังไม่มี เพราะยังอยู่ในระหว่างการศึกษาโครงการ การจะนำที่ดินผืนนี้ไปทำประโยชน์อื่นใด จะต้องเข้า ครม.ขออนุมัติก่อน..จึงจะทำการเปิดขายซองประมูลราคาได้.. เพราะฉะนั้น ข้อมูลที่ว่า "เบียร์ช้างประมูลได้แล้วแต่ยังไม่ได้ตกลงราคา" จึงไม่มีมูลความจริง.. (คาดว่าตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ผู้เช่าที่ดินน่าจะต้องได้ข่าวสารข้อมูล เบาะแสมาบ้าง..ว่าทางการจะเอาที่ดินคืนเมื่อไหร่ ถึงแม้ทางการไม่บอก แต่ก็รู้กันทุกคนแล้วตั้งแต่ปี 2545 ว่ากรมธนารักษ์ได้บอกเลิกสัญญาเช่า และให้จ่ายเป็นค่าตอบแทนในการใช้ประโยชน์..ทุกคนมีเวลาเตรียมตัวหาบ้านที่อยู่ หาที่ทำมาหากินใหม่.. แต่ทำไม..นังปูถึงถูกขู่บังคับจะให้ขายของที่ร้านผัก แม้จนกระทั่งถึงวันนี้..ทั้ง ๆที่รู้ว่า ที่ดินพร้อมจะถูกเรียกคืนได้ทุกปี.. ก่อนหน้านี้.."เค้าจะทำอะไรมาขายหน้าบ้านดีมั๊ย" / "ไม่ต้องมาเลย..เดี๋ยวมากัดกับไอป๊อป" / "ตลอด 10 ปีที่นังปูออกจาก ไม่ได้ทำงาน" เล่าให้อี๊ฟัง / "จริงหรือ ..ตั้งแต่อออจากงาน พยายามหาที่เรียนทำขนมเบเกอรีื ทำอาหาร ไม่เคยมีใครส่งเสริม ที่ไปเรียนก็ใช้เงินเออร์ลี่ของตัวเอง..ไม่ได้ขอเงินพ่อ ไม่ได้ขอเงินแม่.. ตอนหนีไปอยู่กับสาว (แม่วูดดี้)..ก็ไม่มีใครตามกลับมาขายของอะไรเลย..ไม่มีใครถามว่ามีเงินใช้มั๊ย..กินอยู่สะดวกสะบาย สบายดีหรือไม่... ร่อนเร่ เป็นลูกจ้างขายซีดี อยู่ร้านซีดี ที่ปราจีนบุรี.. ได้เดือนละ 4,000 บาท..จ่ายค่าเช่าบ้านเดือนละ 2,000 บาท..บ้านต้องเช่า ข้าวต้องซื้อ ยืมเงินเถ้าแก่มา..ตอนหลังไม่ทำ..ก็ต้องโทร.ไปขอยืมเงินแม่ 5,000 บาท แม่บอก "ไม่ค่อยมีเงินนะ" นั่งรถทัวร์ไปเอามาใช้หนี้ให้เถ่าแก่ก่อนออกจากลูกจ้างซีดี..ลูกสาวเขาก็เป็นคนดูถูกคน.. เรียกเขาว่า "เด็กนรก" / แล้วก็ร่อนเร่ไปไหนต่อไหน..ตั้งแต่ปี 2544- ตอนแรกแม่ให้เงินใช้เดือนละ 2,000 บาท แลกกับการอยู่ห้องเก็บของหลังบ้าน(เก็บของออกแ้ล้วทาสีใหม่ แต่สุดท้ายทำอาหารก็มีหนูวิ่งบนลูกกรงเหล็ก วิ่งบนเพดาน แมลงสาบยั๊วะเยี๊ยะ)ตอนหลังหนีไปอยู่บ้านสาว ขนเครื่องครัวทำเบเกอรี่ไปหมด ..ไม่มีเงินลงทุน ทำขนมขาย.. สุดท้ายก็ต้องหนีออกจากบ้านสาว (เพราะเขาเองก็จ๊นจน พี่น้องก็ไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้)มีแต่บ้าที่พ่อแม่ยกให้อยู่อาศัยเท่านั้น น้ำยังต้องใช้น้ำฝนเลย ไม่มีน้ำประปา ใช้น้ำคลอง.. เีลี้ยงน้อง Poom เกิด พย.2547 (ตั้งแต่เกิดถึง 1 ขวบ 10 เดือน หนีออกจากบ้านเขา แล้วกลับไปอีก เขาให้เงินเป็นค่าเฝ้าบ้าน อยู่ถึง 2 ขวบ 3 เดือน ) หนีออกจากบ้านเขา 1 กพ.2550 ไปเช่าบ้านแถวนั้น..ไม่มีเงิน..เลยต้องขอกลับมาอยู่บ้าน..กลับมาได้อยู่ห้องเก็บของชั้น 2 (สกปรก รก เลอะเทอะ) ต้องเลื่อนโซฟาสีฟ้าของคุณป๊อปไปอีกครึ่งห้อง.. เหลือพื้นที่สำหรับทำกับข้าว เตียงไม้กระดาน นอนไม่ถึงครึ่งห้อง..ที่เหลือก็เก็บของสกปรกอย่างนั้น..ก็ต้องอยู่ หลังบ้านก็มีหนูวิ่งขึ้นมาแล้ว..ขี้หนูเต็มเลย.. ตากผ้าก็เหม็นอับ ไม่มีแดด...สรุปกลับมาอยู่ห้องเก็บของ ต้นปี 2550 จนถึงปี 2554 (ป๊าตาย 17 กพ.2554 ปีหน้า 2556 เื่ท่่ากับป๊าตายมา 2 ปีแล้ว) ...2550-2554 เท่่ากับอยู่บ้านดินแดง 4 ปี (อยู่ห้องดาดฟ้า ตอนหลัง)แม่ให้เงินใช้ตอนแรกเดือนละ 3,000 ,,แล้วก็มาเป็นเดือนละ 4,000 แล้วก็มาเป็นเดือนละ 5,000 แต่ปี 2553-2555 ปีนี้ หลังจากป๊าตายก็ไม่ได้ให้เงินใช้ฟรีๆ (แลกกับคำด่า "70 กว่ายังต้องเลี้ยง 40 กว่า หรือ 75 แล้วยังก็ต้องทำงานขายของเลี้ยง 45..ให้มาขายของที่ร้านผัก โชห่วย ก็ไม่มา ขี้เกียจ เอาแต่กินแล้วก็นอน ขี้เกียจ") /***********************แล้วพูดได้ยังไงว่า "10 ปีที่ผ่านมา นังปูไม่ได้ทำงาน" เลี้ยงน้อง Poom ได้ค่าเบี้ยเลี้ยงเดือนละ 4,000 มาปี 2549 เขาถึงได้ให้เดือนละ 6,000 เขาบอกว่า "ให้เดือนละ 6,000 มาตั้งแต่ต้น..เพราะต้องแบ่งเงินใส่ซอง ค่าใช่จ่ายค่าฟอกไตแม่..และค่าเบี้ยเลี้ยงคนเลี้ยงลูกคนละ 6,000 บาท (ซึ่งความเป็นจริง 2 อาทิตย์ เขาจะให้ค่าเบี้ยเลี้ยง 2,000 (1เดือน 2 ครั้งก็เป็น 4,000) เอาเงินเข้าบัญชีธนาคาร แต่ตอนหลังจะไปแล้ว เลยฉีดสมุดบัญชีทิ้ง แต่จดไว้.. เขายังบอกว่า วันนี้ชนวันนี้ก็เท่ากับ วันนี้ชนวันนี้ ก็เท่ากับเป็นเดือนละ 6,000 ไง..(ความจริงเป็นไง จบบัญชี ใครโกงเรื่องตัวเลข.ไม่ได้หรอก รู้หมด) แต่เขาสามารถพูดว่า วันนั้นชนถึงวันนี้ เป็นเดือนละ 6 พัน.. (ตัวเลข ป.2 ยังดูเป็นเลย)....สรุป 2545-2550..นังปู สุวรรณา สุพรรณโกมุท ไม่ได้รับเงินช่วยเหลือจากแม่ เป็นเวลา 5 ปี (ตอนเลี้ยงน้อง Poom พ่อ แม่ ก็ไม่ได้เรียกให้กลับมาดูแล..ไม่ได้เรียกให้กลับมาช่วยขายของ ไม่ได้ใ้ห้เงินฝากแม่น้อง Poom มาให้เราใช้..บอกแค่ ชื่อเราไม่ได้อยู่ในทะเบียนบ้าน 16/4 ซอยพิพัฒน์แล้ว อยู่ที่ทะเบียนบ้าน 138/2ซอยพิพัฒน์ 2..แล้วเราก็รับจ้างเลี้ยงเด็ก ด้วยค่าจ้างเดือนละ 4,000 บาทต่อไป ..ไม่ได้เอาทางบ้านแม้แต่บาทเดียว... สรุป ตีให้ถัวเฉลี่ยเลย ปีแรก 2550เดือนละ 3,000 (ตก 36,000) ปีที่ 2 (2551) เดือนละ3,000(ตก 36,000) ปีที่ 3 เดือนละ 4,000 (ตก 48,000) ปีที่ 4 เดือนละ 5,000 (ตก 60,000) รวมที่ขอเงินแม่ใช้ (ทั้ง ๆ ที่ตอนเด็กทำงานขายของยืนขายให้ทุกอย่าง..ไม่เคยได้มอเตอร์ไซค์ ไม่เคยได้ค่าน้ำมันรถมอเตอร์ไซค์ ไม่เคยได้กีตาร์ ไม่ได้ค่าจ้าง ค่าแรงแม้แต่บาทเดียว) ขายทอดมัน เงินก็ลงเก๊ะทุกบาททุกสตางค์ ... 2550-2554 รวม 5 ปี ประมาณเป็นเงิน 180,000 บาท...(แต่ถ้าแม่คิดว่า 10ปีที่เราไม่ได้ทำงาน แล้วขอเงินแม่ ก็ต้องเฉลี่ยออกมาเป็น ปีละ 18,000 บาท).....

วันอังคารที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2555

25 ธค.55 ขอเบิกเงินของป๊า 2,000 (ที่เอาไปวันนี้ของเมื่อไหร่ / "ของเืดือนมกราคม ปีหน้า"

25 ธค.55 ขอเบิกเงินของป๊า 2,000 (ที่เอาไปวันนี้ของเมื่อไหร่ / "ของเืดือนมกราคม ปีหน้า" / ....ขอเบิกเงินของป๊า 2,000 จะไปหาหมอฟันถอนฟัน ฟันเป็นแมง แตก ขูดปากเจ็บ.. ทำไมไม่ไปบัตร 30 บาท / "เขาส่ง รพ.เอกชน ไม่มีเงินรักษา" / "ไปหาหมอสมเด็จย่า" / "ที่ไหน ฟรีมั๊ย" / "ไม่ฟรี ขอเขาทำคลินิกธรรมดา ไม่เอาคลินิกพิเศษ" / "ที่ไหน" / "ข้างรพ.จุฬา ข้าง ๆ เสาวภา" / "ที่เอาไปวันนี้ของเมื่อไหร่" / "ของเดือนมกราคมปีหน้า" /"ที่เอาไปวันนี้ของเมื่อไหร่" / "ของมกรา ปีหน้า" / "แล้วที่เอาไปหมดแล้ว..." / "เอาไปซื้อทองครึ่งสลึง 3,000 พันกว่าบาท" / "ซื้อทำไมทอง" / "ก็เก็บไว้เป็นสมบัติชิ้นสุดท้ายของป๊าไง" /**********"ที่นี่ไล่ที่เมื่อไหร่ ก็ไม่มีค่าเช่าให้กินแล้วนะ""ที่นี่ไล่ที่เหมื่อไหร่ ก็ไม่มีค่าเช่าให้กินแล้วนะ" / "พรุ่งนี้เค้าจะไปสมัครงานทำแม่บ้าน ให้วันละ 300 มี O.T. มีชุดฟรี 1 ชุด" ..."ถังแก๊สเตาแก๊สอยู่ไหน" / "ก็อยู่นี่ไง" / "ถ้าไปทำงานก็ไม่ต้องเอาถังแก๊สเตาแก๊สไป" / "นั่นสินะ ก็ไม่อยากเอาไปเหมือนกัน ..ไม่อยากลงทุน ไม่มีเงินลงทุน" (รับจ้างกินไปวัน ๆไม่ต้องลงทุน)

วันอาทิตย์ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2555

"เ้ค้กชอคโกแลต" วีรสุ...

เค้็กช็อคโกแลต "วีรสุ "ครูเหว่า ครูกิ๊บ... เนื้อบัตเตอร์ นุ่มขึ้น ตีแยกไข่แดง ไข่ขาว ************** ส่วนผสม แป้งเค้ก (พัด)125 กรัม / ผงโกโก้ 30 กรัม / ผงฟู 3/4 ช้อนชา / น้ำตาลทรายส่วนที่ 1 ..90 กรัม / นมข้นจืด 60 กรัม / กาแฟผง (เนส) 2 ช้อนชา่ / ไข่แดง 5 ฟอง / วานิลาผง 1 ช้อนชา / เนยสดละลาย 150 กรัม / ไข่ขาว 5 ฟอง / น้ำตาลทรายส่วนที่ 2...90 กรัม.... ******วิธีทำ 1.ชั่งแป้ง ผงโกโก้ ผงฟู ตามส่วน ร่อนลงในชามผสม เติมน้ำตาลทรายส่วนที่ 1 ผสมพอเข้ากัน ทำเป็นบ่อตรงกลาง พักไว้ / 2.อุ่นนมข้นจืด ในเตาไมโครเวฟ ไฟ high 800-900 watt เวลา 1/2 นาที นำออกมาเติมกาแฟผงลง คนจนละลายเข้ากัน ใส่ไข่แดงและเนยละลายคนให้เข้ากันดี เทลงในส่วนผสมข้อที่ 1 ตีด้วยเครื่องตีไข่ ระดับความเร็วปานกลาง ประมาณ 5 นาที พัำกไว้ / ...***********3.ตีไข่ขาวด้วยเครื่องตีไข่ ระดับความเร็วสูงสุดพอเป็นฟองอากาศหยาบ ใส่น้ำตาลทรายส่วนที่ 2 ตีต่อจนตั้งยอดอ่อนเกือบแข็ง (ปลายงอลงนิดเดียว ไม่ตั้งยอดแข็ง) ตักส่วนผสมข้อ 2 ผสมกับไข่ขาว (ตักไข่ขาว ใส่ทีละ 1 ส่วน (แบ่ง 2 ส่วน) ใส่ส่วนผสมแป้ง) ตะล่อมเบาให้เข้ากันด้วยพายยาง เทส่วนผสมลงในพิมพ์กลม (เข็มขัด) 26 ซม. ที่รองกระดาษไข่ทาน้ำมันพืชเตรียมไว้ (ให้ักระดาษสูงกว่าขอบพิมพ์ประมาณ 1 นิ้ว/ *********4.นำเข้าอบที่อุณหภูมิ 180ํc เวลา 20 นาที..แล้วเปลี่ยนเป็นอุณหภูมิ 150 องศาC ต่ออีก 10 นาที หรือจนกระทั่งสุกเหลือง พักไว้ให้เย็น / ****************ส่วนผสมครีมช็อคโกแลต น้ำตาลทราย 125 กรัม / น้ำ 50 กรัม / เกลือป่น 1/8 ช้อนชา / ไข่แดง 2 ฟอง / วานิลาผง 1/4 ช้อนชา....เป็นส่วนผสมน้ำเชื่อมไข่แดง (ร้อน) / ช็อกโกแลตชิพ 150 กรัม (Semi Sweet Chocolate Chip) / เนยสด 250 กรัม / น้ำเชื่อมเข้มข้น 30 กรัม / (อัตราส่วน 1: 1 น้ำ 1 ส่วน น้ำตาลทราย 1 ส่วน) / ผงโกโก้ 8 กรัม (2 ช้อนโต๊ะ) / น้ำมันรำข้าว 20 กรัม (2 ช้อนโต๊ะ) ทำโกโก้เพสต์ / เหล้ารัม 1 ช้อนโต๊ะ**********วิธีทำ.. 1.ใส่น้ำตาลทราย น้ำและเกลือป่น ลงในถ้วยตวงของเหลว ขนาด 2 ถ้วยตวง นำเข้าเตาไมโครเวฟ ไฟ High 800-900 watt เวลา 3 นาที จะได้น้ำเชื่อมเข้มข้น คล้ายยางมะตูม (ฟองละเอียด เล็ก ๆ ลอยขึ้นผิวน้ำ) / 2.ตีไ่ข่แดงกับวานิลาผง เข้าด้วยกันด้วยเครื่องตีไข่ ใช้ความเร็วปานกลาง จนขึ้นฟู ค่อย ๆ เติมน้ำเชื่อมจากข้อ 1 ในขณะร้อน ๆ ลงจนหมด (ภาชนะมีปลายแหลมสำหรับเท...ให้น้ำเชื่อมร้อนไหลจากผิวด้านในอ่างผสมเป็นสายเล็ก ๆ ) ส่วนผสมจะออกเหลว ๆ ตีต่อไปจนส่วนผสมข้นขึ้น หรือจนกระทั่งส่วนผสมอุ่น ๆ นำไปแช่ช่องแข็ง ประมาณ 3 ชั่วโมง หรือทำล่วงหน้าเก็บในช่องแข็งไ้ว้ได้ 1 สัปดาห์ /....3.ใส่ช็อคโกแลตชิพ ในถ้วยตวงของเหลวขนาด 1 ลิตร ปิดฝา นำเข้าเตาไมโครเวฟ ไฟ High 800-900 watt เวลา 1 - 1 1/2 นาที พักไว้สักครู่ พอช็อคโกแลตเหลว คนจนส่วนผสมเนียน (ช็อคโกแลตขณะอุ่น ๆ ถ้าเย็น ส่วนผสมจะจับตัวกันเป็นก้อน) /....4.ตีัเนยสด ด้วยเครื่องตีไข่ ใช้ความเร็วปานกลาง ประมาณ 8 นาที หรือจนกระทั่วเนยฟูขา่ว ใส่ส่วนผสมข้อ 2 ที่เตรียมไว้ ตีต่อจนส่วนผสมเข้ากันดี / .........5.ละลายผงโกโก้กับน้ำมันรำข้าว คนให้เข้ากันก่อน ผสมกับน้ำเชื่อมเข้มข้น ใส่ลงในข้อ 4 ตีให้ส่วนผสมพอเข้ากัน เติมช็อคโกแลตชิพเหลว ตีต่อจนส่วนผสมเนียน ท้ายสุดเติมเหล้ารัม ผสมพอเข้ากัน / ********************ส่วนผสมช็อคโลแลตสำหรับเคลือบ ช็อคโกแลตโคตติง 400 กรัม (หรือ compound) วิธีทำ /....1. หั่นช็อคโกแลตโคตติง เป็นชิ้นสี่เหลี่ยมเล็ก 1.5 นิ้ว ใส่ลงในถ้วยตวงของเหลวขนาด 2 ลิตร นำเข้าเตาไมโครเวฟ ไฟ High 800-900 watt เวลา 2 นาที นำช็อคโกแลตออกมาคนจนละลายหมดและเนียนอยู่ีที่อุณหภูมิ 37 องศาC หรือ พออุ่น...ให้ราดช็อคโกแลตลงตรงกลางเค้ก และยกตะแกรงเค้กขึ้นเอียงไปมาจนเห็นว่าช็อคโกแลตเคลือบลงข้าง ๆ ทั่วทั้งชิ้นเค้ก **************** ขั้นตอนการประกอบ 1. นำเค้กที่เตรีัยมไว้มา slize เป็น 3 ชิ้น / 2.ปาดเค้กชิ้นที่ 1 ด้วยครีมช็อคโกแลต 130 กรัม วางเค้กชิ้นที่ 2 ปาดด้วยครีมช็อคโกแลตอีก 130 กรัม / 3.วางเค้กชิ้นที่ 3 ทับ ปาดด้วยครีมช็อคโกแลตส่วนทีีเหลือให้ทั่วทั้งชิ้น / 4.นำเข้าตู้เย็นช่องธรรมดา ให้ครีมเซ็ทตัวประมาณ 10 นาที (ทดสอบโดยใช้นิ้วแตะที่ครีม ไม่ติดนิ้วก็ใช้ได้) ไม่ควรแช่ในช่องแข็ง เพราะว่่าเวลานำมาเคลือบหน้าจะเกิดเป็นรอยแตกร้าว / 5.นำอกมาราดหน้าด้วยช็อคโกแลตโคตติง ที่ละลายไว้ให้ทั่วทั้งชิ้น พักไว้จนช็อคโกแลตเซ็ตตัว แต่งหน้าให้สวยงาม ... ************ วางเค้กบนแป้น ใ้ช้ที่แบ่งสไลซ์เค้ก ให้ได้ 3 ส่วนเท่า ๆ กัน (ไม่รวมความสูงของแป้นวางเค้ก) สไลต์หน้าเค้กให้เรียบเสมอกันได้.. อย่ากดเค้ก ดันทรงให้เท่ากันก่อน แล้วกดให้แน่น /สแปตฯ 2 อัน ช้อนใต้ฐานเค้ก ยกขึ้น สแปตฯ วางเฉียง / \ ปาดครีมด้านหน้าและด้านข้างแล้ว ยกขึ้นวางบนตระแกรงลวดสำหรับราดโคตติง.. หน้าครีมเย็น ช็อคโคตฯ อุ่น ราดทันที..เสร็จแล้ว ใช้สแปตฯ ยกออกจากตะแกรงทันที ไม่งั้น..แข็งติดตะแกรง (วางกระดาษไข รองช็อคโคต..ที่ไหลเหลือ.. ช็อคแข็งแซะออกจากกระดาษใช้ได้อีก..แต่ถ้ามีเศษเค้ก กรองด้วยกระชอนก่อน (อย่ากด) แต่จะแข็งได้ไม่เท่าช็อคโคตฯใหม่เอี่ยม.. ช็อคชิพ ใส่แอลกอฮอล์ (เหล้ารัม) สำหรับบีบเป็นตัวหนังสือแบบนูนได้.. ตัดหน้าเค้กใ้ช้มีดด้านเรียบ.. จุ่มแช่มีดในน้ำร้อน (เท่าที่เห็นควรใช้มีด 2 เล่ม) อมความร้อน เอาขึ้นเช็ดด้วยทิชชูให้แห้ง ค่อย ๆ ตัดกดเบา ๆ บนช็อคโคตฯ ละลายแยกกันก่อน ทั้งด้านหน้าและด้านข้าง.. แล้วจึงตัดเนื้อเค้กแยกจากกันอีกครั้ง.. ช็อคโคตฯ (ไมได้โฆษณ๊า แต่ใช้ของ TULIP แถมผ้าด้วย..ฮา....) ช็อคชิพฯ ก็ทิวลิป...เหล้ิารัม (ยี่ห้ออะไร..จดไว้ตรงไหน..จำไม่ได้ หรือไม่ได้จดก็ไม่รู้ หาไม่เจอ)

ฟันแตก โบ๋ น่าเกลียดมาก..คมที่แตกขูดเยื่อบุช่องปาก..มีโอกาสเป็นมะเร็งในช่องปากสูง...

ฟันแตก โบ๋ น่าเกลียดมาก..คมที่แตกขูดเยื่อบุช่องปาก..มีโอกาสเป็นมะเร็งในช่องปากสูง... / มะคืน..นอนกัดเล็บ กึ๊บ..อะไร.. แข็ง ๆ อ๋อ ฟันที่ผุ..แตกทันที.. ข้างหน้าโบ๋..รอยผุ ดำปื้อ..

23 ธค.55 ให้หนังสือ "คาถาชีวิต" วิกรม 1 เล่ม ...สวัสดีปีใหม่ 2556..."ลูกอากวง ใช่หรือเปล่า ..ใช่ค่ะ..จำได้หรือคะ..จำได้แต่ไม่แน่ใจ"

23 ธค.55 "ลูกอากวง ใช่หรือเปล่า ..ใช่ค่ะ..จำได้หรือคะ..จำได้แต่ไม่แน่ใจ"/ "โค้กละเท่าไหร่คะ" / "15 บาท" / "เอาเย็น ๆ ขวดนึง" (กำลังนับเศษเหรียญบาท 15 อัน) / "ใช่ลูกอากวงหรือเปล่า ๆ" / "อ๋อใช่ค่ะ.. แล้วแปะเป็นใครคะ ทำไมจำหนูได้" / "อ๋อจำได้ แต่ไม่แน่ใจ" / "กวงไม่เคยพูดถึงเรื่องครอบครัวให้ฟังเลย.. เจอน้ำ บอกว่ากวงตายแล้ว.. ก่อนตาย 1 วัน อากวงยังมาคุยกับเราอยู่เลย.. ถาม สบายดีมั๊ย ค้าขายเป็นยังไง (สงสัยวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ เพื่อนเยอะ..ยังไม่ได้ทักทายเพื่อน ๆ สมัยที่เคยเจอกัน คุยกันอยู่ เลยแวะมาลา)" "แปะคะ หนูถามนิดนึง แม่ให้ถาม "แปะเคยเห็นหนูช่วยแม่ขายของทุกวันหรือเปล่า" / "เห็นสิ ก็เห็นปู (เรายังไม่ได้พูดชื่อเราเลย...) ช่วยแม่ขายของ" / ..เล่าให้แปะฟัง ว่าป๊ายกที่ดินให้ป๊อป บ้านเช่า กินเดือนละ 30,000 ป๊าให้หนู ใช้เดือนละพัน (แปะพูด จะบ้าเรอะ.. วันนึง 30 กว่าบาท ยังไม่พอค่าข้าวมื้อนึงเลย) / "เดี๋ยวก่อน ต้องเรียกอะไรคะ" / "รุ่นเดียวกับน้ำ.." / "งั้นก็ต้องเรียกเจ็กสิคะ" / "อ๋อ ลูกเจ็กอยู่เชียงใหม่.. เมียอยู่นี่.. ตอนนี้อยู่อ่อนนุช นั่งรถมาขายของที่นี่.. ของพวกน้ำก็ฝากเด็กเฝ้าไว้..กว่าจะกลับถึงบ้าน ก็ 2 ทุ่ม 3 ทุ่ม ตื่นมาก็ต้องออกแต่เช้้า ไม่ได้ดู รายการของคุณวิกรมหรอก / "เจ็ก 60 กว่าแล้ว.. ก็ต้องขายของ...มีภาระ พันธะ ที่เีชียงใหม่ก็ขายของ ขายไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่ก็ต้องขาย.. มีที่.. ที่กรุงเทพฯ นี่ก็ต้องผ่อนคอนโดฯ 2 ห้อง " / "หนูให้ "คาถาชีวิต" ของคุณวิกรม กรมดิษฐ์ สวัสดีปีใหม่ 2556 ค่ะ เจ็ก" (ทันใดนั้นเอง.. เจ็กก็บอก "อ๋อ เจ็กก็ีมีหนังสือของคุณวิกรม อ่านเวลาว่าง.. นี่ไง อยู่ในตะกร้า..ควักขึ้นมาเลย.. ขอดูหน่อยค่ะ.. ของจริง เปิดซะเยินเลย..แฟนตัวจริง.. "เล่มนี้ยังไม่ได้ซื้อใช่มั๊ยคะ..งั้นไม่ต้องซื้อแล้วค่ะ อ่านเล่มนี้เลยค่ะ" ... / "เจ็กลูกป้าสั้น.. ป้าแตน..." / "ใช่ใช่ เจ็กลูกป้าสั้น ที่อยู่ข้างบ้าน ห้องน้ำกับอำพันไง.. (สมัยนั้นโซ๊ยสิ้มทำผม จบเกศสยาม) บ้านป้าสั้น ที่เลี้ยงหมาเยอะ ๆ ไง.. แล้วห้องถัดไปก็เป็นบ้าน "อาไช้" / "อ๋อจำได้แล้ว... จำได้แต่ชื่อป้าสั้น แต่หนูจำหน้าป้าสั้นไม่ได้แล้ว...ข้างในชุมชนที่เคยอยู่กัน..ปีหน้าเขาจะไล่ที่ เอาที่คืนแล้วนะคะ" / "โดนหมดใช่้มั๊ย แต่พวกข้างนอกของเอกชนไม่โดนใช่มั๊ย" / "ค่ะ พวกเอกชนข้างนอกน่าจะไม่โดน อีก 2 ปี จะ AEC แล้ว" / "เจ็กว่าเป็นไปได้มั๊ยคะ..ที่คนอยู่ในชุมชนที่ซอยพิพัฒน์ 2 จะไม่รู้เลยว่า ปีหน้ากรมธนารักษ์เขาจะเอาที่คืน" / "เป็นไปไม่ได้หรอก เขาต้องรู้ทุกคนแหละ" / "แต่หนูถามแม่..ทุกครั้ง แม่ตอบว่า "เมื่อไหร่กรมฯ จะเอาที่คืน" ..แม่ตอบ "ไมรู้" ทุกครั้ง..และจะให้หนูไปขายของที่ร้านผักนั่น.. / "อ๋อ สมัยก่อน แฟนเจ็กก็ซื้อกับข้าวกับแม่ปู.. ไม่เยอะหรอก.. ก็เห็นปูช่วยแม่... ส่วนลูกชาย(คงหมายถึงป๊อปกับป้อม) เจ็กไม่ค่อยสนิทกัน..ไม่ค่อยได้คุยด้วย.. (ไม่น่าเชื่อ เจ็กออกจากซอยพิพัฒน์ 2 ไปนานแล้ว.. ถ้านับก็น่าที่จะไม่เคยเจอกับเรามากกว่า 20 ปี...ทำไมเจ็กถึงจำเราได้.. เรียกชื่อ "ปู" ได้ถูกต้องด้วย)

วันศุกร์ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2555

"เค้กช็อคโกแลต วีรสุ" อร่อยมาก.. เป็นเนื้อบัตเตอร์ ตีง่าย.. เทคนิคล้ำเลิศ

แต่.. ครูกิ๊บ กะครูเหว่า.. บอก "สงสารสมาชิกท่านที่ยืน..ให้สมาชิกที่ยืนก่อนได้มั๊ยคะ" ..พวกที่นั่ง "ได้..จัดไปค่ะ" ... ผ่านไป 1 ถาด.. 22 ฝา.. ผ่านถาดที่ 2 ...พอมาถึงถาดที่ 3 ถึงคิวที่นั่งตั้งแต่เบอร์ 1 ยกถาดไปหมดแถวแรก..พอวนมาแถวที่ 2 คนที่ 1-2 ก็เล็งก็เลือก..หยิบกันไป ไอ้เราก็นั่ง คนถัดไปก็สะกิด ให้รีบยกถาดมา.. เรากำลังจับถาด..แม่นางป้าลุกยืน..มาขยุ้มฟอลย์ใส่ขนม(ผักโขมอบชีส...เนียนมาก อร่อย ชีวมอสฯ ละลายได้ดี ผิวกรอบกำลังดี เหมาะจะเป็น finger food) ของว่าง ถ้าไม่ว่างก็ไม่ต้องทาน... (ทันที พูด "ขอก่อน รีบ" / เราก็สวนทันทีเลยสิ "แล้วมีคนไหนที่ไม่รีบ" บ่อต่อ "คนอื่นเขานั่งรอกัน รอ รอ รอ ..พอถาดมาถึง..แม่คุณลุกขึ้นมาสอยไม่เกรงใจคนอื่นเลย ตะกละหรือเปล่า..ว่าคนแถวหน้าเขารีบไปดูลูก นอนอยู่ในรถ เขายังต้องรอจนถึงคิวเลย.. หน้าไม่อายยายป้า หน้าด้าน"... / นี่ยังไม่นับคนที่นั่งแถวหลังที่เขายังไม่ได้ชิม เขายังนั่งรอนานกว่าคุณเลย... (แซงคนอื่น..ป้ารอด..แต่ถ้าแซงคิวฉัน..ป้าร่อแร่..กุด่าไม่เกรงใจเด็ดขาด)************** ตอนเดินเข้าไปนั่ง ได้เบอร์ 16 ..ก็รู้กันอยู่ว่าเขาจัดเก้าอี้เบียดกัน..แม่คุณคนสวยเก้าอี้ข้างหลัง.. สะกิด "กระเถิดไปข้างหน้าหน่อยได้มั๊ย ขาติดเก้าอี้" ไอ้เรากูหันหัวไปดู จากหัวเข่าคุณเธอ ถึงหลังเก้าอี้เรา ห่างเกือบคืบ.. ส่วนเข่าเราจะติดกับหลังเก้าอี้ตัวหน้า (แคบกว่า..ยังทำใจเลย) คุณนาย..จะรักสบายไปถึงไหน พูดอยู่นั่นแหละ "ทุกทีเขาจัดที่กว้่างกว่านี้ นี่แคบกว่าทุกครั้ง.. " พี่ลักษณ์ขึ้นมาพูดกล่าว "ขอโทษท่านสมาชิกทุกท่าน..วันพุธที่ผ่านมา ก็มีสมาชิกมาเป็นร้อย ... จัดเก้าอี้เต็ม 60 ที่นั่ง อบอุ่นนิดนึง.. (ยังจัดพัดลมมาเปิดให้สมาชิกให้ได้เย็น ๆ กันอีก ขอบคุณมากค่ะ) ... ทุกคนมาเอาความรู้ มาซื้ออุปกรณ์ เครื่องมือ ไม่ต้องยืนเรียนก็ดีแค่ไหนแล้ว.. ยังอยากจะสบาย.. นิสัยคนไทย.. เหตุผล..ส้น...มาก ๆ เลย.. (รีบ.. ถ้ารีบมาก็กลับไปก่อน ไม่ต้องชิมสิ) .. "เบียดแน่น" (ถ้าไม่อยากเบียด ไม่อยากแน่น ก็นอนอยู่กับบ้านสิ)

"เรายกวัดมาไว้ที่เซ่เว่นฯ" พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล... "ทำบุญถึงขั้นปรมัธฯ...."

"เรายกวัดมาไว้ที่เซ่เว่นฯ" พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล... "ทำบุญถึงขั้นปรมัธฯ...." / ขั้นแรก ทำบุญ โดยไม่หวังประโยชน์เข้าตัวเรา ..แต่หวังให้ประโยชน์ตกแก่ผู้ที่ได้รับจากการให้ของเรา...เป็นบุญเกิดจากวัตถุ / ขั้นสอง เป็นบุญ... / ขั้น 3 ขั้่นปรมัธฯ... นิพพานัง ปะจะโย โหตุ... ทานที่เป็ันเหตุปัจจัยไปสู่นิพพาน... ถึงแม้คนเรายังมีชีวิตอยู่ ก็นิพพานได้.. โดยไม่สุขมาก (คงจะหมายถึง ไม่ยินดีในความสุขจนเกินความจำเป็นหรือเปล่าคะ หรือไม่ทุกข์มากจนเกินความจำเป็นเช่นเดียวกัน) คือคงจะประมาณว่า ถึงมีความทุกข์ ก็ไม่สามารถทำร้ายหรือบั่นทอนจิตใจ ให้เป็นทุกข์ได้ วางเฉย (กระนั้นหรือเปล่าคะ).... / ปิดท้าย ญาติโยม ทำบุญ ถวายพระอาจารย์.. ขอถ่ายภาพ ท่านคะ..ขออีกภาพค่ะ..(คงจะประมาณว่าไม่ชัด ยังไม่ถูกใจ..พระอาจารย์ก็ตามใจญาติโยม) สาธุ สาธุ สาธุ... / "แปลกนะโยม คนชอบทำบุญกับพระ แต่ไม่ชอบทำบุญกับคนที่ด้อยกว่า.. เช่น สึนามิ..พวกฝรั่งต่างประทับใจในน้ำใจคนไทยที่ช่วยเหลือ... แต่ดูคล้ายกับว่า ..คนไทยไม่ค่อยช่วยพวกลาว เขมร พม่า... (นั่นสิคะ..พระอาจารย์กล่าวให้ญาติโยมได้ฉุกคิด)... /

21 ธค.55 "เรายกวัดมาไว้ที่เซเว่นฯ" มีผู้ชายท้วมอายุประมาณ 50 กว่าต้น ๆ "ผมไม่รับของว่าง ขอเข้าก่อน 11.00 น. ในขณะที่ชาวบ้านเข้าแถวรอ ร๊อ รอ"...

21 ธค.55 "เรายกวัดมาไว้ที่เซเว่นฯ" มีผู้ชายท้วมอายุประมาณ 50 กว่าต้น ๆ "ผมไม่รับของว่าง ขอเข้าก่อน 11.00 น. ในขณะที่ชาวบ้านเข้าแถวรอ ร๊อ รอ"... / (ส่วนศุกร์ที่แล้ว พอเปิดประตู พี่ชายคนนี้ ก็พูด "ผมไม่รับของว่าง ผมขอเข้าไปก่อน" เดินลิ่ว ๆ ไม่สนใจแถวชาวบ้าานเลย.. วันนี้เห็นพี่เขาเดินับเก้าอี้.. พี่เขาเอากระดาษที่ CP All แจก มาวางจองเก้าอี้ไว้.. แปลกแฮะ ขนาดพิธีกรประกาศ ภาษาไทยชัดเจน.. "แบ่งปันเก้าอี้ให้เพื่อนผู้มาฟังธรรม ไม่ต้องจองให้เพื่อนนะครับ..ช่วยเอากระเป๋าออกด้วย บางคนบอก..เพื่อนไปห้องน้ำ (ฮา) ไปตั้งแต่เิีริ่มฟังบรรยายธรรม.. จนจบ..เพื่อนที่เ้ข้าห้องน้ำก็ัยังไม่มา... (เห็นด้วยค่ะ) คนไทยเรื่องพวกนี้ มักเป็นคนมีน้ำใจ.. ช่วยเอาสัมภาระไว้ใต้เก้าอี้ก็ได้นะคะ (พิธีกรหญิงกล่าว)... / ป้าคนหนึ่ง เห็นตั้งแต่ฉันมาครั้งแรก แกมาถึง หิ้วกระเป๋าผ้า..แปลกมาก แกวางที่ไหน ที่ไหน แต่พอมาถึงชั้น 11 แกจะต้องเอากระเป๋ามาห้อยไว้ที่ลูกบิดหน้ประตูทางเข้า Low Zone แล้วแกก็เดินไปเข้าแถว.. มา 3 ครั้ง เห็นป้าเป็นอย่างนี้ทั้ง 3 ครั้งเลย.. (ลูกบิดเขามีไว้บิดล็อคประตู..ไม่ได้มีไว้รับน้ำหนักสำหรับแขวนกระเป๋า)... / พวกแจกใบปลิว โดยไม่ได้รับอนุญาตนี่ก็อีกอย่าง... น้องผู้หญิงดำเินินงานกลุ้มใจมาก..บอกพิธีกรชายช่วยประกาศหน่อย.. (ผิดระเบียบนะครับ..ถ้าต้องการประชาสัมพันธ์ กรุณาฝากเจ้าหน้าที่ของ CPALL แจกให้นะครับ) เห็นด้วยค่ะ... / แล้วพวกที่เขาเหล็กตัว S มาแขวนกระเป๋า (มีน้ำหนักพอสมควร) กดบนพนักสีน้ำเงิน หนังเทียมหุ้มเบาะพนักพิงจะขาดมั๊ยครับ (หิ้วไปไหนมาไหน..หิ้วกันได้..วางกับพื้นกันได้..แต่พอมาที่นี่ ฟังธรรม..เพื่อตัดกิเลส ให้ติดดิน..กระเป๋าส่วนใหญ่จะต้องถูกแขวน ไม่รู้ด้วยเหตุผลใดบ้าง / อ้อลืม... ขาเข้า ..ผู้เข้าแถวสูงอายุส่วนใหญ่จะบ่น "นี่ให้คนแก่มาฟังธรรมะ น่าจะมีเก้าอี้ให้นั่งรอนะ" / มีเจ้าหนึ่ง แบกเป้บะระเหิ้ม..เดินเข้าไปเลย ตะแบงขอพี่ รปภ. เป้หนัก ..(รปภ.ไม่ให้นั่ง) ต้องขอวางเป้บนม้านั่งยาวบุนวม (เป้หนักขนาดนั้น..วางที่ไหนวางบนพื้นถนน..วางได้ แต่พอมาถึงที่นี่ ขอวางซะบนเบาะเลย..บรรดาศักดิ์ไปหน่อยมั๊ยคะ?) แล้วตัวเองก็ต้องออกมายืนเข้าแถว / รายนี้แรงเลย.. มาจากไหนไม่รู้ แก่แล้ว... มายืนหน้าประตูเลย ใกล้ถึง 11.00 น. เปิดเข้าไปเองเลย.. พูด "ปวดขา ขอนั่งหน่อย" (ฉันคุยกับพี่ผู้หญิง..ถ้าคนหนึ่งทำได้ คนอื่นเขาก็ทำได้มั่งสิ..ขอเอาเหมือนกัน) ...ป้าแกก็ฟอร์มนั่ง ควักยาดมขึ้นมาดม..อย่างเมามัน.. (เหมือนจะใกล้ตาย ..อุตส่าห์ตะกายมาตั้งไกล) ... สุดท้ายพอได้เวลา.. ป้าแกมีแรงลุกขึ้น..เดินเข้าแถวคนต้น ๆ ไม่อายคนที่เขามายืนเข้าแถวก่อนป้าแก..หลังโน่น..น..น..เลย หน้าด้านจัง) / มีเสียงผู้หญิง 2 คนพูดกันในห้องน้ำหญิง "นี่เธอ ถ้าึคนนั้น คนไม่ดีมาอีก เราก็ต้องบอกเจ้าหน้าที่นะ อย่าให้เขามาอีก มาฟังธรรมะ ทำไมเป็นคนไม่ดี".. (ไม่มีข้อมูลมาก่อน ฉันไม่สามารถสรุปเนื้อหาได้) ... / "นี่เราไปนั่งรอ ในสวนข้างนอกกัน พวกที่สูบบุหรี่เขาน่าจะรู้ตัวนะ...ว่าเรามาฟังธรรมะ มานั่งสูบบุหรี่กันอยู่ได้" คู่สนทนาพูด "แต่ในสวนด้านนอก Open Air เป็นที่ที่เขาให้พนักงานของเขาสูบบุหรี่นะ" คนแรกจึุงพูดแก้เก้อ... "จริงสินะ เขาให้เป็นที่บริเวณสูบบุหรี่ได้.. แต่เราไปนั่งเอง.. โทษเขาไม่ได้".....

วันพฤหัสบดีที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2555

โจทย์ต่อไปคือ.. "ถ้ามันใช้เงินหมดแล้ว.. มันก็ต้องยอมมาขายของ ม๊าเชื่อสิ...."

โจทย์ต่อไปคือ.. "ถ้ามันใช้เงินหมดแล้ว.. มันก็ต้องยอมมาขายของ ม๊าเชื่อสิ...." / เหลือเวลาอีก 1 ปี 1 มค.56-31ธค.56... เขาต้องเอานังปูไปขายของให้ได้.. ถึงแม้จะต้องเริ่มรื้อถอน ขนย้ายข้าวของออกจากร้านผัก 138/2 ซอยพิพัฒน์ 2 สีลม... เพราะแผนทำร้ายทำลายนังปู..ถูกคิดถูกพัฒนาไปในทางให้ร้าย.. ผุดขึ้นมาในความคิดทุกวินาที...

อี๊พูดที่ "เรายกวัดมาไว้ที่ 7-11" ..."ปูต้องทำดีกับแม่ แม่เป็นพระในบ้าน..ทุกอย่างมีเหตุและมีผล..."

อี๊พูดที่ "เรายกวัดมาไว้ที่ 7-11" ..."ปูต้องทำดีกับแม่ แม่เป็นพระในบ้าน..ทุกอย่างมีเหตุและมีผล... /ตอบ "ใช่ค่ะ อี๊ทุกอย่างมีเหตุและมีผล เหมือนการหุงข้าว ที่ต้องใส่น้ำและให้ความร้อน ไม่งั้นข้าวก็ไม่สุก"...."คนเรา การกระทำสำคัญกว่าคำพูด" (อี๊ได้ฟังแล้วก็อึ้ง ๆเงียบไปสักครู่...แล้วก็ยกแม่น้ำทั้ง 5 มาพูดอีก" / "นี่ไง เพลงของ อ.ดุษฎี.. เพลงแม่ เข้าทะลุถึงหัวใจปู.. (ขอโทษ ไม่เกี่ยวกับเพลง.. อยากจะอ้วกมากกว่า...)

้ต้องลงทุนเองอีก..ซื้อแผ่นอลูมิเนียม 120 บาท จะมาทำที่กั้นประตูไม่ให้ลูกหนูวิ่งพล่านเข้าห้องเก็บของหน้าบ้าน

้ต้องลงทุนเองอีก..ซื้อแผ่นอลูมิเนียม 120 บาท จะมาทำที่กั้นประตูไม่ให้ลูกหนูวิ่งพล่านเข้าห้องเก็บของหน้าบ้าน/ โดนบาดจึ๊กหนึ่ง ที่นิ้วโป้งมือขวา 1 ซม. (ยังยังไม่ตาย) ....หลังจากที่ต้องออกตังค์เอง ซื้อเทปสีน้ำตาลกับเทปปะก้นหม้อ มาปิดรอยต่อที่อ้าของฝ้าเพดาน.. ถึงตอนนี้(ซ่อมแล้ว 3พันกว่าบาท..แม่บอก) ... เวลาฝนตก ก็ยังน้ำซึมลงมา..เป็นด่างเป็นดวง สีน้ำตาล เป็นวง วง... คนอื่นเขามีห้องชั้น 3 อย่างดีมาพักผ่อนวันอาทิตย์.. (่จันทร์-เสาร์..ให้ผีอยู่..มีแอร์นอนด้วย) ... มีบ้านที่หนองจอกอีก 1 หลัง บ้านเช่าอีก 1 ปึก.. ยาว.. มีเงินใช้เืดือนละ 30,000 บาท

19 ธค.55 / KC 68/14-15...,u 4พัน ก็ต้องใช้ให้หมด 4 พัน..เพราะไม่มีที่ิดินบ้านเช่าจะให้สะสมเงินทอง...

19 ธค.55 KC 68/14-15 / มี 4พัน ก็ต้องใช้ให้หมด 4 พัน..เพราะไม่มีที่ิดินบ้านเช่าจะให้สะสมเงินทอง.../อะไรที่ต้องจ่าย ก็้ต้องจ่าย... สะสมความรู้มีความผิดตรงไหน..ไม่ได้สะสมความชั่ว ไม่ได้สะสมความเอาเปรียบคนอื่น.. / วันนั้น 18 ธค.55 เปิดประตูออกจากบ้าน สายหน่อย.. มอเตอร์ไซค์ ผู้ชายหน้าเหลี่ยม ผิวคล้ำ สูงไม่เกิน 158 ซม. จอดขวางหน้าประตูที่ใช้เปิดออกเดินออกไป..พูดกับมอเตอร์ไซค์อีกคัน.. (ตอนท้ายมอฯคันนี้ขี่ออกไป) ลูกจ้าง KC พูด.. "เขยิบออกหน่อย.. ฉีดเชื้อโรค" เราฉีด Dettol สเปรย์ ทีู่ลูกบิดด้านในและฉีดที่ปลายนิ้ว.. (ไม่พูดอะไร) เขาพูดต่ออีกกับมอฯอีกคัน.. แล้วขยับรถมอเตอร์ไซค์ออกไปจอดหน้าบ้านเขาKC.. ยังพูดอีกว่า "ฉีดเชื้อโรค ถอยรถออกออกมา" /เราเลยต้องพูด "นี่น้ำยาฆ่าเชื้อโรคเดตตอล ไม่ใช่ฉีดเชื้อโรค" เขาพูดต่อปากต่อคำอีก "เฮ้ยเขาฉีดน้ำยาฆ่าเชื้อโรคว่ะ.. แต่คนจะตายเอา" / "(กู) ไม่เคยทำร้ายใคร ไม่เคยฉีดน้ำยาฆ่าเชื้อโรคให้ใครตาย.. อย่าให้ร้ายคนอื่น ปากหมา (ซ้ำ)เหมือนกัน" / เราเดินไป ขอกลับมาเคลียร์อีกที "(กู)ไม่เคยทำร้ายใคร ไม่เคยเอาเปรียบใคร ไม่เคยฉีดน้ำยาฆ่าเชื้อโรคฆ่าใคร ปากหมา" มีเจ๊ผอม สูงไม่เกิน 158ซม. ผิวขาวซีด เดินอยู่ คนในบ้านนี้ มีแม่บ้านตัวใหญ่เดินอยู่ด้วย....

วันอังคารที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2555

งานเปิดตัว "คาถาชีวิต" โดยคุณวิกรม กรมดิษฐ์ พระอาจารย์ ว.วชิรเมธี ผู้เขียนคำนิยม

"อาตมาเพิ่งกลับมาจากเข้าเฝ้า ท่านดาไล ลามะ.. ท่านเปรยให้ฟังว่า "ท่านต้องมีความหวังแม้แต่น้อยนิดก็ต้องมีความหวัง" / *************************** "ผม (วิกรม) เมื่อก่อนเคยทำอะไรผิดพลาดไว้มาก (จะมีผู้ชายบนโลกนี้สักกี่คนคะที่กล้าพูดว่าตัวเองเลว..ทำความผิดพลาดไว้มาก).../ "การที่คนว่าผมเพี้ยน.. ความจริงแล้ว.. ในอดีตบรรพบุรุษของเรา ท่านก็นุ่งโสร่งกัน. การไว้ผมจุก..ผมมีญาติท่านหนึ่งเป็นพรามห์ แต่งชุดขาว ไว้ผมจุกด้านหลัง..เป็นภาพที่ผมประทับใจ..เป็นแรงบันดาลใจ..หน้าเหมือนคุณปู่ผมเปี๊ยบ.. จนถึงอายุ 60 แล้ว ผมจึงอยากนุ่งโสร่งและไว้ผมจุกแบบพรามห์ญาติท่านนั้น.. (ถ้าจะเพี้ยนแบบนี้และมีอาณาจักร .."อมตะนคร" หนูว่าก็ยอดเยี่ยมเลย(หลาย)ทีเดียว... *************************** งานเปิดตัว "คาถาชีวิต" โดยคุณวิกรม กรมดิษฐ์ พระอาจารย์ ว.วชิรเมธี ผู้เขียนคำนิยม / พระอาจารย์ ว. 1 ให้คาถาชีวิต 3 คาถา.. 1. ต้องอย่างคุณโยมวิกรม "รวยแล้วให้ ได้แล้วแบ่งปัน" 2. (จำไม่ได้แล้ว) 3.งานสัมฤทธิ์ ชีวิตรื่นรมย์ อย่าเป็นประเภท งานสัมฤทธิ์ ชิวิตบักโกรก.. (แอบฮา)... หมายถึง ทำงานให้ประสบผลสำเร็จ แต่ไ่ม่ทำร้้ายสุขภาพ..ไม่ใช่ทำงานสำเร็จแล้ว จะต้องไปนอนโรงพยาบาล หาหมอรักษาโรค... / (นอนสักตื่น นึกออกแล้วว่า้ข้อ 2 คืออะไร) /.............. ข้อ 2 คือ "จงเป็นผู้หิวกระหายตลอดเวลา และอยู่อย่างคนโง่ (แสร้งโง่) อย่าทำตัวเป็นผู้รู้ทุกเรื่องทุกอย่าง แกล้งโง่บ้าง.. เพื่อเราจะได้เป็นคนที่หมั่นใฝ่รู้ ใฝ่เรียน น้อมตนให้เป็นผู้รับจากการสอนของผู้อื่นได้... ค่ะ หนูจะแกล้งโง่.. / .................."อย่างคุณโยมวิกรม ฝันให้ไกลและไปให้ถึง" อันนี้ทุกคนฝันได้ และไปถึงได้.. แต่ต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง ทำได้ และเป็นไปได้.../ ***************************************** เมนูของว่างวันนี้ (18 ธค.55) ใครไม่ว่างห้ามทานนะคะ... อย่างแรกที่กระโดดเข้าใส่คือ ...ไอติม ครับ ไอติม กะทิสด (โครตเครื่อง) มาเป็นโหล โหล.. เครื่องเยอะมาก ไม่รู้หัวแถวเขาตั้งตรงไหน.. พ่อค้ายืนกะลา (ยังมีเนื้อติดอยู่อีกเยอะ ลืมไปว่ามีช้อนสแตนเลส ไม่งั้นแงะให้หมดกะลา...) อร่อยมาก.. (ดีนะที่ไม่ได้ส่วนฝามะพร้าว.. ไม่งั้นเราจะปากจัด..ด่าคนเก่ง แบบไม่เกรงใจอีกหลายขุม)... พิซ่า ฮาวายเอี้ยน... / กระทงทอง (น่าจะไส้ยำปลาทูน่า..น่าจะ) รสเปรี้ยวเค็มกำลังอร่อยเลย แป้งกรอบได้ที่กำลังดี.. ปั้นสิบนึ่ง (น่าจะไส้ปลา) อันนี้ก็โอ.เค. / ข้าวตังหน้าตั้ง (ต้องตั้งหน้าตั้งตากิน) ข้าวตังกรอบ ... / BBQ ไก่ มีซอสราด.. ว่าไปนั้นสุดท้าย.. สุดยอด..ด..ด.. "ก๋วยเตี๋ยวลุยสวน" น้ำจิ้มอร่อยมาก.. / ของหวาน "ตะโก้" ขนมไทยเก้าพี่น้อง.. เล็ก ๆ น่ารัก ใส่กระทงใบเตย... / อย่าลืมเมนูเครื่องดื่ม.. ประกอบด้วย "กาแฟโบราณ" ชานม..กาแฟเย็น ฯลฯ น้ำอัดลมตระกูลโค้ก (มีด้วยเหรอ ตระกูลนี้) ... ที่สำคัญ ผลิตภัณฑ์เิสริมอาหาร Hearti Benecol ทั้งซีเรียล (กินแล้วจะได้ไม่ซีเรียส).. และแบบนมปรี้ยว...ขวดละ 25 บาท (งานนี้มาอิ่ม... มีฝรั่งสุภาพบุรุษและสุภาพสตรี มาร่วมวงหม่ำอาหารว่างด้วย) ******************** เปิดตัวและปิดป้าย ด้วยวงดนตรี.. คนแรกใคร จำไม่ได้แล้ว.. ปิดท้าย เสาร์ห้า.. ร้องเพลงใต้.. "แหลง.." เขาบอกให้ไปดูใน Youtube.com และวง อะไร Blue น้องผู้หญิงยืนร้อง อึดมาก.. ใช้พลังเสียงเยอะมากเลย.. เพราะดี มีความสุข... แล้วพบกันใหม่เล่มหน้านะคะ.... ******************************** คุณวิกรม "ใครเขาว่าผมเพี้ยน ผูกจุก นุ่งโสร่ง" / (ถ้าเพี้ยนก็เพี้ยนสง่างามค่ะ.. เพราะคุณวิกรม นุ่งโสร่ง พับป้ายซ้ายขวา...จีบซ้อนเสมอกัน.. ชายโสร่ง เท่ากันเด๊ะ.. ทรงโสร่ง ทรงเอ ไม่เอียงไม่เบี้ยวเลย.. ขออนุญาตให้รางวัล "สุภาพบุรุษผู้นุ่งโสร่งให้งามที่สุดในโลก" ค่ะ... / ............................. ทางด้าน 7-11 บอกว่า ถ้าจะให้ขายได้ต้อง 20 บาทเท่านั้น.. ผม (วิกรม) ต้องมานั่งกดเครื่องคิดเลข CASIO (คุณวิกรมไม่ีมีเครื่องคิดเลขยี่ห้อื่นใช้หรือคะ.. หรือว่า CASIO จะเป็นต้นตำรับการคิดประดิษฐ์ calculator เจ้าแรกของโลก) .... ว่าจะต้องควักสตางค์ออกเองอีก.. ประมาณ subsidise ใช่มั๊ยคะ?...

งานเปิดตัวหนังสือ "คาถาชีวิต" / "หอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพมหานคร" แยก MBK เจอ รปภ. น่ารักมาก..ก..ก..

งานเปิดตัวหนังสือ "คาถาชีวิต" / "หอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพมหานคร" แยก MBK เจอ รปภ. น่ารักมาก..ก..ก.. / ฉันไปถึง หอศิลป์ก่อนเที่ยง เข้าห้องน้ำ เอาเหรียญบาทมาล้างสบู่ในห้องน้ำ แต่ใช้กระดาษทิชชู ของส่วนตัวซับเหรียญให้แห้ง... / ออกมานั่งกางหนังสือ.. ตัดริบบิน ลองหัด (ย้ำว่า ลองหัด ไ่ม่ได้ทำเป็นอาชีพ) ... ตั้งแต่เที่ยงกว่า ๆ จนถึง 14.40 น. (ตั้งนาฬิกามือถือไว้ กะว่า ลงไปงานตอนสัก 15.00 น.) / ก็นั่งทำไป นาฬิกาดังแล้ว ขออีกกลีบหนึ่ง.. รปภ. ชายผิวขาว หน้ามีรอยสิวสีชมพูทั่วแก้ม.. เดินมาด้านหลัง "พี่พี่ ที่ตรงนี้ให้เอาไว้นั่งดูทีวี ...ไม่ใช่ไว้นั่งทำงาน" (แต่เห็นเขายืนอยู่ที่ริมขอบโค้ง นานแล้ว)... / ฉันบอก "ดูทีวีที่ไหน" / "นี่ไงครับ..(เป็นจอภาพเหมือนจอคอมฯ) / "คือพี่มานั่งรองานที่เขาจัดข้างล่าง กำลังเก็บจะไปแล้ว" / "พี่ไปนั่งที่เก้าอี้ตรงนั่นก่อนก็ได้ ที่นี่นั่งไม่ได้ เอาไว้ดูทีวี" (รปภ.ยืนคุมเข้มเฝ้า..จนกระทั่งฉันเก็บของเสร็จแล้ว เดินออกไป .. ฉันเดินไปเข้าห้องน้ำ เห็น รปภ.ยืนคุมเฝ้าหน้าลิฟท์)** ก่อนหน้านั้น.. พอเก็บของเสร็จ ก็ต้องพิสูจน์ นี่น่ะหรือคือทีวี.... ลองเดินจากม้านั่งไปถึงหน้าจอ (กางมือทาบ ขนาดน่าจะประมาณ 6x9 นิ้ว).. เอานิ้วชี้จิ้มหน้าจอ (ก็เคยใช้แต่จอคอมของศูนย์เยาวชนไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง น่าจะเป็นแบบนั้นมั๊ง) / รปภ. ยืนห่างออกไป ริมขอบโค้ง ..ตะโกนขึ้นมาทันที "อย่าจับ อย่าจับ" / เราลองเดินนับก้าวได้ประมาณ 4 ก้าว หน้าจอมีแต่ตัวหนังสือ เป็นประโยคประมาณ 2-4 บรรทัด..พื้้นสีขาว.. เปลี่ยนข้อความไปเรื่อย.. ถ้ามองจากขณะนั่งที่ม้าันั่ง (4 ก้าวเท้า) จะมองไม่เห็นตัวหนังสือเลย.. ลองเดินขยับให้ได้ระยะที่พอจะอ่านเห็น ก็จะประมาณ 2 ก้าว หรือตรงกลางของทางเดิน.. เราลองเดินมองข้างหลัง ด้านซ้ายไม่มีอะไร.. ด้านขวาของหน้าจอ..เห็นมี flash drive สีชมพูเสียงอยู่.. นี่น่ะหรือคือทีวี....ไอ้เราก็ได้แต่หัวเราะ..มองหน้า..รปภ. (นิสัยกวนตีน..เป็นสันดาน..ชอบมองคนแบบกวนตีน) จริง ๆ ก็ไม่ได้โกรธหรอก.. เพราะเป็นหน้าที่ของเขา.. เขาถูกฝึกให้ระแวด.. ระแวง.. (ซึ่งจริง ๆ ไม่ได้เป็นการระวัง.. หน้าที่ รปภ.กลายเป็น ..ห้ามคนที่เข้ามาทำกิจกรรมอื่นใด .. จนอาจจะลืมหน้าที่ว่า เขามาีรักษาความปลอดภัย.. ไม่ใช่มาจับผิด)

"เรายกวัดมาไว้ที่ 7-11" เจออี๊ พูดว่า "ไปช่วยแม่ขายของเถอะ อีกปีสองปี เขาก็ไล่ที่เอาคืนแล้ว" แต่...

"เรายกวัดมาไว้ที่ 7-11" เจออี๊ พูดว่า "ไปช่วยแม่ขายของเถอะ อีกปีสองปี เขาก็ไล่ที่เอาคืนแล้ว" แต่.../ วันที่แม่เอากระดาษจดหมายกรมธนารักษ์ให้ดู เราถาม "อี๊เอามั๊ย เดี๋ยวจะไปถ่ายเอกสารใหม่มาให้อี๊แผ่นนึง" / "อี๊จะเอาไปทำไม.. บ้านอี๊ไม่โดนเอาที่คืนนี่ แม่เขาเอามาให้ปูอ่าน แล้วเก็บไว้อ่าน"... / (สงสัย..แล้วอี๊เอาข้อมูล อีกปี 2 ปี เขาก็จะไล่ที่ เอาที่คืน .. นังปูถามแม่ที่ไร ทุกครั้ง "เขาจะเอาที่คืนเมื่อไหร่" / แม่ตอบได้คำเดียวว่า "ไม่รู้ ไล่เมื่อไหร่ก็ไปเมื่อนั้น ให้มึงมาขายที่นี่ก็ไม่เอา"...

วันเสาร์ที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2555

เจออี๊ที่ "เรายกวัดมาไว้ที่ 7-11" วันศุกร์ เล่าให้ฟังว่า และ.. "ยังไงก็เป็นแม่เรา"

เจออี๊ที่ "เรายกวัดมาไว้ที่ 7-11" วันศุกร์ เล่าให้ฟังว่า และ.. "ยังไงก็เป็นแม่เรา" / ทำดีกับแม่ไว้ สุดท้ายสมบัติก็เป็นของเรา แม่ก็จะรักเรา.... (ใคร ๆ ก็พูดเหมือนอี๊เลย) ศุกร์ที่ผ่านมาเล่าให้ฟัง "อี๊ถามแม่ปูแล้ว เขาบอก ไม่ได้ส่งเรียนปริญญาโท.. แม่ปูแค่ช่วยเหลือเงินค่ากินค่ารถนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเอง" (เราเลยเล่าให้ฟังว่า.. หลินเขาหนีออกจากบ้านซาโกว... ซาโกวเล่าอะไรให้ฟัง ปูเชื่อแค่ 50-50 เพราะไม่ได้เห็นกับตา... แต่ รูปภาพของ "หลิน" เขาฟ้อง บอกเล่าเอง ทุกรูปมีแต่รอยยิ้ม หัวเราะเห็นฟันขาวสวย ...อย่างมีความสุข.. ไม่มีรูปใดแม้แต่รูปเดียว..ที่ "หลิน" จะแสดงสีหน้า แววตา ของความมีความทุกข์เลย อี๊จะเชื่อหรือไ่ม่ก็ตามใจ) ***************** อี๊บอก "เชื่ออี๊นะ อย่างอี๊ ตอนแนะนำพี่สะใภ้ให้พี่ชาย ตอนนี้เขาไม่พูดกับอี๊ ไม่รู้จักอี๊เลยด้วยซ้ำ" อี๊อายุ 66 แ้ล้ว ปู 45 อี๊เจอคนมามากกว่า (ไม่จริงหรอกค่ะอี๊ อายุไม่ได้เป็นตัวบอก ใครเจอคนเป็นจำนวนที่มากกว่า แต่ประเภทของ "คน" ที่เราเจอนี่สิ สำคัญกว่า ไม่ไดขึ้นอยู่กับ "จำนวน" คน) ******************* คุยกันเรื่องทำโจ๊ก .. "เห็นแม่ปูเ่ล่าให้ฟังแล้วว่า ปูไปเรียนกับโรงเรียนอาจารย์ยิ่งศักดิ์ (อี๊ชี้นิ้วไปทางหน้าโรงแรมนารายณ์ถูกด้วย แสดงว่ารู้จักดี)" .....นี่ก็แสดงว่า ท่านแม่คงเล่าทุกอย่างที่เป็นความชั่ว ความไม่ดีของ นังปู ให้ชาวบ้านทุกคนฟังหมดแ้ล้ว... **************** นั่งฟังธรรมะ "เห็นแม่ปูบอก ว่า 10 ปีที่ผ่านมา ปูไม่ได้ทำงานเลย" / "เหรอคะอี๊ ปูเพิ่งกลับมาอยู่ที่บ้านดาดฟ้า เพียง 5 หรือ 6 ปีที่่ผ่านมาเองนะคะ ....ก่อนหน้านี้ ปูออกไปร่อนเร่ พเนจร นอกบ้าน ให้คนดูถูก รังแก ทำร้ายจิตใจ... ไม่เคยมีใครแม้แต่คนเดียว ตามปูกลับมาดูแล ไม่มีใครถามว่า มีเงินใช้มั๊ย เป็นอยู่สุขสบายมั๊ย...มีแต่ฝากบอกเพื่อนที่ไปรับจ้างเลี้ยงลูกให้เขา่ว่า "ตอนนี้ชื่อปู สุวรรณา สุพรรณโกมุท ไม่อยู่ในทะเบียนบ้าน 16/4 ซอยพิพัฒน์แล้ว ชื่อปูไปอยู่ในทะเบียนบ้าน 138/2 ซอยพิพัฒน์ 2 โดยไม่ได้บอกเลยว่า ป๊าขายบ้านหลังนี้ไปแล้ว ซาโกวบอกป๊าขายได้ 3 ล้านบาท) ************************************* ซาโกวเล่าใหฟังว่า "ตอนยังไม่ได้โกรธกับป๊อป ป๊อปเล่าให้ฟังว่า เจ้าของบ้าน 2 ผัวเมียที่ปูไปอยู่ด้วย ....ปูเอากับข้าวเข้าไปทำงานห้องนอน... (อืม.. ไม่แน่ใจ จำไม่ได้..หรืออาจจะทำจริง ๆ เพราะไม่อยากยุ่งด้วย ..ในหมู่บ้านไม่มีรถกับข้าว อยู่กับเด็ก คนเลี้ยง 2 คน..ต้องซื้อกับข้าวมาแช่ในตู้เย็น เจ้าของบ้านเขาว่า "แช่ซะเต็มตู้เย็นเลย" / ... "เขาบอกว่า ปูไปปีนรั้วเข้าบ้านเขา" ... (คือ ซึ่งตอนแรกใส่ไว้ในท้ายรถกระบะ จอดไว้นอกบ้าน กะว่า วันรุ่งขึ้นจะเข้าไปขนออกมา.. วันรุ่งขึ้น เขาขับเข้าไปจอดในบ้าน ปูเรียกแท็กซีแล้ว เงินก็ไม่ค่อยมีแล้ว ก็ต้องปีนรั้วเข้าไปเอาของของเรา ..ไม่ได้ขโมยของของเขา..พวกเขาคงจะหวังดี กลัวของของเราหาย / ซาโกวถาม "แล้วที่เขาพูดว่า ที่นี่ไม่ใช่ซ่อง นึกอยากจะไปก็ไป นึกอยากมาก็มาน่ะ คือยังไง" ... (ก็ไม่รู้สิ.. ปูก็เป็นคนไม่ดีมั๊ง อยู่กับคนดี ๆ พวกนี้แล้วเราประสาทแดก หนีออกจากบ้านไป ... ห่วงเด็ก ไม่มีใครเลี้ยงดีเท่าปูหรอก.. กลับมาก็โดนว่า โดนด่าอีก..คือเรื่องอะไรเขาก็ว่าได้ทุกเรื่อง... ย้ายหมาอาบน้ำ เราจะล้างชาม เขาก็ด่า.. เครื่องกรองน้ำของเขา น้ำหยด เราปิดเขาก็ด่าลั่น "ใครปิดเครื่องกรองน้ำ ๆ " เราก็เฉย ๆ มีกันอยู่ 3 คน ผู้ใหญ่ในบ้าน..ก็จะมีใครที่ปิด ก็นังปูน่ะสิ... ตอนไม่สบาย ไอแทบตาย ดังลั่นบ้าน... ดึกดื่น เกินเที่ยงคืน.. ไอไม่หยุด ไม่มีเสียงเลย.. เขาไม่ถาม หาหมอมั๊ย ไม่ให้เงินไปซื้อยากิน (เราต้องรอให้เงินราย 2 สัปดาห์ 2,000 ออกก่อน ถึงเดินไปปากทางตลาดวัดมะพร้าวเตี้ย ซื้อยากินเอง) คืนนั้น เขาได้ยินเราไอลั่นบ้าน เขานอนอยู่ชั้น 2 เปิดแ้ล้วปิดประตูห้องนอน "ปัง" ใหญ่ให้ 2 ครั้ง (เท่าที่จำได้) ... ********************************* ป๊อปเล่าให้ฟังว่า "ไอ้ปูมันซื้อเตาอบ ของอะไรเต็มไปหมด เกะกะชิบหายเลย" (ไม่เป็นไร ซาโกว...ยังไงก็เป็นบ้านของเขา ชื่อเขาเป็น "เจ้าบ้าน" ..................

บอกแม่จะขายโจ๊ก พรุ่งนี้จะมาเอาเตาแก๊สตอนตี 5

บอกแม่จะขายโจ๊ก พรุ่งนี้จะมาเอาเตาแก๊สตอนตี 5../ แม่บอกว่า "เอาไปเดี๋ยวนี้เลย จะรื้อห้องแล้ว กรมธนารักษ์ เขาให้รื้อถอนขนย้ายออกไปภายใน 1 ปี" หยิบกระถ่ายเอกสารจากกรมธนารักษ์มาให้อ่าน.. 1 มค.56-31 ธค.56 รื้อเสร็จแล้ว ถ่ายภาพ พร้อมเอกสารใบเสร็จรับเงินไปติดต่อขอรับเงินค่าประกันคืน..ได้ที่... "จะได้กี่บาท..สมัยก่อนอากง อาม่า ปีละ 5-600 บาทเอง" *********************************** งั้นเดี๋ยวเย็นนี้มาเอา แต่เดินออกมาแล้ว จะเอา 4 พันเข้าแบงค์ ธนาคารปิดทำการวันนี้.. เลยกลับบ้านดินแดงก่อน.. "ถังพลาสติกใส่ของจะเอาไปมั๊ย ข้าวสารจะเอาไปมั๊ย ตักเอาไป (ประมาณว่าไม่ต้องซื้อ)" ถังแก๊สเบา ไม่มีข้อความอื่นใดอีก....จบรายการ (อี๊บอก ทำโจ๊กต้องใช้ข้าวหอม)

ออกจากสีลม 16.00 น.กว่า ๆ ราชดำริ ติดมากประมาณ 1ชม.

ออกจากสีลม 16.00 น.กว่า ๆ ราชดำริ ติดมากประมาณ 1ชม. รปภ.ปล่อยรถจาก CW ออกมาเยอุะ รถทางตรงจากแยกราชประสงค์เลยไม่ได้ไป.. รถเมล์ฟรี 77 ติดไฟแดงคันแรกเลย..

ถักผ้าพันคอ สอดปลายผ้า..ให้ยูริ 1 ชิ้น

ถักผ้าพันคอ สอดปลายผ้า..ให้ยูริ 1 ชิ้น สีชมพู 2 tone.... ให้กระเป๋าจิ๋ว ห้อยมือถือ คุณแม่ 1 ชิ้้น จะให้อี๊ อี๊บอกไม่มีโทรศัพท์ เลยไม่เอา..

12-14ธค.55 กินข้าวเปล่าเหยาะซอส มาม่า

12-14ธค.55 กินข้าวเปล่าเหยาะซอส มาม่า /12 ธค.55 กินข้าวเปล่าเหยาะซอส 3 มื้อ / 13 ธค.55 กินข้าวเปล่าเหลือค้า่งเมื่อวาน กดอุ่น เจอมาม่า่ต้มยำกุ้งน้ำข้น เหมือนเจออาหารฮ่องเต้ ลวกน้ำร้อนกินเป็นกับข้าวต้มยำกุ้ง / 14 ธค.55 สิ้มเมตตาใ้ห้กินโจ๊ก 1 ชาม ถามด้วยความห่วงใย / 15 ธค .55 ไปขอเงินกินข้าว ค่าแรงของป๊า ได้มา 4,000 บาท / คุณแม่หยิบกระดาษที่ถ่ายเอกสาร กรมธนารักษ์ ขอที่ิดินที่เช่าคืน ซอยพิพัฒน์ 2 ยิ้มหัวเราะสดใสอย่างอารมณ์ดี.. อี๊มาพอดี พูดกับแม่ "ปูมันน้อยใจให้ใช้เืดือนละ หน่อไช ฯลฯ" ..x*ie*O2(*^nn4$ ดีกว่า...

วันพุธที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ช่วยพ่อแม่ทำมาหากิน ช่วยขายของทุกวัน ล้างถาดทุกค่ำ

ช่วยพ่อแม่ทำมาหากิน ช่วยขายของทุกวัน ล้างถาดทุกค่ำ กวาดหน้าบ้านทุกคืน / สุดท้ายนังปุ สุวรรณา สุพรรณโกมุท ต้องมาอดตายอย่างหมาข้างถนน.... ในวันที่ช่วยพ่อแม่ทำมาหากิน ลูกป๊อป ลูกป้อม ไม่เคย..ที่จะไม่มีกิน..แม้แต่วันเดียว

แม่ "มีงจะขายสมบติแดกให้หมดเลยรึไง"

แม่เอาฝ่ามือขวา ตบฝาลังชั้นลิ้นชักอย่างแรง "แม้แต่บาทเดียวก็ไม่ให้มึง" / ลืมประโยคสำคัญอีกแล้ว "มึงจะขายสมบัติแดกให้หมดเลยหรือยังไง" (กูได้สมบ้ติอะไรไปขายแดกแม้แต่ชิ้นเดียวหรือยังนี่) ไปขอเงินค่าแรง 2 เดือน ที่ตื่นขึ้นมาช่วยป๊าขายของ จะหาเรื่องไม่ให้ คนแบกเตี่ยไปโรงพยาบาล 6 เดือน ได้ 7 ล้าน คนช่วยเตี่ยของของทุกวัน 2 เดือน.. ไม่ได้สักบาท "ตอนเค้ายังไม่ตาย ทำไมมึงไม่ไปทวง พอมันตายแล้ว มึงจะมาให้กูออกเงินให้มึงรึไง"

"ข้าวหอมมะลิตราฉัตร" 7-11 เหลือก้นถุง คงกินได้อีก 2 วัน (ข้าวเปล่าเหยาะซอสภูเขาทองฝาเขียว)

"ข้าวหอมมะลิตราฉัตร" 7-11 เหลือก้นถุง คงกินได้อีก 2 วัน (ข้าวเปล่าเหยาะซอสภูเขาทองฝาเขียว) / 12/12/12 วันนี้หุงข้าวตอนเช้า เหยาะน้ำปลา ตอนกลางวัน กินข้าวเปล่าเหยาะซอสภูเขาทอง ตอนเย็นกินข้าวเปล่าเหยาะซอสภูเขาทอง / เอาผ้าพันคอมาแขวนหน้าบ้าน ขายเอาค่าไหม ไม่เอาค่าแรง 50 บาท ไม่มีคนซื้อ / woody กลับจากเรียนถาม "กู๊ปูเอาผักในตู้เย็นไปกินหรือเปล่า" / "ผักอะไร" / "ผักในตู้เย็น" / "ไม่ได้เอาไป" / "อ๋อ งั้นสงสัยไอโน่คงจะเอาไปกิน" / ************************** ปิดเทอม ไปตลาดวงเวียนใหญ่ ตี 3 ทุกวัน ซ์้อของหิ้วทุกวัน ยืนขายของกับแม่ทุกวัน ไปตลาดสามย่าน เสาร์ อาทิตย์ ซื้อของหิ้วขึ้นสามล้อทุกวัน สุดท้าย..ต้องมากินข้าวเปล่าเหยาะซอส (ก็อร่อยกลมกล่อมกว่าน้ำปลาหน่อยนึง) / เห็นทีวีตั้งอยู่บนโต๊ะ เดี๋ยวเสาร์ อาทิตย์ รถรับซื้อของเก่ามา ยกตู้เซฟ กับทีวี ขายทิ้งไปเลย..ส่วนมอเตอร์ไซค์ Yamaha เดี๋ยวถามคน ใครอยากได้ ให้มาถอดเป็นชิ้นส่วนอะไหล่ เอาไปขายเซียงกง คงได้หลายตังค์

วันจันทร์ที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2555

เอามอเตอร์ไซค์ Yamaha เข็นไปจอดหน้าบ้าน (เหมือนตอนนั้นที่ไอป๊อปมันอยากให้มอเตอร์ไซค์หาย) ตู้เซฟ

เอามอเตอร์ไซค์ Yamaha เข็นไปจอดหน้าบ้าน (เหมือนตอนนั้นที่ไอป๊อปมันอยากให้มอเตอร์ไซค์หาย) ตู้เซฟ / เก็บขยะโสโครก ของมันออกไปไว้ในบ้าน ไม้ กระจกชิ้นใหญ่ เอาเหน็บข้างฝา เอาเชือกผูก ป้อมคงจะกลัวล้มใส่รถ..เลยต้องเก็บทิ้งลงถังขยะ รถขยะ กทม.ดีมาก ๆ เก็บออกไปทิ้งให้จนหมด.. (ของลูกป๊อป ต้องเป็นภาระน้อง ๆ ทำ ..แต่ตัวมันได้ที่ดิน บ้านเช่า 7 ล้าน ค่าเช่ากินใช้เดือนละ 30,000 บาท) / เอารถมอเตอร์ไซค์ไปจอดหน้าบ้าน ทิ้งไว้ข้ามคืน.. ให้คนมาถอดเป็นชิ้นส่วนอะไหล่..เอาไปขายเซียงกง / ส่วนตู้เซฟ (หนักกว่า 50 กิโลกรัม) เข็นไปไว้ใกล้ประตูบ้าน..วันไหนรถรับซื้อ "รับซื้อแอร์เก่า แอร์เสีย ตู้เย็นเก่า เสีย วิทยุเก่า เสีย เครื่องพิมพ์ดีดีเก่าเสีย ...รับซื้อนะครับ) ... ขายเป็นของเก่าไป ได้ 10 บาท 20 บาท ก็เอา.. (เพราะสมบัติมีค่า ของมีค่า ของใช้งานได้ รถกระบะ...โฉนดที่ดิน ค่าเช่า ตอนโดฯ 2 ห้อง ...พวกมันเอาไปกันหมดแล้ว) ของมีค่าเอาไปแล้ว.. เหลือตู้เซฟ ที่ไม่มีอะไรทิ้งไว้ให้ดูต่างหน้้าป๊าหรือไง.. ไอ้นรก...

11 ธค.55 เช้ากินข้าว 1 มื้อ เงินหมดแล้ว ไม่เหลือแม้แต่สลึงเดียว

11 ธค.55 เช้ากินข้าว 1 มื้อ เงินหมดแล้ว ไม่เหลือแม้แต่สลึงเดียว ทำไงดี..

ไม่มีเงินซื้อไข่ ยืมไข่ไก่ในถุงมา 12 ลูก (ทำไข่เจียวกินเอง กลางวันกับเย็น รวม 2 ลูก)

ไม่มีเงินซื้อไข่ ยืมไข่ไก่ในถุงมา 12 ลูก (ทำไข่เจียวกินเอง กลางวันกับเย็น รวม 2 ลูก.. ขายข้าวไข่เจียวหมูสับ (ไข่ 2 ฟอง) คิด 30 บาท.../ ข้าวไข่เจียวธรรมดา (ใหญ่+เทศ) 2 กล่อง 40 บาท / ข้าวไข่เจียวหมูสับ (1 ฟอง) 25 บาท / รวมเป็นเงิน 95 บาทสิเนอะ.. อ๋อ ซื้อเป๊ปซี่ 1 ขวด ไป 10 บาท...เหลือ 85 บาท... ************************************************** ยืมไข่ในถุงมา 12 ลูก บ่ายแก่ ๆ ถุงไข่ไม่อยู่แล้ว..โน่เดินมาถาม.. "เก็บไข่ไปแล้วเหรอ" / "อืม" / "ขอยืม 12 ลูก เดี๋ยวซื้อใช้คืน" / ตกเย็น เหลือไข่ 5 ฟอง..ซื้อเพิ่มอีก 7 ฟอง 28 บาท ใส่ถุงคืนให้โน่ ที่ห้องนอนชั้น 4 แล้ว... (มึงไม่ต้องกลัว..กูเอาของลูกมึงมากิน) ที่ยืมมาต้องชดใช้..

10 ธค.55 ขายข้าวไข่เจียว 11.30-18.00 น. ได้ 85 บาท

10 ธค.55 ขายข้าวไข่เจียว 11.30-18.00 น. ได้ 85 บาท (วันที่โดนแม่ทุ่มเก้าอี้ใส่ไล่หลัง..ถ้าโดนเราก็ต้องเจ็บหรือไม่ก็ต้องตายเป็นแน่แท้) ... นั่งรอรถเมล์ฟรี 2 ชั่วโมงไม่มา..ไม่ได้กินข้าวมาเลย หิว..ไปขอยืมเงินซาโกว 1,000 บอกจะไปสมัครงานเป็นแม่บ้าน ค่าแรงวันละ 300 ชุดฟรี 1 ชุด มี O.T. วันหยุด... วันนี้เหลือเงิน 200 บาท เอามาลงทุนซื้อกล่องโฟม ซื้อซ๊อส ซื้อน้ำมันพืช 1 ขวด ซื้อซอสพริก 1 ขวด ซื้อถุงน้ำจิ้ม ซื้อถุึงหิ้ว 6x14 (เล็กไป ใส่แล้วกล่องเอียง) .. หมดตัวหมดตูด.. เปิดประตูห้องครัว มีหนูร้องจิ๊ด ๆ ๆ ๆ ๆ วิ่งไปวิ่งมา ใกล้ถังข้าวมีแต่ขี้หนูเต็มไปหมด.. เลยต้องไปซื้อข้าวสารมา 1 โล.. หุงตอนกลางวัน 2 ถ้วยเล็ก (ทดลองว่าุแข็งไปมั๊ย).. ตอนเย็น หุงอีก 3 ถ้วย ขายได้ 1 กล่อง (ไข่เจียวหมูสับ หอมใหญ่ มะเขือเทศ 1 กล่อง 25 บาท ใส่หมูสับเอง..สันนอก ..ช้อนพูน (ช้อนพลาสติก 7-11) ต้องขายราคาเท่าร้านตามสั่ง หน้าบลูเฮ้าส์..ไม่งั้นจะเป็นการตัดราคาเขา)... พอดีวันนี้เป็นวันหยุดยาว... เงียบ ไม่มีคน..มีแต่คนหาของกิน แต่ไม่มีคนขาย..เขาเลยต้องซื้อข้าวไข่เจียวเรา

"ไทยรัฐ" หน้า 1 ..ลูกติดยา..ฆ่าพ่อ..ตาย 11 ธค.55 เช้านี้ (แต่เราไม่กล้าไปร้านผัก ไปขอค่าแรงก็ไม่ได้ กลัวถูกแม่ฆ่าตาย..เห็นที..

"ไทยรัฐ" หน้า 1 ..ลูกติดยา..ฆ่าพ่อ..ตาย 11 ธค.55 เช้านี้ (แต่เราไม่กล้าไปร้านผัก ไปขอค่าแรงก็ไม่ได้ กลัวถูกแม่ฆ่าตาย..เห็นทีจะต้องอดตายเสียแล้ว.. กูไม่ใช่นางเอก..ที่จะต้องเสียสละทุกอย่าง (ไอสองหน่อไม่ต้องกินหรือไง) กูช่วยพ่อแม่ทำมาหากินทุกอย่างเกือบ 20 ปี.. ไม่มีวันไหนที่ลูกป๊อปกับลูกป้อมจะต้องอดอยาก ไม่มีจะกิน..มีรถมอเตอร์ไซค์ขี่กันคนละคันสองคันอีกต่างหาก. *******

วันเสาร์ที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2555

6 ธค.55 ขอค่าแรงตอนอยู่กับป๊า 2 เดือน.. ประโยคสำคัญ "เหี้ยเหมือนพวกมัน..เืชื้อไม่ทิ้งแถว"

6 ธค.55 ขอค่าแรงตอนอยู่กับป๊า 2 เดือน.. ประโยคสำคัญ "เหี้ยเหมือนพวกมัน..เืชื้อไม่ทิ้งแถว" หลังจากฝ่ามือฟาดบนฝากล่องลิ้นชักอย่างแรง..จนมือแทบหัก.. 4 ครั้ง "ให้มึงฆ่าแม่มึงให้ตาย กูสู้นะโว้ย แม้แต่บาทเดียวกูก็ไม่ให้..เหี้ยเหมือนพวกมัน..เชื้อไม่ทิ้งแถว" ********************************* "โต๊ะไว้หน้าบ้านอันนี้ จะขอให้เป็นโต๊ะขายส้มตำ ที่ดินแดง" / "ไม่ให้ กูจะเก็บไว้ให้คนเช่าขายผักขายหมู" *

วันพฤหัสบดีที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2555

6 ธค.55 "ให้มึงฆ่าแม่มึงให้ตาย กูไม่ให้แ้ม้แต่บาทเดียว"

6 ธค.55 "ให้มึงฆ่าแม่มึงให้ตาย กูไม่ให้แ้ม้แต่บาทเดียว" / มึงขึ้นกูขึ้นมึงกับกูเรอะ.. / ก็มึงพูดกูกับกู กูก็พูดมึงให้มึง / หนอย..ย.. จะเป็นเป็นหมื่น กูให้มึงเท่่าที่เตี่ยให้มึง 2 เดือน 4,000 จะเอามั๊ย. (เสียงปรี๊ดส์์).. / "เอา" (ตาถมึงทึง.. เสียงปรี๊ส์ น้ำหนักเสียงเท่าเขา) / เอามือตบฝากล่องชั้นอย่างแรง.. 1 .."กูสู้นะโว้ย มึงจะฆ่าแม่มึง มึงฆ่าแม่มึงให้ตายเลย ให้มึงติดคุก " / ตบ 2 พร้อมพูด / ตบ 3 พร้อมพูด (ดังลั่น) กูไ่ม่ให้มึงแต้บาทเดียว.. ตบฝาลังครั้งที่ 4 / "แล้วเค้าจะฆ่าม๊าให้ตายทำไม ให้เค้าติดคุก (ไ่ม่ได้พูดกูมึง น้ำเสียงราบเรียบ ไม่โง่ฆ่าใครให้ตัวเราเองติดคุกหรอก" / เดินออกจากบ้าน "ไม่ให้ก็ไม่เอา" / เดินตามออกมาด่าไล่หลัง (เราเดินไปแล้ว ไม่ได้หันหลังมา ชาวบ้านคงมองกันทุกคน) ได้ยินเสียง โยนเก้าอี้ฟาดกับพื้นอย่างแรง (เก้าอี้คงแตกกระมัง) เจ็บมือด้วยตบฟาดซะ 4 ครั้ง.. / .. แหมทำไมไม่แม่น ฟาดให้โดนหัวเราเลยนะ จะได้แจ้งตำรวจ.. ข้อหาพยายามฆ่า (ลูก) * "มึงจะเอาเท่าไหร่ ขายบ้านให้เงินมึงหมดเอามั๊ย" / "คิดว่าเค้าทำงานให้ป๊า 2 เดือน ควรจะให้เท่าไหร่หระ..ได้เท่าไหร่ก็เอา" / "เอาแสนนึงจะให้เหรอ" / "กูจะเขียนใส่กระดาษ 1 แสนให้มึง" / (ยืนรอเป็นเกือบชั่วโมง หงุดหงิด เครียด ไม่มีเงินติดหอยแม้แต่บาทเดียว รอรถเมล์ฟรี 2 ชั่วโมงก็ยังไม่เห็นมา ฝนก็ตกหนัก ตากฝนไป ไม่สบาย เป็นหวัด) เห็นลังกระดาษา ข้างในมีมีด จิ้มเฉาะลังกระดาษเล่น ๆ มัน ๆ / "มึงจะแทงทำไม หนวกหู" / "ก็ทำอะไรรอ..สนุก สนุกดี" / "มึงจะแทงทำไม หนวกหู" / "ซ้อมไว้ เผื่อเอาไว้แทงไอ้นรก.." / "มึงจะเจอเค้าึรึไง" / ไม่เจอก็ไม่เป็นไร รอได้ สักวันก็ต้องเจอ..ถ้าเจอเมื่อไหร่ จะแทงไม่ยั้ง เอาให้ตาย" * / "ถ้าขอล้านนึงจะให้เรอะ" / "กูก็เขียนใส่กระดาษให้มึงล้านนึง" / "หนอย.. มีเงินไป post ลงเน็ต" / "ไปด่าเค้า..ไอ้นรก..เขาจะให้มึงเรอะ" / "ก็ค่าเช่าของป๊ายังอยู่นี่.. ในเมื่อไม่ให้สมบ้ติอะไรลูกสาวคนเดียวที่ช่วยพ่อแม่ทำมาหากิน ในเมื่อทำงานให้เขา..ก็สมควรได้รับค่าแรง" * "ตอนเตี่ยมึงยังไม่ตาย ทำไมไม่ทวงมัน พอมัึนตายแล้วมาทวง จะให้กูออกเงินให้ึมึงรึไง" / "ก็คิดว่าป๊าคงจะเหลืออะไรให้บ้าง ลูกป๊อปยังได้ที่ดิน บ้านเ่ช่า 7 ล้าน ส่วนเค้าได้ค่าเซ็น 7 พัน เค้าทำงานให้ป๊า ก็น่าจะให้ค่าแรงเค้าบ้างสิ" / "ตอนเตี่ยมึงยังไม่ตาย ทำไมไม่ทวงมัน พอมันตายแล้วมึงจะมาทวง จะให้กูออกเงินให้มึงรึไง อีดอก ไอ้นรกมันเอาเงินเตี่ยมันไปเกือบ 4 แสนบาท ไปทวงเอาเงินกับมันสิ" / "จะไปทวงกับเค้าได้ยังไง เขาสมควรให้ได้เงินค่าตอบแทน เขาทำหน้าที่ "เีมีย" ให้ป๊า ก็สมควรได้เงิน" * "เค้าสมควรได้ ไอป๊อปเค้าแบกเตี่ยไปโรงพยาบาล ตั้ง 6 เดือน เตี่ยก็ยกให้เค้าหมดสิ" * "มึงมานั่งฟังมันด่ากูมั่งสิ" / "ไม่ใช่หน้าที่กู กูไม่ได้เป็นคนทำให้อีนังหลิน มันออกจากบ้านซาโกว มันเสือกแรดหนีออกจากบ้านเขาไปเอง เขาเลี้ยงคนของเขามาดีดี ก็มีคนทำเสือกช่วยอีนังหลินมันออกไป (สบายแล้วล่ะสิ) เขาเดือดร้อน เขาโกรธ เขาแค้น เขาก็มาด่า เป็นเรื่องที่สมควรแล้ว ถูกต้องแล้ว" (ไม่เชื่อเอาเรื่องไปเล่าให้ชาวบ้านเขาฟังสิ) / * "กูขายบ้านดินแดงทิ้ง แล้วไปอยู่ที่อื่นแล้ว" / "เหรอ..ขายได้เงินเท่าไหร่ล่ะ" / "จะแบ่งเงินมั๊ย" / "แบ่งให้ใคร" / "แบ่งให้เค้าบ้างสิ" / "ไม่ให้ กูไ่ม่ให้" / * "กูเขียนพิันัยกรรมแบ่งสมบัติให้ัึมึงแล้ว" / "เหรอ..เค้าได้อะไรบ้างล่ะ" / "กูทำพินัยกรรมเสร็จแล้ว.." / "แล้วเค้าได้อะไรบ้างล่ะ ก็ดูพินัยกรรมหน่อยสิ" / "ไม่ต้องดู..มึงได้ก็แล้วกัน" ด่า ด่า ด่า / "มึงจะฆ่าแม่มึงให้ตาย.. กูไม่ให้แล้ว กูจะแก้พินัยกรรม ไ่ม่ให้อะไรมึงเลย" / หัวเราะ "หึหึ ก็แก้ไปเลย พินัยกรรมน่ะ" * "เค้าจะขายส้มตำที่ดินแดง" / "ไม่ต้องขาย มาขายของที่นี่" / "เอาเตาแ๊ก๊สไป (ถังใหญ่) เอาหม้อนึ่งข้าวเหนียว หวดไป ไม่ต้องซื้อใหม่ ไอแจ๋ซื้อมาไว้ ยังไม่ได้นึ่งอะไรเลย (ใหม่เอี่ยม..จริงเรอะ) / "ถ้วย ถัง อะไรก็มี..ไม่ต้องซื้อ" / "แล้วเตาแก๊สจะให้เอาไปยังไง" / "เอาใส่รถแท็กซี่ไป สามล้อไปสิ" (โถคิดว่าจะพูดว่า "ไม่เป็นไร ไอป๊อปมีรถกระบะเดี๋ยวให้ไอป๊อปมาช่วยขนไปให้" แบ๊ะ แบ๊ะ แบ๊ะ / "งั้นเดี๋ยววันอาทิตย์จะมาเอา" / "ให้ไอป๊อปมันติดหัวก๊อกน้ำให้ด้วย.. เดี๋ยวเค้าจะขึ้นไปขนอ่างซิงค์ล้างชามของ(โครต)เก่า ที่โซ่ยเจ็กเขาทิ้งไว้ลงมาล้างของ / "จะลองไปขายก่อนสัก 3 เดือน ถ้าขายไม่ได้ ค่อยกลับมาขายเหล้าบุหรี่โชห่วยที่นี่" * "แล้วถ้าที่ี่นี่ไล่ที่ จะให้เค้าขายอะไรต่อ" / "ไ่ม่รู้..เอาไว้ให้ไล่ที่ก่อน แล้วค่อยคิดว่าจะทำมาหากินอะไรต่อ" / "กูให้มึีงขายของที่นี่ มึงก็ไม่เอา" * มีคนเอาฝากระทิงแดง ลิโพมาแลก 2 ฝา "ซื้อที่ไหน ให้ไปแลกที่นั่น ..." / "ผมก็ซื้อที่นี่แหละ" / ให้มีหลาย ๆ ฝาก่อน แล้วค่อยมาแลกไม่ได้รึไง" / "แล้วยังไง แลก 3 ขวดรึไง" / "ครับแลก 3 ขวด" (หยิบแล้วให้ดู แล้วก็เดินออก ไม่รอใส่ถุง) *

วันพุธที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2555

5 ธค. 55 วันนี้ เริ่มเผากระดาษฝั่งที่เป็นปูน (มีรอยไหม้ดำเล็กน้อย) พรุ่งนี้เผาให้ติดฝาไม้กั้นห้อง รับรอง...

5 ธค. 55 วันนี้ เริ่มเผากระดาษฝั่งที่เป็นปูน (มีรอยไหม้ดำเล็กน้อย) พรุ่งนี้เผาให้ติดฝาไม้กั้นห้อง รับรอง...ติดแล้วไม่มีดับ / กูช่วยพ่อแม่ทำมาหากินตั้งแต่เด็ก ตื่นไปตลาดเฝ้าผัก โตก็่ช่วยซื้อของซื้อผัก หิ้วตัวเอียง ทุกอย่าง เป็นขึ้ข้า เป็นทาส..ยังไม่เคยเรียกร้องค่าแรงแม้แต่บาทเดียว.. วันนี้เงินหมดแล้ว.. ไม่มีกินแล้ว.. ตอนแรกคิดจะไปทำงานแม่บ้าน ..แล้วเรื่องอะไร กูทำงานให้พวกมันกิน อยู่ มีรถมอเตอร์ไซค์ มีเงินเติมน้ำมัน ในขณะที่กูต้องนั่งรถเมล์ไปโรงเรียน.. ให้พวกมันสบาย.. ช่วยแม่ยืนขายของทุกวัน..สุดท้าย หมาคาบไปแดก มาอยู่ห้องชั้น 4 ได้เงินไปเรียนปริญญาโท.. กูสร้างให้พวกมึง..มี..ได้.. / กูก็ทำลายให้สิ้นซาก แถมไหม้ไปยังข้างบ้านอีก..รับรองหลายร้อยบาทแน่นอน.. พวกมึงเตรียมหาเบอร์ ดับเพลิงได้เลย..วันนั้น ไฟไหม้แถวดินแดงนี่แหละ.. คิดว่าไหม้ 68/16 ซอยบุญอยู่ ..ทำไมถึงไม่ไหม้นะ.. จะได้วอดวาย..

ท่านแม่วิภา าจงมีความสุข บอกนังปู จงมีความทุกข์ ว่า "วันนึีงขายของแค่นี้ก็พอกินแล้ว"

ท่านแม่วิภา าจงมีความสุข บอกนังปู จงมีความทุกข์ ว่า "วันนึีงขายของแค่นี้ก็พอกินแล้ว" / งั้นรึ ไหนจะคนซื้อกาแฟติดเงิน ไหน 7-11 หัวซอย ท้ายซอย.. เดี๋ยวคอนโดฯ หน้าร้านผัก ก็จะต้องมีร้าน 7-11 หรือร้านสะดวกซื้อใต้ตึกอีก.. "แล้วซื้อของยังไง นั่งรถไปซื้อที่แมคโครเรอะไง" / แม่ตอบ "จ้างเขาขนไปของ ให้ 100 ถ้าไอแจ๋อยู่ ก็ให้ไอแจ๋ไปซื้อไปขนให้"

วันพฤหัสบดีที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

นั่งทำการบ้านกัน "นี่ไง ของขวัญวันเกิดของลูก เป็นสมุดบันทึก (ที่แม่ให้ป้าไว้ปีก่อน ยังไม่ได้เขียน ที่จริงอยากจะเอาสมุดบันทึกที่ได้จากมูลนิธิอมตะ ปกผ้าขาวม้าทำไปให้ แต่หายไปแล้ว) ...ข้างใน.. แยก สระ a e i o u คำศัพท์ตัวอย่างที่สะกดด้วยสระเหล่านี้..อ่านออกเสียง เอ โอ หรือ ยู อ่านออกเสียง อู อับ อัก เช่น ugly อ่าน อักลี ..รวมทั้ง ตัว y ที่จะสะกดคำศัพท์...ไม่รู้ว่าลูกจะได้อ่านหรือเปล่า..เพราะโรงเรียนนี้ การบ้านภาษาอังกฤษเยอะมาก..ทั้ง เคมบริดจ์..และ actiity ลูกบอก ลูกเขียน a ตัวพิมพ์เล็กไม่เป็น.. ป้าก็เห็นใน class book ตัว a เขียนเป็นตัวเขียนเล็ก.. งงเหมือนกัน ตัวอื่นเป็นตัวพิมพ์เล็ก ..ป้าเอาหนังสือพิมพ์แจกฟรี ไปวางบนโต๊ะวางของของลูก... หวังว่าลูกจะเปิดดูบ้าง ถึงแม้จะอ่านยังไม่ออก... (นี่น่ะเหรอ..ของขวัญวันเกิดของป้าให้ผม..เออ.นี่แหละลูก ของขวัญวันเกิด) ไม่กี่วินาทีที่แล้ว · ที่ถูกแก้ไข · ถูกใจ * นั่งรถแท็กซี พ่อบอกอยากให้ลูกไปเรียนเอาภาษาที่อินเดีย.. เลยบังกะลอขึ้นไปหน่อย บังกะลอมีแต่แขกดำส่วนใหญ่.. ค่าใ้ช้จ่ายพอพอกับเมืองไทย.. แต่ลูกยังสะกดคำศัพท์ อ่านไม่ได้ แปลไม่ออกเลย.. 45 นาทีที่แล้ว · ถูกใจ * ป้าบอกให้ลูก ถ้าซื้อซีดีหนัง ให้ซื้อซีดี ที่เป็น soundtrack หรือ subtitle ...ลูกจะให้ฝึกดูปากคนพูด และฟังเสียง สำเนียง 45 นาทีที่แล้ว · ถูกใจ * "ป้าครับ ภาษาอังกฤษ มีทั้งแบบ อเมริกัน และแบบอังกฤษ ใช่มั๊ยครับ" / "ใช่ลูก" 44 นาทีที่แล้ว · ถูกใจ

วันพุธที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

29 พย.55 ไปขอเงินท่านเตี่ย 2,000 บาท (ถามเรื่องขายของ) ไอแจ๋เขาไปช่วยแซ่คิ้ว ตัดอ้อย ไม่ว่างมาขายของ

29 พย.55 ไปขอเงินท่านเตี่ย 2,000 บาท (ถามเรื่องขายของ) ไอแจ๋เขาไปช่วยแซ่คิ้ว ตัดอ้อย ไม่ว่างมาขายของ / จะมาเบิกเงิน 2,000 ของป๊า ซื้อกางเกงขายาว 2 ตัว ตัวละประมาณ 300 บาท (อาจต้องเสียค่าเย็บปลายขากางเกงขึ้นด้วย) กางเกงใน 2 ตัว ซื้อเสื้อใส่อีก 2 ตัว (ไม่ซักทุกวันเปลืองน้ำ) / "ห้องทีนี่กว้าง ๆ ไม่มานอนรึำไง ไม่ต้องเสียค่ารถ" (ซ้ำ) / /อ๋อ..นั่งรถเมล์ฟรี ไม่ต้องเสียค่ารถ มาตอน 6 โมงเช้าก็ทันถมถืด" / "มันมาด่าอีกแล้ว.. ที่นี่บ้านมึงรึไง ให้เหลนขายก็ไล่ไม่ให้ขาย" (พิมพา สุพรรณโกมุท เธอจะรับผิดชอบยังไง สร้างความเดือดร้อนให้กับคนให้ข้าวให้น้ำเธอทุกคน ให้เรียนด้วย ปริญญาตรี ปริยญาโท)..../ (เลาะฝาตะแกรงเหล็กสีขาวออก เปิดเป็นช่องพอเป็นทางเดินไปได้) / "ในนั้นก็ให้คนอื่นเช่าขายผักขายหมู วันละ 100" / "แล้วให้ใครเช่า" / "ใครก็อยากจะมาเช่า มีคนมาขอเช่าเยอะแยะไป.. ให้พวกมันขาย ไม่จ่ายค่าเช่า ก็ต้องไล่ไป ไม่ให้ขายสิ" / "งั้นเดี๋ยวมาวันที่ 1" / "ทำกับข้าวกิน 3 มื้อ" (ไม่เข้าใจ) / ..จำได้แค่เนี้ย...

วันอังคารที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ศูนย์ฝึกอาชีพสวนลุม ... สาย 13 เลี้ยวซ้าย ลงป้ายแรก เดินข้ามถนน เข้าประตู เลี้ยวซ้ายเดินไปเรื่อย ๆ

ดูเหมือนป้าเขาจะออกไม่อยากคุยด้วย..บ่เป็นหยังดอก.. สวนลุม ถิ่นเก่า เรียนตั้งแต่เป็นพื้นไม้กระดาน หลังคาโค้ง.. ย้ายไปบ่อนไก่ ไกลหลาย... เขาบอก ฮู้แล้วสิบอกต่อเด้อ..ถ้ามีพื้นฐานมาเองบ้างก็จะเป็นเร็วหน่อย.. เพราะคนเรียนเห็นแก่ตัว (เก่า ๆ ) ก็มี..ประเภทคนใหม่ไปเรียน..มีการพูด "ขอแซงคิวหน่อยนะ" (หน้าด้านจริง ๆ เลย) * http://suanlumtrain.com/ * ลงทะเบียน เสาร์นี้ยังทัน คอร์สนี้ .... * ไปกันนะครับพี่น้อง * ท่านแม่บอก "ไม่ต้องเรียน กูจะให้มึงมาช่วยขายของ" ค่าแรงวันละ 233.33 บาท บวกกับของท่านเตี่ยอีกเดือนละ 2,000 เป็นเดือนละ 9,000 ต้องทำงานแลกเงิน.. แต่คนอื่น แค่ขับรถไปเก็บค่าเช่า ก็มีกินมีใช้เดือนละประมาณ 30,000 บาท.. ไม่รวมราคาที่ดินและสิ่งปลูกสร้างอีกประมาณ 5-6 ล้านบาท..ครับพี่น้อง * ส่วนหลานสาวนอกไส้ ก็ได้เงินทุนไปเรียนปริญญาโท.. นิด้า บริหารธุรกิจ พิมพา สุพรรณโกมุท ขอแสดงความยินดีด้วย... *

วันอาทิตย์ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

25 พย.55 ขอตังค์หน่อย จะมาขายของวันที่ 1 ธค.55....

25 พย.55 ขอตังค์หน่อย จะมาขายของวันที่ 1 ธค.55.... / จะมาขายของ ให้มาขายเมื่อไหร่ / "มาเมื่อไหร่ก็มา มาเมื่อไหร่ก็มาขาย" / จะให้ขายอะไรบ้าง.. "ก็ขายที่มีนี่แหละ" (ประมาณน้ำบรรจุขวด กาแฟกระป๋อง เหล้า บุหรี่ โชห่วย แฟ๊บ สบู่ ยาสีฟัน) ... ท่านแม่ควักให้หลายร้อย (เราไม่ได้นับว่าเท่าไหร่) .. แจ๋ยิ่นหมอย ยืนตรวจเช็คสมุด ปากกาติ๊กรายการ.. ลูกป๊อป จัดของ เห็นมีขวดน้ำมะนาว (ใหญ่) เครื่องปรุงรส (ห้องโน้นล่ะ.. กูก็ให้เขาเช่าขายของ) ....ถาม "ค่าแรงเป็นไงเท่าไหร่" / "ก็ให้มึงเดือนละ 7,000" / "แ้ล้วของท่านเตี่ยล่ะ" / "ก็ให้มึงเดือนละ 7,000 รวมกับของท่านเตี่ยเป็นเดือนละ 9,000) / มีคนเดินมาด่าอีกแล้ว "โฮะโฮะโฮะ ฯลฯ" จำไม่ได้แล้ว...

วันศุกร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

23 พย.55 พี่ ๆ ทุกคนทักว่ามีน้อง เป็นคนท้องเหรอ ถ้าไม่ท้องทำไมท้องใหญ่ ไปหาหมอตรวจซะนะ จะได้ไม่เป็นมะเร็งไปช่อง 9 หาเพื่อน ไม่อยู่กลับบ้านหนีม๊อบ

23 พย.55 พี่ ๆ ทุกคนทักว่ามีน้อง เป็นคนท้องเหรอ ถ้าไม่ท้องทำไมท้องใหญ่ ไปหาหมอตรวจซะนะ จะได้ไม่เป็นมะเร็งไปช่อง 9 หาเพื่อน ไม่อยู่กลับบ้านหนีม๊อบ / ขึ้นรถเมล์ แม้แต่อาอึ้มแก่ ๆ ยังเอามือมาจับท้องเรา แล้วลุกให้นั่ง มีสุาภพบุรุษ ลุกให้นั่งทุกครั้งเลย... จะไปหาหมอที่ไหนดี รามาฯ หรือ มเหสักข์ 30 บาท.. แต่ที่แน่ ๆ ไม่ได้กินข้าวมา 3 วันแล้ว (ไม่ต้องแดก ตามคำสั่ง) ปวดท้อง ปวดกะเพาะ กินแต่น้ำประปา จากก๊อก...คงใกล้ตายในเร็ว ๆ นี้...

วันจันทร์ที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

สุวรรณา สุพรรณโกมุท ขอยกเงินให้คุณแม่วิภา จงมีความสุข ทั้งหมด 400,000 บาท

สุวรรณา สุพรรณโกมุท ขอยกเงินให้คุณแม่วิภา จงมีความสุข ทั้งหมด 400,000 บาท / "แม้แต่เงินของท่านเตี่ยเดือนละ 2,000 บาท กูก็จะไม่ให้ไอป๊อปมันโอนให้มึง" .... "500 บาทให้จ้างช่างมาดูปั๊มน้ำ เอามาคืนรึยัง" "เงินยืมกูไป 10,000 เอามาคืนหรือยัง" "เงินของมึง แม้แต่บาทเดียวกูก็ยังไม่เคยได้ของมึง" งั้นเอาอย่างนี้แล้วกัน.. ข้าพเจ้า น.ส.สุวรรณา สุพรรณโกมุท บุตรสาวคนเดียวของนายธรรมพล สุพรรณโกมุท และนางวิภา จงมีความสุข... ผู้ซึ่งเคยทำงานตอนเด็ก ๆ ช่วยพ่อแม่ทำมาหากินทุกอย่าง.. เมื่อบิดาถึงแก่กรรม ได้สั่งเสียเป็นวาจาให้บุตรชายคนโต นายสุชาติ สุพรรณโกมุท ให้เงินรายเดือนแก่ข้าพเจ้าจากเดือนละ 1,000 บาท เป็นเดือนละ 2,000 บาท ทั้งนี้ หากคำนวณ จากอายุ 45-60 ปี ของข้าพเจ้า จะเป็นเงินประมาณ 400,000 บาท.. ข้าพเจ้า น.ส.สุวรรณา สุพรรณโกมุท .. ขอมอบเงินเดือนละ 2,000 บาท นี้ ให้คุณแม่วิภา จงมีความสุข.. เพื่อเป็นการชดใช้หนี้ และหักหนี้ที่ข้าพเจ้ายืมคุณแม่มา ..เป็นเงินทุกบาททุกสตางค์ และหวังว่าข้าพเจ้าจะไม่มีหนี้เงินใด ๆ ติดค้างต่อคุณแม่วิภา จงมีความสุข อีกตลอดชีวิตของข้าพเจ้า... อนึ่ง.. บัญชีเงินฝากธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาเซ็นทรัลเวิร์ลด์ ข้าพเจ้าได้ทำลายฉีกทิ้งไปแล้ว.. จึงไม่มีความจำเป็นต้องรอรับเงินเดือนละ 2,000 บาทอีก หรือถ้าหากโอนเงินเข้ามาในบัญชีนี้ ข้าพเจ้าก็จะไม่รับเงิน ..ซึ่งถือเป็นการโอนมาเปล่า ๆ ไม่มีประโยชน์ใด ๆ อีก แต่ข้าพเจ้ามั่นใจว่า..ต่อให้ข้าพเจ้า น.ส.สุวรรณา สุพรรณโกมุท ต้องไปนอนข้างถนน เหมือนคนจรจัดที่นอนตามหน้าบ้านร้านค้า.. หรือต้องกินอาหารตามถังขยะ.. ก็ไม่มีวันที่คนพวกนี้จะให้เงินข้าพเจ้าไปกินข้าว.. "ไม่ต้องแดก ไม่ต้องแดก" ..ดังคำที่คุณแม่วิภา จงมีความสุข ได้กล่าวไว้...

270 บาท ค่าแรงรับจ้างล้างชาม (หมดแล้ว) ถ่ายรูป 6 ใบ 100 บาท

270 บาท ค่าแรงรับจ้างล้างชาม (หมดแล้ว) ถ่ายรูป 6 ใบ 100 บาท../ วันนี้ไ่มู่รู้จะเอาอะไรกิน..

68/16 มีถุงขยะการ์เม้นต์สีฟ้า ในถังขยะของบ้านนี้ เลยโยนออกไป..

68/16 มีถุงขยะการ์เม้นต์สีฟ้า ในถังขยะของบ้านนี้ เลยโยนออกไป..แล้วหยิบถุงขยะหญ้าใส่ในถังขยะแทน..ไม่รู้ว่าเจ้าของบ้านเจ้าของถุงขยะการ์เม้นท์สีฟ้านี้ (วางในถังขยะจมไปเกินครึ่งถัุง มีถุงขยะอยู่ข้างล่างอีก ถ้าไม่มีถุงขยะของบ้านนี้ สงสัยถุงสีฟ้าคงวางเต็มถังเลย) ไม่มัดปากถุง เมื่อคืนเห็นเจ้าของบ้านข้าง ๆ ออกมา แล้วก็เฉย ๆ.. บางทีอาจไม่ใช่ของบ้านเลขที่ 68/17 เพราะซ๊อ(น้อย)บ้านนี้เค้าเคยพูดกับเราว่า "ชั้นไม่ให้ลูกน้องชั้นทิ้งขยะในบ้านเธอแล้ว จะเอายังไงอีก"...

ลูกขอเงินสด 1 ล้าน แม่ให้ลูก 5 คน คนละ 5 ล้าน ...ได้เลย ไม่ต้องรอให้แม่ตายก่อน

ลูกขอเงินสด 1 ล้าน แม่ให้ลูก 5 คน คนละ 5 ล้าน ...ได้เลย ไม่ต้องรอให้แม่ตายก่อน / จะดีมาก ดีน้อย แม่ให้ลูก 5 คน เท่ากัน เงินสด สด ใ้ห้ไปเลย..ไม่ต้องรอให้แม่ตายก่อน... เรื่องจริงที่ยายเล็ก คนเพชรบุรี เล่าให้ฟัง.. ยายเล็กใจดี..กลัวจะนังปูจะปวดขา.. สุดท้ายก็ปวดแขน ทำงานแลกเงินกินกันตายไป 1 วัน ...270 บาท

วันศุกร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

17 พย.55 (500 ที่ให้ไปเรียกช่างดูปั๊มน้ำ เอามาคืนรึยัง) นังปู สุวรรณา สุพรรณโกมุท ขอเงินท่านแม่ .."ไม่ให้ ไม่ให้"..

17 พย.55 (500 ที่ให้ไปเรียกช่างดูปั๊มน้ำ เอามาคืนรึยัง) นังปู สุวรรณา สุพรรณโกมุท ขอเงินท่านแม่ .."ไม่ให้ ไม่ให้".. / ถามประโยคแรกเลย "500 เอามาคืนรึยัง "/ นังปู "500 อะไร" / ท่านแม่ "500 ที่กูให้ไปตามช่างมาดูปั๊มน้ำ เอามาคืนรึยัง" "500 เอามาคืนรึยัง" * อุตส่าห์กลัวบ้านไฟไหม้ปั๊มน้ำ ไล่ปิดปั๊มน้ำ.. 500 เอามาคืนรึยัง.. อาจจะต้องถามแบบที่ป๊าถาม "มึงจะเอาชีวิตกูมั้่ย มึงจะเอาชีวิตกูมั๊ย" ตอนที่ป๊าไปขอยืมเงินท่านแม่.. (แต่ท่านแม่คงไม่อยากได้ชีวิตนังปูหรอก เพราะถ้าเอามาเป็นลูกจ้างขายของไม่ได้ ก็ไม่รู้จะเอามาทำไม..ไม่มีประโยชน์) *

ลาก่อนชาวโลก ถ้าไมตาย คงได้เจอกัน...

ลาก่อนชาวโลก ถ้าไมตาย คงได้เจอกัน...

ถั่วงอกขวดน้ำสิงห์ ขวดเล็ก (กินต้นอ่อนธัญพืชงอก บำรุงสุขภาพนะคะ)

ถั่วงอกขวดน้ำสิงห์ ขวดเล็ก * ถ้าไม่ตาย..จะเอาถั่วงอกขวดน้ำสิงห์ ขวดเล็กมาโชว์... ย้ำ ว่าถ้าเค้ายังไม่ตาย.. จะเอามาโชว์ บอกวิธีก่อนก็ได้ ..เผื่อใครจะไปลองทำถั่วงอกกินพอดีมื้อ..(คนทำยังไม่รู้จะออกมาเป็นยังไง) ขวดน้ำดื่มสิงห์ขวดเล็ก (จะมีร่องน้อยกว่าขวดใหญ่) เอาที่ฝาก่อน ปิดฝา เจาะรู กลางฝา 1 รู เจาะอีก 5 รู.. (ครึ่งวงกลมของฝาล่าง เว้นระยะพอสวยงาม) เว้นจากก้นขวดขึ้นมา 1 ร่อง (สำหรับใส่ถั่วเขียวไร่ทิพย์ ไม่ถึงครึ่งของ 1 ข้อก้นขวด ใส่น้ำอุ่น จากน้ำร้อน 1 ส่วนใส่น้ำธรรมดา 2 ส่วน อุ่นมาก) ใส่ให้ถึงขอบข้อที่เว้นไว้ (ตัดเป็นฝาเปิดก่อนนะคะ.. คือ ตัดเป็นรูปตัว U แบบมุมเหลี่ยม เป็นฝา กะระยะเว้นเป็นแนวตรงกลาง 1 เส้น ระหว่างการตัดฝาเปิด 2 ฝา ..เพื่อให้หยิบถั่วงอกได้ง่ายขึ้น.. / อีกด้านหนึ่งเจาะรู 2 แถว ประมาณ 2-3 mm กะว่าถั่วที่พองแล้วไม่ร่วงออจากรู (อย่าลืมเว้นจากก้นขวดขึ้นมา 1 ข้อ เท่าระยะฝาเปิดอีกด้าน) .. เจาะรูประมาณ 10-12 รู (แถวละ 5 หรือ 6 รู) แช่ถั่วประมาณ 6-8 ชั่วโมง (6ก็พอมั๊งจะเห็นงอกเล็ก ๆ นิดนึีง) ใส่น้ำในขวด แนวนอน เขย่าขวด ซ้ายขวาแนวนอน ล้างน้ำดำ ๆ ที่แช่ถั่ว จนน้ำใส / (อาจใส่ตระแกรงจากตาข่าย PVC ตาละเอียดสุด สีดำ ต้องใช้ตอนรดน้ำ) วางในกะละมังสีดำ เอาผ้าซับในสีดำ ชุบน้ำบิดหมาดคลุมไ่ม่ให้ถูกแสงสว่าง.. รดน้ำวันละ 3 ครั้ง (2 คืน 3 วัน เก็บกินได้) ดูว่าอวบใช้ได้..อย่าให้รากยาว หรือรากฝอยงอกมา ไม่สวยไม่น่ากิน... ยังไม่ได้ลองว่าถ้ารดน้ำมากกว่าวันละ 3 ครั้ง จะเป็นอย่างไร * ถั่วงอกคอนโดฯ ยังไม่ได้แกะตัวหนังสือที่จดมา หวัดมาก... ถ้าเจ้าของ blog ยังไม่ (อด) ตาย..จะมาเล่าให้ฟัง แต่ทำไม่ได้ เพราะพื้นที่ไม่อำนวย จะกินยังไม่มีเลย.. * ถั่วงอกขวดน้ำสิงห์ ขวดเล็ก (กินต้นอ่อนธัญพืชงอก บำรุงสุขภาพนะคะ) ไม่ว่าจะเป็นอัลฟาฟา (ทางยุโรป) งางอก ถั่วงอก ไควาเระ โต้วเหมี่ยว ผักอะไรอีกอย่างนะ.. อ๋อ วอเตอร์เครส..บางเว็บบอก ซื้อตามห้าม เอามาปักจิ้มก็ขึ้นใหม่.. ไปลองดู ไม่ต้องใช้พื้นที่อะไรมาก

"จะมาขอเบิกที่เหลือของวันที่ 20 อีก พันนึีง" ใส่เลย "ไม่ให้ ไอหลินเค้าไม่ได้อะไรนะจะบอกให้"...

"จะมาขอเบิกที่เหลือของวันที่ 20 อีก พันนึีง" ใส่เลย "ไม่ให้ ไอหลินเค้าไม่ได้อะไรนะจะบอกให้"... / "ไม่ให้ กูแบ่งสมบัติให้ทุกคนแล้ว.. กูตายก็เอาไป..ไอหลิน..เค้า..ไม่ได้อะไรนะจะบอกให้" (ไม่ให้งั้นก็เปิดสิ) ..."มึงเอาถั่วงอกมาทำไม มึงเอาถั่วงอกมาทำำไปไม มึงไปเอาถั่วงอกของมันมาให้กูทำไม มึงไปเอาถั่วงอกของมันมาให้กูทำไม ไม่ต้องไปเอาของมัน ไม่ต้องไปเอาของมัน (ก็ซาโกว โซ๊ยโกว เขาเต็มใจให้ฟรี ๆ ปรารถดี อยากให้ลูกหลานที่ของดี ๆ ไปทำมาหากิน ให้ร่ำให้รวย.. กูมันคนจน ไม่มีจะกิน ไม่มีทุน เขาให้ความรู้เป็นทุน เขาเต็มใจให้ ก็ยินดีรับไว้ ทำได้ไม่ได้อีกเรื่องหนึ่ง.. ไม่เหมือนลูกใครก็ไม่รู้ แม่อยากให้ทำถั่วงอกขายให้รวย แต่ไม่ยอมทำ หรือทำไม่ได้ (กูก็ไม่รู้) / "กูจะเปิดห้องข้าง ๆ ขายของ มึงจะมาขายมั๊ย".. (เดินไปแร่ว..แร่ว แร่ว แร่ว).. / ความคิด "อืม..จะไปขอเงินเค้า.. เศษสตางค์ที่เหลือในตัว.. ซื้อน้ำซุปฟักทอง น้ำซุปงาดำ หน้า 7-11 กับ โรลใบเตย ของ 7-11 (16+13=29 บาท) หมดตูดเลย.. นี่มาเล่นเน็ต ยังต้องติดเงินเขาไปก่อน.. ถ้าไม่ตายจะเอาไปจ่ายค่าเน็ตวันหลัง.. (ไม่ได้มีมรดกที่ดิน ค่าเช่า กินใช้เดือนละ 30,000 ก็ยังงี้แหละ) ..ไอ้หวัง.ตายแน่...ตายแน่ไอ้หวัง.. * ไอ้หวังตายแน่- ศรเพชร ศรสุพรรณ * http://www.youtube.com/watch?v=kkZOm_eozuA * บุญใด ๆ ที่ข้าพเจ้า น.ส.สุวรรณา สุพรรณโกมุท กระทำไว้.. ขออุทิศแด่คุณแม่วิภา จงมีความสุข ให้บรรลุธรรม ไปถึงซึ่งนิพพาน (ไม่เวียนว่ายตายเกิดอีก) ..

วันพฤหัสบดีที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

มาปลูกไควาเระ จากเมล็ดหัวไชเท้ากัน

http://nannamhome.exteen.com/20120628/entry/page/1#lastcomment * nannamhome View my profile Previous สร้างพื้นที่เล็กๆ สร้างความสุขน้อยๆ แวะมาทักทายคะ หากินผักกันจ้า มาเพาะไควาเระไว้กินกันจ้า วอเตอร์เครสเดินทางไกลจากมิตรสู่มิตร Recommend Favourites Links Latest Comments มาเพาะไควาเระไว้กินกันจ้า สร้างพื้นที่เล็กๆ สร้างความสุขน้อยๆ หากินผักกันจ้า เกษตรกรจำเป็น วอเตอร์เครสสานสัมพันธ์ Archives Nov 2012 Oct 2012 Sep 2012 Aug 2012 Jul 2012 more Categories มาเพาะไควาเระไว้กินกันจ้า posted on 28 Jun 2012 16:17 by nannamhome หายไปนานจากบล็อก แว๊บไปทำมาหากินบ้างอะจ้า วันนี้เลยเอาของดีของมีประโยชน์มาฝากกันจ้า ไควาเระ นั่นชื่อเป็นญี่ปุ่นเชียว เอะอะไรนะ ไควาเระ คือ ต้นอ่อนของหัวไชเท้าจ้า วิธีเพาะก็ไม่อยาก อุปกรณ์ก็ไม่เยอะ มาเริ่มกันเลยจ้า เตรียมอุปกรณ์ ดังนี้เลยน้าาา 1.ขวดโหล 2.ฟองน้ำ ตักให้เท่าขนาดก้นขวดโหล ถ้าใหญ่ไปจะใส่ไม่ได้นะ ฮ่าาา (บอกทำไมเนี้ย อิอิ) 3.สำลี 4.เมล็ดพันธุ์หัวไชเท้า 5.ฟ็อกกี้ มาเริ่มกันเลยจ้าา จัดวางเรียงตามรูปเลยจ้า แล้วนำไปวางไว้ใกล้ๆหน้าต่าง แล้วฉีดน้ำเช้า-เย็นจ้าา สักอาทิตย์จะเจอแบบนี้เลยจ้า >> 1 อาทิตย์ได้กินแล้วจ้าาาา รวดเร็วมากจ้า แค่นี้ก็ได้กินแล้ว เพาะเองได้ง่ายจัง มาลองเพาะกันดูนะค่าาา ต้นอ่อนมีประโยชน์มากๆเลยนะ แต่คนที่เป็นโรคเกี่ยวกับไขข้อไม่แนะนำให้กินนะค่าา เมนูแนะนำ สลัด / ต้นจืด /ผัดน้ำมันหอย อูยยย แค่นี้ก็หิวแล้ว ทั้งสดทั้งกรอบ ปลอดสารพิษด้วย มันน่าจัดเต็มจริงๆค่าาา Tags: ต้นอ่อน, ปลูกผัก, ผัก, หัวไชเท้า, ไควาเระ1 Comments Comment

"ถั่วงอก ขวดน้ำสิงห์" คนสอนบอก ทำมาขายสิ ปลูกถั่วงอกขายรวยแน่นอน..แต่ถามใคร (ให้ฟรี ฟรี) ยังไม่มีคนเอาเลย

"ถั่วงอก ขวดน้ำสิงห์" คนสอนบอก ทำมาขายสิ ปลูกถั่วงอกขายรวยแน่นอน..แต่ถามใคร (ให้ฟรี ฟรี) ยังไม่มีคนเอาเลย *

วันพุธที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

จุดด้อย 10 ประการ ที่ทำให้คนไทยล้าหลัง!!! จาก วิกรม กรมดิษฐ์

http://www.geranun.com/archives/234 * แชร์ไม่มา โกป๊ีซะเลย * จุดด้อย 10 ประการ ที่ทำให้คนไทยล้าหลัง!!! จาก วิกรม กรมดิษฐ์ Posted on 2009/01/04 by Geranun™ TalonTV วันนี้ชวนมาอ่าน มาฟังคนไทยวิจารณ์คนไทย จาก คนดังที่มีแนวคิดตัวเองสุดโต่งคนหนึ่ง คือ คุณ วิกรม กรมดิษฐ์!!! ครับ ประเด็นที่เขานำเสนอที่จริงมีหลายคนพูดถึงแล้วในหลายหัวข้อ สมัยก่อนผมทำงานกับคนญี่ปุ่น ราว 10 กว่าปี ก็เคยมี ดร.ท่านหนึ่ง ท่านคุยถึงเรื่องนี้ (ศ.ดร.ปรียา อิงคาภิรมย์) เวลาผ่านไป 10 ปี พอคุณวิกรมกลับมาพูดอีกรอบ (แถมมีประเด็นมากขึ้น) ก็เลยชวนให้อยากเอามาฝาก ที่จริงแล้วประเด็นเหล่านี้ รัฐน่าจะขยับตัวได้แล้ว เพราะไม่ใช่เรื่องที่คนไม่กี่คนเห็น แต่น้อยคนที่กล้าพูดตรงๆ ครับ …………….. 10 ประเด็นที่ทำให้คนไทยล้าหลัง…ในมุมมองของ วิกรม กรมดิษฐ์ วิกรม กรมดิษฐ์ออกอากาศทางวิทยุ อสมท.รายการซีอีโอวิชั่น10-11 มกราคม 2550 [01]คนไทยรู้จักตัวตนของเราเองต่ำมากกล่าว คือ รู้จักหน้าที่ของตัวเองต่ำมาก โดยเฉพาะหน้าที่ต่อสังคม ต่างกับชาติที่เจริญแล้ว เขาจะมีสำนึกต่อสังคมส่วนรวมสูงมาก ของเราจะไม่คำนึงถึงส่วนรวม แต่จะเป็นประเภทมือใครยาวสาวได้สาวเอา จนทำให้เกิดวัฒนธรรมสืบทอดกันมายาวนาน โดยเฉพาะผู้ที่มีอำนาจทุกระดับชั้น จนมีคำพูดว่า ธุรกิจการเมือง ธุรกิจราชการ ธุรกิจการศึกษา ทำให้ทุกคนแสวงหาอำนาจเพื่อจะตักตวงเพราะความไม่รู้จักตัวตน ไม่รู้จักประเทศของตัวเองเช่นนี้แล้ว ทำให้ประเทศชาติของเราล้าหลังไปเรื่อย ๆ [02]การศึกษาของไทยยังไม่ทันสมัยสอนให้คนเห็นแก่ตัวมากกว่า ขาดจิตสำนึกต่อสังคม แม้แต่ภาษาคนไทยจะเก่งแต่ภาษาของตัวเอง ทำให้เราขาดโอกาสในการแข่งขันกับต่างชาติในเวทีต่าง ๆ ประเทศอื่น ๆ รู้จักคนไทยน้อยมาก เพราะคนไทยไม่กล้าแสดงออก ขี้อาย ไม่มั่นใจในตัวเอง เราจึงตามหลังชาติอื่น เพราะคุณภาพการศึกษาของเราไม่ทันสมัย จะเห็นว่าคนมีฐานะจะส่งลูกไปเรียนเมืองนอกเพื่อโอกาสที่ดีกว่า [03]คนไทยมองอนาคตไม่เป็นเท่าที่สังเกตเห็นว่าคนไทยกว่า 70% ทำงานแบบไร้อนาคต แบบวันต่อวัน แก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปวัน ๆ น้อยนักที่จะวางแผนให้ตัวเองอย่างเป็นระบบ เป็นขั้นเป็นตอน มีเป้าหมายที่ชัดเจนในอนาคต สะสมความสำเร็จไปอย่างเป็นลำดับ หรือเป็นเพราะไม่กล้าฝัน หรือไม่มีความฝันก็ไม่แน่ใจ และชอบพึ่งสิ่งงมงาย โชคชะตา พอใจทำงานแบบตำข้าวสารกรอกหม้อ ทำให้ประสิทธิภาพของเราไม่ทันกับการแข่งขันระดับโลก [04]คนไทยไม่ค่อยจะจริงจังในความรับผิดชอบต่อหน้าที่การรับปากของเรามักทำแบบผักชีโรยหน้า หรือเกรงใจ แต่ทำได้หรือไม่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง จากประสบการณ์ทำธุรกิจกับชาวต่างชาติจะพบว่า ประเทศที่ประสบความสำเร็จ เช่น ญี่ปุ่น หรือยุโรป คนเขาจะให้ความสำคัญกับสัญญาข้อตกลงอย่างเคร่งครัด เพราะหมายถึงความเชื่อถือในระยะยาว ซึ่งไม่สามารถประเมินเป็นมูลค่าได้ ปัจจุบันคนไทยถูกลดเครดิตในการเชื่อถือด้านนี้ลงไปเรื่อย ๆ [05]การกระจายความเจริญยังไม่เต็มที่ประเทศของเรากระจุกตัวความเจริญเฉพาะในเมืองใหญ่ ประชากรประมาณ 60-70% ที่อยู่ห่างไกล จะขาดโอกาสในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของตัวเองและชุมชน ในต่างประเทศ การสร้างนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่ห่างไกล แต่มีองค์ประกอบอื่น ๆ สนับสนุนเขาก็ลงทุน การสร้างเส้นทางคมนาคมเชื่อมต่อระหว่างภูมิภาค จะเป็นประโยชน์ ทำให้เป็นการลดต้นทุนในการดำเนินการทางธุรกิจอย่างมาก ซึ่งเป็นหน้าที่ของภาครัฐที่ต้องส่งเสริม [06]การบังคับกฎหมายไม่เข้มแข็งและดำเนินอย่างไม่ต่อเนื่องสังคมไทยชอบทำงานแบบลูบหน้าปะจมูก ปราบปรามไม่จริงจัง อาจได้ยินกรณีการดำเนินการตามกฎหมายกับผู้มีอำนาจหรือบริวารก็ตาม จะทำแบบเอาตัวรอดไปก่อน ไม่มีมาตรฐาน ต่างกับประเทศที่เจริญแล้ว ข้อนี้กระบวนการยุติธรรมจะต้องปรับปรุง [07]สังคมไทยชอบอิจฉาตาร้อน ไม่ค่อยเป็นสุภาพบุรุษ และชอบเลี่ยงเป็นศรีธนญชัย เมื่อจนตรอก ในวงการเราจะพบกระแสของคนประเภทนี้ปะปนมากขึ้นจะเพราะเป็นเพราะสังคมเรายอมรับ หรือยกย่องคนที่มีอำนาจ มีเงิน แต่ไม่มีใครรู้ภูมิหลัง โดยเฉพาะคนที่ล้มบนฟูกแล้วไปเกาะผู้มีอำนาจ เอาตัวรอดหน้าตาเฉย คนพวกนี้ร้ายยิ่งกว่าผู้ก่อการร้ายเสียอีก เพราะทำความเสียหายต่อบ้านเมืองมากกว่า และจะเป็นประเภทดีแต่พูด มือไม่พายเอาเท้าราน้ำ ทำให้คนดีไม่กล้าจะเข้ามาเพราะกลัวเปลืองตัว [08]เอ็นจีโอบ้านเราค้านลูกเดียวทำให้เราเสียโอกาสในการพัฒนา เพราะเอ็นจีโอบางกลุ่มที่อิงผลประโยชน์อยู่ ถ้าจะพูดกันแบบมีเหตุผล ก็ต้องรับผิดชอบร่วมกัน เอ็นจีโอดี ๆ ก็มี แต่บ้านเรามีน้อย กรณีน้ำท่วมเพราะไม่มีเขื่อนรองรับเพียงพอ พอเกิดน้ำท่วม พวกที่ค้านจะแสดงความรับผิดชอบด้วยหรือเปล่า บ่อยครั้งที่ประเทศเราเสียโอกาสอย่างมหาศาล เพราะการค้านหัวชนฝา เหตุผลจริง ๆ ไม่ได้พูดกัน [09]คนไทยอาจจะไม่พร้อมในเวทีโลกเพราะไม่ถนัดภาษาอื่น ที่ไม่ใช่ภาษาตัวเองทำให้โลกภายนอกไม่รู้จักคนไทยเท่าที่ควร และการจัดการตัวเองอย่างเหมาะสม เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือในเวทีการค้าระดับโลก ของเราขาดทักษะและทีมเวิร์คที่ดี ทำให้เราสู้ประเทศเล็ก ๆ อย่างสิงคโปร์ไม่ได้ [10]คนไทยเลี้ยงลูกไม่เป็นปัจจุบันเด็กไทยขาดความอดทน ไม่มีภูมิคุ้มกัน เป็นขี้โรคทางจิตใจ ไม่เข้มแข็ง เพราะเราเลี้ยงลูกแบบไข่ในหิน ไม่สอนให้ลูกช่วยตัวเอง ต่างกับชาติที่เจริญแล้ว เขาจะกระตือรือร้นช่วยตนเอง ขวนขวาย แสวงหา ค้นหาตัวเอง และเขาจะสอนให้สำนึกรับผิดชอบต่อสังคม เว็บของคนที่นำกระแสความคิดเห็น ไม่จำเป็นต้องโปรโมทเว็บ คนก็เข้า คุณวิกรมแสดงความเห็นว่า การอบรมเยาวชนมาจาก 3 ทาง-หนึ่งภายในครอบครัว- สองจากโรงเรียน- และสามจากสังคม หรือสื่อสารมวลชน ในส่วนนี้พวกเราทุกคนมีส่วนร่วมรับผิดชอบ เพราะถ้าหากสื่อมวลชนทำเพื่อผลประโยชน์ตัวเอง หรือเพื่ออำนาจต่อรองเท่านั้น และสังคมปราศจากสื่อที่จะทำหน้าที่นำเสนอสาระที่เป็นความจริง โดยไม่มอมเมาบิดเบือนแล้ว เมื่อนั้นสังคมจะวิบัติมากยิ่ง ๆขึ้นอีกต่อไป วิกรม กรมดิษฐ์ออกอากาศทางวิทยุ อสมท.รายการซีอีโอวิชั่น10-11 มกราคม 2550 ……………… ประเด็นหลักๆมีที่คุณวิกรมไม่ได้พูดถึง คือ คนไทย มักไม่ค่อยอยากจะยอมรับนัก เมื่อมีคนมาวิจารณ์ตนเอง ถึงแม้จะเป็นคนไทยด้วยกันเอง และบอกล่วงหน้าได้ว่า เมื่อหลายคนอ่านเสร็จแล้ว ก็จะมีคนบางคนคิดว่า 1. “ไม่เกี่ยวกะฉัน ใครมีหน้าที่ก็ทำไปแล้วกัน”(ประเด็นนี้จบเลยครับ อย่างน้อยให้รู้ไว้ แล้วสักวันถ้ามีโอกาสมาช่วยกันยังดีเสียกว่า ยังพอมีความหวังในการเปลี่ยนแปลงอนาคตของชาติมั่ง) 2. “แล้วคนพูด เขาเป็นใคร วิเศษขนาดไหน ดีมาจากไหน มันก็แค่… ฯลฯ”(ประเด็นนี้พอคิดมุ่งโจมตี”ผู้พูด”ก่อนว่า ดีนักหรือที่มาวิจารณ์เรา ก็จะเกิดอคติ แล้วก็เลือกที่จะไม่รับข้อมูลเลยก็มี หากจะลองพิจารณาเฉพาะประเด็น ผมเชื่อว่ามันก็มีประเด็นที่น่าสนใจทีเดียว) 3.”ที่บอกมาไม่ใช่ไทยเท่านั้น ชาติอื่นๆ ก็เป็น มันเป็นเรื่องธรรมชาติ”(บอกปัดไปเลยอีกแล้วผ่าน เลิกคิด ประเด็นที่พูดถึงก็จะถูกละเลย โดยไม่ได้มองถึงวิธีการที่จะมาช่วยกันปรับปรุงให้กับคนรุ่นต่อไปของชาติ) 4. “คิดแบบนี้ เท่ากับดูถูกชนชาติไทยของเราเอง คนไทยหรือเปล่า”(เปิดประเด็นแบบนี้ ทะเลาะกันไปเลย ไม่ต้องมาคิดเรื่องว่าประเด็นต่างๆนี้ จะต้องปล่อยผ่านไปอีกกี่ปี หรือจะรอให้มันยิ่งสายไป) อย่างน้อยที่สุดก็ขอฝากประเด็นเหล่านี้ไว้สักวันจะได้มีโอกาสผลักดันให้เกิดอะไรดีดีช่วงเวลานี้เราก็ดูแลเยาวชนในครอบครัว ในมือของเราให้อย่าเป็นใน 10 ข้อนี้ ก็จะถือว่าเป็นประโยชน์ครับ ปัจจุบันเยาวชนเรากำลังขาดภูมิคุ้มกันทางอารมณ์ และตกอยู่ในการครอบงำของสื่อรอบตัวได้ง่าย ขาดความคิดที่เป็นตัวของตัวเอง ถ้าปล่อยแบบนี้ ลูกเราก็เป็นได้แต่ขี้ข้าเขา เพราะไม่รู้จักคิดเอง ไม่เคยทำอะไรนอกกรอบ ไม่เคยทดลองผิดลองถูกและพัฒนาจากความผิดพลาด เราจำเป็นต้องฝึกให้เขา แพ้เป็น เอาตัวรอดจากความผิดหวัง จากวัตถุนิยมได้ มีวินัย มีเป้าหมายที่ชัดเจนในชีวิต และมีจิตสำนึกของการดำเนินชีวิต ฝากถึงกันครับ ถูกใจ · · เลิกติดตามโพสต์ · แชร์ · ลบ

กินปลานิลทอด ดึงหนังด้วย นึกถึงอาจารย์ทุกคำเลย..

กินปลานิลทอด ดึงหนังด้วย นึกถึงอาจารย์ใหญ่ทุกคำเลย.. ทำให้นึกถึงว่า.. ทำไมอาจารย์คุณหญิงหมอพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ถึงต้องทานมัีงสวิรัติ นอกจากเพื่อปกป้องร่างกายจากโรคประจำตัว..(ในอดีต)

"จุฬาวิชาการ/อาจารย์ใหญ่" มีคำถามอะไรมั๊ยคะ (ยังไม่กริ๊ง...ง..ง..)

"จุฬาวิชาการ/อาจารย์ใหญ่" มีคำถามอะไรมั๊ยคะ (ยังไม่กริ๊ง...ง..ง..) น้องก็บอกว่าร่างสด ใช้สำหรับ สนพ.ปี 6 ผ่า สภาพภายในจะยังไม่แห้ง ใกล้เคียงของจริง เก็บได้ไม่นาน (ส่วนร่างแห้ง ให้ปี 2 ใช้งาน) ถาม... "ร่างสด เก็บได้ไม่นาน.. ต้องใช้งานจำนวนเยอะใช่หรือไม่.. แล้วหลังจากใช้งานเสร็จแล้ว ทำอย่างไรกับอาจารย์ใหญ่ร่างสด" คำตอบคือประมาณว่าใช้จำนวนมากกว่าร่างแห้ง .. และหลังจากเสร็จแล้ว ก็จะเก็บไว้อีก 1 ปี จะทำการขอพระราชทานเพลิงศพ.. / ชั้นล่างถามเรื่อง การบริจารคร่างกาย .. ถึงแม้เขียนในกระเป๋าสตางค์ว่าบริจาคให้สภากาชาดไทย.. ก็ไม่สามารถนำร่างนั้นมาใช้งานได้ (ต้องเป็นร่างที่มีสภาพสมบูรณ์ ไม่ใช่จากอุบัติเหตุ หรือศพมีคดี..) ญาติจะต้องเป็นผู้แจ้งเท่านั้น... เพราะฉะนั้น ท่านใดที่ประสงค์บริจาคร่างเป็นอาจารย์ใหญ่ ควรจะมีเบอร์โทร.ติดต่อ ทำตัวเป็นคนมีญาตินะคะ.. เพื่อไม่ให้ร่างอันสิ้นลมแล้วของท่่าน เสียไปอย่างเปล่าประโยชน์... มีแบบสอบถามเรื่อง การบริจาคร่างกายเป็นอาจารย์ใหญ่ หัวข้อเรื่องความเชื่อทางศาสนา.. จริง ๆแล้ว พระพุทธเจ้าท่านสอนเรื่องความเชื่อว่า ทำบุญสิ่งใด เกิดชาติหน้าจะได้สิ่งนั้น หรือจะได้สิ่งนั้น ทำนองนั้นในชาตินี้ เช่น ทำบุญด้วย ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง แล้วจะมีโชคลาภเป็นทอง.. ร่ำรวย.. (แต่กลับเป็นการทำบาป ส่งเสริมให้พระที่เป็นเบาหวาน อาพาตหนักกว่าเ่ก่า..คนทำบุญจะเป็นเบาหวานด้วยหรือไม่หนอ) .... ถ้าเป็นเช่นนั้น.. ทำไมไม่เชื่อว่า "การทำบุญด้วยการให้ร่างกาย อวัยวะ ที่ไม่จำเป็นต้องใช้งานแล้ว... ชาติหน้า ไม่ว่าจะเกิดเป็นอะไรก็ตาม จะมีร่างกายอวัยวะครบถ้วน สมบูรณ์ มียิ่งกว่ามี" นะ.. อยากรู้จัง.. ว่าชาติหน้าเราจะเกิดอะไร... คงไม่นิพพาน แต่อาจเป็นสีนิปปอน เพ้นท์

เมื่อเช้าบอกม๊าแล้วว่า ปั๊มน้ำมันคนละตัวกัน .. ที่ปั๊ีมเก็บในแท๊งค์ดาดฟ้า

เมื่อเช้าบอกม๊าแล้วว่า ปั๊มน้ำมันคนละตัวกัน .. ที่ปั๊ีมเก็บในแท๊งค์ดาดฟ้า มีคัตเอ้าท์ ใต้บันได..ส่วนปั๊มน้ำ ปั๊มสด ระเบียงห้องโน่.. ไม่มีคัทเอ้าท์ ตอนแรกที่ติด ทำเสียบปลั๊กเีสียบ.. เราไม่รู้ว่า ชั้น 3 ก็ใช้น้ำจากปั๊ม (ทำทีหลัง) เลยดึงปลั๊กออก... ช่างใหญ่เลยตัดปลั๊กออก..แล้วต่อสายไฟตรงเต้าเสียบ ... เพราะฉะนั้น ถ้าวันไหน บังเอิญ..ปั๊มน้ำไม่ขึ้น หรือเราเปิดก๊อกแล้วปิดไม่สนิท ทำให้น้ำไหลอ่อน.. ปั๊มก็ยังเดินอยู่..แล้วถ้าไ่ม่มีใครอยู่บ้านทั้งวัน หรืออาจทั้งคืนด้วย.. ปั๊มน้ำตัวนี้อาจมีสิทธิ์ไหม้ ระเบิด แล้วก็ไหม้ลามไปอีก หลาย 10 ล้านบาท... นี่คือความคิดของคนโง่ เซ่อ บ้า ปัญญาอ่อน.. (ซึ่งมักจะถูกตั้งคำถาม..เข้าใจมั๊ย ๆ ๆ ๆ ๆ )

มิ้น พิม จะโดนตบ ลูกใครบ้างหว่า.. คุยกัน..เสื้อกีฬาสีฟ้า จำนงค์ รร. หรืออะไรที่ไหนเมื่อไหร่..

มิ้น พิม จะโดนตบ ลูกใครบ้างหว่า.. คุยกัน..เสื้อกีฬาสีฟ้า จำนงค์ รร. หรืออะไรที่ไหนเมื่อไหร่.. เสียงออกจากโทรศัพท์มือถือ..อยากจะเอาเรื่องอย่างจริงจัง..น่ากลัวมากเลย..

ส่วนเมื่อเช้าปั๊มน้ำเย็นลงแล้ว..นั่งรถกลับมาดู..อาจะเป็นเพราะ...

ส่วนเมื่อเช้าปั๊มน้ำเย็นลงแล้ว..นั่งรถกลับมาดู..อาจะเป็นเพราะ..ยังมีน้ำในโถลูกลอย.. หรือมีคนใช้น้ำ เปิดวาวล์ใหญ่หน้าบ้าน ..

ก่อนออกจากบ้าน เช็คปั๊มน้ำ (จับฝาครอบเครื่อง ร้อนมาก ร้อนกว่าเมื่อเช้า) เราก็ปิด...

ก่อนออกจากบ้าน เช็คปั๊มน้ำ (จับฝาครอบเครื่อง ร้อนมาก ร้อนกว่าเมื่อเช้า) เราก็ปิด...ก๊อกในห้องน้ำชั้นดาดฟ้า สนิทแน่นอน..ปั๊มยังดังอยู่ ถามโน่ ไม่ได้เปิดก๊อกน้ำค้างไว้.. อืม.. เดินออกไปปิดลิ้นวาวล์สีขาว ปิดวาวล์เขียวที่ท่อแนวตั้งข้างก๊อกน้ำ.. ยังดังอยู่... ไล่ดู ..ปิดวาวล์เขียวข้างลิ้นขาว.. O.K. ปั๊มเงียบแล้ว... 500 ถือเป็นค่ารักษาความปลอดภัย ไม่ให้ปั๊มไหม้ละกันนะท่านแม่.. กว่าท่านป๊อปจะมาซ่อมก๊อกน้ำให้ป้อม..ก็คงจะเลยเวลากลัีบบ้านของพวก Office กัน... เข้าใจว่า ลูกลอยโถเก็บน้ำ..คงทำงานตลอดเวลา น้ำก็ปั๊มไป แต่ไม่มีน้ำให้ขึ้น..ปั๊มน้ำเลยร้อน.

1,000 จะหมดอีกแล้ว ขนาดใช้ประหยัดแล้วนะเนี่ย รถเมล์ก็ฟรี ..กินก็ถูกสุด ๆ ในกรุงเทพฯ

1,000 จะหมดอีกแล้ว ขนาดใช้ประหยัดแล้วนะเนี่ย รถเมล์ก็ฟรี ..กินก็ถูกสุด ๆ ในกรุงเทพฯ / ค่าเรียกช่างไฟ 500 คงไม่มีคืนให้ท่านแม่ เพราะเป็นค่านั่งร้านเน็ต ไม่มีน้ำใช้.. ไม่อยากทำให้พื้นเปียก

ตาเฒ่าหน้าเหี้ยม เอ๊ย หน้าเหลี่ยม ให้เวลาแกไปกินข้าว 15 นาทีแล้วมานั่่งหน้าจอเลยนะ..เข้าใจมั๊ย

ตาเฒ่าหน้าเหี้ยม เอ๊ย หน้าเหลี่ยม ให้เวลาแกไปกินข้าว 15 นาทีแล้วมานั่่งหน้าจอเลยนะ..เข้าใจมั๊ย

มะกี้ มอไซค์ เกือบจิ้มท้ายกัน เพราะเก๋งเลี้ยวขวา..ดัด..เลี้ยวขวาเข้าซอยทันที ไม่ได้เห็นใจคนขับรถตามเร้ย..

มะกี้ มอไซค์ เกือบจิ้มท้ายกัน เพราะเก๋งเลี้ยวขวา..ดัด..เลี้ยวขวาเข้าซอยทันที ไม่ได้เห็นใจคนขับรถตามเร้ย.. 9335 สีขาว.. ป๊าดมาปุ๊ป มอไซค์เบรคกันแทบหัวทิ่ม..แล้วพี่ท่านก็ค่อย ๆ ทะแยงเลี้ยวขวาเข้าซอยตรงหัวโค้งซะงั้น ก่อนถึงป้ายพร้อมพรรณ.. "ใครสอนให้ขับรถแบบนี้นะ"... / วันโน้นก็ที เบนซ์บีบแตร 1 ชุด หันไปมอง.. โห หน้าเบนซ์เกือบเสียบท้าย Swiff ฆล 1666 พี่ท่านมาเสียบรอไฟเขียว..แป๊ปเดียวได้ไป... ถ้าพี่เบนซ์ใจร้อนสักหน่อย.. ไม่เสียดายค่าซ่อมละก็.. เสียบไปเลยค่ะ..

ยำรวมมิตร หน้า 7-11 พร้อมพรรณ ถุงละ 20 ใส่ชามโฟมก็ 20 (จะกำไรเท่าไหร่กันน๊อ...นิดนึงค่ะ)

ยำรวมมิตร หน้า 7-11 พร้อมพรรณ ถุงละ 20 ใส่ชามโฟมก็ 20 (จะกำไรเท่าไหร่กันน๊อ...นิดนึงค่ะ) / รสชาติก็สมราคา ใช้ได้ ไม่ใช่ ใช้พริก น้ำปลา น้ำมะนาว น้ำตาลทราย..ที่สำคัญน้ำร้อนลวกเครื่อง.. ว่าไปนั่น...อุดหนุนกันเด๊อค่ะ../ อีกเจ้า ไก่ทอด ชิ้นละ 13 บาท หรือ 15 จำไม่ได้ระ..ข้าวเหนียว 5 บาท

"จุฬาวิชาการ/อาจารย์ใหญ่" ภายใต้ผิวหนังกำพร้า ข้างในกำด้วยไขมันหนา...เชียว...

"จุฬาวิชาการ/อาจารย์ใหญ่" ภายใต้ผิวหนังกำพร้า ข้างในกำด้วยไขมันหนา...เชียว... ***** หนังกำพร้า หนังแท้ (หรือเรียกเนื้อ) ..ไขมันสีเหลืองอ่อน ๆ หนาสักประมาณ 1/2 นิ้ว (แบบไม่อ้วนนะ) อวัยวะภายใน สามารถถอดและประกอบกลับเข้าไปใหม่ได้.. เช่น หัวใจ (นสพ.ถาม. นีืคืออะไรคะ) ถูกต้องค่ะ หัวใจ.. มาปลงอสุภะักันเถิด..มนุษย์เอ๋ย.. ถ้าเป็นสมัยพุทธกาล พระพุทธเจ้าทรงให้พระภิกษุ (อุปัฌาย์โดยพระพระพุทธเจ้า.. พระที่ไม่ได้อุปสมบถโดยพระพุทธเจ้า จะเรียกว่าพระสงฆ์ ไม่เรียกภิกษุ และในสมัยพุทธกาลมีภิกษุณีเพียงรูปเดียว ..แต่จำไม่ได้แล้วว่าเป็นใคร) สมัยก่อนจะเผาศพ พระภิกษุ จะมาชุมนุมกันเพื่อปลงอสุภะ (ผิดพลาดประการใดขออภัยนะคะ.คงจะอ่านมานานแ้ล้ว) แต่ถ้าใครอยากดูหลากหลาย search ปลงอสุภะ ก็จะได้ชมกันมากมายเลยทีเดียว search engine Google ..การดูผ่าชันสูตรศพ ..อะงั้นยอมรับว่าจิตอ่อนค่ะ ไม่ขอดู.. อาจารย์หมอพรทิพย์ ท่านสุดยอดเลย..

วันอังคารที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

"กะหล่ำปลีฉ่าน้ำปลา" เดาเอาเองว่าน่าจะทำอย่างนี้

"กะหล่ำปลีฉ่าน้ำปลา" เดาเอาเองว่าน่าจะทำอย่างนี้ (มีคนบอกว่า ต้องเป็นกะหล่ำปลีหัวใจ จะหวานกรอบ ไม่แข็ง) เอาเท่าที่เห็นบนโต๊ะละกัน... กะหล่ำปลีหั่นเป็นชิ้นใหญ่พอสวย ลวกน้ำเดือดให้นิ่มตามชอบ ตักขี้นสะเด็ดน้ำ ตั้งกระทะกะหล่ำลวกลง...สาดน้ำปลาขอบกระทะ (น้ำระเหยเหลือแต่ความเค็มและไอความหอมของน้ำปลา) ผัดให้กะหล่ำปลีรับกลิ่นน้ำปลา.. กินคำไหน หอมคำนั้น... มีน้ำซุปขลุกขลิก

บัตร 30 บาท (ไม่ได้รับเลย ไม่มีซอง) พรุ่งนี้ค่อยไปหาหมอ

บัตร 30 บาท (ไม่ได้รับเลย ไม่มีซอง) พรุ่งนี้ค่อยไปหาหมอ

French Fried ที่ถูกที่สุด..ในย่าย Area ราคาที่ดินแพงที่สุด... ศูนย์อาหารจุฬา (รพ.)

French Fried ที่ถูกที่สุด..ในย่าย Area ราคาที่ดินแพงที่สุด... ศูนย์อาหารจุฬา (รพ.) ชามละ 20 บาท (แต่ถ้ากิน ketchup หนัก ๆ คราวหน้าต้องพกไปเอง) ประมาณ 2 เท่าของเฟรนช์ฟราย ของร้านดัง (ดังทุกร้าน) (ใส่ชามโฟม เสียดายต้นทุน ..คราวหน้าถ้าตั้งใจไปกิน จะเอาชามไปเอง) / ช่ายก้วยชิ้นละ 10 บาท ก็แป้งกรอบ คนฟันดี ไม่มีปัญหาเรื่องเคี้ยว... (ทอดจนร้อนถึงข้างใน เข้าปากแล้วถึงรู้ โห KoTaRa ร้อนมาก ๆ )... แต่อย่าถาม "ทอดหรือยัง.ได้หรือยัง" น้องสาวหงิก "กำลังทอดอยู่้ค่ะ" น้องชายก็ "กำลังทำอยู่ครับ" แต่หน้าเหมือนใครบังคับมาให้ขายของ... (20 บาทจะเอาอะไรมากมาย..จะให้ยิ้มหวานขนาดไหนยะ?) ... / ถ้าไม่อยากนั่งร้อน คนเยอะ (กินแบบไม่เอาบรรยากาศร้านดังร้านอร่อย) มานั่งกินที่นี่ "ข้าวมันไก่ตอนประตูน้ำ" (ป้ายรถเมล์ก่อนถึงแยกประตูน้ำ) .. ราคาปกติ.. แวะไป

ดูโครงอาจารย์ใหญ่เสร็จแล้ว ชั้นล่างมีห้องกิจกรรม..ห้อง... นักเรียนชายชุดสีน้ำเงินให้ความสนใจทดสอบ..มาก ๆ

ดูโครงอาจารย์ใหญ่เสร็จแล้ว ชั้นล่างมีห้องกิจกรรม..ห้อง... นักเรียนชายชุดสีน้ำเงินให้ความสนใจทดสอบ..มาก ๆ คือบูธ มะเร็งเต้านม.. นสพ. (ไม่ใช่หนังสือพิมพ์) นิสิตแพทย์หญิง มีแบบยางเด้งดึ้ง ให้กด จับ พิสูจน์ว่า มีก้อนเนื้องอกในเต้านมเทียมกี่ก้อน.. บูธนี้น้อง ๆ แน่นเลย.. สงสัยทีมนี้อนาคต ถ้าไม่หมอมะเร็งเต้านม ก็จะต้องไปต่อหมอสูตินรีแพทย์ อย่างแน่นอน..

แรงบันดาลใจ ในการเลือกเรียนคณะฯ ในมหาวิทยาลัย.. ถ้าพ่อแม่พาลูกไปจุฬาวิการ ตั้งแต่ยังเด็ก

แรงบันดาลใจ ในการเลือกเรียนคณะฯ ในมหาวิทยาลัย.. ถ้าพ่อแม่พาลูกไปจุฬาวิการ ตั้งแต่ยังเด็ก . พาลูกหลานไป สักปีละคณะ 2 คณะ.. กว่าจะโตใกล้จบ ม.6 (อีก 20 ปีข้างหน้า..ไม่อาจมี ม.6 ก็ได้ ..เหมือนสมัยเรา ไม่มี ม.ศ.) .... เด็กม.6 หลายคน (รวมทั้งไอ้หลานรักของเรา) ยังไม่รู้เลยว่า จบ ม.6 แล้วจะเรียนอะไรต่อ.. แต่ละวิชาชีพ จะต้องเตรียมตัว เตรียมความรู้ขั้นต้นอะไรบ้าง ..ภาษาอังกฤษ ก็ไม่กระดิก.. ถ้าไปเจอ text ก็คงยิ่งกว่าไก่ตาแตก..ภาษาไทยบางทียังอ่านไม่รู้เรื่อง พูดสื่อสารไม่เข้าใจกันเลย..เนอะ..ลองดู

"จุฬาวิชาการ" ตึกแพทยพัฒน์ หรือชื่อทำนองนี้.. ไม่มีชื่อตึกนี้ในแผนที่ ประตู 7 อาสา

สรุปลงสวนลุมป้ายแรก ข้ามถนน เดินเข้าประตู 7 ประตูอาสา.. ตรงโลด.. ซ้าอยมือที่ ตึกแรก ตึก อปร. / ตึกพยาธิวิทยา (นี่ก็เป็นพื้นที่สีขาว ไม่มีชื่อตึกในแผนที่) / ตึกนิติเวช (ตึกนี้ลงทะเบียน ดู "ผ่าชันสูตรศพ") มีป้ายผ้าแขวนไว้หน้าตึก / ตึกแพทยพัฒน์ ...ดูโครงอาจารย์ที่เขาผ่าแล้ว เดินวนรอบตามลูกศร นิสิตหมอ อธิบายกายวิภาค หรือ Anatomy (น้อง ม.ต้น มากัน 2 คน คุยกัน..ข้างในนะ น่ากลัวกว่านี้อีก (มีกล่องแช่อวัยวะ) .. หันไปคุยกับน้อง "น้องมากัน 2 คนยังกอดกันได้...ป้ามาคนเดียวจะกอดกับใครเนี่ย" น้องยิ้ม ๆ "ป้ากอดพวกหนูก็ได้นะคะ" ... เตรียมเลย อุดหนุนเลย ผ้าปิดปากกับยาดมหลอดแดง 20 บาท.. )แก่แล้วมาคนเดียวต้องเตรียมตัวให้ดี.. น้อง ๆ ม.ปลายเก่งมาก... ผู้บรรยายถาม นี่คืออะไร ไบเส็บ (หดเข้าหากัน ทำให้งอข้อศอกได้) ไตรเส็บ ยืดออก ไบเส็บกับไตรเส็บ ทำงานตรงข้ามกัน (ค่ะเข้าใจแล้ว) เตียงต่อไป บรรยาย "คุณน้ามองเห็นมั๊ยคะ" / "ไม่เป็นไรค่ะ มองเห็น" (ดีกว่าเรียกป้าหน่อยนึง) ....อันว่า "หัวใจ" ไม่ได้อยู่ข้างซ้ายของทรวงอกนะคะ.. อยู่ตรงกลางทรวงอก.. แต่ห้องขวาอยู่ด้านหน้า ห้องซ้ายใหญ่กว่า จะเยื้องไปทางด้านซ้ายของทวงอกและอยู่หลังห้องขวา..ส่วนปอด.. มี 2 กีบ กับ 3 กีบ.. น้อง ๆ ตอบได้อีก.. ปอดขวามี 3 กีบ ปอดซ้าย มี 2 กีบ..เพราะจะต้องมีพื้นที่สำหรับวางใจ (ไม่เกี่ยวกับ..ไม่ไว้วางใจ..ในรัฐสภา อิอิ) ..."ม้าม" มี 4 หน้าที่.. ทำลายเม็ดเลือด สร้างน้ำเหลือง.. เก็บสะสมเลือดส่วนหนึ่ง ถ้าเลือดออกจากร่างกาย จะนำเลือดจากม้ามมาใช้ก่อน.. (ไม่รู้ว่าร่างกายมีเลือดสำรองนิดนึงไว้ด้วย) ... แต่ถ้าเกิดอุบัติเหตุ แล้วเป็นที่ม้าม ตัดทิ้งได้..เพราะ ถึงไม่มีม้าม ก็ไม่เป็นอันตรายต่อชีวิตถึงตาย.. (คุณป๊อปถึงตัดม้ามทิ้งได้ อวัยวะไม่ครบ 32 แล้ว) "จุฬาวิชาการ" ตึกแพทยพัฒน์ หรือชื่อทำนองนี้.. ไม่มีชื่อตึกนี้ในแผนที่ ประตู 7 อาสา.. ก็นั่ง ปอ.504 ลงสวนลุม ป้ายแรก ข้ามถนน.. เข้าประตูนี้ เบิ่งที่แผนที่ (เอาลูกศร ทิศเหนือเป็นหลัก...ถนนอังรีดูนังต์ อยู่ทางซ้ายของแผนที่ ...ถนนราชดำริ อยู่ทางขวาของแผนที่..สลับกับที่ยืนอยู่จริง..เออ.ไม่เหมือนแผนที่ในห้าง Central World แฮะ... หรือบางทีบอก you are here) ... เลยนั่งรถเมล์ฟรี 15 ไปลงสยามกาแฟ เอ๊ย ไม่ใช่ สยามสแควร์ เห็นรถชัตเติลบัส เขายืนคอยกันแถวยาว..ว..ว.. พอดีเห็นน้องสาวใส่เสื้อจุฬาวิชาการ ถามน้อง.. "นั่งสาย 1 หรือสาย 4 แล้วเจ้าไปต่อสาย 3.. แต่ว่า น่าจะอยู่คณะแพทย์ฯ ไปทางถนนอังรีดูนังต์นะคะ" ยืนคิดสักครู่ ออกจากแถว คิดว่าน่าจะแถว ๆ คณะทันตแพทย์ศาสตร์ (มี Dent Cu วิชาการด้วย)... น่าจะมีทุกคณะ .../ เจอ Staff น้องชาย 2 คนบอก "น่าจะอยู่คณะแพทย์ฯ ใน รพ.จุฬานะครับ ฝั่งตรงข้าม เดินไปอีก กิโลหรือ 2 กิโล" ... (สมเดินซะให้หายโง่ไปเลย.. ก็แผนที่ไม่มีชื่อตึกนี่นา..ก็คิดว่า อาจจะอยู่ใน Zone จุฬาฯ ม. ก็เป็นได้) ทั้งที่เซนซ์แรกบอก ต้องอยู่ในคณะแพทยศาสตร์สิ .. เดิน ๆ หิว นั่งกินข้าวหน้า "ราชกรีฑาสโมสร" ค่าเข้า 100 หรือเท่าไหร่ เห็นประตู 3 ประตู 5 บอกตัวเลขราคาต่างกัน.. ไม่เคยดูแข่งม้า.. / ข้าวแกงเจ้านี้ใช้ได้ แกงเขียวหวาน รถไม่เค็มไม่หวาน ออกจืด เติมน้ำปลาพริกเอาเอง.. ราดเขียวหวาน (ไก่นิดเดียว) ไข่ดาว 1 ฟอง ทอดมัน 2 ชิ้น ป้าคิดเงิน 35 บาท

"ถั่วงอก ขวดน้ำสิงห์" ตำรับศูนย์งอกงาม จ.ลพบุรี (ไม่รู้จะออกมาเป็นไง)...

"ถั่วงอก ขวดน้ำสิงห์" ตำรับศูนย์งอกงาม จ.ลพบุรี (ไม่รู้จะออกมาเป็นไง).. ทำไว้ 3 ขวด ไปฝากท่านแม่ 1 ขวด (ให้รดน้ำผ่านตะแกรง) วันละ 3 เวลา (ทุก 8 ชั่วโมง) รดน้ำครั้งแรก ตี 5 ของ 14/11/55 , 2 คืน 3 วัน เก็บกินได้.. / รดน้ำเสร็จ คลุมด้วยผ้าดำ (ใช้ผ้าซับใน..ไม่ต้องซื้อ)...

"ขอเงินไปหาหมอ เมื่อคืนเดินเหยียบกระัป๋องสี ตกบันได 3 ขั้น .."

"ขอเงินไปหาหมอ เมื่อคืนเดินเหยียบกระัป๋องสี ตกบันได 3 ขั้น .." ก่อนถึงหน้าห้องชั้น 3 (ไฟทางเดินกะพริบ ไม่เปิด..ไฟทางเดินชั้น 4 มีโคมครอบ มืดมา 3 อาทิตย์แล้ว) / "อะไร 30 บาท ไม่มีเลยรึไง" / "ไม่มี" / "งั้นเอาไป 500 เลย"

"ม๊า ม๊า ปั๊มน้ำเครื่องหลังห้องโน่ ร้อนจี๋เลย" ปั๊มน้ำไม่ขึ้น (เหมือนคนท้องเสียอย่างแรง)

"ม๊า ม๊า ปั๊มน้ำเครื่องหลังห้องโน่ ร้อนจี๋เลย" ปั๊มน้ำไม่ขึ้น (เหมือนคนท้องเสียอย่างแรง) / จับดูด้านล่าง ร้อนมาก..กลัวจะช๊อต ไฟไหม้ / "งั้นเอาไป 500 ไปเรียกช่างไฟฟ้า ถามอาม่า ร้านหม่วยนี๊" (ร้านค้าหน้าคอนโดฯ) รู้จักมั๊ย" / "ไอวูดลี่ มันรู้ว่าปิดตรงไหน ปิดคัตเอ้าท์" / "ก๊อกน้ำห้องป้อมแตก" เมื่อคืนขึ้นมาปิดวาวล์ในห้องน้ำชั้นดาดฟ้า เกือบลื่นหัวทิ่ม เพราะตะไคร่จับเต็มพื้น เจ้าของพื้นที่เท่านั้นที่เดินแล้วไม่ลื่นหงายท้อง (ไม่ขัดเสียอย่าง) .. ตอนหลังเที่ยงคืน วู้ดดี้มาเปิด แล้วก็ขี้นมาปิดวาวล์..

ปอ.504 ข่าวดีสำหรับ นักเรียน-นิสิต-นักศึกษา 12 บาทตลอดสาย

ปอ.504 ข่าวดีสำหรับ นักเรียน-นิสิต-นักศึกษา 12 บาทตลอดสาย... แต่ข่าวร้ายยามเช้า.. คนขับผอมผิวสีเข้ม. พอถึงหน้า Big C กดแตรปิ๊น ๆ อีกแป๊ป ปิ๊น ๆ (ซ้ำ ซ้ำ) ไล่รถปอ.ที่จอดใต้สะพานลอย แล้วก็ติด ..แซง ขวาตลอด... ขาไปสีลม / ขากลับเจอของแข็ง พกส. ผู้หญิง อายุประมาณ 47 ผมยาวไม่ถึงกลางหลัง แวะลงขอรับ นสพ. M2F แล้วก็ขึ้นมา..ไอ้เรากำลังจะลงป้าย ปปส. คุณเธอก็ยืนที่ประตูก่อนเรา เราก็ขยับ .. ยืนเกาะเสาฝั่งซ้าย พกส.พูด "ระวังประตูหนีบ" (ไอ้เราก็บ่นพึมพำ เบาๆ..คุณเธอหูดีจริง ๆ) "แล้วทำไมมายืนขวางประตู" (ปกติจะเห็นแต่กระปี๋ ยืนใกล้ประตู พอผู้โดยสารจะลง.. จะหลบขึ้นบนรถข้างคนขับเป็นอย่างน้อย) แม่นางกล่าวสวนขึ้นมาทันที "ไม่ได้ยืนขวาง ก็จะลงเหมือนกันเจ๊" (อาจจะฟังไม่ได้ใช้อารมณ์..แต่ฟังไม่ได้ใช้มารยาท) ก็เลยพ่นเลย "แล้วกูจะรู้มั้ยเนี่ย ว่ามึงจะลง (ไปซื้อปาท่องโก๋ขึ้นรถแอร์).." (ผิดระเบียบกี่เด้งล่ะเนี่ย) พขร.ใส่หมวกไหมพรมเปิดหูสีดำ ทะเบียน 14-4077 06.30 ประมาณ / ปอ. 204 เที่ยวเที่ยงครึ่ง จาก Central World พูดเพราะมาก ๆ ๆ ..คุณตาจะลง มีกระเป๋านั๊กหนัก 2 ถุง พี่กระปี๋ ก็ช่วยยกมาส่งคุณลุงตอนลงจากรถ แถวห้วยขวาง ป้ายต้น ๆ..... พอเราจะลง รถเลี้ยว.."เดี๋ยวนะคะ เดี๋ยวนะคะ" ผู้โดยสารลงจากรถ "ขอบคุณค่ะ"

วันอาทิตย์ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

Lhyn Pimpa Suphankomut ไม่ต้องห่วงซาโกว โซ๊ยโกวนะ..เขาสบายดี 2 พี่น้อง ลูกก็ดี หลานน่ารัก 2 คนก็ดี

Lhyn Pimpa Suphankomut ไม่ต้องห่วงซาโกว โซ๊ยโกวนะ..เขาสบายดี 2 พี่น้อง ลูกก็ดี หลานน่ารัก 2 คนก็ดี ..ถึงแม้ลูกของแหม่ีมจะซน ดื้อ ตามประสาเด็กไปบ้าง แต่ก็น่ารัก.. สามีก็ดี๊ดี ..ไม่ต้องพึ่งพามรดกของพ่อแม่ เป็นหัวหน้าครอบครัวที่ดี.. เสาร์อาทิตย์ก็ทำงาน.. ซื้อรถเก๋งเอง..โดยที่ซาโกวเขาไม่ต้องออกเงินซื้อให้เลย.. ตอนนี้ ซาโกว หัวเข่าไม่ดี เดินขึ้นบันไดไม่ได้.. ก็มีร่มต่างไม้เท้้า..โซ๊ยโกวแข็งแรงมาก ออกกำลัง ทุกวัน.. ดูแลทำกับข้าวกินกัน แล้วบางครั้งก็นั่งแท็กซีไปกินนอกบ้านบ้าง (หลิน พิมพา ก็เคยไปกับซาโกวโซ๊ยโกวทุกครั้งไม่ใช่เหรอ..รึไม่ใช่ เป็นแจ๋วเฝ้าบ้าน) หม่ายนอ... / ฉันก็ไม่ใช่พวกประจบ สอพอ ขอเงิน.. ไม่มีธุรไปหาพวกเขาหรอก.. ถ้าไม่ใช่อาอึ้มของเธอให้ฉันมาช่วยขายของ เป็นไม้กันหมา..ไม่ให้โซ๊ยโกวมาด่า..ฉันเลยต้องเป็นลูกอกตัญญู ต้องมีหน้าที่ไปถามโซ๊ยโกว เพื่อหาความจริง (ซึ่งความจริง หลินก็รู้ดี ทุกคนก็รู้ดี แต่ฉันถามชาวบ้าน รู้จักหลิน พิมพา สุพรรณโกมุท มั้ย..ชาวบ้านบอก ไม่มีใครรู้จักเธอเลย..จะไปรู้จักได้ไง.. เวลาเดินออกจากบ้านซาโกวไปเรียน ..ไม่ชอบใคร ไม่คุยด้วย แม้แต่แม่ค้า..ยังไม่มองหน้าเขาเลย.. ออกไปเรียนแต่เช้า กลับหลังพระอาทิตย์ตกดินไปหลายชั่วโมง..ชาวบ้านที่ไหนเขาจะมารอรู้จักเจ้าหญิงหลินอย่างเธอ) แต่แปลกเนอะ..อะไรที่เป็นทรัพย์สิน มรดก เงินทอง มีเงินกินใช้เดือนละสามหมื่น หรือหลานนอกไส้มีเงินกินเงินใช้เดือนละ 6,000 มีเงินได้ไปเรียนจนจนปริญญาโท นิด้า บริหารธุรกิจ.. ทำไมมีแต่พวกเธอ.. แต่ไอ้เรื่องจะเป็นจะตาย..ไอ้เรื่องต้องมีคนไปทำงานเป็นขี้ข้าให้..แลกกับเงินวันละ 233.33 บาท.. ทำไมอาอึ้มของเธอถึงทำให้ "นังปู สุวรรณา สุพรรณโกมุท" มีตัวตน...ในความคิดของเขา..คือนังปูเพียงคนเดียว.. ทำไมเขาไม่ให้ ลูกป๊อป ลูกป้อม หลานหลิน ..มาช่วยขายของแลกกับเงินวันละ 233.33 บาทล่ะ ..ชาวโลกเน็ตว่าแปลกมั๊ย

Lyhn Pimpa Suphankomut ถ้าไม่มีเงินกินข้าว ..ไม่ว่าซาโกว โซ๊ยโกว จะอยู่หรือไม่อยู่แล้วก็ตาม ..สั่ง.. "แหม่ม" ...

Lyhn Pimpa Suphankomut ถ้าไม่มีเงินกินข้าว ..ไม่ว่าซาโกว โซ๊ยโกว จะอยู่หรือไม่อยู่แล้วก็ตาม ..สั่ง.. "แหม่ม" ...ว่า ถ้า Lyhn Pimpa Suphankomut หลิน กลับมาขอเงิน..ให้แหม่มแบ่งเงินให้หลินไปกินข้าว มีชีวิตให้สบาย อย่าให้หลินอดอยาก.. ..และตอนนี้ซาโกว โซ๊ยโกวเขายังอยู่.. ถ้าเธอไม่มีกิน..ซาโกวบอก..ก็กลับมาขอเงินไปกิน..ได้ ซาโกวให้..ยังไงก็เป็นแท้ ๆ หลานในไส้.. ยินดีดีใจด้วยที่เธอจบปริญญาโท.. และมีชีวิตอย่างมีความสุข (ส่วนอาอึ้มของเธอบอกฉัน ลูกแท้ ๆ คนเดียว ที่ช่วยพ่อแม่ทำมาหากินไม่รู้กี่ปี.."ไม่ต้องแดก ไม่ต้องแดก แม้แต่บาทของท่านเตี่ย 2,000 ก็ไม่ให้) ...เธอคิดดูเอาเองแล้วกัน.. กรณีนี้ "ขี้(เน่า) ดีกว่า ไส้(เน่า)" ใช่มั๊ยคะ?

Lhyn Pimpa Suphankomut นอกขี้เม้ม แบงค์พันสองพันออกจากทีละปึ๊งแล้ว ยัง.ขี้ประหยัดอีกด้วย ..ว่าแต่

Lhyn Pimpa Suphankomut นอกขี้เม้ม แบงค์พันสองพันออกจากทีละปึ๊งแล้ว (อันนี้ฉันก็ไม่รู้นะ ซาโกวโซ๊ยโกวเขาเล่าให้ฟัง ปึ๊งละแสน วาง ๆ ไว้สะเปะสะปะในบ้าน.. หลายปึ๊ง พอไปแบงค์ นับ..จนท์แบงค์บอกไม่ครบ) ยัง.ขี้ประหยัดอีกด้วย ..ว่าแต่..น้องของเธออีก 2 คนที่อยู่เมืองจีน (จะคนละพ่อหรือพ่อเดียวกัน ฉันก็ไม่ได้ถาม) ...เธอบอกน้องว่า Lyhn อยู่สบายที่เมืองไทย กินดี อยู่ดี เรียนดี ไม่ต้องไปออกไปทำงานหาเงินไปเรียนไป หรือทำงานเป็นทาส ซินเดอริลลา.. น้องเธอที่อยู่เมืองจีน เธอเคยส่งเงินให้แม่ ให้น้องใช้บ้างหรือเปล่า?..

เป็นเรื่องธรรมดา และสมควร ที่โซ๊่ยโกวเขาต้องมาด่าอาอึ้มของเธอ .เพราะ..

เป็นเรื่องธรรมดา และสมควร ที่โซ๊่ยโกวเขาต้องมาด่าอาอึ้มของเธอ .เพราะ..(ด่าว่าอะไรบ้าง.. หลานหลินไปถามอาอึ้ม..เอาเองนะ) .. เธอทำให้ซาโกวเขาเสียใจ อาอึ้มเธอไปพูดดูถูกซาโกว หวังดีแต่ประสงค์ร้าย "เป็นไง ตอนนี้หลินไม่อยู่ด้วยแล้ว..ซาโกวคงต้องจ้างลูกจ้างมาทำงานบ้านให้แล้วสินะ" ..ฉันไปเห็น..แ้ล้วก็งั้น ๆ พื้นที่ในบ้านชั้นล่าง อยู่กัน 2 คนพี่น้อง.. กวาดถูก็แป๊ปเดียว ไม่ได้ยากเย็นหนื่อยอะไร.. ครัวก็ทำความสะอาดไม่ได้ยากเย็น.. มีเธออยู่ด้วย..โซ่ยโกวอาจจะต้องล้างชามที่เธอกินแล้วไปเรียน สถาบันฯ เจ้าคุณทหารลาดกระบัง.. อ้อ.. Food Science นี่ก็ไม่ได้สอบเข้าได้ตามปกติ..ต้องเรียนแบบพิเศษ สมทบ คือต้องเสียเงินเพิ่ม เทอมละ 25,000 (ตอนแรกสอบเข้าพวกสัตวบาล ทำคลอดวัวควายได้.. ถามจริง โง่หรือบ้า. ตอนเลือกสอบเข้า..ไม่ศึกษาว่าจะเรียนอะไร โตเป็นวัวเป็นควายหมาเลียตูดไม่ถึง..คิดเองไม่เป็น ไม่รู้เรื่องเลยเหรอ (ถ้าเป็นฉัน นัีงปู โง่ ๆ เซ่อ ๆ ก็ว่าไปอย่าง โง่จริง) ... ว่าชีวิต เรียนอะไรเธอถึงถนัด เรียนอะไรแล้วจะไปทำมาหากินได้ร่ำรวย..ใช้ความรู้.. (แต่พูดกับพี่ป๊อป เรียนมาก็เท่านั้น พวกตรีโกณมิติ science cos tan ไม่ใช้งานอะไรในชีวิตประจำวันเลย)... หึหึ..

"คนที่ไม่ใช่พ่อแม่ แต่้เลี้ยงดูให้ข้าวให้น้ำ ส่งให้เรียนหนังสือจนจบการศึกษาขั้นสูงสุด" ถือว่ามีบุญคุณ....

"คนที่ไม่ใช่พ่อแม่ แต่้เลี้ยงดูให้ข้าวให้น้ำ ส่งให้เรียนหนังสือจนจบการศึกษาขั้นสูงสุด" ถือว่ามีบุญคุณ....มาก..มากยิ่งกว่าคนที่เป็นพ่อแม่ผู้ให้กำเนิด หลายร้อยหลายพันเท่า.. นี่คงไม่ใช่สุภาษิตจีน หรือของประเทศใดในโลก.. แต่คงจะเป็นสามัญสำนึกของมนุษย์ทุกคนบนโลกนี้ทั้งที่มีพ่อแม่ที่มีชีวิตแต่ไม่เลี้ยงลูก หรือลูกที่พ่อแม่เสียชีวิตไปแล้ว../ ฉันเคยเห็น พี่น้องผู้หญิงฝาแฝด 2 คน คนพี่แต่งงานมีลูกแล้ว แต่คนน้องเป็นซินแส ศิษย์เอกอาจารย์ฮวงจุ้ย.. เขาไม่นับถือพ่อแม่แท้ ๆ ของตัวเอง(สักเท่าไหร่..อาจจะต้องนับถือหรือเรียกโดยหน้าที่ของลูก) ..เขาบอก "อาโกว เลี้ยงพวกเขา 2 คนพี่น้องมา อาม่าด้วย เพราะฉะนั้น..อาโกวคือแม่ของเขาเท่านั้น" .. หรือกรณีของ หลานหลิน พิมพา สุพรรณโกมุท.. แม่อยู่เมืองจีนก็โจ๊นจน..ไม่มีปัญญาเลี้ยง..ส่งมาเมืองไทย.. ก็ส่งญาติให้มาดูที่บ้านซาโกว มาดูว่าซาโกวเขาเลี้ยงเธอยังไง เธอคงไม่รู้หรอกว่า..สมัยนั้น เข้าเมืองผิดกฎหมาย.. ทำเอกสารปลอม (เป็นลูกของโซ่ยเจ็ก กับโซ่ยสิ้ม คลอดโดยหมอตำแยที่บ้านนอก) ขอโทษนะ โซ่ยเจ็กมีลูก 3 คน เธอเกิดปีไล่เลี่ยกับลูกสาวคนสุดท้อง (ลูก 3 คนนี้ คลอดที่ รพ.กรุงเทพคริสเตียนทุกคน ถ่ายรูปแรกเกิดน่ารักทุกคน) ..แล้วโซ่ยสิ้มเขาจะเอา..แล้วไปคลอดเธอกับหมอตำแยที่บ้านนอกได้อย่างไรกัน... เธอจำได้ไหม.. จบปริญญาโท นิด้า บริหารธุรกิจ ความรู้และความจำจะต้องดีมาก ๆ แน่นอน... มันเสี่ยงมาก ถ้า ตม. เขามาเอาเรื่องซาโกว..ก็จบกันเลย..จริงมั๊ย...

Pimpa Suphankomut นี่ถ้าอาอึ้มเธอไม่บอกว่า "มัน(โซ๊ยโกว)เขาเดินมาด่า" ล่ะก็ ฉันก็ไม่ไปหาโซ๊ยโกวเขาหรอกนะ..เลยได้ข้อมูลมาอีกเพียบเลย

Pimpa Suphankomut นี่ถ้าอาอึ้มเธอไม่บอกว่า "มัน(โซ๊ยโกว)เขาเดินมาด่า" ล่ะก็ ฉันก็ไม่ไปหาโซ๊ยโกวเขาหรอกนะ..เลยได้ข้อมูลมาอีกเพียบเลย / เอาตั้งแต่ ซาโกวเขาออกเงินให้เธอไปทำฟันปลอม 1 ซี่แบบติดแน่นถาวร (ซึ่งจะต้องทำอีก 2 ซี่ด้านข้างด้วย) หมดเงินไปประมาณเกือบ 30,000 บาท (บาทนะบาทไม่ใช่กีบ) ค่าผ่าฟันคุดอีก 2,000 (นี่ยังจะแถม promotion ให้หลานหลิน พิมพา สุพรรณโกมุท ไปดัดฟันอีก อยากให้สวย จะได้หาผัวดีดี ได้) .. / เธอออกมาบอกเหตุการณ์หน่อยสิ.. ที่ฉันฟังมา "ฉันตบหน้าเขาจริง 1 ที ไม่ได้ตบเสียจนเลือดกลบปาก หรือหน้าคว่ำ หน้าเขียว .. เพราะว่าฉันขอให้หลินช่วยจัดกับข้าวของไหว้หน่อย ไม่งั้นไม่ส่งเรียนโทนะ.." (เพราะหลินไม่เคยช่วยจัดทำของของไหว้อากงอาม่าเลยแม้แต่ครั้งเดียว อ้างว่า..เรียน..ทุกครั้ง" แต่หลินเถียงทันควันตวาดกลับ "ไม่ส่งก็อย่าส่ง ส่งตัวเองเรียนก็ได้" แล้วก็เปิดออกไป.. / วันรุ่นขึ้น ซาโกว โซ๊ยโกว ไปวิ่งที่สวนลุม กลับมาหลานหลิน ก็หนีหายไปแล้ว.. น่าจะ copy รูปภาพใน computer หรือเอาอะไรไปบ้างก็ไม่รู้.. ซาโกวร้องไห้ เป็นปีสองปีเลย.. โซ๊ยโกวต้องคอยปลอบให้ทำใจ.. ซาโกวต้องไปหาหมอ จิตแพทย์..เอายามากิน..
สถิติการเข้าชม fannyknit ชีวิตบัดซบ 2 วินาทีที่แล้ว youtube.com ปากหม้อ / 46 views* * 10 พย.55 ..มีคนเห็นนังปูเิิดินไปร้องไห้ไป..เหมือนคนบ้า เสียสติ / 45 views* * วรรณา เมียคนสุดท้ายที่ป๊า กวง รักมาก..ก.. บอกว่า / 45 views* * * "ฟ้ามีตา เวรกรรมมีจริง" คุณนายวิภา จงมีความสุข กล่.../ 46 views* * Pimpa Suphankomut จะเป็นตายร้ายดีอย่างไรนะ จะถูกฆ่า.../ 48 views* * พินัยกรรม ธรรมพล สุพรรณโกมุท ยกที่ดินทั้งหมดให้ลูก... / 50 views* * ประสบความสำเร็จอย่างสวยสดงดงาม..นอกนั้นก็ประมาณ 2-5 views. ซะเป็นส่วนใหญ่ .. ไม่มีจะกิน แต่มีคนอ่านที่เราเขียน..ก็เพียงพอแล้ว.. เศรษฐกิจ(ไม่)พอเพียง