วันพุธที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

สุชาติ / สุวรรณา / สุเทพ สุพรรณโกมุท 3 พี่น้องตระกูล "ร้าย" กับคุณนายวิภา จงมีความสุข

สมัยก่อน สุวรรณา สุพรรณโกมุท แจ๋พาไปหาหมอตรวจซีสต์ที่เต้านม ที่รพ.รามาธิบดี และพาไปหาหมอวันผ่าตัด อีก 1 วัน..นั่งรถเมล์สาย 67 ไป..วันผ่า..หมอลงมีด กรีด เจ็บ..ขนาดฉีดยาชาแล้ว..เย็บแผลแล้ว หมอบอกเจออีก 2 ก้อน..ต้องตัดไหม ผ่าเอาออกอีก..ผ่าเสร็จหมอให้ดูก้อนเนื้อ มีก้อนใหญ่ขนาด1ซม.กว่า และก้อนเล็ก ๆ อีก หลายก้อน..เดินมึนมึน เกือบจะเป็นลมล้ม..ได้ยินพยาบาลร้องถาม เดินไหวมั้ย.."ไหวค่ะ" เดินหลายเมตรกลับมาห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า..กลับบ้านพร้อมแจ๋ ถ้าจำไม่ผิดก็นั่งรถเมล์กลับ สาย 67 ลงหน้า รพ.จุฬา..แล้วเดินเข้าบ้านซอยพิพัฒน์2
*
วันรุ่งขึ้น เดินไปขึ้นรถเมล์ สาย 67 หน้า โรบินสัน..สีลม.. ไปล้างแผลเอาไส้ไก่ เลือดเสียออก..นั่งรถเมล์ไปล้างแผลทุกวัน ประมาณ 1 อาทิตย์ จนถึงตัดไหม...วันไปฟังผลชิ้นเนื้อ..ไม่พบเนื้อร้าย ..ก็นั่งรถเมล์ไป
*
ส่วน..
สุชาติ สุพรรณโกมุท.. รถมอเตอร์ไซค์คว่ำ ตัดม้ามทิ้ง นอน รพ.เปาโล ผ่าไส้ติ่ง ก็คงนอน รพ.เปาโล สะพานควาย.. งูกัดนิ้ว ตอนลงไปลอกคลอง กับพี่เปี๊ยก พี่ของสาว (เมียเก่ามัน) ก็นอน รพ.โสธราเวช (ข้าง สถานีรถไฟแปดริ้ว) ตอนนั้นให้ซื้อประกันสุขภาพของ AIA ของเพื่อนที่สมัยเรียน ปวส.(เอี่ยมลออ) เราลางานเอาเอกสารเคลมประกันไปให้หมอเซ็น..อีกวันลางานไปเอาเอกสารส่งบริษัทเพื่อเคลมประกัน...เอาเช็คค่าเคลมไปให้มันด้วยหรือเปล่า จำไม่ได้..
*
สุเทพ สุพรรณโกมุท.. ไวรัสตับอักเสบ B  / นอน รพ.กรุงเทพคริสเตียน..แต่ละราย นอน รพ.เอกชนทั้งนั้น เสียเท่าไหร่เท่ากัน ไม่อั้น คุณนายวิภา จงมีความสุข จ่าย...แต่เราช่วยทำงาน ช่วยทำมาหากินทุกอย่างที่เขาสั่ง..ชีวิตไร้ค่า ราคาถูก..ผ่าตัดไม่ต้องนอน รพ.ยังต้องไปหาหมอ รพ.รัฐบาล..ทำฟัน ก็ไปหาหมอที่ รพ.เลิศสิน..ตอนนี้แก่แล้ว 45 แล้ว..เขายังไล่ให้ไปหาหมอ บัตรทอง 30 บาท..."ยาย...รวยจะตาย..ยังไปหาหมอ 30 บาทเลย" คุณนายวิภาพูด...
"
*
2 พี่น้อง (ลูกชายของคุณนายวิภา) คงจะนั่งรถแท็กซี่กลับ เพราะผ่าตัดใหญ่ อาการหนักทั้งนั้น
*
เล่าเรื่อง "แม่บอก พ่อไม่ได้ยกสมบัติให้เราแม้แต่ชิ้นเดียว นอกจากเงินติดก้นบัญชีของพ่อ 7,000 บาท" ชาวบ้านแถวนี้บอก "อย่างกับละครเลย" "อย่างนี้ต้องฟ้อง" "ทำไมไปเซ็นไม่ขอรับมรดกให้เขา..เป็นเราจะไม่เซ็นให้ ต้องต่อรองจนกว่าเราจะได้" "ไม่แฟร์นะอย่างนี้" (คุณสามีพูด) /  "ที่ศาล ข้างศาลากลาง เขามีทนาย ..ไปปรึกษาคดีมรดกได้" / "ก็ไม่รู้สิคะ เราเห็นว่าเป็นพี่น้องกัน ก็ยอมเซ็นให้ วัดใจ บางทีเขาอาจมีน้ำใจแบ่งอะไรให้เราสักชิ้น"..." / "ของพี่ครอบครัวคนจีนใช่ไหมคะ..หันไปคุยกับสามี อย่างนี้แหละพี่waj ครอบครัวคนจีน รักแต่ลูกชาย เพื่อนหนูก็มีค่ะพี่ ตอนแต่งงาน พ่อแม่ให้คืนสมบัติที่ให้ไป คืนให้กงสี" / "ไม่ฟ้องหรอก สมบัติ มรดกแค่ไม่กี่ล้านบาท ไม่ใช่ร้อยล้า พันล้าน" "ดูซิว่า ชีวิตนี้..พวกมันจะมีสามัญสำนึกกันบ้างมั้ย" /
*
ทุกวันไหว้บรรพบุรุษ อากง อาม่า ต้มไก่ (จัดลงถาด พร้อมเครื่องในครบชุด) ไหว้แล้ว ตั้งหม้อน้ำต้มไก่ เอาไก่ลงไปต้มเพื่ออุ่น เอาตะเกียบ 2 อัน เสียบใต้ปีกไก่ ยกขึ้น แรก ๆ ก็หลุดจ๋อม จมน้ำ..แล้วก็ต้องพยายาม สอยขึ้นมาให้ได้..สับไก่ครึ่งตัว แล้วสับน่อง ปีก วางเรียงอย่างสวยงามให้ดูเป็นตัว..(ม๊าชอบ..บอกให้สับแบบนี้ทุกครั้ง) ทำน้ำจิ้มข้าวมันไก่ ขิงแก่ (ปอกเปลือกหั่นเองกับมือ) โขลก เต้าเจี้ยวดำ ซีอิ๊วดำหวาน น้ำส้มสายชู น้ำมะนาว น้ำตาลทราย ซีอิ๊วขาว..ไม่อร่อยเหมือนที่ร้านหรอก..แต่ก็พอกินได้...เอาน้ำต้มไก่ ใส่หม้อหุงข้าว หุงเป็นข้าวมันไก่..
*
ผัดหมี่ซั่ว ตั้งน้ำกระทะให้เดือด เอาหมี่ซั่ว (พิษณุโลก โรงงานแจ๋ชุ้น ทำเตาอั้งโล่ด้วย )ลงต้ม พอสุก..ตักขึ้นล้างน้ำเย็น แล้วตั้งกระทะ ใส่น้ำมัน เอาเส้นลงผัด ได้ที่ใส่ซีอิ๊วขาว นิดหน่อย ใส่ใบกุ้ยช่าย..ตัดขึ้นใส่หม้อเล็ก ตั้งไหว้..กุ้งอบเกลือ ทำประจำ ม๊าจะให้เอากุ้งทั้งตัวล้างน้ำก๊อก ใส่กระทะ ใส่เกลือ ปิดฝา ต้มให้แห้งสนิท ตำน้ำจิ้ม พริกขี้หนู กระเทียม(ปอกเปลือก) มะนาว น้ำปลา น้ำตาลทราย...แซ่บ..
*
ตอนไหว้ นอกจากผลสด กล้วยหอม องุ่น ส้ม แอปเปิล สาลี่ แล้ว บางทีเราก็เปิดกระป๋อง เงาะกระป๋อง ลิ้นจี่กระป๋อง..ไหว้เสร็จก็แช่เย็น ชื่นใจ หรือไม่ก็ใส่น้ำแข็ง..
*
รวนหมู หั่นเป็นชิ้นใหญ่ รวน 1 กระทะ..ใส่ซีอิ๊วขาว พริกไทยป่น..ไก่รวน สับชิ้นใหญ่ อีก 1 กระทะ..ใส่ซีอิ๊วขาว ใส่พริกไทยป่น...ไม่เคยทำอาหารทอด นอกจากไข่ดาว ไข่เจียว
*
จำได้ลางๆว่า ตอนที่คุณชายสุชาติ สุพรรณโกมุท คุณนายแม่วิภา จงมีความสุข ใช้ให้เราไปช่วยยกทีวี (ของคนเช่าบ้านไปทิ้ง เขาหนีค่าเช่า).. ขับรถโตโยต้าสีขาวไป..เขาบางพลี ผ่าน รพ.จุฬารัตน์ 3 หรือ 4 จำไม่ได้ ตึกแถวของคุณนายวิภาติดถนนใหญ่ ไม่เข้าซอย อยู่ประมาณห้องที่ 3 หรือ 4 ถัดจากกำแพงปูนสูง...ประตูเหล็กเป็นประตูม้วน... แล้วก็ขนไปทิ้งลงบ่อในบ้าน "สาวที่แปดริ้ว ซอยตรอกโรงลิเก 2" ก่อนถึง บขส.แปดริ้ว..มันคงได้ค่าน้ำมันรถ ค่าเหนื่อย..ส่วนเรากลับบ้านตัวเปล่า...ช่วยยกไปทิ้ง ไม่เคยบ่น ช่วยยกจนหมด เสร็จงาน... (นี่คืองานของผู้หญิงอย่างเราด้วยรึเนี่ย) ลูกชายคนเล็กของเขาไปไหน ไม่รู้ จำไม่ได้...
*
รู้แต่ว่าตอนนี้ ลูกชายคนโต สุชาติ สุพรรณโกมุท ได้สมบัติ มรดกของป๊าไป...บ้านเช่า พร้อมที่ดิน 2 แห่ง ปากซอยบึงนายพล (ประชาร่วมใจ43) กับบ้านเช่าเกือบ 20-30 ห้อง ในซอยไมตรีจิต (คู้ซ้าย คู้ขวา) รถกระบะโตโยต้า เก่าแต่ไม่มาก ยังดูดี..โต๊ะสนุ๊กเกอร์ใหญ่ 1 ตัว..เครื่องทำน้ำอุ่น เตาไมโครเวฟ เครื่องซักผ้า..ทีวี ..
สุเทพ สุพรรณโกมุท ได้ที่ดินเปล่าติดถนนใหญ่ ราคาคงไม่ใช่แค่ หมื่นสองหมื่น ...ส่วนเราลูกสาวคนเดียว ช่วยทำงานทุกอย่าง ได้เศษเงินติดบัญชี 7,000 บาท...(จะเอามั้ย) ทองเท่าหนวดกุ้งยังไม่มีเลย เงินค่าช่วยงานศพไม่เคยรู้ ไม่เคยเห็นสักบาท 2 แม่ลูกรับไปหมด..เขาบอกเอาทองไปขายหมดแล้ว จัดงานศพ ..
*
ลูกชายคนโต ของป๊ากับเมียเก่า (กับลูกเมียของเขา) ก็ไม่ได้สักบาท เห็นบอกว่าอยู่ในคุก..งานศพป๊าก็ไม่ได้มา..สมบัติ มรดก อากง อาม่า ก็ไม่ได้สักชิ้น เศษเงินแม้แต่เหรียญบาทสักเหรียญก็ไม่ได้...
*

1 ธค.54 เห็นชื่อ รพ.จุฬารัตน์ แล้วนึกขึ้นได้

สมัยก่อน สุวรรณา สุพรรณโกมุท แจ๋พาไปหาหมอตรวจซีสต์ที่เต้านม ที่รพ.รามาธิบดี และพาไปหาหมอวันผ่าตัด อีก 1 วัน..นั่งรถเมล์สาย 67 ไป..วันผ่า..หมอลงมีด กรีด เจ็บ..ขนาดฉีดยาชาแล้ว..เย็บแผลแล้ว หมอบอกเจออีก 2 ก้อน..ต้องตัดไหม ผ่าเอาออกอีก..ผ่าเสร็จหมอให้ดูก้อนเนื้อ มีก้อนใหญ่ขนาด1ซม.กว่า และก้อนเล็ก ๆ อีก หลายก้อน..เดินมึนมึน เกือบจะเป็นลมล้ม..ได้ยินพยาบาลร้องถาม เดินไหวมั้ย.."ไหวค่ะ" เดินหลายเมตรกลับมาห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า..กลับบ้านพร้อมแจ๋ ถ้าจำไม่ผิดก็นั่งรถเมล์กลับ สาย 67 ลงหน้า รพ.จุฬา..แล้วเดินเข้าบ้านซอยพิพัฒน์2
*
วันรุ่งขึ้น เดินไปขึ้นรถเมล์ สาย 67 หน้า โรบินสัน..สีลม.. ไปล้างแผลเอาไส้ไก่ เลือดเสียออก..นั่งรถเมล์ไปล้างแผลทุกวัน ประมาณ 1 อาทิตย์ จนถึงตัดไหม...วันไปฟังผลชิ้นเนื้อ..ไม่พบเนื้อร้าย ..ก็นั่งรถเมล์ไป
*
ส่วน..
สุชาติ สุพรรณโกมุท.. รถมอเตอร์ไซค์คว่ำ ตัดม้ามทิ้ง นอน รพ.เปาโล ผ่าไส้ติ่ง ก็คงนอน รพ.เปาโล สะพานควาย.. งูกัดนิ้ว ตอนลงไปลอกคลอง กับพี่เปี๊ยก พี่ของสาว (เมียเก่ามัน) ก็นอน รพ.โสธราเวช (ข้าง สถานีรถไฟแปดริ้ว) ตอนนั้นให้ซื้อประกันสุขภาพของ AIA ของเพื่อนที่สมัยเรียน ปวส.(เอี่ยมลออ) เราลางานเอาเอกสารเคลมประกันไปให้หมอเซ็น..อีกวันลางานไปเอาเอกสารส่งบริษัทเพื่อเคลมประกัน...เอาเช็คค่าเคลมไปให้มันด้วยหรือเปล่า จำไม่ได้..
*
สุเทพ สุพรรณโกมุท.. ไวรัสตับอักเสบ B  / นอน รพ.กรุงเทพคริสเตียน..แต่ละราย นอน รพ.เอกชนทั้งนั้น เสียเท่าไหร่เท่ากัน ไม่อั้น คุณนายวิภา จงมีความสุข จ่าย...แต่เราช่วยทำงาน ช่วยทำมาหากินทุกอย่างที่เขาสั่ง..ชีวิตไร้ค่า ราคาถูก..ผ่าตัดไม่ต้องนอน รพ.ยังต้องไปหาหมอ รพ.รัฐบาล..ทำฟัน ก็ไปหาหมอที่ รพ.เลิศสิน..ตอนนี้แก่แล้ว 45 แล้ว..เขายังไล่ให้ไปหาหมอ บัตรทอง 30 บาท..."ยาย...รวยจะตาย..ยังไปหาหมอ 30 บาทเลย" คุณนายวิภาพูด...
"
*
2 พี่น้อง (ลูกชายของคุณนายวิภา) คงจะนั่งรถแท็กซี่กลับ เพราะผ่าตัดใหญ่ อาการหนักทั้งนั้น
*
เล่าเรื่อง "แม่บอก พ่อไม่ได้ยกสมบัติให้เราแม้แต่ชิ้นเดียว นอกจากเงินติดก้นบัญชีของพ่อ 7,000 บาท" ชาวบ้านแถวนี้บอก "อย่างกับละครเลย" "อย่างนี้ต้องฟ้อง" "ทำไมไปเซ็นไม่ขอรับมรดกให้เขา..เป็นเราจะไม่เซ็นให้ ต้องต่อรองจนกว่าเราจะได้" "ไม่แฟร์นะอย่างนี้" (คุณสามีพูด) /  "ที่ศาล ข้างศาลากลาง เขามีทนาย ..ไปปรึกษาคดีมรดกได้" / "ก็ไม่รู้สิคะ เราเห็นว่าเป็นพี่น้องกัน ก็ยอมเซ็นให้ วัดใจ บางทีเขาอาจมีน้ำใจแบ่งอะไรให้เราสักชิ้น"..." / "ของพี่ครอบครัวคนจีนใช่ไหมคะ..หันไปคุยกับสามี อย่างนี้แหละพี่waj ครอบครัวคนจีน รักแต่ลูกชาย เพื่อนหนูก็มีค่ะพี่ ตอนแต่งงาน พ่อแม่ให้คืนสมบัติที่ให้ไป คืนให้กงสี" / "ไม่ฟ้องหรอก สมบัติ มรดกแค่ไม่กี่ล้านบาท ไม่ใช่ร้อยล้า พันล้าน" "ดูซิว่า ชีวิตนี้..พวกมันจะมีสามัญสำนึกกันบ้างมั้ย" /
*
ทุกวันไหว้บรรพบุรุษ อากง อาม่า ต้มไก่ (จัดลงถาด พร้อมเครื่องในครบชุด) ไหว้แล้ว ตั้งหม้อน้ำต้มไก่ เอาไก่ลงไปต้มเพื่ออุ่น เอาตะเกียบ 2 อัน เสียบใต้ปีกไก่ ยกขึ้น แรก ๆ ก็หลุดจ๋อม จมน้ำ..แล้วก็ต้องพยายาม สอยขึ้นมาให้ได้..สับไก่ครึ่งตัว แล้วสับน่อง ปีก วางเรียงอย่างสวยงามให้ดูเป็นตัว..(ม๊าชอบ..บอกให้สับแบบนี้ทุกครั้ง) ทำน้ำจิ้มข้าวมันไก่ ขิงแก่ (ปอกเปลือกหั่นเองกับมือ) โขลก เต้าเจี้ยวดำ ซีอิ๊วดำหวาน น้ำส้มสายชู น้ำมะนาว น้ำตาลทราย ซีอิ๊วขาว..ไม่อร่อยเหมือนที่ร้านหรอก..แต่ก็พอกินได้...เอาน้ำต้มไก่ ใส่หม้อหุงข้าว หุงเป็นข้าวมันไก่..
*
ผัดหมี่ซั่ว ตั้งน้ำกระทะให้เดือด เอาหมี่ซั่ว (พิษณุโลก โรงงานแจ๋ชุ้น ทำเตาอั้งโล่ด้วย )ลงต้ม พอสุก..ตักขึ้นล้างน้ำเย็น แล้วตั้งกระทะ ใส่น้ำมัน เอาเส้นลงผัด ได้ที่ใส่ซีอิ๊วขาว นิดหน่อย ใส่ใบกุ้ยช่าย..ตัดขึ้นใส่หม้อเล็ก ตั้งไหว้..กุ้งอบเกลือ ทำประจำ ม๊าจะให้เอากุ้งทั้งตัวล้างน้ำก๊อก ใส่กระทะ ใส่เกลือ ปิดฝา ต้มให้แห้งสนิท ตำน้ำจิ้ม พริกขี้หนู กระเทียม(ปอกเปลือก) มะนาว น้ำปลา น้ำตาลทราย...แซ่บ..
*
ตอนไหว้ นอกจากผลสด กล้วยหอม องุ่น ส้ม แอปเปิล สาลี่ แล้ว บางทีเราก็เปิดกระป๋อง เงาะกระป๋อง ลิ้นจี่กระป๋อง..ไหว้เสร็จก็แช่เย็น ชื่นใจ หรือไม่ก็ใส่น้ำแข็ง..
*
รวนหมู หั่นเป็นชิ้นใหญ่ รวน 1 กระทะ..ใส่ซีอิ๊วขาว พริกไทยป่น..ไก่รวน สับชิ้นใหญ่ อีก 1 กระทะ..ใส่ซีอิ๊วขาว ใส่พริกไทยป่น...ไม่เคยทำอาหารทอด นอกจากไข่ดาว ไข่เจียว
*
จำได้ลางๆว่า ตอนที่คุณชายสุชาติ สุพรรณโกมุท คุณนายแม่วิภา จงมีความสุข ใช้ให้เราไปช่วยยกทีวี (ของคนเช่าบ้านไปทิ้ง เขาหนีค่าเช่า).. ขับรถโตโยต้าสีขาวไป..เขาบางพลี ผ่าน รพ.จุฬารัตน์ 3 หรือ 4 จำไม่ได้ ตึกแถวของคุณนายวิภาติดถนนใหญ่ ไม่เข้าซอย อยู่ประมาณห้องที่ 3 หรือ 4 ถัดจากกำแพงปูนสูง...ประตูเหล็กเป็นประตูม้วน... แล้วก็ขนไปทิ้งลงบ่อในบ้าน "สาวที่แปดริ้ว ซอยตรอกโรงลิเก 2" ก่อนถึง บขส.แปดริ้ว..มันคงได้ค่าน้ำมันรถ ค่าเหนื่อย..ส่วนเรากลับบ้านตัวเปล่า...ช่วยยกไปทิ้ง ไม่เคยบ่น ช่วยยกจนหมด เสร็จงาน... (นี่คืองานของผู้หญิงอย่างเราด้วยรึเนี่ย) ลูกชายคนเล็กของเขาไปไหน ไม่รู้ จำไม่ได้...
*
รู้แต่ว่าตอนนี้ ลูกชายคนโต สุชาติ สุพรรณโกมุท ได้สมบัติ มรดกของป๊าไป...บ้านเช่า พร้อมที่ดิน 2 แห่ง ปากซอยบึงนายพล (ประชาร่วมใจ43) กับบ้านเช่าเกือบ 20-30 ห้อง ในซอยไมตรีจิต (คู้ซ้าย คู้ขวา) รถกระบะโตโยต้า เก่าแต่ไม่มาก ยังดูดี..โต๊ะสนุ๊กเกอร์ใหญ่ 1 ตัว..เครื่องทำน้ำอุ่น เตาไมโครเวฟ เครื่องซักผ้า..ทีวี ..
สุเทพ สุพรรณโกมุท ได้ที่ดินเปล่าติดถนนใหญ่ ราคาคงไม่ใช่แค่ หมื่นสองหมื่น ...ส่วนเราลูกสาวคนเดียว ช่วยทำงานทุกอย่าง ได้เศษเงินติดบัญชี 7,000 บาท...(จะเอามั้ย) ทองเท่าหนวดกุ้งยังไม่มีเลย เงินค่าช่วยงานศพไม่เคยรู้ ไม่เคยเห็นสักบาท 2 แม่ลูกรับไปหมด..เขาบอกเอาทองไปขายหมดแล้ว จัดงานศพ ..
*
ลูกชายคนโต ของป๊ากับเมียเก่า (กับลูกเมียของเขา) ก็ไม่ได้สักบาท เห็นบอกว่าอยู่ในคุก..งานศพป๊าก็ไม่ได้มา..สมบัติ มรดก อากง อาม่า ก็ไม่ได้สักชิ้น เศษเงินแม้แต่เหรียญบาทสักเหรียญก็ไม่ได้...
*

วันอังคารที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

สมัยเด็ก ๆ จำได้ว่า ป๊อปมันก็ทำแบบนี้ ไว้ เราก็เลยทำตาม

Suwanna Supankomut

30 พย.54 ยำปลากระป๋อง ของโปรดคุณ POP

จะเห็นคุณ POP ทำยังปลากระป๋องกินบ่อย ๆ เทออกจากกระป๋อง ซอยหอมแดง พริกขี้หนู บีบมะนาว..เสร็จ กินได้ละ...
*
ป้อมกินง่าย ทำอะไรมันก็กิน
*
สมัยแบเบาะ จะใส่เอี๊ยม เป็นรูปสี่เหลี่ยม มีสายคล้องคอมาผูกกับหูที่มุมข้างขวา..ที่เอาก็มีอีกสายหนึ่งอ้อมหลังมาผูกกับหูขวาข้างหน้า..เข้าใจว่าจะใส่ตอนหน้าร้อน..ไม่รู้ใครเย็บให้ จำได้ว่ามีหลายตัว
*
สมัยก่อนโน้น ป๊าจะเลี้ยงปลาออสการ์ในตู้ปลา ตัวโตมากเลย 1 ตัว ตอนหลังก็ตายกันไป
*

วันจันทร์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

29 พย.54 หมูต้ม กับข้าวมื้อ(ทุกเย็น) ของหายที่อัญชณาแมนชั่น

29 พย.54 หมูต้ม กับข้าวมื้อ(ทุกเย็น) ของหายที่อัญชณาแมนชั่น

แทบจะทุกเย็น กับข้าวสุดท้าย หลังจากผัดผัก แกงจืดเสร็จแล้ว ก็จะใส่น้ำในกระทะ ใส่หมูสันนอก ม๊าจะหั่นหนาประมาณ 1 นิ้ว น้ำพอท่วมชิ้นหมู 2 ชิ้น..ไฟอ่อน ปิดฝา แล้วต้มไปเรื่อย จนน้ำเกือบแห้ง..เอาขึ้นมาหั่น แรก ๆ หั่น สี่เหลี่ยมเต๋า หมดไว..เลยหั่นขวางชิ้นบาง ๆ เรียงตะแคง ซ้อนกันไป..หั่นเสร็จ เอาปังตอช้อนใส่ชาม ตักน้ำในกระทะราด (น้ำต้มหมูหวานมาก)...บางทีก็ไหม้ หอมไปอีกแบบหนึ่ง
*
ตอนแรกเหยาะซีอิ๊วขาว เด็กสมบูรณ์ (โรงงานอยู่อมตะนคร ระยองซิตี้) ตอนหลังทำพริกน้ำปลา (พริกขี้หนูสวน ซอยละเอียดยิบ ใส่น้ำปลา บีบมะนาว เผ็ดเค็มเปรี้ยว..ไม่ใส่น้ำตาล) แซ่บกว่า...ไอป๊อปเอากระเทียมมาหั่นใส่..ตอนหลังเลยต้องซอยกระเทียมลงไปด้วย...เป็น "พริกน้ำปลากระเทียม" (สมัยนั้นมีแต่กระเทียมกลีบเล็ก แกะเปลือกก่อนซอย)
*
เราจะเป็นคนเอาเสื้อผ้าใส่ผ้าขาวผืนใหญ่ ผูกมัด 2 ครั้ง ก่อนส่งซัก..
หลังจากซักรีดเสร็จแล้ว ป้าเขาเอามาส่ง..เราก็จะแก้มัดออก เอาเสื้อผ้าของป๊า ของเรา ของป้อม ใส่ตามชั้นตู้ของทุกคนเสร็จเรียบร้อย
*
สมัยก่อนขโมยชุดนอนของใครก็ไม่รู้มาใส่..ติดมากับห่อผ้า..เขามาทวงก็ปฏิเสธ...เลวมาก
สงสัยสมัยเด็ก ๆ ขโมยของชาวบ้านไว้เยอะ..ตอนแก่ สมบัติ มรดก ก็ไม่มีเหลือให้ทำทุน..เครื่องมือทำมาหากินก็โดนขโมย..หมดไปหลายพัน
*
จริง ๆ เรื่องพวกนี้ ก็ลืมไปแล้ว ไม่เคยใส่ใจ ไม่เคยจำ...แต่พอแก่เหลือแต่ตัว เลยมานั่งคิด เห็นภาพก่อนตายสักวันหนึ่ง
*
ของหายที่ "อัญชณาแมนชั่น" (เพิ่มเติม)
*
ไม้เซ็ตของ PINN 5 mm. 1 อัน ชุดละ 5 อัน เหลือ 4 อัน / ไหม Bamboo 2 กลุ่ม 99 บาท /  เศษไหม Mohair ขนแกะอย่างดี อุ่นไม่คัน กะจะเอามาถักผ้าพันคอผืนเล็ก ๆ /
*
หลายวันก่อนไม่รู้ทำไม้นิตวงกลม 4 mm. 60 ซม. หล่นหายที่ไหน..จำได้ว่าเก็บใส่ถังกลับมาแล้วแน่นอน หล่นกลางทางแหงเลย..
*

วันเสาร์ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

27 พย.54 กูส่งพวกมึงไปสบายกันหมดแล้ว

เดี๋ยวพวกมึงจะว่ากู "ทวงบุญคุญ" อีก ..กูไม่มีบุญไม่มีคุณอะไรให้พวกมึงหรอก ส่งพวกมึงไปสบายกันหมดแล้ว..ไม่ต้องทำงานก็มีกินมีใช้ไปตลอดชีวิตจนถึงลูกหลาน..ส่วนกูก็ล่องลอย ร่อนเร่ ไปตามบุญตามกรรม..กูรู้แล้วว่านั่งสองแถวข้ามสะพานแม่น้ำบางปะกง ค่ารถแค่ 10 บาทเอง..พวกมึงไม่ต้องไปรอเก็บศพกูหรอก..สิ้นเดือนจะโอนเงินหรือไม่ ก็มีค่าเท่ากัน..กูมันก็แค่ขอทานให้แม่มึงมานั่งด่า 40 กว่าแล้วยังต้องเลี้ยง...กูก็ถือเสียว่าอาศัยท้องแม่มึงมาเกิด ช่วยทำงานบ้าน ช่วยซื้อของไปตลาด แลกข้าวแลกน้ำ แลกเรียนหนังสือ..ชีวิตก็มีเท่านี้ อยู่ไปแค่วันวัน..ก็คงอีกไม่กี่วันหรอก ค่าเช่าบ้านอาจจะหนีไม่จ่าย..ไปตายเอาจะได้จบเรื่องจบราวกันไป...แค่ไม่รู้ว่าวันไหนเท่านั้นเอง...
*
ขอให้พวกมึงมีความสุข..
*

วันพุธที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

23 พย.54 ใจร้อน

อีกครั้ง..นั่งซ้อนท้ายรถมอ'ไซค์ มึงกลับบ้านดินแดง..ติดไฟแดง
 รถเก๋งคันหลังบีบแตรไล่..หันตะโกนด่าเขา "บีบหาพ่อมึงเหรอ" ไฟเขียวแล้ว
เขาขับรถไล่หลัง เปิดกระจก แน่นอน ด่ามาก่อน แต่คงไม่ถึงกับจอดจะลงมาตื๊บมึง..กูทำไงล่ะ..ก็ได้แต่ตบไหล่ติ..ก้มหน้าทำท่าขอโทษเขา..ถ้ามึงยังเป็นคนใจร้อนอย่างนี้..แม่มึงเขาจะเป็นห่วงมึงมาก..
*
ส่วนลูกชายคนโต คุณป๊อป เขาก็คงห่วงเรื่อง รายได้ไม่พอเลี้ยงลูก 3 เมีย 1 (แต่ตอนนี้คงไม่ห่วงแล้วมั้ง..สมบัติ มรดกเพียบ)
*

วันจันทร์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

20 พย.54...มีแต่คำถาม ไม่มีคำตอบ

จะนั่งรถไปกระโดดน้ำตาย ยังไม่มีค่ารถเลย..เซ็งโว้ย..จะตายยังไง เงินก็ไม่มีซื้อ Vixol
*
ป้อม มึงจำได้มั้ย เมื่อเกือบ 20 ปีก่อน..เอากระดาษไปปิดหน้าประตูบ้าน เขียนด่าลูกน้องคุณศักดิ์ 68/17 กูได้ยินเสียงเอะอะโวยวาย ของพวกผู้ชาย..เรียกคนมา จำมารุมยำตีน กระทืบมึง ..กูได้ยิน ต้องรีบเดินลงไปเอากระดาษออก..เคาะประตูเรียกมึงออกมา..บอกว่า "ถ้ามึงเป็นอะไรไป แม่มึงจะต้องหาเงินพามึงเข้าโรงพยาบาล" ฯลฯ..มึงคงจะไม่ได้หรอก
*
บอกแม่มึงด้วยว่า "กูช่วยชีวิตลูกชายคนเล็กเขาไว้" ไม่งั้นมึงไปนอนหยอดน้ำข้าวต้มเรียบร้อยแล้ว (เดี๋ยวจะว่าทวงบุญคุณอีก)
บอกพี่ชายมึงด้วยว่า "คุณศักดิ์ เพื่อนบ้านที่แสนดีของมัน..ลูกน้องเขาจะกระทืบน้องชายมัน" (ยังไงก็ยังเป็นคนดีอยู่ดีแหละ)
*
ทำไมกูต้องมาเขียนอะไรทุเรศ ทุเรศ อย่างนี้ด้วยวะ..
*
ชีวิตกูไม่มีอะไรดีเลยเหรอ ทำให้พวกมึงมาครึ่งค่อนชีวิต ยังถูกแม่มึงด่าแล้วด่าอีก
*
ทุกวัน ไม่เว้นเสาร์อาทิตย์..ถ้าเป็นวันธรรมดา เลิกเรียน กลับบ้าน ดูทีวีสักพัก ต้องทำกับข้าว หุงข้าว ทำกับข้าวเสร็จแล้ว เติมถ่าน เติมน้ำใส่กาใบใหญ่ ต้มน้ำเดือด พอเย็น..กรอกใส่ขวดเฮลส์ บลูบอย ทุกขวด เข้าตู้เย็น..ถ้าขวดสกปรกมาก มีคราบเหลืองก้วนขวด ม้าจะให้เอาเกลือแกง เม็ดใหญ่ ใส่ขวด ใส่น้ำเล็กน้อย ..ลงไปล้างก้นขวด
*
อาการวันนี้ รู้สึกแย่มาก ร้องไห้จนตาบวม มีแต่คำถาม แต่ไม่มีคำตอบ "ทำไมพวกมึงถึงทำกับกูอย่างนี้"
*
กูก็เดี้ยงจนไม่รู้จะเดี้ยงยังไงแล้ว
*
ไอ้ป๊อป เป็นเจ้าบ้านในทะเบียนบ้าน ดินแดง..นี่ก็ไม่รู้ว่าคุณนายแม่วิภา โอนให้มันหรือยัง
*
ทำไมชีวิตกูถึงเป็นอย่างนี้ ไม่อยากอยู่ก็ไม่ได้ อยากตายก็ยังไม่มีค่ารถไปตายเลย ทุเรศ บัดซบ
*
แต่พวกมึง นอนห้องแอร์ มีมรดก ทรัพย์สิน บ้าน ที่ดิน ค่าเช่า กินกันทั้งชีวิต ถึงลูกถึงหลานก็ยังไม่หมดเลย
*
ทำไมกูถึงเป็นได้แค่หมาขี้เรื้อน หมาจนตรอก หมาข้างถนน.. หมามันยังรักลูกมันเลย..กูทำให้ถึงขนาดนี้..กูไม่ใช่แม่มึง...
*
อาการ ตาบวม ..อยู่ดี ๆ ปากบนข้างซ้าย ก็เจ่อ บวม
*
กูจะตายยังไงดี...
*
ไอ้บัดซบเอ๊ย
*

วันอาทิตย์ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

20 พย.54

ไปหาป๊าครั้งสุดท้าย เห็นต้นมะกรูดต้นเล็ก ๆ ขึ้นที่ขอบปูน เมื่อก่อนเป็นขอบริมบ่อน้ำ ที่เราเอาเมล็ดจากลูกมะกรูด ซื้อที่ตลาดมีนบุรี ไปโรย กลบ ๆ
*
ตอนนี่เทปูนไปแล้ว คงไม่เหลือ
*
พวกมึงเอาแม่มึงไปอยู่ด้วยให้สบาย ซื้อต้นมะกรูดมาปลูกไว้หลายต้นหน่อย 2-3 ปี จะได้มีลูกให้แม่มึงเขาไว้สระผม เหมือนสมัยก่อนโน้น..เผื่อมีใบมะกรูด ให้ชาวบ้านเขาเด็ดไปทำกับข้าว ต้มยำ ทำแกง
*
พวกมึง 2คนพี่น้อง หัดรู้จักให้คนอื่นซะบ้างนะ ..
*
ที่ Lotus มีสบู่ Asepso ขาย ซื้อให้แม่พวกมึงใช้ด้วย สระผม
*
นอกจากจะด่า "ไอ้เหี้ย ไอ้สัตว์ ไอ้กวนตีน" แล้ว ไอ้คุณสุชาติ สุพรรณโกมุท มีอะไรคิดดี มีอะไรพูดดี มีอะไรทำดีกว่านี้มั้ย...
*
สุเทพ สุพรรณโกมุท แม่มึงบอกจะให้มึงเขียนด่ากูมั่ง..เขียนรึยัง..มีอะไรให้เขียนมั้ย..
*
มาแข่งกันเขียนอะไรดีๆ เอามั้ย..ไม่เอาหรอก..พวกมึงเอาแต่สมบัติ มรดก..ใช่รึเปล่า
*

วันศุกร์ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

นึกขึ้นได้ (ไม่ได้ทวงบุญคุณ)

สมัยก่อน ทุกคืนจะเอาผ้ากันเปื้อนของม๊าไปซักด้วยผงซักฟอก จนหมดกลิ่นน้ำมัน สะอาดเลี่ยมเร้เรไร..
แล้วก็ตาก รุ่งขึ้นแห้ง ม๊าก็ใช้ได้เลย...ไอ้คนที่ได้มรดกไป 2 คน มันเคยทำมั่งมั้ยเนี่ย..
*