1พย.57 วันหวยออก / "คาถาชีวิต ยกกำลัง2" / หน้า 125 / "ผลประโยชน์ทำให้คนเปลี่ยน" ความเป็นพี่เป็นน้อง.. ถึงขนาดมุงเอาชีวิตกันก็มี..

1พย.57 วันหวยออก / "คาถาชีวิต ยกกำลัง2" / หน้า 125 / "ผลประโยชน์ทำให้คนเปลี่ยน" ความเป็นพี่เป็นน้อง.. ถึงขนาดมุงเอาชีวิตกันก็มี.. / ที่ห้องสมุดซอยพระนาง เหลือแจกฟรี 1 เล่มนะคะ ขอบอก / ... ความเป็นพี่เป็นน้อง เป็นเพื่อนสนิท หรือแม้แต่พ่อแม่ลูก มักจะเปลี่ยนไป หากมีเงินหรือผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง จนทำให้เกิดการทะเลาะเบาะแว้งหรือทำร้ายกันจนกลายเป็น ศัตรู หรือบางคนถึงขนาดมุ่งเอาชีวิตกันก็มี น่าเสียดาย ถ้าเราลองนึกถึงความรัก ความผูกพันในอดีตที่ต่างมีต่อกันตั้งแต่แบเบาะ เพียงแค่ผลประโยชน์ก็สามารถสร้างปัญหาได้ตั้งแต่ระดับครอบครัวจนถึงระดับประเทศ ^ ^ +++ "เล่นว่าว ปิดเทอม หน้าร้อน".. จำได้ว่าสมัยเด็ก ๆ .. คุณป๊อป ..ซื้อกระดาษว่างจากร้านเจ็กเม๊ง.. ข้างบ้าน แผ่นละ 1 บาท หลายสี.. แล้วเอาไม้กวาดทางมะพร้าว( ที่บ้านขาย) เด็ดออกมา..ทำเป็นโครงว่าง.. นังปู ก็เอาแป้งเปียกกระปุกในตู้ขาย..ออกมาช่วยพี่ชายทำว่าว.. พี่ชายให้ทำ "หางว่าว" ยาว ๆ .. จำไม่ได้ว่าใช้กระดาษหนังสือพิมพ์หรือกระดาษว่าวทำ เราก็นั่งตัดกว้างสัก 1 นิ้ว ยาวสุดกระดาษ.. แปะแป้งเปียก ให้ยาว ...ว..ว.. ม้วน ๆ เสร็จแล้ว. พี่ชายให้เอาออกไปนอกบ้าน.. ให้เราถือว่าว ส่งว่าวให้ ..ส่วนป๊อปก็ถือกระป๋องเชือกว่างวิ่งไป ตะโกน "ปล่อย" ในซอย ../ ครั้งแรก ไม่ขึ้น เอาใหม่ ทำอีกหลายครั้ง.. ก็ไม่ขึ้น เลยต้องเด็ดหางว่าวออก.. / จำได้ว่า "ส่งว่าว" ให้ปีอป ขึ้นไปได้ 1 ครั้ง.. เขาก็เล่นไป เราก็เข้าบ้าน เก็บของที่ทำอยู่ให้เรียบร้อย นั่งทำกับพื้น ส่วนป้อม ..ไม่แน่ใจ ว่าจะทำด้วยหรือเปล่า ไม่นะ.. +++ ... credit ป๊อป สุชาติ สุพรรณโกมุท / หลิน พิมพา สุพรรณโกมุท Lyhn Pimpa Suphankomut.... จบปริญญาโท นิด้า บริหารธุรกิจ...หนีออกจากบ้านซาโกว.. ส่งให้เรียนจบตรี สถาบันฯ เจ้าคุณทหารลาดกระบัง.. สาขา Food Science...

สเต๊ก / น้ำสต๊อกไก่ / ... น้ำสต๊อกหมู (ยังไม่เสร็จ)

สเต๊ก / น้ำสต๊อกไก่ / ... พาร์สเลย์ 2 ช่อ / ไธม์สด โรสแมรีสด อย่างละ 2 ช่อ / ใบกระวาน 2 ใบ / โครงไก่ (โครงละ 600-650 กรัม) 2 โครง / น้ำ 12 ถ้วย / กระเทียมกลีบใหญ่บุบพอแตก 5 กลีบ / พริกไทยดำบุบพอแตก 1/2 ชช. / หอมใหญ่(หัวละ 160 กรัม) ปอกเปลือกหั่นชิ้น 1/2 หัว / แครอท (หัวละ 180 กรัม) 1/2 หัว/ ก้านเซเลอรี่หั่นชิ้น 50 กรัม / เกลือสมุทร 1 ชช. / เชือกฝ้ายสำหรับผูก / ผ้าขาวบางสำหรับกรอง *** ... ... มัดช่อบูเก้ การ์นี Bouquet Garni มีช่อพาร์สเลย์ ไธม์สด โรสแมรี และใบกระวาน ด้วยเชือกฝ้ายให้แน่น เตรียมไว้ / จากนั้น ล้างโครงไก่ให้สะอาด ใส่ลงลวกในหม้อน้ำเดือดจัด ตักขึ้นใส่ในหม้ออีกใบ ใส่น้ำ กระเทียมบุบ และพริกไทยดำบุบ ยกขึ้นตั้งบนไฟกลาง ต้มจนน้ำเริ่มเดือด ลดเป็นไฟอ่อน หมั่นช้อนฟองทิ้ง ต้มนานประมาณ 30 นาที / ใส่หอมใหญ่ แครอท ก้านเซเลอรี่และช่อบูเก้ การ์นี ปรุงรสด้วยเกลือ ต้มเคี่ยวนาน 1-2 ชม./ จนน้ำนต๊อกหอมหวาน ปิดไฟ *** ... ยกลงกรองเอาแต่น้ำสต๊อกด้วยผ้าขาวบางใส่หม้ออีกใบ พักไว้ให้เย็น เก็บใส่ภาชะ ปิดฝาให้สนิท โดยเขียนชื่อและวันเวลาที่ทำติดไว้ ถ้าใช้ไม่หมดให้ตักแบ่งใส่ถุงหรือกล่องพลาสติก แช่ตู้เย็นช่องแข็ง +++ Tips โครงไก่ล้างให้สะอาด ลอกหนัง และเอามันไก่ออก สับครึ่งตัวหรือชิ้นใหญ่ จะช่วยให้น้ำหวานจากโครงไก่ออกมามากเวลาต้ม +++.......ไขมันที่ลอยหน้าน้ำสต๊อกไม่ต้องช้อนทิ้งจนกว่าจะใช้ เพราะไขมันนี้จะช่วยไม่ให้อากาศเข้าไปในน้ำสต๊อก ซึ่งจะทำให้เสียง่ายน้ำสต๊อกที่ดีต้องใส ควรทำล่วงหน้าก่อนที่จะใช้ 1 วัน แบ่งใส่ภาชะนให้พอใช้ในแต่ละครั้ง แล้วเก็บในช่องแช่แข็ง ไม่ควรเก็บไว้นาน โดยเฉพะในที่ที่มีอากาศร้อน.. ++++ ^ ^ ... น้ำสต๊อก (Stock) ... น้ำสต๊อก น้ำต้มกระดูกับผักและเครื่องเทศสมุนไพร ต้มเป็นเวลานานจนมีรสหวาน กลิ่นหอม และใส ไม่มีการปรุงรสใด ๆ ทั้งสิ้น น้ำสต๊อกแบ่งเป็น 2 ประเภทใหญ่ ดังนี้ ^ ^ ... น้ำสต๊อกขนิดสีขาวใส (white sotck) เป็นน้ำสต๊อกที่ต้มกระดูกกับผักและเครื่องเทศสมุนไพรจนมีรสหวานหอม ใส นิยมทำน้ำสต๊อกไก่ (chicken stock) น้ำสต๊อกปลา (fish stock) จะใช้ในการทำซอสขาว ซุปข้น น้ำสต๊อกเนื้อวัวหรือหมู (beef or pork brown stock) ก็มีเช่นกันแต่ไม่นิยม ^ ^ ... น้ำสต๊อกชนิดสีน้ำตาล (brown stock) เป็นน้ำสต๊อกที่ต้องอบกระดูและผักจนมีสีน้ำตาลก่อน เพื่อดับกลิ่นคาวของกระดูก โดยเฉพาะกระดูกวัว อีกทั้งยังช่วยให้น้ำสต๊อกมีสีและรสดี แล้วนำไปต้มเคี่ยวจนน้ำสต๊อกมีรสหวาน กลิ่นหอม นิยมมากคือน้ำสต๊อกวัว (brown beef stck)และบางครั้งก็ทำน้ำสต๊อกหมู (brown pork stock) และน้ำสต๊อกแกะ (brown lamb stock) ) ด้วย ^ ^ ... บูเก้ การ์รี (bouquet garni) ช่อเครื่องเทศที่ใส่ต้มน้ำสต๊อกเพื่ออช่วยให้มีกลิ่นหอมและดับกลิ่นคาว ช่อเครื่องเทศก็มี เซเลอรี ช่อพาร์เลย์ ไธม์สด โรสแมรีสด และใบกระวาน มัดรวมกันด้วยเชือกฝ้าย ^ ^ ... ผักต้มน้ำสต๊อก (morepoix) ช่วยทำให้สน้ำสต๊อกมีรสสหวาน มีหอมใหญ่ แครอท เซเลอรี ^ ^ ... หม้อต้มน้ำสต๊อก (stockpot) ควรเป็นหม้อทรงสูงใบใหญ่ที่มีหูจับ จะได้มีพื้นที่และปริมาตรมากพอจะบรรจุน้ำและส่วนผสมต่าง ๆ ได้ในปริมาณมาก **** ^ ^ ... น้ำสต๊อกปลา fish stock 6 ถ้วย... ก้างปลา 1 กก. / น้ำ 12 ถ้วย / หอมใหญ่ (หัวละ 160 กรัม) ปอกเปลือกหั่นชิ้น 1/2 หัว / แครอท (หัวละ 180 กรัม) ปอกเปลือกหั่นชิ้น 1/2 หัว / ก้านเซเลรีหั่นชิ้น 100 กรัม / เห็ดฟางผ่าครึ่ง 150 กรัม / เกลือสมุทร 1 ชช. / ผ้าขางบางสำหรับกรอง +++ **** ล้างก้างปลาให้สะอาด ใส่ลงลวกในหม้อน้ำเเดือดจัดด้วยไฟแรง ตักขึ้นใส่ในหม้ออีกใบ ใส่น้ำ ยกขึ้นตั้งบนไฟกลาง ต้มจนน้ำเริ่มเดือด ลดเป็นไฟอ่อน หมั่นช้อนฟองทิ้ง ต้มนานประมาณ 30 นาที ใส่หอมใหญ่ แครอท ก้านเซเลรีและเห็ดฟาง ปรุงรสด้วยเเกลือ ต้มเคี่ยวนาน 1-2 ชม. จนน้ำสต๊อกออกหอมหวาน ปิดไฟ *** ยกลงกรองเอาแต่น้ำสต๊อกด้วยผ้าขาวบางใส่ในหม้ออีกใบ พักไว้ให้เย็นเก็บใส่ในภาชนะ ปิดฝาให้สนิท โดยเขียนชื่อและวันเวลาที่ทำติดไว้ ถ้าใช้ไม่หมดให้ตักแบ่งใส่ถุงหรือกล่องพลาสติกแช่ใส่ตู้เย็นช่องแช่แข็ง Tips.. ก้างปลาควรเลือกใช้ปลาตัวใหญ่และมีเนื้อสีขาว เพราะถ้าใช้ปลาที่มีเนื้อสีเข้มมาต้ม น้ำสต๊อกจะมันมากเกินไป ^ ^ ... น้ำสต๊อกวัว.. 4 ถ้วย Brown Beef Stock ... กระดูกวัวสับท่อน 1,600 กรัม / พาร์สเลย์ 2 ช่อ / ไธม์สด 2 ช่อ / โรสแมรีสด 2 ช่อ / ใบกระวาน 2 ใบ / น้ำมันกะมกอก 1/4 ถ้วย / หอมใหญ่ (หัวละ 160 กรัม) ปอกเปลือกหั่นชิ้น 1/2 หัว / แครอท (หัวละ 180 กรัม) ปอกเปลือกหั่นชิ้น 1/2 หัว / ก้านเซเลรีหั่นชิ้น 50 กรัม / ซอสมะเขือเทศเข้มข้น (tomato paste) 3 ชต./ น้ำ 12 ถ้วย / กระเทียมกลีบใหญ่บุบพอแตก 5 กลีบ / พริกไทยดำบุบพอแตก 1/2 ชช. / เกลือสมุทร 1 ชช. / เชือกฝ้ายสำหรับผูก / ผ้าขาวบางสำหรับกรอง --- --- *** อุ่นเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส เตรียมไว้ จากนั้นล้างกระดูกวัวให้สะอาด ซับน้ำให้แห้ง พักไว้ แล้วมัดช่อบูเก้ การ์นี (bouquet garni)(มีพาร์สเลย์ ไธม์สด โรสแมรีและใบกระวาน ด้วยเชือกฝ้ายให้แน่น เตรียมไว้ *** ใส่น้ำมันมะกอกลงในถาดสำหรับอบ นำถาดเข้าเตาอบ อบจนร้อนจัด ใส่กระดูกวัว อบจนกระดูกมีสีน้ำตาล ใส่หอมใหญ่ แครอท และก้านเซเลอรี อบต่อจนผักสุกนุ่มเป็นสีน้ำตาล ใส่ซอสมะเขือเทศเข้มข้น อบต่ออีกเล็กน้อย ยกออกจากเตา ตักกระดูกวัวอบใส่ในหม้อ ใส่น้ำ กระเทียมบุบ และพริกไทยดำบุบ / ยกขึ้นตั้งบนไฟกลาง ต้มจนน้ำเริ่มเดือด ใส่ผักที่อบ หมั่นช้อนฟองทิ้ง / ต้มนานประมาณ 30 นาที ใส่ช่อบูเก้ การ์นี / ปรุงรสด้วยเกลือ ลดเป็นไฟอ่อน ต้มเคี่ยวนาน 1-1.30 ชม. จนน้ำสต๊อกมีสีน้ำตาล ปิดไฟ -- *** ยกลงกรองเอาแต่น้ำสต๊อกด้วยผ้าขาบางใส่หม้ออีกใบ พักไว้ให้เย็น เก็บใส่ภาชะ ปิดฝาให้สนิท โดยเขียนชื่อและวันเวลาที่ทำติดไว้ ถ้าใช้ไม่หมด ให้ตักแบ่งใส่ถุงหรือกล่องพลาติก แช่ในตู้เย็นช่องแช่แข็ง Tips. อบกระดูกเหลืองแล้ว ให้ตักไขมันที่อยู่ในถาดออกบ้าง เเมื่อเทกระดูกกับผักใส่ลงในหม้อแล้วต้องใช้พายไม้ขูดไขมันหรือเศษเนื้อในถาดใส่ลงในหม้อด้วย เพราะเป็นส่วนที่ทำให้น้ำสต๊อกมีรสดี.. ^ ^ ... น้ำสต๊อกหมู 6 ถ้วย Brown Pork Stock...... กระดูกเอียวเล้ง 1 กก. / พาร์สเลย์ 2 ช่อ / ไธม์สด 2 ช่อ / โรสแมรีสด 2 ช่อ / ใบกระวาน 2 ใบ/ น้ำมันมะกอก 1/4 ถ้วย/ หอมใหญ่ (หัวละ 160 กรัม) ปอกเปลือกหั่นชิ้น 1/2หัว / แครอท (หัวละ 180 กรัม) ปอกเปลือกหั่นชิ้น 1/2หัว / ก้านเซเลรี่หั่นชิ้น 50 กรัม / ซอสมะเขือเทศเข้มข้น (tomato paste) 3 ชต. / น้ำ 12 ถ้วย / กระเทียมกลีบใหญ่บุบพอแตก 5 กลีบ / พริกไทยดำบุบพอแตก 1/2 ชช. / เกลือสมุทร 1 ชช. / เชือกฝ้ายสำหรับผูก / ผ้าขาวบางสำหรับกรอง --- ** อุ่นเตาอบที่อรุณห๓ภูมิ 180 เงศาเซลเซีย สเตตรีมไว้ จากนั้นล้างกระดูกหมูให้สะอาด ซับน้ำให้แห้งพักไว้ แล้วัช่อบูเก้ก ร์นี พาสเลย์ ไธม์สด โรสแมรี และใบกระวาน ด้วยเชอืกว้ายให้แน่น เตรียมไว้ *** ใส่นำนมะออกลงในถาดสำรหับอบ น้นำถาดเข้าเตาอบ อบจน้รอนจัด ใส่กระกหมู อบจนกระดูกมีสีน้ำตาล ใส่หมอใหญ๋ แครอท และด้านเซเลรี อบต่อจผักสุกน่มเป็นสีน้ำตาล ใส่ซญอสมะเจขือทเศขเจ้มาข้น ต่ออต่อกเล็นก้ยอ ยกออกจากเตา ตักกรุดูกหมูอบใส่ในหม้อใ ใส่น้ำ กระทเยมบุบ และพะริกทไยดำบุบ ยกขึ้นตั้งไบนไฟกลาง ต้าจนน้ำเริ่มเดือด ในผักที่อบ หานช้อนฟงอทิ้ง ต้นานประมราณ 30 สนาที มใขช่อบูเก้ การ์นี ปรุงรสด้วยเกลือลดเป็นไฟอ่อน ต้าเคี่ยวนาน 1-1.30ชม. จนน้ำสต๊อกมีสีน้ำตราลป ไฟ *** ยกลงกรองเอาตแน้สต๊อกด้วยผ้าขาวบางใส่หมอ้อีกใบ พักไว้ใหเห้เย็น เก็ฐใส่ภาชนะ ปิกฝาหใสนิท โดยเขียเชือ่และวันเวลาที่ทำปติดไว้ ถ้าไม่หมดให้ตักแบ่งใส่ถุงหรือลก่องพลาสติกแช่ใตเย็สช่องแช่แข็ง Tip. กรุดูหมูเอียวเ เล้งคือกระดูกซี่โคง ทำน้ำสต๊อกแล้วมีรสหวานกว่าใช้กระดูกข้อที่เรีกว่าคาตัง.. แล้วรกะดูกใบพัด คือส่วนไหนนะ.. ^ ^ ...

สเต๊ก / น้ำสต๊อกไก่ / ...

สเต๊ก / น้ำสต๊อกไก่ / ...

สเต๊ก / น้ำสต๊อกไก่ / ...

สเต๊ก / น้ำสต๊อกไก่ / ...

สเต๊ก / น้ำสต๊อกไก่ / ...

แล้วมีห้องแต่งตัวให้เค้าอะป๋าว ..เค้าก็ชอบความเป็นส่วนตั๊ว ส่วนตัว..

แล้วมีห้องแต่งตัวให้เค้าอะป๋าว ..เค้าก็ชอบความเป็นส่วนตั๊ว ส่วนตัว..

วันนี้วันอะไรหว่า.. งง.งง..แต่เช้า

วันนี้วันอะไรหว่า.. งง.งง..แต่เช้า

68/14-15 K.C.Garment... อยากให้เจ้านายลองถาม แม่บ้านผมยาว ดูซิว่า.. เวลาเจอฉันที่ตลาด เดินสวนกั้นทั้งไกลและใกล้ เขามองหน้าฉันมองตัวมองท้องฉันหรือเปล่า?

68/14-15 K.C.Garment... อยากให้เจ้านายลองถาม แม่บ้านผมยาว ดูซิว่า.. เวลาเจอฉันที่ตลาด เดินสวนกั้นทั้งไกลและใกล้ เขามองหน้าฉันมองตัวมองท้องฉันหรือเปล่า?/ เพราะนับรวมๆ ก็ประมาณ 6-7 ครั้งแล้ว.. เริ่มจากเดินสวนกันซอยบุญอยู่.. ฉันเห็นเขาก็เดินข้ามไปเดินฝรั่งตรงข้ามกับที่แม่บ้านผมยาว ดำ หน้าแก่เดิน.. มิใย.. หล่อนเห็นเดินมา.. ก็รีบข้ามถนน รีบเดินมาประชิดตัวฉัน.. แล้วมองหน้า สลับกับมองท้อง.. (ทำซ้ำหลายครั้ง..แม้แต่ 2 เท้าเดินไปข้างหน้า 2 ตาของเธอยังต้องหันมามองฉันอีก) หน้าตาฉันก็ไม่ใช่ "มอง เธอสาวเธอสวย ฉันจึงได้มอง" กูก็แก่จะตายห่า สวยก็ไม่สวย.. หน้าปุปะ.. มันมองหาอะไรวะ.. / จะว่าหน้าเหมือนดาราก็ไม่ใช่ / จะว่าหน้าฉันเหมือนญาติฝ่ายพ่อหรือฝ่ายแม่หรือปู่ย่าตายายของหล่อนก็ไม่ใช่ / วันหนึ่ง ฉันยืนซื้อทอดมันหน้าร้านพี่เปี๊ยก หันไปเห็นแม่บ้าน เดินฝั่งตรงข้าม ถึงหน้าทศท.รกร้างแล้ว.. / หล่อนรีบวิ่งข้ามถนนมาเฉียดประชิดตัว ด้านหลังฉัน (นึกแล้วว่ามันต้องมาแบบนี้) เลยยกเท้าขึ้นมาเกา.. ถ้ามาเฉียดกู กูจะถีบให้หงายเงิบไปเลย.. / มองตามไป.. เห็นผู้หญิงกลุ่มหนึ่ง เดินอยู่ ห่างจากหัวมุมเข้าซอยเล็กๆไป มากกว่า 5-6ห้องแถวแล้ว.. แม่บ้านสาระฯ.. รีบวิ่งกวดให้ทันเขา ..เพื่อจะพูดคุยด้วย (เท่าที่เคยเห็น ..หล่อนเดินแวะคุยไปทั่ว ไม่ว่าจะเป็นคุณป้าธรรมะ หัวมุมศาลเจ้า.. คนในซอยหน้าคอนโดฯ คนในซอยหน้าร้านทำผม ฯลฯ) / เช้านี้ พฤหัสฯ ตึ 5 ตื่นออกไปล้างชาม ซักผ้า.. ดาดฟ้า.. เสียงแม่บ้านออกมาเกือบตี 5 ครึ่ง.. / ขัดผ้า ซีบ ซีบ ซีบ.. / เลยบ่นด่าดัง ๆ ไม่รู้ตัวเหมือนกันว่ากูด่าใคร..เพราะไม่เอ่ยชื่อ (อ้อ เมื่อวานพุธ 29 ตค. กำลังยืนซื้อบะหมี่รถเข็นอยู่ เห็นแม่บ้านสาระฯ เดินถือถุงผัก หันรีหันขวางหน้าร้านหมู.. แล้วก็เดิน เราเห็นแล้ว.ดูซิว่ามันจะมองอีกมั๊ย.. ไม่แปลกใจ ฉันกำลังตักเครื่องปรุงใส่กล่องบะหมี่ หยุดทันที ใช้หางตาเหลือบมอง..ไปทางซ้าย / แม้บ้านสาระฯเคซี.. หยุดหน้าปากทางเข้าตลาด หันมามองเรา.. (ห่างกันหลายเมตร แต่ไม่มีคนเดินตลาดช่วงนั้น) ฉันเห็นแล้ว.. เลยรอดู (ลูกค้าบะหมี่ไม่มี).. / หล่อนเดินหน้าแล้วหยุด 2 ตาหันมามองตัวฉันมองหน้าฉันอีก.. / 1 ครั้ง 2 ครั้ง 3 ครั้ง.. "อ้าวมองหาโครตพ่อโครตแม่มึงเรอะไง( คิดในใจ) หรือหน้ากูเหมือนญาติฝ่ายพ่อฝ่ายแม่ ฝ่ายบรรพบุรุษของมึง" / ยืนซักผ้าไปก็บ่นด่าไปลั่นดาดฟ้า.. ไม่ได้ด่าใครเฉพาะจงจงชื่อ.. เอ่ยลอย ๆ .. "ถ้าทำแม่มันไม่ได้ ก็แทงลูกมันแทนสิ กำลังวัยรุ่น หน้าตาดีทีเดียว. ใส่เสื้อผ้าวัยรุ่น กางเกงขาสั้น เสื้อยืด" / "ตลาดมีคนเป็นร้อยเป็นพันไม่มอง ..ทางเดินมีไว้ให้มอง ไม่มอง.. ต้องมามองกู" .. วันก่อนฝนตกหนัก..เรากินข้าวมันไก่เสร็จแล้ว.. ยืนรอฝนซา..หน้าร้านทอง. แม่บ้านสาระฯเคซี. เดินถือถุงผัก เดิน ๆ มองหน้ามองตัวเราอีก.. (บังเอิญหันไปเห็น เดินผ่านมันก็มอง).. / รวมๆ แล้ว ก็ 6-7ครั้ง.. เมื่อคืนนอนคิดตลอดทั้งคืน..ว่าจะไป สน.ดินแดง ไปแจ้งความลงบันทึกประจำวัน ..ว่ามีผู้หญิงโรคจิต..มันมองหน้า ทุกครั้งที่เจอกัน เดินสวนกันในซอยมันก็มองหน้า มองตัว.. เดินประชิดตัว หลายครั้ง.. / เจอกันที่ตลาดมันก็มองหน้ามองตัวเรา.. หลายครั้ง ตั้งใจว่า จะไปแจ้งความตำรวจ ... ว่า "อาจมีความประสงค์ประทุษร้าย ทำร้ายร่างกาย หรืออาจประสงค์ต่อทรัพย์ จี้ปล้นทรัพย์สินฉัน" เพราะมันมองทุกครั้ง.. / แต่เอาไว้ก่อน.. ด่าเตือนไปแล้ว.. ถ้าเจอคราวหน้า.. ยังเสือกสาระแนเป็นนักสำรวจมองหน้า มองท้อง มองตัวกู บบไม่เกรงใจ ไม่มีสามัญสำนึก มองกูอย่างไม่มีมารยาทอีก.. กูจะเดินตามหลัง เอามีดสั้น (ต้องซื้อใหม่ ๆ ให้คมกริบ)จ้วงแทงข้างหลังให้จมคากองเลือด ตายคาตลาด.. (แล้วบอกตำรวจ ว่า กูเป็นคนบ้า.. หวาดระแวง เพราะอีแม่บ้านสาระแน เคซี มันมองหน้า มองท้อง มองตัวฉันทุกครั้งที่เห็นฉัน ไม่จะในระยะกใกล้ (ประชิดตัวแหละ ห่างกันไม่ถึงคืบ) หรือระยะไกล หลายเมตร มันก็มอง.. ฉันเลยหวาดระแวงเกรงว่าจะถูกแม่บ้านเคซี 68/14-15 ทำร้ายร่างกายหรือจี้ปล้น เลยต้องพกมีดไว้เอาไว้ป้องกัน..ทีนี้เห็นเขามองหลายครั้งแล้ว ฉันเลยเกิดความกลัว มันหลอน (ฉันไม่เคยไปมองหน้าเขา ไม่เคยไปหาเรื่องเขาก่อน.. แม้แต่เรื่องบุหรี่ ก้นบุหรี่ที่ถูกทิ้งไม่รู้จากไหน ใกล้กับริมบ้านเคซี ตกบนหลังคาคืนละชิ้น 2 ชิ้น จนมองเห็น 5 ชิ้นแล้ว ไปถามเจ้าของบ้าน.. ไม่มีใครรับว่า พวกเขาทิ้งก้นบุหรี่ใส่หลังคาชั้น 3 บ้านเรา.. แม่บ้านก็มาหลังบ้านแว๊ดแหว ทำไมเธอไม่มาบอกชั้น เธอก็รูว่าชั้นทำงานอยู่ตรงนี้..(ทำไมกูต้องบอกสึง. กูไม่ใช่ขี้ข้า เป็นลูกเจ้าของบ้านนี้ คุยกับเจ้าของบ้านเคซี ไม่ถูกต้องเหรอ).. มันแว๊ดแหว อยู่อย่างนั้น)... ) / บอกตำรวจว่า เราเป็นบ้า กลัวถูกแม่บ้านเคซีทำร้าย เพราะมองเราทุกครั้งที่เห็นฉัน.. มองหน้า มองท้อง มองตัว สายตาลดต่ำก้มหน้ามองที่ท้องฉัน จ้องแบบไม่มีมารยาท คนเราไม่ได้พูดคุยรู้จักกันฉันท์เพื่อน.. แต่มองหน้ามองท้องแบบนักสำรวจ.. คิดชั่ว ๆ .. หรือเปล่าไม่รู้.. / กูจะเอามีดแทงตามันซะ จะไม่ไม่ต้องมามองกวนตีนกูอีก.. / คุณปีอป สุชาติ สุพรรณโกมุท ว่าดีมั๊ย กับเพื่อนบ้านที่แสนดีของมึง.. เห็นคุยกับแม่บ้าน รักกันดี..เหมือนพี่น้อง.. / แต่ถ้าแม่บ้านเคซีปฏิเสธไม่ได้มองฉันเลยแม้แต่น้อย.. ฉันก็จะถือว่าเข้าใจผิด คิดไปเอง ประสาทหลอนไปเอง.... / แต่ก็ไม่รู้สิ มันหลอน เห็น คิด ว่ามันมองฉันทุกครั้ง แทงมันตายแล้ว.. ช่วยไม่ได้.. ที่มีเยอะแยะไม่เดิน ดันเสือกมาเดินเฉียดกู.. วิ่งเฉียดหลังกู. เลยแท่งแม่งซะเลย. กินข้าวในคุก ..ก็ฟรี.. นอนฟรี สบายกว่านอนนรกดาดฟ้าเสียอีกกระมัง.. / ดัดสันดาน สาระแน..แส่ทุกเรื่อง. / แม้แต่ทำบ้าน ก็เดินถือวิสาสะ เข้ามาดู ส่องนั้นส่องนี่ สำรวจว่าลุงช่างทำงานเป็นอย่าไร.. ทำไมเป็นเจ้าของบ้าน..เคซี มาสำรวจผลงานลุง จะจ้างทำงานประมาณนั้น ..อ้วกแตก.. / กูยืนอยู่ก็ไม่ทัก ไม่ขออนุญาต.. อบรมกันหน่อยนะคะ ถ้าวันหลังเห็นเดินข้าบ้านกู กูแทงตายห่า.. ข้อหา บุกรุก ประสงค์ต่อทรัพย์ ว่ากันไม่ได้นะคะ...เจ๊ไม้เสียบผี/ เกรงใจตำรวจ เลยยังไม่ไป สน.ดินแดง..แต่สักวันอาจได้ไป.. ค่ะ..

68/17 ซอยบุญอยู่ SAK GARMENT.... เช้านี้ ถุงขยะ (แบบปลอกหมอน)ยาว ยกขึ้นพาดทับบนแป๊ปมิเตอร์น้ำประปา.. ก้นถุงด้านหนึ่งพาดพิงบนท่อน้ำประปาสีฟ้า (แอ่นแล้วเนื่องจาก บ้านสัก เขาเอาไม้อัดแผ่นใหญ่ไปขัดท่อประปาไว้แต่ก่อน).. ชุ่ย ชั่ว

68/17 ซอยบุญอยู่ SAK GARMENT.... เช้านี้ ถุงขยะ (แบบปลอกหมอน)ยาว ยกขึ้นพาดทับบนแป๊ปมิเตอร์น้ำประปา.. ก้นถุงด้านหนึ่งพาดพิงบนท่อน้ำประปาสีฟ้า (แอ่นแล้วเนื่องจาก บ้านสัก เขาเอาไม้อัดแผ่นใหญ่ไปขัดท่อประปาไว้แต่ก่อน).. ชุ่ย ชั่ว / เมื่อวานเช้าถึงกลางวัน.. พุธ 29 ตค.57 .. ถุงขยะ เข้าใจว่าเป็นถุงพลาสติกหุ้มม้วนผ้า(ตัดเสื้อ) ห่อใหญ่ น่าจะกว้าง 10-12 นิ้ว.. พอใส่เศษผ้าเต็มถุง ใช้เศษผ้ามัดหัวท้าย.. / เช้านี้ มีถุงขยะดำ..ใหญ่.. มีเศษผ้าชิ้นใหญ่ มัดปากถุงไว้ กองไว้ข้างเสา ฝั่ง 68/16 หน้าบ้านสักการ์เม้นท์ มีรถมอเตอร์ไซค์จอดชิดประตูติดเสาไฟฟ้า.. ถุงขยะปลอกหมอนพาดไม่ถึงรถเค้า / เมื่อวานถุงขยะปลอกหมอน ถูกทิ้งวางนอน เอียง 45 องศา ริมเสาไฟฟ้า.. ก้นถึงด้านหนึ่งอยู่เลยเสาไป 68/17 นิดเดียว.. / มีรถสีเขียวจอดหน้าบ้านเขา หน้ารถเกยเลยเสาไฟฟ้ามาบ้านเรา เกือบถึงล้อ.. หน้าบ้าน K.C. มีรถกระบะจอดอยู่ ท้ายรถ อยู่ในเขตริมบ้านเขาพอดีเป๊ะ.. เวลารถ 68/16 ออกจากบ้าน ต้องออกอย่างเดียว.. วันก่อนป้อมเปิดประตู ต้องเปิดกางได้แค่หลังรถกระบะของบ้านเคซี.. ไม่ให้ชิดท้ายกระบะเขา.. ไปชะโงกดูแล้ว..เวลารถบ้านนี้จะเข้าจอดหน้าบ้านเขา ล้อรถต้องเหยีบบหน้าบ้านเรา.. แต่เวลารถบ้านเราออก.. ต้องออกตรง ๆ แล้วไปหาทางกลับรถเอาข้างหน้า.. / ต้องจอดหน้าคอนโดฯ เพื่อข้ามถนนมาปิดประตูเหล็กบานใหญ่ .. / วันก่อน รถ 2091 ซูซูกิ ของ เลิศลักษณ์ ก็จอดเต็มหน้าบ้าน.. กระบะ 2091 รถสีเขียว.. เดินเข้าหน้าบ้านตัวเองไม่ได้..ต้องเดินอ้อมหน้ารถกระบะของเคซี.. เดินไปเปิดประตูเข้าบ้าน.. เวรกรรม / เอากระดาษนสพ.จับปากถุง.. เอ๊ะไม่มา ไม่ขยับเลย. ถึงได้รู้ว่าที่เห็นเป็นเศษผ้า มันหนักไม่น้อยกว่า 15-20 โล.. ลากก็ไม่มา.. ต้องออกแรงสุดเกิด สุดชีวิต ลากหัวถุงออกมา วางล้มลงนอนกับพื้น ตอนแรกจะวางขวางหน้ารถสีเขียวของมันแล้ว. แต่สันดานเราไม่ใช่อันธพาลเหมือนเจ้าของรถ (ที่มันเคยขับรถเร่งเครื่องบรื้น ล้อรถมันบีกระถางต้นไม้ของเราแตกเลย บิ่น มีรอยล้อรถสีดำ ๆ ติดอยู่ที่กระถาง) เลยถีบถุงขยะปลอกหมอน ถีบ ๆ ให้ขนานไปกับล้อรถ ข้างตัวรถด้านใน (รถจอดเกือบถึงครึ่งเส้นกลางถนน).. / ไม่ให้ชิดล้อรถมัน.. / บันทึกฉบับนี้เขียนไว้เพื่อ.. 1.ให้เจ้าของบ้าน 68/16 ซอยบุญอยู่ ได้รู้ความเป็นไป..เวลาที่คุณป๊อป สุชาติ สุพรรณโกมุท จะได้รู้ว่า "เพื่อนบ้านที่แสนดี" (อีซ๊อเมียน้อย มันพูดใส่เรา .. "พี่ชายก็แสนจะดี๊ดี" ก็เพื่อนบ้าน 2 คนนี้ก็คงจะดี๊ดีพอกัน).. / ถ้ามิเตอร์น้ำประปา มันหัก งอ ชำรุด.. สาเหตุมาจากถุงขยะปลอกหมอนของ "สักการ์เม้นท์" 68/17 ซอยบุญอยู่.. / 2. บันทึกเพื่อให้ลูกหลานของบ้านสักการ์เม้นท์ ในอนาคต ถ้าแวะมาอ่านเจอ.. จะได้รู้ว่ารุ่นพ่อแม่.. จัดการกับขยะทางธุรกิจ เอาเปรียบ เป็นสันดานแบบนี้.. เป็นลูกหลาน (ส่วนตัวแล้วเชื่อว่า ลูกหลานเขาได้รับการศึกษาที่ดี..อยู่ในสังคมที่ดี.. น่าจะนิสัย และมีความคิดดีกว่ารุ่นพ่อแม่).. จะเอาเยี่ยง หรือเอาอย่าง.. ทิ้งขยะหน้าบ้านคนอื่นอย่างไร้สามัญสำนึก ไร้ยางอาย.. / หรือถ้าเป็นลูกจ้างทำ แต่นายจ้างเห็นแต่นิ่งเฉย.. ก็แสดงว่า "ลูกจ้างชุ่ย" "นายจ้างชั่ว".. ใช่หรือไม่..คุณป๊อป.. กูก็ทำได้แค่นี้.. อ้อ เมื่อวาน พุธ29ตค.มีขี้หมากองสีดำ 2 ก้อนยาว ๆ (หมาใหญ่)กองอยู่ เช้านี้พฤหัสฯ ไม่มีแล้ว.. แต่มีร่องรอยฉี่หมาเป็นทางยาว (คงฉี่ใส่ถุงขยะปลอกหมอนของสักการ์เม้นท์).. จบข่าว.. / บันทึกส่วนตัว ไม่ได้แชร์.. เพราะคุณแม่วิภา บอก "ไม่มีใครอ่านของมึงหรอก" / อย่าโกรธกันนะคะ คุณสัก การ์เม้นท์ พวกคุณทำอย่างนี้จริง ๆ .. ถ้ามีกล้องถ่ายรูป ฉันจะถ่ายรูปลง เน็ต ลงFacebook ถ้ามี IG เมื่อไหร่ก็จะลงไอจีด้วย.. สาบาน / ... ส่วนกลางคืน หลายคืนแล้ว.. ห้องนอนดาฟ้าของสักการ์เม้นต์ จะมีเสียงเคาะพื้น ทุบพื้น ตอนดึก ๆ ../ มีวันสองวัน.. นานแล้ว.. เคาะพื้นเสียงจังหวะเพลง. นานมากเลย ประมาณ 2ทุ่มกว่า... / เสียงปิดประตูปึ้งเบ้อเริ่ม.. ก็ต้องทนเอา.. บ้านตึกมันก็อย่างนี้.. เวลาเสียบจักรก็มีเสียงเอี๊ยด ๆ ๆ ๆๆ เวลาตอกกระดุม ก็เสียงฆ้อน แป๊ก ๆ ๆ ๆ ๆ แล้วก็เสียงวางฆ้อน กระเด้ง เป่ก เป่ก เป่ก เป่ก...

เสื้อถัก คาร์ดิแกน / เป่าเจิน.. แปลว่าอะไรอ่า.. / 3364 How To Knit Half Cardigan . Gao TengFei

3364 How To Knit Half Cardigan . Gao TengFei ฿฿ http://www.youtube.com/watch?v=eizfA-sN2W4 ๓๓ ... เสื้อเด็ก ถักแขน ต่อเป็นลายเปีย / .Knitting Strips Together -- Patches Baby Sweater 001.mp4 . Patty Joy Tutorials ฿฿ http://www.youtube.com/watch?v=RE9VwPdN61M ๓๓ .... .Knit Along Simple Spring Swing Cardigan Part 2 . Red Heart ฿฿ http://www.youtube.com/watch?v=9s9sIFmntW8 ๓๓ .... .Vest Jacket part 1 . Dixie Grilley ฿฿ http://www.youtube.com/watch?v=AY1MNtmMHrs ๓๓ .... ถักแขนในตัวจากคอเสื้อลงไป / .Dividing for sleeves in a top-down raglan sweater . Roxanne Richardson ฿฿ http://www.youtube.com/watch?v=8nU-u__w6uQ ๓๓ ... .top down raglan fixing missed increase . ฿฿ http://www.youtube.com/watch?v=k2A44mOtKUE ๓๓๓ .... .ถักขอบเสื้อ ลายการ์เตอร์ / Knit Vest Video Workshop . Dixie Grilley ฿฿ http://www.youtube.com/watch?v=SR5Y5XdHhuc ๓๓ .... ไอเดีย / สวย / (6) Mixed Knitting Crochet Lace Models New Samples Designs Trends . ฿฿ http://www.youtube.com/watch?v=nzDcXAH1FbY ๓๓ภ .... เสื้อคลุมตัวสั้น ครึ่งตัว / สวยมาก / น่าจะถักไม่ยาก / .Entrechat Pattern - Knit Sweater Pattern Presentation . ฿฿ http://www.youtube.com/watch?v=-1Bi6lMSq9U ๓๓๓

นิตติง เสื้อคลุมไหล่ คอกลมไม่มีแขน.. http://www.google.co.th/url?url=http://www.favecrafts.com/Knit-Sweaters/Cable-Half-Poncho-Knitting-Pattern-from-Red-Heart&rct=j&frm=1&q=&esrc=s&sa=U&ei=vlJQVJrbHMr88AWXpYCIDQ&ved=0CB0Q9QEwBA&sig2=FOdZUpDpuZEl4s0-Dm63Ww&usg=AFQjCNGCnZ2LdE307evSWnZd-dHffMyf9g

http://www.google.co.th/url?url=http://www.favecrafts.com/Knit-Sweaters/Cable-Half-Poncho-Knitting-Pattern-from-Red-Heart&rct=j&frm=1&q=&esrc=s&sa=U&ei=vlJQVJrbHMr88AWXpYCIDQ&ved=0CB0Q9QEwBA&sig2=FOdZUpDpuZEl4s0-Dm63Ww&usg=AFQjCNGCnZ2LdE307evSWnZd-dHffMyf9g ------ +++... ถักตัว ถักแขน ต่อกัน ถักช่วงอกขึ้นไป.. --- http://www.google.co.th/url?url=http://www.notmartha.org/archives/2008/07/08/my-fourth-sweater-the-bob/&rct=j&frm=1&q=&esrc=s&sa=U&ei=vlJQVJrbHMr88AWXpYCIDQ&ved=0CC0Q9QEwDA&sig2=GRzRxr4Xf0allVigKJj5-w&usg=AFQjCNE0PG-uZVLDWcaSEGoIeSzPH85RZA --- +++...

สุดใจ - พงษ์สิทธิ์ คำภีร์ เมื่อเช้าพี่รปภ.เปิดเพลงปู

สุดใจ - พงษ์สิทธิ์ คำภีร์ ฿฿ http://www.youtube.com/watch?v=qSY3lPIUUZo ๓๓

How are you in you Meeting today?

How are you in you Meeting today? see you next week... ^ ^

คืนนี้พี่คอยเจ้า - กุ้ง กิตติคุณ . Pocky Sh ลงหน้า 1 .. ภรรยาบอก เครื่องตกบ่อย.เลยไปทางรถยนต์.. ก็มาประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ เสียชีวิต.น่าเศร้า.. น่าเสียดายเสียงร้อง. คนดี..

คืนนี้พี่คอยเจ้า - กุ้ง กิตติคุณ . Pocky Sh ฿฿ http://www.youtube.com/watch?v=DkySbNexNrw ๓๓ ... คำคน - กุ้ง กิตติคุณ เชียรสงค์ . galong1976 ฿฿ http://www.youtube.com/watch?v=y1N7KcGn5c4 ๓๓

My Life (The Beatles) - Allison Crowe performs live w. lyrics เหมือนจะเคยได้ยินว่าเป็น soundtrack หรืออะไร..ผู้หญิงร้อง คีย์สูงหน่อย

My Life (The Beatles) - Allison Crowe performs live w. lyrics ฿฿ http://www.youtube.com/watch?v=4hHNUVo9eEM ๓๓ ขึ้นเสียงสูง I know... จบด้วย I love you more.. I ... love ... you... more ช้า ๆ ตอนจบ.. ++ น่าจะหนังเรื่องนี้.. Bet Mitler.. เล่นเอง. .For the Boys - Bette Midler/James Caan - In My Life - Saddest scene . keribxxx ๕๕ http://www.youtube.com/watch?v=nH1iubPJJxA ๓๓ ... นี่สิ 1.50 กดที่นี่. .Bette Midler Performs In My Life HD . ฿฿ http://www.youtube.com/watch?v=siAVlUxpJXQ ๓๓

2,000 จันทร์ 27 ตค.57 .. เดินเข้าซอยข้างคอนโดฯ ดูว่าบ้านเปลี่ยนกันไปมากแค่ไหน.. ซอยเล็กนิดเดียว ตอนเด็ก ซอยใหญ่..

2,000 จันทร์ 27 ตค.57 .. เดินเข้าซอยข้างคอนโดฯ ดูว่าบ้านเปลี่ยนกันไปมากแค่ไหน.. ซอยเล็กนิดเดียว ตอนเด็ก ซอยใหญ่.. / ออกมายืนรอ หน้าคอนโดฯ เลตเต้.. หันหน้าดูป้าย.. ได้ยินเสียง. "เอ้า ..เอาไป้".. ตะโกนมาจากในบ้าน.. เดินไปหยิบ. คุณแม่กำลังจัดเครื่องดื่มกระป๋องเข้าตู้แช่.. แบงค์500(1)/แบงค์100(10)/แบงค์(50)100 รวม 2,000 เป๊ะ.. สงสัยจะให้กินใช้วันละ 150 ..

"ไก่ผัดขิง" ร้านพี่รุณ น้องเอ๋ ปปส. อร่อยมาก ออกหวานนิดนึง.. แต่ก็โอ.เค.

"ไก่ผัดขิง" ร้านพี่รุณ น้องเอ๋ ปปส. อร่อยมาก ออกหวานนิดนึง.. แต่ก็โอ.เค. / น้ำมัน ผัดขิงหอม กับเต้าเจี้ยวให้หอม (ควรผัดเต้าเจี้ยวให้หอมฟ้งก่อน) ผัดหอมใหญ่หั่นเสี้ยวยาว ให้สุกหอม ใส่ไก่สะโพกหั่นชิ้นตามเส้นยาว ลงผัด สุก ใส่เห็ดหูหนูดำ ตัดแต่งชิ้นพอคำ..ปรุงรส ซีอิ๊วดำนิดส์นึงส์ น้ำปลา น้ำตาลทราย ซอสปรุงรส ซอสหอยนางรม.. น้ำซุป สุดท้ายใส่มะเขือเทศท้อ ลูกใหญ่หั่นชิ้นโต.. อร่อยดี..(สมัยเด็ก ผัดแบบสับชิ้นโต แม่สับให้).. ลืมอะไรอีกเป่าวเนี่ย.. ** ยำไข่ต้ม.. ไข่เป็ดต้มยางมะตูม (วันนี้ไม่ตูม).. พริกขี้หนูเขียว-แดงซอย หอมแดงซอยยาว น้ำมะนาว น้ำปลา น้ำตาลทราย.. แซ่บ.. 3 ใบ 20 บาท.. (ทำเองกว่าจะได้..ตายก่อนเป็นแน่).. ฮ่วย *** แกงวุ้นเส้น ปลาช่อน (อาจจะอ่อม).. ตะไคร้อ่อนซอยบาง หอมแดง พริกลาว(แดง)ตำ ... เนื้อปลาช่อน วุ้นเส้น น้ำปลาร้า ใบแมงลัก.. (กลัวผักน้อย แวะซื้อบวบหอม 7 บาท 1ลูก หั่นใส่กะละมัง นึ่งสุก (เปื่อยไปหน่อยนะ) เทแกงใส่ชาม..นึ่งร้อนกินกับข้าวสวย.. / ปลานิลแดดเดียว ชิ้นละ 20 บาท เค็มอร่อยดี ตลาดวัดตะพาน . / แกงรถเข็น ตรงข้ามศาลเจ้าก่อนถึงวัดตะพาน.. น่ากินทุกอย่างเลย ถุงละ 30 บาท / ...แกงเห็ด ใส่เห็ดหูหนูดำ เห็ดฟาง เห็ดเออรินจิ เห็ดนางฟ้า ฯลฯ..

28ตค.57 เช้านี้หน้าห้องสมุดม้านั่ง มีหอยมาต่อยกัน 2 ตัว.. ป้านกแก้ว..กับลุงแก่ (กระเป๋าลากมาจากไหนไม่รู้..มาถึงนี่ ยกขึ้นวางบนม้านั่งยาว ตัวเดียว ใช้คนเดียว กับกระเป๋าล้อลากอีกใบ)

28ตค.57 เช้านี้หน้าห้องสมุดม้านั่ง มีหอยมาต่อยกัน 2 ตัว.. ป้านกแก้ว..กับลุงแก่ (กระเป๋าลากมาจากไหนไม่รู้..มาถึงนี่ ยกขึ้นวางบนม้านั่งยาว ตัวเดียว ใช้คนเดียว กับกระเป๋าล้อลากอีกใบ) ลุงนั่งม้านั่งตัวด้านหลัง ป้านกแก้ว นกม้านั่งตัวหน้า.. หันหลังไป คุยกันโขมงโฉงเฉง.. ไอ้เราเดินอุดหูมาแต่ไกลเลย..

ข้าวแช่.. / ไอ้เราก็มานั่งจดทั้งเล่ม.. ที่เขาพิมพ์ไว้แล้วก็มี..เนอะ.. / จั๊ดง่าว.. แท้เรา..

ข้าวแช่..คุณแม่สุคนธ์ จันทรางศุ (คุณแม่ของอาจารย์ ธงทอง จันทรางศุ) http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROb1lYQXdNVEV4TURNMU5RPT0= ++ ตําราอาหารชนิดนี้เป็นอาหารเพียงอย่างเดียวที่ผู้เขียนไม่ใคร่อยากจะเขียนลงไป ประหนึ่งว่าเป็นต้นตำรับหรือ ผู้รู้อะไรทำนองนี้ ต้นเรื่องมาจากว่า ?ลูกกะปิ? ของผู้เขียนก็ไม่เหมือนใคร และไม่มีใครเหมือนเสียแล้ว แรกเริ่มเดิมทีมาจากว่าคุณย่าของลูกๆ ท่านเป็นคนมีฝีมือในการทำอาหารไม่แพ้ใคร ก็ในอดีต (สมัยรัชกาลที่ 6) แม่บ้านก็คือแม่งาน แม่ครัว และแม่อะไรต่อมิอะไรในบ้านของท่าน แม่บ้านในสมัยก่อนเก่งจริงๆ ค่ะ ต้องทำได้ทุกอย่าง เด็กในบ้านก็คือลูกมือของท่าน คุณย่าเล่าว่าในสมัยที่คุณปู่ท่านยังมีชีวิตอยู่ ท่านก็เป็นนักรับประทานตัวยงท่านหนึ่งเหมือนกัน คุณปู่ชอบพาคุณย่าไปรับประทานอาหารโฮเต็ล อาหารชนิดไหนท่านพอใจมาก ท่านก็จะขอเขาพาคุณย่าเข้าไปดูกุ๊กทำถึงก้นครัวเลยทีเดียว (ท่านเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ และชอบไปรับประทานอาหารของเขาอยู่เนืองๆ จนคุ้นเคยกันดี) เพื่อจะได้จดจำกลับมาทำให้รับประทานที่บ้าน ทีนี้ตอนที่คุณปู่ย้ายไปทำหน้าที่เจ้าเมืองเพชรบุรีอยู่สมัยหนึ่ง พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวท่านเสด็จพระราช ดำเนินไปที่เมืองเพชรบุรี คุณย่ามีโอกาส ?ตั้งเครื่อง? ถวายสุดฝีมือ มิเสียแรงที่ได้ฝึกปรือด้วยใจรักมาเป็นเวลานาน คุณย่ามักจะเล่าถึงเหตุการณ์ตอนนี้ด้วยความปลื้มอกปลื้มใจทุกครั้งไป นอกจากจะมีใจรักทางการครัวแล้ว คุณย่ายังมีหัวพลิกแพลงในการปรุงอาหารหลายๆ อย่าง ตอนที่ไปอยู่เมืองเพชร ลูกๆ ท่านยังเล็กอยู่มาก โดยสามีผู้เขียนซึ่งเป็นบุตรคนสุดท้อง ยังไม่ทันเกิดด้วยซ้ำไป แน่นอนว่าในตอนนั้นคุณย่าต้องไปพบเข้ากับข้าวแช่ตำรับเมืองเพชร ซึ่งก็คงรู้จักกันดี และบางคนก็ยังชอบรับประทานเสียด้วย แต่...ชะรอยว่าลูกเล็กคุณย่าในตอนนั้นคงไม่ชอบอาหารรสหวานจัดนัก ตามประสาลิ้นของคนภาคกลาง คุณย่าก็เลยดัดแปลงลูกกะปิของท่านขึ้นใหม่ ซึ่งทำให้ลูกๆ ของท่านชอบกันมาก แล้วก็เลยชอบกันมาถึงรุ่นหลาน...แล้วก็เพื่อนๆ ของหลาน คือเพื่อนๆ ของลูกชายผู้เขียนนั่นเอง เด็กๆ พวกนี้ชอบมาขอให้ทำรับประทาน บางคนก็มาขอตำรา บางคนก็มาขอหัดทำ ทำเป็นแล้วบางคนกล้าหาญถึงขนาดไปเปิดร้านขายอาหาร โดยมีข้าวแช่ตำรับนี้เป็นอาหารหลักในฤดูร้อน แต่ตอนนี้ปิดตัวไปแล้ว เพราะแม่ครัวประจำร้าน (พี่เลี้ยงอายุ 80 กว่า) เธอชราจนทำไม่ไหวค่ะ แต่เด็กๆ พวกนี้ก็ไม่ยักเข็ด ยังเทียวมาขอรับประทานบ้าง มาขอตำราบ้างกันทุกปี ยิ่งทราบว่าผู้เขียนมาเขียนตำราชุดนี้ก็มาขอร้องแกมบังคับให้ใส่รายการนี้ลงไปในเมนูด้วย ผู้เขียนก็เลยจำต้องทำตามคำเรียกร้องของพวกเขา อันที่จริงตำราทำข้าวแช่นั้นมีผู้เขียนไว้มากมายหลายท่าน ล้วนแล้วแต่มีรสอร่อยด้วยกันทั้งนั้น หากตำราที่ผู้เขียนจะให้ไว้นี้ยังไม่ถูกปากถูกใจท่านใด ก็ขอให้โปรดผ่านเลยไปตามแต่อัธยาศัยนะคะ ไหนๆ ก็จะต้องเขียนถึงเรื่องข้าวแช่แล้ว ก็คงต้องเริ่มต้นเสียก่อนด้วยการหุงข้าวกับทำน้ำหอมละค่ะ ตามตำราของคุณย่า ให้นำข้าวสารเก่ามาหุงให้เหลือเป็นตากบน้อยๆ ถ้าเป็นสมัยก่อนที่เราหุงข้าวเช็ดน้ำก็คือตอนที่เราจะยกหม้อข้าวไปเทน้ำทิ้งนั่นแหละค่ะ ผิดกันก็แต่ว่า ครั้งนี้เรายกหม้อข้าวไปเทลงในชามกะละมัง หรือถังใบใหญ่ใส่น้ำสะอาดไว้สักครึ่งถัง พอข้าวนอนก้น เราก็ค่อยๆ เทน้ำออกทิ้งไป แล้วก็ใส่น้ำเข้าไปใหม่ รอจนน้ำคลายความร้อนพอที่จะเอามือลงไปขัดข้าว (คือช้อนข้าวขึ้นมาไว้บนฝ่ามือ แล้วใช้มืออีกข้างหนึ่งถูเบาๆ บนเมล็ดข้าว เพื่อให้ขุยขาวๆ บนตัวข้าวหลุดออกไป เหลือแต่เมล็ดข้าวเกลี้ยงสวย เพื่อเวลาที่ใส่น้ำหอมลงไปน้ำจะได้ใสน่ารับประทาน) หรือบางคนก็ใช้ขัดกับตะแกรงไม้ไผ่ก็ได้ค่ะ กะว่าขัดข้าวได้ทั่วถึงแล้ว ก็รอให้เมล็ดข้าวนอนก้น แล้วเทน้ำขุ่นๆ ทิ้งไป ทำเช่นว่านี้สัก 2-3 ครั้ง จนเหลือแต่เมล็ดข้าวเกลี้ยงเกลาดี ต่อไปเทข้าวลงบนผ้าขาวบาง นำไปนึ่งบนลังถึงเพื่อให้ข้าวสุกต่ออีกสักนิด ข้าวจะได้หายกรุบ ทีนี้ก็นำไปใช้การได้แล้วค่ะ ต่อไปเป็นวิธีการของการทำน้ำหอม ที่บ้านผู้เขียนโชคดีที่ปลูกต้นมะลิไว้หลายต้น เวลามะลิมีดอก เราก็ได้ดอกไม้ไปถวายพระบ้าง เวลาอยากทำข้าวแช่ เราก็จะได้น้ำลอยดอกมะลิที่สะอาด ปราศจากการฉีดยากันแมลง รับประทานได้ด้วยความสบายอกสบายใจ ตามธรรมดาเวลาจะทำข้าวแช่ ผู้เขียนจะเก็บดอกมะลิมาล้างสะอาดในมือสักครั้งเดียวก็พอค่ะ เพราะเราปลูกในบ้านของเราเอง แล้วก็นำมาลอยในน้ำที่เตรียมไว้ล่วงหน้าสักหนึ่งคืน พอเช้าวันรุ่งขึ้นก็ไปตัดใบเตยหอม (ปลูกไว้ในบ้านอีกเหมือนกัน) มาสัก 2-3 ใบ นำมาล้างน้ำให้สะอาดจริงๆ แล้วนำมาตัดใบละช้อนกันเข้า ซอยหยาบๆ เหมือนซอยตะไคร้ ทำอย่างนั้นจนหมดใบเตย นำไปหม้อเคลือบ สักใบ หลังจากนั้นคุณก็ต้มน้ำเข้าสักหนึ่งกาเต็มๆ พอน้ำเดือดก็ยกลงมาเทใส่ในหม้อเคลือบจนหมดกา ปิดฝาหม้อทิ้งไว้ราว 15 นาที เปิดฝาหม้อออก ใช้ทัพพีตักเอาใบเตยออกจนเหลือใบเตยแต่น้อย นำน้ำใบเตยไปเทใส่ผ้าขาวบาง กับลงในหม้ออีกใบหนึ่ง ทิ้งไว้จนเย็นสนิท น้ำใบเตยจะมีสีเขียวใสและมีกลิ่นหอม ต่อไปคุณก็ค่อยๆ รินหรือตักน้ำมะลิที่ลอยไว้ตั้งแต่คืนก่อนแล้ว (เก็บเอามะลิขึ้นเสียให้หมดก่อนตั้งแต่เช้าแล้วค่ะ ส่วนหม้อดอกไม้ก็ทิ้งไว้ในตู้เย็น) ละที่เตรียมไว้บรรจุน้ำหอมเพื่อรับประทานกับข้าวแช่ อัตราส่วนน้ำมะลิกับน้ำใบเตย ใช้อย่างละส่วนเท่ากันค่ะ ต่อจากนั้นคุณก็จะนำไปใช้การได้ มีคนที่มารับประทานข้าวแช่ที่บ้านหลายคนค่ะ ถามว่าเอาน้ำไปอบควันเทียนหรือเปล่า บ้างก็ถามว่าใช้ดอกชมนาดลอยด้วยใช่ไหม ขอตอบตามความสัตย์ว่าใช้สองอย่างแค่นี้จริงๆ สมัยนี้ดอกชมนาดหายากราวกับงมเข็มในมหาสมุทร สมัยยังเป็นเด็ก ผู้เขียนเคยเห็นคุณแม่ลอยดอกชมนาดคู่กับกระดังงา แล้วเอามาลนไฟเสียก่อน แล้วฉีกออกก่อนที่จะลอยน้ำซึ่งอบควันเทียนแล้ว ก่อนที่นำน้ำอบไทยที่เอาไว้ทาตัว ที่บ้านจึงต้องปลูกต้นชมนาดเอาไว้ใช้ดอก แต่สมัยนี้ไม่มีพอๆ กันกับน้ำอบไทย ซึ่งนับวันก็จะตายตามผู้ปรุงไป ทั้งปีจะใช้กันก็แต่เฉกเทศกาลสงกรานต์ คือใช้สรงน้ำพระ รดน้ำผู้ใหญ่ สมัยนี้บางคนก็นิยมใช้น้ำอบแล้วค่ะ มิหนำซ้ำผู้ใหญ่บางคนก็ยังแพ้น้ำอบไทย ยังไม่เห็นก็แต่ใครเอาน้ำอบฝรั่งไปสรงน้ำพระเท่านั้น ตอนนี้ขอจบแค่ทำพิธีหุงข้าวกับเตรียมน้ำดอกไม้เพียงเท่านี้ก่อนนะคะ หน้า 5

คอลัมน์ ทำกินกันเอง.ง / หมูทำอะไรดีหนอ..

หมูทำอะไรดีหนอ.. / สันใน ในหมู 1 ตัวมีสันในอยู่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น เป็นเนื้อหมูส่วนที่นุ่มที่สุดและไม่มีไขมัน จึงมีราคาแพง ด้วยเนื้อมีความนุ่มอยู่แล้ว จึงแทบไม่ต้องหมักอะไรก็อร่อยได้ นำไปปรุงอาหารได้หลายจาน แต่ควรเลือกใช้กับเมนูที่ไม่ผ่านความร้อนนาน เพราะจะทำให้เนื้อหมูยุ่ย สันในจึงไม่เหมาะกับอาหารประเภทต้ม ตุ๋น หรืออบ ที่ใช้เวลานาน +++ สันนอก เป็นเนื้อชิ้นใหญ่ไล่ยาวตั้งแต่หัวไหล่ถึงสะโพกหมู เป็นส่วนที่นุ่มอร่อยเพราะมีมันอยู่รอบนอกชิ้นเนื้อ ทำอาหารได้หลากหลาย และเหมาะกับการนำไปใช้ทำสเต๊กแบบติดกระดูกและไม่ติดกระดูเช่น Pork Sirloin Chop, Country Chop, Rib Chop และอีกหลาย ๆ ชื่อ ตามแต่การตัดแต่ชิ้นสเต๊ก +++ สามชั้น มาจากส่วนท้องของหมู มีชั้นหนัง เนื้อ และไขมันสลับกัน แม้จะเป็นส่วนเนื้อหมูที่มีไขมันมากที่สุด แต่ด้วยความหลากหลายของเนื้อสัมผัสทำให้เนื้อส่วนนี้เป็นที่โปรดปรานของใครหลายคน ปรุงได้คล้ายเนื้อส่วนอื่น ๆ แต่ต้องอาศัยเทคนิคพิเศษ เช่น หากจะทอดให้หนังกรอบ อาจจะต้องต้มชิ้นหมูจนส่วนหนังสุกก่อน จึงนำส้อมมาจิ้มส่วนหนังให้ทั่ว ทาด้วยน้ำส้มสายชู แล้วนำไปแดดดจนหนังแห้ง จึงนำไปทอด หนังหมูจึงจะพองกรอบ เป็นต้น เนื้อส่วนนี้ หากจะนำไปทำหมูกรอบ ย่าง หรือทอด ควรหมักกับเครื่องปรุงรสไว้นาน ๆ จนเข้าเนื้อก่อนนำไปปรุงจึงจะอร่อย แต่หากเป็นเมนูประเภทต้ม ตุ๋น ต้องใช้ไฟอ่อนเคี่ยวให้นานสักหน่อย จะทำให้รสชาติของวน้ำซุปซึมเข้าเนื้อและได้รสอร่อย +++ ซึ่โครงหรือกระดูก เป็นส่วนที่มีเนื้อน้อย แบ่งเป็น 2 ชนิด คือ ซึ่โครงธรรมดาจากแผงกระดูกด้านข้างลำตัว และกระดูกซี่โครงอ่อนส่วนที่อยู่ใกล้กระดูกสันหลัง คนเอเซียนิยมนำมาปรุงอาหารประเภทต้ม ตุ๋น เพราะจะได้ความหวานจากกระดูก ให้น้ำซุปหอมหวานอร่อย ส่วนชาวตะวันตกนิยมนำมาอบ ย่าง หมูส่วนนี้จะปรุงให้อร่อย ต้องให้เนื้อหมูเปื่อยนุ่ม ล่อนจากกระดูก ดังนั้นจึงต้องอาศัยการหมักที่นานขึ้นหรือต้มเคี่ยยวให้นานขึ้น +++ สันคอหมู แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนสันคอ (ด้านบนตัวหมูถัดจากหัวหมู) มีมันแทรกเนื้อ จึงนุ่มและชุ่มฉ่ำ ทำอาอารได้หลากหลายชนิด ต้มเคี่ยวได้ นำไปอบทั้งชิ้นใหญ่ก็ยังคงความนุ่มไม่แข็งกระด้างหรือ แล่บาง ๆ ทำชาบูชาบูก็นิ่มอร่อยโดยไม่ต้องหมัก ส่วนอีกส่วน คือคอหมู เป็นส่วนที่มีเนื้อติดหนังและมีมันแทรกเป็นเส้น ควรแล่เป็นชิ้นใหญ่บาง มีทั้งความกรอบ นุ่มและชุ่มฉ่ำเจือกัน นำไปทำคอหมูย่างจิ้มแจ่วได้อร่อย +++ สะโพก เป็นเนื้อส่วนที่เหนียวที่สด เพราะเป็นส่วนกล้ามเนื้อที่หมูใช้เคลื่อนไหวตัวอยู่ตอลดเวลา จึงไม่มีไขมันแทรก แต่มีกล้ามเนื้อค่อนข้างมาก เหมาะกับเมนูต้ม ตุ๋น นึ่ง ที่ต้องเคี่ยวจนเปื่อย เช่น สตู หมูอบ หมูตุ๋น หากนำไปปรุงเมนูอบหรือทอด ต้องใช้เวลาอบและหมักนานสักหน่อย อาจใช้ตัวช่วยจำพวกนมสดหรือน้ำสับปะรดก็จะช่วยให้หมูนุ่มขึ้นได้ +++ ขาหลัง เนื้อส่วนขาด้านในจะไม่มีมันแทรก กล้ามเนื้อแน่นเห็นลายชัด แต่เนื้อส่วนขาด้านนอกจะมีมันอยู่มาก ชั้นไขมันหนา เนื้อส่วนขาหลังนี้ควรนำไปเผาหรือทอดก่อนปรุงอาหารเพื่อรีดเอาน้ำมันออก จะทำให้หนังหมูบางและไม่มีมัน นิยมนำไปทำขาหมูเยอรมัน ขาหมูตุ๋น เพราะหนังหมูนุ่มและไม่มีไขมันแทรกให้เสียรส +++ มันร่างแห.. http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROb1lYQXdNVEE0TURRMU5RPT0= สุคนธ์ จันทรางศุ.. คอลัมน์ ทำกินกันเอง.

อาทิตย์ 26ตค.57 ... เช้านี้เจ้าป้าหน้าเซ๊เว่น.. กล้วย 1 ชุด ใบย่อมหน่อย 7 ลูก 20 บาท... / ซาลาเปา นม ชุดละ 25 บาท

อาทิตย์ 26ตค.57 ... เช้านี้เจ้าป้าหน้าเซ๊เว่น.. กล้วย 1 ชุด ใบย่อมหน่อย 7 ลูก 20 บาท... / ซาลาเปา นม ชุดละ 25 บาท / หน้าบ้าน 68/16 รถจอด 4672 .. ในรถมีถุงพลาสติกใบใหญ่ใส ใส่ถุงขนาดเดียวกันขยุ้ม ๆ มีอยู่ 3-4 ถุง ท้ายรถ .. ตะกร้าใส่ส้มจีน.สีขาว ใส่เครื่องมืออุปกรณ์ ฯลฯ.. / ไม่มีรองเท้าถอดวางหน้าห้องชั้น 3 แต่เราได้ยินเสียงเปิดแอร์ ชึ่ง..ง...ง.. ตั้งแต่ก่อน 8 โมงเช้าแล้ว.. / เดินลงมาผ่านหน้าห้องชั้น3 ได้ยินเสียงพูดโทรศัพท์ดังลั่น.. อะไรเกี่ยวกับเรื่องเครื่องซักผ้าใต้บันได ป้าแก่ ๆ มาซัก หรือมาโขมยผ้าขี้ริ้ว.. ประมาณนี้.. / คงมีแผนอะไรกัน 2 คน กับDog1...

"ชีวิตใหม่ ยกกำลัง2" ตัวหนังสือเท่า "หม้อแกง" คนแก่อ่านง่าย เด็กเล็กอ่านดี.. เล่มละ 20 บาท.. ไม่อาร์ตมัน แต่ 4 สี่ (ไม่ใช่ไพ่)

"ชีวิตใหม่ ยกกำลัง2" ตัวหนังสือเท่า "หม้อแกง" คนแก่อ่านง่าย เด็กเล็กอ่านดี.. เล่มละ 20 บาท.. ไม่อาร์ตมัน แต่ 4 สี่ (ไม่ใช่ไพ่) / วางแผงแล้ว(ก่อนวันนี้) 7-11 ทุกสาขา... ซื้อยกห่อ..ติดต่อมูลนิธิอมตะ.. 02-7920001 (จำเบอร์ถูกมั๊ยเนี่ยเรา) ห้องสมุดซอยพระนาง แจกฟรี.. 1 ตั้ง.. หมดยังนะ..

อย่าลืมสอย "เก็บตก" นิธินาฏ... บัญชา ชุมฯ แดนซ์ จำเพลงไม่ได้ระ..

อย่าลืมสอย "เก็บตก" นิธินาฏ... บัญชา ชุมฯ แดนซ์ จำเพลงไม่ได้ระ..22 ตค. ประมาณนี้..

ครัวคุณต๋อย 20 ตค. 57- 24 ตค. 57 *** ปลาสำลีเผา ร้าน เจ๊ไข่ซีฟู้ด 20 ต.ค. 57 (2/2) ครัวคุณต๋อย

... ปลาสำลีเผา ร้าน เจ๊ไข่ซีฟู้ด 20 ต.ค. 57 (2/2) ครัวคุณต๋อย ** http://www.youtube.com/watch?v=nmMbiUInipc ๓๓ ... มะกรูดลอยแก้ว ร้านศรีสุนีย์โภชนา 21 ต.ค. 57 (2/2) ครัวคุณต๋อย ** http://www.youtube.com/watch?v=t0Hjds1n8Rw ๓๓ ... แกงคั่วข่าโครงหมูกระดูกอ่อน ร้าน ครัวพี่นั่นท์ 22 ต.ค. 57 (2/2) ครัวคุณต๋อย ** http://www.youtube.com/watch?v=RjVlcIqmjUs ๓๓ ... 23 ตค. 57 วันปิยมหาราช.. ไม่มีรายการ ... เนื้อปูผัดพริกขี้หนู ร้าน กระท้อนไก่ลอยฟ้า 24 ต.ค. 57 (2/2) ครัวคุณต๋อย ** http://www.youtube.com/watch?v=9GqK3zkDw34 ๓๓

อาหารขวัญเรือน ปักษ์หลัง ตค..57 .. ยำแซ่บ ตำมั่ว ลาบพื้นบ้าน..

ผลไม้พริกกะเกลือ เครื่องปรุง เกรปฟรุต 1 ลูก (หั่นแผ่นสี่เหลี่ยม 1.5 นิ้ว หนา 0.6 ซม.)/ เชอร์รี่ 6-7 เม็ด / องุ่นดำ 6-7 เม็ด / องุ่นแดง 6-7 เม็ด / กีวีฟรุต (ปอกเปลือก) 2 ลูก (หั่นขวาง หนา 0.4 ซม.) / น้ำเชื่อม เกลืออ พริกขี้หนูบุบ .. ในถ้วยน้ำจิ้มทรงสูง.. เหมือนถ้วยตะไล... +++ จัดผลไม้ลงจาน ผสมน้ำเชื่อม เกลือ และพริกขี้หนูบุบ หรือจะกินแบบใช้ผลไม้จิ้มเอาเป็นคำ ๆ ก็ได้ หมายเหตุ พริกกับเกลือจิ้มผลไม้เป็นการกินผลไม้แบบไทย ๆ ไม่มีชาติอื่นใดกินแบบนี้ อาจจะเพราะเรามีผลไม้เปรี้ยวจำนวนหนึ่งที่ต้องจิ้มกับเกลือจึงจะอร่อย / หรือไม่เช่นนั้นเราอาจจะชินกับรถเข็นขายผลไม้ที่แถมพริกกับเกลือมาด้วย..... สำหรับ "พริกกะเกลือ" เป็นส่วนผสมของอาหารแบบโบราณ คนแต่ก่อนจะพกติดตัวไปเวลาเดินทางหรือกระทั่งเดินทัพก็ต้องมีพริกกะเกลือพตกติดตัวไปเป็นเสบียง (เคยอ่านเจอ เหมือนจะใช้มะพร้าวขูดคั่วให้แห้ง ปรุงรสด้วยเกลือ กินกับข้าว.. มะพร้าวแก่ หรือมะพร้าวทึนทึก จำไม่ได้.. ) /วางแผ่นเกรปฟรุต (สีส้มอมชมพูเกล็ดใหญ่) 1 แผ่น / วางกีวี 1 แผ่น / เชอร์รี่ 1 ลูก องุ่นเขียว เสียบไม้ 1 ลูก / องุ่นแดง เสียบไม้จิ้มฟัน ค็อกเทล 1 ลูก หน้าตาเหมือนมิกกีเม้าส์เลย ปักลงไปให้ติดถึงเกรปฟรุต +++ +++***... ส้มตำถั่วงอกทานตะวัน.. เครื่องปรุง ถั่วงอกทานะตวัน 1 ห่อ / มะเขือเทศลูกเล็ก 2-3 ลูก / พริกขี้หนู 3-4 เม็ด/ กระเทียม 2-3 กลีบ / กะปิ 1 ชช. / กุ้งแห้ง 1 ชต. / มะนาว น้ำปลา น้ำตาลบปี๊บ +++ วิธีทำ เอากะปิห่อใบตองปิ้งก่อนให้หอม โขลกกระเทียม พริก กุ้งแห้ง ใส่กะปิ มะเขือเทศฝานลงไป เอาถั่วงอกทานตะวัน ลงไปคลุกในครก พอให้เครื่องเข้าเนื้อ บีบมะนาว เติมน้ำปลา ตามชอบ หากชอบหวานใส่น้ำตาลปี๊บไปเล็กน้อย (ต้นอ่อนทานตะวัน ) หมายเหตุ ถั่วงอกทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นถั่วงอก ถั่วเขียว ถั่วงอกหัวโต ถัวลิสงงอก ถั่งงอกไควาเระ ถั่วลันเตางอก อัลฟาฟางอก เมล็ดทานตะวันงอก จะมีวิตามินซี รวมทั้งเอนไซม์ ซูเปอร์ออกไซคืช์ดิสมิวเตสสูง สารทั้งคู่จะช่วยเพิ่มภูมิต้านทาน เคล็ดลับมีเพียงต้องกินถัวงอกที่สดใหม่ และกินดิบ จึงจะเสริมภูมิต้าทานได้ การเอาถั่วงอกมาทำส้มตำจึงเหมาะที่สุดแล้ว (บางตำราบอก กินถั่วงอกดิบไม่ดี.. ไม่รู้ยังไงแน่) +++ *** ... ลาบเห็ดรวม เห็ดฟาง 5-6 ดอก / เห็ดหูหนูดำ 2-3 ดอก / เห็ดหูหนูขาวแช่น้ำแล้ว 1/2 ดอก / เห็ดเข็มทอง 1/2 แพ็ก / เห็ดไมตาเกะ 7-8 ดอก / หอมแดง 3 หัว / ข้าวคั่ว 1 ชต. / สะระแหน่ 3-4 ยอด / ต้นหอมซอย 1 ชต. / ผักชีฝรั่ง 2 ใบ / พริกป่น น้ำปลา มะนาว +++ .วิธีทำ หั่นเห็ด ลวกให้สุกแล้วพักไว้ ยกเว้นเห็ดเข็มทองให้ใช้สด ซอยหอมแดง ผักชีฝรั่ง คลุกเครื่องปรุงทุกอย่างให้เข้ากัน ปรุงรสด้วนน้ำปลา น้ำมะนาว . หมายเหตุ สำหรับเห็ดป่า ไม่แนะนำให้กินและไม่แน่ใจว่าเป็นเห็ดพิษหรือไม่ เห็ดเข็มทองควรกินสด.. .. / เห็ด..หากกินสุกจะปลอดภัยกว่า ความร้อนจะสลายพิษบางอย่างของเห็ดได้.. +++***... ยำส้มแซ่บ ส้มลูกใหญ่ 1-2 ลูก / หอมหัวใหญ่ 2 แว่น / ผักกาดหอม 2 ใบ / มะนาว 1 ลูก / เม็ดมะม่วงหิมพานต์ 10 เม็ด / น้ำเชื่อม น้ำปลา เกลือพริกป่น .. +++ วิธีทำ ปอกส้ม หั่นเนื้อส้มเป็นชิ้นพอดีคำ (มีดปอกเปลือแบบส้มโอ หั่นเนื้อ ติดเยื่อขาว ..ไม่ปอกเปลือกแกะเป็นชิ้น)/ หั่นหอมใหญ่เป็นชิ้นเล็ก ๆ สี่เหลี่ยม /มะนาวหั่นเป็นชิ้นเล็กทั้งเปลือก ปรุงน้ำยำจากน้ำเชื่อม น้ำปลา เกลือนิดหน่อย พอให้รสจัดขึ้น และพริกป่น ก่อนเสิร์ฟ เอาผักกาดหอมรองจาน คลุกทุกอย่างเข้าด้วยกัน ... จานนี้ชุ่มคอ.. ++

"ปูผัดผงกะหรี่" เดลินิวส์ อาทิตย์ 25 ตค.57 .. กินอร่อย ทำได้ .. ขุนขยับ แม่มะลิ.. ย้อนตำนร้านอร่อย FB>>>

เครื่องปรุง ปูทะเลน้ำลึก 1 ตัว / ไข่เป็ด 2 ฟอง / นมสดกระป๋อง 2 ทัพพี / ผงกะหรี่ตรามือ 1 ชต. / น้ำม้นน้ำพริกเผา 2 ชต. / ซอสหอยนางรม 1 ทัพพี (เยอะไปมั๊ยอ่ะ) / น้ำตาลทราย 1/2 ชต./ พริกชี้ฟ้า-ต้นหอม 1 ถ้วย หั่นตามยาว... +++ ***... 1.หั่นปูให้เป็นชิ้น แล้วนำไปนึ่ง 15 นาที ให้ปูสุกทุกชิ้น / 2.ผสมไข่เป็ด นมสด ผงกะหรี่ น้ำมันน้ำพริกเผา ซอสหอยนางรม และน้ำตาล ตีให้เข้ากัน / 3.นำปูลงผัดกับน้ำมันให้เหลืองหอม แล้วจึงราดน้ำเครื่องปรุงลงไปผัดด้วย / 4.ใส่ต้นหอม พริกสด ลงผัด เคล้ากับปูจนน้ำผงกะหรี่ฟูขึ้นเต็มกระทะ (เป็นลิ่ม ๆ) / 5. ตักปูผัดผงกะหรี่ใส่จาน กินกับข้าสวยร้อน ๆ อร่อยอย่างที่ทัวร์จีนนิยม สามย่านซีฟู้ด เชียงใหม่ 0-5330-0688

"บ๊ะจ่าง" เคยเห็นเฮียเหมือนขายน้ำเต้าหู้กับเจ๊ หน้าร้านทอง.. เช้านี้เจอหน้าร้านขายโรงศพ วัดตะพาน .. ซื้อบ๊ะจ่าง 30 บาท กลับบ้านแงะก่อน..เจอเม็ดดำเรียวเล็กๆ

"บ๊ะจ่าง" เคยเห็นเฮียเหมือนขายน้ำเต้าหู้กับเจ๊ หน้าร้านทอง.. เช้านี้เจอหน้าร้านขายโรงศพ วัดตะพาน .. ซื้อบ๊ะจ่าง 30 บาท กลับบ้านแงะก่อน..เจอเม็ดดำเรียวเล็กๆ / เอานิ้วบี้ เหมือนขี้หนูเลย.. ไม่แตกด้วย. บี้ยังไงก็ไม่แตก.. เอาวะ.. ใช่ไม่ใช่ก็ไม่รู้ ก็ต้องกินละ ห้ามอ้วกนะ.. 30 บาท. / ผ่านวันนี้ไปก็จบแล้ว.. / บี้หมุนไปหมุนมาบนทิชชู มีปลายแหลมเป็นเส้น ๆ ไม่หลุดออกจากเม็ด ทิ้งสิ จะนั่งบี้ทำไม กินไม่กิน.. ถ้าไม่กินก็ทิ้งไป.. คิดว่าเข้าป่า.. ถ้าอดตาย อะไรก็ต้องกิน.. ไม่ตายหรอก.. เจอเม็ดนี้ ก็ไม่แปลก ของซื้อเขาทำกิน.. จะต้องเจอของแถมเป็นเรื่องธรรมดา.. แต่เผอิญมันมาอยู่ในห่อนี้ก็แค่นั้น.. คนอื่นก็เจอเหมือนกัน มันไม่มีเม็ดเดียวหรอกน่า... / คราวหน้าก็จำเอาไว้หน่อย.. อย่าอยากกิน.. ถ้าไม่อยากได้ของแถม.. ก็ต้องทำกินเองนะจ๊ะ.. จะบอกให้.. (ศุกร์ 24 ตค.57)

ห้องสมุดซอยพระนาง เสาร์ 25 ตค.57 .. เช้านี้มีหนุ่มหน้าใหม่เอี่ยมมา หลงคุยกับป้า "นกแก้ว" พูดเสียงลั่น พูดไม่หยุด หนุ่มก็ "ครับ ครับ"...

ห้องสมุดซอยพระนาง เสาร์ 25 ตค.57 .. เช้านี้มีหนุ่มหน้าใหม่เอี่ยมมา หลงคุยกับป้า "นกแก้ว" พูดเสียงลั่น พูดไม่หยุด หนุ่มก็ "ครับ ครับ"... / พี่ผู้หญิงขาประจำมา เห็นคุยเสียงอย่างนี้ เดินเลี่ยงไปนั่งปูนสูงข้างกระจก..ปกติจะนั่งม้านั่ง Bench.. น้องผู้หญิง 2 คนมาใหม่ นั่งม้านั่ง.. เล่นมือถือสักครู่ ต้องลุกย้ายหนี เดินไปหาที่นั่งโต๊ะข้างสวนด้านใน.. ไม่มีที่นั่ง เลยมานั่ง ปูนสูงแถบเดียวกับพี่ผู้หญิง... เวลาผ่านไป น้องผู้หญิงชุดร.ด.มานั่ง ต้องเอาหูฟังมาฟังกลบเสียง ป้า"นกแก้ว".. / ไอ้เราก็ต้องรีบกินข้าวเหนียว ไก่ทอด (เช้านี้ไม่เจอของแถม)... กินเสร็จรีบอุดหู 2 นิ้วชี้.. (จนเจ็บหูเลย)..เดินไปเดินมา มองหน้าหนุ่ม หนุ่มก็มองรู้ตัวมั๊ยเนี่ย... มองป้านกแก้วไป.. ป้านกแก้วไม่เคยรู้ตัวเลย.. เขตห้องสมุด..นั่งพักผ่อน อ่านหนังสือ อายุขนาดนี้แล้ว พูดเสียงดังไม่เกรงใจคนอื่นเลย.. / ต้องยืนอุดหูจนกว่า พี่รปภ.จะเปิดประตูให้เข้าห้องสมุดได้.. เจ็บหู 20 นาทีกว่า.. เสียงป้านแก้วยังเสียง แทง ผ่านนิ้วเข้าหูมาได้อีก.. / เบื่อมาก.. น้านะ เป็นคนขยัน สามีบอก สวยกินไม่ได้.. ถ้าสวยต้องขยันด้วย.. เดือนแรกนะ ขยันทำงาน เดือนสอง ประหยัด เดือนสาม เก็บเงินใช้จ่าย เที่ยว อย่าเที่ยวหมด.. ต้องตั้งตัว อายุเท่าไหร่แล้วน้อง 22 เหรอ ทำงานตั้งตัวได้แล้ว..สมัยน้าเข้ากรุงเทพใหม่ๆ เนื้อตัวล่อนจ้อน (เอามือ2ข้างลูบประแขนลง).. ไม่มีเงินติดตัวเลย.. ต้องขยัน น้านะทำบ้านเช่า (ฉันรู้แล้ว).. ก๋วยเตี๋ยว มีช่อ5 มาถ่ายทำรายการ.. ธรรมดา 35 ถ้าพิเศษเครื่อง ฯลฯ 45 บาท อร่อยมาก. ต้องตั้งชาม 100 ใบ นับให้ได้ ถ้านับไม่ได้ ไม่ได้เงิน ใบละ 20 บาท.. เป็นควุ้งเป็นแคว..

ทำไม้นิตกลมใช้เอง. .how to make a circular knitting needle yourself . Chu Qia

.how to make a circular knitting needle yourself . Chu Qia ฿฿ http://www.youtube.com/watch?v=962wiR5k4Y0 ๓๓ ... ไม้นิตตรง .Make Your Own Knitting Needles . PleasantSeas ฿฿ http://www.youtube.com/watch?v=jUSlpTvScAI ๓๓ ... อันนี้ดีมาก ๆ เลย.. /ถักไม้นิตคู่ 2 อัน ฿฿ Magic Loop Knitting . iknitwithcatfur ฿฿ http://www.youtube.com/watch?v=ya2vpfv49N8 ๓๓ ... ขึ้นต้นห่วงไม้คู่ ถัก คู่ ฿฿ Judy's Magic Cast On (Starting Toe Up Socks) . ฿฿ http://www.youtube.com/watch?v=gkyd3nq3Yn8 ๓๓ ...

ยำมะเขือยาว / มันกุ้งปรุง /

ยำมะขเอยาว .. มะเขือยาว 2 ผล / พริกหยวก 4 เม็ด / หอมแดง 3 หัว/ น้ำมะนาว 1 ชต. / น้ำตาลทราย 1 ชช. / น้ำปลา 1 ชช. / กุ้งแห้งฝอย 1 ชต./ พริกขี้หนู 10 เม็ด/ ไข่ต้มแข็ง 2 ฟอง +++ วิธีทำ 1.มะเขือยาวเผาไฟ ใช้ไฟแรง ๆ กลับหมุนให้สุกทั่วกัน พอนิ่มทั่วลูกแกะเปลือกออก แล้วใช้น้ำสุกล้างรอยดำออกให้สะอาด แล้วตัดเป็นท่อนใส่จาน / 2.พริกหยวกเผาไฟเช่นกัน ตอนแรกใช้ไฟแรง พอพริกเปลี่ยนสี จึงลดไฟลงให้เป็นไฟอ่อน เมื่อระอุนิ่มก็ใช้ได้ แล้วใช้มีดฉีกพริกหยวกเป็นเส้นยาว วางบนมะเขือ /3. ซอยหัวหอมและพริกขี้หนู โรยบนมะเขือยาวและพริกหยวก / 4.ผสมน้ำปลา น้ำมะนาว และน้ำตาล ให้ละลายเข้ากันดี ราดบนมะเขือ / 5. ประดับด้วยไข่ต้ม ฝานตามขวาง โรยกุ้งแห้งฝอย ... (หรือกุ้งแห้งเนื้อป่น โขลกฟูละเอียด) +++ +++ *** มันกุ้งปรุง ...มันกุ้ง 1/2 ถ้วย / รากผักชี 9 ราก / กระเทียม 2 หัว / พริกไทย 20 เม็ด / กุ้งชีแฮ้สด 400 กรัม / น้ำมัน 2 ชต. / เกลือป่น 1/2 ชช. / น้ำปลา 1 ชต. / น้ำตาลทราย 1/4 ชช. / ผักสด เช่น แตงกวา มะเขือ และอื่นๆ ตามชอบ +++ 1.กุ้งชีแฮ้ปอกเปลือไว้หาง ล้างน้ำให้สะอาด แบ่งออกมา 1/2 ส่วน หั่นเป็นชิ้นเล็ก / 2.รากผักชี กระเทียม พริกไทย โขลกเข้าด้วยกันให้ละเอียด / 3.ตักน้ำมันใส่กระทะตั้งไฟพอร้อนใส่เครื่องหอมโขลก ลงผัดให้เหลืองหอม ใส่มันกุ้งลงผัดให้ละลายเข้ากัน ใส่เกลือและเนื้อกุ้งที่หั่นไว้ลงไป ผัดจนสุกหอม มีมันลอยหน้า ตักใส่ชามไว้ / 4.ใส่กุ้งสดที่เหลือลงในกระทะใบเดิม คนให้สุก เหยาะน้ำปลาเล็กน้อย / 5.รับประทานกับผักสด พร้อมกุ้งที่ผัดไว้ เป็นเครื่อจิ้ม หรือคลุกข้าวก็ได้ +++ * **

พฤหัส 23ตค.57 มาทุกคืนเลย. น้องหนู(พิมพา) วิ่งจากบันไดเหล็กขึ้นดาดฟ้า ก่อน 2 ทุ่มครึ่ง.. เสียงร้องจิ๊ด ๆ ๆ ๆ ๆ แล้วก็..

พฤหัส 23ตค.57 มาทุกคืนเลย. น้องหนู(พิมพา) วิ่งจากบันไดเหล็กขึ้นดาดฟ้า ก่อน 2 ทุ่มครึ่ง.. เสียงร้องจิ๊ด ๆ ๆ ๆ ๆ แล้วก็.. เสียงวิ่งขลุก ๆ ๆ ๆบนไม้คาน (ไม่มีไม้พาดขึ้นไปช่องบนเพดานแล้ว) แต่เขาสามารถวิ่งขึ้นไปได้อีก เสียงวิ่งอยู่แถว ช่องที่เอาเทปก้นหม้อปิดไว้ วิ่งไปวิ่งมา บางคืนวิ่งบนหัวนอนเลย. แถบด้านบ้านสัก.. / วิ่งไปวิ่งมา ร่าเริง สนุกสนานมาก.. นรกดาดฟ้า.. เหมือนสลัมร้านผักเลย.. อยู่มาตั้งแต่เด็ก คุ้นเคยรู้จักกันดีกับน้องหนู มาอยู่ดาดฟ้าดินแดง ต้องมามีเพื่อนอย่างนี้อีก..

เพื่อคุณ โดย รวงทอง ทองลั่นทม ฟังจาก ดันดารา...

เพื่อคุณ โดย รวงทอง ทองลั่นทม ฿฿ http://www.youtube.com/watch?v=SmQ681VoNQI ๓๓ ... เงียบ ๆ คนเดียว - เบิร์ด ธงชัย ฿฿ http://www.youtube.com/watch?v=yAmPYdeJsw0 ๓๓

หมึกแดง / เกี๊ยวหมูทอดและเกี๊ยวน้ำ /

หมึกแดง / เกี๊ยวหมูทอดและเกี๊ยวน้ำ / แผ่นเกี๊ยว 1 ห่อ / หมูบด 200 กรัม / เกลือ 1/2 ชช. / พริกไทย พอประมาณ / ซีอิ๊วขาว 1 ชต. / มันหมูบด 1/2 ถ้วย / แห้วสับ 1/4 ถ้วย / ต้นหอม 1/2 ถ้วย / แป้งมัน พอประมาณ / น้ำมันงา 1 ชช. / กระเทียมเจียวพอประมาณ / ผักกาดหอม พอประมาณ / น้ำซุปหมู พอประมาณ / น้ำมันพืช พอประมาณ / ซอสบ๊วย พอประมาณ *** 1.นำชามสำหรับผสมเครื่องปรุง ใส่เนื้อหมูสับ เกลือ พริกไทย ซีอิ๊วขาว มันหมูบด แห้วสับ ต้นหอมสับ 1/4 ถ้วย / แป้งมัน น้ำมันงา ผสมทุกยอย่างให้เข้ากัน / 2.นำส่วนผสมของไส้เกี่ยวที่ผสมไว้แล้ว มาวางไว้ตรงกลางแผ่นเกี๊ยว แล้วพับแผ่นเกี๊ยวเหมือนซองจดหมาย หรือจะพับเกี๊ยวเป็นรูปต่าง ๆ ตามต้องการก็ได้ / 3. นำกระทะตั้งไฟใส่น้ำมันให้ร้อน นำเกี๊ยวไปทอดจนกระทั่งเหลือง เสิร์ฟกับซอสบ๊วยหรือน้ำจิ้มไก่ หรือจะทำเป็นเกี๊ยวน้ำก็ได้ โดยนำเกี๊ยวไปลวกในน้ำร้อนจนสุก นำไปใส่ถ้วยที่รองก้นถ้วยด้วยผักกาดหอม และตักน้ำซุปราดลงไป ปรุงรสด้วย น้ำปลา น้ำส้มสายชู น้ำตาล พริกป่น กระเทืยมเจียว ต้นหอมซอย *** Tip ต้องใส่มันหมูไปในไส้เกี๊ยว ก็เพราะว่ามันหมูจะทำให้ไส้ชุ่มขื้น ไม่แห้งเหมือนกินทราย.. / ร้านรถเข็น ทำเกี๋ยวลวก น้ำจิ้มซีอิ๊วดำ.. ปรุงรส น้ำส้มพริกตำ ฯลฯ / เส้นเล็กผัดซีอิ๊วดำ (ถั่วงอกดิบ) / บะหมี่เส้นแบน ฮื่อก้วยแผ่นบาง ลูกชิ้นปลาจีบ (ฟักกวางตุ้งลวก)/ หมี่ซั่วผัดถั่วงอก กุยช่าย /ข้าวผัดไส้กรอกกุนเขียง/ ก๋วยเตี๋ยวหลอด (ถั่วงอกลวก)/ เกี๊ยวลวกไส้หมูสับ / หมี่ผัดพริกป่น (แบบหมี่กะทิ) ***

หมึกแดง

หมึกแดง

น้ำปลาหวานแอปเปิลเขียว

น้ำปลาหวานแอปเปิลเขียว / น้ำปลา 1/4 ถ้วย/ น้ำตาลปี๊บ 1/2 ถ้วย / น้ำมะขามเปียก 1/4 ถ้วย/ กุ้งแห้งป่น 1 ชต. / หอมแดงซอย 1/4 ถ้วย/ พริกขี้หนูแห้งทอด 8-10 เม็ด/ แอปเปิลเขียวพอประมาณ ++ 1.นำหม้อตั้งไฟใส่น้ำตาลปี๊บลงไป ละลายแล้ว เติมน้ำปลา น้ำมะขาม ชิมรส หวานอมเปรี้ยวและเค็ม พักไว้ให้เย็น / 2.ใส่หอมซอย และกุ้งแห้งป่นคลุกลงไปในน้ำปลาหวาน โรยหน้าด้วยกุ้งแห้งป่น และพริกแห้งทอด / 3.นำแอเปิลเขียวล้างสะอาด หั่นตามชอบ ทานกับ้ำปลาหวาน ++ ทิป แอปเปิลเมื่อหั่นแล้ว เมื่อถูกอากาศจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล เพราะอากาศทำปฏิกิริยากับน้ำตาลที่อยู่ในผลไม้ วิธีที่จะทำให้ผลไม้ไม่ดำนั้น เมื่อหั่นผลไม้แล้ว ให้นำผลไม้ไปแช่ในน้ำที่ผสมกับน้ำมะนาว ก่อนนำไปกระอบอาหาร +++ +++ ***

ขนมจีนซาวน้ำ หมึกแดง.. / ขนมจีนน้ำเงี้ยว / เชอร์เบทมะพร้าวเผา /

ขมมจีน 1 กก. / เนื้อปลากรายหรือลูกชิ้นปลา 300 กรัม / มะพร้าว 2 กก. / น้ำ 2 ถ้วย / เกลือป่น 1 ชช. / น้ำตาล 1 ชช. // +++ เครื่องปรุง ซาวน้ำ.. กุ้งแห้งป่น 1 ถ้วย / สับปะรดหั่นละอียด 1 ผล / กระเทียมซอย 1/4 ถ้วย / ขิงซอยละอเอียด 1/3 ถ้วย / ไข่ต้ม 4 ฟอง / พริกขี้หนูบุบพอแตกทำน้ำพริกน้ำปลา พอประมาณ / น้ำตาลทราย พอประมาณ .. / ++ 1.ขูดเนื้อปลากราย นำมานวดจนเนื้อปลาเหนียว / 2.นำมะพร้าวมาคั้นให้ได้กะทิ 3 ถ้วย / ตั้งไฟให้เดือด / 3.ปั้นเนื้อปลาเป็นลูกขนาดหัวแม่มือ หยอดลงไปในน้ำกะทิเดือด (ถ้าเป็นลูกชิ้นสำเร็จแล้ว ให้ผ่าสี่ 4 ส่วน แล้วต้มในน้ำกะทิ) ปรุงรสด้วยเกลือ น้ำตาล พอเดือดยกลง พักไว้ / 4. รับประทานกับขนมจีน เครื่องซาวน้ำ และไข้ต้ม ปรุงรสตามชอบด้วยน้ำปลาพริก น้ำมะนาว น้ำตาลทราย (ถ้าขอบหวาน) Tip การต้มไข่ให้เป็นยางมะตูมนั้น ต้องต้มไข่ในน้ำเดือดประมาณ 3-5 นาที แล้วตักออกมาแช่ในน้ำเย็นจัด... +++*** ขนมจีนนน้ำเงี้ยว / ขนมจีน 1 กก. / / เนื้อหมูสับ 200 กรัม / ซี่โครงหมูอ่อนสับเป็นชิ้น ๆ 500 กรัม / เลือดหมูหั่นเป็นชิ้นพอคำ 1 ถ้วย / มะเขือเทศสีดาทั้งลูก 5 ลูก / +++ เครื่องแกง / พริกแห้งเม็ดใหญ่แช่น้ำ7 เม็ด / หอมแดงหั่น 1/2 ถ้วย/ กระเทียม 1/4 ถ้วย / ตะไคร้หั่นฝอย 2ชต / เต้าเจี้ยว 3 ชต/ เครื่องเคียง ถั่วงอกเด็ดปลาย / ถั่วฝักยาหั่นเป็นท่อน / กระเทียมเจียว/ ผักชีหั่นฝอย / น้ำตาลทราย / ผักกดาดองหั่นฝอย / พริกขี้หนูแห้งอทด / แคปหมู / ต้นหอมหั่นฝอย / น้ำปลา/ มะนาว / ยอดกระถิน.. +++ 1.โขลกเครื่องแกงให้ละเอียด / 2.ต้มซี่โครงหมูในน้ำประมาณ 5 ถ้วย เคี่ยวไฟอ่อน 20 นาที / 3.ตั้งกระทะใส่น้ำมันเพื่อเจียวกระเทียมแล้วตักขึ้น หรี่ไฟอ่อน แล้วทอดพริกขี้หนูแห้งพอหอมตักขึ้น / 4.ผัดเครื่อแกงในน้ำมันที่เหลือ พอหอม นำหมูสับลงผัดพร้อมกันจนสุก / 5.นำเครื่องที่ผัดทั้งหมด ใส่ลงหม้อน้ำต้มซี่โครงหมู ใส่มะเขือเทศ เลือดหมู พอเดือด เคี่ยวไฟอ่อนต่ออีก 20 นาที / ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลทราย โรยหน้าด้วยต้นหอม ผักชี และกระเทียมเจียว รัปบะทานกับแคปหมู ปรุงรสด้วน้ำมะนาว พริกทอด น้ำตาล (ถ้าชอบหวาน) เส้นขมมจีน ควรนึ่งก่อนรับปะทาน Tip บางสูตรใส่ดอกงิ้ว และใช้ถั่วนึ่ง (ถั่วเน่ามากกว่ามั๊ง) แทนเต้าเจี้ยว ซึ่งก็เป็นอันเดียวกันนั่นแหละ +++ **** เชอร์เบทมะพร้าเผา.. น้ำมะพร้าว 2 ถต. / กะทิ 1/2 ถต. / เนื้อมะพร้าวอ่อนขูดเป็นเส้น ๆ 1 ถต. / น้ำตาลทราย 1/4 ถต. / ไข่ขาวของไข่ไก่ 1ฟอง/ มะพร้าอว่อนทั้งลูก 1 ลูก ++ ++ 1.นำกะทิและน้ำตาลทรายผสมให้เข้ากัน เทใส่หม้อตั้งงไฟ พอร้อนยกลง พักไว้ให้เย็น / 2.ตีไข่ขาวให้ขึ้นฟู แล้วเทสวนผสมข้อ 1 ผสมให้เข้ากัน แล้วเติมน้ำมะพร้ว เนื้อมะพร้าว คนให้เข้ากัน / / 3.นำส่วนผสมทั้งหมดลงไปปั่นในถังปั่นไอศกรีมจนส่วนผสมต่างๆ แข็งตัวขึ้น ในหว่างที่ปั่นให้เติมน้ำแข็งและเกลือเม็ดไปรอบ ๆ เครื่องปั่นตลอดเวลา/ /4.เมื่อได้เชอร์เบทที่แข็งตัวแล้ว ใส่ตักใส่ลูกมะพ้าวทั้งลูก (หรือผ่าครึ่งลูก) นำไปแช่ในตู้แช่แข็ง / Tip การใส่เกลือผสมลงไปในน้ำแข็งที่ใช้ปั่นไอศกรีม ก็เพื่อให้เกลือรักษาความเย็นของน้ำแข็ง ทำให้น้ำแข็งเย็นขึ้น และละลายช้าลง +++ ***

21ตค.57 ยังไม่ตาย.คิดว่าไม่รอดเสียแล้ว.. เมื่อคืน 20ตค.57 อ้วกทั้งคืน.. อ้วกข้าวผัดไข่...นอนไปต้องตื่นขึ้นมาอ้วกอีก..

21ตค.57 ยังไม่ตาย.คิดว่าไม่รอดเสียแล้ว.. เมื่อคืน 20ตค.57 อ้วกทั้งคืน.. อ้วกข้าวผัดไข่...นอนไปต้องตื่นขึ้นมาอ้วกอีก.. / อ้วกจนถึงเช้า ทั้งน้ำดี น้ำย่อย ขมปนเปรี้ยว.. ไข่ยังเป็นชิ้น ๆ อยู่เลย.. สันนิษฐาน.. น้ำมันเหลือค้าง 2 วันจากทอดไข่เจียวในกระทะเทฟลอน. เติมน้ำมันอีกหน่อย.. ตอกไข่ใส่ ใส่ข้าว ปรุงรส ก็กินอร่อยดี.. ตกกลางคืน..(กินตอน 16.00 น.) . ทำไมหายใจไม่ออก พะอืดพะอม ไม่เรอ..มีลมแต่ไม่ออก.. / สุดท้ายคว้าถุงพลาสติก อ๊อกหน่อยเดียว.. ออกหมดเลย.. น่าจะเป็นเพราะน้ำมันค้างมันเหนียว.. ไม่สามารถย่อยได้..ไม่ดูดซึม.. ตายแน่อีนังปูบ้า.. / คราวก่อนทีละ.. ข้าวขาหมู.. อาการเดียวกันเลย.. ซื้อยากิน.. / เช้านี้เหลือตังค์ 600 ซื้อยากินไม่ได้.. จะไปหาหมอที่สี่พระยา ..ค่ารถ แอร์ปอ.36 ไปกลับเกือบ 40 บาท.. ก็ไม่ไหว.. / อาศัย โอวัลตินร้อน ๆ 7-11 ซดไปก่อน เอาน้ำตาลและพลังงาน น้ำแข็งกด 1 แก้ว.. ร่างกายขาดน้ำอย่างรุนแรง. ซดน้ำประปาไปก่อน จิบสองจิบ.. / คิดว่าเช้านี้จะไม่ได้หายใจเสียแล้ว... / หิวถุงอ้วก หนัก 3 โล.. ใส่ถุงมัดปากถุงรวมกัน..ทิ้งที่ถังขยะปากซอย.. เค้าจะด่ามั๊ยนะ..น้ำทั้งนั้นเลย.. / เสียดายไข่ 5 บาท หมูหยอง 20 บาท.. / วันนี้กูจะรอดมั๊ยเนี่ย.. ดูอาการก่อน..

21ตค.57 68/16 ซอยบุญอยู่.. แต่มีกรรมต้องอยู่ดาดฟ้า.. หลายคืนมานี้.. น้องหนู(หลิน)วิ่งขึ้นมา แถมร้อง จิ๊ด ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ วิ่งเข้าซอกข้างผนังห้อง ลุยกองไม้เตียง.

21ตค.57 68/16 ซอยบุญอยู่.. แต่มีกรรมต้องอยู่ดาดฟ้า.. หลายคืนมานี้.. น้องหนู(หลิน)วิ่งขึ้นมา แถมร้อง จิ๊ด ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ วิ่งเข้าซอกข้างผนังห้อง ลุยกองไม้เตียง.

19ตค.57 เดินสวนกับแม่บ้านสาระแน.. ถือถุงผัก 2 มือ.. กูก็ถือถุงขยะ 2 ถุงมือซ้าย.. กูมองไม่เห็นหน้าผี.. ไม่หลบมึงซะอย่าง จะทำไม..

19ตค.57 เดินสวนกับแม่บ้านสาระแน.. ถือถุงผัก 2 มือ.. กูก็ถือถุงขยะ 2 ถุงมือซ้าย.. กูมองไม่เห็นหน้าผี.. ไม่หลบมึงซะอย่าง จะทำไม.. / มันต้องหลบตัว หลบถุง.. ไม่งั้นก็เฉี่ยงถุงขยะของกู .. เอาสิ ..เอายังไงก็เอากัน. สู้ตายโว๊ย.. / กลัวตายก็ได้แค่เศษเงิน "ตั้งเครื่องซักผ้า เป็นแสนนะ ไม่ใช่บาทสองบาท" EDogThong Lyhn .. ไม่ต้องทำห่าอะไร..ได้กินอยู่ฟรี น้ำไฟฟรี เครื่องซักผ้าใช้ฟรี.. เงินเข้าออกจากบ้านฟรี คชต.ประจำวันฟรี ไม่ต้องทำงานไปหาเงินเรียนปริญญาโทไป.. มีให้มันฟรีทุกอย่าง 3 ปีน่ะ เดี๋ยวข้อมูลไม่แน่น ต้องโทร.ไปถามนิด้า..ให้ชัวร์ ว่าน้องหนู หลิน พิมพา สุพรรณโกมุท มีคชต.เรียนปริญญาโท นิด้าบริหารธุรกิจ ภาคปกติ กว่าจะจบเป็นเงินเท่าไหร่.. เค้าเป็นหลานอากงอาม่าคนนึง มีสิทธิ์ในทรัพย์สิน มรดกของของอากา อาม่า ส่งเค้าเรียนปริญญาโท นิด ๆ หน่อยๆ จะเป็นไปไร.. .สาธุ สาธุ สาธุ...

เสาร์ 18ตค.57.. เห็นกลางคืน เม็ดขี้หนูดำ ๆ 1เม็ดบนผ้า.. ตกดึก.. ได้ยินเสียงวิ่งกระโดดบนถุงพลาสติก..2 ครั้ง.. หล่นตุบ..ไม่ใช่จิ้งจกแน่นอน..น้องหนู.หลิน พิมพา สุพรรณโกมุท..

เสาร์ 18ตค.57.. เห็นกลางคืน เม็ดขี้หนูดำ ๆ 1เม็ดบนผ้า.. ตกดึก.. ได้ยินเสียงวิ่งกระโดดบนถุงพลาสติก..2 ครั้ง.. หล่นตุบ..ไม่ใช่จิ้งจกแน่นอน..น้องหนู.หลิน พิมพา สุพรรณโกมุท.. / แอร์ห้องชั้นล่างหลังบ้าน (ทำใหม่) 15,000 / ทำห้องลูกชายคนเล็ก (ปูกระเบื้อง 20 นิ้ว).. ติดหน้างใหม่ 50,000 / กูห้องดาดฟ้า..พัดลมเหลือเดินยกไปคืน..มีลมแบบหมุนไล่แมลงวัน..หาความเย็นไม่ได้เลย แม้แต่พัดแรงหน่อยไอร้อนอ้าว..ก็ยังไม่มีเลย.. ต้องเฉือนเนื้อเถือหนัง..ควักเองจากสองพัน.. 600 บาท เหลือใช้ 1,400 / จะซื้ออะไร ก็ให้แค่นั่นแหละนะ..เออ. รู้แล้วแหละ.. ไม่ฝัน ไม่หวังหรอก..

ครัวคุณต๋อย 17 ต.ค. 57 (2/2) เนื้อย่างจิ้มแจ่ว ร้าน MIX RESTAURANT ยังไม่แกะ ง่วง..ง.ง..

ครัวคุณต๋อย 17 ต.ค. 57 (2/2) เนื้อย่างจิ้มแจ่ว ร้าน MIX RESTAURANT ฿฿ http://www.youtube.com/watch?v=V5ZhpNF5PyE ๓๓ ... ครัวคุณต๋อย 17 ต.ค. 57 (1/2) ส้มตำมีประโยชน์อะไรบ้าง .. สำคัญที่สุดคือ... ถ้าทำขาย ก็ได้ตังค์ (รวยอ่ะ) .. ฿฿ http://www.youtube.com/watch?v=z3Ln97-LcYU ๓๓ ...

พูดอะไร อะไร ก็ตามด้วย.. เนี่ย.. เนี่ย.. เนี่ย.... แย่ยิ่งกว่า ...นั้น นั้น นั้น.. ทุเรศจริง ๆ

พูดอะไร อะไร ก็ตามด้วย.. เนี่ย.. เนี่ย.. เนี่ย.... แย่ยิ่งกว่า ...นั้น นั้น นั้น.. ทุเรศจริง ๆ

ครัวคุณต๋อย 16 ต.ค. 57 (2/2) ข้าวเหนียวเหลืองหน้าปลาแห้ง ร้าน นันทนาขนมไทย

ครัวคุณต๋อย 16 ต.ค. 57 (2/2) ข้าวเหนียวเหลืองหน้าปลาแห้ง ร้าน นันทนาขนมไทย ฿฿ http://www.youtube.com/watch?v=oKHj2JyOYwI $$ สมัยเด็ก คุณป๊อบ ..ตอนปิดเทอมจากรร.ดาราสมุทร หรือจากบ้านโกวที่ดาวคะนอง.. แม่จะผ่าแตงโม เป็นซีก แช่ในตู้แช่เก๊กฮวย.. ลูกป๊อบชอบกินแตงแช่เย็นมาก.. น้องหนูหลิน พิมพา สุพรรณโกมุท อย่าลืมทำปลาแห้ง แตงโม ให้พี่ชายที่แสนดี พี่ป๊อบของเธอกินด้วยนะคะ.. เธอจะได้ไม่ตกยาก.. สบายไปตลอดชีวิต... สาธุ Lhyn Pimpa Suphankomut...

ขนมบ้าบิ่น H&C

มะพร้าวแก่ขูดขาว 4 ถ้วย / แป้งข้าวเหนียว 2 ถ้วย / แป้งเท้ายายม่อม 1/4 ถ้วย/ น้ำตาลทราย 1 3/4 ถ้วย / กลิ่นมแนวเล็กน้อย น้ำมันพืชสำหรับทาถาด *** วิธีทำ 1.อุ่นเตาอบด้วยไฟบน-ล่างไว้ที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส พร้อมทาน้ำมันที่ถาดอบเตรียมไว้ / 2.ผสมส่วนผสมทุกอย่างให้เข้ากัน ใช้มือขยำไปเรื่อย ๆ จนส่วนผสมจับตัวเป็นก้อน / 3.ตักแบ่งส่วนผสมเป็นก้อน ขนาดเท่า ๆ กัน วางเรียงในถาดที่ทาน้ำมันพืชเตรียมไว้ นำเข้าอบประมาณ 25-30 นาที จนหน้าขนมเป็นสีเหลืองอ่น นำออกมาพักสักครู่ แซะขนมออกจากถาดเรียงบนตะแกรง ผึ่งให้เย็น พร้อมเสิร์ฟ +++ ...ขนมปังมะพร้าว แป้งขนมปัง 550 กรัม / แป้งสาลีอเนกประสงค์ ตราบัวแดง 120 กรัม/ ยีสต์แห้งสำเร็จรูป 10 กรัม/ น้ำเปล่า 280 กรัม/ น้ำตาลทราย 150 กรัม / เกลือ 1 ชช./ ไข่ไก่ (เบอร์ 2) 1 ฟอง / เนยจืดที่อุณหภูมิห้อง 100 กัม/ เนยจืดที่อุณหภูมิห้อง เล็กน้อย สำหรับทาหน้าขนม / เนยขาวสำหรับทาถาด +++ ส่วนผสมไส้มะพร้าว / มะพร้าวทึนทึกขูดเส้น 200 กรัม/ นำะตาลทราย 50 กรัม / กลิ่นนมแมวเล็กน้อย (หากไม่ชอบไม่ใส่ก็ได้) ** วิธีทำ 1.อุ่นเตาอบด้วยไฟบน-ล่างที่อุณหภูมิ 165-170 องศาเซลเซียส พร้อทาเนยขาวที่ถาดอบเตรียมไว้ / 2.ร่อนแป้งทั้ง 2 ชนิดใส่ชามอ่างอ่างผสม เทยีสต์ใส่ลงไป ใช้พยายยางเคล้าพอเข้ากัน /3.ผสมน้ำตาล น้ำ และเกลือให้ละลาย เติมไข่ไก่ลงไป พักไว้ /4. เทส่วนผสมข้อ 2 ใส่ลงในเครื่องผสมแป้งใช้ความเร็วต่ำ ตีประมาณ 30 วินาที จากนั้นค่อย ๆ เทส่วนผสมข้อ 3 ลงไปจนหมด ตีพอเข้ากัน ปรับความาเร็วเป็นระดับกลาง ตีจนส่วนผสมจับตัวเป็นก้อน / 5.ใส่เนยลงไป ตีจนส่วนผสมเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน นำออกมาจากเครื่อง นวดไล่อากาศ แล้วพักไว้ในอ่างผสมใบใหญ่ปิดปากอ่างผสมด้วยฟิล์มถนอมอาหาร พักไว้ 30 นาที จนส่วนผสมขี้นเป็น 2 เท่า / 6.นำแป้งออกมานวดไล่อากาศ แล้วตัดเป็นก้อน ก้อนละ 45 กรัม / คลึงให้กลม พักไว้ในถาด คลุมด้วยผ้าขาวบางชุบน้ำบิดหมาด หรือถุงพลาสติกไว้ประมาณ 15 นาที ให้แป้งขึ้น / 7.ระหว่างรอขนมขึ้น ให้ทำไส้มะพร้าว โดยผสมมะพร้าวขูด น้ำตาล และกลิ่นนมแมวให้เข้ากัน พักไว้ในตู้เย็น / 8.นำแป้งที่ขึ้นดีแล้วมาบรรจุไส้และขึ้นรูปตามต้องการ (ตามภาพเป็นการขั้นรูปแบบเปีย โดยคลึงแป้งเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า กว้าง 2 นิ้ว ยาว 10 ติ้ว ตัดตามยาว แบ่งออกเป็น 3 ส่วน แต่ด้านกว้างด้านหนึ่งไม่ขาดจากกัน ตักไส้มะพร้าววางลงบนแป้งต่ละเส้น จับมาทับไปมาคล้ายถักเปีย เก็บริมให้เรียยร้อย วางบบนถาดที่ทาเนยขาวไว้ เว้นระยะห่างประมาม 2 นิ้วให้ขนมขึ้น พักขนมไว้ให้ขึ้นฟูอีกประมาณ 30 นาที จากนั้น นำไปอบประมาณ 15 นาที จนกระทั่งสุกเหลือง นำออกมาจากเตา ทาหน้าขนมด้วยเนยพร้อมเสิร์ฟ

ศุกร์ 17ตค.57 (2,000) เอ้า.. สั้น ๆ ง่าย ๆ จบข่าว...

ศุกร์ 17ตค.57 (2,000) เอ้า.. สั้น ๆ ง่าย ๆ จบข่าว...ยายป๊อกถาม "วันนี้มาเช้าจัง" / "อื้ม..รถไม่ติด ปิดเทอมมั๊ง" เฮียตี๋มาซื้อใบมะกรูด 10 บาท.. ตอนนี้ใบมะกรูดเขาตัดแบบ "ใบสีเขียวอ่อน" ก้านสั้นประมาณฟุตนึงแล้วเหรอ... / สมัยก่อน (ที่เราช่วยแม่เด็ดใบมะกรูดจากก้านใส่ถุง ไว้จกขายตอนเช้า ..) ก้านยาวใหญ่ แข็ง ใบแก่สีเขียวเข้ม ใบหนา... เด็ดเสร็จแล้ว ต้องเอากระดาษนสพ.ห่อให้หนา ๆ แน่น ๆ มัดยางหัวท้าย..ก่อนทิ้งลงเข่งขยะ.. จับยอด แล้วเด็ดใบสวนลงทางก้าน.. มีบ้างมีหนามตำพอสะดุ้งเล็กน้อย.. น้องหนู หลิน พิมพา สุพรรณโกมุท เคยทำบ้างมั๊ยคะ?.. Lyhn Pimpa Suphankomut เมื่อไหร่มันจะเปลี่ยนชื่อ นามสกุล ที่อยู่ฟระ..

ร้านนัทเบเกอรี่ ดินแดง.. เช้านี้ซื้อ Sandwich ไส้ไข่ดาว เบคอน(เหลือชิ้นนิดเดียว)15 บาท กินไปครึ่งอันเจอไข่ดาวเป็นเส้นดำ ๆ (เจอตอนใกล้6โมงเช้าฟ้ายังมืดอยู่)

ร้านนัทเบเกอรี่ ดินแดง.. เช้านี้ซื้อ Sandwich ไส้ไข่ดาว เบคอน(เหลือชิ้นนิดเดียว)15 บาท กินไปครึ่งอันเจอไข่ดาวเป็นเส้นดำ ๆ (เจอตอนใกล้6โมงเช้าฟ้ายังมืดอยู่) /เป็นเส้นดำ 2mm. ยาวตลอดแนว 1 เส้น.. / วิเคราะห์ว่า พ่อครัวคงจะทอดไข่ดาว(พิมพ์กลม) แล้ววางบนตะแกรงพัก แต่ไม่เข้าใจว่า ทำไมไข่ดาวขาว ๆ ถึงมีเส้นสีดำ ๆ เป็นร่องมั๊ยไม่สังเกตเห็นเพราะยังฟ้ามืดอยู่... เหมือนตะแกรงเลอะคราบปิ้งย่างถาวรกระนั้น.. 15 บาท กินไปแล้ว.. จบข่าว....

ห้องสมุดซอยพระนาง หัวเหม่งชอบคุยกับเด็ก ลุกไปดู.. เขาเล่นเกม "สนุ๊กเกอร์" แต่เด็กยืนล้อมเต็ม คุยอยู่นั่นแหละ.. รำคาญมากเลย.. ประจำ ทำประจำ พูดคุยกับเด็กตลอด.. เด็กก็คุยส่งเสียงกันสิ

ห้องสมุดซอยพระนาง หัวเหม่งชอบคุยกับเด็ก ลุกไปดู.. เขาเล่นเกม "สนุ๊กเกอร์" แต่เด็กยืนล้อมเต็ม คุยอยู่นั่นแหละ.. รำคาญมากเลย.. ประจำ ทำประจำ พูดคุยกับเด็กตลอด.. เด็กก็คุยส่งเสียงกันสิ / ผู้ใหญ่เฮ็งซวย ... ไม่มีสามัญสำนึก.. เด็กไม่ผิด... ถ้าให้เด็กเล่นด้วยล่ะก็ จะไม่เล๊ย.. ไอเหม่ง.. ฮ่วยเซ็งมะแล่ง.. เปิด I hate myself สุดเสียงมะแล่งเลย..

ครัวคุณต๋อย 15 ต.ค. 57 (2/2) ขนมจีนซาวน้ำ ร้าน ขนมจีนบ้านผู้การ / น้องหนูหลิน พิมพา สุพรรณโกมุท อาอึ้มใจกว้างดังมหาสมุทร ชอบกิน /ทำให้อาอึ้มกินด้วยนะคะ

ครัวคุณต๋อย 15 ต.ค. 57 (2/2) ขนมจีนซาวน้ำ ร้าน ขนมจีนบ้านผู้การ / น้องหนูหลิน พิมพา สุพรรณโกมุท อาอึ้มใจกว้างดังมหาสมุทร ชอบกิน /ทำให้อาอึ้มกินด้วยนะคะ ๕฿฿ http://www.youtube.com/watch?v=n_8Ojyxdl60 ๓๓ เมนูทานหน้าร้อน.. ขิงดับร้อนในร่างกาย.. ใช่หรือคะ..ขิงมันมีฤทธิ์ร้อนไม่ใช่หรือคะ.. คือใส่เต้าฮวย น้ำขิง. ปาท่องโก๋../ ขนมจีนนึ่ง ปูผ้าขาวบางในซึ้ง วางขนมจีนทีละจับ / ปลากราย มาขูดจากท่อนหัวขูดลงไปที่หาง เพื่อไม่ย้อนขึ้นมา ก้าง.. / ใช้ได้แต่ท่อนสัน เชิงปลากรายจะทอดกัน ใช่ไม่ได้ (ทอดกระเทียมพริกไทย) / ขูดเนื้อสันหัว / พริกไทยขาวเม็ด กระเทียม รากผักชี โขลกละเอียด / ติดก้าน 1 ซม.ซอยละเอียดลงครก / กระเทียมไทยปลอกเปลือกเหลือเยื่อสีชมพู กระเทียม ศรีสะเกษ / คลุกปลากราย / เกลือป่น ใส่น้ำ ละลาย ..ใส่น้ำแข็งยูนิคก้อนเล็ก แช่สาก (ควรมี 3-4 อันมั๊ยคะ)ให้เย็นเจี๊ยบ ปลากรายใส่ครก สากแช่เย็น โขลก ช่วยให้เหนียวเร็วขึ้น / โขลกแล้วแช่สากอีก นวดไปเรื่อย ๆ จนเนื้อปลากรายเนียนละเอียดเข้ากัน ใส่เครื่องหอมโขลก / ใส่กะละมัง ซ้อนในอ่างน้ำแข็งนอก (ผสมเกลือ) ต้มน้ำให้เดือด เกลือ น้ำปาลาดี / กำมือบีบเนื้อปลากรายออกทางหัวแม่โป้ง ช้อนตัด / ปาดลงหม้อ /สุก น้ำเดือดพล่าน / ตักกขี้นน๊อคน้ำแข็งน้ำเย็น เหนียวนุ่ม กรอบ / หัวกะทิ ตักลูกชิ้นลงไป / น้ำเชื่อมราด บิน้ำตาลปึก.. น้ำตาลทาย ไม่ฟอกสี (สีรำ..จะให้กลิ่นหอมกว่าทรายขาว) ฿฿ น้ำปลาดี เคี่ยว ไฟกลาง ()2 ซม.ไฟสูง) / ปรุงรสด้วยน้ำมะนาว ใส่กรดเพื่อไม่ให้ตกทรายหรือคะ..(หรือเคี่ยวให้เหนียว แล้วใส่มะนาวทีหลังไม่ให้ขม อันแรกดีกว่านะ ถ้าเป็นต้มยำค่อยปิดไฟใส่มะนาว) ไฟอ่อน ไม่ไห้ไหม้เป็นราคาเมล..เคี่ยวให้เหนียวพอไหลได้ ไม่ถึงกับยางมะตูม / นึ่ง จัดจับขนมจีน วางซ็อนกันได้ สลับให้ไอน้ำโดนขนมจีนทั่ว / ขิงอ่อนซอย เส้นยาว.. / กระเทียมไทย ซอยบางตามขวาง สั้น ๆ(ทำไม่ซอยตามยาว ให้ได้เนื้อยาว ๆ ) / พริกขี้หนูสวนซอยละเอียด / และไม่สวน / สับปะรดศรีราชา (เปรี้ยวอมหวาน / กุ้งแห้งอย่างดี กุ้งแห้งเนื้อ ไม่ติดเปลือกหางกรอบ.. โขลกละเอียดจนฟูขาว น่ากิน / ทิ้วไว้ เอาทั้งหมดไปทิ้งฮา.. / ขนมจีน ขมวดเป็นคำ ราดด้วยน้ำเชื่อมปรุงรส.. ราดหัวกะทิ แจลอนปลากราย เครื่องซาวน้ำ สับปะรดสับหนา 0.5 Cm.ยาว 1 นิ้ว / ไข่(เป็ด)ต้มยางมะตูม.. ต้ม 8 นาที (ไข่ไก่ 7 นาที) / มาคู่กับข้าวแช่ / ปลาปราย 8 จุด น่าจะ 9 จุด .. ถ้า 12 จุด ตัวใหญ่มาก.. หนองเก่า ๆ ต้องใส่ยา.. ปลากลายเป็นอะไร.. กลายเป็นลูกชิ้นฮะ.. เอ้า ฮา....ถ้าใส่ในน้ำแข็งเลย นำแข็งจะจับกันเป็นก้อน.. / สับปะรดอมเปรี้ยวหาน มันต้องหวานอมเปรี้ยว หรือ เปรี้ยวอมหวาน มะนาวซีกผ่าครึ่ง.. จะบีบออกมั๊ยคะ.. // หัวกะทิสด เคี่ยวแล้ว.. / สับปะรด ลูกหัวขนาด สัมโอเล็ก ..ปอกเปลือกปาดเอาตาออกเลย จะได้ลูกกลม ๆ ..

ก๋วยเตี๋ยวหลอดพัฒนา / ขนมจีบดอกทุเรียน / ขนมปังกระเทียม / ต้มโพล้งปลาสลิด /

เครื่องปรุง .. ก๋วยเตี๋ยวแผ่นใหญ่ 1 กก. / หมูบดหยาบ 1/2 ถ้วย / กุ้งบดหยาบ 1/2 ถ้วย / รากผักชี กระเทียม 1/2 ถ้วย / ถั่งงอกเด็ดหางลวก 2 ถ้วย / น้ำซุป 2 ชต. / น้ำมัน 2 ชต. +++ ... พะโล้เห็ดหอม เต้าหู้ขาวอย่างแข็ง หั่นขนาด 0.5x2 cm. 1 แผ่น / เห็ดหอมหั่นยาว 2 cm. 5 ดอก / ผงพะโล้ 1/2 ห่อ / รากผักชี กระเทียม พริกไทโขลก 2 ชต./ น้ำตาลปี๊บ 2 ชต./ ซีอิ๊วขาว 1 ชต. /ซีอิ๊วดำ 1 ชต. / +++ วิธีทำ 1.ตั้งกระทะใส่น้ำมันไฟปานกลาง ผัดรากผักชี กระเทียม พริกไทยให้หอม / 2.ใส่หมูบด กุ้งบด เติมน้ำซุปนิดนหน่อย ผัดไฟอ่อนอีก 5 นาที / /3.นำแผ่นแก๋วยเตี๋ยววางลงบนถาด ตัดเป็นแผ่นสี่เหลี่ยม 7x7 นิ้ง ตักหมูที่ผัดแล้ววางตามยาวของแผ่น โรยด้วยถั่วงอกลวกและกุ้งแห้งทอด /4.ม้วนห่อแผ่นก๋วยเตี๋ยวให้แน่นเป็นหลอดยาว นำไปนึ่งในลังถึง 5 นาที ยกลง / /5.เตรียมพะโล้ เต้าหู้ เห็ดหอม โดยผัดกระเทียมรากผักกับผงพะโล้ให้หอม เติมน้ำซุปและใส่เต้าหู้ เห็ดหอม ปรุงรส เคี่ยวไฟอ่อน 15 นาที / / 6.จัดก๋วยเตี๋ยวหลอดใส่จานเสิร์ฟ ราดด้วยพะโล้เต้าหู้เห็ดหอม โรยหน้าด้วยกระเทียมเจียว แต่งหน้าด้วยผักชี / 7.เสิร์ฟกับน้ำจิ้มน้ำส้ม แนมด้วยผักสด เช่น ผักชี ใบโหระพา ใบผักกาดหอม ผักกาดแก้ว แตงกวา ถั่วงอกดิบ +++ น้ำจิ้ม พริกชี้ฟ้าเหลืองโขลกละเอียด ผสมกับน้ำส้มสายชู ประดับ ผักชีเด็ดเป็นช่อ ๆ กุ้งแห้งทอดโรยหน้า กระเทียมเจียวโรยหน้า ก๋วยเตี๋ยหลอด ... เวลาขายก็เอาถั่วงอกลวกใส่ลงไป คนขายจะตัดเป็ชิ้นด้วยกรรไร โรยกระเทียมเจียว ราดด้วน้ำซีอิ๊วและพริกน้ำส้ม เดี๋ยวนี้พัฒนาดัดแปลงไส่ไส้ต่าง ๆ เช่น ไส้หัวไชโป๊วสับ ถั่วลิสง หมูบด - ไส้ใบกุยช่าย หมูสับ / ไส้เต้าหู้ซอย หมูชิ้น เห็ดหอม ผสมกับเครื่องพะโล้ / ไส้มันแกว กุ้งแห้ง กุ้งสด ใบคื่นช่าย... ++++ ขนมจีบ .. กุ้ง 200 กรัม / เนื้อหมูสับ 250 กรัม / เนื้อปูนึ่ง 100 กรัม / มันหมูแข็งหั่นสี่เหลี่ยมเล็ก 100 กรัม / ไข่เป็ด 1 ฟอง / ไข่ไก่ 1 ฟอง / แห้วต้มหั่นสี่เหลี่ยมเล็ก 100 กรัม / เห็ดหอมแช่น้ำหั่นสี่เหลี่ยม 3 ดอก/ กระเทียมเจียว 1 ชต. / พริกไทยป่น 1 ชช./ แป้งมัน 1 ชต./ น้ำตาลทราย 1 ชช. / ซีอิ๊วขาว 1.5 ชต. / น้ำมันพืช 2 ชต. .... 1.ล้างกุ้ง ปอกเปลือก ผ่าหลังชักเส้นดำออก สับกุ้งและเนื้อหมูรวมกัน ใส่มันหมูแข็ง ไข่ พริกไทย น้ำตาล ซีอิ๊วขาว แป้งมัน นวดให้เข้ากัน แล้วจึงใส่แห้วและเห็ดหอม เคล้าให้เข้ากัน / 2.นำแผ่นเกี๋ยวมาใส่ไส้ที่ปรุง จับจึบให้รอบ โดยใส่ไส้ให้นูนขึ้นจากแผนเกี๊ยวเล็กน้อย แต่งหน้าด้วยมันปูและเนื้อปู นำไปนึ่งในลังถึง ปูด้วยใบตองฉีก ประมาณ 15 นาที ยกลง พรมด้วยกระเทียมเจียว จัดเสิร์ฟ พร้อมกับซอสเปรี้ยว รับประทานกับผักกาดหอม และผักชี +++ *** ขนมปังกระเทียม / ขนมปังฝรั่งเศส 1 แถว / เนยเค็ม 180 กรัม / กระเทียมสับ 4 ชต. / เกลือ 1 หยิบมือ / พริกไทยขาวป่น 1 หยิบมือ /// 1. ขนมปังฝรั่งเศสบาแก็ต (Baquette) ยาว ๆ หั่นแฉลบหนา 1.5 ซม. / 2.กระเทียมสับละเอียด ผสมกับเนย เกลือ พริกไทย / 3.ทาเนยกระเทียมบนขนมปังให้ทั่วแผ่น / 4.ปิ้งในตาอบเล็กจนเหลืองกรอบและมีกลิ่นหอมรับประทานร้อน ๆ ทันที .. ถ้าจะใช้เครื่องสมุนไพรไทย เช่น ผักชีลาวกับใบหอมสับละเอียด ผสมในเนยกระเทียม แล้วโรยเนยแข็งขูดบนขนมปังกระเทียม อบหอม ๆ จะร่อยไปอีกแบบ +++ **** ต้มโพล้งปลาสลิด ใบมะขามอ่อน (ร้านอาหารหน้า ธอส.สนญ.สมัยก่อน จะทอดปลาสลิด 1 ครั้ง ทั้งตัว และนำขึ้นมาแกะเป็น 2 ซึก ไม่ขาด นำลงไปทอดในน้ำมันร้อนอีกครั้ง กรอบนอกนุ่มใน.. แต่น่าจะแกะเนื้อทั้งตัว เลาะก้างออกก่อนทอดครั้งที่ 2 นะ) ปลาสสลิดแห้ง 3 ตัวเขื่อง / หอมเดงเผา 4-5 หัว/ พริกแห้งเม็ดใหญ่ 2 เม็ด / น้ำมะขามเปียกข้น ๆ 2 ชต. / น้ำปลา 1 ชต. / น้ำตาลทราย 1/2 ชช. / น้ำซุป 3 ถ้วย / ใบมะขามอ่อน 1 กำ *** 1.ต้มน้ำซุปในหม้อแกงให้เดือดพล่าน เอาปลาสลิดที่ล้างน้ำและผึ่งลมไว้แล้วนำมาสับ 2-3 ท่อนใส่หม้อ / พอน้ำแกงเดือดอีกที เอาหอมเล็กที่เผาแล้ว บุบใส่ลงไปพร้อมใบมะขามอ่อน / 3.ปรุงรสด้วนน้ำปลา น้ำมะขามเปีกย ให้เปรี้ยวนำ เค็มตาม / 4.ถ้าชอบเผ็ดนิด ๆ ใส่พริกชี้ฟ้าแห้งเผาไฟ แล้วยกลงเสิร์ฟ ... ต้มโคล้งบ้างก็เรียกกันว่า "ต้มโพล้ง" คือการทำอาหารรับประทานของคนไทยภาคกลาง ที่เสร็จเร็วทีสุด มีคุณค่า อร่อยด้วย ซดชุ่มคอชื่นใจนัก เหมาะสมเป็นอย่างยิ่งสำหรับอากาศฤดูร้อน ประกอบกับฤดูร้อนเป็นหน้าใบมะขามแตกยอดอ่อนเสียด้วย.. เอ๊ะเขาใส่ ตะไคร้ ข่า ด้วยหรือเปล่านะ ต้มโคล้ง... +++ **** +++

สปาเก็ตตี้กุ้งแม่น้ำ / แกงขี้เหล็ก / เมี่ยงปลาทู / หมูตุ๋นปลาเค็ม / สลัดผักสด / แกงจืดมะระผักกาดดอง / ตำลึงไฟแดง / ข้างกล้องอบเผือก / ยำดอกแค /

สปาเก็ตตี้กุ้งแม่น้ำ //มะเขือเทศสุก 6 ลูก / หอมหัวใหญ่ 2 หัว/ มะเขือเทศบดละเอียด 3 ชต.Tomato Pate / ไวน์ขาว 1 แก้ว / น้ำซุป 2 ถ้วย / พริกไทย 1 ชช. / เกลือป่น 3 ชช. / น้ำตาล 1 ชช. / ซุปไก่ก้อน 1/2 ชต. / น้ำมันมะกอก 2 ชต. / +++ เครื่องเทศฝรั่ง / ใบกระวาน 1ใบ (Bay leaf) / ก้านพาร์สลีย์ Parsley 3 ก้าน / ใบพาสลีย์สับ 1 ชต. / ใบไธม์ Thyme 1 ชช. / +++ เครื่องปรุง กุ้งแม่น้ำ 1/2 กก. / สปาเกตตี 400 กรัม / (3mm.) +++ วิธีทำ 1.ตั้งน้ำในหม้อให้ร้อน จุ่มมะเขือเทศลงลวกทีละ 2-3 ลูก นับ 1-10 ตักขึ้น แช่นำเย็น(น้ำแข็ง) /2.ลอกเปลือกมะเขือเทศออก และหั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยม 1x1 ซม. / เขี่ยเม็ดทิ้งไป / 3.ปอกและหั่นหอมหัวใหญ่เป็นสี่เหลี่ยมเช่นเดียวกับมะเขือเทศ / 4.ตั้งกระทะให้ร้อน ใส่นำมันมะกอกลงไป ผัดหอมหัวใหญ่ กระเทียมจนหอม ใส่แป้งและซอสมมะเขือเทศบดละเอียดลงไป แล้วเติมน้ำซุป / 5.ใส่มะเขือเทศหั่นเต๋าลง พร้อมทั้งเครื่องเทศและเครื่องปรุง เติมไวน์ขาว เปิดไฟอ่อน ๆ เคี่ยวซอสจนเข้าเนื้อประมาณ 30 นาที คอยคนอยู่เรื่อยๆ ระวังติดก้นกระทะ / 6.ต้มสปาเกตตีในน้ำเดือดพล่าน เหยาะเกลือนิดหน่อย ดูเวลาที่กำหนดข้างกล่อง ประมาณ 7-8 นาที / 7.ล้างกุ้งให้สะอาด แกะเปลือกออก เหลือหัวและหางไว้ ผ่าเอาไส้กลางหลังออกและตัดหนวดทิ้ง /8.ตักซอสมะเขือเทศใส่กระทะพอประมาณ ตั้งไฟให้ร้อน ใส่กุ้งลงไป ขยับกระทะ 2-3 ครั้งเพื่อให้กุ้งสุก ปิดไฟ ตักราดบนเส้นสปาเกตตี โรยพริกขี้หนูแห้งทอดกรอบ และประดับใบโหระดพาสด รับประทานร้อน ๆ 6+++ ชาวอิตาลีนิยมรับปะทานเส้นพาสต้าทุกขนิดแบบไม่เละเกินไป และค่อนข้างจะแข็ง.แบบที่เรียกว่า "al Dente" คือเกือบจะสุก +++ .... เต้าหู้เห็ดหอมซีอิ๊ว .. เต้าหูขาวอย่าแข็ง 2 แผ่น / เห็ดหอมแห้ง 12 ดอก / ซีอิ๊วขาวสูตร 1... 3 ชต. / ซอสถั่วเหลืองปรุงรส 1 ชต. / พริกไทยป่น 1/2 ชช. / ซีอี๊วดำ 1 ชช. / น้ำซุป 3 ถ้ย/ น้ำตาลปี๊บเล็กน้อย *** วิธีทำ 1.หั่นเต้หู้เป็นสี่เหลี่ยมชิ้นใหญ่พอประมาณ แผ่นละ 6 ชิ้น / / 2.เห็ดหอมล้างน้ำให้สะอาด แช่น้ำให้นิ่ม / 3.ตั้งน้ำซุปในหม้อให้ร้อน ใส่เต้าหู้ที่หั่นแล้วลงในหม้อ ตามด้วยเห็ดหอม ปรุงรสทุกอย่าง พอน้ำเดือดหรี่ไฟลงอ่อน ๆ เคี่ยวไปเรื่อยๆ จนน้ำงวด เหลือตแต่น้ำขลุกขลิก (ในภาพเต้าหู้ทอดก่อน หั่นก่อนทอดก็น่าจะดี ผิวจะตึงตัว ไม่แตกและง่าย).. *** ++++ แกงขี้เหล็ก .. ยอดและดอกขี้เหล็กต้ม 300 กรัม / ปลากรอบย่าง 80 กรัม / มะพร้าวขูด 1/2 กก. / กระชายบุบ สับหยาบ 80 กรัม / หอมเล็กบุบพอแตก 6-7 หัว/ น้ำสุก 3 ถ้วย / ปลาร้า 60 กรัม / น้ำปลา 3 ชต. / +++ เครื่องพริกแกง.. พริกแห้งเม็ดใหญ่ 10 เม็ด / พริกขี้หนูแห้ง 5 เม็ด / กระเทียมเล็ก 5-6 กลีบ / หอมเล็ก 2 หัว / กะปิ 1 ชต. / ผิวมะกรูด 1 ลูก / +++ วิธีทำ 1.ขี้เหล็กต้มแล้วรินน้ำทิ้ง 3 ครั้ง ล้างน้ำเย็น แล้วบีบเอาน้ำออกให้หมด / 2.แบ่งน้ำมาคั้นมะพร้าว 2 ถ้วย / คั้น 2 ครั้ง กรองกะทิใส่หม้อตั้งไฟ / 3.โขลกพริกแกงให้ละเอียด แล้วตักใส่หม้อกะทิ ตามด้วยขี้เหล็ก ใส่หอมเล็กบุบ กระชายบุย ปลากรอบฉีกเป็นชิ้นเล็ก ๆ ใส่ลงเคี่ยวด้วยกัน / 4.ต้มปลาร้ากับน้ำที่เหลือ กรองเอาแต่น้ำ ใส่ลงในหม้อ เคี่ยวไปเรื่อย ๆ จนกะทิแตกมัน แต่ต้องหมั่นคน เพราะแกงขี้เหล็กจะติดก้นหม้อง่าย / 5. ปรุงรส +++ ความจริงขี้เหล็ดสดมีสารพิษ ครั้นเอามาแกงเข้า กลายเป็น "ยาระบาย" ขนานยอดเยี่ยม ใครที่ท้องไส้ผูก รับประทานแกงขี้เหล็กร้อน ๆ กับขนมจีน (ควรนึ่งก่อน) แบบเดียวกับกินขนมจีนน้ำยา จะอร่อยยอดเยี่ยมกว่าราดข้าวธรรมดา ถ้าได้แนมใบเล็บครุฑ ใบทองหลางชุบแป้งทอดร้อน ๆ จะประทับใจยิ่งขึ้น / ** ถ้าแกงดอกขี้เหล้กอย่างเดียวเปรี้ยวไป สู้ปนยอดด้วยไมได้ กลมกล่อมนัก / * แกงขี้เหล็ก ถ้าใส่เนื้อย่างติดมันหั่น ๆ บาง ๆ ตามขวางลงไปในแกงด้วย จะอร่อยยิ่งขึ้น สำหรับคนชอบรับประทานเนื้อหรือใส่เนื้อปลาสละแห้งหั่นเป็นชิ้นก็ดีจ้ะ +++ +++ เมี่ยงปลาทู .. ปลาทู 5 ตัว / ขิงอ่อนหั่นสี่เหลี่ยม 3 ชต./ หอมเล็กหั่นเต๋า 3 ชต. / มะนาวหั่นเต๋าพร้อมผิว 3 ชต. / ถั่วลิสงคั่วใหม่ 6 ชต. / พริกขี้หนูสวนหั่นฝอย *** +++ 1.นำปลาทูมาย่าง แกะเอาแต่เนื้อ หั่นเป็นสี่เหลี่ยม / 2.รับประทานกับใบชะพลู ผักกาดหอมหรือใบทองหลาง โดยนำไปใบเหล่านี้มาห่อปลาทูและเครื่องต่าง ๆ ในลักษณะเมี่ยง +++ ควรใช้ปลาทูย่างเตาถ่าน จะหอมกว่าที่นำไปทอด ใช้ปลาสดหรือปลานึ่งก็ได้ / * เมี่ยงปลาทูนี้ถ้าจะนำไปยำ ก็นำเครื่องทั้งหมดคลุกเคล้าให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยมะนาว เกลือ พริกขี้หนู และน้ำตาลนิดหน่อย แต่หอมเล็กและขิง ควรซอยแล้วรับประทานกกับต้นหอม ผักชี ใบสะระแหน่ ... +++ หมูตุ๋นปลาเค็ม.. ปลาสละเค็ม 50 กรัม/ หมูสามชั้นติดหนัง 150 กรัม / พริกไทยบุบ 8 เม็ด/ ตะไคร้ทุบ 4 ท่อน / กระเทียมเล็ก 10 กลีบ / น้ำมันพืช 1 ชต. / ซอสปรุงรส 1 ชช./ ซีอิ๊วขาว 1 ชช. / +++ 1.ล้างปลาเค็มให้ดี ผึ่งไว้ หั่นชิ้นโต ๆ เท่าหัวแม่มือ / 2.หั่นหมูสามชั้นหนา 1 ซม. กว้าง 4 ซม. (จะใช้หมูเนื้อแดงผสมกับหมูสามชั้นด้วยก็ได้) / 3.ตั้งน้ำมันให้ร้อนในหม้อ ใส่หมูลงไปรวนแล้วเรียงหมูให้ทั่วก้นหม้อ ใส่ตะไคร้ กระเทียม พริกไทย / 4.วางปลาเค็มเรียงข้างบนหมู / 5.ใส่ซอสปรุงรสและซีอิ๊วขาว เติมน้ำพอท่วม ปิดฝา / 6.เปิดไฟอ่อน ๆ จนน้ำงวดและหมูเปื่อยดี / 7.เปิดฝาและตั้งไฟต่อไป จนกว่าหมูจะเริ่มหอมมากขึ้น มีสีเหลืองเกรียม และมีน้ำมันออกมา ยกเสิร์ฟ กินกับข้าวสวยร้อน ๆ +++ สลัดผักสด .. ผักกาดหอม ผักกาดแก้ว ผักกาดหวาน มะเขือเทศลูกใหญ่ มะเขือเทศเชอร์รี่ แตงกวาไทยหรือแตงญี่ป่น หอมหัวใหญ่ กะหล่ำม่วง แครอทซอยฝอย พริกหยวกฝรั่ง แดง เหลือง เครสต่าง ๆ วอเตอร์เครส Watercress มัสตาร์เครส เครสญี่ปุ่น Mastardcress Kei wa rei ไควาระ...---- น้ำสลัดน้ำใส น้ำมันสลัด (300 ml.() 3 ส่วน / ส้มส้มสายชูบัลซามิค (Balsamic Vinegar) 100ml.) 1 ส่วน / มัสตาร์ดีจอง (Dijon Mustard) 1 ชต. / หอมเล็กสับ 1 ชต. / ใบไธม์สด (Thyme) 1 ชช. / เกลือ 1 ชช. / พริกไทยป่น 1/2 ชช. /น้ำตาล 1/2 ชช.... ---++ ... 1.ล้างผักให้สะอาด และจัดใส่จานให้สวยงาม / 2.เตรียมน้ำสลัด โดยใช้ไม้ตีไข่ทรงตะกร้อ ผสมเครื่องปรุงทุกอย่างเข้าด้วยกัน ยกเว้นน้ำมันสลัด แล้วค่อย ๆ เติมน้ำมันสลัดลงในชาม โดยใช้ไม้ตีไข่ตีไปเรื่อย / **** การถนอมผักสลัด วิธีรักษาคุณภาพผักที่วิเศษมากคือ เอาใบตองห่อผัก โดยอย่าเพิ่งล้างผัก เพราะผักจะสำลักน้ำและช้ำชอก ที่ล้างเก็บไว้ก็จะต้องเน่า เพียงเอาน้ำมาพรมน้อย ๆ แค่ให้ชื้น และใส่ถุงพลาสติกยักษ์เก็บไว้ในตู้เย็น จะไม่เหี่ยวไม่เน่า สดสวสยเท่าวันแรก เวลาปจะปรุงอาหารจึงค่อยเอาออกมาล้าง *** น้ำสลัดนี้เก็บในขวดแช่ในตู้เย็นไว้รับประทานได้นาน 3-4 อาทิตย์**** ------ แกงจืดมะระผักกาดดอง / มะระจีนหั่นท่อนยาว 2 นิ้ว คว้านไส้ออก 1 ลูก / กระดูกหมู 300 กรัม / ก้านผักกาดดอง หั่นท่อน 2 นิ้ว 150 กรัม / รากผักชี กระเทียม พริกไทยโขลก 1 ชช./ น้ำซุป 4 ถ้วย / ซีอิ๊วขาวสูตร 1 ** 2.5 ชต. / เกลือ 1/2 ชช. / ผักชี 1 ต้น / พริกไทยป่นเล็กน้อย วิธีทำ1.เอามะระที่คว้านไส้ออกล้างให้สะอาด ผึ่งไว้ /2.ตั้งน้ำซุปให้เดือด ใส่กระดูกหมู พอเดือดให้ช้อนฟองทิ้ง /3.ใส่มะระลงไปพร้อมทั้งผักกกาดดอง พอเดือดอีกที ช้อนฟอง หรี่ไฟให้อ่อน ๆ ต้มไปเรื่อย ๆ จนมะระเปื่อย / 40.ปรุงรสด้วเกลือและซีอิ๊วขาว /5.ชิมรสให้หวานน้ำซุป ตักเสิร์ฟร้อน ๆ โรยหน้าด้วยผักชี เหยาะพริกไทย---++ ... อาหารเทีเป็นเนื้อคู่กันและขาดกันไม่ได้ ถ้าไม่มีซึ่งกันแยละกันก็จะหมดรสหมดอร่อย มีหลายอย่างเช่น มะระกับผักกาดดองเค็มก็ถูกกันจนแยกไม่ออก / หน่อไม้ก็เช่นกัน พอเจอน้ำใบย่านางคั้นเข้าเท่านั้น มีชีวิตชีวาเลิศรสขึ้นทันที / ต้มกะทิสายบัวกับปลาทู ถ้าไม่มีมะดัน หมดรส / ไข่ปลาดุก ถ้าไม่มีมะม่วงดิบ ไข่ปลาดุกกก็ไม่มีความหมาย ***** *****....... ตำลึงไฟแดง .. ตำลึง 100 กรัม / หมูสับ 20 กรัม / กระเทียมสับหยาบ 2 กลีบ / พริกขี้หนูแดงบุบ 4 เม็ด / น้ำซุปหรือน้ำเปล่า 1 ชต. / ซอสหอยนางรม 1 ชต. /น้ำมันพื 1 ชต. +++ วิธีทำ 1.ลวกหมูในน้ำร้อน ตักพักขึ้น / 2.นำตำลึงที่เด็ดแล้วล้างน้ำให้สะอาด และสงขึ้นใส่กระละมัง / 3.เอาเครื่องปรุงทั้งหมดพร้อมหมูลวกใส่บนตำลึง / 4.ตั้งกระทะน้ำมันให้ร้อนจัด คว่ำกะละมังผักตำลึงพร้อมเครื่องปรุงลงใปกระทะ ผัดไปมาเร็ว ๆ เติมน้ำซุปนิดหน่อย ตักใส่จานเสิร์ฟทันที +++.. คุณค่าทางอาหารของผักยังมีมาก ไม่ควรให้เสื่อมไปเพราะใช้ความร้อนนานเกินไป ผักถูกวิธี ต้องใช้ไฟแรงมาก และทำให้ผักสุกในระยะเวลาอันสั้น กระทะรต้องร้อนจัด เอาผักซึ่งล้างแล้วกับซอสปรุง หรือหมูหรือเต้าเจี้ยว ใส่โครมลงพร้อมกันทุกอย่าง แล้วรีบคน ๆ ๆ ๆ อย่างที่เขาเรียกว่า "ผัดผักไฟแดง" +++*.... ข้าวกล้องอบเผือก ... / ข้าวกล้องสุก 1.5 ถ้วย/ หมูสับ 60 กรัม / เผือกต้ม (1x1cm.) 10 ชิ้น / เห็ดหอม 2 ดอก / เม็ดมะม่วงหิมาพนต์(ทอด) 10 เม็ด / เกลือ 1/4 ชช. / น้ำตาล 1/2 ชช. / ซีอิ๊วขาวสูตร 1 ชช. / มาร์การีน 1 ชช. / กุนเชียงทอดหั่นแฉลบ / น้ำมันสำหรับผัด 2 ชต. / พริกไทยป่นเล็กน้อย .. ... วิธีทำ 1.ตักข้าวใส่ชาม ใส่เครื่องปรุงรสทุกอย่าง ลงบนชามข้าว / 2.หั่นเผือกต้มที่หั่นแล้วเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า / 3.เห็ดหอมล้างให้สะอาด แช่น้ำพอนิ่มหั่นชิ้นเล็ก ๆ(หรือน่าจะทำเห็ดหอมทอดน้ำมันเยอะ แล้วเทน้ำมันออก ทำปรุงรสเคี่ยวให้เข้าเนื้อเห็ด) /4. ตั้งกระทะใส่น้ำมัน พอร้อนใส่หมูสับผัดให้สุก แล้วคว่ำชามข้าวลง ผัดให้เข้ากัน ใส่เผือก เห็ดหอม และเม็ดมะม่วงหิมพานต์(ทอดสุกแล้ว) / 5.ใส่เนยหรือมาร์การ์รีนลงไปคลุกให้ทั่ว แล้วตักข้าวใส่หม้อดิน โปะหน้าด้วยกุนเชียงทอดหั่นเฉียงแฉลบ นำไปตั้งไฟอ่อน ๆ ให้ข้าวระอุและหอม เสิร์ฟในหม้อดิน +++ ... ข้าวกล้องคือ ข้าวที่สีเอาเฉพาะเปลือกแข็งออก ไม่มีการขัดขาว เมล็ดข้าวยังสมบูรณ์ มีส่วนที่เรียกว่าจมูกข้าวและรำข้าวติดอยู่ ทำให้ข้าวกล้องมีคุณค่าทางอาหารสูงกว่าข้าวขัดขาว คือมีส่วนของแร่ธาตุต่าง ๆ ที่มีคุณค่า ซึ่งเชื่อกันว่าป้องกันโรคมะเร็งได้ และมีเส้นใยทำให้ระบบขับถ่ายดี ....----------- ยำดอกแค ... ดอกแค 120 กรัม / หมูบด 20 กรัม / ปลาหมึก 4 ชิ้น / กุ้งกุลาดำ 4 ตัว / หอมเล็กซอย 2 ชต. / พริกขี้หนูแดงสับ 1 ชช. / ++ น้ำยำ น้ำมะนาว 1 ชต. / น้ำตาล 2 ชช./ น้ำปลา 1 ชต. --- 1.น้ำใส่หม้อตั้งไฟให้เดือด แล้วลวกหมูบด กุ้ง ปลาหมึก พอสุกตักขึ้น / 2.ใส่ดอกแคลงลวกพอสุก ตักขึ้น ล้างน้ำให้ย็น บีบน้ำทิ้ง / 3.เอาทุกอย่างใส่ภาชขนะ เติมน้ำยำ คลุกเคล้าให้เข้ากันเร็ว ๆ ตักใส่จาน เสิร์ฟทันที อย่าทำทั้งไว้ จะเซ็ง -- ดอกแคและยอดแค โบราณนับถือว่านักว่ามีสรรพคุณป้องกันไข้หวัดใหญ่ (ต้นฤดูหนาว) เวลารับประทานให้เด็ดเกสรออก จะขมน้อยลง ...+++ ****--- ****

ขนมปังหน้าหมู / ทอดมันปลากราย / แกงเลียง / ข้าวเหนียวหมูแดง / น้ำพริกกุ้งเผาตะลิงปลิง / น้ำพริกมะขามอ่อน / น้ำพริกขี้กา / ปลาร้าสับ / เต้าเจี้ยวหลน / ปูเค็มต้มกะทิ / ปลาส้มปลาตะเพียน / ผักดองจิ้มน้ำพริก /

ขนมปังหน้าหมู ขนมปัง 5 แผ่น / หมูสับ (หรือเนื้อสับ ไก่สับ ปูหรือกุ้ง) 200 กรัม / ไข่ 2 ฟอง / เนื้อปูนึ่ง 2 ชต. / กระเทียม 2 ชต. / รากผักชี 1 ชช. /พริกไทยป่น 2 ชช. / ซีอิ๊วขาว 1 ชต. / น้ำมันสำหรับทอด *** วิธีทำ 1.โขลกกระเทียม รากผักชี พริกไทยให้ละเอียด / 2.ผสมหมูสับกับเครื่องหอมโขลก ปรุงรส ใส่ไข่ นวดให้เหนียว / 3.ตักหมูปรุงแล้วทาบนขนมปังให้ทั่ว โรยด้วยเนื้อปู กดให้อยู่และแปะใบผักชีบนหน้าหมู / 4.ใส่น้ำมันลงในกระทะ ตั้งไฟปานกลาง พอน้ำมันเริ่มร้อนใส่ขนมปังหน้าหมู คว่ำหน้าลง ทอดให้เหลือง กลับข้าง ทอดต่อจนขนมปังเหลือง ตักขึ้น วางให้สะเด็ดน้ำมัน รับประทานร้อน ๆ กับอาจาด .. / น้ำจิ้มอาจาด แตงกวาซอยตามขวาง (ผ่า 4 หั่นขวาง) หอมเล็กซอยตามขวาง พริกเหลืองหั่นตามขวาง / น้ำส้มสายชู 4 ชต. / น้ำตาล 2 ชต. / เกลือเล็กน้อย.. วิธีทำธีทำ 1.น้ำส้มสายชู เกลือ ต้มสุก ทิ้งไว้ให้เย็น ปรุสรสให้เปรี้ยวนำ หวานตาม / 2.ดองแตงกวา เมื่อเวลาจะรับประทาน อย่าดองไว้นาน ๆ จะไม่อร่อย *** ถ้าใช้ขนมปังฝรั่งเศสหั่นหนา 1.5 ซม. แทนขมปังแผ่นก็จะอร่อยเดี เพราะขนมปังฝรั่งเศสจะเหนีวกว่า *** ถ้าซื้อขนมปังมาใหม่ๆ นิ่มๆ ๆ ควรเอามาใส่กระชอนผึ่งลมให้แห้งสักหน่อย เวลาทอดจะได้ไม่อมน้ำมัน แต่ขนมปังเก่าที่แช่ตูเย็นไว้หลายวันแล้วใช้ได้ดีที่สุด *** แกงเลียง .. ฟักทองหั่นหนา 0.5x2 ซม.10 ชิ้น / บวบเหลี่ยมปอกเปลือก หั่นเป็นชิ้นพอคำ 10 ชิ้น แฉลบ / ยอดข้าวโพด(อ่อน)หั่นแฉลบ 3 ฝัก / เห็ดฟางผ่าครึ่ง 3 ดอก / กระชายทุบ หั่นท่อนยาว 1 นิ้ว 1 หัว/ พริกไทยสด 1 ช่อ หั่น 4-5 ท่อน / ตำลึงเด็ดเอาแต่ใบ 1 กำมือ / แมงลักเด็ดเอาแต่ใบ 1 หยิบมือ / ปลาหมึกหั่นชิ้นพอคำ 1 ตัว / กุ้งกุลาดำปอกเปลือก ชักเส้นดำ 4 ตัว/ หอยแมลงภู่เอาแต่เนื้อ 4-5 ตัว/ น้ำซุป 3 ถ้วย / น้ำปลาส 1.5 ชต. / น้ำตาลทราย 1 ชช. +++ ... เครื่องปรุงพริกแกง.. พริกชี้ฟ้าแดงผ่าเอาเมล็ดออก 4 เม็ด / กระชาย 3 หัว/ หอมแดง 3 หัว / พริกไทยขาวเม็ด 10 เม็ด / กะปิเผาไฟพอสุก 20 กรัม / กุ้งแห้ง 20 กรัม/ ++++ วิธีทำ1.โขลกลพริกแกงให้ละเอียด เตรียมผักใส่กะละมังเดียวกัน (ยกเว้นตำลึงและแมงลัก) / 2.ตักน้ำซุปใส่หม้อ ตั้งไฟ พอเดือดใส่ผักที่เตรียมไว้ พอผักสุก ใส่พริกแกงแล้วปรุงส ชิมรสออกเผ็ดร้อนนิด ๆ เค็มนำ หวานตาม แต่อย่าให้หวานมาก เพราะน้ำผักก็หวานแล้ว (ตามลำดับผักสุกยาก-ง่าย / 3. พอน้ำแกงดือดอีกที ใส่ของสดทุกอย่าง แล้วใส่ใบตำลึงและใบแมงลัก คนให้เข้ากัน ตักเสิร์ฟ (แกงเลียงต้องรับประทานร้อนๆ กับข้าวสวยร้อน ๆ ถึงจะอร่อย) +++ ... ข้าวเหนียวหมูแดง เครื่องปรุง ข้าวเหนียว 3 ถ้วย/ ซีอิ๊วดำอย่างเค็ม 1/4 ถ้วย / น้ำมันงา 1 ชต. / ผักชี 2 ต้น / พริกชี้ฟ้าสีแดง-เขียว 3 เม็ด /กุนเขียง 2 คู่ +++ เครื่องผสมหมูแดง เนื้อหมูเลือกเนื้อ ๆ ไม่ติดมัน (หรือสันใน) 1/2 กก. / เหล้าจีน 1 ชต. / น้ำมันงา 2 ชช. / น้ำมันพืช 2 ชต. / น้ำตาลทราย 1.5 ชช. / เกลือ 1 ชช. / ซีอิ๊วดำ 2 ชช. / ซีอิ๊วขาว 1 ชต. / ซอสสีแดง (ห้อยสินเจียง) 1 ชต. / วิธีทำ 1.ซาวข้าวเหนียวแล้วแช่น้ำทิ้งไว้ 1 คืน ใช้ข้าวใหม่จะหอมและนิ่ม วันรุ่งขึ้นนำไปนึ่งในหวด หรือนึ่งบนผ้าขาวบางในลังถึง / 2.เนื้อหมูล้างน้ำ หั่นเป็นชิ้นยาว ๆ กว้างประมาณ 1.5 นิ้ว แล้วผึ่งไว้ / 3.เตรียมผสมน้ำหมักหมูแดง โดยเอาทุกอย่างผสมเข้าด้วยกัน แล้วใส่ขิงแก่โขลกลงไปผสมให้เข้ากัน / 4.หมักหมูในน้ำซอสอย่างน้อย 1-2 ซม. (ไม่ใช่ 1-2 ชม.เหรอ.. wrap หน้า หมักในตู้เย็น) แล้วนำไปย่างไฟอ่อน ๆ จนหมูสุก / 5.ระหว่างย่างหมั่นตักน้ำซอสราดหมู หมูแดงจะหอมและไม่แห้ง เมื่อสุกยกลง ทิ้งไว้ให้เย็นหน่อย ค่อยหั่นเป็นชิ้นบาง ๆ (หรือจะนำหมูไปอบในเตาอบก่อน และค่อยนำมาย่างให้หมูมีสีเกรียมนิดหน่อย น่ารับประทาน แต่อย่าให้ไหม้ /6.นำกุนเชียงไปปิ้งจนหอมและสุก แต่อย่าให้ไหม้ แล้วนำมาหั่นแฉลบชิ้นบาง / / 7.เวลารับประทาน ตักข้าวเหนียวใส่ชาม เอาหมุชูแดง กุนเชียง วางเรียงบนข้าวเหนียว แล้วพรมซีอิ๊วดำผสมน้ำมันงา เหยาะพิรกไทยนิดหน่อย (น่าจะมีต้นหอมซอยโรยหน้าด้วยเนอะ) / 8.หั่นพริกช้าฟ้าเขียว-แดง ใส่ 6-7 ชิ้น ประดับด้วยผักชี และรับประทานร้อน ๆ *** สมัยโบราณ เวลาจะเดินทางไปต่างจังหวัด มักนิยมเอาข้าวเหนียวหมูแดงห่อพกไปด้วย เวลาหิวก็นำมาออกรับประทานได้ทันที ผู้ใหญ่กินได้ เด็กกินดี ถ้าไม่ใช้ซอสห้อยสินเจียงในการทำสีหมูแดง ใช้ซอสมะเขือเทศเข้มข้นแทนก็ได้ +++ ... ทอดมันปลากราย ..เนื้อปลากรายขูด 300 กรัม / เกลือ 4 ชช. / น้ำตาลปี๊บ 1 ชช. / พริกไทยป่น 1/2 ชช. / ใบมะกรูดซอย 2 ใบ / ไข่ไก่ 1 ฟอง / เครื่องแกง 2 ชต. / ถั่วพู 5-6 ฝัก +++ ส่วนผสมเครื่องแกง ... พริกแห้ง /8 เม็ด/ ตะไคร้ 1 ชต./ ผิวมะกรูด 1 ชช. / หอมแดง 2 หัว / ข่า 1 ชช. / กระเทียม 10 กลีบ / รากผักชี 1 ชช. / ++ น้ำจิ้มอาจาด .. กระเทียม พริกแดงตำ 1 ชต. / น้ำส้มสายชู 2 ชต. / น้ำตาลทราย 2 ชต. / เกลือป่น 1 หยิบมือ / ถั่วลิสงคั่วบุบหยาบ 1 ชช./ แตงกวาซอย 2 ลูก / ใบผักชี .. / 1.ตำเครื่อแกงให้ละเอียดและลงตำกับเนื้อปลา โขลก ๆ ๆ ๆ ๆ จนเหนียว ยิ่งเหนียวยิ่งดี เอาน้ำเย็นลูบสาก ลูบครก ไม่ให้เนื้อปลาติด (ถ้าจะใช้ฟาดเนื้อปลากับกะละมังก็ได้ ให้ฟาดแรง ๆ จนเหนียว) / 2.เนื้อปลาเหนียวดีแล้ว ใส่ไข่ ตีให้เข้าเนื้อ / 3.ใส่ถั่วพูอ่อนซอย คลุกกับปลาตำ เติมใบมะกรูดซอย / 4.ปรุงรสด้วยเกลือ น้ำตาลปี๊บ พริกไทยป่น / 5.เทน้ำมันครึ่งกระทะ ตั้งไฟปานกลาง พอร้อน ใส่เนื้อปลาปั้นเป็นก้อนหนา 1 ซม. ทอดจนลอยขึ้นมาและเป็นสีเหลืองทอง ตักขึ้น เสิร์ฟร้อน / +++ วิธีทำน้ำจิ้ม 1.ต้มน้ำส้มสาชู น้ำตาลทราย เกลือ กระเทียม และพริกแดงตำ พักไว้ให้เย็น / 2.ก่อนจะรับปทานค่อยนำมาราดแตงกวา โรยถั่วลิสง ประดับผักชี (อย่าดองน้ำจิ้มไว้นาน จะไม่อร่อย). / 3.ปรุงให้รสเปรี้ยวสูสีกับหวาน เค็มตาม .. ถ้าทออดมัน ต้องทำด้วยปลากรายหรือปลาสลาด (ปลาฉลาด )เพราะเป็นเนื้อปลาที่รสดีมาก โดยเฉพาะทำทอดมันกินเวิเศษที่สุด เนื้อปลาอื่นไม่ดีเท่า และต้องใช้ถั่วพู เพราะถั่วพูกรอบกว่าถั่วฝักยาว สมัยโบราณนั้น ทอดมันชิ้นหนึ่งต้องหนาไมต่ำกว่า 1 ซม. และเส้นผ่าศูนย์กลาง 2 นิ้ว จึงจะถูกลักษณะของ ทอดมันมาตรฐาน +++ **** +++---- น้ำพริกกุ้งเผาตะลิงปลิง / กุ้งชีแฮ้ 100 กรัม / กะปิ 1 ชต./ กระเทียมเล็ก 6-8 กลีบ / พริกขี้หนูสวนเขียว แดง 6 เม็ด / ตะลิงปลิงซอย 1 ลูก / มะอึกซอย 1 ลูก / น้ำตาลปี๊บ 3/4 ชต. / น้ำมะนาว 1.5 ชต. / น้ำปลา 1 ชต. +++ วิธีทำ 1.เผากุ้งให้พอสุก (โยนกุ้งบนหน้าถ่าน ไม่ย่างบนตะกแกรง ) ไฟแรง แต่อย่าแห้ง แกะเปลือกออก และใช้ส้อมฉีกเนื้อกุ้งเป็นชิ้นเล็ก ๆ /2.กะปิห่อใบตองเผาไฟให้หอม / 3.โขลกกระเทียม พริกชี้ฟ้าเผา กับกะปิ ให้ละเอียด / 4.ใส่พริกขี้หนูบุบพอแตก ใส่กุ้งลงโขลก พร้อมทั้งตะลิงปลิงและมะอึกซอย / 5.ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมะนาว น้ำตาลปี๊บ / 6.รับประทานกับผักชุบไข่ทอดได้ทุกชนิด เช่น ชะอม มะเขือยาว ถั่วฝักยาว ดอกแค และผักสดต่าง ๆ แนมด้วยปลาทูทอดเหมือนน้ำพริกกะปิ ... การเผากุ้งจะให้กลิ่นหอมและมีรสหวาน ที่สำคัญคือต้องเลือกุ้งที่สด ๆ คือกุ้งที่ตัวใส ไม่ขุ่น และหัวติดกับตัวสนิท */ ** น้ำพริกมีคุณค่าทางอาหารสูงมาก ในขบวนอาหารไทยด้วยกันแล้วน้ำพริกเหนือกว่าอาหารชนิดไหนหมด ไหนจะได้กินปลา ไหนจะได้กินผัก ส่วนประกอบอื่น ๆ ในกระบวนการน้ำพริกทำให้คนไทยมีสุขภาพดี อยู่ได้ ไม่เป็นโรคขาดอาหาร +++ **** น้ำพริกมะขามอ่อน / มะขามอ่อนหั่นเล็ก ๆ 2 ขีด / กะปิเผาไฟพอหอม 2 ชต. / กระเทียมเล็กปอกเปลือก 2 หัว / หอมเล็ก 5 หัว / พริกขี้หนูสวนเด็ดก้าน 50 เม็ด / น้ำตาลปี๊บ 4 ชต. / น้ำปลา 2 ชต. / หมูสับ 50 กรัม / น้ำมันพืช 5 ชต. / *** วิธีทำ .1.โขลกกะปิกับกระเทียมให้ละเอียด ใส่มะขามโขลกรวมกัน /2.ใส่น้ำมันในกระทะตั้งไฟ ใส่น้ำพริกลงผัด ไฟปานกลางค่อนข้างอ่อน ใส่หมูสับ ผัดจนหมูสกุ ใส่พริกขี้หนูสวน / 3.ปรุงรสด้วยน้ำตาล น้ำปลา ชิมรสให้มี 3 รส..คือ เปรี้ยว ตามด้วยเค็มและหวาน / 4.ตักใส่ถ้วย รับประทานกับผักสด เช่น แตงกวา มะเขือ ถั่วฝักยา สายบัวและปลาสลิดทอด ++*** น้ำพริกมะขามอ่อน สามารถเก็บในขวดโหลแช่ตู้เย็นไว้รับประทานได้นาน ถ้าจะรับประทานกับข้าวเหนียวก็อร่อยดี ....+++---- น้ำพริกขี้กา / ปลาช่อนหรือปลาดุกย่างตัวเล็ก แกะก้าง 1 ตัว / เนื้อปลาร้าปลาช่อนสับ ห่อใบตองปิ้งไฟ 1 ชต. / หอมเล็กเผา 10 หัว / กระเทียมเผา 10 กลีบใหญ่ / พริกเขียว แดง เหลือง ปิ้ง 15 เม็ด / มะกอกไทยแกะเนื้อ 1 ผล / มะเขือเทศสีดาเผา 3 ลูก / น้ำมะนาว 1 ชต. / น้ำปลาดี (แล้วแต่ความเค็มของปลาร้า) 1-2 ชต. / น้ำตาลปี๊บเล็กน้อย //// +++*** วิธีทำ 1.ปอกเปลือกหอมเล็กเผา กระเทียมเผา และพริกเผา แล้วนำมาโขลกหยาบ ๆ เข้าด้วยกัน (ถ้าไม่ต้องการรสเผ็ดมาก ให้แกะเมล็ดพริกออกบ้าง) / 2.ใส่เนื้อปลาช่อนหรือปลาดุกย่าง และปลาร้าสับ คลุกให้เข้ากัน / 3.ใส่มะเขือเทศและมะกอกลงไป / 4.ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมะนาว และเหยาะน้ำตาลลงเล็กน้อย จะทำให้รสกลมกล่อมขึ้น /5.รับปะทานพร้อมกับผักสด เช่น ถั่วพู ถั่วฝักยาว ยอดกระถิน ฝักกระถิน และมะเขือเปราะ ยอดผักบุ้ง และแนมด้วยปลาช่อนฟู ปลาช่อนแดดเดียวหรือไข่ต้มยางมะตูม +++ +++ คนไทยขาดน้ำพริกไม่ได้ ถึงแม้จะเดินทางไปต่างประเทศอย่างไร เสน่ห์น้ำพริกก็มีอานุภาพ ทำให้อดคิดถึงเมืองไทยไม่ได้ คนไทยที่ปลอดจากโรคขาดอาหารได้เป็นส่วนมากก็เพราะน้ำน้ำพริกนี่แหละ..***... +++***... ปลาร้าสับ / ปลาร้าปลาช่อนสับ 1/2 ถ้วย / หอมเล็ก 1/2 ถ้วย / กระชาย 1/2 ถ้วย / ข่า 1/3 ถ้วย / ตะไคร้ 1/3 ถ้วย / พริกขี้หนูสวน 20 เม็ด / ใบสะระแหน่ 4 กิ่ง / ผักชีฝรั่งหั่นฝอย 5 ใบ / ใบมะกรูดหั่นฝอย 5 ใบ / น้ำมะกรูด 1 ชต. / มะขามเปียก 1 ฝัก /// ** วิธีทำ 1.นำปลาร้าปลาช่อนแล่เอาแต่เนื้อ แล้วสับ ๆ ๆ ๆ กับมะขามเปียก (เนื้อมะขามเปียก เอาเมล็ดออก) และผักเครื่องปรุงสารพัดที่มีกลิ่นดับคาวปลาร้า / 2.ผักชีฝรั่ง ใบมะกรูด ใบสะระแหน่ หั่นฝอยผสมลงคลุกลงไปด้วย บางส่วนที่เหลือเก็บไว้โรยหน้า / 3.ปรงุรสด้วยพริกขี้หนูหั่นฝอย มากน้อยตามใจชอบ และน้ำมะกรูด / 4.ปลาร้าสับและเครื่องปรุงนำมาห่อใบตอง เอาไม้กลัดกลัด ปิ้งไฟอ่อนจนใบตองเกรียม ปลาร้าสับจะเพิ่มความหอมยิ่งขึ้น / 5.โรยผักที่เตรียมไว้ แต่งหน้าด้วพยริกขี้หนูเม็ดเล็ก ๆ และรับประทานกับผักดิบ เช่น ถั่วพู กระถิน ยอดผักบุ้ง มะเขือเปราะ ถั่วฝักยาว ///// +++ "ปลาร้าสับ อาหารพื้นบ้านของไทยภาคอีสาน เรียกน้ำย่อยได้อย่างวิเศษสุด แต่อย่าลืมพัฒนานำไปห่อใบตองปิ้งไฟ นอกจากรับประทนได้สนิทปากแล้ว ยังอร่อยกว่ารับประทานดิบ ๆ อีกด้วย เพราะหอมใบหตองที่ห่อ และรสกลมกล่อม อร่อยกว่ากินแบบเก่า... ...+++++ หลนเต้าเจี้ยว/ .. เต้าเจี้ยวขาว (ถั่วเหลืองหมักเกลือสีขาว สีไม่เข้มเหมือนเต้าเจี้ยวธรรมดา) 4 ชต. / มะพร้าว (คั้นน้ำกะทิให้ได้ 1 ถ้วย) 300 กรัม / กุ้งสด(กุ้งนางสับปนหมูสับ) หรือหมูสับ 4 ชต. / หอมเล็ก 4 หัว / (โขลกกับเต้าเจี้ยวขาว 2 หัว / ซอยละเอียดตามยาว 2 หัว) / พริกชี้ฟ้า (หรือพริกหยวกทั้งเม็ด) 5 เม็ด / น้ำตาลปี๊บ 3 ชต. / น้ำส้มมะขาม 3 ชต. / เกลือ (ถ้าเต้าเจี้ยวไม่เค็มมาก) *** 1.เอาเต้าเจี้ยวขาวโขลกกับหอมเล็ก 2 หัวให้จวนละเอียด / 2.ตั้งน้ำกะทิ พอเดือดเอาเต้าจี้ยวกับหอมเล็กซอยลงละลาย และใส่กุ้งนางสับปนกับหมูสับ / / 3.เคี่ยวไฟปานกลางจนกะทิแตกมัน (บางตำราบอก ไม่เอาแตกมัน คนตลอดเวลาจะไม่แตกมัน) ระวังก้นหม้อไหม้ พริกหยวกหรือพริกชี้ฟาทั้งเม็ดใส่ลงไป / 4. ปรุงรสให้เค็ม หวาน เปรี้ยวรั้งท้ายด้วยน้ำตาลปี๊บและน้ำส้มมะขาม รับประทานกับปลาฟูหรือปลาช่อนทอดชิ้นโต ๆ และผักดิบ เช่น ยอดมะกอกไทย ยอดกมะกอกฝรั่ง ยอดมะม่วงเปรี้ยว ใบแต้ว ใบชมพู่สาแหรก ผักชี ต้นหอม แตงกวา มะเขือ *** ปลาฟูนั้นทำจากปลาได้หลายชนิด ประเภทปลาเนื้อหยาบ เช่น ปลาช่อน ปลาดุก หรือปลาสำลีก็ได้จ้ะ สำคัญที่เอาปลามานึ่งให้ร้อน และขูดเนื้อขณะยังร้อนอยู่ด้วยส้อม แกะแต่หนังด้านบนแล้วเอาก้างกลางออก เอาส้อมเขี่ยตะกุย ๆ เบา ๆ ขณะร้อนๆ โดยที่ให้หนังติดกับปลา ผึ่งไว้ให้หมาด จึงนำไปทอดในน้ำมันร้อน พอเหลืองตักขึ้นใส่จาน**------ +++....... ปูเค็มต้มกะทิ .. ปูแป้นเค็ม 5 ตัว / มะพร้าวขูด 300 กรัม / หอมเล็กซอย 5 หัว / หมูบด 60 กรัม / พริกชี้ฟ้าเขียว 4 เม็ด / น้ำตาลปีบ 1 ชต. / เกลือ 1/2 ชช. / น้ำส้มมะขามข้น 1 ชต. / --- 1.ลวกปูในน้ำเดือดแล้วตักขี้น แกะเอากระดองและนมปูออก ตัดปลายขาปูออกและสับเป็นชิ้นพอคำ / 2.คั้นมะพร้าวในน้ำสุก 1.5 ถ้วย ให้ได้กะทิ 2 ถว้ย ตั้งไฟ พอกะทิร้อนใส่หมูบดลงไปละลาย / 3.ปรุงรสให้จัด มีรสเค็มหวาน ตามด้วยเปรี้ยวนิดหน่อย / 4.ใส่ปู หอมเล็ก และพริกชี้ฟ้าลงไปในหม้อกะทิ เคี่ยวต่อไปสักครู่จนพริกสุก ตักเสิร์ฟ / 5.รับประทานกับผัดสด เช่น ผักชี ถั่วพู ขมิ้นขาว แตงกวา มะเขือ ถั่วฝักยาว/ +++.... ปลาส้มปลาตะเพียน / ส้มฟัก ต่อปลาตะเพียน 1 ตัว / เกลือ 2 ชต./ กระเทียมสับ 5-6 กลีบ / ข้าวเหนียวนึ่งเท่าลูกส้มเขียวหวาน ... --- เครื่องเคียง .. ขิงอ่อนซอย / พริกขี้หนูสวน / ผักชี / ต้นหอม / มะนาว / ถั่วลิสงทอด / *** 1. 1.นำปลาตะเพียนมาผ่าท้องล้างน้ำ ขอดเกล็ด ผึ่งลมไว้ให้หมาด / 2.เอาเครื่องปรุงส้มฟักหรือปลาส้มคลุกเคล้าให้ทั่ว ยัดใส่ในท้องปลาด้วย และโปะบนโปะล่างให้คลุมปลาจนทั่ว ใส่ปวดขวดปิดฝาให้สนิท หมักไว้ 3-4 คืนจนรปรี้ยว / 3. นำมาทอดในน้ำมัน ไฟอ่อน ๆ จนสุก หรือจะห่อใบตองย่างก็ได้ / 4.เสิร์ฟกับต้นหอม ผักชี ขิงอ่อน พริกขี้หนู ถั่วลิสงทอด และข้าวร้อน ๆ **- คนไทยทุกภาคชอบรับประทานปลาส้ม เพราะเป็นอาหารที่ถูกปากมาก ขอเพียงอย่ากินดิบ ๆ ต้องทอดให้สุกเสียก่อนเพื่อฆ่าพยาธิตัวจี๊ด.... +++***------- ดองผักจิ้มน้ำพริก /... น้ำส้มสายชู 1 ถ้วย / น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย / เกลือ 1 ชช. / น้ำมะนาว / *** 1.ผักที่จะดองนั้นมีหลายชนิด เช่น ขิงอ่อน ยอดผักยุ้ง ถั่วงอก ยอดมะพร้าว หอมเล็ก / 2.สลักขิงและยอดมะพร้าวให้สวยงาม ล้างน้ำ ผึ่งกระชอนไว้ให้แห้ง /- ขิง เอาน้ำมะนาวบีบใส่ขิง หรือชุบน้ำมะนาวเพื่อให้เกิดสีชมพูสวยงาม / ยอดมะพร้าว ..ก็จุ่มน้ำมะนาวแก้สีคล้ำด้วย จะสวยสะอาดตา แล้วเรียงผักทับแบน ๆ ในขวดโหล / ยอดผักบุ้ง ล้างน้ำและซอยแฉลบยาว 4 ซม. / / ถั่วงอก เด็ดหาง ล้างน้ำ ผึ่งใส่กระชอน / หอมเล็ก ปอกเปลือก ตัดราก ล้างให้สะอาด / 3.เอาน้ำส้มสายชูปรุงกับน้ำตาลทราย ให้รสเปรี้ยวนำ เกลือนิดหน่อย ปรุงได้ที่ ตั้งไฟให้เดือดและยกลง พอเย็นสนิทแล้วจึงใส่โหล ดองขิง ยอดมะพรร้ว และหอมเล็ก (ทิ้งไว้ 1-2 วันก็รับประทานได้) ส่วนผักบุ้งกับถั่วงอกนั้น เอาน้ำส้มปรุง อุ่นราดลงไปให้ผักตายนึ่ง แล้วกินได้ทันที .... +++**-- / +++

ไข่ดาวลูกเขย / (อาหารปลายเดือน) / ปลาทูต้มะดัน / ไข่ต้มยางมะตูม ยำผักบุ้ง / ปลาตะเพียนต้มเค็ม/ แกงป่าไก่บ้าน /

"ไข่ดาวลูกเขย" .. ไข่เป็ด 3 ฟอง / กุ้งสับละอียด 1/2 ถ้วย/ หอมเล็กเจียว 1/4 ถ้วย / พริกแห้งเม็ดใหญ่ หั่นบาง ๆ ทอดกรอบ 1/4 ถ้วย / น้ำตาลปี๊บ 1 ถ้วย / น้ำปลา 1/2 ถ้วย / น้ำมะขามเปียกข้น ๆ 1/2 ถ้วย / น้ำมันพืช / ผักชี --- +++ 1.ทอดไข่ดาวให้ฟูกรอบ / 2.ทำน้ำปลาหวาน โดยผสมน้ำตาลปี๊บ น้ำปลา และน้ำมะขามเปียก ตั้งไฟปานกลางค่อนข้างอ่อน เคี่ยวจนเหนียวพอเคลือบไม้พาย / หากชอบ เพิ่มกุ้งสับละเอียด ลวกพอสุกในน้ำร้อน และตักขึ้น / 4.ราดน้ำปลาหวานขนไข่ดาว โรยด้วยกุ้งสับ หอมเล็กเจียว พริกแห้ง ประดับด้วยผักชี --- *** "คนแก่ต้องกินไข่ขาวู ลูกหลานหนุ่มสาวต้องกินไข่แดง" ที่ถูกต้องเป็นอย่างนี้จ้ะ เพราะคนแก่ไม่ควรกินไข่แดง เด็กหนุ่มมสาวขาดไข่แดงจะขาดอาหารบำรุง ส่วนคนแก่ที่กินไข่แดงเป็นประจำจะเป็นโรคหัวใจตีบได้ง่ายจ้ะ เพราะไข่มีคอเลสเตอรอลสูง / ** / น้ำปลาหวาน สามารถทำเก็บใส่ขวดโหลแช่ตู้เย็นไว้ จะรับประทานเมื่อไรก็ตักมาใช้ *** +++ ปลาทูต้มมะดัน ... ปลาทูนึ่ง 5 ตัว / มะดัน 5 ลูก / พริกขี้หนูแดง 5 เม็ด / น้ำปลา 1 ชต. / หอมเล็กทุบ 4 หัว / ผักชี ../--- 1.ต้มน้ำให้เดือดพล่าน / 2.เอาปลาทูใส่ลงไป มะดันที่ล้างสะอาดแล้วใส่ลงไปพร้อมพริกขี้หนูแดงและหอมเล็ก /3.พอมะดันจะเริ่มเปื่อย ตักเมล็ดออก เติมน้ำปลา ชิมรสให้เปรี้ยวนำ เค็มตาม 4.โรยผักชี เสิร์ฟร้อน / --- **-*-- ถ้าใครมีต้นตะลิงปลิงที่บ้าน จะใช้ลูกตะลิงปลิงแทนมะดันก็วิเศษดี เพราะจะมีรสเปรี้ยวที่กลมกล่อม -- ** ความจนมันแพ้ความเพียร พอความจนเจอความขยันและความเพียรเท่านั้น วิ่งหนีป่าราบไปเลย สำคัญที่ตัวประหยัด +++ *** ---.. ไข่ต้มยางมะตูม ยำผักบุ้ง / ไข่เป็ด 3 ฟอง / พริกชี้ฟ้าเสียบไม้เผา 5 เม็ด / พริกหยวกหรือพริกหุนุ่มพอประมาณ (ใครไม่ชอบเผ็ดอย่าใส่มาก) / กุ้งแห้งป่น 20 กรัม / กระเทียมเผา 5 กลีบ / น้ำมะนาว 3 ชต. / น้ำปลาดี 1.5 ชต. / น้ำตาลปึก 1/2 ชช./ ผักบุ้งไทย(เย็นตาโฟ) 8 ยอด / มะม่วงหรือตะลิงปลิงซอย +++ วิธีทำ 1.ต้มไข่ให้เป็นยางมะตูม ล้างนาเย็น ปอกเปลือก (7-8 นาที) และฝานไข่ด้วยเชือก ผ่าครึ่ง / 2.พริกชี้ฟ้าเสียบไม้เผาหั่นขวาง พริกหยวก เผาให้ฉีกเป็นเส้น/ /3. ผักบุ้งลวกน้ำร้อนและวผ่านน้ำเย็เนเพื่อให้สสด เอาแต่ก้านหั่นขวางคล้ายชิ้นพริกลงผสมกัน (เราชอบซอยเส้นจัก) / 4.ใส่กุ้งแห้งป่น ปรุงรสด้วยน้ำมะนาว น้ำปลา น้ำตาล ให้เปรี้ยวนำ หวานเค็มตาม ถ้าชอบ จะใส่มะม่วงหรือตะลิงปลิงซอยด้วยก็อร่อยดี / 5.รับประทากับไข่ต้มยางมะตูม ข้าวสวยร้อน ๆ ช่วยให้เลิกเบื่ออาหารได้ชะงัดจ้ะ *** ฝานไข่ให้สวยใช้เชือก จึงให้ตึงฝานผ่านไข่ (ด้ายตึง) ด้ายเส้นเล็กหลอดเบอร์ 40 สวยกว่ามีดฝานจ้ะ.. +++ *** ... ปลาะตะเพียนต้มเค็ม / ปลาตะเพียนตัวใหญ่ (ประมาณฝ่ามือ) 3 ตัว / รากผักชีหั่น 1 ชช. / พริกไทยป่น 1 ชช. / กระเทียม 1 ชต./ เกลือ 1 ชต./ น้ำตาลปี๊บ 100 กรัม / นซีอิ๊วดำ 1 ชต./ ซีอิ๊วขาว 4 ชต. / ตะไคร้ (ยาว 3 นิ้ว)3 ท่อน / อ้อยท่อน (ยาว 3 นิ้ว) 6 ท่อน / น้ำมะขามเปียกข้น ๆ 2 ชต./ น้ำมัน 2 ชต. / +++ 1.ปลาตะเพียนขอเกล็ด ผ่าท้องเอาเหงือกและเครื่องในออก ล้างให้สะอาด บั้งถี่ ๆ แล้วเอาปลาไปเคล้าเกลือป่น / 2.ปอกอ้อยผ่าซีก บุบนิหน่อย ปูอ้อยและตะไคร้ให้เต็มก้นหม้อ เรียงปลาตะเพียนลง ใส่น้ำพอท่วมปลา / 3.โขลกกระเทียม รากผักชี พริกไทยให้ละเอียด ผัดกับน้ำมันให้หอม ใส่ลงในหม้อ / 4.ละลายน้ำตาลปี๊บกับซีอิ๊วขาว ซีอิ๊วดำ ตามด้วยน้ำมะขามเปียก แล้วเทใส่หม้อ ปิดฝา / 5.ตั้งไฟให้เดือด แล้วลดเป็นไฟอ่อนเคี่ยวต่อไปจนเปื่อยและกระดูกนิ่ม (ประมาณ 4-5 ชม.) ชิมรสดู ให้หวานกับเค็มสูสีกัน เปรี้ยวรั้งท้ายห่าง ๆ / 6. รับประทานกับผักชี หอมซอย พริกขี้หนู มะนาว ใบโหระพา --- ++ ปลาน้ำจืดประเภทปลาตะเพียนได้เเปรียบปลาอื่นตอนชุกเต็มหน้าน้ำหลาก ราคาตก แม่บ้านที่ประหยัดก็สามารถซื้อหามาทำเป็นอาหาร *** / น้ำเส้มมะขามเปียก นอกจากจะมีรสเปรี้ยวตามหลังเพื่อความอร่อย ยังช่วยยึดเนื้อปลาให้แข็งเกาะตัวไม่ยุ่ยอีกด้วย --- +++ *** ...แกงป่าไก่บ้าน/ ไก่สับทั้งกระดูก 200 กรัม / ถั่วฝักยาว (หั่นท่อน 2 ซม.)10 ท่อน / ฟักทอง (หั่นหนา 0.5x2ซม.) 8 ชิ้น / ถั่วพูหั่นท่อน 2 ซม.)2 ฝัก / มะเขือเปราะผ่าซีก 1 ลูก / มะเขือพ่วงด็ดขั้ว 10 ลูก / พริกตุ้ม 4-5 เม็ด / กระชาย 2 หัว / พริกไทยสดหั่นเป็นท่อนท่อนละ 1 ซม. 3 ช่อ / กระชายซอย 1 ชต./ พริกขี้ฟ้าแดงหั่นแฉลบ 1 เม็ด / ใบมะกรูดฉีก 2 ใบ/ ยอดพริก 4-5 ยอด / ใบกะเพรา 1 หยิบมือ /น้ำปลา 2 ชต. / น้ำตาลทราย 1 ชช. / น้ำซุปไก่ 3 ถ้วย/ +++--- เครื่องปรุงพริกแกง/ พริกแห้งใหญ่ 5 เม็ด / หอมเล็ก 5 หัว / กระเทียม 5 กลีบ / ข่า 1 ชต. / ตะไคร้ 1 ชต. / ผิวมะกรูด 1 ชช. / กะปิ 1 ชต. / เกลือ 1/2 ชช. / กระชาย 2 หัว / ยี่หร่า 1/2 ชช. / ลูกจันทน์ป่น 1/2 ชช. / ลูกผักชีคั่ว 1/2 ชช. / +++-- วิธีทำ 1.ล้างผักให้สะอาด หั่นเตรียมไว้ / 2.โขลกพริกแกงให้ละเอียด พักไว้ / 3.ตักน้ำซุปใส่หม้อตั้งไฟ พอดือดใส่พริกแกงและหัวกระชายบุบ ไก่บ้าน และผักทุกอย่าง ยกเว้นยอดพริกและใบกะเพรา / 4.ปรุงรส ชิมออกเค็มนิด ๆ และเผ็ดเครื่องเทศ / 5.พอเดือดอีกทีใส่ยอดพริกและใบกะเพรา คนให้ทั่ว ยกลง เสิร์ฟทันที *** --- แกงป่าจะใส่เนื้อสัตว์อะไรก็ได้ทั้งนั้น หมู กบ เนื้อ ปลาไหลก็ได้ ส่วนผัก ถ้าอยู่ในป่าจะใส่ลูกงิ้วอ่อนหรือนุ่นอ่อน ลูกเดียวกันนั่นแหละ เอามาฝาน ๆ ใส่แกงป่าปนกับหน่อไม้ วิเศษนัก +++**--- ++

ประยูร จรรยาวงษ์ จานพริก / ไก่ปี๊บ / ไก่บ้านคั่วใบยี่หร่า / ตับผัดสารพัดพริก / หอยแมลงภู่ผัดฉ่า / ผัดเขียวหวานปลาดุก /

ไก่ปี๊บ ไก่กระทง (ขนาดไม่เกิน 1 กก.) 2 ตัว / ยี่หร่า 1 ชช./ ลูกผักชี 1 ชช. / พริกไทยป่น 1 ชช. / กระเทียมเล็กตำ 4 ชต. / รากผักชี 1 ชต. / เกลือ 2 ชช. / น้ำมันพืช 2 ชต. / เนยหรือมาร์การีน 3 ชต. / +++ วิธีทำ 1.ไก่กระทงนำมาล้างน้ำให้สะอาด ผึ่งให้หมาด / 2.ตำกระเทียม รากผักชี พริกไทยให้ละเอียด /3.ลูกผักชีและยี่หร่าคั่วไฟพอหอม ป่นให้ละเอียด / 4.นำเครื่องในข้อ 2-3 ผสมกับน้ำมันพืช แล้วไปคลุกเคล้ากับไก่ให้ทั่วทั้งข้างนอกและข้างใน เสร็จแล้วหมักทิ้งไว้ 2-3 ชั่วโมง / 5.ก่อนย่างไก่ในปี๊บจะต้องเอาเนยทาตัวไก่ให้ชุ่มโชก เพื่อจะได้กลิ่นหอมและผิวไก่ไม่ไหม้เวลาอบ / +++ วิธีอบไก่ปี๊บ (นอกบ้าน) 1.ตัดไม้ไผ่สดปักลงดินให้แน่น สูงไม่เกินปี๊บ และให้อยู่ห่างจากตัวบ้าน / 2.เอาไก่ที่หมักไว้เสียบไม้ไผ่ และยึดไว้ให้แน่น อบไก่ทีละตัวในแต่ละครั้งจะดีที่สุด / 3. ใช้ปี๊บน้ำมันที่ล้างสะอาด ครอบไก่ /4.ใช้ฟางแห้งหรือใบตองแห้งหรือทางมะพร้าว สุมให้คลุมปี๊บให้ทั่ว /5.จุดไฟให้ลุกฮือ ใช้เวลาย่างอบไก่ 3-5 นาทีเท่านั้น (น่าจะ 35 นาที 5 นาทีคงยังไม่รู้สึกตัว) เร็วไปก็ไม่สุก นานเกินไปจะไหม้ / 6.เขี่ยไฟออก เอาไก่ออกมาใส่ถาด +++ วิธีอบไก่ปี๊บ (ในบ้าน ).. นำไก่ที่หมักแล้ว อบในเตาอบร้อนไฟ 400 องศาฟาเรนไฮต์ ประมาณ 35-40 นาที ++ ไก่ปี๊บนี้นี้เหมาะที่จะเป็นอาหารทำเลี้ยงเพื่อนฝูงหรือวงศาคณาญาติในวันหยุด ฉีกกินร้อน ๆ ดีนักแล *** / เครื่องประกอบแก้เลี่ยน มีแตงกวาดองอมเปรี้ยวอมหวาน ใบผักกาดหอม และพริกชี้ฟ้าสด // ** น้ำจิ้ม จะเป็นน้ำพริกเผา มะนาว น้ำตาลก็ดี หรือรากผักชี กระเทียม พริกขี้หนู น้ำส้ม น้ำตาล ก็เด็ด.. ++++ ไก่บ้านคั่วใบยี่หร่า.. ไก่บ้านสับทั้งกระดูก 300 กรัม / น้ำปลา 2 ชต. / น้ำตาล 1 ชช. / พริกไทยอ่อน 2 ช่อ / ใบยี่หร่า 1 กำมือ .... +++ เครื่องปรุงพริกแกง .พริกแห้งใหญ่แกะเม็ด 3 เม็ด / พริกขี้หนูแห้ง 10 เม็ด / หอมเล็ก 5 หัว / กระเทียม 10 กลีบ / ข่าหั่นฝอย 1 ชช. / ตะไคร้หั่นฝอย 1 ชต./ ผิวมะกรูดหั่นฝอย 1/2 ชช. / ยี่หร่าคั่วป่น 1 ชช. / ลูกผักชีคั่วป่น และลูกจันทน์คั่วป่น รวม 1/4 ชช. / กะปิ 1/4 ชช. / เกลือ 1/4 ชช. +++ +++ 1.โขลกเครื่องน้ำพริกที่เตรียมไว้ให้ละเอียดเข้ากันดี / 2.ล้างไก่ให้สะอาด สับทั้งกระดูกให้เป็นชิ้นพอคำ / 3.เอาน้ำมันตั้งกระทะ เอาไก่ลงไปผัด พอไก่เริ่มจะสุกจึงใส่เครื่องน้ำพริกกลงไปคั่ว ใช้ไฟอ่อนให้หอมประมาณ 15 นาที / 4.ปรุงรสแล้วใส่ใบยี่หร่าและพริกไทยอ่อน ยกลง รับประทานกับข้าวร้อน ๆ +++...... ตับผัดสารพัดพริก .. ตับหมูหั่นชิ้นใหญ่ หนา 0.5 ซม. 200 กรัม / พริกชี้ฟ้าแดงเชียวเหลือง หั่นแฉลบ 3 เม็ด / กระเทียมกลีบเล็กสับ 1 ชต./ ซอสถั่วเหลือปงุรส 1 ชต. / เหล้า(บรั่นดีหรือวิสกี้) 1/2 ชต. / น้ำมันพืช 1 ชต./ น้ำซุป / พริกไทยป่น +++ .... 1.ล้างตับหมู หั่นชิ้นใหญ่และหนาพอประมาณ / 2.ใส่น้ำมันลงในกระทะ ตั้งไฟจนร้อน ใส่ตับผัดพอทั่ว พลิก 2 ครั้ง อย่าให้สุกเกินไป แล้วใส่พริก / กระเทียม เติมน้ำซุปนิดหน่อย / 3.ปรุงรสรสด้วยซอส ใส่เหล้า จุดไฟลุก โรยพริกไทย และเสิร์ฟทันที +++ *** จุดไฟลุก ที่ฝรั่งเรียกว่า Flambe' (ฟลอมเบ้) คือการเทเหล้าลงในทัพพีใหญ่ และตั้งไฟให้ร้อน จึงจุดให้ไฟลุกในทัพพี แล้วค่อยราดลงบนอาหาร +++ ****... หอยแมลภู่ผัดฉ่า.. หอยแมลงภู่ 1/2 กก. / พริกแดงและกระเทียมตำ 1 ชต./ ใบมะกรูด 2 ใบ / กระชายซอย 1 ชต. / ขมิ้นขาวซอย 1 ชต. / พริกไทยอ่อน 1 ช่อ / ใบกะเพรา 1 หยิบมือ / ใบโหระพา 1 หยิบมือ / น้ำปลา 1/2 ชต. / ซอสปรุงรส 2 ชต./ พริกชี้ฟ้าแดงเหลืองหั่นแฉลบ / น้ำตาลปลายช้อน +++ ++ .... 1.ล้างหอยในน้ำเอาโคลนออก แล้วดึงหนวดออก พยายามดึงให้เอ็นขาวหลุดตามออกมาให้ได้ / 2.เอาหอยใส่หม้อ ไม่ต้องใส่น้ำ ปิดฝาหม้อให้แน่น พอไอออก ยกหม้อเขย่ากลับไปมา พอหอยอ้า ประมาณ 1 ซม. ยกลง / 3.ตั้งกระทะให้ร้อน ใส่พริกกระเทียมตำ ผัดให้หอม ใส่หอยและเครื่องปรุงที่เหลือ และรินน้ำที่ลวกหอยใส่ด้วย / 4.ปรุงรส ใส่ใบกะเพรา ใบโหระพา พริกชี้ฟ้า รีบยกลง เพราะถ้าหอยสุกเกินไปจะไม่อร่อย *** เวลาจะกินหอยแมลงภู่ เลือกฤดูที่หอยมีสีสวยแดงแจ๋ ฤดูต้นฝนดีที่สุด ฤดูอื่นหอยสีซีด ๆ ไม่เอาไหน การจะกินหอยแมลงภู่ให้ถูกวิธี อยู่ที่จะกินเมื่อไหร่-ค่อยดึงหนวดให้หลุดออกพร้อมทั้งรากของมัน ถ้าดึงหนวดออกเมื่อไร หอยจะตายทันที จะกินหอยสดจริง ๆ ต้องซื้อที่เขายังไม่ดึงสายสะดือออก พอตอนจะกินจึงค่อยดึงออก / *** การหินหอยต้องปรุงแต่เกือบสุกจึงจะอร่อย / เหตุนี้จีงต้องพิถีพิถันเรื่องความสดของหอยมาก+++ +++.... ผัดเขียวหวานปลาดุก .. ปลาดุกนา 1 ตัว / มะพร้าวขูด 300 กรัม / น้ำปลา 1.5 ชต. / น้ำตาลปี๊บ 1.5 ชช./ กระชายหั่นฝอย 1 ชต. / ขมิ้นขาวหั่นฝอย 1 ชต. / พริกไทยอ่อน 1 ช่อ / ใบมะกรูดฉีกเป็นชิ้นเล็ก 3 ใบ/ ใบโหระพา 1 หยิบมือ / ใบกะเพรา 1 หยิบมือ / พริกชี้ฟ้าเขียวแดงหั่นแฉลบ ++ เครื่องแกงเขียวหวาน .. พริกี้าฟ้าเขียว 5 เม็ด / พริกขี้หนูเขียว 10 เม็ด / กระเทียมซอย 1 ชช. / หอมเล็กซอย 1 ชช./ ตะไคร้หั่นฝอย 1 ชช. / ข่าหั่นฝอย 1/4 ชช. / ผิวมะกรูดหั่นฝอย 1/4 ชช. / รากผักชีหั่นฝอย 1 ชช./ ลูกผักชีคั่วป่นละเอียด 1/4 ชช. / ยี่หร่าคั่วป่นละเอียด 1 ชช./ ลูกจันทน์ป่นละเอียด 1/4 ชช. / ลูกจันทน์ป่นละเอียด 1/4 ชช./ กะปิ 1/4 ชช. / เกลือป่น 2/ ชช.... +++ 1.ปลดุกเคล้ากับเกลือและล้างน้ำออกให้หมดเมือก ควักไส้ออก / 2.คั้นมะพร้าวให้ได้หัวกะทิ 1.5 ถ้วย / หางกะทิ 1 ถ้วย / 3.โขลกเครื่องน้ำพริกที่เตรียมไว้ทั้งหมดให้ละเอียดเข้ากันดี / 4.หัวกะทิใส่กระทะตั้งไฟ เคี่ยวให้แตกมัน แล้วเอาเครื่องน้ำพริกลงผัดให้หอม แล้วค่อย ๆ เ ติมกะทิที่เหลือ /5.ปรุงรส พอเดือดดี ใส่เนื้อปลา พอปลาสุก ใส่กระชาย ขมิ้น พริกไทยอ่อน และใส่หัวกะทิ / 6.พอเดือดอีกครั้ง ใส่ใบโหระพาและใบมะกรูด พริกชี้ฟ้า ปิดไฟ ยกลง ++ ...... ++

ขนมปังกระเทียม / ข้าวมันไก่ / ข้าวมันส้มตำ / เนื้อตุ๋นหน่อไม้ไผ่ตง / ฟักตุ๋น / ถั่วงอกผัดเต้าหุ้เหลืองอย่างขาว / ปลาเนื้ออ่อนทอดกระเทียมพริกไทย /

ขนมปังกระเทียม ขนมปังฝรั่งเศส 1 แถว / เนยเค็ม 180 กรัม / กระเทียมสับ 4 ชต. / เกลือ 1 หยิบมือ / พริกไทยขาวป่น 1 หยิบมือ +++ 1.ขนมปังฝรั่งเศสบาแก็ต (Baquette) ยาว ๆ หั่นแฉลบหนา 1.5 ซม. / 2.กระเทียมสับละเอียด ผสมกับเนย เกลือ พริกไทย / 3.ทาเนยกระเทียมบนขนมปังให้ทั่วแผ่น / 4.ปิ้นในเตาอบเล็กจนเหลืองกรอบและกลิ่นหอม รับประทานร้อน ๆ ทันที +++ *** ถ้าจะใช้เครื่องสมุนไพรไทย เช่น ผักชีลาวกับใบหอมสับละเอียด และผสมลงในเนยกระเทียม แล้วโรยเนยแข็งขูดบนขนมปังกระเทียม อบหอม ๆ จะอ่อยไปอีก แบบ +++ *** ที่พิมพ์ไว้หายหมดเลย.. ฮ่วย.. **** ข้าวมันไก่ / น้ำสำหรับต้มไก่ 4 ถ้วย / รากผักชีทุบ 4 ราก / ขิงแก่บุบ 1 แง่ง / กระเทียมบุบ 4 กลีบ +++ ข้าวมัน .. ข้าวสารเก่า 2 ถ้วย / ข้าวเหนียว 1/8 ถ้วย / น้ำสต๊อกไก่ 4 ถ้วย / กระเทียมเล็กบุบพอแตก 12 กลีบ +++ น้ำจิ้ม .. เต้าเจี้ยวดำ 5 ชต./ ขิงแก่ 2 ชต. / กระเทียม 2 ชต./ รากผักชี 3 ราก / พริกขี้หนูสวน 8 เม็ด / น้ำส้มสายชู 1 ชต. / ซีอิ๊วขาว 1 ชต. / ซีวดำ 1 ชช. / น้ำตาลทราย 2 ชช. (สับทุกอย่างหยาบ ๆ และปรุงรส) +++ เครื่องเคียง ขิงดอง แตงกวา ผักชี +++ ข้าวมันไก่จะอร่อย เมื่อไก่ตอนดี ข้าวมันไก่เด็ด ปรุงน้ำจิ้มให้ได้มาตรฐาน ++ ข้าวมันไก่ตลาดวัดตะพาน . . ต้มไก่แล้วน็อคน้ำแข็ง กรองน้ำมันจากหม้อหุงข้าวมัน +++ 1.ล้างไก่ให้สะอาด นำมาใส่หม้อ ใส่น้ำพอท่วม ใส่รากผักชี กระเทียม เปิดไฟปานกลาง พอน้ำเริ่มเดือด หรี่ไฟลง ทิ้งไก่ระอุต่ออีกสัก 10 นาที และปิดไฟ ทิ้งให้สุกและเย็นในน้ำต้มไก่ / 2.เอามันไก่หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วเจียวเอาน้ำมันออก ถ้ามันไก่มีน้อย จะซื้อมาเพิ่มก็ได้ เจียวกระเทียมในน้ำมันพอหอม อย่าให้เหลืองมาก ใส่ข้าวที่ซาวไว้ลงผัด 3 นาที ตักขึ้นใส่หม้อ ใส่น้ำต้มไก่ที่กรองไว้ หุงจนสุกระอุดี / 3.นำไก่ขึ้นจากหม้อต้ม แล่ไก่เป็นชิ้นและสับเป็นท่อน ๆ แนมด้วยขิงดอง แตงกวา ประดับด้วยผักชี เสิร์ฟกับข้าวมันร้อน ๆ และแกงจืด / 4. น้ำแกงใช้น้ำต้มไก่ที่เหลือ พอเดือดใส่ชิ้นฟักหรือมะระจีน พอผักเปื่อย ยกลง โรยพริกไทย ผักชี +++ ** * ข้าวมันส้มตำ.. เครื่อปรุงข้าวมัน... ข้าวสารเก่า 2 ถ้วย / มะพร้าวขูด 500 กรัม / น้ำตาลทราย 4 ชต. / เกลือ 1 ชต. / ใบเตย 2-3 ใบ วิธีทำ 1คั้นมะพร้าวใส่น้ำสุก 2.5 ถ้วย ให้ได้กะทิ 3.5 ถ้วย ผสมน้ำตาล เกลือ ตั้งไฟ คนให้น้ำตาลละลาย กรองใส่หม้อหุงข้าว / 2.ใส่ข้าวในน้ำกะทิ ล้างในเตยให้สะอาดหั่นเป็นท่อนยาว 4 นิ้ว ใส่ในหม้อด้วย ปิดฝาหม้อให้สนิท ตั้งไฟปานกลาง พอเดือด ใช้ไม้พายกลับข้าว 1 ครั้ง / 4.เอาใบตองมาปิดปากหม้อ และตั้งไฟอ่อน ๆ ให้ข้าวระอุจนสก / 5.ตักข้าวมันเสิร์ฟกับส้มตำ เนื้อเค็มฝอย ++*** การทำส้มตำมะละกอให้อร่อยนั้น เริ่มจากกมะละกอจะต้องมีความสดอย่างมาก สับมะละกอให้ได้เส้นละเอียด ล้างน้ำเย็นจัด และหมักด้วยก้อนน้ำแข็งก้อนโตอยู่ข้างล่าง มะละกองข้างบน +++ ข้าวมันส้มตำ เนื้อเค็มฝอย ถ้ารับประทานกับน้ำพริกมะขามเปียก ใบทองหลางทอด ใบเล็บครุฑทอด รับรองว่าอร่อยจ้ะ +++ เครื่องปรุงเนื้อเค็มผัดหวาน ... เนื้อเค็ม 200 กรัม / หอมแดงเจียว 1/4 ถ้วย / น้ำมัน 1/4 ถ้วย / น้ำตาลทราย 1/4 ถ้วย +++ วิธีทำ 1. ล้างเนื้อเค็มให้สะอาด ใส่ลังถึงนึ่ง 15 นาที ทุบให้นิ่ม และฉีกฝอยเป็นเส้นเล็ก ๆ / 2.ใส่น้ำมันลงในกระทะ ตั้งไฟให้ร้อน เอาหอมแดงซอยยาวบาง เจียวให้เหลือง ช้อนหอมเจียวขึ้น เหลือน้ำมันไว้ / 3.ทอดเนื้อเค็มฝอยจนเนื้อกรอบแห้ง /ใส่น้ำตาลงไปผัดกับเนื้อจนน้ำตาลเกาะทั่ว ใส่หอมเจียวลงผัดด้วยครึ่งหนึ่ง ที่เหลือไว้โรยน้า ตักขึ้น +++ เครื่องปรุงส้มตำ .. มะละกอสับ 5 ถ้วย / พริกแห้ง 3 เม็ด / พริกขี้หนูสวน 5-8 เม็ด / กระเทียม 6 กลีบ / น้ำส้มมะขาม 1 ชต. / น้ำปลา 3 ชต. / น้ำตาลปี๊บ 3 ชต. / น้ำมะนาว 2 ชต. / ถั่วลิสงคั่วป่นหยาบ 3 ชต. / กุ้งแห้งป่น 3 ชต. / มะนาวหั่นสี่เหลี่ยม (พร้อมผิว) 1 ชต. / ใบทองหลาง ใบชะพลู ใบมะยม +++ วิธีทำ 1.สับมะละกอให้ละเอียด หมักในน้ำแข็งให้เย็นจัด สงขึ้นให้สะเด็ดน้ำ / 2.ผสมน้ำมะขาม นำปลา น้ำตาล และมะนาว / 3.โขลกระเทียม พริกแห้งให้ละเอียด ใส่พริกขี้หนูบุบพอแตก ใส่น้ำปรุงรส ละลายให้เข้ากัน / 4.ใส่มะละกอ ลงโขลกพอนุ่ม พร้อมมะนาวชิ้น / 5.ตักใส่จาน โรยหน้าด้วยถั่วลิสงและกุ้งแห้งป่นเสิร์ฟพร้อมผักต่าง ๆ +++ เนื้อตุ๋นหน่อไม้ไผ่ตง .. หน่อไม้ไผ่ตงปี๊บ (หน่อไม้ต้มบรรจุปี๊บ) 700 กรัม / เนื้อวัวส่วนเอ็นน่อง 500 กรัม / รากผักชี 2 ชต. / กระเทียมกลีบเล็ก 1/3 ถ้วย / พริกไทย 15 เม็ด / ซอสถั่วเหลืองปุรงรส 1 ชต. / ซีอิ๊วขาว 2 ชต. / น้ำตาลทราย 1 ชต. / เกลือ 1 ชช. / น้ำ 10-12 ถ้วย/ น้ำมันพืช 2 ชต. / +++ วิธีทำ 1.เลือกหน่อไม้ปี๊บใหม่ ๆ ไม่มีกลิ่นเปรี้ยว หั่นเป็นท่อนยาว 3 ซม. หนา 1.5 ซม. ต้มหน่อไม้ในน้ำประมาณ 8 ถ้วย พอเดือดเทน้ำทิ้ง แล้วเปลี่ยนน้ำใหม่ ใส่หน่อไม้ที่ต้มแล้วลงไป (ควรต้มน้ำเปล่ารอ เพื่อเปลี่ยนน้ำต้มหน่อไม้ครั้งใหม่) * 2.ล้างเนื้อตัดเป็นชิ้นสี่เหลียมขนาด 1"x1" /3.โขลกรากผักชี กระเทียม พริกไทยให้ละเอียด /4.ใส่น้ำมันในกระทะ ตั้งไฟให้ร้อน ผัดเครื่องหอมโขลกให้หอม / 5.ตักเครื่องหอมที่ผัดแล้วใส่ลงในหม้หน่อไม้ต้ม / 6.ใส่เนื้อลงในหม้อ แล้วตั้งไฟ พอเดือดลดไฟ เป็นไฟอ่อน ๆ ปิดฝา เคี่ยวจนเนื้อเปื่อย หมั่นช้อนฟองทิ้ง น้ำซุปจะได้ใส (ถ้าเคี่ยวเนื้อหม้อธรรมดาใช้น้ำ 6-8 ถ้วย เคี่ยวประมาณ 2 ชม.หรือจนเนื้อเปื่อย ถ้าใช้หม้ออัดความดันใส่น้ำ 3 ถ้วย ต้ม 15 นาที /7.ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาวและซอสถั่วเหลือง ปรุงรส +++** น้ำจิ้มที่เหมาะสมสำหรับเนื้อตุ๋นนี้คือน้ำส้มสายชู กระเทียม และพริกเหลืองตำ จะทำให้หร่อยยิ่งขึ้น / *** การปรุงอาหารให้อร่อย นอกจากปรุงรสเปรี้ยว เค็ม หวานให้ถูกปากคนกินแล้ว กรรมวิธีการปรุงก็สำคัญมาก การปรุงอาหารด้วยหม้อตุ๋นไฟรุม ๆ (Slow Cooking) ทำให้เนื้อเปื่อยที่เครี่ยว 2-3 ชม.นั้นมีความเปื่อยนุ่ม ไม่กระด้าง / ถ้าจะใช้กระดูกหมูแทนเนื้อก็ได้ หั่นขนาดประมาณ 2 นิ้ว ++++ ฟักตุ๋น / ฟักเขียวแก่ 1 ลูก / กุ้งแห้งอย่างดี 20 ตัว / เห็ดหอมแห้ง (แช่น้ำ) 6-8 ดอกเล้ก / ซี่โครงไก่ 2 ตัว (สับชิ้นใหญ่) / ซีอิ๊วขาวอย่างดี 1 ชต./ พริกไทยเม็ดห่อผ้าขาวบางว 10 เม็ด / ผักชี +++ วิธีทำ 1.เลือกฟักเขียวแก่ ๆ ทั้งลูก ล้างให้สะอาด ตัดกลาง ควักไส้ออก ฝานก้นบาง ๆ เพื่ออให้ตั้งได้ในหม้อตุ๋น / 2.ตั้งนำในเดือดพล่าน แล้วลวกกระดูกไก่ในน้ำร้อนนั้น เทน้ำหนแรกทิ้งไป เพื่อล้างเอาคราบเลือดออก และไขมันที่จะทำให้น้ำสต๊อกขุ่น ตั้งน้ำใหม่อีกหม้อ เพื่อทำน้ำสต๊อกไก่ ใส่ห่อพริกไทยเม็ดในน้ำต้มกระดูกไก่ เคี่ยวไฟอ่อน ๆ ประมาณ 30 นาที และหมั่นช้อนฟองทิ้ง น้ำซุปจะมีรสหวานจากธรรมชาติ (ใสน้ำตาลกรวดสักก้อนด้วยจะดีมั๊ยนะ) / 3.ตักกระดูกไก่ทิ้ง ค่อย ๆ เทน้ำซุปไก่ใส่ลงในไปในฟัก ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว (อย่าใส่น้ำปลา เพราะจะชวนให้เหม็นคาว) ใส่เห็ดหอมและกุ้งแห้ง นึ่งในลังถึงจนฟักสุก / 4.โรยผักชี พริกไทย เสิร์ฟ ร้อน / / 5.ตักกินกับข้าวร้อน ๆ กินแล้วชุ่มคอชื่นใจ +++ / *** น้ำซุปที่มีรสหวานตามธรรมชาติและมีคุณค่าแก่ร่างกายอย่างแท้จริง คือ น้ำต้มจากกระดูกวัว ไก่ และปลา ข้อสำคัญต้องใช้กระดูกที่สดจริง ๆ หาไม่จะเสียรสจ้ะ / * น้ำต้องต้มให้เดือดพล่านจึงจะใส่กระดูกลงไป มิฉะนั้นจะเหม็นคาว และระวังอย่างปรุงค้างหลายวัน รสน้ำซุปจะเปลี่ยนไป และถ้าใครละเลยเสีย มักง่าย โรยแต่ผงชูรส ๆ ๆ ๆ ลูกเดียวก็ได้ ไม่มีใครว่า / * กระดูกไก่หรือกระดูกหมูต้องทุบบนเขียงพอแตกก่อน แล้วค่อยใส่หม้อเพื่อเอาน้ำหวานจากไขกระดูก แต่อย่างลืมกรองเอาเศษกระดูกเล็ก ๆ ออกให้หมดจริง ๆ +++ ----- *** ถั่วงอกผัดเต้าหู้เหลืองอย่างขาว / .. ถั่วงอก 150 กรัม / เต้าหู้เหลือองย่างขาว(ตัดเป็นก้อนโต ๆ สามเหลี่ยม ยาว 2 นิ้ว) 1 แผ่น / กระเทียมสับ 1 ชช. / ต้นหอม 2 ต้น / พริกชี้ฟ้าแดง เหลือง อย่างละ 1 เม็ด / น้ำมัน 2 ชต. / ซีอิ๊วขาวอย่างดี 1 ชต. / พริกไทยป่น 1/2 ชช. / แป้มังน 1 ชช. / น้ำสุก 1 ชช. / ** ผัดถั่วงอกเป็นของที่จะต้องใช้ฝีมือ จะต้องผัดให้ถั่วงอกสุกและกรอบ ไม่นิ่ม เมื่อยกลงจากเตา ใครจะเก่งหรือไม่ก็ดูกันตรงนี้แหละ ***+ วิธีทำ 1.ถั่วงอกเด็ดหาง แช่น้ำ และผึ่งไว้ในกระชอน / 2.ตั้งกระทะน้ำมันให้ร้อน (น้ำมันท่วมเต้าหู้) นำเต้าหู้ลงทอด ให้ข้างนอกกรอบ แต่ข้างในนุ่ม แล้วรินน้ำมันออก เหลือไว้ติดกระทะนิดนห่อย / 3.หยิบถั่วงอกใส่ชามพร้อมเครื่องปรุง พริกชี้ฟ้าหั่นแฉลบ ต้นหอม กระเทียม และเต้าหู้ทอด / 4.ตั้งกระทะน้ำมันให้ร้อนจัด แล้วคว่ำทุกอย่างลงใส่กระทะพร้อมกัน และผัดเร็ว ๆ / 5.ละลายแป้งมันกับน้ำ คนลง ใส่ในกระท รีบตักใส่จานและเสิร์ฟทันที +++*** // --- สารพัดเห็ดผัดพริกกะเพรา / เห็ดฟาง 3 ดอก/ เห็ดนางฟ้าดอกเล็ก 2 ช่อ / เห็ดหูหนูดำ 1 หยิบมือ / เห็ดหูหนูขาว (แช่น้ำให้พอง) 1/2 ดอก / เห็ดหอมสด 2 ดอก / เห็ดเข็มทอง 1 หยิบมือ / เห็ดเออรินจิ ๑ ดอก / พริกขี้หนูแดง 5 เม็ด / กระเทียมเล็ก 5 กลีบ / ใบกะเพรา 1 กำ / พริกชี้ฟ้าแดง เหลืองหั่นแฉลบ 1 เม็ด / น้ำมัน 3 ชต. / น้ำปลา 1 ชต. / ซอสถั่วเหลือง 1 ชต. / น้ำตาล 1 ชช./ แป้งมัน 1/2 ชช. / น้ำซุป 3 ชต.----- +++ วิธีทำ 1. ล้างเห็ดให้สะอาด ใส่กระชอนอผึ่งให้สะเด็ดน้ำ / 2.เห็ดฟางและเห็ดหอมหั่นตามยาว เห็ดนางฟ้าฉีกเป็นดอกอ ๆ เห็ดหนูหนูดำ-ขาวหั่นเป็นชิ้นพอคำ เห็ดเข็มทองตัดเป็นท่อนเ ห็ดเออรินจิ หั่นยาวบางหรือหั่นแฉลบบาง ๆ / 3.ตำพริกแดงกับกระเทียม /4.ตั้งกระทะให้ร้อน ใส่น้ำมันพอร้อน ผัดพริกกับกระเทียมให้หอม แล้วใส่เห็ดทั้งหมดลงผัด กลับไปมาพอเห็ดสลด เติมน้ำซุป /5.ปรุงรส แล้วเอาแป้งมันนะละลายกับน้ำเล็กน้อย คนเร็ว ๆ ใส่ในกระทะ คนให้แป้งสุกใส / / 6.ใส่ใบกะเพรา พริกแดง เหลือง กลับไปมา 2-3 ครั้ง ยกลงเสิร์ฟทันที /++----- +++ ปลาเนื้ออ่อนทอดกระเทียพริกไทย .. ปลาเนื้ออ่อน (ตัวละประมาณ 80-100 กรัม 5 ตัว / กระเทียม พริกไทย รากผักชีโขลก 2 ชต./ น้ำปลาดี / เกลือ / น้ำมันพืชสำหรับทอดปลา--- +++ วิธีทำ 1.ล้างปลาให้สะอาด ผึ่งใส่กระชอนให้หมาด / 2.เคล้าเกลือให้ทั่วปลา ตั้งกระทะไฟปานกลาง ใส่น้ำมันพอประมาณกะดูเวลาทอดปลา ให้น้ำมันท่วมปลา / 3.พอน้ำมันร้อน ใส่ปลาลงทอด รอให้ปลาเริ่มเหลืองและครีบกรอบ ตักขึ้น เทน้ำมันที่เหลือในกระทะออก เหลือน้ำมันไว้นิดหน่อย /4.เจียวกระเทียม พริกไทย รากผักชีโขลก ให้หอมในน้ำมันที่เหลือ เหยาะน้ำปลานิดหน่อย รีบตักโรยบนปลาทอดที่ใส่จานเตรียมไว้ ประดับด้วยผักชี เสิร์ฟกับข้าวร้อน ๆ **-- +++ การทอดปลา ไฟต้องไม่แรงหรืออ่อนเกินไป ถ้าแรงเกินไปข้างนอกจะไหม้ ข้างในไม่สุก / ถ้าไฟอ่อนเกินไปจะอมน้ำมัน น้ำจากเนื้อปลาจะออกมาปนกับน้ำมัน ทำให้น้ำมันดำมันดำและไหม้ อาหารที่ทอดจะดำหมด ดูไม่น่ารับประทาน +++ +++ ***

แกงลาว/ ต้มสายบัวปลาทู / แกงส้มแตงอ่อนยอดฟักทอง / แกงต้มส้มปลากระบอก /

แกงลาว.. พริกขี้หนูแห้ง 10 เม็ด / หอมแดง 5 หัว/ ตะไคร้หั่นฝอย 2 ชต. / ปลาย่างหรือกบย่าง 1 ตัว / ผักต่าง ๆ ปริมาณเท่า ๆ กัน ประมาณ 2 ถต. / ชะอมรูดเอาแต่ใบ / เห็ดนางฟ้า / ยอดพริกอ่อน / หน่อไม้รวกหั่นเป็นท่อนบุบ / ฟักทองหั่นเป็นชิ้น กว้าง 2 ซม. หนา 1 ซม. / ใบแมงลัก เด็ดใบ / พริกตุ้ม 3 สี 6 เม็ด / น้ำใบย่านาง (ขยำแล้วเอาแต่น้ำข้น ๆ ) 4 ชต. / น้ำปลาร้า 3 ชต. / น้ำซุป 3 ถ้วย/ วิธีทำ 1.ล้างผักให้สะอาด เด็ดออกเป็นอย่างๆ เพื่อสะดวกในการแกง เพราะบางอย่างใส่ก่อนบางอย่างใส่ทีหลัง หน่อไม้ปอกต้มขณะน้ำเดือดพล่าน พอสุกเอามาหั่นเป็นท่อน ยาว 2 ซม. บุบหน่อยๆ แล้วนำไปต้มต่อกับน้ำใบย่างนางและน้ำซุปประมาณ 20 นาที / 2.โขกลหอมแดง ตะไคร้และพริกแห้งตำหยาบ ๆ / 3.ตักเครื่องแกงลงละลายในหม้อหน่อไม้ พร้อมทั้งน้ำปลาและปลาย่าง / 4.พอเดือดสักครู่ ใส่ฟักทอง เห็ดนางฟ้าฉีก และพริกตุ้ม / 5.ชิมดุให้รสจัด กลมกล่อม จึงใส่ยอดพริกและชะอม ใบแมงลัก คนให้เข้ากัน ยกลง รับประทานร้อน ๆ / 6.ถ้าชอบน้ำข้น ตำข้าวสารที่แช่น้ำแล้ว 3 ชต. พร้อมกับใบย่างนาง และกรองเอาแต่น้ำข้าวกับน้ำใบย่านางใส่ในแกง จะทำให้น้ำแกงข้นขึ้น.(หรือจะข้าวเหนียว ข้นกว่ามั๊ยนะ).. ที่ปปส. ร้านพี่รุณ-น้องเอ๋ เช้านี้ 17ตค.57 เขาเรียก "แกงเห็ดรวม" น้ำข้นแบบใส ๆ น่าจะใส่ข้าวเบือ รสเค็มไปนิด ถ้าอ่อนหน่อย ใส่น้ำตาลปี๊บเป็นชูรสนิดนึงก็น่าจะดี.. หอมกลิ่นปลาเค็มหรือปลาย่าง พริกลาวเม็ดสีส้มแดง..ตะไคร้ หอมแดง.. / ผัก ฟักทอง ยอดฟักแม้ว (มะระหวาน, ซาโยเต้).. ใบแมงลัก / อร่อยมาก.. ++++ *** ต้มสายบัวปลาทู ..ปลาทูนึ่ง 5 ตัว / สายบัวขาว (ลอกใยบัวออกหั่นยาว 4 ซม.)2 ขีด / มะพร้าวขูด 1/2 กก. / น้ำสุก 2 ถ้วย/ กะปิ 1/2 ชต. / หอมแดง 4 หัว / พริกไทย 6-8 เม็ด/ น้ำปลา 3 ชต/ น้ำตาลปี๊บ 1 ชต. /น้ำมะขามเปียกข้น ๆ หรือจะใช้ลูกตะลิงปลิงหรือมะดัน 3 ลูกแทนก็ได้ / วิธีทำ 1.คั้นมะพร้าว กรองน้ำกะทิใส่หม้อ ตักหัวกะทิไว้ 1/2 ถ้วย / ตำหอมแดงพอแตก ใส่กะปิและพริกไทย / นำกะทิใส่หม้อตั้งไฟ ใส่ครื่องแกงที่ตำลงไป รอจนเดือด / ใส่ปลาทูลงในหม้อ เมื่อกะทิเดือดพล่านแล้ว ใส่สายบัวตามทันที ปรุงรส ชิมให้ออกรสเปรี้ยว หวาน เค็มตาม / 5.ใส่หัวกะทิ คนเบา ๆ เดือดอีกครั้งปิดไฟ ตักใส่ชามเสิร์ฟ ... ถ้าใช้มะดันหรือลูกตะลิงปลิงแทนน้ำน้ำมะขามเปียก จะได้รส เปรี้ยวร่อยดีไปอีกบแบบ ให้นำมะดันหรือตะลิงปลิงมาผ่าซึกใส่ลงไปในหม้อแกงก่อนใส่ปลาทู / ต้มพอมะดันหรือติลิงปลิงเริ่มเปื่อย จึงค่อยใส่ปลาทู.. บางตำราบอก กรีดรอบลูกถึงเมล็ดใน ไม่ต้องผ่าครึ่งลูก +++ *** แกงส้มแตงอ่อนยอดฟักทอง ... ปลาช่อน 1 ตัว / เกลือ 1 ชช. / แตงอ่อน (ปอกเปลือกหั่นชิ้นใหญ่)2 ลูก / ยอดฟักทอง (หรือดอกอ่อน) 8-10 ยอด / น้ำปลา 3 ชต. / น้ำตาลปี๊บ 2 ชต. / น้ำมะขามเปียกข้น ๆ 3 ชต./ ++ น้ำพริกแกง. พริกแห้งใหญ่ (บางช้าง) 8 เม็ด / หอมเล็ก 5 หัว / กระชาย 2 ชต. / กะปิ 1 ชช. / +++ 1.พริกแดงแห้งแกะเม็ดออก ลวกน้ำร้อน / 2.หอมเล็กปอกเปลือกเตรียมไว้ / 3.ตัดหัวและหางปลาช่อน ต้ม แกะเอาแต่เนื้อ ส่วนช่วงตรงกลางหั่นเป็นแว่น ๆ หนา 1 ซม. / 4.โขลกพริกแห้งกับเกลือ หอมเล็ก กระชายจนละเอียด และใส่กะปิ ใส่เนื้อปลาลงโขลก / 5.ใส่น้ำในหม้อ 3 ถ้วย ตั้งไฟให้เดือดจัด ใส่น้ำพริกลงละลาย ใส่แตงอ่อนที่หั่นไว้ / 6. ปรุงรสด้วยน้ำมะขามเปียก นำปลาดี น้ำตาลปี๊บ ให้ออกรสเปรี้ยวนำ เค็มตาม หวานรั้งท้าย / 7.ปรุงรสได้ที่แลวพอน้ำเดือดพล่าน ใส่ปลาช่อนหั่นแว่น แล้วจึงใส่ยอดฟักทอง เมื่อผักสลด ยกลงเสิร์ฟได้ทันที +++** แกงส้มทุกชนิดเป็นยอดอาหารไทยขนานดั้งเติมให้หน้าแล้งจ้ะ แม่ครัวสมัยก่อน เขาจะแกงส้มเมื่อใด เขาจะไม่ใช้พริกแห้งชนิดอื่น นอกจากพริกบางช้างเท่านั้น เพราะพริกบาช้างมีคุณสมบัติไม่เผ็ดร้อนรุนแรง เหมาะที่จะมาใช้ปรุงแกงส้ม เพราะแกงส้มเป็นแกงไม่เผ็ด-ไม่ร้อน ใช้รับประทานดับร้อนได้ดี / *** ใบขวนการแกงส้มแล้ว ดอก และยอดฟักทองชนะความนิยมชาวบ้านภาคกลาง ทั้งนี้ เพราะยอดและดอกฟักทองอมน้ำแกง(ส้ม)ได้รวดเร็ว +++ *** แกงต้มส้มปลากระบอก .. ปลากระบอกหรือปลาทูสด 5 ตัว / เกลือป่น 1 ชช. / น้ำ 3 ถ้วย / น้ำปลา 3 ชต. / น้ำตาลปี๊บ 5 ชต. / น้ำมะขามเปียกข้น ๆ 3 ชต. / ผักชี 2-3 ช่อ / ขิงหั่นฝอย (ขย้ำล้างในน้ำเกลือ) 1 ชต./ พริกแดงหั่นฝอย 1 เม็ด/ ต้นหอมหั่นเป็นท่อน 3 ต้น / หอมเล็กเจียว 2 ชต. /น้ำมันพืช 2 ตชต./ +++ เครื่องปรุงพริกแกง .. พริกไทยโขลกละเอียด 10 เม็ด / หอมเล็ก 5 หัว / รากผักชี 1 ชต. / ขิง 3 แว่น / กะปิ 1 ชต./ เกลือป่น 1 ชช./ ++. ล้างปลา ควักไส้ออก ผึ่งให้หมาด เคล้ากับเกลือ / 2.โขลกเครื่องปรุงพริกแกงให้ละเอียด / 3.ใส่น้ำ 3 ถ้วย ตั้งไฟให้เดือด ใส่เครื่อแกงที่โขลกแล้ว ปรุงรสด้วยน้ำมะขามเปียก น้ำตาลปี๊บ น้ำปลา ให้ออกรสจัด / 4.พอน้ำแกงเดือดพล่าน ใส่ปลา ขิงซอย พอเดือดอีกครั้งและมีกลิ่นหอม ใส่ต้นหอมลงไป / 5.ตักใส่ชาม โรยหน้าด้วยหอมเจียว ผักชี พริกแดง +++ แกงส้มต้มนี้เหมาะเป็นอาหารดับพิษไข้สำหรับคนป่วย เพราะจะช่วยแก้เบื่ออาหารได้ดีกว่าอาหารขนานอื่น เพราะรสชิงช่วยให้กินข้าวได้จ้ะ... +++