วันอาทิตย์ที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2555

สวัสดีปีใหม่ "ป๊า สมศักดิ์ สุพรรณโกมุท" 2 มค. 55 ไม่รู้จะพูดอะไรดี



สวัสดีปีใหม่..ป๊า.. คงจะสบายดีแล้ว
*
มาสรุปชีวิตเค้ากันหน่อยดีกว่า.. เดี๋ยวก็ครบปีแล้ว .. อย่างน้อยเค้าเคยไปบ้าน ปากซอยบึงนายพล.. ยังได้กอดป๊า 2 ครั้ง..ถึงแม้หลายวันต่อมา ป๊าจะแสดงให้เห็นว่าชีวิตป๊าไม่ต้องการใครนอกจาก "หญิง วรรณา" นั่งโอบกอดเขา.. เค้าก็ไม่ว่าอะไร ป๊าแก่แล้ว ถ้านั่นเป็นความสุข (ซึ่งป๊าอาจจะหามาตลอดชีวิต) เค้าก็ไม่ขัดขวาง (เหมือนอย่างที่หลาย ๆ คนต้องการ).. แจ๋มาเล่าให้ฟังว่า ป๊าไปกับวรรณา อยู่ในกลุ่มคนเสื้อแดงที่ราชประสงค์ พูด ๆ ให้ไปตามป๊ากลับมา.. ก็นั่นเป็นความสุขของป๊า.. เค้าก็ไม่ไปตามหรอก.. วันที่ป๊านอน รพ.จุฬาลงกรณ์ .. ม๊าจ้างให้เค้านั่งเฝ้าป๊า.. บอก "ป๊ากินอะไรไม่ค่อยได้ ไม่ต้องซื้ออะไรให้ป๊ากิน" แต่เค้ากลับคิดว่า ..คนใกล้ตาย..ถ้าอยากกินอะไรก็สมควรต้องได้กิน.. แม้แต่ องุ่น เม็ดเดียว เค้าก็ปอกเปลือกออกหมด.. ผ่าครึ่ง เอาเมล็ดออกให้หมด.. ป๊ากินได้หน่อยเดียวก็ไม่เอาแล้ว..คุณหมอเอธัส..บอก "ตามค่าเฉลี่ย..ของโรคนี้..น่าจะอยู่ได้ 3-6 เดือน" คุณหมอให้ป๊ากินนม ที่พยาบาลชงมาให้.. เค้าก็ประคองหัวป๊า (นอนซะหัวด้านหลังร้อนเลย).. ค่อย ๆ ดูดนมจากหลอด แต่ก็ไม่หมด.. เค้าเป็นลูกสาวคนเดียวของป๊า..คิดว่าถึงช่วงสุดท้ายของชีวิต ก็ทำให้ด้วยความเต็มใจ จริงใจ...ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้คิดเลยว่า ป๊าจะให้เงิน สมบติ หรือมรดกอะไรหรือไม่.. เค้าก็คิดว่าเค้าทำดีที่สุดแล้ว ถ้าไม่ถูกใจป๊า เค้าก็ต้องขอโทษด้วย.. ส่วนถ้าม๊า ถ้ามาถึงขั้นสุดท้ายแบบป๊า.. ก็คงต้องอาศัยลูกชาย 2 คนของเขาทำให้แล้วล่ะ..เพราะเค้าคงจะต้องตายก่อนม๊า ตายก่อนลูกชาย 2 คนของม๊าเค้า...ป๊าคิดว่างั้นมั้ย
*
คุณบุรุษพยาบาล ก็ช่วยเช็ดทำความสะอาดป๊าดีทุกอย่างเลย คุณพยายาลก็เช็ดตัวทาแป้งให้ป๊า คุณผู้ช่วยผู้ชาย ถาม "ลุงจะโกนหนวดมั้ย" ให้เค้าไปซื้อที่โกนหนวด ที่ 7-11 มีแต่แบบด้ามเหลือง.. ฟันป๊าฟันล่างยื่นมาเขาทำไม่สะดวก เลยเดินกลับไปเอาที่โกนหนวดด้ามเหล็กกับใบมีดของเขามา เอาสบู่ฟอก แล้วก็ค่อย ๆ โกนหนวดให้ป๊า.. ทำดีมากเลย ก็ดูชื่อ แต่ไม่ได้จดไว้.. เค้าคงทำไม่ได้หรอก ต้องบาดแน่เลย (แต่เค้าก็แปลกใจ.. วันนี้รู้ว่า คนพวกนั้นเขารู้ว่าเขาจะได้รับมรดกอะไรตั้งแต่วันที่ 16มค.54 ลูกชายคนโตป๊ากลับไม่ทำเรื่องพวกนี้ให้ป๊า..เห็นแต่พาเมียมานั่งเฝ้าปลายเตียง แล้วก็กลับ เพราะม๊าบอก "ถ้ามัวมานั่งเฝ้าป๊า ก็ไม่ต้องทำมาหากินกันพอดี.. ค่ารถไปกลับก็วันละร้อยกว่าบาท")
*
วันที่ 30 ธค.53.. ป๊าโทร.มา "มาดูแลป๊าหน่อย" เค้าก็ไม่ไป เพราะเค้ารู้ทัน วันนั้นที่ป๊านั่งโอบกอดหญิงวรรณา แปลว่าชีวิตนี้ไม่ต้องการใครแล้ว.. แต่พอโดนคุกคาม ไม่อยากให้เมียนี้รบกวนมาก ก็จะหลอกใช้เค้าเป็นไม้กันหมา.. ป๊าอาจจะโกรธแค้นที่เค้าไม่ยอมทำให้.. ก็เลยไม่ให้อะไรเลย..ก็ไม่เป็นไร สมบัติเป็นของป๊า จะยกให้ใครก็ได้.. ไม่ว่ากัน ถ้าเค้าเป็นลูกที่ไม่ดี ก็ไม่ให้ก็ไม่เป็นไร
*
วันที่ป๊ากลับไปอยู่บ้านปากซอยบึงนายพล ป๊าก็โยนความผิดให้เค้า นั่งบนที่นอน เค้าถาม ทำไมป๊าไม่อยู่สีลม ม๊าอยู่ดูป๊าที่บ้านนี้ ป๊าพูด "ไม่มีใครดูแล".. จริงเหรอ..
*
เค้าคิดว่า 3-6 เดือน น่าจะทำหนังสือหรืออะไรสักอย่างให้สำเร็จ ป๊าจะได้เห็นว่าเค้าทำได้.. ไม่ต้องพึ่งสมบัติ มรดกของป๊า.. ทั้ง ๆ ที่ป๊าเองก็ไม่เคยส่งเสริม สนับสนุนให้ทุนไปเรียน หรือลงทุนอะไรให้.. บอกให้แต่ไปเรียนภาษาจีน ที่ที่ป๊าไปเรียน.. แต่ก็ไม่ได้ให้ค่ารถ ค่าเรียน (มีแค่วันนั้นที่เค้าขอเงินป๊าบอกจะได้เรียน ก็ได้มาพันนึง..แต่เค้าจะไปเรียนได้ยังไง ไม่มีใครส่งเสริมค่าใช้จ่าย) ป๊าคงพูดไปงั้น ๆ บอก "ให้ไปช่วยม๊าขายของ" ทางโน้นก็เห็นว่าเค้ามาอยู่กับป๊า เป็นหมาเฝ้าบ้าน กันไม่ให้วรรณามาที่นี่.. พอกลับไปก็พูด "กลับมาทำไม ทำไมไม่อยู่ขายของให้รวย ๆ ให้ยามมันเห็น ไปทะเลาะกับมันแล้วก็กลับมา ต้องขายของให้รวย ๆ ให้มันเห็นสิ".(ขนาดสีลมม๊ายังขายได้วันร้อยกว่าบาทเลย ที่ปากซอยนายพล มีร้านขายขนม โชห่วย ติด ๆ กันตั้งหลายร้านนี่นะ จะให้ขายให้รวย..). โดนถีบไปถีบมา.. ก็เลยล่อยลอยอยู่อย่างนี้.. ป๊าเคยบอก "ถ้าป๊าตายบ้านที่ดินก็ยกให้พวกเอ็งทั้งนั้นแหละ.. " "เค้าไม่เอาออก.. ให้เค้ามานั่งขายกำไรบาทสองบาทน่ะเหรอ.. เค้าน่าจะทำอะไรอย่างอื่นที่เค้าถนัด ชอบ" ได้แต่ขอเงินป๊าไปเรียนทำขวดน้ำเป็นโคมไฟที่จตุจักร มีนบุรี.. 1,500 บาท
*
เค้าถามป๊าว่า เรียนภาษาจีนแล้วจะไปทำอะไร.. "ก็เป็นไกด์ไง" เป็นไกด์เหรอ เป็นไกด์ก็ต้องจบปริญญาตรี ต้องสอบเป็นไกด์ (ต้องเข้าสมาคม) ไม่ชอบเที่ยว ไม่ชอบพูด.. ป๊าก็ว่าเสียงดัง "เฮ้ย..ไม่ต้องใช้ปริญญง ปริญญาอะไร.. ใช้ความสามารถอย่างเดียว"....พูดซ้ำ
*
จริงหรือที่ม๊าบอกว่า "เตี่ยมึงเขาว่า..มึงไปอยู่กับเขา เขายังต้องเลี้ยงมึงเลย" พูดซ้ำ ๆ คำว่า "ยังต้องเลี้ยงมึงเลย" แปลว่า ป๊าให้เงินเค้าใช้ ให้กิน โดยที่เค้าไม่ได้ทำงานอะไรเลยใช่ไหม..
*
เช้าตื่นขึ้นมาก็กวาดหน้าบ้าน เอาก้นบุหรี่ออกจากโต๊ะสนุ๊ก กวาดพื้นทั้งบ้าน เก็บขยะทิ้ง อุ่นกับข้าววัด รถลุงมา เอาเหล้าเอาบุหรี่ให้ลุง.. จัดของขนมขึ้นชั้น มาม่า ไวไว แช่นม กาแฟเข้าตู้เย็น แบ่งบุหรี่ ตวงเหล้าใส่ขวดกระทิงแดง.. ทำน้ำเป๊ปซี่ใส่น้ำแข็งขาย.. จัดเค้าท์เตอร์ ไปตลาด ซื้อหอยลายมาผัดที่ป๊าชอบกิน..ลูกอมหมด ก็นั่งรถตู้ไปลงตลาดซื้อลูกอมกลับมาขาย.. ขายเหล้าก๊ง..ล้างชาม หุงข้าว ถึงแม้ไม่ได้เช็ดเตาครัว..เลอะมากทำไม่ไหว..
*
เวลาขายของ ป๊าก็มองเหมือนเค้าเป็นคนปัญญาอ่อน.. ทอนเงินไม่เป็น คิดเงินไม่ถูก
*
ป๊าจ้างลูกจ้างผู้ชายมาคนหนึ่ง ... ไม่ค่อยขยัน เค้าก็เอาลังมาแกะออก เรียง ผูกด้วยเชือก ขายให้รถรับซื้อของเก่าง วันถัดมา ลูกจ้างผู้ชายคนนั้นก็ลาออก.. ป๊าบอก ไม่ต้องแกะลัง จะเอาไว้ใส่ขวดเบียร์ขายยกลัง.. ได้ราคา
*
"ทำไมไม่อยู่ขายของที่โน่นให้รวย ๆ ทำให้ยามมันเห็นว่าเราขายของรวย..." / แต่พอลูกชายคนโตได้รับมรดกให้ไปอยู่บ้านนั้น "มึงมาขายของโชห่วยที่ร้านผัก ให้วันละ 200 ขายได้วันละร้อยกว่าบาทก็พอกินแล้ว" "ที่นี่ไล่กูก็ไม่ต้องหาเลี้ยงมึงแล้ว" / "ทำอะไรมาขายที่หน้าบ้านร้านผักดีมั๊ย" / "ไม่ต้องทำอะไรมาขายเลย เดี๋ยวมากัดกับไอป๊อป"
*
ตอนแรกคิดว่า ถ้าป๊าให้เงินสดหรือทองอะไรเยอะหน่อย เค้าก็กะว่าจะให้ทางโรงพยาบาลจุฬาฯ เข้ากองทุนสวัสดิการหมอพยาบาลหรืออะไร ทำบุญให้รพ.ชื่อป๊า.. คิดไว้ว่าจะให้สักหมื่นหรือสองหมื่น ถ้าป๊าให้เยอะ.. แต่ปรากฏว่า ป๊าไม่ให้อะไรเลย แม้แต่ทองเท่าหนวดกุ้ง ม๊าบอก "ทองขายจัดงานศพเตี่ยมึงไปหมดแล้ว ไม่มีอะไรเหลือ เตี่ยมึงเค้าไม่ได้ยกอะไรให้แม้แต่ชิ้นเดียว อยากได้เงิน โน่น ไปทวงเอากับอีดอก(หมายถึงหญิงวรรณา) ที่มันเอาเงินเตี่ยมึงไปสามแสนสี่แสน.. มึงบอกไม่เอาสมบัติ มรดก ก็ไม่ต้องมาเรียกร้องอะไร..เตี่ยมึงเขายกให้ไอป๊อปกับไอป้อม... ไม่ต้องมาเรียกร้อง ไม่ต้องมาขออะไร"
*
ให้ไปซื้อของมาขายเอง.. นั่งรถสามล้อกลับมาเอง.. ชีวิตเค้าทำไมถึงเป็นอย่างนี้...
*
จะมีก็เค้าเอาเงินที่นับ แบ่งไปซื้อของ พวกกระทะ เอามาผัดหอยลาย.. แบ่งออกจาก 2 ถุง.. เงินเหลือครึ่งหนึ่ง แล้วซื้อน้ำสิงห์ขวดเล็ก ให้เซลไปทั้งถุง ไม่ได้นับ ..วันรุ่งขึ้น เซลเอาถุงเหรียญกลับมาบอกเงินไม่ครบ.. บัญชีของบริษัทเค้านั่งนับกัน.. เค้าก็ลืมไปว่าเค้าเอาเงินออกมาแล้ว ไม่ได้ตั้งใจโขมย.. ก็เลยว่าเซล อาจเม้มเงินไป.. จริง ๆเค้าก็ผิดเองน่ะแหละ..
*
ขายของก็ไม่เคยเม้มเงินเหรียญเงินแบงค์ เข้ากระเป๋าสตางค์ของเค้าแม้แต่บาทเดียว.. มีก็หยิบไปเป็นค่ารถตู้ ค่าซื้อหอยลาย ซื้อของ เงินทอนก็มาคืนลงลิ้นชัก....
*
ชีวิตเค้าก็เหลือเวลาไม่อีกเท่าไหร่แล้ว 45 ไม่มีบริษัทไหนรับเข้าทำงานแล้ว.. ท้องก็บวม ยืนล้างห้องน้ำ เดินทั้งวันก็ขาชา นั่งทำงานพับกระเป๋ากับพื้นตั้งแต่ 7 โมงเช้าถึง 1 ทุ่ม ขาก็เดี้ยง นั่งขัดสมาธิทั้งวัน. จนเลือดไม่เดิน.. ปวดขา..
*
ก็พยามยามทำอะไรที่ดีดี บ้าง ..หวังว่าชีวิตจะดีขึ้นกว่านี้ ไม่ลำบากมากไปกว่าเดิม..
*
ถ้าเค้าทำความดี บุญกุศลอะไรดี ๆ.. เค้าขออุทิศส่วนกุศลทั้งหมดให้ป๊า.. ขอให้ป๊าถึงซึ่งวิมุตติคือหลุดพ้น ถึงซึ่งนิพพาน ไม่ต้องเกิด แก่ เจ็บ ตาย.. ไม่ต้องอยู่ในวัฏสงสาร.. ไม่ต้องเกิดในที่ที่ไม่อยากเกิด ไม่ต้องเจอคนที่ไม่อยากเจอ ขอป๊าให้มีแต่ความสุข.. ไม่ต้องห่วงเค้า.. อาจจะเป็นชะตากรรม บุญทำ กรรมแต่งให้มาเป็นแบบนี้ ก็ต้องยอมรับ และต้องยอมแพ้..
*
ช่วยไม่ได้จริง ๆ
*

*

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น