วันพุธที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2556
"ลาบปลาดุก" ปลาน้ำจืด (ตำรับไทย)
"ลาบปลาดุก" ปลาน้ำจืด (ตำรับไทย) / ส่วนผสม ปลาดุกอุย (ตัวละ 250 กรัม) 6 ตัว, มะเขือยาว 5 ลูก, ผักชีหั่น 1 ต้น, ผักชีลาวหั่น 1 ต้น, ผักชีฝรั่งซอย 1 ต้น, ต้นหอมหั่นฝอย 1 ต้น, หอมแดง 3 หัว, กระเทียม 5 หัว, กระเทียมเจียว 2 ชต., พริกขี้หนูแห้งคั่วป่น 1 ชต, ข่าแก่หั่นละเอียด 5 แว่น, ตะไคร้ซอย 1 ต้น, ข้าวคั่วป่น 1/4 ถ้วย, เกลือป่น 1 ชช., น้ำมันพืช 2 ชต., ผักสด เช่น ผักกาดขาว ผักเพกาย่าง มะเขือชนิดต่าง ๆ ...เครื่องลาบ พริกไทยป่น 1/8 ชช., ดีปลีป่น 1/8 ชช., ดอกจันทน์คั่วป่น 1/8 ชช., อบเชยคั่วป่น 1/8 ชช., ลูกกกระวานเทศคั่วป่น 1/8 ชช., มะแขว่นป่น 1/2 ชช., **** วิธีทำ ..เคล้าปลาดุกกับเกลือให้ทั่ว แล้วล้างน้ำออกให้หมดเมือก ผ่าท้อง ควักไส้ออก ล้างอีกครั้งให้สะอาด บั้งห่าง ๆ ทั้งสองด้าน ย่างเตาถ่านด้วยไฟอ่อนพอปลาสุกเหลืองมีมันเยิ้ม แกะเอาแต่เนื้อใส่ถ้วย แล้วต้มหัวปลาและก้างจนเดือดเพื่อใช้เป็นน้ำสต๊อก / ย่างมะเขือยาวด้วยไฟแรงจนเปลือกไหม้ ลอกเปลือกที่ไหม้ออก ใส่ลงในครกโขลกเบา ๆ รวมกับเนื้อปลาดุกจนเข้ากัน ตักใสถ้วย..โขลกเครื่องลาบทั้งหมดเข้าด้วยกันให้ละเอียด โขลกพริกขี้หนูแห้ง ข่า ตะไคร้ กระเทียม หอมแดง เข้าด้วยกันให้ละเอียด ผสมกับเครื่องลาบ ตั้งกระทะน้ำมันด้วยไฟกลางให้ร้อน ใส่เครื่องที่โขลกลงคั่วในน้ำมันด้วยไฟอ่อนจนหอม ใส่นำสต๊อกปลา ตามด้วยเนื้อปลาที่โขลกกับมะเขือยาวเผา ผัดจนแห้ง ใส่ข้าวคั่ว ปรุงรสด้วยเกลือ ปิดไฟ,... ตักใส่จาน โรยผักชี ผักชีฝรั่ง ผักชีลาว ต้นหอม กระเทียมเจียว รับประทานกับผักสดและผักย่าง.มะเขือยาวต้องเผาด้วไยฟแรงจนเปลือกไหม้ เนื้อจึงจะสุกนุ่มและล่อนจากเปลือก ส่วนเครื่องลาบเหนือมีขายเป็นซอง ๆ ที่ตลาดนัดจตุจักร ตลาด อ.ต.ก. และร้านอาหารเหนือ
กุ้งแช่น้ำปลา "starte dishes" Helath&Cuisine
กุ้งแช่น้ำปลา "starte dishes" Helath&Cuisine / ส่วนผสม กุ้งแชบ๊วยสด 10 ตัว, พริกขี้หนูสวน 10 เม็ด , รากผักชี 2 ราก, กระเทียมกลีบเล้ก 15 กลีบ ,น้ำมะนาว 5 ชต,. น้ำปลา 4 ชต., น้ำตาลทรายแดง 1 ชช., ผักสดและมะระต้มสำหรับเคียง (บางร้านเล่นมะระสดโปะน้ำแข็งเลย)*** วิธีทำ 1.ล้างกุ้งให้สะอาดแล้วผ่าหลังดึงเส้นดำออก (ในภาพเขาเจาะใต้ท้องกุ้ง เอาหางกุ้งเสียบลอดตัวขึ้นมา หากุ้งตั้งขี้น) จัดเรียงกุ้งใส่จานให้สวยงาม แช่ตู้เย็นทิ้งไว้ 20 นาที, 2.โขลกพริกขี้หนู รากผักชี กระเทียมให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยน้ำมะนาว น้ำปลา น้ำตาลทราย ชิมให้ให้ได้รสเปรี้ยวเผ็ดนำ 3.เวลารับปะระทาน นำกุ้งลงไปจิ้มกับน้ำจิ้ม แนมด้วยผักสดหรือมะระต้ม (ซอยชิ้นตามขวางบางๆ) จะช่วยเพิ่มรสให้อร่อยขึ้น idea for cooking การทำกุ้งแช่น้ำปลา หลักสำคัญคือการเลือกกุ้งที่สดจริง ๆ ฉะนั้น ควรเลือกกุ้งที่เนื้อแน่น จับแล้วไม่เละ หัวกุ้งต้องแน่น ไม่ยุ่ย เนื้อกุ้งจะมีสีใสไม่ดำ
ยังไม่ได้ไปแจ้งความลงบันทึกประจำวัน กับ วินมอร์'ไซค์ ซอยบุญอยู่ เบอร์ 18 การเสียเวลากับคนชั่วเป็นเรื่องที่เสียเวลามาก ๆ จริงๆ
ยังไม่ได้ไปแจ้งความลงบันทึกประจำวัน กับ วินมอร์'ไซค์ ซอยบุญอยู่ เบอร์ 18 การเสียเวลากับคนชั่วเป็นเรื่องที่เสียเวลามาก ๆ จริงๆ /เพราะจำได้ ว่าเราเดินขึ้นฟุตบาทแล้ว หยุดหันมามองร้านไข่เจียวหัวมุมร้านเปลี่ยนยางสีเหลือง.. มอฯ เบอร์ 18 ก็เหยียบเบรคกึก จนเราตกใจ ต้องหันไปมองเอี้ยวคอสุดทาง เพราะเขาขี่รถขึ้นมาแนวฟุตบาท กลางตัวกลางหลังเราแน่นอน.. ไม่ใช่รถที่จะเลี้ยวออกจากซอย ขี่สวนย้อนศร..รถบนถนน ไม่มีผู้โดยสารด้วย.. ขอให้ความเป็นสุภาพบุรุษของพี่เบอร์ 18 จงสนองกรรมแก่ตัวเขาเอง.ไม่วันใดก็วันหนึ่ง..ฟ้ามีตา เวรกรรมมีจริง.. สาธุ สาธุ สาธุ
ห้องสมุดซอยพระนาง น้องนักศึกษาสาว ใส่แว่นกรอบดำ.. เอาสัมภาระนั่งโต๊ะ 3 แล้ว คงเย็นหลัง..แอร์ลง ย้ายแต่ตัวไปนั่งโต๊ะ 2 แต่ของกองไว้ที่โต๊ะเดิม
ห้องสมุดซอยพระนาง น้องนักศึกษาสาว ใส่แว่นกรอบดำ.. เอาสัมภาระนั่งโต๊ะ 3 แล้ว คงเย็นหลัง..แอร์ลง ย้ายแต่ตัวไปนั่งโต๊ะ 2 แต่ของกองไว้ที่โต๊ะเดิม / นิสัยคนไทย..คงเห็นโต๊ะว่างเยอะล่ะมั๊ง... น้องอีกคนฉลาด ลองนั่งดูก่อน ถ้าแอร์เย็นไป ก็ย้ายวิก.. 555 คนเราเนาะ...น้องผู้ชาย เป็นหวัดเบาบาง มานั่งฟืด ฟืด เอานิ้วป้ายจมูกไป จดทำการบ้านไป.. ไม่ลงทุนหาผ้าปิดปากปิดจมูกเร้ย..งบหลวงก็ไม่มี..นี่ก็อีกพวก ไม่รู้ดัดจริตหรือเป็นโรคจิต (นอกจากป้าเพี้ยนแล้ว เอาฝ่ามือดันกระจก สูงกว่าที่จับ..แน๊..เหลี่ยมสูงซะด้วย) รายนี้รอยฝ่ามือฝ้าขาว ๆ เล็ก (น่าจะเป็นมือผู้หญิง) เต็มฝ่ามือเลย..เห็นใจคนแก่มั่งเท๊อะ..แกก็เช็ดกระจกทั้งบานแล้ว ยังต้องมาเช็ดฝ่ามือของคนโรคจิตอีก..ลูกใครวะ..
ขอบกินล่ะซี่ "ปลาตะเพียนต้มเค็ม"น่ะ.. ตกใจ บรรทัดแรกของเค้าหายไปไหน แกนะแก
ขอบกินล่ะซี่ "ปลาตะเพียนต้มเค็ม"น่ะ.. ตกใจ บรรทัดแรกของเค้าหายไปไหน แกนะแก / กระแดะเอาของแกมาขึ้นก่อนทำไม.. เจ้าของบ้านงง..นะเว้ยเฮ้ย..มัวแต่อู้..ไม่ถึงปลายทางซะที เดี๋ยวพอขากลับก็เป็นหลวงพ่อโกย แวะทางผ่าน วันละเมือง..รีบกลับบ้าน..เออ เมิงรู้ว่ากุคอย เมิงก็ดีแล้ว.. มาคิดบัญชีกันนะ
วันอังคารที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2556
วิทยาลัยการอาชีพ กระทรวงแรงงาน..จากการที่ได้คุยกับบรรดาไกด์ทัวร์ทั้งหลาย..จะว่ไปแล้ว ภาษาบาฮาซาที่คนไทยบางคนอาจจะไม่คุ้นเคย นี่คนให้ความสนใจเยอะมาก ไกด์รับนักท่องเที่ยวชาวอินโดนีเซียไม่ใช่น้อยเลย
วิทยาลัยการอาชีพ กระทรวงแรงงาน..จากการที่ได้คุยกับบรรดาไกด์ทัวร์ทั้งหลาย..จะว่ไปแล้ว ภาษาบาฮาซาที่คนไทยบางคนอาจจะไม่คุ้นเคย นี่คนให้ความสนใจเยอะมาก ไกด์รับนักท่องเที่ยวชาวอินโดนีเซียไม่ใช่น้อยเลย / คนเรียนเต็มเอี๊ยด..35 คน ออกจะล้นด้วย..มีคุณผู้หญิงคนหนึ่ง ตอนนั่งข้างล่าง เขาบอก "เมื่อวานก็มา ทางจนท.ไม่ได้โทร.ไป หรือโทร.ไปแต่ฉันไม่ได้รับสาย ไม่ติดต่อมาอีกเลย" / พอขั้นชั้นเรียนลงทะเบียน ไม่มีชื่อเธอ โวยวายเล็กน้อยว่า"ของหนูเอกสารก็ครบ ทุกอย่างครบหมด จนท.ก็รับเรื่อง แต่ไม่ติดไปหรืออย่างไร หนูไม่ได้รับการติดต่อเลย.. หนูไม่มีอะไร..แค่สงสัยว่าทำไมเอกสารหนูครบทุกอย่าง ทำครบทุกขั้นตอน แต่ไม่มีชื่อหนู "/ จนท.พยายามอธิบาย เธอก็โวยวายใส่ พูดแต่ประโยคเหล่านี้.. เราต้องบอก "ฟังก่อนได้มั๊ยคะ" จนท. อุตส่าห์บอก "ขอความกรุณาทำความเข้าใจหน่อยนะคะ ระบบราชการก็เป็นอย่างนี้ ไม่มีอะไรสมบูรณ์ทุกอย่าง.. ตอนโทร.คอนเฟิร์ม มีอยู่คนหนึ่ง ถามชื่อนี้ ตามใบสมัคร.. เธอบอกไม่ใช่ชื่อนี้..ไม่มีชื่อเขา..เขาเลยโทร.ด่า ใส่จนท.ใหญ่เลย..จนท.บอก ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวจะขอเช็คเอกสารก่อนนะคะ เขาก็ไม่ฟัง เขาก็เลยพลาดโอกาส /// "ขอความกรุณาเห็นใจเรานิดนึง อย่างไร..ถ้าเป็นความผิดพลาดของจนท. เราจะดำเนินการให้เรียนตามสิทธิ์ อย่างแน่นอน" ..เพื่อน ๆ เดินเข้าห้องเรียน.. เจอคนรู้จัก เธอก็พูด อย่างนี้ ๆ ให้เพื่อนฟัง .."ลงทะเบียนถูกต้องครบทุกอย่าง แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมไม่มีชื่อหนู หนูต้องเรียนไปใช้งาน..ถ้าไม่ได้เรียน จะให้หนูกะพริกตาคุยกับแขกหรือไงคะ".. (ไกด์นิสัยอย่างนี้น่ะเหรอ..มีว่าแดกรับประทานด้วย) จนเพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งเดินขึ้นมา พูดเลย "เดี๋ยวเลิกงานต้องเข้าห้องประชุมใหญ่อีก อย่าพูดมาก..อย่าเสียงดัง (เตือนด้วยความหวังดี) เธอยังไม่มีรรมะเท่าที่ควร...(ทำหน้าล้อ ๆ ขำ ๆ) อย่าให้ฉันได้ยินเสียงเธออีกนะ เราทำอาชีพไกด์ (ประมาณว่านิสัยอย่างนี้ไม่น่ารักเลย)...(พูดย้ำ) อย่าให้พี่ได้ยินเสียงเธออีกนะ..เสร็จแล้วก็เข้าห้องเรียน... / ปฐมนิเทศ จนท.อธิบายว่า ทางเราติดต่ 4-5 รอบ บางคนติดต่อไม่ได้.. ก็จะมาร์คไว้ว่า "ติดต่อไม่ได้" / อ้อพูดถึงกรณีไกด์.. จนท.ไปขนกองใบสมัครมา ..หาของคุณผู้หญิงเจอ ดูแล้วยื่นเอกสารอย่างสุภาพให้เธอดู.. "ติดต่อไม่ได้" เธอจึงเงียบไป หน้าเจื่อนไปเลย.. (ไงล่ะ..โวยวาย..แล้วหน้าแตกเอง) ส่วนใหญ่แล้ว ผู้เรียนตัวจริง..หลังจากโทร.คอนเฟิร์มแล้ว เขาจะโทร.มาเช็คอีกที ว่ามีชื่อเขาหรือเปล่า ... / "หนูลงสำรองไว้ค่ะ พอดีโทร.มือถือตกน้ำ เลยไม่ได้โทร.ติดต่อกันไม่ได้เลยค่ะ วันนี้ก็มา เผื่อตัวจริงสละสิทธิ์ จะได้ขอเรียนแทนค่ะ" / "งั้นรอก่อนนะคะ ต้องรอตัวจริงมารายงานตัวก่อน ประมาณ 10 โมงจึงจะรู้ แต่ยังไงก็ไปนั่งรอในห้องเรียนก่อนก็ได้ค่ะ" "เห็นตอนมาเรียนภาษาจีน.." (ดีใจจังพี่เขาจำเราได้ ประวัติดี ไม่ขาดเรียนเลยสักวัน..ขาดได้ไง ไม่รู้เรื่องน่ะสิ) .. สุดท้าย เป็นที่น่าเสียดาย เสียงบประมาณ เสียความตั้งใจของจนท. ภาษีของประชาชน (บางคนเข้าใจผิด คิดว่าคราวหน้ามาลงใหม่ได้) ได้ถามย้ำกับจนท.แล้ว 2 ครั้ง..ว่า บัตรสีฟ้า ลงเรียนได้ครั้งเดียว..ยกเว้น กรณีที่มีเรียนระดับ 2 .. ของเราเช็คในคอม เราเพิ่งลงครั้งนี้ครั้งแรก..ก็เลยได้เรียนภาษาญี่ปุ่น..หลายคนบอก มาลงแล้ว.. เต็ม ล้น. สำรองก็ยังล้นเลย.. บางคนคอนเฟิร์มแล้ว.. ไม่มาเรียน ทำให้คนอื่นเสียโอกาส.. สรุปภาษาญี่ปุ่นไม่มาเรียน 10 คน.. พวกนี้จะถูกขึ้นบัญชีดำ.. ไม่สามารถลงทะเบียนเรียนอะไรได้อีก.. / คุยกันข้างล่าง "สรุป.ง่าย ๆ คนไทยนิสัยอย่างนี้มั๊ง" ผู้หญิงเรียนบาฮาซา รีบพูดเลย น้ำเสียงฉุน ๆ นิด ๆ "คนไทยไม่นิสัยอย่างนั้นทุกคนหรอก อย่าพูดเหมาสิ" น๊าน เธอก็มองโลกในแง่ดีเกินความจำเป็น ..เดี๋ยวมีมวยแน่ ถ้าคุยกับเธอต่อ..จบข่าวดีกว่า 555
แกงจืดเงาะยัดไส้ คิดเอาเล่น ๆ ว่า ถ้าใส่ไส้หมูสับอย่างเดียว เวลาสุกแล้วจะต้องแข็งแน่นอน
แกงจืดเงาะยัดไส้ คิดเอาเล่น ๆ ว่า ถ้าใส่ไส้หมูสับอย่างเดียว เวลาสุกแล้วจะต้องแข็งแน่นอน / base ทั่วไป ก็ต้องใส่วุ้นเส้นแช่น้ำตัดท่อนสั้นน่าจะเซ็นหรือเซ็นกว่า ๆ..ใส่เครื่องโขลก (พริกไทย รากผักชี กระเทียม) ใส่ข้าวโพดหวานหน่อยดีมั๊ย ผสมเนื้อกุ้งหน่อยให้หวาน..ใส่เส้นเซี่ยงไฮ้ สับหยาบ หรือจะใส่เห็ดเข็มทอง ให้หนึบ..ใส่แป้งหน่อยดีมั๊ย ถ้าหมูบดละเอียดใส่ถุงบีบ+หัวบีบกลม บีบใส่ในไส้เงาะดีมั๊ย..เฮ้อ คิดไป..แต่ไม่มีปัญญาทำ
หมกไข่ปลาตะเพียน "หนังสือ ปลาน้ำจืด(ตำรับไทย)" สนพ.แสงแดด
หมกไข่ปลาตะเพียน "หนังสือ ปลาน้ำจืด(ตำรับไทย)" สนพ.แสงแดด / 4 คนทาน.. / ไข่ปลาตะเพียน 200 กรัม, ตะไคร้ซอย 2 ต้น, หอมแดงซอย 3 หัว, ขมิ้นยาว 1 ซม. 1 ชิ้น, ใบแมงลักหั่นหยาบ 1/2 ถ้วย, ต้นหอมหั่นท่อนสั้น 2 ต้น, เกลือป่น 1 ชช. , ใบตอง ไม้กลัด ยอดใบแมงบัก และพริกชี้ฟ้าแดงหั่นแฉลบสำหรับตกแต่ง..วิธีทำ.. ล้างไข่ปลาให้สะอาด ใส่เกลือ 1/2 ชช. เคล้าเบา ๆ ให้ทั่ว พักไว้ / โขลกตะไคร้ ขมิ้น หอมแดง เกลือ 1/2 ชช. เข้าด้วยกันให้ละเอียด ,,/ ล้างไข่ปลาอีกครั้ง พักให้สะเด็ดน้ำ ใส่เครื่องที่โขลก เคล้าเบา ๆ ให้เข้ากัน ใส่ใบแมงลัก ต้นหอมและเกลือที่เหลือ เคล้าพอทั่ว / ฉีกใบตองกว้าง 7 นิ้ว เช็ดให้สะอาด วางซ้อนกัน 2 ชั้น ตักส่วนผสมหมกไข่ปลาครึ่งหนึ่งวางตรงกลาง พับซ้ายขวาเข้าหากัน กลัดหัวท้ายด้วยไม้กลัด ห่อจนหมด ย่างหรือนึ่งด้วยไฟแรงประมาณ 15 นาทีหรือจนสุก จัดใส่จาน แต่งด้วยยอดใบแมงลัก และพริกชี้ฟ้าแดง เสิร์ฟร้อน ๆ... "ถ้าต้องการกินไข่ปลาตะเพียน ไม่จำเป็นต้องรอช่วงฤดูฝนอีกต่อไปแล้ว เนื่องจากปัจจุบันมีปลาตะเพียนสายพันธุ์ใหม่ คือปลาตะเพียนไข่ ซึ่งมีไข่ปริมาณมาก" ...แต่พอดูจากภาพแล้วมีสีออกแดง เหมือนใส่พริกแกง น่าจะต้องเป็นพริกแกงคั่วนะ.. หรือจะใส่พริกแกงเขียวหวานดี.. เขาว่าพริกแกงคั่วไม่ใส่ลูกผักชี ยี่หร่า พริกแกงเผ็ด ใส่ลูกผักชี ยี่หร่าคั่วอ่ะนะ อ๋อดูส่วนผสมแล้ว ไม่น่าจะใส่น้ำพริกแกง.. แต่ทีเห็นเป็นสีออกส้ม น่าจะเป็นเพราะเขาใส่ขมิ้นมากกว่านิ
ONCB 31กค.56 เช้านี้ซื้อข้าวร้านลุงปัญญา หนุ่มบ่น... "ทำยังกะสั่งซะ 10 อย่าง" เท่าที่สติสัมปชัญญะ ของเรามี ..เราสั่งข้าวราดยำกับไข่พะโล้เต้าหู้
ONCB 31กค.56 เช้านี้ซื้อข้าวร้านลุงปัญญา หนุ่มบ่น... "ทำยังกะสั่งซะ 10 อย่าง" เท่าที่สติสัมปชัญญะ ของเรามี ..เราสั่งข้าวราดยำกับไข่พะโล้เต้าหู้ / เธอยังตักยำ(หมูยอ)กับไข่พะโล้ หมูสามชั้น 2 ชิ้น เต้าหู้ 1ชิ้น (บ่นเบา ๆ ตอนตักพะโล้) "ทำยังกะสั่งซะ 10 อย่าง" ไอ้เราก็พะวงเทเหรียญ 5 ออกจากซองเศษตังค์อยู่ .. อย่าตอแหลนะ.. ตรงนั้นมีหนุ่มยืนตักข้าวราดให้เราคนเดียว..น้องผู้หญิงเขาก็เช็ดจับอาหาร แล้วก็เข้าครัวไปแล้ว..ไม่มีคนอยู่ตรงนั้นเลย...
ห้องสมุดซอยพระนาง จนท.เป็นหวัดน่ะไม่เท่าไหร่ เพราะต้องมาทำงาน แต่สมาชิกเป็นหวันมาเนี่ยสิ ..เรานั่งที่ประจำยังต้องย้ายหนีเลย เขาก็มอง..
ห้องสมุดซอยพระนาง จนท.เป็นหวัดน่ะไม่เท่าไหร่ เพราะต้องมาทำงาน แต่สมาชิกเป็นหวันมาเนี่ยสิ ..เรานั่งที่ประจำยังต้องย้ายหนีเลย เขาก็มอง.. / มีทุกวัน.. ไม่รับผิดชอบต่อสังคม.. คนพวกนี้ไม่รู้รึไง..ว่าห้องแอร์ มันแพร่กระจายเชื้อหวัดได้ง่าย.. ถ้าอากาศปกติ ก็ต้องห่างเป็นเมตรถึงจะพ้น..นี่นั่งห่างถึงจะเมตร แต่ก็นะ..มันเป็นแอร์ อากาศมันก็ไหลวน.. ฉันก็ไม่อยากเป็นหวัด เพราะถ้าเป็นหวัดฉันก็มาห้องสมุดไม่ได้... พวกเป็นหวัด มานั่งฟืด ๆ ๆ ๆ เอามือแคะจมูก เช็ดน้ำมูก..ทั้งผู้หญิงผู้ชาย.. จับหนังสือ แพร่เชื้อหวัด.. ผ้าปิดปากปิดจมูกก็ไม่ใช้.. ฉันน่ะ บัตร 30 บาท ยังไม่มีปัญญาไปหาหมอเลย เพราะต้องนั่งรถเมล์ไปกลับอีกไม่ต่ำกว่า 30 บาท.. แค่ทิฟฟี ดีคอลเจน แผงละไม่ถึง 10 บาท...ยังไม่มีปัญญาซื้อกินเลย.. เวลาคนเป็นหวัดมานั่ง ต้องอาศัยแอลกอฮอล์ฉีดเป็นระยะ ๆ หรือไม่ก็เอากระดาษทิชชู ฉีดแอลกอฮอล์แล้วอุดจมูกไว้.. เขาไม่สำนึก เราก็ต้องป้องกันตัวเองล่ะ...ถ้าเป็นหวัด ติดโรคทางเดินหายใจ คนแพร่เชื้อหวัด เขาก็ไม่มารับผิดชอบชีวิตเรา ค่ายา ค่าหมอ เขาก็ไม่ได้มาให้เรา... ..
ซอยบุญอยู่ มอเตอร์ไซค์ เบอร์ 18 อันธพาลหรือเปล่า ไม่อยากทอนเงิน..แล้วยังมาขี่รถตรงมา จะชนกลางหลังเลย..เหยียบเบรค จนเราต้องหันไปมอง..
ซอยบุญอยู่ มอเตอร์ไซค์ เบอร์ 18 อันธพาลหรือเปล่า ไม่อยากทอนเงิน..แล้วยังมาขี่รถตรงมา จะชนกลางหลังเลย..เหยียบเบรค จนเราต้องหันไปมอง.. / มึงจะฆ่ากูใช่มั๊ย ได้สิ..เดี๋ยวพรุ่งนี้กูจะไปแจ้งความ ลงบันทึกประจำวันที่ สน.ดินแดง.. / เรียกรถมอเตอร์ไซค์จากท้ายซอย พอถึงปากซอย (ขี่ก็ครืดคราด ฉึกฉัก) ยื่นแบงค์ 100 ให้ เขาถาม "ไม่มีเลยเหรอ" / "ไม่มี" ทำท่าทำทางรำคาญ / "จะรอมั๊ย เดี๋ยวไปซื้อของที่เซ้เว่นมาให้" / "ไม่ลงไม่รอล่ะ" น้ำเสียงสะบัด / "ในที่สุดก็หยิบถุงจากกระเป๋ากางเกงขวา" หยิบแบงค์จากถุง มีปึกแบงค์ 20 เยอะอยู่ ก็ประมาณ 200 น่าจะได้.. หยิบแบงค์ 50 กับแบงค์ 20 รวมเป็น 90 บาททอนให้เรา / มือขวาถือกระเป๋าสตางค์ของเขา มือซ้ายถือ 90 บาท ไอ้เราก็มือขวาถือแบงค์ 100 ก็ต้องเอานิ้ว 2 นิ้ว คีบเงินทอน แล้วเขาก็หยิบแบงค์ 100 จากมือเราไป.. / เสร็จสรรพ เราก็เดินส่ายหัวบ่นไป.. "อะไรวะ ทำอาชีพขายบริการ ..เงินจะเอา อยากได้..แต่ขี้เกียจทอนเงิน..จะเอาสะดวกสบาย.. / จุดที่จอดรถให้เราลง ..คือจุดหน้ารถมอเตอร์ไซค์คันแรกของแรก ใต้กันสาด รร.พอดีเลย / เราเดินไปได้หลายก้าว ถึงเนินถ้าปากซอยแล้ว.. รถเบอร์ 18 เขาใส่แว่นดำ พักอยู่บ้านใกล้ร้านค้า อาม่าท้ายซอย ศาลเจ้า.. /... เบรคถรถอย่างแรง.. จนเราต้องหันไปมอง.. เฮ้ยนี่กะจะชนกันเลยนี่นา..เพราะล้อตรง.. เบรคห่างจากหลังเราแค่ 1 เมตร.. จากจุดที่จอดรถมาถึงที่เราเดินถึงปากซอยแล้วเขาเบรค.. ก็หลายเมตรอยู่ ...เคยเห็นคนนี้ เขาด่าคนขับรถผู้หญิงมั๊ง (ถุ้จำไม่ผิด) เราเดิน เขารับคนตาบอดขึ้นรถ ช่วงสายแล้วล่ะ..เบอร์ 18 เขาด่าใหญ่เลย.. จอดรถขวาง ผู้หญิงก็ลดกระจกลง แล้วบอกเขาดีดี ว่า ก็เห็นใจหน่อย นี่รับคนตาบอดขึ้นรถ นะ เห็นหรือเปล่าคะ" แล้วก็เบิ้ล บรื๊น..ฉุนเฉียว.. แสดงว่าปกติเป็นคนใจร้อน.. นิสัยไม่ดี..
30กค.56 เมื่อวานเดินเข้าซอย เจอมอเตอร์ไซค์ ขับเร็ว ขาเข้าซอย เหยียบน้ำกระเด็นใส่ขาเต็มเลย
เมื่อวานเดินเข้าซอย เจอมอเตอร์ไซค์ ขับเร็ว ขาเข้าซอย เหยียบน้ำกระเด็นใส่ขาเต็มเลย / หยุดแวะทักทายอาโกวสักหน่อย เขาให้ขนมเรามากิน ..ก็ริมทางระบายน้ำนะ..ไม่ได้ออกซะกลางถนน. มีมอเตอร์ไซค์คันนึงขี่ขาออก ไม่เร็ว แต่ไอ้คันนี้มันเหยียบน้ำพรืด (หลังฝนตก มีหย่อมนึงตรงหน้าบ้านอาโกวพอดี) แม่งน้ำกระเด็นเปียกขาเลย..ชั่วสุด ๆ มึงจะรีบไปตายเรอะไง..
เจอไอ้หลานชายคนโต เดินหลังเหงื่อซกเลย..เดินผ่านใต้ทางด่วน ไปออกอนุสาวรีย์ ไม่เหมือนพ่อมัน ขี่มอเตอร์ไซค์ไปเรียนที่กล้วยน้ำไท
เจอไอ้หลานชายคนโต เดินหลังเหงื่อซกเลย..บอกไปสัมภาษณ์งาน รับแปลภาษาอังกฤษ เอกสาร..ที่สำนักงานทนายความ แถวลาดยาว..เดินผ่านใต้ทางด่วน ไปออกอนุสาวรีย์ ไม่เหมือนพ่อมัน ขี่มอเตอร์ไซค์ไปเรียนที่กล้วยน้ำไท / โรงเรียนช่างอุตสาหกรรมกรุงเทพ..แม่ซื้อให้คันนึง คาวาซากิ รถผู้ชาย..หลายหมื่นอยู่ ตอนนั้นอายุเท่าไหร่หระ...
วันจันทร์ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2556
"ทีรามิสุ"เอามีรามิสุมั๊ย ยาวหน่อย..เอาดิ... หนังสือชีสเค้กแสนอร่อย พิมพ์ครั้งที่ 2...250 บาท ไม่มีปัญญาซื้อว่ะ เดี๋ยวมาแก้ต่อ
เอามีรามิสุมั๊ย ยาวหน่อย..เอาดิ... หนังสือชีสเค้กแสนอร่อย พิมพ์ครั้งที่ 2...250 บาท ไม่มีปัญญาซื้อว่ะ / ชีสเค้กประเภทแช่เย็น พิมพ์สี่เหลี่ยมไม่มีฐาน 8.5x4.5x3 นิ้ว ฐานชีสเค้ก กาแฟสำเร็จรูป 3 ชต., น้ำร้อน 1 1/4ถ้วย, lady finger 16 แท่ง /// ทีรามิสุ ไข่แดงของไข่ไก่ (ฟองละ 65 กรัม) 3 ฟอง, น้ำตาลทราย 1/2ถ้วย+2ชต.,
เหล้ารัมดำ 1/4 ถ้วย, มัสคาร์โพเนชีส 250 กรัม, กลิ่นวานิลา 1 ชช., วิปปิงครีมชนิดกล่อง 1 1 /4 ถ้วย, เจลาตินแผ่น (4.5x2.5 นิ้ว) 2 แผ่น, ผงโกโก้หรับโรยหน้า*** วิธีทำ 1.เตรียมฐานทีรามิสุโดยใส่กาแฟสสำเร็จรูปลงไปอ่างผสม เทน้ำร้อนใส่ คนจนกาแฟละลายเข้ากัน วางน้ำกาแฟทิ้งไว้หรือนำเข้าแช่ในตู้เย็นให้หายร้อน 2.แช่แผ่นเจลาตินลงในอ่างน้ำเย็นที่ใส่น้ำแข็ง เตรียมไว้ 3.เตรียมพิมพ์พ์โดยหุ้มพลาสติกแร็ปด้านล่างพิมพ์ วางไว้บนกระดาษแข็งที่วางบนถาดอลูมิเนียมอีกที 4.ทำเนื้อครีมทีรามิสุ โดยใส่น้ำลงในหม้อประมาณ 1/4 ของหม้อ ยกขึ้นตั้งบนไฟกลางจนเดือด ลดเป็นไฟอ่อน ใส่ไข่แดง น้ำตาล และเหล้ารม ลงในอ่างแสแตนเลสหรือชามแก้วทนความร้อน ยกขึ้นวางบนหม้อน้ำเดือดอ่อน ๆ ใช้ตะกร้อตีจนไข่แดงข้นและสีอ่อนลง ยกอ่างลงจากหม้อ ตีต่อจนไข่แดงหายร้อน แล้วใส่มัสคาร์โพเนชีสลงไปครึ่งหนึ่ง ตีจนเริ่มเข้ากัน แล้วใส่ชีสที่เหลือและกลิ่นวานิลา ตีต่อแค่พอเข้ากันดี เทลงอ่างผสมในใหม่ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น พักไว้ (ถ้าอ่างเดิมมีขนาดใหญ่พออยู่แล้วก็ใช้อ่างใบเดิม) 5.นำวิปปิงคีรม 1/4 ถ้วยใส่หม้อ ยกขึ้นตั้งบนไฟอ่อน พอวิปปิงครีมร้อน แต่ไม่ถึงกับเดือด ปิดไฟ ใส่เจลาตินที่แช่น้ำจนนุ่ม บีบน้ำหมด แล้วลงไป คนด้วยช้อนจนเจลาตินละลายหมด พักไว้ให้หายร้อน 6.ระหว่างรอให้วิปปิงคีรมที่ใส่เจลาตินหายร้อน เตรียมฐานทีรามิสุ โดยจุ่ม lady finger 1 ชิ้นลงในน้ำกาแฟประมาณ 1 วินาที ยกขึ้นให้สะด็ดน้ำ วางเรียง lady finger 8 ชิ้นลงให้เต็มด้านล่างพิมพ์พักไว้--7.นำวิปปิงคีรมที่เหลือใส่อ่างผสมแล้ววางบนอ่างใส่น้ำแข็งอีกที ตีด้วยเครื่องตีไข่ไฟฟ้าจนเริ่มขึ้นฟูเป็นฟอง จึงเริ่มเทวิปปิงคีรมที่ละลายกับเจลาตินไว้ลงไป ตีต่อจนทั่งหมดข้นฟู ทดสอบโดยยกตะกร้อแล้ววาดเป็นลวดลายได้ 8.ตักวิปปิงครีมที่ตีครึ่งหนึ่งลงใส่ในส่วนผสมชีสข้อ 4 ใช้พายยางคนตะล่อมเบา ๆ ให้เข้ากัน แล้วจึงใส่วิปปิงครีมที่เหลือให้หมด ตะล่อมจนเนียนเป็นเนื้อเดีวกัน 9.ตักเนื้อครีมทีรามิสุที่ได้ ประมาณ 2-3 ส่วนของทั้งหมด ลงบน lady finger ที่เรียงไว้ เกลี่ยพอเรียบเท่ากัน เรียงด้วย lady finger ที่จุ่ม (หนังสือพิมพ์ชุ่ม) น้ำกาแฟอีกชั้นหนึ่ง ตักเนื้อครีมทีรามิสุที่เหลือราดทับ lady finger ชั้นบน นำเข้าแช่ในตู้เย็นช่องธรรมดา 1 คืน ก่อนถอดออกจากพิพม์ (หรือนำเข้าแช่ในตู้เย็นช่องแช่แข็งนาน 4 ชั่วโมง) 10.ถอดออกจากพิพม์โดยแกะพลาสติกแร็ปด้านข้างออก ใช้หัวพ่นไฟพ่น รอบ ๆ พิมพ์เพื่อให้เนื้อเค้กคลายตัว ค่อย ๆ ดึงพิมพ์ออกด้านบน ตัดเสิร์ฟเป็นชิ้นสี่เหลี่ยม พร้อมโดยผงโกโก้... Tips มัสคาร์โพเนชีสเป็นชีสที่ขั้นชื่องเขตลอมบาร์ดี lomdardy เนื้อชีสไม่แข็งเป็นก้อนแต่เหมือนวิปปิงครีมที่ตีจนขึ้นฟู มีขายที่supermarket ทั่วไป หลายยี่ห้อ หลายราคา ถ้าหาเลดี้ฟิงเกอร์ไม่ได้ ใช้เนื้อเค้กรสกาแฟแทนได้ ส่วนใหญ่นิยมใส่เหล้ามาร์ซาลา อะมาเรตโต้ วิสกี้ หรือไม่ก็เหล้ารัม marsala amaretto whisky rum ..เคล็ดลับ ก่อนใช้นำขีสออกมาพักนอกตู้เย็นจนใกล้เคียงอุณหภูมิห้อง หรือเย็นกว่าเล็กน้อย เวลาผสมชึสกับครีมไข่แดง ไม่ควรตีนานจนเกินไปเพราะชีสจะแยกตัว ..หากเนื้อครีมทีรามิสุเหลว เวลาใส่พิมพ์จะทำให้เลดี้ฟิงเกอร์เรียงไม่อยู่ระดับเดียวกัน ดังนั้น ก่อนใส่ลงพิมพ์ จึงควรทำให้เนื้อทีราสุข้นขึ้นก่อน (โดยวางอ่างเนื้อครีมทีรามิสุลงบนอ่างน้ำแข็ง ใช้พายยางคนเบา ๆ ไปเรื่อย ๆ จนเนื้อทีรามิสุข้นขึ้นแล้วจึงตักเนื้อครีมใส่พิมพ์
ปลาตะเพียนต้มเค็ม (หนังสือ ต้มยำ ต้มส้ม สนพ.แสงแดด พิมพ์ครั้งที่2)
ปลาตะเพียนต้มเค็ม (หนังสือ ต้มยำ ต้มส้ม สนพ.แสงแดด พิมพ์ครั้งที่2) 195 บาท /4 คน ส่วนผสม ปลาตะเพียน (ตัวละ 300-400 กรัม) 2 ตัว, พริกไทยขาวเม็ด9 เม็ด, กระเทียมไทยแกะเปลือก 7 กลีบ, รากผักชีหั่น 3 ราก, น้ำมันพืช 1/4 ถ้วย, น้ำตาลปี๊บ 1 ถ้วย, สับปะรดหั่นแว่นหนา 1 ซม. หรืออ้อย 4 ชิ้น, น้ำ 9 ถ้วย, เกลือสมุทร 3 ชต., น้ำมะขามเปียก 1/4 ถ้วย พริกชี้ฟ้าสีแดงหั่นเฉียงและใบผักชีสำหรับตกแต่ง*****วิธีทำ 1.ล้างปลาทั้งตัวไม่ต้องขอดเกล็ด /ผ่าท้อง ควักไส้ออก ล้างอีกครั้งให้สะอาด ใส่ตะแกรงพักไว้ให้สะเด็ดน้ำ 2.โขลกพริกไทยกับกระเทียม รากผักชี เข้าด้วยกันให้ละเอียด แล้วนำไปผัดกับน้ำมันในกระทะด้วยไฟกลาง จนมีกลิ่นหอม ตักใส่ถ้วย พักไว้ 3.เคี่ยวน้ำตาลในหม้อด้วยไฟอ่อนจนน้ำตาลไหม้เล็กน้อย วางสับปะรดหรืออ้อยรองก้นหม้อ เรียงตัวปลาใส่ ใส่น้ำ เกลือ น้ำมะขามเปียก และเครื่องที่ผัด ต้มด้วยไฟแรง พอเดือดลดเป็นไฟอ่อน เคี่ยวไปเรื่อย ๆ จนปลาเปื่อยนุ่มและหนังปลาฟูเป็นเงาสวย ปิไฟ 4.ตักใส่จาน ตกแต่งด้วยพริกชี้ฟ้าสีแดงหั่นเฉียงละใบผักชี เสิร์ฟ เคล็ดลับ ปลาตะเพียนต้มเค็ม ลักษณะที่ดีคือ เกล็ดขึ้นเป็นเงาสวย เนื้อปลานุ่มหวน ก้างเปื่อยยุ่ย เลือกใช้ปลาตะเพียนตัวขนาดกลาง 300-400 กรัมต่อตัว ส่วนน้ำตาลปี๊บใช้น้ำตาลโตนดได้ยิ่งดี หรืออน้ำตาลมะพร้าวแท้ กลิ่นหอม เนื้อเนียนละเอียด
พัดลม Accord เหลือเดน ลมอ่อน ตอนนี้หอนทุกคืน ..นอนดึกหน่อยก็หลับไม่ได้ยิน จะใช้จนกว่ามันจะระเบิด ไหม้
พัดลม Accord เหลือเดน ลมอ่อน ตอนนี้หอนทุกคืน ..นอนดึกหน่อยก็หลับไม่ได้ยิน จะใช้จนกว่ามันจะระเบิด ไหม้ / คงไม่หิ้วไปให้คุณแม่วิภา จงมีความสุข ซ่อมตอนนี้หรอก เพราะต้องเสียเวลา เสียค่ารถ ไปกลับเกือบ 30 บาท.. เสี่ยงชีวิตให้รถชนรถเฉี่ยวอีก.. รอให้พัดลมมันไหม้ก่อน ..แล้วค่อยเอาไปให้ซ่อม ..ตอนขอทานเงิน 2,000 วันที่ 10 ดิวรอบรอบต่อไป.. ก็ทนฟังไป ฟังทุกวันทุกวัน ก็เพราะดีเหมือนกัน..เอี๊ยด ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
วันศุกร์ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2556
เดิน เดิน เดิน..เชื่อเถอะ ว่าอาหลาน วูดดี ดีโน่ นังปู ..ต้องเดินเข้าออกซอยทุกวัน
เดิน เดิน เดิน..เชื่อเถอะ ว่าอาหลาน วูดดี ดีโน่ นังปู ..ต้องเดินเข้าออกซอยทุกวัน / หลายวันก่อน เจอ 2 พี่น้องเดินออกจากซอย ..ไปหาซื้ออะไรกินกัน 2 คนพี่น้อง.. ชีวิต ที่ไม่มีพ่อ ไม่มีแม่..ก็อย่างนี้แหละ.พวกมึงจะเอาอะไรกับพวกมันกันนักกันหนา...
27กค.56 ซื้อข้าวเปล่า 2 ถ้วย โกวแถมขนมให้ 2 อัน ขนมเปี๊ยะ ใจดีจริง ๆ เลย..เลื่อนเรียนภาษาญี่ปุ่น
27กค.56 ซื้อข้าวเปล่า 2 ถ้วย โกวแถมขนมให้ 2 อัน ขนมเปี๊ยะ ใจดีจริง ๆ เลย..เลื่อนเรียนภาษาญี่ปุ่น เป็นพรุ่งนี้ เพราะ จนท.ไปสัมมนา..ลงสำรองไว้ ..ไม่รู้ว่าจะได้เรียนหรือเปล่า.. ขนาดเรียนฟรีนะเนี่ย.. "มึงจะเรียนอะไรกันนักกันหนา" หลิน พิมพา สุพรรณโกมุท จบปริญญาโท.. เรียนทำไมนะ..พาอาอึ้มไปเที่ยวให้ออกนอก "กะลา" เสียบ้างสิ..ว่าโลกนี้เขาไปกันถึงไหนแล้ว... อย่าบอกนะว่าหลิน ไม่เรียนภาษาจีน ภาษาญี่ปุ่น..เรียนซะเถอะ..เพราะหลิน พิมพา สุพรรณโกมุท คงไม่กล้า ไม่หน้าด้านกลับไปเอาเงินซาโกว อีก.. "เรื่องของมึง ไม่ใช่เรื่องของกู" แต่เธอเรียนปริญญาโท.. ไม่ใช่เรื่องของใคร แต่เป็นเรื่องของอาอึ้ม วิภา จงมีความสุข ที่ต้องคืนสมบัติมรดกส่วนของพ่อเธอ ให้ลูกอย่างหลิน พิมพา สุพรรณโกมุท นังปู สุวรรณา สุพรรณโกมุท ช่วยพ่อแม่ขายของ ทำงานตั้งแต่เด็ก ตื่นไปตลาดตี 3 เกือบทุกวัน ทำงานถึง 3-4 ทุ่มเกือบทุกวัน..กลับไม่มีใครชดใช้คืนอะไรให้ส่วนที่เป็นของนังปู เฮ้อ..ชีวิต...มีได้แต่ของเหลือเดน..เน่า ผุ จวนพัง. พวกเทวดา นางฟ้า ได้ซะจน..ไม่รู้คนละกี่แสน กี่ล้าน.. กูต้องเดิน
น้ำจิ้ม อาหารญวน
**** น้ำจิ้มสูตร 1* ส่วนผสม น้ำตาลทราย 1 ถ้วย, น้ำส้มสายชู 1 ถ้วย,เกลือ 2 ชช., น้ำเปล่า 1/2 ถ้วย, น้ำปลา 1 ชต., น้ำมะนาว 4 ชต., กระเทียมสับละเอียด 1/4 ถ้วย, หัวไชเท้าขูดฝอย 1/2 ถ้วย, พริกดอง 2 ชต., ถัวลิสงคั่วป่น 2-3 ชต., วิธีทำผสมน้ำตาลทราย น้ำส้มสายชู เกลือ น้ำ เข้าด้วยกัน ตั้งไฟอ่อน เคี่ยวจนเหนียวเป็นยางมะตูม 2.เติมน้ำปลา น้ำมะนาว กระเทียม หัวไชเท้าลงไปคนให้เข้ากัน จะได้น้ำจิ้มประมาณ 2 1/2 ถ้วย ...วิธีเสิร์ฟ ตักน้ำจิ้มใส่ถ้วย ตามด้วยพริกดอง คนให้เข้ากัน แล้วโรยถั่วลิสง//***น้ำจิ้มสูตร 2 ส่วนผสม กระเทียมดองสับละเอียด 1/4 ถ้วย, พริกขี้หนูแดงสับหยาบ 1 ชต., ซีอิ๊วขาว 1/2 ถ้วย... วิธีทำ ผสมกระเทียมดอง พริกขี้หนู ซีอิ๊วขาวเข้าด้วยกัน จะได้น้ำจิ้มประมาณ 3/4 ถ้วย ///******น้ำจิ้มสูตร 3 ส่วนผสม พริกขี้หนูแดงบดละเอียด 1-2 ชต., กระเทียมดองสับละเอียด 1/4 ถ้วย, น้ำปลา 3 ชต., น้ำมะนาว 1/4 ถ้วย, น้ำตาลทราย 1/4 ถ้วย วิธีทำ ผสมน้ำปลา น้ำมะนาว น้ำตาลทราย เข้าด้วยกัน คนจนน้ำตาลละลาย ใส่พริกขี้หนูและกระเทียมดองลงไป คนให้เข้ากันอีกครั้ง จะได้น้ำจิ้มประมาณ 1 ถ้วย///****
น้ำจิ้มสูตร 4 ..ส่วนผสม น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย, น้ำส้มสายชู 1 ถ้วย, เกลือ 1 1/2 ชต., พริกชี้ฟ้าแดงบดละเอียด 1-2 ชต. แครอทขูดฝอย 1/4 ถ้วย, วิธีทำ ผสมน้ำตาลทราย น้ำส้มสายชู เกลือ พริกชี้ฟ้าแดงเข้าด้วยกัน แล้วตั้งไฟเคี่ยวจนเหนียวเป็นยางมะตูม ยกลง พักให้เย็น จะได้น้ำจิ้มประมาณ 1 1/2 ถ้วย //***วิธีเสิร์ฟ.. ตักน้ำจิ้มใส่ถ้วย โรยแครอทขูด
***** น้ำจิ้มสูตร 5 ..ส่วนผสม น้ำตาลทราย 2 ถ้วย, น้ำส้มสายชู 1 ถ้วย, พริกชี้ฟ้าแดงบดละเอียด 2 ชต., หัวไชเท้าขูดฝอย 1/2 ถ้วย, แครอทขูดอฝอย 1/2 ถ้วย , เกลือ 1 ชต. /// วิธีทำ 1.ขยำหัวไชเท้าและแครอทกับเกลือ คั้นน้ำทิ้งไป แล้วพักไว้ 2.ผสมน้ำตาลทรายและน้ำส้มสายชูเข้าด้วยกัน ตั้งไฟอ่อนให้เหนียว ใส่พริกขี้ฟ้าลงไปคนให้เข้ากัน จะได้น้ำจิ้มประมาณ 3 ถ้ย วิธีเสิร์ฟ ตักน้ำจิ้มลงในถ้วย ใส่หัวไชเท้ากับแครอทที่คั้นเกลือไว้ลงป ผสมให้เข้ากัน ***** ////
น้ำจิ้มสูตร 6 ส่วนผสม น้ำตาลทราย 1 ถ้วย, น้ำเปล่า 1 1/4 ถ้วย, น้ำมะขามเปียก 1/2 ถ้วย, น้ำปลา 4 ชต., พริกขี้หนูแดงบดละเอียด 1 ชต., กระเทียมดองสับละเอียด 3 ชต. , ถั่วลิสงคั่วป่น 1/4 ถ้วย วิธีทำ 1. ผสมน้ำตาลทรายและน้ำเข้าด้วยกัน ตั้งไฟเคี่ยวจนเหนียวเป็นยางมะตูม 2.ใส่น้ำมะขามเปียก น้ำปลา และพริกขี้หนูลงไปคนให้เข้ากัน จะได้น้ำจิ้มประมาณ 2 1/2 ถ้วย...วิธเสิร์ฟ ตักน้ำจิ้มส่ถ้วย โรยด้วยกระเทียมและถั่วลิสงปั่นหยาบ***///
น้ำจิ้มสูตร 7 ส่วนผสม น้ำกระเทียมดอง 1 ถ้วย, น้ำตาลทราย 2 ชช., เกลือ 1 ชช., น้ำมะนาว 1/2 ถ้วย, กระเทียมสับละเอียด 1/4 ถ้วย, พริกขี้หนูแดงบุบพออแตก 1-2 ชต. วิธีทำ ผสมน้ำกระเทียมดอง น้ำตาลทรายและเกลือเข้าด้วยกัน ยกขึ้นตั้งไฟ คนให้ส่วนผสมเดือด ยกลงจากเตา เติมน้ำมะนาว กระเทียม และพริกขี้หนู คนให้เข้ากัน จะได้น้ำจิ้มปะมาณ 1 1 /2 ถ้วย /// *****
น้ำจิ้มสูตร 8 ส่วนผสม กระเทียมดองสับละเอียด 1/2 ถ้วย, พริกชี้ฟ้าแดงบดละเอียด 2 ชต., น้ำส้มสายชู 1 ถ้วย, น้ำตาลทราย 1 1/4 ถ้วย, เกลือ 2 ชต., น้ำเปล่า 1/4 ถ้วย
วิธีทำ ผสมน้ำส้มสายชู น้ำตาลทราย เกลือ และน้ำเข้าด้วยกัน ตั้งไฟเคี่ยวจนเหนียวเป็นยางมะตูม ใส่พริกชี้ฟ้าและกระเทียมดองลงไป คนให้เข้ากัน จะได้น้ำจิ้มประมาณ 2 ถ้วย ///****
น้ำจิ้มสูตร 9 ส่วนผสม น้ำมะขามเปียก 1 ถ้วย, น้ำตาลทราย 1 1 /4 ถ้วย, เกลือ 2 ชช., น้ำเปล่า 1/2 ถ้วย, พริกดอง 2 ชต., วิธีทำ ผสมน้ำมะขามเปียก น้ำตาลทราย เกลือ น้ำและพริกดองเข้าด้วยกัน ตั้งไฟเคี่ยวให้เหนียว จะได้น้ำจิ้มประมาณ 2 1/2 ถ้วย ///****
น้ำจิ้มสูตร 10 ส่วนผสม พริกขี้หนูแดงสับหยาบ 3-5 เม็ด, กระเทียมสับละเอียด 5 กลีบ, น้ำปลา 1 ชต., น้ำตาลทราย 2 ชต., น้ำมะนาว 1 ชต., วิธีทำ 1. ผสมน้ำปลากับน้ำตาลทรายเข้าด้วยกัน แล้วตั้งไฟเคี่ยวจนข้นเหนียว พักให้เย็น 2.เติมน้ำมะนาวลงไปคนให้เข้ากัน ตามด้วยพริกขี้หนูกับกระเทียม ผสมให้เข้ากันอีกครั้ง จะได้น้ำจิ้มประมาณ 1/4 ถ้วย/// ****
พริกดอง ส่วนผสม พริกชี้ฟ้าเหลืองบดละเอียด 1 ถ้วย, น้ำส้มสายชู 2 ถ้วย, เกลือ 2 ชช., วิธีทำ ผสมพริกชี้ฟ้า น้ำส้มสายชู และเกลือเข้าด้วยกัน จะได้พริกดองประมาณ
2 1/2 ถ้วย จากนั้น บรรจุลงไนภาชนะที่มีฝาปิดสนิท เก็บในตู้เย็นได้นานหลายวัน เพื่อใช้เป็นส่วนผสมของจิ้มต่าง ๆ (เขาพิมพ์พริกชี้ฟ้าแดง แต่ในภาพเป็นพริกดองสีเหลือง)
ปากหม้อญวน
ปากหม้อญวน ส่วนผสมไส้ปากหม้อ เนื้อหมูสับ 200 กรัม, เห็ดหอมแห้งแช่น้ำหั่นสี่เหลี่ยมเล็ก 10 ดอก, ต้นหอมซอย 3-4 ต้น, น้ำปลา 1 ชต., ซีอิ๊วชาว 1 ชต., น้ำมันหอย 1 ชต., น้ำตาลทราย 2 ชต. เกลือ 1/4 ชช., พริกไทยป่น 1/2 ชช., กระเทียมสับละเอียด 1 ชต., น้ำมันพืช 2 ชต. น้ำจิ้มสูตร 4 วิธีทำ 1.เจียวกระเทียมกับน้ำมันจนมีกลิ่นหอม ใส่หมูสับลงไปผัดจนสุก 2.ปรุงรสด้วยน้ำปลา ซีอิ๊วขาว น้ำมันหอย น้ำตาลทราย เกลือ และพริกไทย 3.ใส่เห็ดหอมและต้นหอมลงผัด คลุกเคล้าให้เข้ากัน ตักใส่ถ้วยพักไว้ /// ส่วนผนสมตัวแป้ง แป้งข้าวเจ้า 1 1/4 ถ้วย, แป้งมัน 1/4 ถ้วย, แป้งเท้ายายม่อม 6 ชต., น้ำเปล่า 3/4ถ้วย, เกลือ 1/4 ชช., ผักสดต่าง ๆ เช่น ผักกาดหอม ใบสะระแหน่ ใบโหระพา วิธีทำ ผสมแป้งข้าวเจ้า แป้งมัน และแป้งเท้ายายม่อม เข้าด้วยกัน ค่อย ๆ ใส่น้ำลงไปทีละน้อย ใช้มือนวดจนแป้งไม่เกาะตัวเป็นเม็ด แล้วใส่น้ำที่เหลือ ตามด้วยเกลือ ลงไปคนให้เข้ากัน พักไว้...วิธีทำปากหม้อญวน 1.เตรียมหม้อสำหรับทำปากหม้อ โดยตัดผ้าโทเรสีขาว ให้กว้างกว่าปากหม้อ 3 เท่า แช่น้ำทิ้งไว้ 1 คืน แล้วซักให้สะอาด 2.ขึงผ้ากับปากหม้อโดยซ้อนทับกัน 2 ชั้น ผูกเชือกให้แน่น เจาะตรงมุมด้านใดด้านหนึ่งให้มีช่องสำหรับไอน้ำพุ่งออกมา แล้วเติมน้ำลงไปครึ่งหม้อ ยกขึ้นตั้งไฟจนน้ำเดือด 3.ตักแป้งที่เตรียมไว้ละเลงบนปากหม้อในเป็นแผ่นกลมบาง ๆ ปิดฝาประมาณ 2 นาที ใส่ไส้ที่เตรียมไว้ลงตรงริมแป้งด้านใดด้านหนึ่ง ประมาณ 1 ชต. ใช้พายยาง จุ่มน้ำแล้วม้วนแป้งเข้าหากัน หรือพับเป็นสี่เหลี่ยม จัดใส่จาน เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มสูตร 4
แหนมเนือง
แหนมเนือง ส่วนผสมหมูปิ้ง หมูสันนอกบดละเอียด 500 กรัม, รากผักชีหั่นหยาบ ๆ 1-2 ราก, พริกไทยเม็ด 10-15 เม็ด , ซีอิ๊วขาว 2-3 ชช., เกลือ 1 ชช., แป้งข้าวโพด 1 1/2 ชต. วิธีทำ 1.โขลกรากผักชีกับพริกไทยจนละเอียด ใส่เนื้อหมู ซีอิ๊วขาว เกลือ และแป้งข้าวโพดลงไปคลุกเค้าให้เข้ากัน แล้วนวดจนส่วนผสมเหนียว 2.ปั้นส่วนผสมในข้อแรกเป็นก้อนกลม นึ่งในลังถึงจนสุก เสียบไม้แล้วย่างด้วยไฟอ่อนให้ผิวด้านนอกมีสีเหลือง//// ส่วนผสมน้ำจิ้ม น้ำซุปกระดูกหมูหรือน้ำซุปกระดูกไก่ 1 ถ้วย, มันฝรั่งต้มสุกบดละเอียด 50 ถ้วย(น่าจะกรัมนะ), ตับหมูต้มสุกบดละเอียด 20 กรัม, น้ำตาลปี๊บ 1/2 ถ้วย, น้ำมะขามเปียก 1/2 ถ้วย, เต้าเจี้ยวบด 1 ชต., ถั่วลิสงคั่วป่น 1/4 ถ้วย, พริกขี้หนูแดงบดละเอียดตามชอบ วิธีทำ ผสมน้ำซุป มันฝรั่ง ตับหมู น้ำตาลปี๊บ มะขามเปียก และเต้าเจี้ยวเข้าด้วยกัน แล้วตั้งไฟจนเดือด ยกลงพักไว้ให้เย็น ตักน้ำจิ้มใส่ถ้วย เติมพริกขี้หนูแดงบด (ถ้าชอบรสเผ็ด) คนให้เข้ากัน โรยถั่วลิสงคั่วป่น //// ส่วนผสม แหมเหนือง หมูปิ้ง 4-5 ไม้, แผ่นแป้งเวียดนามตัดเป็นชิ้นสามเหลี่ยม 200 กรัม, กล้วยน้ำว้าดิบปอกเปลือกหั่นชิ้นสี่เหลี่ยมเล็ก 2 ลูก, มะเฟืองหั่นสี่เหยี่ยมเล็ก 1ผล, แตงกวาหั่นสี่เหลี่ยมเล็ก 2-3 ลูก, กระเทียมกลีบใหญ่หั่นสี่เหลี่ยมเล็ก 7-8 กลีบ, น้ำจิ้ม (ปริมาณตามชอบ) ผักสดต่างๆ เช่น ผักกาดหอม ใบโหระพา ผักชีฝรั่ง ใบสะระแหน่ ผักแพว วิธีเสิร์ฟ 1.จัดเครื่องเคียงทั้งหมดใส่จาน (แยกชนิดกัน) พักไว้ 2.เวลารับปทาน พรมน้ำลงบนแผ่นแป้งเวียดนามพอหมาด แล้ววางลงบนใบผักกาดหอม ใส่หมูปิ้ง ใบสะระแหน่ ผักแพว ใบโหระพา ผักชีฝรั่ง กล้วยดิบ มะเฟือง แตงกวา และกระเทียมลงไป ตักน้ำจิ้มราด รับประทานได้ทันที
เมื่อคืน พัดลมลมอ่อนมาก เบอร์ 3 ไม่ได้ยินเสียงลมเลย..ตกดึกข่าว3กิตติ.. พัดลมหอน เอี๊ยด ๆ ๆ ๆ
เมื่อคืน พัดลมลมอ่อนมาก เบอร์ 3 ไม่ได้ยินเสียงลมเลย..ตกดึกข่าว3กิตติ.. พัดลมหอน เอี๊ยด ๆ ๆ ๆ (26กค.56)..เป็นชั่วโมง จึงเงียบ หรือเราหลับไม่รู้เรื่อง ยังไม่ช๊อต ยังไม่ไหม้..ยังไม่ตาย
จุ่มจิ้มญวน "vietnamese Fusion food" Health&cuisine
ส่วนผสมน้ำจิ้ม สับปะรดหั่นชิ้นเล็ก 300 กรัม, ตะไคร้ซอย 2-3 ต้น, หอมเล็กหั่นหยาบ 4 หัว, พริกชี้ฟ้าแดงแกะเมล็ด 5 เม็ด, กะปิ1 ชต., น้ำตาลทราย 2 ชต., น้ำปลา 1 ชต. วิธีทำ ผสมทุกอย่างรวมกัน ปั่นให้ละเอียด แล้วเทใส่หม้อ ตั้งไฟอ่อนประมาณ 10 นาที ยกลงพักให้เย็น จะได้น้ำจิ้มประมาณ 1 1/2 ถ้วย *****ส่วนผสมน้ำซุป น้ำมะพร้าวอ่อน 3 ถ้วย, หอมหัวใหญ่หั่นสี่เหลี่ยม 1 หัว, ตะไคร้หั่นท่อน 2-3 ต้น,ใบโหระพา 10-15 ใบ, น้ำตาลทรายแดง 2-3 ชช., น้ำปลา 2 ชช., น้ำมะนาว 2 ชช., วิธีทำน้ำซุป ต้มน้ำมะพร้าวด้วยไฟอ่อนจนเดือด ใส่หอมหัวใหญ่ ตะไคร้ ใบโหระพาลงไป ปรุงรสด้วยน้ำตาลทรายแดง และน้ำปลา ยกลง เติมน้ำมะนาวแล้วคนให้เข้ากัน ****ส่วนผสมจุ่มจิ้มญวน ปลาหมึกหั่นชิ้นพอคำ 200 กรัม, กุ้งสดขนาดกลาง แกะเปลือกผ่าหลัง 200 กรัม, เนื้อปลากะพง หั่นชิ้นพอคำ 200 กรัม, วุ้นเส้นแช่จนนิ่มตัดเส้น (ยาสวประมาณ 4 นิ้ว) 200 กรัม, น้ำซุป 2-3 ถ้วย, น้ำจิ้ม 1 1/2 ถ้วย, ผักสดต่าง ๆ เช่น ผักกาดขาว ใบโหระพา ผักชีฝรั่ง ****วิธีทำรับประทาน 1.เทน้ำซุปใส่หม้อดิน ตั้งไฟกลางจนเดือด 2.ลวกปลาหมึก กุ้ง เนื้อปลา ใน้น้ำซุปที่เตรียมไว้จนสุก 3.ใส่วุ้นเส้นและผักต่าง ๆ ลงไปต้มจสุก ตักใส่ถ้วย เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้ม **** Tips ถ้าไมมีน้ำมะพร้าว ใน้น้ำเปล่าแทนได้ ถ้าไม่มีหม้อดิน ใช้หม้ออลูมิเนียม หรือกระทะไฟฟ้าแทนได้ตามสะดวก***1.ปั่นส่วนผมของน้ำจิ้มเข้าด้วกัน 2.เคี่ยวน้ำจิ้มด้วยไฟอ่อนประมาณ 10 นาที 3.ใส่หอมหัวใหญ่ ตะไคร้ ใบโหระพาลงในน้ำมะพร้าวที่ต้มไว้ 4.ปรุงรสด้วยน้ำตาลทราย น้ำปลา ยกลง เติมน้ำมะนาว 2-3 ที่)
วันพฤหัสบดีที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2556
ซุปถั่วแดง "เมนูอาหารสุขภาพ 30 วัน" Health&Cuisine พิมพ์ครั้งที่ 2
ซุปถั่วแดง "เมนูอาหารสุขภาพ 30 วัน" Health&Cuisine พิมพ์ครั้งที่ 2***ซุปถั่วแดง / ถั่วแดงหลวงต้มสุก 1 1/2 ถ้วย, หอมหัวใหญ่สับ 1/4 ถ้วย, ก้านคื่นช่ายฝรั่งสับ (เซเลอรี) 2 ชต., ใบกระวาน 3 ใบ, เนยสดจากเมล็ดทานตะวัน 2 ชต. (จะไปหาที่ไหนเนี่ย), นมสดพร่องมันเนย 4 ชต., ครีมเทียมชนิดน้ำ 4 ชต., น้ำซุปผัก 4 ถ้วย (หน้า25), เกลือ 1 ชช., น้ำตาลทรายไม่ฟอกสี 2 ชช., พริกไทยป่น 1/2 ชช., แป้งข้าวโพด 1 ชต.*******ใช้ก้านคื่นฉ่ายไทนแทนเซเลอรี ได้ในปริมาณที่เท่ากัน.. ****วิธีทำ 1.ละลายแป้งข้าวโพดกับนมสดและครีมเทียมเข้าด้วยกัน พักไว้ /2.ผัดหอมหัวใหญ่ ก้านคื่นฉ่ายฝรั่ง และใบกระวานกับเนยจนหอม / 3.ใส่ถั่วแดงลงในน้ำซุป เคี่ยวด้วยไฟอ่อน จนเปื่อยนุ่ม พักให้เย็น ปั่นจนละเอียด แล้วกรองผ่านกระชอน / 4.นำส่วนผสมที่กรองได้ตั้งไฟอ่อน เติมส่วนผสมในข้อแรกลงไป คนพอเข้ากัน ปรุงรสด้วยเกลือ น้ำตาลทราย และพริกไทย (3-4 ที่)
26กค.56 มีให้แค่วันที่ 10,20,30แค่นั้นนะ..มึงจะทำอะไรไม่เกี่ยวกับกู...
26กค.56 มีให้แค่วันที่ 10,20,30แค่นั้นนะ..มึงจะทำอะไรไม่เกี่ยวกับกู... / เรื่องของมึง จะเรียนอะไรก็ไม่เกี่ยวกับกู ให้มึงแค่วันที่ 10,20,30 พรุ่งนี้มีเรียนภาษาญี่ปุ่น..เรื่องของมึง คนอื่นเขาไม่ต้องเรียนยังทำงานได้ มึงจะเรียนอะไรเรื่องของมึง คนอื่นเขาไม่ต้องเรียนสูงก็มีกิน.. / จริง ๆ ยังเหลืออีก 100 บาท พอกินสำหรับวันนี้ 26กค. แต่เมื่อคืนพัดลม เจ้ากรรมนายเวร..มันดังครอกแครก ทั้งคืน จนดับ เอ๊ะร้อนตื่นขึ้นมา แสดงว่า มันตัดไฟเอง..เปิดเบอร์ 3 ต่อ ..ก็ฟังเสียงกันไปจนหลับต่อถึงเกือบตี 4 เดี๋ยวก็ตี 5 แล้ว รีบขนพัดลม (ไม่ใส่ตะแกรงหน้า) ไปดีกว่า แก่แล้ว เดินเซอะซะ เดี๋ยวจะถูกรถแถวสีลม ซอยพิพัฒน์เฉี่ยวชนเอา..ทำงานก็ฟรีแล้ว จะมาตายฟรีอีกทำไมนะ.. / "เอาพัดลมมาฝากซ่อมด้วย (รอคุณแม่ have breakfast ก่อน) เปิดประตูเหล็ก ไมต้องถาม..หยิบเงิน 2,000 มึงใช้อะไรก็พัง เอาไปไว้ในห้อง ไม่ต้องมาไว้ตรงนี้.. ที่บ้านมีพัดลมใช้หรือเปล่า อยู่ในห้องขายของ เอาไม่ได้.. งั้นเอาตัวเล็กอยู่บนเตียงในห้องไป.. ได้ยี่ห้อ Accord สีเขียว จางอ่อน..น..น.. มีพันสายไฟด้วยเทปสีดำ นิดนึง.. "เค้าซ่อมแล้ว มึงเอาไปใช้" ในห้องมี "ฮาตาริ ตัวใหญ่" กับพัดลมใหญ่ติดผนัง ...ให้เอาตัวเล็กบนเตียงไป เค้าซ๋อมแล้ว ใช้ได้.. "ล็อคคอได้หรือเปล่า" / "ไม่รู้" / แล้วอันนี้มีช่างซ่อมหรือเปล่า ตอนนี้ไม่มี ต้องรอช่างมาซ่อมวันเสาร์ อาทิตย์ / งั้นหลิน พิมพา สุพรรณโกมุท อย่าเรียนนะ ภาษาจีนกับภาษาญี่ปุ่นน่ะ..ถ้าเป็นเช่นนั้น ทำไมจบปริญญาตรี ถึงไม่ทำงานล่ะ..เรียนต่อปริญญาโท ใช้เงินอาอึ้มวิภา จงมีความุข ทำไม..ทำไมไม่หาเงินเรียนเอง.. คุณวิกรม กรมดิษฐ์ เขายังให้น้อง ๆ หลาน ๆ กู้เงินมาเรียนเอง ใช้หนี้เอง.. / ส่วนฉันนังปู สุวรรณา สุพรรณโกมุท คนอื่นไม่ให้จดหมายบิลค่าใช้เบอร์ทรูมูฟ ทำให้นังปูเป็นหนี้ ..ให้ใช้เดือนละ 4,000 ให้รับผิดใช้หนี้เอง..เวรกรรม ฟ้ามีตาม เวรกรรมมีจริง...
จากข่าวคราวต่าง ๆ ..ถือเป็นเรื่องใหญ่ เรื่องเป็น เรื่องตาย.. เรื่องของเรามันเล็กติ๊ดเดียว...
จากข่าวคราวต่าง ๆ ..ถือเป็นเรื่องใหญ่ เรื่องเป็น เรื่องตาย.. เรื่องของเรามันเล็กติ๊ดเดียว... / หลิน พิมพา สุพรรณโกมุท ทำไมเรื่องของเธอ (ที่เธอบอกทุกคน) ซาโกวตบเธอจนหน้าเขียว..ถึงได้กลายเป็นเรื่องที่ใหญ่มาก ๆ ถึงขนาดต้องช่วยออกมา เหมือนหนีออกจากซ่องนรก ประมาณนั้น.. เธอดูชีวิตคนอื่นบนโลกนี้สิ ทั้งโสเภณี คนติดยาเสพติด ฆ่ากันตายที่ภาคใต้..อุบัติเหตุ ไฟไหม้รถทัวร์..พวกเขาต้องทุกข์ทนมากกว่าเธอ..ไม่มีใครช่วยได้เลย.. แต่เธอ ทำบุญ หรือกินอะไร..ไม่ต้องทำอะไรลำบากยากเข็ญ..กลับสบาย ได้ดี ไม่ต้องได้ดิบ..
พัดลมพิการมาหลายวันแล้ว ต้องถอดหน้ากากออก ได้ลมมากขึ้นอีกหน่อย เปิดปุ๊ป ไม่หมุนปั๊บ
พัดลมพิการมาหลายวันแล้ว ต้องถอดหน้ากากออก ได้ลมมากขึ้นอีกหน่อย เปิดปุ๊ป ไม่หมุนปั๊บ / ต้องเอามือปั่นใบพัด หลายรอบ รอบแรก ปั่นแล้วหยุด มีเสียงไฟฟ้ามอเตอร์เดิน..แต่ใบพัดไม่เดิน พอปั่นแรง ๆ หลายรอบ..ก็หมุน แต่ต้องแถมเสียงหอนก่อน..ครอก แครก ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ จนกว่ามันจะพอใจ..จะหิ้วไปให้คุณแม่หาช่างซ่อมให้คงไม่ไหวแล้วมั๊ง.. เดี๋ยวเจอ "ไม่มีช่างซ่อม" ต้องขนกลับมาเองอีก ขี้นรถเมล์ พัดลมไม่ใช่แค่ขีดสองขีด..หนักเป็น 2 โลกอยู่น๊า.. ส่วนตัวเล็ก Emaflex ก็อยู่ในห้องขายขาย เปิดไม่ได้..อีกตัว Acord หมุนส่าย ล็อคคอไม่ได้.. ร้อนตายห่ะ.. ทนใช้ไป..ถ้าไฟไม่ช๊อต เผาบ้าน เผาเราตายเสียก่อน..ก็ใช้ไปเถอะ..คนอื่นเขานอนห้องแอร์กัน..
ภาษาจีนรู้ไว้ได้เปรียบ มองโลกแบบวิกรม.น้องหลิน พิมพา สุพรรณโกมุท วันนี้พูดภาษาจีน กับภาษาญี่ปุ่นได้หรือยังคะ?
ภาษาจีนรู้ไว้ได้เปรียบ มองโลกแบบวิกรม.น้องหลิน พิมพา สุพรรณโกมุท วันนี้พูดภาษาจีน กับภาษาญี่ปุ่นได้หรือยังคะ? / เพราะภาษาอังกฤษ คงพูดได้ปร๋อแล้ว.. ซาโกวส่งเรียน AUA จบ level 12 ได้ใบประกาศเรียบร้อยแล้วนี่..ถ้ายังไม่เก่งภาษาจีน ภาษาญี่ปุ่น ก็ขอเงินอาอึ้ม วิภา จงมีความสุข ไปเรียนไ้ด้นะ..ส่วนนังปู สุวรรณา สุพรรณโกมุท ไปเรียนฟรี ๆ ไม่เสียค่าเรียน ยังเจอ "มึงจะเรียนอะไรกันนักกันหนา"..เฮ้อ.. คนทำไม่ได้ คนได้ไม่ต้องทำ...เวรกรรม ฟ้ามีตา เวรกรรมมีจริง..(หรือเปล่าน๊อ?) http://www.panoramaworldwide.com/thai/tvprogramme/vikrom/1221.html
เซ็ง วันนี้ไม่มีเรื่องกับใครเลย..ใครก็ได้ ช่วยมามีเรื่องกันหน้่อยดิ๊
เซ็ง วันนี้ไม่มีเรื่องกับใครเลย..ใครก็ได้ ช่วยมามีเรื่องกันหน้่อยดิ๊
วันพุธที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2556
"แกงจืดเงาะยัดไส้" จาก คู่มือทำกับข้าวไทย แกงจืดและแดงเผ็ด สนพ.แสงแดด
"แกงจืดเงาะยัดไส้" จาก คู่มือทำกับข้าวไทย แกงจืดและแดงเผ็ด สนพ.แสงแดด / เครื่องปรุง เนื้อเงาะคว้านเมล็ด 35 ผล, น้ำซุปหมู 5 ถ้วย, ซีอิ๊วขาว 2 ชต., น้ำปลา 1 1/2 ชช., ต้นหอมซอย 1 ชต., ผักชีซอย 1 ชต. เกลือสมุทรเล็กน้อย ...หมูสับปรุงรส พริกไทยขาวเม็ด 1 ชช., รากผักชีหั่น 1 ชต., กระเทียมไทยแกะเปลือก 9 กลีบ, เนื้อหมูสับ 1 ถ้วย, ซีอิ๊วขาว 1 ชต., น้ำปลา 1 ชช.///// วิธีทำ 1.ทำหมูสับปรุงรสโดยโขลกพริกไทย รากผักชี และกระเทียม เข้าด้วยกันให้ละเอียด ตักใส่ถ้วย ใส่เนื้อหมูสับ ซีอิ๊วขาว น้ำปลา เคล้าให้เข้ากันทั่ว พักไว้นานประมาณ 10-15 นาที จากนั้น ยัดใส่เงาะจนเต็ม ใส่จาน พักไว้ / 2. ต้มน้ำซุปหมูในหม้อ ด้วยไฟกลางให้เดือด ใส่เงาะยัดไส้ลงต้มพอสุก ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว น้ำปลา และเกลือ ชิมรสให้กลมกล่อม ปิดไฟ /3.ตักใส่ถ้วย โรยต้นหอม ผักชี เสิร์ฟร้อน ๆ...ถ้าหากเงาะไม่ได้ ก็หาผลไม้รสใกล้เคียงกับเงาะ หาเอาแถวนนั้นนะเว้ยเฮ้ย..
"เค้กกล้วยหอมหน้ามะพร้าวขูด" จาก Quick & Easy CAKE สนพ.แสงแดด พิมพ์ครั้งที่ 2
"เค้กกล้วยหอมหน้ามะพร้าวขูด" จาก Quick & Easy CAKE สนพ.แสงแดด พิมพ์ครั้งที่ 2/ Banana Cake with Coconut Frosting / แป้งสาลีอเนกประสงค์ร่อน 1 1/2 ถ้วย / ผงฟู 1 1 /2 ชช., เกลือป่น เบกกิงโซดา อย่างละ 1/2 ชช., เนยสด (จืด)พักให้นุ่ม 1/2 ถ้วย, น้ำตาลทรายแดงร่อน 3/4 ถ้วย, ไข่ไก่(75กรัม) 1 ฟอง , กล้วยหอมสุก 2 ผล (ผลละ 150กรัม บดในถุงพลสติก ปิดปากถุงเพื่อป้องกันไมให้กล้วยดำ), sour cream 1/4ถ้วย+2ชต., วานิลา 1/2 ชช., เนยสดจืดสำหรับทาพิมพ์, พิมพ์กลม เส้นผ่าศูนย์กลาง 8.5" สูง 2.5 นิ้ว, กระดาษไข //// Coconut Frosting, ครีมชีส (250กรัม)พักให้นุ่ม 1 ก้อน, เนยสด(จืด)พักให้นุ่ม 1/4 ถ้วย, น้ำตาลไอซิ่งร่อน 1/2 ถ้วย, กะทิสด 1/3ถ้วย+ 2ชต., เหล้ารัมดำ 1 ชช., มะพร้าวทึกทึกขูดเส้นเล็ก 1/3 ถ้วย, วิธีทำ 1.อุ่นเตาอบที่อุณหภูมิ 150 องศาC เตรียมพิมพ์โดยทาเนยสดบาง ๆ ให้ทั่วพิมพ์ ตัดกระดาษไขให้เท่ากับก้นพิมพ์แล้วปู จึงทาทับด้วยเนยสดบาง ๆ อีกครั้งให้ทั่ว พักไว้ จากนั้น ร่อนแป้งสาลี ผงฟู เบกกิงโซดา เกลือ เข้าด้วยกัน 2 ครั้ง ใส่ลงในถาด พักไว้ / 2.ตีเยนสดในอ่างผสมด้วยเครื่องผสมอาหารโดยใช้หัวตีใบพัด ตีด้วยความเร็วสูงจนเนยขึ้นฟูเบาเป็นสีครีมนวล ค่อย ๆ ใส่น้ำตาลทีละน้อยจนหมด ตีจนขึ้นฟูเข้ากันเป็นครีมและน้ำตาลละลายหมด ใส่ไข่ลงไปตีพอเข้ากัน ปิดเครื่อง ตามด้วยกล้วยหอมบด sour cream และวานิลา ผสมด้วยตะกร้อพอเข้ากันดี ค่อย ๆ ใส่ในแป้งที่ร่อนทีละน้อยจนหมด ผสมพอเข้ากัน / 3.เทส่วนผสมเค้กใส่พิมพ์ที่เตรียมไว้ เกลี่ยหน้าเค้กเบา ๆ ให้เรียบ แล้วไล่อากาศในเนื้อเค้ก โดยยกพิมพ์เคาะบนพื้นโต๊ะเบาๆ 2-3 ครั้ง นำเข้าเตาอบที่อุ่นไว้ ปรับอุณหภูมิเป็น 180 องศาC อบนาน 35-40 นาที ยกออกจากเตาอบ พักนาน 5-10 นาที จีงถอดพิมพ์เค้ก ลอกกระดาษไขออก พักเค้กบนตะแกรงจนเย็น /4.ทำ coconut frosting โดยตีครีมชีสกับเนยในอ่างผสมด้วยเครื่องผสมอาหารโดยใช้หัวตีใบพัด ตีด้วยความเร็วสูงจนขึ้นฟูเบาเป็นสีคีรมนวล ค่อย ๆใส่น้ำตาล กะทิ และเหล้ารัม ตีจนขึ้นฟูเข้ากันเป็นครีมขาว ปิดเครื่อง เวลาจะรับประทานให้ ปาด coconut frosting ที่ทำบนหน้าเค้กให้ทั่ว โรยด้วยมะพร้าวขูดเส้น ตัดเป็นชิ้นใส่จาน เสริฟ
24กค.56 ก้มดู ในกล่อง มีหยดดำ ๆ เหมือนน้ำมันเครื่อง คือมีสีดำด้านในและมีขอบเป็นเหมือนน้ำมัน
24กค.56 ก้มดู ในกล่อง มีหยดดำ ๆ เหมือนน้ำมันเครื่อง คือมีสีดำด้านในและมีขอบเป็นเหมือนน้ำมัน / อยู่ในกล่องของเรา หูจับสีชมพูแปร๋นแหร๋น.. ตรงหูจับตรงกลางมีรอยหยดน้ำมันดำ ๆ 1 จุด..ยกหูขึ้น ปรากฏว่าเหมือนมันจะแห้งเหนียวติดกล่องพลาสติกไปแล้ว.. อาจเป็นหยดจากน้ำมันเครื่องในถาด(ร้อยปี..ยังไม่ทิ้ง) ก็ได้..แต่เท่าที่ดูหลายนาที..ไม่มีรอยสะบัด (เกิดจากการขยับโต๊ะ) เพราะไม่มีรอยน้ำมันหยดกระเด็นบนพื้นหรือบริเวณรอบ ๆ กล่องแต่อย่างใด..บ้านนี้คงไม่มีคนชั่ว ทำคนไม่ได้ ก็ทำกับของหรอก.."อ๊ะ ก็ถ้าไม่ใช้คนทำ ก็ผีน่ะสิ..ผีที่อยู่ในร่างที่ไม่มีความเป็นคนไง"...
25กค.56 (24กค.56 มีถุงขยะ(บาง)มัดปากถุงด้วยเศษผ้าสีเหลืองไพรลายจุดดำใหญ่) บ้านเราไม่มีแน่..ก้นถุงถูกฉีกรอบถุง มีเปลือกไข่ออกมา
25กค.56 (24กค.56 มีถุงขยะ(บาง)มัดปากถุงด้วยเศษผ้าสีเหลืองไพรลายจุดดำใหญ่) บ้านเราไม่มีแน่..ก้นถุงถูกฉีกรอบถุง มีเปลือกไข่ออกมา และมีอยู่ในถุงอีก..เลยต้องเอาเท้าถีบดันไปข้างหลังไปกอง ข้างเสาไฟฟ้า..พร้อมเตะเปลือกไข่กระเด็นออกไป (ถ้าไม่ใช่ถุงขยะขอว 68/17 ก็ต้องขออภัยด้วยนะคะ คือ 68/16 บ้านนี้ไม่มีใครทำ garment หรือเกี่ยวข้องกับการทำผ้า มั่นใจว่าบ้านนี้ไม่มีเศษผ้าสีเหลืองจุดดำ) ไม้กระดานผุ ยังคงขัดก้บท่อมิเตอร์น้ำประปา ของบ้าน 68/17 และแนวตั้งขัดดันท่อน้ำประปาสีฟ้าของ 68/16...
วันอังคารที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2556
ห่อหมก โรงเรียนครัววันดี (googledoc) hang ไปหลายนาที พิมพ์ไปก็ตั้งเยอะ
พริกแห้งแกะเม็ดแช่น้ำ 7 เม็ด , ข่าหั่นฝอย 1 ช้อนา, ตะไคร้หั่นฝอย 2 ช้อนโต๊ะ, ผิวมะกรูดหั่นฝอย 1/2 ช้อนชา, รากผักชีหั่นฝอย 1 ช้อนโต๊ะ, พริกไทยเม็ด 1 ช้อนชา, หอมแดงหั่นหยาบ 2 ช้อนโต๊ะ, เกลือป่น 1 ช้อนชา, กะปิดี 1 ช้อนชา, กระเทียมหั่นหยาบ 3 ช้อนโต๊ะ, กระชายหั่นหยาบ 2 ช้อนชา, ส่วนผสมอื่น : ปลากรายขูด 1/2 ถ้วย, หอยแมลงภู่ลวก 1/4 ถ้วย, ปลาหมึกบั้งลวกสุก 1/4 ถ้วย, กุ้งปอกเปลือกผ่าหลังลวก 1/4 ถ้วย, หัวกะทิ 3/4 ถ้วย, ไข่เป็ด 1 ฟอง, ผักกาดขาวลวก 1/2 ถ้วย, ใบโหระพา 1/2 ถ้วย, ใบมะกรูดหั่นฝอย 3 ใบ, ใบผักชี 1/4 ถ้วย, พริกชี้ฟ้าแดงหั่นฝอย 1/2 เม็ด, ใบตองตัดเป็นกลม ๆ , น้ำปรุงรส น้ำปลาดี 1 ชต.+2 ชช. / น้ำตาลปี๊ป 1 ชช. **** โขลกพริกแกงบางส่วน ให้ละเอียดก่อน จึงใส่หอม กระเทียม โขลกต่อให้ละเอียด ใส่กะปิ แล้วโขลกต่อให้ละเอียดอีกครั้งหนึ่ง ถ้าจะปั่นด้วยเครื่องปั่น นำส่วนผสมของพริกแกงทั้งหมดใส่โถปั่น แบ่งหัวกะทิมา 1/2 ถ้วย แล้วปั่นกับพริกแกงให้ละอียด *** นำใบตองตัดแล้วมาซ้อนกัน 2 ชั้น โดยวางตามยาวใบตอง 1 ชั้น ตามขวางใบตอง 1 ชั้น เย็บมุมที่ 1ที่ 2 ให้ตรงข้ามกัน และมุมที่ 3 และที่ 4 ตรงข้ามกัน พักไว้ / นำผักกาดขาวหรือกะหล่ำปลีหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ลวกในน้ำเดือด ตักขึ้นผ่านน้ำเย็น แล้วบีบให้สะเด็ดน้ำ ใส่ในกระทงที่เย็บไว้และใส่ใบโหระพาลงไป..นำกระทงใส่ลังถึง พักไว้ / นำมาปลายขูดใส่อ่างดิน ใส่พริกแกง (หรืออ่างแก้ว, อ่างสแตนเลส) ใส่กะทิ 1/2 ถ้วย ใช้พายไม้ไปทางเดียวกันให้ข้น ลวกกุ้ง ปลา ปลาหมึก หอย พอสุกพักไว้ / ใส่ไข่ น้ำปรุงรส คนให้ข้นอีกครั้ง ใส่เนื้อสัตว์ที่ลวกไว้คนให้เข้ากัน ตักใส่กระทงที่รองผักไว้แล้ว นำแป้งข้าวเจ้าผสมกับกะทิที่เหลือ 1/4ถ้วย คนให้เข้ากัน ตั้งไฟอ่อน ๆ พอควันขึ้นหรือประมาณ 2 นาที ยกลงพักไว้ นำห่อหมกนึ่งไฟแรง 10 นาที เปิดฝา หยอดด้วยกะทิ ใสใบมะกรูด ผักชี และพริกชี้ฟ้าแดงแต่งหน้า นึ่งต่ออีก 5 นาที ยกลง เมื่อจะเสริฟ จึงเรียงใส่จาน เสิร์ฟได้ 2 ที่
24กค.56 เมื่อคืนฝนตก เอาร่มมากางกันน้ำฝนหยด มุ้งลวดขาดกระจุย แตกเป็นรูโหว่เบ้อเริ่มเลย
24กค.56 เมื่อคืนฝนตก เอาร่มมากางกันน้ำฝนหยด มุ้งลวดขาดกระจุย แตกเป็นรูโหว่เบ้อเริ่มเลย / งั้นก็คืนนี้ก็อาจมีเพื่อนเข้ามาอีก เช่นจิ้งจก หนู แมลงสาบ..มุ้งลวดเก่ามันเปราะ แตก..ส่วนกระเบื้องก็แตกจะหลุดหล่นมาอีกชิ้นหนึ่ง..อยู่เหนือมิเตอร์ไฟฟ้า..เมื่อคืน มีน้ำฝนหยดมากองใต้ฝาครอบแก้ว รอบเลย.. น้ำฝนตกใส่สวิทช์สีดำ 2 ตัว.. เลยเอาร่มมากาง กางได้แค่กันฝนปรอยนิดหน่อยเท่านั้น น้ำฝนก็ไหลกองแล้วไหลออกข้างร่ม.. ถ้าปล่อยให้ตากฝนโดนน้ำตลอดเวลา อาจช็อตได้ เพราะน้ำเข้าสวิทช์ ควันขึ้น..ในที่สุด ไฟฟ้าลัดวงจร..เผาบ้าน กับเพื่อนบ้านอีกหลายคูหา ..ต้องจ่ายเสียหายอีกหลาย 1 ล้านบาท..เสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย (และเยอะด้วย) ส่วนตัวข้าพเจ้าเอง..หวังแค่เพียงว่า ห้องดาฟ้าหลังคารั่ว จะไม่ไฟไหม้..เพราะจะหาที่ซุกหัวนอนที่ดีกว่านี้ ไม่มีอีกแล้ว.. (ไม่มีช่างไปซ่อม อยู่ได้ก็อยู่..ถ้ามึงอยู่ไม่ได้ ก็ย้ายลงมานอนข้างล่าง เอามุ้งกางนอน.. เอามั๊ยมุ้งน่ะ กูมี มุ้งหลังใหญ่ ๆ เลย เอามั๊ย (ไม่เอา))
วันอาทิตย์ที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2556
วันวันชอบมีเรื้องกับชาวบ้าน ห้องสมุดซอยพระนางอีกแล้ว
วันวันชอบมีเรื้องกับชาวบ้าน ห้องสมุดซอยพระนางอีกแล้ว / ยังไงล่ะ วันนี้ฉันมานั่งก่อน มีน้องผู้หญิง ก็ดีหรอกนะ เอาขวดน้ำดื่มในถุง 7-11 วางบนพื้น..แต่เธอนั่งทำภาระกิจของเธอไป ก็ปล่อยปากกากระทบไป นั่งโต๊ะอื่นนี่ก็ทำใจได้แล้วนะ..นี่น้องปากกากระทบโต๊ะเป็นระยะ ไม่บ่อยหรอก แต่นั่งโต๊ะเดียวกันเกือบทั้งวัน ยันบ่าย ฉันก็งีบหน่อย ทีนี้ปากกาน้องจูบโต๊ะอีกแล้ว สะดุ้งตื่น ฟีลขาด..เอาปากกา ปล่อยลงโต๊ะบ้าง น้องรู้ตัวมั๊ยเนี่ย.ว่าพี่โครตรำคาญเลย.. ทำถี่ ๆ หน่อย.. คุณลุง ดูจากหนวด(พลอมแพลม) กับใบหน้า น่าจะอายุใกล้ 60 มาอีกแล้ว.. พอเราทำ แกทำมั่ง ขนปากกาออกจากกระเป๋า โยนกระทบโต๊ะบ้าง (เราก็วางปล่อยปากกากระทบโต๊ะ ไม่ได้กระแทกนะ) พี่แกก็ทำมั่ง ยัง ยังไม่พอ พี่แกฉีกซองจดหมาย เอากระดาษ A4 มาสะบัดใส่ฝั่งนี้ (ใช้มือซ้ายสะบัด แกถนัดมือขวา ก็ทำไปสิ ช่วยกัน น้องจะได้รู้สึกตัวบ้าง.. ไม่คิดจะหาผ้าอะไรมารองปากกาบ้างเรอะ เคยเห็นมีน้องผู้หญิงบางคนก็ยังเอากระเป๋าดินสอผ้ามารองปากกาเลย..ฉันนี่นะ เอาผ้าถักมารองปากกา โยนแรงอีกหน่อยยังไม่ได้ยินเสียงเลย) แต่ก็อย่างว่าแหละ จะเรียกว่าเป็น "โรคจิต" ก็ได้.. "คนบ้าก็ดี" ไม่ใช่แม่พระ มานั่งทนฟัง..น้องนางยังถูรองเท้า กับพื้นให้ยางเหนียว ๆ มันออกเสียง แหนํบ ๆ ๆ ก้มมองก็หลายที อ้าวทำไม ถ้าน้องไม่เมื่อยตีน.. ขาใหญ่มาแล้ว หลังจากที่พี่แกสะบัดจดหมาย เราก็บ่น "โอ้โห้ เมื่อวานยังขนจดหมายมาไม่หมดตู้อีกเหรอ" พี่แก หันหน้า หันหลัง (มากกว่า) ทำกระแดเหมือนอยากจะย้ายโต๊ะ ไม่ย้ายสักที มาทำกวน..อีน..อีก ..มุขปล่อยปากกา สนั่นโต๊ะ คนทั้งห้องคงมอง.. สักพักพี่แกก็ยกเครื่องมือ โน๊ตบุ๊คส์ ย้ายไปโต๊ะฝั่งตรงข้าม.. ชัดเจนเลย..พี่แก่ แกเอาหนังสือ "ตำราการวินิจฉัยรักษาโรค" ของ นพ.สุรเกียรต์ อาชานานุภาพ มารอง notebook ของแก นั่งทำงาน กด enter ปึ้กนึง.. แล้วก็มีเสียงคลิปหนีบกระดาษตัวกลาง ลากไปลากมาบนโต๊ะ ..หึหึ ขนเอามารอง notebook นักธุรกิจนั่งทำงาน..นี่ นี่ น้อง ๆ นักศึกษาหลายคนเขาไม่เห็นต้องไปขนหนังสือเล่มขนาดนี้ (เล่มขนาดรอง notebookได้พอดีเป๊ะ หนาเกือบ 2.5") บ่งบอกให้เห็นว่าพี่แก่ พี่แกเป็นคนมักง่าย นิสัยดี(เหลือ)เกิน...มีเรื่องกับคนบ้าก็อย่างนี้แหละนะเพ่.. ไอ้เราก็รอเก็บของเลย..พร้อม แกก็เก็บของพอดี..เราก็เลยเดินตามไปส่งแกถึงห้องน้ำเลย...คนบ้าพร้อมมีเรื่องนะคร้าบ..อีกราย ไอ้น้องอ้วน นั่งกับสัมภาระ ย้ายตูดมานั่งโต๊ะยาว พอดีเพื่อนไปทัก..นั่งซะเก้าอี้ วางเฉียง ๆ แกก็นั่งเฉียง (อ้วน) ตูดก็เกินมา..ไอ้เราต้องเดินตะแคงหลบออกไป..นี่ขนาดไม่ลุกไปฉี่บ่อยนะ รีบจด ไม่งั้นถ้าลุกบ่อยจะเดินเอาตูดเราถูกสีข้างไอ้น้องซะเรย..เดินเข้ามาลาเพื่อน แทนที่จะเขยิบเก้าอี้ที่โต๊ะยาวเข้าไป เสือกเดินหลบเก้าอี้ เอาเป้มาเคาะเก้าอี้เรา.. มันเอียงออกมา..ตอนกลับ คุณรปภ.ยังขยับเก้าอี้ให้ตรงเข้าที่เข้าทาง..จะเห็นได้ว่า น้องมีการศึกษา แต่หย่อนสามัญสำนึก แสดงว่าอยู่บ้าน เก้าอี้ โต๊ะคงไม่ได้จับ ไม่จัดจัดเลยสิท่า..กูละเซ็ง duck (ทำไมยิ่งแก่ยิ่งร้ายนะเรา..ก็เลือดมันแรงน่ะ สายเลือดมันแรง) เดี๋ยวกลับไปดูผลงานไม้อัดขัดท่อของ 68/17 เสียหน่อย ไม่ได้มอง เดี๋ยวคืนนี้นอนไม่หลับว่ะ
21กค.56 จะ5โมงเย็น แดดยังร้อนอยู่เลย ลืมบอกหลิน ยังมีค่ากระดาดทิชชูอีก เดือนละ100 ห่ละ 25 บาท
21กค.56 จะ5โมงเย็น แดดยังร้อนอยู่เลย ลืมบอกหลิน ยังมีค่ากระดาดทิชชูอีก เดือนละ100 ห่อละ 25 บาท ใช้อาทิตย์ละห่อ น้องหนูหลิน พิมพา สุพรรณโกมุท ว่านังปูใช้เปลืองมั๊ยคะ
วันเสาร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2556
ไม่เห็นคุณป๊อป สุชาติ สุพรรณโกมุท มาจอดรถหน้าบ้าน วันอาทิตย์ (เอาเงินมาให้ลูกชาย 2 คนใช้) 2 สัปดาห์แล้ว
ไม่เห็นคุณป๊อป สุชาติ สุพรรณโกมุท มาจอดรถหน้าบ้าน วันอาทิตย์ (เอาเงินมาให้ลูกชาย 2 คนใช้) 2 สัปดาห์แล้ว / วันนี้ 68/17 ยังคงมีไม้กระดานเก่าผุ เสียบงัดท่อน้ำทิ้งบ้านเขากับท่อประปาบ้านเรา..คงเป็นอย่างนี้ไปอีกสิบชาติ.. ซ๊อ (เมีย)น้อย.. "พี่ชายก็แสนจะดี๊ดี ว่าง ๆ ไปเช็คสมองบ้างนะ" ..นั้นสิ คงคบกันได้ดี "เพื่อนบ้านก็แสนจะดี๊ดี" หึหึ
เหตุเกิดณห้องสมุดซอยพระนาง เช้านี้เลย 21กค.56 1 หนุ่ม 2 สาว คนนึงเอาหนังสือมาวาง 2-3 เล่ม แล้วนั่งคุยกันเสียงดัง (เสียงหนุ่ม)
เหตุเกิดณห้องสมุดซอยพระนาง เช้านี้เลย 21กค.56 1 หนุ่ม 2 สาว คนนึงเอาหนังสือมาวาง 2-3 เล่ม แล้วนั่งคุยกันเสียงดัง (เสียงหนุ่ม)/ หันไปมองทำเนียน มีหนังสือวางอยู่ แต่ไม่ได้เปิดอ่าน หนุ่มนั่งเปิด pad pad อีก 1 สาวมาสมทบ นั่งคุยกันตั้งแต่เปิดห้องสมุดขึ้นมา โต๊ะยาว... คุยกันจนน้องผู้หญิงโต๊ะตรงข้าม หันมาทีนึงละ..จนอีกสักพัก หันมาพูดเลย "ช่วยเบา ๆ หน่อยได้มั๊ยคะ" หน้าตาก็ดูเหมือนมีการศึกษา จบปริญญาตรีกันแล้ว แต่มารยาทและสามัญสำนึกในการใช้ห้องสมุดไม่มีเอาเสียเลย..หรือจะต้องให้เหมือนสมัยก่อน ปิดป้ายแปะ "ห้องสมุดห้ามใช้เสียง" เอ..แต่นี่ห้องทำการบ้าน ใช้เสียงได้นะ หนุ่มนั่งคุยโทร.มือถือสักครู่..กลายเป็นทีประชุมไปเลย ได้ยินแต่เรื่องทั่วไป ไร้สาระ../ วันก่อนน้อง ตอนแรกคิดว่าเป็นผู้ชาย ใส่เสื้อลายสก๊อตแดงดำ กางเกงขาสั้น พอได้ยินเสียงคุยโทร.มือถือ ถึงได้รู้ว่าเป็นผู้หญิง ทำผมนำตาลแดง ซอยสั้นแบบทอม..วางปากกกาทีละปึ้ก สองปึ้ก วางบนหน้ากระดาษแล้ว ยังเธอวางแบบ คีบมาแล้วปล่อยให้ตกกระทบบนกระดาษ ยัง ยัง เท่านั้นยังไม่พอ ตำราเป็นสันกระดูกงู ไม่รู้เป็นที่กระดาษหรือเป็นที่น้ำหนักมือของคุณเธอ.. เปิดพลั่บ ๆ ๆ ๆ ทุกหน้า ก็ไม่ได้สะบัดนะ...แต่พลั่บ ๆ สนั่นทุกแผ่น.. ปากกาเน้นข้อความก็อีก เธอใช้เสร็จปิดจุก แล้วก็คีบมา ไม่วาง เธอปล่อยแก๊ก ๆ ลงกระทบหน้าโต๊ะ..นั่งฟังกันทั้ววัน ทั้งห้อง ตั้งแต่สาย ๆยันเย็น.. แต่พอ จนท.ห้องสมุดเดินมาเปิดประตูลูกบิด แกร๊กเดียว ไขกุญแจ เธอกลับได้ยินแล้วหันไปมองทางเจ้าหน้าที่ห้องสมุด.. เธอเอาน้ำ 7-11 coffe มาไม่รองกระดาษทิชชูใต้ถ้วย วางทั่ว ประมาณ 2-3 เก้าอี้คนนั่ง สักพัก เธอย้ายฝั่ง ย้ายของไปนั่งฝั่งติดกระจก..ย้ายตำราไป จด ไป อ่านไป เน้นข้อความไป ปล่อยปากกากระทบโต๊ะไป.. แต่เจ้าถ้วยน้ำ(ถ้วยกระดาษ) วางฝั่งเดิม ไม้บรรทัดข้าวของอีกนิดหน่อย.. ยังวางอยู่ บ่ายแล้ว มี 3 สาวเดินเข้ามา มองโต๊ะยาว.แต่แล้วก็ต้องไปนั่งแยกกัน.. น้องผมสั้น คงคิดได้ เขยิบเอาสัมภาระกระจายเกือบทั่วไต๊ กวาดที่ยังฝั่งทีเธอนั่ง.. จบ.. / มะวานสิมัน..คุณผู้ชายแก่แล้ว เอา notebookมาเปิด อ่าน.มีเสียงนิดหน่อย..สงสัยเป็นนักธุรกิจใหญ่ ไอ้ตรงที่เอาซองจดหมายจากธนาคาร ฉีกปรุด้านข้าง โอ๊ยหลายสิบซองกระมัง (สงสัยยกมาทั้งตู้ไปรษษีย์หน้าบ้าน) ฉีกแล้วก็แง้ม แง้มแล้วก็ฉีกเปิดอ่าน ดูยอดตัวเลข.. พิจารณาเปรียบเทียบ นั่งตั้งแต่บ่ายจนถึงเย็น.. วันนี้พี่คุณผู้ชายซึ๊ด ๆ มานั่งฝั่งตรงข้ามเราอีกละ (ถ้าวันนี้ฟืดซึ๊ดจมูกอีก เราจะทำยังไงดีเนี่ย เมื่อวานก็หนีไปอีกโต๊ะทีแล้ว.. แกก็มองว่าเราย้ายทำไม) นั่งอ่านพวกกฎหมาย เน้นเป็นพิเศษ...
ช่วยกันทำมาหากินเ้พื่อประเทศชาติ..ไทย
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=564817690218135&set=a.497277276972177.120192.485460358153869&type=1&theater
วันก่อนจดสูตรน้ำจิ้ม 121 สูตร (2 วันเสร็จ) 295 บาท วันนี้จดคุ้กกีแสนอร่อย ได้อีกเกือบหมดเล่ม
วันก่อนจดสูตรน้ำจิ้ม 121 สูตร (2 วันเสร็จ) 295 บาท วันนี้จดคุ้กกีแสนอร่อย ได้อีกเกือบหมดเล่ม
วันศุกร์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2556
คุกกี เทวิว (Tuiles) "คุกกีแสนอร่อย" สนพ.แสงแดด พิมพ์ครั้งที่ 2
เทอวิว Tuiles
อุปกรณ์ แผ่นพลาติกนาด 14x14 นิ้ว ตัดเจาะเป็นรูปวงกลม 16 วง
ถาดอบคุกกี้ ขนาด 14x14 นิ้ว
แผ่นอบซิลิโคน
สเปตูลาแบบยก
ส่วนผสม
แป้งสาลีอกนประสงค์ (80 กรัม) 3/4 ถ้วย+ 2 1/2 ชต.
เกลือป่น 1/8 ชช
เนยสด (จืด) (125 กรัม) 1/2 ถ้วย+ 1 ชต.
น้ำตาลไอซิ่ง (120 กรัม) 1 ถ้วย + 3 ชต.
ไข่ขาวของไข่ไก่ (120 กรัม) 3 ฟอง
กลิ่นวานิลา 1 ชช.
วิธีทำ
1.อุ่นเตาอบที่อุณหภูมิ 170องศาC เตรียมไว้ ร่อนแป้งสาลีและเกลือเข้าด้วยกัน พักไว้
2.ตีเนยในอ่างผสมด้วยตระกร้อจนเริ่มนุ่มลง แบ่งน้ำตาลไอซิ่งออกเป็น 3 ส่วน ใส่ทีละส่วนลงในเนย ใช้ตระกร้อตีเนย
และน้ำตาลไอซิ่ง จนเนียนเข้ากัน ค่อย ๆ ใส่ไข่ขาวลงไปทีละ 1/4 จนหมด ใส่กลิ่นวานิลา ใช้ตะก้อตีจนเนียนเป็น
เนื้อเดียวกัน แบ่งแป้งที่ร่อนไว้ ใส่ในส่วนผสมทีละครึ่ง ใช้ตระกร้อคนจนเข้ากันดี
3.วางแผ่นพลาสาติกที่ตัดเป็นวงกลมให้แนบกับถาดอบ ที่ปูแผ่นอบซิลิโคนไว้ ตักเนื้อคุกกี้ไว้ด้านซ้ายมือของถาด
ใช้สแปตูลาลากจากซ้ายมือไปขวามือจนเรียบทั่วกัน ยกแผ่นพลาสติกออก
4.นำเข้าอบในเตาอบที่อุ่นไว้ อบนาน 5-6 นาที หรือจนขอบคุกกี้เริ่มเหลือง ยกออกจากเตาอบ วางถาดอบพักไว้
บนตะแกรงสักครุ่ แล้วแซะคุกกี้ออกวางพักบนตะแกรงจนเย็นสนิท
เทอวิวเป็นคุกกีที่ร้านเบอเกอรี่ทั่วไปมักทำขาย เพราะเป็นคุกกีที่ใช้แต่ไข่ขาว ซึ่งเป็นการเหลือไข่ขาวที่เหลือจาก
การทำเบเกอรีให้เป็นประโยชน์ เนื้อคุกกี้มีลักษณะบางกรอบ (แผ่นบาง) สามารถทำเป็นรูปทรงต่าง ๆ ได้ตามแผ่นฉลุ
Stencil ที่เรามี
19กค.56 กลางคืน 68/17 หน้าบ้านมีแผ่นไม้กระดานเก่า เน่า ผุ มาขัดกับท่อระบายน้ำของเขา แล้วทิ่มเสียบขัดกับท่อน้ำประปา 68/16 จนโก่งโค้ง..ง..ง..แอ่นเลย
19กค.56 กลางคืน 68/17 หน้าบ้านมีแผ่นไม้กระดานเก่า เน่า ผุ มาขัดกับท่อระบายน้ำของเขา แล้วทิ่มเสียบขัดกับท่อน้ำประปา 68/16 จนโก่งโค้ง..ง..ง..แอ่นเลย / ก็บอกแล้ว..ว่า "กูลืมไปว่าไม่ใช่บ้านของกู" ใครจะทำอะไรก็ทำไปเถอะ ภาวนาขอให้ท่อน้ำประปา 68/16 หักเร็ววัน.. สันดานก็เป็นสันดาน... แก่จะเข้าโลงแล้ว.. บางทีนิสัยถ่ายทอดตกไปถึงลูกถึงหลาน หรือซึมไปโดยสายเลือด.. อันว่าเรา ก็ไม่ชอบเล่นดนตรีไทย(ซอ)ให้ใครฟัง..มันเสียเวลา.. ช่างมัน ปล่อยมันไป..ธุระไม่ใช่..เจ้าของบ้านเขาเดินเข้าเดินออก เห็นไม่แผ่นกระดานเสียบจนท่อประปา 1 นิ้วมันแอ่นโค้งขนาดนั้น..เหอ เหอ เหอ..ช่างหัวมัน..กูไม่สน เมื่อคืนนอนหลับสบายถึงเช้า.. ไม่เกี่ยวกับกู...ชั่งแม่ง...
เงิน 4,000 ได้มาจากไหนนะ..คิดเล่น ๆ ก็ "จากค่าเช่าหน้าร้านขายผักวันละ 100 เดือนละ 3,000 กัล 2ผัวเมีย เช่าห้องชั้น 2 ร้านผักอีกพันกว่าบาท"
เงิน 4,000 ได้มาจากไหนนะ..คิดเล่น ๆ ก็ "จากค่าเช่าหน้าร้านขายผักวันละ 100 เดือนละ 3,000 กัล 2ผัวเมีย เช่าห้องชั้น 2 ร้านผักอีกพันกว่าบาท" / ก็ตัดใจให้มัน(นังปู)มันไป เดือนละ 4,000 (3,000+1,000) รวมกับของเตี่ยอีก 2,000 เป็นเดือนละ 6,000 บาท...น้องหลิน พิมพา สุพรรณโกมุท จบตั้งปริญญาโท นิดา บริหารธุรกิจ ต้องรู้เรื่องตัวเลข..ช่วยคำนวณให้ฉันหน่อยสิ.. ค่ากิน ข้าวจานละ 35 บาท น้ำอีก 10 บาท เป็น 45 บาท 3 มื้อเป็นเงิน 135 บาท..เดือนละ 3,105 ไม่กินขนม ไม่กินทุเรียนหมอนทอง ไม่นั่งรถมอเตอร์ไซค์ ไม่นั่งรถปอ. (นั่งแต่รถเมล์ฟรี) ...ค่าแฟ๊บเดือนละ 60 บาท ค่ายาสีฟัน (แบบหลอดละ 15 บาท แปรงกลางคืนอย่างเดียวต้องประหยัด) เดือนละ 45 บาท..ค่าสบู่เดือนละ 100 บาท ค่าแชมพูสระหัวอีกเดือนละ 60 บาท ค่าผ้าอนามัย เดือนละ 120 บาท..ค่าโรลออนเดือนละ 40 บาท..ไม่ได้โลชั่นทาตัว..คันคะเยอผิวแห้งแก่แล้ว...รวมเป็นเงิน 425 บาท..รวมเป็นเงิน 3,530 บาท โอ้โห..เหลือเงินให้เก็บอีกตั้งเดือนละ 2,470 บาทเชียวเร้อ..บ้านไม่ต้องเช่า ข้าวแค่ต้องซื้อ..กินคนเดียว หุงข้าว..ซื้อกับข้าวมาทำน่ะ..ไม่ใช่ซื้อหมู แค่ 20 บาทแล้วเค้าจะขายให้..ผักไม่ใช่ซื้อแค่ 10 บาท แล้วกินได้ 3 มื้อเหมือนอาอึ้มเธอบอก "กูกินวันนึงไม่ถึง 100" แล้วหลิน พิมพา สุพรรณโกมุท ล่ะ กินวันนึง เท่าไหร่..ค่าเช่าห้อง(แอร์) ค่าน้ำค่าไฟเท่าไหร่.. ไม่ต้องห่วงนะ ร้านผักซอยพิพัฒน์ 2 อยู่ได้อีก 2 ปี... เดือนไหนหลินไม่พอใช้ มาขออาอึ้มได้ แค่นิด ๆ หน่อย ๆ ..จัดไป
18กค.56 คุณแม่เล่าให้ฟัง (ไม่ได้ถามเลย) "กูเพิ่งไปหาหมอมา" / "แล้วไปกับใคร" / "ไปคนเดียวสิ"
18กค.56 คุณแม่เล่าให้ฟัง (ไม่ได้ถามเลย) "กูเพิ่งไปหาหมอมา" / "แล้วไปกับใคร" / "ไปคนเดียวสิ" / ..."อ้าวไม่มีใครพาไปเหรอ" / "ใครจะพากูไป กูก็ไปคนเดียวอยู่แล้ว ไปยื่นบัตรคิวนัดหมอ" / น้องหลิน พิมพา สุพรรณโกมุท ไม่คิดจะพาอาอึ้มไปหาหมอเหรอ พี่ป๊อปก็ต้องขายของ ทำมาหากิน เลี้ยงลูกเลี้ยงเมีย เธอเป็นโฉด เอ๊ยเป็นโสด ..ไม่พาผู้มีพระคุณไปหาหมอหน่อยเหรอ..
2กค.56 ซักฟ้าอยู่บนดาดฟ้า ได้กลิ่นเหม็นบุหรี่ เดินชะโงกหน้าดู เห็นผู้ชาย ยืนมือคีบบุหรี่ ไฟแดงมือเกาะที่ลูกกรงเหล็ก บ้าน KC.
2กค.56 ซักฟ้าอยู่บนดาดฟ้า ได้กลิ่นเหม็นบุหรี่ เดินชะโงกหน้าดู เห็นผู้ชาย ยืนมือคีบบุหรี่ ไฟแดงมือเกาะที่ลูกกรงเหล็ก บ้าน KC./ กลิ่นลอยขึ้นมา เลยเอาสายยางฉีดน้ำเป็นฝอยดับกลิ่น..สักครู่เดินไปดู..ชะโงกหน้าดู ไม่มีไฟแดงแล้ว..แสดงว่าคนสูบเดินเข้าไปแล้ว*** หลายวันถัดมา..ได้กลิ่นควันบุหรี่อีก.. อ้วกแล้วอ้วกอีก..วันรุ่งขึ้นถามโน่ "โน่สุบบุหรี่หรือเปล่าได้กลิ่นหึ่งเลย" / โน่ตอบว่า "เปล่า ไม่ได้สูบ"...
19กค.56 ชั้นดาดฟ้าออกมายืนฟังเสียงเหมือน "ประตูกระแทกกัน" ดังมาจากดาดฟ้า 68/17 ปั้ง ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
19กค.56 ชั้นดาดฟ้าออกมายืนฟังเสียงเหมือน "ประตูกระแทกกัน" ดังมาจากดาดฟ้า 68/17 ปั้ง ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ / สักสาย ๆ ก่อน 8.00 น. ก็ปล่อยให้เขาทำไป ก็เป็นพฤติกรรมประจำตัว หรือไม่ก็เขามีเวลาว่างก็ทำไป..ไอ้เราได้ยินจนชิน มันเป็นเรื่องปกติไปเสียแล้ว..ฟังแล้วก็เฉย ๆ
วันพฤหัสบดีที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2556
18 กค.56 ไปไถเงินแม่ใช้ 2,000 ... ถามน้องเหลือแค่ 5 เดือน ถึงธค.56 มีที่ขายผักใหม่หรือยัง อยู่ที่ไหน น้องตอบ "อ้าวพี่ เค้าให้อยู่ได้อีก 2 ปีไม่ใช่เหรอ"
18 กค.56 ไปไถเงินแม่ใช้ 2,000 ... ถามน้องเหลือแค่ 5 เดือน ถึงธค.56 มีที่ขายผักใหม่หรือยัง อยู่ที่ไหน น้องตอบ "อ้าวพี่ เค้าให้อยู่ได้อีก 2 ปีไม่ใช่เหรอ" / หันไปถามคุณแม่ทันที นั่งก้มหน้าก้มตาอยู่.."อ้าว เค้าให้อยู่อีก 2 ปี จริงรึ" / "เออ".. จบข่าว .../ แล้วเมื่อ 19 มิย.56 โทร.จากกรุงเทพไปจิกนังปูกลับกรุงเทพ.จากกำแพง.บอก "เค้าให้อยู่ถึงแค่ปีใหม่นี้นะ จะบอกให้" / "เงินน่ะใช้ให้มันประหยัด ประหยัดหน่อย" (หึหึ เดินเข้าออกจากซอยกี่ร้อยเมตร ไม่ประหยัดเหรอ ..กินข้าวผัด 15 บาท เจอขี้หนู 1 เม็ด ไม่ประหยัดเหรอ..น้องหนูหลิน พิมพา สุพรรณโกมุท นั่งมอเตอร์ไซค์เข้าออกซอย คงประหยัดน่าดูสินะ) / เสียงออกคำสั่งดังพอควร "บ้านกวาดให้มันสะอาด สะอาดนะ เลอะยังกับอะไร..วันก่อนว่าไปป้อมไป งูเข้าห้อง ไม่กวาด ยังไงก็ไม่ทำ (ไม่ได้ไปบ้านดินแดงแล้วรู้ได้ยังไงว่าสกปรกเลอะเทอะอยู่อย่างนั้น) ว่าก็ไม่ทำ.. ไอ้ 2 คนนั่น ก็ไม่ทำ อยู่กันอย่างเดียว อยู่กันอย่างเดียว" / "กูจะขายบ้านทิ้งแล้ว ไม่ต้องอยู่" (ก็รออยู่ว่าจะขายเมื่อไหร่) งั้นก็ต้องเป็นภาระ เจ้าบ้าน "สุชาติ สุพรรณโกมุท" อีกล่ะสิ / "ทะเบียนบ้านเอามาคืนด้วย" / "หาไม่เจอ ไม่รู้ไว้ไหน" / "อะไร..หามาคืนด้วย" / "อืม..เดี๋ยวค่อยหา ไม่รู้ใส่ไว้ในตะกร้าไหน" / "ไหนใครบอกว่า ไม่จ่ายเดือนนึงก็ตัดแล้ว" / "ใครพูด" / "ใครบอกว่าไม่จ่ายเดือนนึงก็ตัดแล้ว" / "ไอ้ที่พูดว่าใคร ใคร น่ะ มันคือใครที่พูด" ((ไม่มีคำตอบ เงียบ)) / เห็นหน้าปุ๊ป"วันนี้วันที่เท่าไหร่" / "วันที่ 18" / "มา 10 20 30 นะจะบอกให้ 2,000 นี้ใช้ให้ถึงวันที่ 30 นะ" / "เค้าซื้อแกงปลาช่อน ฟักมาฟาก" / "ไม่กิน มึงเอากลับไปกินเองเถอะ" / "ทำไมล่ะ ไม่กินปลาช่อน ทำบุญปลาช่อนมาเหรอ" / "เอ้อ (เออ)" / "มาวันนี้เพราะเอาเงินไปใช้หนี้ค่าทรูมูฟ เลยหมดเร็ว" (ให้ใช้หนี้เองเดือนละ 100-200 ถามชาวบ้านเขาบอก กรณีนี้หมะม้าผิดนะ ที่ไม่ให้จดหมายบิลแจ้งหนี้กับปู ตั้งแต่ใบแรก) / เอ..แล้วที่เค้าบอกให้อยู่ชุมชนซอยพิพัฒน์ 2 ได้อีก 2 ปีน่ะ..มีจดหมายแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรหรือเปล่า.. เหมือนตอนที่มีจดหมายแจ้งให้ย้ายออก รื้อถอนให้เหลือแต่ที่ดินเปล่า ให้อยู่ถึง 31 ธค.56.. ทำไมไม่เห็นบอกเลยว่า เค้าให้อยู่ต่ออีก 2 ปี.. บอกเมื่อไหร่นะ..หลังวันที่ 19 มิย.56 หรือเปล่า
ได้มุมใหม่หนีฟืด ฟืด เจอลุงตาแก่ ผมขาว...นั่งที่ประจำเรา (เสือกออกสาย) แกทำท่าไม่พอใจ..กระแทกศกหน้าโต๊ะ สุดท้ายก็แกก็หนีไปนั่งห้องแรก
ได้มุมใหม่หนีฟืด ฟืด เจอลุงตาแก่ ผมขาว...นั่งที่ประจำเรา (เสือกออกสาย) แกทำท่าไม่พอใจ..กระแทกศกหน้าโต๊ะ สุดท้ายก็แกก็หนีไปนั่งห้องแรก / ที่นี่สาธารณะ ใครจะนั่งตรงไหนก็ได้..ตราบเท่าที่ไม่ได้รบกวนใคร ไม่ได้ทำความเดือดร้อนให้ใครนะลุง.. / มีอีกราย พี่หนุ่มเสื้อน้ำเงิน เมื่อวานก็มานั่นซึ๊ด ๆ ..เช้านี้มาแต่เช้า ไปนั่งโต๊ะ 2 มุมกระจก..ขอให้ได้นั่งกับน้องหนุ่มแว่นนะคะ..จะได้ซึ๊ดฟื๊ดจมูกกันทั้งโต๊ะให้หนุกหนานไปเลย.. มีน้องผู้หญิงอีกคน ไอเหมือนคนเป็นหวัด..ไม่ใส่ผ้าปิดจมูกด้วย...
วันพุธที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2556
"ห้องสมุดซอยพระนาง" net หลุด google doc ใช่บ่ดั้ย..ฮ่วย / อัดไอ้หนุ่มไป ..นั่งฟืด ๆ สูดจมูกทั้งวัน ฟังมาเกือบอาทิตย์แล้วมั้ง
มีเรื่องกับชาวบ้านได้ทุกวันนะ..นังปู / ก็ไอ้หนุ่มแว่น มานั่นเล่น ไอผ่ง ไอแพ็ด หรืออะไรไม่รู้..นั่งฟืดจมูกทั้งวัน หยุดได้แป๊ปเดียว สูดแห้ง ๆ ไม่มีน้ำมูก เป็นแพ้อากาศก็ไม่ใช่ เพราะที่นั่งอยู่ แอร์ไม่ลงหัว..นั่งจดเล่น ๆ ไม่ถึง 10 นาที มีเว้นวรรค ฟื๊ด ๆ ๆ จมูก 22 ฟืด..รำคาญโครต ๆ ฟังมาเป็นสัปดาห์แล้ว พ่อคุณเข้ามาก็ตรงมานั่งตรงนี้ดังเป็นทีประจำ..ศอกก็กระแทกหน้าโต๊ะ กระเทือน..มะวาน คุณผู้หญิงจะนั่ง พอได้ยินฟื๊ด ๆ ..เธอย้ายของหนีไปนั่งโต๊ะอื่นเลย.. / อาจไม่ใช่โรคจิต แต่ทำจนติดเป็นนิสัย.. ต้องเห็นใจสุขภาพของเธอเหรอ..ไม่ไหวมั๊ง.. ทุกคนมาห้องสมุด มาหาความรู้ มาทำการบ้าน หรืออะไรก็ตาม..ไม่ใช่ต้องมานั่งทนรับสภาพของสุขภาพ หรือความเคยชินของใครคนใดคนหนึ่ง..ทุกคนก็ต้องใช้ความเงียบพอควร ต้องการสมาธิในการกิจกรรมของตนเอง..ถึงแม้จะมีพื้นที่ขอบเขตเป็นของตัวเอง.. แต่การที่คนเราก็รู้ตัวว่าตัวเอง.มีปัญหาสุขภาพของติดนิสัยอย่างไร..ไม่เห็นใจคนอื่นที่ต้องมานั่งทนฟัง ฟื๊ด ๆ ๆ ๆ ..นั่งฟังทั้งวัน ตั้งแต่ประมาณ 11.00-16.00 น. กว่า ๆ ก็บ้าได้เหมือนกันนะจะบอกให้ / มองฟ้าเดี๋ยวป๊าด...กูไม่กลัวตายนะโว้ย..เลือดแม่มันแรงว่ะ
บ้านนี้ก็ไม่ใช่บ้านของกู แล้วกูจะเดือดร้อนอะไรด้วย..ใครจะเสียบไม้ขยะขัดกับท่อประปาจนโก่ง โป่ง หัก ก็ช่างเถอะ...
บ้านนี้ก็ไม่ใช่บ้านของกู แล้วกูจะเดือดร้อนอะไรด้วย..ใครจะเสียบไม้ขยะขัดกับท่อประปาจนโก่ง โป่ง หัก ก็ช่างเถอะ.../ จะไปอะไรกันนักกันหนา..ถ้าเจ้าของบ้านเขาอยากทำอย่างนั้นก็ปล่อยให้เขาทำไป..เราจะเดือดร้อนทำไมให้เสียวเลาเรา..มันเป็นเรื่องของสามัญสำนึก เอาเวลาไปคิดทำอย่างอื่นที่เป็นประโยชน์ต่อตนเองและสังคมจะดีกว่า..เดี๋ยวจะว่า สะอาดแค่หน้าบ้าน แต่ในบ้านสกปรกเลอะเทอะยังกับขี้../ ดังคำที่ว่า "เราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงคนอื่นได้..แต่เราควรจะเปลี่ยนที่เรา ทั้งความคิด การกระทำ คำพูด" ทั้ง ๆ ที่ .ความเป็นจริงแล้ว "การกระทำสำคัญกว่าคำพูด" / เมื่อวานเดินเข้าซอยกลับมา เห็นเขาเอาไม้นรกขึ้นมาเสียบท่ออีกแล้ว แน่นเชียว ถึบออกแรงอย่างแรง ยังไม่หลุดจากท่อเลย..เลยถีบ ๆ ๆ ๆ จนกว่าจะหลุด ปรากฏว่าหลอดไฟที่พิงประตูบ้าน 68/17 ล้ม ค้งเค้ง ค้งเค้ง.. ถีบไม้กระดาน 2 แผ่นหลุดล้มไปแล้ว..ผู้ชายสูงหน่อย ผอม ใส่กางเกงยีนเข้ารูปสีดำ เดินออกมาดู..กูถีบเสร็จแล้ว ไขกุญแจเข้าบ้าน..ไม่สนใจ..ขึ้นถึงดาดฟ้า ของขึ้น ตะโกนด่าไปอีกเกือบ 10 นาที..กูให้มึงเอามาเสียบอีก พรุ่งนี้ กูจะแจ้งตำรวจมาดู แล้วให้เขาลงบันทึกประจำวัน..ตื่นขึ้นมา ปัญญาคิดได้..ช่างมันเถอะ สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม.. ให้ตำรวจไว้จับผู้ร้ายดีกว่า..เรื่องของสันดานนี่..ตำรวจแก้ไขไม่ได้หรอก..นะ สิบอกไห่..
วันอังคารที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2556
"แค้นเสน่หา" ตัวเล็กหุงข้าวเช็ดน้ำเป็นด้วย เก่งจังเลย.. แหม ข้าวแช่ก็กินเป็น แกะมะปรางลอยแก้ว..โบ..โบราณที่สุด
"แค้นเสน่หา" ตัวเล็กหุงข้าวเช็ดน้ำเป็นด้วย เก่งจังเลย.. แหม ข้าวแช่ก็กินเป็น แกะมะปรางลอยแก้ว..โบ..โบราณที่สุด
หุงข้าวเช็ดน้ำ
ไม้สะแกเลื่อยเป็นท่อนใหญ่ ๆ ก่อนที่จะผ่าด้วยขวานโยน เป็นซีกนี้ บางทียายก็กันออกไปส่วนหนึ่งเพื่อจะนำไปเผาถ่านโดยทิ้งตากแดดไว้ 2-3 วัน
จากนั้นยายจะใช้ไม้ฟืนชิ้นเล็ก ๆ ก่อไฟในเตาย่างปลาที่ตอนนี้เปลี่ยนป็นเตาเผาถ่าน พอลุกโชนดีแล้ว โรยแกลงไปสุมทับเมื่อแกลบติดไฟ
จึงใช้คราดเหล็กคราดเกลี่ยนจนทั่วเตา เอาท่อนสะแกลงวางเรียงให้ทั่วเตาไทย แกลบสุมทับด้านบนหนา ๆ อีกครั้งหนึ่ง
ปล่อยให้ไฟไหม้ท่อนไม้ในเตาเผาถ่านมีควันบาง ๆ ลอยผ่านกองแกลบออกมาเรื่อย ๆ เป็นเรื่องที่แปลกนะครับ เมื่อใดที่ควันหมด ท่อนไม้
ที่อยู่ในเตาจะถูกเผากลายเป็นถ่านเรียบร้อยแล้ว
ยายมีเคล็บลับในการเผาถ่านครับ พอควันไฟจางลงจนเกือบหมดหรือที่ยายเรียกว่า "ถ่านสุก" แล้ว ยายจะใช้พลั่วอันใหญ่ตักขี้เถ้าแกลบ
ด้านบนออก ใช้คีมคีบถ่านร้อน ๆ ในเตาเผาจุ่มลงในถังน้ำมาวางเรียงบนแผ่นสังกะสีแผ่นใหญ่
ปล่อยตากแดดไว้จนแห้ง ถ่านที่ได้จะแกร่งเวลาที่นำไปก่อไฟใช้ในครัว จะมีควันน้อยและไม่แตกเป็นสะเก็ดไฟครับ
ชาวทุ่งค้นุกับการหุงข้าวแบบเช็ดน้ำ ก่อนอื่นก่อเตาฟืนด้วยการเกรียกไม้ไผ่ผุ ๆ เป็นชิ้นเล็ก ๆ วางก่ายเป็นเชื้อไฟ จุดด้วยไฟขีดไฟ
พอไฟติด ก็ค่อย ๆ วางไม้ฟืนลงไป บางบ้านใช้ขี้ไต้เป็นเชื้อไฟก็มี
ตวงข้าวสารตามจำนวนที่ต้องการใส่หม้อดินหรือหม้อลูมิเนียมที่มีขนาดใหญ่หน่อย ซาวข้าวเทน้ำทิ้งไป 2 ครั้ง เติมน้ำสะอาดลงไปใน
หม้อหุงข้าวพอควร ไม่ต้องห่วงเรื่องน้ำมาก ระวังแต่เพียงอย่าให้น้ำน้อยเกินไปเท่านั้น
ไฟจากเตาฟืนนั้นลุงโพลงทันใจ บางทีเปลวไฟวูบสูงจนท่วมหม้อ และมิได้มีแต่เพียงเปลวไฟเท่านั้นควันไฟก็มีจำนวนมากด้วย ยิ่งฟื่นที่ไม่แห้งสนิท
ควันไฟจะม้วนวนเต็มครัวไปหมด ดังนั้นหม้อข้าวหม้อแกงในครัวที่ใช้เตาฟืนจะมีเขม่าจับจนดำหนา
พอข้าวเดือดเปิดฝาหม้อทิ้งไว้ และต้องหมั่นใช้ทัพพีคนไม่ให้ข้าวติดก้นหม้อ ปล่อยให้เดือดสักพัก ใช้ทัพพีตักเมล็ดข้าวขึ้นมาดู เมื่อเห็นว่า
เมล็ดข้าวเริ่มเริ่มบานยกหม้อข้าวลงเช็ดน้ำ
ม้าเช็ดน้ำข้าวต่อด้วยไม้เนื้อแข็งมีความสูงคืบเศษ ๆ ด้านบนเว้นเป็นช่องไว้ขนาดฝ่ามือตลอดความยาว ด้านล่างมีกะละมังสังกะสีเคลือบหรือ
อ่างดินเผาปากกว้างเกือบศอกวางอยู่ ค่อย ๆ รินน้ำข้าวลงไปในอ่างน้ำข้าวจนน้ำข้าวลดระดับลงเสมอเมล็ดข้าว จึงปิดฝาหม้อ ถ้าเป็นหม้ออลูมิเนียม
ต้องใช้ไม้ขัดหม้อสอดร้อยหูหม้อทั้งสองด้านผ่านรูมือจับบนฝาหม้อจนแน่น
แต่ถ้าเป็นหม้อดินต้องใช้ผ้าขี้ริ้วที่สะอาดชุดน้ำบิดหมาด ๆ ควั่นหลวม ๆ คล้องเข้ากับหูหม้อทั้ง 2 ข้าง
ขมวดปลายผ้าพอแน่น นิ้วหัวแม่มือทั้งข้างข้างกดปลายผ้าขี้ริ้วลงบนฝาหม้อดิน
ค่อย ๆ เอียงปากหม้ด้านหนึ่งสอดลงไปช่องด้านบนม้าเช็ดน้ำข้าว น้ำข้าวจะไหลลงไปในกะละมังหรืออ่างดินเผาจนสะเด็ดน้ำ น้ำข้าวร้อน ร้อน ๆ
น้ำข้าวร้อน ๆ ที่เพิ่งเช็ดน้ำนี้อุดมด้วยวิตามิน เช้า ๆ ตาชอบแบ่งใส่ถ้วยโรยเกลือนิดน้ำตาลหน่อย ซดเป็นประจำ แล้วก็ล้อตัวเองว่ากิน "กาแฟหมา"
ยกหม้อขึ้นจากม้าเช็ดน้ำข้าว เขย่าหม้อเบา ๆ ให้ข้าวในหม้ออยู่ในระดับเดียวกัน ราไฟลงเตาลง เหลือไฟอ่อน ๆ นำหม้อข้าวที่เช็ดน้ำแล้ว
ขึ้นไป "ดง" โดยวางหม้อให้เอียงข้างลงโดนความร้อนด้านหนึ่ง แล้วหมุนให้ถูกไฟทั่วทั้งหม้อหลาย ๆรอบ
ระหว่างนั้นใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำหมาด ๆ เช็ดน้ำข้าวที่เปรอะเปื้อนข้างหม้อจนสะอาด เมื่อข้าวสุกแห้งสนิทดีแล้วจึงยกลงวางบน "เสวียน"
ทิ้งไว้ให้ระอุดีอก 10-15 นาทีก็กินได้
วันจันทร์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2556
เหลือเงิน 300 จะลองกินให้ได้วันละ 100 (16-17-18) ดูซิจะทำได้มั๊ย ..เงื่อนไขของแก ..ถ้าฉันทำได้ แกก็ต้องทำตามเงื่อนไขของฉัน คือ ..กูไม่เซ็นเอกสารใด ๆ เกี่ยวกับมรดกของคุณแม่
เหลือเงิน 300 จะลองกินให้ได้วันละ 100 (16-17-18) ดูซิจะทำได้มั๊ย ..เงื่อนไขของแก ..ถ้าฉันทำได้ แกก็ต้องทำตามเงื่อนไขของฉัน คือ ..กูไม่เซ็นเอกสารใด ๆ เกี่ยวกับมรดกของคุณแม่ / สมบัติของคุณแม่วิภา จงมีความสุข อายุสัก 150 ปี ค่อยตาย.. หรือถ้ากู นังปู สุวรรณา สุพรรณโกมุท อยู่ถึงวันที่แม่ตาย.. แล้วเขียนพินัยกรรม ไม่ยกสมบัติให้นังปู .ก็ไม่โง่เซ็น "ไม่ขอรับมรดก" ให้ใครอีก ลูกคนไหน หลานคนได้ สะใภ้ดี คนไหน..อยากได้..ก็ต้องรอกูตาย..ก่อนเหมือนกัน / หรือไม่ก็ ยกใส่ชื่อลูกดี หลานดี ให้เรียบร้อยซะก่อนตาย.. / เพราะถ้ามีชื่อ นังปู สุวรรณา สุพรรณโกมุท ให้รับมรดกสมบัติเป็นที่ดินหรือทรัพย์สมบัติใด ๆ เป็นชื่อรวม จะกี่คนก็แล้วแต่.. จะทำนิติกรรมใด ๆ กูไม่มีวันโง่เซ็นได้..ให้มันค้างเติ่งอยู่อย่างนั้น บอกแล้วนะ "อยากได้มรดก ก็ต้องรอกูตายก่อน" เพราะกูทำให้พวกมึงสบาย..ตอนพวกมึงสบาย กอบโกย รับมรดกอย่างถูกต้องตามพินัยกรรมของเตี่ย ที่ดิน 515 ตร.วา (5แปลง) หนองจอก มีนบุรี วาละเท่าไหร่.. บ้านเช่า ค่าเช่าอีกเท่าไหร่.. กูได้ค่า เซ็น "ไม่ขอรับมรดก 7 พัน" ค่ากินใช้เดือนละ 2,000 (แต่ค่าเช่าคงจะขึ้นราคาได้ทุกปี ตามสมควร)- ส่วนนังหลิน ไม่เคยต้องทำงานให้แม้แต่ขี้เล็บ กลับได้เงินไปเรียนปริญญาโท นิดา บริหารธุรกิจ ค่ารถมอเตอร์ไซค์เข้าออกซอยบุญอยู่ เข้าออก ก็ 20 บาท (แถมตกรถมอเตอร์ไซค์ให้เห็นต่อหน้าต่อตากูอีก 555) ไม่ยักกะรู้ กูทำงานช่วยพ่อแม่ทำมาหากินนี่ เป็นการทำใช้หนี้ให้น้องหนูหลิน พิมพา สุพรรโกมุท (เพราะคุณแม่เก็บสมบัติของอากงอาม่า ส่วนของพ่อหลินไว้ให้ ต้องคืนให้เธอ ผู้เป็นลูกสาว..) กูทำแทบตาย ตั้งแต่ตี 3 ยัน 3-4 ทุ่ม (ถึงไม่ใช่ทุกวัน ตลอดทั้งปี แต่กูก็ทำ ไม่เคยปฏิเสธว่า..ทำไมไอ้นั่นไม่ทำ ทำไมไอ้นี่ไม่ทำ แต่พวกมันได้มอเตอร์ไซค์ ขี่ไปเรียนหนังสือ ส่วนกูนั่งรถเมล์ สองแถว เดิน..ไปกลับโรงเรียน..ไหว้เจ้า ถ้าเป็นวันหยุด ก็กู อีนังปู ทำคนเดียว ตั้งแต่อุ่นไก่ต้ม เป็ดต้ม ยันตั้งโต๊ะ เปิดเป๊ปซี น้ำแดง น้ำเขียว.. ยันเก็บของไหว้ ทำหมูรวนไก่รวนเค็ม..ต้มเป็ดตุ๋น ข้าวมันไก่.. "อะไรอะไรก็กู" (ทำ)..แต่อะไร อะไรก็พวกมัน (ทำไม่ทำ)ก็ได้..สบายแต่ลูกชาย กับหลานสาว ทั้งนอกไส้ ในไส้.. "ไม่เอา อย่าไปว่าเขาน่า"..แอ๊ด คาราบาว..
ร้านขนมไทย ชูถิ่น 2 มีเทียนอบขนมขาย จำราคาไม่ได้ คงจะอันละ 200 กว่าบาท แป้งทำขนม ราคาสูงหน่อยแต่คุณภาพดี
ร้านขนมไทย ชูถิ่น 2 มีเทียนอบขนมขาย จำราคาไม่ได้ คงจะอันละ 200 กว่าบาท แป้งทำขนม ราคาสูงหน่อยแต่คุณภาพดี / https://www.facebook.com/fannyknit.soowannasoopankomut/media_set?set=a.518542181551228.1073741839.100001863536147&type=3 /
ถึงคุณสุชาติ สุพรรณโกมุท เอาเงินมาให้ลูกชาย2คน ขี่รถสองแสนมา..ไม่เห็นเลยเหรอว่าข้างบ้านเ 68/17 ซอยบุญอยู่...เอาไม้กระดานผุ มาเสียบกับท่อน้ำประปา จนท่อโก่ง
ถึงคุณสุชาติ สุพรรณโกมุท เอาเงินมาให้ลูกชาย2คน ขี่รถสองแสนมา..ไม่เห็นเลยเหรอว่าข้างบ้านเอาไม้กระดานผุ มาเสียบกับท่อน้ำประปา จนท่อโก่ง / เห็นมาน่าจะ 2 สัปดาห์แล้ว.. 68/17 ซอยบุญอยู่..เอาไม้กระดานเก่าขอบแตก ๆ มาเสียบไว้ ..ตอนแรกเห็นแค่เสียบที่สายยางประปา เส้นใหญ่ ที่กูต่อเป็นต่อน้ำทิ้งจากระเบียงชั้น 2 ..กลับบ้านค่ำ. เมื่อวาน 15 กค.56..ออกไปกินข้าว..กลับเข้ามาถึงเห็นโอ้โห..ไอ้เหี้ย..พวกแม่ง (ไอ้เจ้าของบ้านมันก็เดินเข้าเดินออกบ้านมัน รถสีเขียวก็จอดเกยหน้ารถมาเกินหน้าบ้านกู มันไม่เห็นหรือไง)..พวกแม่งเอาไม้กระดาน แผ่นใหญ่สูงเท่าคนกว้างกว่าโลงศพมาเสียบขัดงัดท่อประปา ที่ต่อขึ้นไประเบียงชั้น 2 ซะจนท่อประปาโก่ง..ถ้าแตกใครซ่อม (คุณนายวิภา จงมีความสุข บอกไม่มีช่างมาซ่อมไม่ใช่เหรอ) โครตมักง่ายเลย.. ตอนไปเอาใช้มือดึงไม้ออก เกือบทำหลอดไฟที่วางไว้ข้างประตูของบ้านเขาหล่นพื้น วางเอียง ถ้าหล่นมาแตก เราคงต้องมานั่งกวาดขยะพิษให้บ้านเขาอีก.. ไม่ต้องก้มติดพื้นก็มองเห็น..ปูนไม่ได้ปิด เห็นข้อต่อข้องอ ต่อท่อน้ำประปา.. มึงไม่เห็นเหรอไอ้คุณป๊อป ทำไมมึงไม่บอกให้เพื่อนที่แสนดีของมึง..สามัญสำนึกของพวกมันมีแค่นี้เหรอ.. /เมื่อเช้าออกจากบ้าน เห็นเขาเอาถุงขยะมากองบนไม้..กูกะยังงี้. ถ้ากูเห็นมันเอาไม้ขึ้นมาเสียบท่อประปา หรือล้ำเส้นกินอาณาเขตมาอีก..กูจะโทร.แจ้งตำรวจ สน.ดินแดง ให้มาดู และเรียกเข้าของบ้าน..มารับทราบการแจ้งความ ให้ตำรวจสน.ดินแดง ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน..ถึงหน้าบ้านเลย.. แก่จะ 50 แล้ว ..ไม่เคยเห็นมนุษย์ที่เห็นแก่ตัวโครต ๆ ขนาดนี้เลย (ซ้อ(เมีย)น้อยพูด "พี่ชายก็แสนจะดี๊ดี..ว่าง ๆ ไปหาหมอเช็คสมองเสียบ้างนะ) มึงบอกให้พวกมันไปหาหมอเช็คสามัญสำนึกซะบ้างนะ เพื่อนบ้างที่แสนดีของมึง..ไอ้ป๊อป..ส่วนท่อสายยางแม่งโดนความร้อน พองโก่งเลย..ไอ้เหี้ย ปกติมันจะแนบสนิทกับท่อประปา..ไอ้สัตว์นรก ว่าจะไม่ด่าแล้วเชียว.. / ตอนแรกเอาตีนเขี่ยไม้มัน ..แม่งถีบแรงแค่ไหนก็ไม่ออก..แม่งเสียบซะแน่นเลย..ไอ้นรกเอ๊ย...
วันเสาร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2556
Yam Sam Krob (Three of kind Crispy Salad) ยำ 3 กรอบ..
Yum Sam Krob
(Three of a kind Crispy Salad)
crisply freied dried shrimps 1/4 cup
dried smoked whisker sheat fish (ไม่ใช่ sheet เหรอ) 1/4 cup
crisply fried squid bladders 1/4 cup
(หนังสือทำไมพิมพ์ผิดพิมพ์ถูกนะ crispy หรือ crisply)
crispy pork sheets 1/4 cup
shredded green mango 1/4 cup
onion or shallots, cliced into long strips 1 cup
celery, cut into pieces 1/4 cup
lime juice 1/4 cup
fish sauce 1/4 cup
granulated sugar 1 tablespoon (tb.s.)
bird chilies, crushed 1-2 teaspoon (t.s.)
salad greens, cabbage and string beans cup
Preparations
1.Mix lime juice, fish sauce, sugar and bird chilies together. Taste to the desired flavors.
2.Add the onion, celery and green mango and mix well together. Then put in the remaining ingredients and serve with the salad greens or cabbage or string beans
Tips
Break into small pieces and deep-fry 5 ingredients to make crispy. serve : 2-3 persons
Steps
1.Shredded the green mango
2.Add the dressing to the sliced vegetables.
3.Put in all the remaining ingredients.
4.Mix well.
ceryly คึ่นช่าย
"เหตุเกิดที่ห้องสมุดซอยพระนาง" เอาอีกแล้ววัยทองกำเริบ.. คุณผู้ชาย อายุประมาณ 25 กว่า ๆ มานั่งตัดวงกลมลัคนา ดูดวง แกบ แกบ แกบ..เสาร์ 13 กค.56
"เหตุเกิดที่ห้องสมุดซอยพระนาง" เอาอีกแล้ววัยทองกำเริบ.. คุณผู้ชาย อายุประมาณ 25 กว่า ๆ มานั่งตัดวงกลมลัคนา ดูดวง แกบ แกบ แกบ..เสาร์ 13 กค.56 / ฮี เดินเข้าในห้องทำการบ้าน ด้วยฝีเท้าที่ว่องไว (วันนี้วันเสาร์ สมาชิกใช้บริการเยอะ แต่ก็ยังมีโต๊ะว่างอยู่ บ่ายแก่แล้ว) ฮีเดินตรงปรี่เข้ามาโต๊ะหลังสุดทันที มีคนนั่งอยู่ 3 คนแล้ว..ดูเหมือนฮีจะมั่นใจมากว่าว่าง..(ไอ้เราก็มองด้วยความสงสัย) แล้วฮีก็นั่งลงเอาสัมภารออกมา ..ก็นั่งไปสิ คุณมีสิทธิ์.. นั่งไป ก็หยิบกระดาษสี่เหลี่ยมผืนผ้าขึ้นมาตัดซอย แกบ ๆ ๆ ๆ เป็นแถบ..1 แถบผ่านไป..หยิบแถบที่ 2 ขึ้นมาตัดอีก (เราก็ไม่ได้สนใจ คงจะแป๊ปนึง) ต่อจากนั้นก็หยิบโทร.มือถือขึ้นมาเป่า ฮวู๋ ๆ ๆ เช็ด ๆ ...สักครู่ หยิบขึ้นมาเป่าอีก ฮวู่ ๆ ๆ ..(สะอาดลังยังคะ)...นั่งไป เธอก็หยิบ "วงกลมลัคนาราศี" ดูดวงขึ้นมา เอากระดาษขาว ๆ ขาวกว่าวงกลม มาแปะด้านหลัง 2 ชิ้น เล็งให้สวยงาม.. เธอก็แปะไป ไม่รู้กี่ชิ้น..สักพัก ได้ที่..ฮีเอากรรไกรเล็ก..ยาวประมาณ 4 นิ้ว ปลายมน..ขึ้นมาตัดวงกลม ใช้ปลายกรรไกรค่อย ๆ ตัด ทีละแกบ แกบ แกบ..(ทีละ 3 mm.) ก็ปล่อยให้เธอตัดไป...กี่ชิ้นแล้วไม่รู้ เธอตัดเสร็จก็วางกรรไกร กอกแกก..ตัดแล้วาง ตัดแล้ววาง..โอ๊ยประสาทจะแดก..เสียสมาธิ.. ไม่ไหวแล้วโว้ย..หยุดจด หันหน้าไปมอง ฮีตัด ทีละแกบ ๆ ฮีก็หันมามองหน้าเรา..แล้วไง ..ตัด 1 อัน..จบ ..มอง ตัดอีก 1 อันเราก็นั่งจองมอง ก็ไม่เคยเห็นนี่.. /ลุ้นว่าจะตัดเสร็จเมื่อไหร่..กรรไกร ปลายมีกาวเหนียว ๆ ...ชะเง้อไปมอง.. ปรากฏว่า.ฮีไม่ได้มานั่งอ่านหนังสือ หรือหาความรู้ ไม่มีสมุดจดอะไร..ข้างซ้ายของโต๊ะ ซ้ายมือของฮี..มีกองปึกกระดาษ print วงกลมลัคนา.เต็มแผ่นเป็นปึก..สงสัยกะทำให้เสร็จในห้องแอร์นี้กระมัง.. / เราเอาปากกา โยนลงกับโต๊ะ สลับกันหลายด้าม..จัดเสียงไปบ้าง..น้องผู้หญิงข้าง ๆ หันมามอง. อยู่เฉย ๆ น้อง.. ป้าจะลอยไอ้พวกใช้ห้องสมุดผิดวัตถุประสงค์ นี่ถ้าคุณ รปภ.มาเห็น..ก็ต้องโดนตำหนิ ทักท้วง (คงรู้น่ะสินะ ถึงได้เข้ามุมอ้บ มุมหลบ ไมมีกล้อง วจป.ส่อง) ชักฉุน ..ฮี..ฮีก็ลุกจากเก้าอี้ไป..แล้วก็หันมามองหน้าเรา..เอาเหรอ..เราก็ลุกเดินตามไปเลย.. ฮีเดินไปถึงประตูกระจก ก็ยังหันมามอง เราเดินตามทันแล้วล่ะ.. ออกห้องหนึ่ง ก็ยังหันมามอง.. เราก็เดินตามทัน กระชั้นชิด.. ฮีเข้าห้องน้ำ เราก็เดินเข้าห้องน้ำ ล้างมือ..ฮีออกมาจากห้องน้ำ เราก็เดินออกมาจากห้องน้ำ เจอฮีพอดี..ฮีเดินเข้าประตูกระจก เราก็เดินตามทันที ฮีถึงโต๊ะของฮีแล้ว.. เราก็ถึงเหมือนมัน เอามือถกแขนเสื้อ..2 ข้าง (ปกติก็ต้องทำอยู่แล้ว เพราะคอเสื้อกว้าง ต้องเอาไหล่มาเหน็บกับสายเสื้อในข้างใน) ..ดูเหมือนนักเลง กูพร้อมลุยแล้ว.. ฮีคงร้อน.. จัดข้าวของ สะพายกระเป๋า (ขนาด 1/2 A4 ดูจากท่าเดิน ก็คงแต๋วนิด ๆ ) นุ่งกางเกงขาสั้น ลายสก๊อต เสื้อยืดแขนสั้น... หอบปึ๊งกระดาษออกไปนอกห้อง. ฮีลุกไปแล้ว..จะหันมามองหรือไม่ เราไม่สนใจ..เพราะมันไปแล้ว..แต่ถ้าพาแต๋ว พรรคพวกมาดักตีกูล่ะก็ ค่อยมากันใหม่.. ไม่ได้ไปลงบันทึกประจำวันที่ สน.ดินแดง เพราะยังไม่มีปากเสียง (ทั้งที่อยากมี วันนี้ห้องสมุด คนเต็มห้องเลย) ..และยังไม่มีการทะเลาะวิวาท.. เลบมาลงบันทึกประจำวันส่วนตัว.. / อีกราย.. ป้าเพี้ยนขาประจำ ตอนเราเดินตามไอ้หนุ่ม เข้าห้อง เดินเข้ามา ป้าเพี้ยนก็หันมามอง เราก็หันไปเห็น ตาต่อตามาประสาน.หึหึ เห็นแก่นั่งอยู่บนม้านั่งยาว (วันนี้คงไม่มีโต๊ะให้แกถอดถุงตีขึ้นมาวาง ไม่มีเก้าอี้ให้แก ยกขาขึ้นมาผึ้งเท้าลอย ๆ ใต้โต๊ะ ตากลมให้เท้าแห้งจากเหงื่อกระมัง).. เวลาป้าเพี้ยนเดินออกจากห้อง..แอบมอง..ป้าแกเอามือข้างขวา ยกสูงกว่าที่จับ..แล้วเอามือดันกระจก.. (คงไม่อยากให้มือสัมผัสที่จับประตู เดี๋ยวจะติดเชื้อโรค).. / ส่วนคู่กรณีเก่า ลุงใส่สร้อยข้อเท้า..แกก็เอากระดาษขึ้นมาตัด เอาคัตเตอร์กรีดตัด ๆ ๆ ได้ยินเสียงวางคัตเตอร์ ..แต่ก็อยู่คนละโต๊ะ คนละมุมห้อง..เลยไม่อยากยุ่งด้วย../
วันศุกร์ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2556
fannyknit googledoc. แชร์แล้วนะคร้าบ พิมพ์สูตรอาหาร จดไม่ไหวอ่ะ
fannyknit googledoc. แชร์แล้วนะคร้าบ พิมพ์สูตรอาหาร จดไม่ไหวอ่ะ / ใครที่เปิด googledoc ไว้ ลองดูนะฮับว่ามีแชร์ไปถึงหรือเปล่า (กี่มือ..ดอกเท่าไหร่) จะบ้าเหรอ.. share สูตรอาหาร..ต่อไป จะเป็นการ เขียน ingredients ภาคภาษาปะกิด..ไม่เก่งเลย ขอบอก ...ส่วน fannyknitpoo ที่เพิ่งเปิดหายไปแว้ว..ใช้ชื่อเก่า ลืมไปแล้วว่ามี..
วันพฤหัสบดีที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2556
"สวัสดีค่ะ" น้องหนู หลิน พิมพา สุพรรณโกมุท (อาอึ้มบอก "อย่าไปว่ามัน(หนู) ว่าปุ๊ปมาหาทันที" แล้วทำไมฉันว่าเธอน้องหนู หลิน ไม่เห็นออกมาสักที..ขุดรู มุดหัวอยู่ที่ไหน
"สวัสดีค่ะ" น้องหนู หลิน พิมพา สุพรรณโกมุท (อาอึ้มบอก "อย่าไปว่ามัน(หนู) ว่าปุ๊ปมาหาทันที" แล้วทำไมฉันว่าเธอน้องหนู หลิน ไม่เห็นออกมาสักที..ขุดรู มุดหัวอยู่ที่ไหน / จบปริญญาโท นิด้า บริหารธุรกิจ แล้วไง.. ฉันถามน้องที่ขายผักหน้าบ้าน..ว่า "เคยเห็นน้องผู้หญิง มากับพี่ป๊อปบ้างหรือเปล่า (ที่ไม่ใช่เมียมันน่ะ)" เขาบอก "ไม่เห็นนะ อย่างวันก่อน พี่ป๊อปก็มาคนเดียว" ทำไมน้องหนู หลิน พิมพา สุพรรณโกมุท ไม่ไปหาอาอึ้มบ้างคะ.. ฉัน นังปู สุวรรณา สุพรรณโกมุท..ตื่นมาไปตลาด (วันที่ไม่ได้ไปโรงเรียน) ตี 3 ไปตลาดกับอาอึ้ม อาแปะทุกวัน ..กลับมาก็ต้องช่วยขึ้นของ ยืนขายของกับอาอึ้มทุกวัน วิ่งเข้าวิ่งออกหยิบเลือดหมู.. ทำกับข้าว..เฝ้าให้อาอึ้มนอน..หวาดบ้าน ล้างจาน ล้างถาดใส่ไก่ ปลา กุ้ง หมึก หอยสารพัดหอย... เธอทำอะไรบ้าง..ทำบุญด้วยอะไร ถึงได้มีวาสนา..ได้เงินไปเรียนปริญญาโท นิด้า บริหารธุรกิจ กับเงินกินใช้รายวันอีกไม่รู้เดือนละเท่าไหร่.. ขอให้ความตัญญูรู้คุณ ของ น.ส.พิมพา สุพรรณโกมุท จงเจริญ..นี่ถ้าฉัน นังปู อยู่บ้านนอก ..คงไม่ได้มาเขียนคิดถึงเธอขนาดนี้หรอก.. แต่ไม่ต้องกลัวนะ.. นี่ของฟรี เป็นสมาชกห้องสมุด ปีละ 40 บาท..ไม่ได้ไปเสียเงินค่าร้านเน็ต ชม.ละ 15 บาท..เพราะจนไม่มีจะแดก..จดหมายหนี้เบอร์ทรูมูฟ ไม่เคยได้รับ ทั้งปีทั้งชาติ.. สุดท้าย หนี้ 4,500 ต้องมารับผิด ชดใช้หนี้เอง.. ส่วนเธอเงิน น้องหลิน เงินเดือนไม่พอใช้.. อาอึ้มบอก "เค้าไม่พอใช้ แค่มาขอเงินใช้นิด นิด หน่อย หน่อย อย่าไปอิจฉาเค้า"...ถ้ากูยังไม่ตาย..มึงกับกู..ต้องได้เจอกัน จริงมั๊ยคะ..
เจอบ่อยทุกวันเลย..ไม่รู้สะอาดจริงหรือดัดจริต แสดงว่าคุณนายเยา (เมียป๊อป)ก็สะอาดเหมือนกัน รายนี้เอาถุงตีนขึ้นมาวางบนโต๊ะอ่านหนังสือ วารสารอ่านแล้วกองแหมะบนโต๊ะ
เจอบ่อยทุกวันเลย..ไม่รู้สะอาดจริงหรือดัดจริต แสดงว่าคุณนายเยา (เมียป๊อป)ก็สะอาดเหมือนกัน รายนี้เอาถุงตีนขึ้นมาวางบนโต๊ะอ่านหนังสือ วารสารอ่านแล้วกองแหมะบนโต๊ะ / คุณป้าแกเดินเข้ามา เดินหาโต๊ะที่เหมาะ ๆ จะเอาเย็นหรือเอาร้อนก็ไม่รู้ พอได้ที่ก็..อ้อก่อนนั่ง..ก็เอาวารสาร (ที่ห้องสมุดเขาเขียป้ายบอก ให้อ่านเฉพาะชั้น 1) แกเอาของเก่าขึ้นมาอ่าน คราวละ 3 เล่มโดยประมาณ ก่อนนั่งแกจะเอาวารสารเล่มใหญ่ บาง ปาดกวาดบนโต๊ะ (ไม่รู้กวาดอะไร) ลงเก้าอี้ลงพื้น..แล้วก็เอาเล่มนั้น กวาดที่เก้าอี้..ลงพื้นต่อ..อนิจจา สะอาดจริง.. ว่าแล้วก็นั่งแหมะ..ได้ที่ก็ถอดถุงตีน (ถุงเท้า)ใส่รองเท้าแตะ..ถุงตีสีเนื้อ..วางถุงตีนซะบนโต๊ะอ่านหนังสือเลย..ข้าง ๆ (ก็ใครนั่งข้าง ๆ ก็รู้สึกยังไงไม่รู้นะ) ไอ้เราก็ชอบเสือก ..มองเหล่ ๆ ด้วยสายตาที่รังเกียจ..อะไรวะ ..พอแกจะเข้าห้องน้ำก็ใส่ถุงตีน,,ออกจากห้องน้ำมานั่งที่ ก็ใส่ถุงตีนใหม่... เปิดหนังสือดูภาพ มีอ่านบ้างเล็กน้อย.. กรีดหักกระดาษหลังเล่ม กรีดให้เปิดหน้าซ้ายไป..มีเสียง..ปริด ๆ ๆ ๆ../ ว่าแล้ว...เสร็จภารกิจ..ก็ควักถุงก๊อบแก๊บ..ออกมา นำเอกสารออกมาจากถุง..คุณพระช่วย กล้วยทอด..ที่แท้คุณป้าเธอก็เป็น "เจ้าแม่เซียนหวย" แน่แท้..เพราะเธอเอาใบตรวจหวยเป็นปึกออกมาวิจัย ค้นหา ตัวเลข งวดต่อไป(กระมัง) แกก็มีเหล่มา..แล้ว 2 วันถัดไป แกก็นั่งห้องแรก สุดท้ายก็มานั่งห้องหลัง.. แปลกมาก หลังเสร็จภารกิจ วารสารกี่เล่มต่อกี่เล่มที่ป้าแก่หอบขึ้นมา.. แกก็กองกระจายบนโต๊ะริม ๆ ...ให้จนท.ห้องสมุดมาเก็บเอาลงไปเอง.. (โครตมักง่ายเลย) ตูดลุกจากเก้าอี้..ก็มีการสำรวจโต๊ะว่ามีอะไรลืมไว้หรือเปล่า..ยัง เท่านั้นยังไม่พอ..เดินจากโต๊ะไป..เดินกลับมาอีก เปิดหนังสือ..วารสาร กรีด..ทั้งเล่มทุกเล่ม.. (คงจะหาว่าลืมใบตรวจหวยในนั้นหรือเปล่านะ)..แล้วก็สะบัดตูดเดินออกไป ..โดยไม่เก็บเก้าอี้เข้าที่.. แต่ตอนดึงออกจากโต๊ะ ลากพรืด ขาเก้าอี้ขูดพื้น..แกรก ๆ ๆ ๆ ...คาบขึ้นมาได้ แต่คาบลงไปเก็บที่เดิมไม่ได้ ....ทำให้นึงถึงคุณนายเยา เมียคุณป๊อป สุชาติ สุพรรณโกมุทเลย.. ชอบเอารองตีน ไม่ว่าจะเป็น อีแตะ หรือรองเท้าหุ้มส้น ขึ้นมาวางบนโต๊ะเหล็ก (โต๊ะบัญชี..แม้แต่วางบนกล่องหมูหยอง (สังกะสี) ใส่ของ ของคุณแม่วิภา ..เธอก็วางบนกระป๋องข้างบันได้..แม้แต่รองตีนยังวางไม่ติดดินเลย..) พูดกับผัวว่า "มันหยิบง่ายดี ไม่ต้องก้ม" (โอ้ บรรพบุรษคงสั่งสอน หรือถ้าไม่สั่งสอน ก็คงเป็นมาโดยสายเลือดอันเข้มข้น..ระวังลูกสาวจะเป็นเหมือนแม่นะคะ..) เพราะลูกสาวที่ไม่เป็นเหมือนแม่ แสดงว่า "พยาบาลหยิบผิด" "หมอเซ็นผิดว่าเป็นลูกของแม่คนนี้" 555... / อ๋อใช่.รองเท้าลูกสาวมัน ก็หยิบขึ้นมาวางบนตู้กระจก หน้าห้องนอนชั้น 3 (ห้องแอร์) ในตู้กระจกก็เก็บรองเท้าบู๊ธหนัง ยาวถึงแข้ง..1 คู่.... เจริญล่ะ แมคู๊ณ...
ไวจริงนะพ่อ..พิมพ์เสร็จปุ๊บเปิดปั๊บ..
ไวจริงนะพ่อ..พิมพ์เสร็จปุ๊บเปิดปั๊บ.. / สถิติการเปิด post อ่าน 1...
12กค.56..เดินออกจากบ้าน เจอคุณยาย "หนูขอถามอะไรหน่อย ท้องหรือเปล่า ทำเหมือนท้อง มีน้ำในท้องเหรอ ไม่เจาะเหรอ หมอไม่ได้บอกหรือคะว่าป็นอะไร"
12กค.56..เดินออกจากบ้าน เจอคุณยาย "หนูขอถามอะไรหน่อย ท้องหรือเปล่า ทำเหมือนท้อง มีน้ำในท้องเหรอ ไม่เจาะเหรอ หมอไม่ได้บอกหรือคะว่าป็นอะไร" / "ไม่ได้บอกค่ะ" (เพราะไม่มีปัญญาไปหาหมอ..ไม่เหมือนคุณชายชาติ,เทพ... อะไรก็รักษาโรงพยาบาลเปาโล..โรงพยาบาลโสธราเวช หรือไม่ก็ รพ.กรุงเทพคริสเตียน) ถ้าหนูไม่อยากตาย..ไปหาหมอ ต้องไปรักษากับหมอ 30 บาท รักษาทุกโรค.. ขี้เกียจ...ต้องไปถึงถนนสี่พระยา..ทั้งทีนอนดาดฟ้าหลังคารั่วที่ซอยบุญอยู่ คลินิกเวชกรรมก็อยู่ใต้ทางด่วน เดินไปก็ถึง..แต่ต้องเสียค่ารถปอ.36ไปสี่พระยา..ไปกลับก็ปาเข้าไป เกือบ 40 บาท (ไม่รวมค่ามอเตอร์ไซค์เข้าออกเที่ยวละ 10 บาท)... เมื่อเช้าเห็นมีขี้หนู 1 เม็ดในห้อง..สดใหม่ ดำอยู่...แสดงว่ามีหนูเข้าห้องนอนสวรรค์ชั้นดาดฟ้าได้.. ทั้งที่เอาสังกะสี (เศษเหลือทำปะหลังคาดาดฟ้ารั่วคราวก่อน) มาปิดกั้นแล้วปิดประตู ทุกครั้ง..หรือน้องหนู (ไม่ใช่หลิน พิมพา สุพรรณโกมุท) จะเข้ามานอนเป็นเพื่อนเสียแล้วก็ไม่รู้..มังคะ
รพ.เด็ก ชวนเช็กการได้ยินของลูก ..นิตยสารรักลูก
รพ.เด็ก ชวนเช็กการได้ยินของลูก ..นิตยสารรักลูก / การได้ยินเป็นส่วนสำคัญของการพูดและพัฒนาการทางภาษา โดยเฉพาะในช่วง 3 ขวบปีแรกของชีวิต เพราะความผิดปกติทางภาษาและพัฒนาการพูดช้าในเด็กที่พบได้บ่อย มักเกิดจากความบกพร่องทางการได้ยินค่ะ และการได้ยินบกพร่องยังส่งผลกระทบต่อการติดต่อสื่อสาร ความจำ พฤติกรรม การพัฒนาทางอารมณ์และสังคม ความสามารถในการเรียน โดยรัฐบาลต้องสูญเสียรายได้เพื่อรักษาพยาบาล ฟื้นฟู รวมทั้งจัดการศึกษาให้แก่เด็กที่มีภาวะหูหนวกและเป็นใบ้เพิ่มขึ้น **** ในประเทศที่พัฒนาแล้ว พบว่าทารกแรกเกิด 1,000 คน จะมีการได้ยินบกพร่องประมาณ 1-2 คน และพบอุบัติการณ์เพิ่มขึ้นเป็น 10-20 เท่า ในทารกแรกเกิดที่มีปัจจัยเสี่ยงต่อการได้ยินบกพร่อง ขณะที่ประเทศไทยมีการศึกษาอุบัติการณ์ภาวะการได้ยินบกพร่องในทารกแรกเกิดเท่ากับ 1.7 ต่อทารกแรกเกิด 1,000 ราย *** ด้วยเหตุนี้ สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี จึงได้จัดบริการตรวจวินิจฉัยภาวะสูญเสียการได้ยิน โดยเครื่องมือตรวจวัดการได้ยินระดับก้านสมอง (Auditory Brainstem Reponse) เพื่อใช้ตรวจเด็กที่มีภาระวะสูญเสียการได้ยิน ซึ่งแต่ละปีจะมีเด็กถูกส่งมารับการตรวจวินิจฉัยด้านโสต ศอ นาสิก กว่า 16,000 ราย และมีแนวโน้มมากขึ้นในแต่ละปีด้วย พ.ญ.ภาวินี อินทกรณ์ กลุ่มงาน โสต ศอ นาสิก สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี บอกว่า "จากสถิติผู้ป่วยที่ได้รับการส่งมาที่กลุ่มงานโสต ศอ นาสิก ในปี 2552-2554 พบว่าผู้ป่วยที่ได้รับการส่งต่อเพื่อตรวจการได้ยินระด้บก้านสมองเพื่อหาความผิดปกติของการได้ยินอันดับแรกของสถาบันฯ คือผู้ป่วยที่มีพัฒนาการด้านการพูดและการสื่อสารที่ช้า (Delayed speech) ,ภาวะสูญเสียการได้ยินร้อยละ 18.1 ซึ่งหมายความว่าทารกเหล่านี้อาจมีโอกาสกลายเป็คนพิการทางการได้ยินหรือกาพรูด หรือมีความบกพร่องในการเรียนรู้ในอนาคต**** เนื่องจากเด็กเล็กหรือทารกแรกเกิดยังไม่สามารถบอกได้ว่า เขามีการได้ยินปกติหรือไม่ ดังนั้น เพื่อให้การค้นหาเด็กที่มีการได้ยินบกพร่องพบได้ตั้งแต่อายุน้อย เพื่อให้สามารถฟื้นฟูสมรรถภาพ ที่เหมาะสมได้เร็ว และช่วยเพิ่มความสามารถในการติดตื่อสื่อสารได้ดีขึ้น พ่อแม่จึงควรพาลูกไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านตหู คอ จมูก ทันที่ที่สงสัยสว่าลูกมีการได้ยิผิดปกติ หือมีพัฒนากรทางภาษาล่าช้ากว่าเด็กวัยเดียวกัน โดยมีอาหารเหล่านี้ อาทิ * เด็กอายุน้อยกว่า 6 เดือน ไม่สะดุ้งตกใจเวลามีเสียงดัง ไมหันหาเสียง * เด็กอายุระหว่าง 6 เดือนถึง 1 ปี ไม่ตอบสนองต่อเสียง เรียกชื่อไม่หัน ไม่เข้าใจคำสั่งง่าย ๆ * เด็กอายุระหว่าง 1 ปี 8 เดือน ถึง 2 ปี แต่ยังไม่สามารถพูดคำที่มีความหมายได้ ซึ่งพ่อแม่ผู้ปกครองสามารถพาลูกน้อยไปเข้ารับการตรวจวินิจฉัยได้ที่สถานพยาบาลใกล้บ้านทั่วประเทศ" และด้วยการสนับสนุนอุปกรณ์ เครื่องมือแพทย์ จากสโมสรซอนต้า กรุงเทพ 3 ทางสถาบันฯ จึงได้จัดโครงการ "ตรวจหูให้รู้ว่าหนูได้ยินไหม" โดยมีเป้าหมายในการลดคิวการตรวจจวินิจฉัยให้อย่างทั่วถึงและทันต่อปัญหา สามารถป้องกันแก้ไขความผิดปกติแต่เนิ่น ๆ ในด็กตั้งแต่อายุยังน้อยอย่างเป็นระบบ เพื่ออเพิ่มความสามารถในการติดต่อสื่อสารสร้างโอกาสในด้านการศึกษา และยกระดับคุณภาพชีวิตของเด็กและยาวชนไทยนั่นเองค่ะ
วันอังคารที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2556
"ห่อหมกมะพร้าวอ่อน" หนังสือ "อาหารยัดไส้" สนพ.แสงแดด...
"ห่อหมกมะพร้าวอ่อน" หนังสือ "อาหารยัดไส้" สนพ.แสงแดด... / หัวกะทิ 3/4 ถ้วย / แป้งข้าวเจ้า 1 ชต. / เกลือป่น 1 ชช. / ใยยอฉีกลวก 1 ถ้วย /มะพร้าวอ่อน เฉาะปากกว้าง 3 นิ้ว แทน้ำออก 2 ผล / ครกดินสำหรับคนห่อหมก ยอดโหระพาสำหรับตกแต่ง / ไส้ /ปลากะพง (400-500 กรัม) 1 ตัว / กุ้งแชบ๊วย (ตัวละ 40-50 กรัม) 6 ตัว / ปลาหมึก (ตัวละ 80-90 กรัม ) 2 ตัว น้ำ/ พริกแกงคั่ว 4 ชต. 4 ชต. (สูตรหน้า 17) / หัวกะทิ 1 ถ้วย / ไข่เป็ด 1 ฟอง / น้ำปลา 1 ชต. / ใบมะกรูดซอย 1 ชช. / พริกชี้ฟ้าสีแดงหั่นฝอย 1 เม็ด / วิธีทำ 1.ทำไส้ โดยขอดเกล็ดปลา ควักเหงือกและไส้ออกจนมด แล้วแล่เนื้อปลาทั้ง 2 ด้าน ซับน้ำให้แห้ง แล่เอาหนังปลาออก หั่นเนื้อปลาเป็นชิ้นพอคำ ใส่ถ้วยไว้ กุ้ง แกะเปลือก เด็ดหัวเด็ดหาง ผ่าครึ่งตัวกุ้งตามยาว ใส่ถ้วยไว้ ปลาหมึกลอกเอาเยื่อออก ดึงหัวออกจากตัว หัวบีบยเอาตาออกพร้อมกับกรีดถุงหมึก ล้างใส่ถ้วยไว้ ตัวปลาหมึกหั่นเป็นแว่นขนาด 0.5 ซม. ใส่ลงในถ้วยเดียวกับหนวดปลาหมึก /2. ใส่น้ำพริกแกงคั่วในครก ตามด้วยหัวกะทิ 1/2 ถ้วย คนด้วยพายไม้ให้เข้ากันดี จึงใส่เนื้อปลา กุ้ง ปลาหมึก คนต่อจนห่อหมกข้น น้ำพริกแกงและกะทิซึมเข้าเนื้อปลา ต่อยไข่ใส่ คนพอเข้ากันทั่ว จึงค่อย ๆ ใส่กะทิที่เหลือจนหมด ใส่น้ำปลา คนจนเข้ากัน เติมใบมะกรูด และพริกขี้ฟ้าอย่างละครึ่ง คนอีกครั้งให้เข้ากัน /3 เคี่ยวหัวกะทิในหม้อใบเล็กด้วยไฟอ่อนจนเดือด จึงละลายแป้งข้าวเจ้ากับน้ำเล็กน้อยใส่ คนให้เข้ากันทั่ว แป้งมีลักษณะข้น ปรุงรส ด้วยเกลือ คนจนเข้ากันทั่ว ปิดไฟ พักไว้ /4. ใส่ใบยอลงในมะพร้าวอ่อน ตักห่อหมกใส่จนเต็มพูนเล็กน้อย จึงนำไปนึ่งในลังถึง บนหม้อน้ำเดือด ด้วยไฟแรง นานประมาณ 30 นาทีหรือจนุก เปิดฝา หยอดหัวกะทิ โรยใบมะกรูดและพริกชี้ฟ้าที่เหลือ นึ่งต่ออีกประมาณ 5 นาที ยกลง จัดใส่จาน ตกต่งด้วยยอดดโหระพา เสิร์ฟร้อน ๆ (4 คนรับประทาน)
นิดา ปริญญาโท บริหารธุรกิจ น.ส.พิมพา สุพรรณโกมุท ...มีใครรู้จักบ้างมั๊ยคะ..หายตัวออกจากบ้านอาไปหลายปีแล้ว..ไม่รู้เอาเงินที่ไหนไปเรียนปริญญาโท...
"งูเข้าห้องน้องเล็ก" ใครคือน้องเล็ก..ก็ "ห้องป้อมไง" (เสียงเบาค่อย..ไม่มีน้ำหนักเสียง) / "ทำบ้านให้สะอาดด้วยนะ เข้าใจมั๊ย" (อันนี้เสียงดังหนักแน่น เน้นย้ำ) / งูเข้าห้องน้องเล็ก / "อะไรนะ" / "งูเข้าห้องป้อม" / "อะไรนะ งู" / "เออใช่" เสียงเบามาก ไม่เต็มเสียง" / "มาทุกวันที่ 10 20 30 นะ มีให้ใช้แค่นี้" / "อะไร ไม่ได้ใช้ คิดเงินได้ไง..ไหนบอก ไม่จ่ายเดือนก็ตัดแล้วไง" / "ใครพูด..ยังไม่เคยพูดเลย" / เสียงดังหนักแน่น แต่ไม่โวยวาย "ไปบอกเค้า ว่าแม่บอกให้ยกเลิก แล้วไปผ่อนใช้หนี้ให้เค้าเอาเอง เดือนละ 100 200" (ย้ำอีกที) / ไปถึงเอาจดหมายบิลแจ้งหนี้ ของ TRUE MOVE H ให้ทันที.. กับใบรายการซื้อของลายมือคุณป๊อป.."นี่เอามาให้ทำไม" เอาคืนไป / มีมัดในหนังยางมา 2 ใบ..ใบล่าสุด บิลเดือน 7 จดหมายไม่ได้ถูกแกะออก.. (ตั้งแต่บิลใบแรกไม่เคยให้นังปู สุวรรณา สุพรรณโกมุท) แม้แต่ใบเดียว..มาให้ใบสุดท้าย..เปิดออกดู หลังจากคราวที่แล้วมาเอาสองพัน จ่ายตัดยอด 100 บาท...ยอดรายเดือน ถามจนท.แล้ว เขาบอก คิดเป็นรายเดือน ซึ่งเฉลี่ยเป็นรายวันแล้ว (ถาม 2 ครั้ง ตอบ 2 ครั้งเหมือนกัน) "นี่เป็นบิลใบสุดท้ายแล้วใช่มั๊ยคะ" / "ใช่ค่ะ" / คลิก เบอร์นี้ cancled ไปแล้วค่ะ..ยอดคงเหลือตามใบแจ้งนี้ กลายเป็น 4,510.... บาท) กลายเป็นว่า คนอื่นทำให้เสียทรัพย์ ต้องรับผิดหนี้ (ไม่มีรับชอบ) เอาเอง... / เดือนละ 200 4,500 บาท ต้องเสียเงินอีกกี่เดือน ถึงจะใช้หนี้หมด..."เหน่ง" ลูกหงี่หยี..เอาที่บ้านไปกู้กับแบงค์ เป็นขี้หนี้เกือบล้าน เล็กพี่สาวคนเดียวทำไร่อ้อย ใช้หนี้ให้ทั้งหมด.. ถึงจะมีด่า แต่ก็เคลีย์ให้จนหมด.. หมดหนี้แล้ว..ไม่ทำงานอะไรก็ไม่ว่า ขออย่างเดียวอย่าเล่นยา..แม่กับพี่สาว ทำไมจะไม่อยากให้ลูกชายคนเล็กสุด อยู่บ้าน..พวกเขากลัวลูกจะเล่นยา(บ้า)กับพวกแถวบ้าน..เลยจำเป็นต้องไล่ให้ไปทำงานที่กรุงเทพฯ.. / บางคนก็มีเงินค่าเช่าเก็บกิน มีทุนที่ดิน มีทุนลงทุนขายโชห่วย ในย่านที่ความเจริญยังเข้าไปไม่ถึง และไม่มีวันถึง เพราะเป็นแนวท่อก๊าซ ปตท. เขาไม่ให้ขุด ไม่ให้เจาะ ..ปลูกบ้านชั้นเดียวยังเสี่ยงต่อท่อก๊าซแตกเลย..ไม่มีชุมชนหนาแน่น../ แต่เขาก็ขายจนร่ำรวย มีเงินมีทอง มีรถมอเตอร์ไซค์ขี่คันละสองแสนหก (ไม่รวมอุปกรณ์ตกแต่ง ชุดแต่งตัว ดำสนิท) ...มีเงินจ่ายค่าเบี้ยประกัน มีเงินจ่ายดอกเบี้ยค่าบัตรเครดิต จ่ายค่าน้ำมัน มีเงินให้ลูกสาวเรียนโรงเรียน สารสาสน์วิเทศฯ.. กูทำทุกวัน..รับจ้าง ..สุดท้ายได้กินวันละ 144 บาท เดือนละ 4,000 ส่วนน้องหนู หลิน พิมพา สุพรรณโกมุท ไม่เคยต้องทำงานอะไร ไม่ต้องถูกไม้กระทุ้งเหล่าเต๊ง.."ตื่น ๆ จะนอนกินบ้านกินเมืองรึไง" ลงมาช่วยจัดของ ขายผัก ...มาอยู่ กิน ฟรี เรียนปริญญาโท (ฟรี )นิดา บริหารธุรกิจ ..มีเงินไปนิดา อย่างน้อย ก็ต้องมีวันละ 200 (เดือนละ 6,000) โดยที่ไม่ต้องเคยทำอะไร ปัจจุบัน (ขณะที่เรียนโท) ก็ไม่ต้องทำอะไร..อนาคตก็ไม่ต้องทำอะไร ไม่ต้องใช้หนี้..แค่ทุกกุดจีน (ตรุษจีน) มีเงินเก็บมาให้อาอึ้ม ปีละ 5,000-6,000 บาท (ตกเดือนละ 500) บาท ..แถมได้หน้า "เค้าดีกว่ามึง ทุกกุดจีน ยังเอาเงินมาให้กู ปีลห้าพันหกพัน..มึงเคยให้เงินแม่มึงสักบาทหรือเปล่า"...สาธุ สาธุ สาธุ / ความหลงรูจงเจริญ../ จะว่าไปแล้ว งูจะเข้าได้ยังนะ หลังบ้าน มีกำแพง ผนังบ้านห้องเก็บของ (เคยนอนมาแล้ว) ก็ห่างจากกำแพงรั้ว กว้างพอที่คนอ้วนตัวใหญ่จะเดินได้..บ้านตำรวจใหญ่ด้านหลังก็ไม่มีต้นไม้ยื่นกิ่งก้านเข้ามา..ส่วนหน้างบ้าน เป็นกันสาด ติด ๆ กันกับข้างบ้าน นังปูซื้อลวดกรงไก่ติดมุ้งลวดอีกต่างหาก ท่อระบายน้ำก็เป็นท่อลงล่าง ไม่ใช่รูเปล่า ๆ หรือจะจะเป็นรู งูมันจะหักพวงมาลัยเลี้ยวเข้ารูได้อย่างง่ายดายขนาดนั้นเชียวรึ.. ไม่มีป่า กัดสาด ยาวตั้งแต่ร้านค้าแม่กิ๊ฟ ไปยังโน่น..ทำไมงูไม่แวะเข้าบ้านอื่นก่อน..หรือบางทีงูอาจจะได้กลิ่นหนู เลยเข้ามากินเป็นอาหาร (ก็บ้านนี้มีแต่หนู ไม่รู้รูรังอยู่ที่ไหน) บ้านนี้นังปู กับ เด็ก 2 คน ก็ไม่ได้อยู่คนเดียว..ทำไมคนอื่นที่อาศัยอยู่ไม่สั่งให้เขาทำ..ไม่ว่างเหรอ.. คนที่มีห้องส่วนตัวชั้น 3 เก็บเอาไว้ดูเล่น เปิดแอร์เย็น ๆ นอนเล่น..มีชื่อเป็นเจ้าบ้าน...กับเมียที่ขโมยผัวชาวบ้านเขามา ทำไมไม่ทำ เป็นคุณนายแล้วทำความสะอาดบ้านให้แม่ผัวไม่เป็นเหรอ.. ลูกก็ไปโรงเรียนแล้ว..วันหยุดเสาร์อาทิตย์ ไม่ว่างมาทำเลยเหรอ..ไม่สอนให้ลูกทำ โตขึ้นก็จะขี้เกียจเหมือนพี่ชายมัน (วุฒิกับโน่...พวกมันขี้เกียจ อาม่าด่า..ให้ทำความสะอาด ให้พันนึง ก็ไม่ทำ ไม่ให้แล้ว)...กูนังปู แค่คนอาศัยชั้นดาดฟ้า หลังคารั่ว ได้เงินกินวันละ 144 บาท.. (จะถือเป็นคาแรงที่ทำงานสมัยเด็ก ๆ เป็นสิบกว่าปี พอมั๊ยนะ..) แต่คนไม่ทำ น้องหนูหลิน มาถึงสอยเอาไปฟรี ๆ ..ถ้าเดือนละ 6,000 ปีนึงก็ตก 72,000 อยู่กี่ปี ตีสัก 3 ปี ตกเป็นเงิน 216,000 ... ค่าเรียนหน่วยกิตปริญญาโทนิด้า บริหารธุรกิจ ภาคปกติ..ทำไมไม่รับจ้างล้างจานหาเงินเรียนเอง..ทำงานไป เรียนไปด้วย คนอื่นทำได้ ทำไมน้องหนู หลิน พิมพา สุพรรณโกมุท ทำไม่ได้..ต้องใจกล้าหน้าด้านเอาเงินมาอึ้ม..ไปเรียน..น่าจะตก 300,000 รวมค่ากินใช้ค่ารถมอเตอร์ไซค์ ค่าลงเรือไปเรียนโท.. น่าจะอยู่ที่ 516,000 ตัดกลม ๆ ก็ตีสัก 500,000 ก็แล้วกัน..ให้อาอึ้มปีละ 6,000.."เค้าแค่ไม่พอใช้ มาขอนิด ๆ หน่อย ๆ" ไอ้หกพันน่ะ..ก็คงถอนทุนคืนไปหมดแล้ว..มังคะ../ ถ้างูเข้าห้องป้อมก็ดี จะได้มาช่วยกินหนู..หรือไม่ก็ให้ลูกชายคนเล็กของคุณแม่วิภา จงมีความสุข ถูกงูกัด กับน้องเล็ก (นุ่งสั้นขาสวย) คงอร่อยดีนะ..
"งูเข้าห้องน้องเล็ก" ใครคือน้องเล็ก..ก็ "ห้องป้อมไง" (เสียงเบาค่อย..ไม่มีน้ำหนักเสียง) / "ทำบ้านให้สะอาดด้วยนะ เข้าใจมั๊ย" (อันนี้เสียงดังหนักแน่น เน้นย้ำ)
"งูเข้าห้องน้องเล็ก" ใครคือน้องเล็ก..ก็ "ห้องป้อมไง" (เสียงเบาค่อย..ไม่มีน้ำหนักเสียง) / "ทำบ้านให้สะอาดด้วยนะ เข้าใจมั๊ย" (อันนี้เสียงดังหนักแน่น เน้นย้ำ) / งูเข้าห้องน้องเล็ก / "อะไรนะ" / "งูเข้าห้องป้อม" / "อะไรนะ งู" / "เออใช่" เสียงเบามาก ไม่เต็มเสียง" / "มาทุกวันที่ 10 20 30 นะ มีให้ใช้แค่นี้" / "อะไร ไม่ได้ใช้ คิดเงินได้ไง..ไหนบอก ไม่จ่ายเดือนก็ตัดแล้วไง" / "ใครพูด..ยังไม่เคยพูดเลย" / เสียงดังหนักแน่น แต่ไม่โวยวาย "ไปบอกเค้า ว่าแม่บอกให้ยกเลิก แล้วไปผ่อนใช้หนี้ให้เค้าเอาเอง เดือนละ 100 200" (ย้ำอีกที) / ไปถึงเอาจดหมายบิลแจ้งหนี้ ของ TRUE MOVE H ให้ทันที.. กับใบรายการซื้อของลายมือคุณป๊อป.."นี่เอามาให้ทำไม" เอาคืนไป / มีมัดในหนังยางมา 2 ใบ..ใบล่าสุด บิลเดือน 7 จดหมายไม่ได้ถูกแกะออก.. (ตั้งแต่บิลใบแรกไม่เคยให้นังปู สุวรรณา สุพรรณโกมุท) แม้แต่ใบเดียว..มาให้ใบสุดท้าย..เปิดออกดู หลังจากคราวที่แล้วมาเอาสองพัน จ่ายตัดยอด 100 บาท...ยอดรายเดือน ถามจนท.แล้ว เขาบอก คิดเป็นรายเดือน ซึ่งเฉลี่ยเป็นรายวันแล้ว (ถาม 2 ครั้ง ตอบ 2 ครั้งเหมือนกัน) "นี่เป็นบิลใบสุดท้ายแล้วใช่มั๊ยคะ" / "ใช่ค่ะ" / คลิก เบอร์นี้ cancled ไปแล้วค่ะ..ยอดคงเหลือตามใบแจ้งนี้ กลายเป็น 4,510.... บาท) กลายเป็นว่า คนอื่นทำให้เสียทรัพย์ ต้องรับผิดหนี้ (ไม่มีรับชอบ) เอาเอง... / เดือนละ 200 4,500 บาท ต้องเสียเงินอีกกี่เดือน ถึงจะใช้หนี้หมด..."เหน่ง" ลูกหงี่หยี..เอาที่บ้านไปกู้กับแบงค์ เป็นขี้หนี้เกือบล้าน เล็กพี่สาวคนเดียวทำไร่อ้อย ใช้หนี้ให้ทั้งหมด.. ถึงจะมีด่า แต่ก็เคลีย์ให้จนหมด.. หมดหนี้แล้ว..ไม่ทำงานอะไรก็ไม่ว่า ขออย่างเดียวอย่าเล่นยา..แม่กับพี่สาว ทำไมจะไม่อยากให้ลูกชายคนเล็กสุด อยู่บ้าน..พวกเขากลัวลูกจะเล่นยา(บ้า)กับพวกแถวบ้าน..เลยจำเป็นต้องไล่ให้ไปทำงานที่กรุงเทพฯ.. / บางคนก็มีเงินค่าเช่าเก็บกิน มีทุนที่ดิน มีทุนลงทุนขายโชห่วย ในย่านที่ความเจริญยังเข้าไปไม่ถึง และไม่มีวันถึง เพราะเป็นแนวท่อก๊าซ ปตท. เขาไม่ให้ขุด ไม่ให้เจาะ ..ปลูกบ้านชั้นเดียวยังเสี่ยงต่อท่อก๊าซแตกเลย..ไม่มีชุมชนหนาแน่น../ แต่เขาก็ขายจนร่ำรวย มีเงินมีทอง มีรถมอเตอร์ไซค์ขี่คันละสองแสนหก (ไม่รวมอุปกรณ์ตกแต่ง ชุดแต่งตัว ดำสนิท) ...มีเงินจ่ายค่าเบี้ยประกัน มีเงินจ่ายดอกเบี้ยค่าบัตรเครดิต จ่ายค่าน้ำมัน มีเงินให้ลูกสาวเรียนโรงเรียน สารสาสน์วิเทศฯ.. กูทำทุกวัน..รับจ้าง ..สุดท้ายได้กินวันละ 144 บาท เดือนละ 4,000 ส่วนน้องหนู หลิน พิมพา สุพรรณโกมุท ไม่เคยต้องทำงานอะไร ไม่ต้องถูกไม้กระทุ้งเหล่าเต๊ง.."ตื่น ๆ จะนอนกินบ้านกินเมืองรึไง" ลงมาช่วยจัดของ ขายผัก ...มาอยู่ กิน ฟรี เรียนปริญญาโท (ฟรี )นิดา บริหารธุรกิจ ..มีเงินไปนิดา อย่างน้อย ก็ต้องมีวันละ 200 (เดือนละ 6,000) โดยที่ไม่ต้องเคยทำอะไร ปัจจุบัน (ขณะที่เรียนโท) ก็ไม่ต้องทำอะไร..อนาคตก็ไม่ต้องทำอะไร ไม่ต้องใช้หนี้..แค่ทุกกุดจีน (ตรุษจีน) มีเงินเก็บมาให้อาอึ้ม ปีละ 5,000-6,000 บาท (ตกเดือนละ 500) บาท ..แถมได้หน้า "เค้าดีกว่ามึง ทุกกุดจีน ยังเอาเงินมาให้กู ปีลห้าพันหกพัน..มึงเคยให้เงินแม่มึงสักบาทหรือเปล่า"...สาธุ สาธุ สาธุ / ความหลงรูจงเจริญ../ จะว่าไปแล้ว งูจะเข้าได้ยังนะ หลังบ้าน มีกำแพง ผนังบ้านห้องเก็บของ (เคยนอนมาแล้ว) ก็ห่างจากกำแพงรั้ว กว้างพอที่คนอ้วนตัวใหญ่จะเดินได้..บ้านตำรวจใหญ่ด้านหลังก็ไม่มีต้นไม้ยื่นกิ่งก้านเข้ามา..ส่วนหน้างบ้าน เป็นกันสาด ติด ๆ กันกับข้างบ้าน นังปูซื้อลวดกรงไก่ติดมุ้งลวดอีกต่างหาก ท่อระบายน้ำก็เป็นท่อลงล่าง ไม่ใช่รูเปล่า ๆ หรือจะจะเป็นรู งูมันจะหักพวงมาลัยเลี้ยวเข้ารูได้อย่างง่ายดายขนาดนั้นเชียวรึ.. ไม่มีป่า กัดสาด ยาวตั้งแต่ร้านค้าแม่กิ๊ฟ ไปยังโน่น..ทำไมงูไม่แวะเข้าบ้านอื่นก่อน..หรือบางทีงูอาจจะได้กลิ่นหนู เลยเข้ามากินเป็นอาหาร (ก็บ้านนี้มีแต่หนู ไม่รู้รูรังอยู่ที่ไหน) บ้านนี้นังปู กับ เด็ก 2 คน ก็ไม่ได้อยู่คนเดียว..ทำไมคนอื่นที่อาศัยอยู่ไม่สั่งให้เขาทำ..ไม่ว่างเหรอ.. คนที่มีห้องส่วนตัวชั้น 3 เก็บเอาไว้ดูเล่น เปิดแอร์เย็น ๆ นอนเล่น..มีชื่อเป็นเจ้าบ้าน...กับเมียที่ขโมยผัวชาวบ้านเขามา ทำไมไม่ทำ เป็นคุณนายแล้วทำความสะอาดบ้านให้แม่ผัวไม่เป็นเหรอ.. ลูกก็ไปโรงเรียนแล้ว..วันหยุดเสาร์อาทิตย์ ไม่ว่างมาทำเลยเหรอ..ไม่สอนให้ลูกทำ โตขึ้นก็จะขี้เกียจเหมือนพี่ชายมัน (วุฒิกับโน่...พวกมันขี้เกียจ อาม่าด่า..ให้ทำความสะอาด ให้พันนึง ก็ไม่ทำ ไม่ให้แล้ว)...กูนังปู แค่คนอาศัยชั้นดาดฟ้า หลังคารั่ว ได้เงินกินวันละ 144 บาท.. (จะถือเป็นคาแรงที่ทำงานสมัยเด็ก ๆ เป็นสิบกว่าปี พอมั๊ยนะ..) แต่คนไม่ทำ น้องหนูหลิน มาถึงสอยเอาไปฟรี ๆ ..ถ้าเดือนละ 6,000 ปีนึงก็ตก 72,000 อยู่กี่ปี ตีสัก 3 ปี ตกเป็นเงิน 216,000 ... ค่าเรียนหน่วยกิตปริญญาโทนิด้า บริหารธุรกิจ ภาคปกติ..ทำไมไม่รับจ้างล้างจานหาเงินเรียนเอง..ทำงานไป เรียนไปด้วย คนอื่นทำได้ ทำไมน้องหนู หลิน พิมพา สุพรรณโกมุท ทำไม่ได้..ต้องใจกล้าหน้าด้านเอาเงินมาอึ้ม..ไปเรียน..น่าจะตก 300,000 รวมค่ากินใช้ค่ารถมอเตอร์ไซค์ ค่าลงเรือไปเรียนโท.. น่าจะอยู่ที่ 516,000 ตัดกลม ๆ ก็ตีสัก 500,000 ก็แล้วกัน..ให้อาอึ้มปีละ 6,000.."เค้าแค่ไม่พอใช้ มาขอนิด ๆ หน่อย ๆ" ไอ้หกพันน่ะ..ก็คงถอนทุนคืนไปหมดแล้ว..มังคะ..
วันจันทร์ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2556
สภาพหน้าบ้าน 68/16 ซอยบุญอยู่ ถนนดินแดง สามเสนใน พญาไท กรุงเทพฯ 10400 ..น้ำนองอยู่ในแอ่งเป็นแถบยาว..+น้ำข้างบ้าน K.C.
สภาพหน้าบ้าน 68/16 ซอยบุญอยู่ ถนนดินแดง สามเสนใน พญาไท กรุงเทพฯ 10400 ..น้ำนองอยู่ในแอ่งเป็นแถบยาว..+น้ำข้างบ้าน K.C./ ดูจากสภาพหน้าประตู มีคราบน้ำเป็นทางยาว..ไม่แน่ใจว่าน้ำฝนยังรั่วจากกันสาดชั้น 2 อยู่หรือเปล่า... รู้แต่ว่า เวลาฝนตก น้ำกระเด็กโดนประตู..พี่ป๊อป เจ้าคะ.. ถ้าเป็นมึง.. น้ำท่วมหน้าบ้าน น้ำฝนตกกระเด็นเข้าร้านห้องขายของ(หนู+แมลงสาบ) คุณมึงจะเดินเข้าร้านมาซื้อของ ของกู มั๊ยคะ.. / แล้วไง มึงไม่ต้องใช้ที่จอดรถ..ใจดีให้ไอ้พวก มีรถมากกว่าที่จอดรถ..ให้จอด.. แล้วไง..คุณน้องของมึง เขาไปทำงาน ต้องรีบออกจากบ้าน ไม่ได้มีเวลาเหมือนมึง..ทำเป็นพ่อพระ (พี่ชายก็แสนจะดี๊ดี)..ให้เขาจอด แล้วพอมึงจะออกก็ค่อยเดินไปขออนุญาตให้พวกมันเลื่อนรถออก แล้วกลับมาจอดหน้าบ้าน 68/16 ได้อีก.. คนต้องไปทำงาน กับคนที่ทำงานก็ได้ไม่ทำก็ได้ (เวลาเหลือเฟือ) มันไม่เหมือนกัน..น้องมึงเลยดูเป็นคนไม่มีน้ำใจให้กับเพื่อนบ้านเอาเสียเลย..จริงมั๊ยคะ คุณป๊อป สุชาติ สุพรรณโกมุท
วันอาทิตย์ 7 กค.56 คุณป๊อปเอาเงินไปให้ลูกชาย 2 คน.. นังปูเดินลงมา แปดโมงกว่า ..คุณป๊อปยืนยันหลังในชุดดำ (ไว้ทุกข์ให้ใครเหรอ) แจ็คเก็ตมอไซค์
วันอาทิตย์ 7 กค.56 คุณป๊อปเอาเงินไปให้ลูกชาย 2 คน.. นังปูเดินลงมา แปดโมงกว่า ..คุณป๊อปยืนยันหลังในชุดดำ (ไว้ทุกข์ให้ใครเหรอ) แจ็คเก็ตมอไซค์ / ยืนหันหลัง หันหน้าเข้าหากองขยะ..ทั้งโต๊ะเครื่องปั่นน๊อต ถาดน้ำมันเครื่องล้าง ดำปิ๊ดปี๋ เห็นมากี่ชาติแล้ว.. นี่ถ้าคุณแม่วิภา จงมีความสุข ขายบ้านนี้ คงต้องขนของทิ้งกันมากโข.. ส่วนของนังปู ก็มีแค่ ขยะในห้องชั้นดาดฟ้า..กับในห้อง(ขายของ)หน้าบ้าน..2 หม่อง...มังคะ..อ้อ รถมอไซค์ คาวาซากิ สองแสนหก ทะเบียน 4798..มาแล้วจร้า..
"เกณฑ์ทหาร" ยัดเงิน..(สมัยก่อน) ได้ยินแม่พูดเรื่องนี้..สุดท้าย พี่ป๊อป สุชาติ สุพรรณโกมุท ไม่ได้เป็นทหาร ไม่รู้เป็นเพราะยัดเงิน หรือจับได้ใบดำเอง..(น่าจะอย่างแรกมากกว่า)
"เกณฑ์ทหาร" ยัดเงิน..(สมัยก่อน) ได้ยินแม่พูดเรื่องนี้ (ด้วยสีหน้า และน้ำเสียงที่เคร่งเครียดอยู่ไม่น้อย..ก็เป็นเรื่อที่ต้องเสียเงินให้ลูกชายสุดที่รักนี่คะ) ..สุดท้าย พี่ป๊อป สุชาติ สุพรรณโกมุท ไม่ได้เป็นทหาร ไม่รู้เป็นเพราะยัดเงิน หรือจับได้ใบดำเอง..(น่าจะอย่างแรกมากกว่า)/ อย่าซีเรียส..มันเป็นเรื่องที่นังปู สุวรรณา สุพรรณโกมุท ได้ยินได้เห็นมาจริง ๆ ไม่ได้ตอแหล แต่งเรื่อง หรือใส่สีตีไข่.. (เพราะขายเป็นเศษเหล็กไปหมดแล้ว 555) / คือสรุป คุณป๊อป สุชาติ สุพรรณโกมุท ไม่ต้องเป็นทหาร ..เลยเสียโอกาสในการที่จะได้ไปเรียนรู้ ฝึกฝน ความเป็นสุภาพบุรุษ.. ความเป็นชายชาติทหาร (เป็นได้แค่ชาติ....../ เลยได้เป็นประสบการณ์ น้องป้อม สุเทพ สุพรรณโกมุท ..ก็เลยต้องประหยัดเงินของทางบ้านด้วยการ เรียน ร.ด... / หลานชาย 2 คนของบ้านนี้ ก็เลยต้องเรียน ร.ด. ไปโดยปริยาย.. เพราะสมัยนี้ คงไม่มีแล้ว..เรื่องการยัดเงิน เพื่อที่จะไม่ต้องจับใบดำใบแดง หรือทำอะไรสักอย่างเพื่อไม่ต้องเป็นทหารรับใชชาติไทย..555 //// http://glubdemons.exteen.com/20090409/entry / วันนี้ผมจะมาตีแผ่เรื่องทั้งหมดของการจับใบดำใบแดงครับ
ท่านใดที่ต้องประสบเหตุการณ์นี้ในอนาคต ควรอ่านอย่างยิ่ง
เมื่อวันที่ 7 เมษา เนี้ยผมนอนตอนตี4 10นาทีครับ
ก่อนหน้านั้นก็เล่นเน็ท และไปทราบมาว่าผมมีโอกาสได้ไปงานโซนี่ทันเวลา
เพราะว่าเวลาพรีเซ็นท์นั้นมันอยู่เย็นๆดึกๆนู่นแหนะ เหอๆ
แล้วก็ได้ไปสมใจอยาก รายละเอียดอ่านได้ที่นี่เลยครับ http://glubdemons.exteen.com/20090418/entry
วันนี้ตอนเช้า วันที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2552
เพื่อนผมโทรมาปลุกตอนตี5 50 เลยตื่นก่อนนาฬิกาปลุก 10 นาที
ตื่นมาแล้วมึนหัวครับ เพราะนอนน้อยมากๆในระยะนี้
ผมเลยรีบทำธุระจัดข้าวของอาบน้ำจนกว่าจะได้ออกจากบ้านก็นู่น 7 โมงกว่า
รีบไปจนถึงที่โรงเรียนวัดกระทุ่มเสือปลา ก็เกือบๆ 8 โมงได้
เขาประกาศรายชื่อเรียกคนในแขวงผมไปก่อนแล้ว ก็เลยต้องรอเรียกรอบสองครับ
ไปเจอเพื่อนอีกคนนึงไอ้วิน ซึ่งเขาก็เรียนรามเหมือนผม เลยมีชะตากรรมเดียวกันคือต้องจับ
เราเรียนม.ปลายมาด้วยกันครับไม่ได้เรียนร.ด.เหมือนกันอีก เหอะๆ
แต่เขาอยู่คนละแขวงกับผม เขาเลยได้เข้าไปตรวจร่างกายก่อน รู้สึกว่าจะตรวจเสร็จเร็วกว่าผมด้วย
แล้วก็เจออีกคนนึง ไอ้ปาร์ค (คนที่หน้าด้านที่สุดในห้อง 6/6)
ไอ้นี่มันเรียนต่อหัวเฉียวครับ เลยขอผ่อนผันได้ง่ายๆ ไม่ยากเย็น
หลังจากนั้นก็ไม่มีอะไรมากมายครับ เราก็นั่งคุยกันไปเรื่อยๆ
แรกๆออกจะเครียดซะมากกว่า สำหรับวิน ส่วนไอ้ปาร์คหรอ หึหึ ทำตัวหน้าหมั่นใส้มากๆ
ผมเลยตกลงกับวินว่า "อีกสองปีนะมึง จะไปเรียกพวกมาช่วยกันเชียร์ให้ได้ใบแดง 555+"
อะ มาว่ากันเรื่องระเบียบการกันหน่อย สำหรับคนที่ไม่ได้เรียนร.ด. และคิดว่าได้จับแน่ๆ
อย่างแรกเลยคือ งานเริ่มกี่โมง ควรไปก่อนเวลา หรือถ้าสายไปแล้ว ให้ไปประมาณ 10 โมง
เพราะว่าเขาจะขานชื่อ 2 รอบคือเขาจะเรียกตามแขวงไปเรื่อยๆทีละแขวงทีละเบอร์
ถ้าเขาข้ามไปแล้วจะไปขอเข้าทีหลังไม่ได้นะ ต้องรอเขาเรียกอีกในรอบต่อไปนู่นเลย
ซึ่งถ้ามาเร็ว ก็จะได้ตรวจร่างกายเสร็จก่อน และออกมานั่งรอก่อน แต่ก็ดีกว่ามาสายนะ
เพราะมันจะเสียเวลาทำให้ช้า ผมเองก็มาสายเลยต้องรอจน 11 โมงได้ถึงจะได้เรียกตัว
ตอนเรียกตัวเขาจะให้ถอดรองเท้า ถอดเสื้อ ถกขากางเกงขึ้น (ใส่กางเกงขาสั้นไปก็ได้)
ซึ่งไม่จำเป็นต้องฝากเสื้อไว้กับญาติก็ได้ ถ้าเอาติดตัวเข้าไป เขาจะให้เหน็บไว้ที่กระเป๋ากางเกงด้านหลัง
แล้วหลังจากวัดส่วนสูงรอบอกแล้ว ก็เอามาใส่ได้เลย เพราะมันใกล้เสร็จแล้วนั่นเอง
เอกสารคือ บัตรประชาชน และใบส.ด.9 กับส.ด.35 ไม่ต้องถ่ายเอกสารมานะครับ ไม่ได้ใช้เลย
อย่างแรกหลังจากที่เขาเรียกชื่อคือต้องรีบไปรายงานตัวยื่นเอกสาร แล้วเขาจะให้ปัมป์นิ้วมือข้างขวา
ซึ่งตอนนั้นสติผมไม่อยู่กับตัวแล้วครับ ปัมป์มือซ้ายเฉยเลย แบบว่างงมากว่าตัวเองเป็นอะไรไป เหอะๆ
รับเอกสารเสร็จแล้วก็ไปนั่งรอต่อคิว เพื่อจะตรวจร่างกายจริงๆแล้ว
ในด่านนี้จะมีที่สำหรับคนป่วยด้วย ซึ่งต้องมีใบรับรองแพทย์มา ก็ให้ไปยื่นกับหมอ
คือเขาจะเรียกชื่อมาก่อน แล้วเรียกว่าให้คนที่มีใบรับรองแพทย์เนี้ย ไปหาหมอทางอีกด้านนึง
ก็คือแยกกลุ่มตรงนี้ไป สำหรับคนที่ไม่มีก็ตรวจไปตามปกติ เขาจะให้ยืนตรงส้นเท้าชิด
แล้วยื่นแขนออกไปข้างหน้าตรงๆ แบมือไว้ แล้วพลิกมือ ส่วนเหตุผลคือ
เพื่อที่จะดูว่าแขนเหยียดได้ตรงไหม ตรงมากน้อยแค่ไหน ซึ่งแขนผมตรงเป๊ะเลย -*-
แล้วก็โก้งโค้งครับ เอามือแตะปลายเท้า เวลาคนอ้วนๆหรือกระดูกไม่ดีก็จะทำไม่ได้นั่นเอง
พอเสร็จด่านนี้ก็ไปต่ออีกด่าน จะเป็นการวัดส่วนสูง กับขนาดรอบอก
ผมวัดได้ส่วนสูง 174 กับรอบอก 81/84
ผมได้ยินตอนแรกแล้วแทบบ้า เพราะผมไม่มีหน้าอกเลย มีแต่กระดูกด้วยซ้ำ
เรียกว่า อกเล็กเรื่องใหญ่ซะแล้ว เพราะเพื่อนผมก็พูดๆอยู่ว่าน่าจะผ่าน เพราะผอมเกิน
แล้วแถมส่วนสูงลดลงเฉยเลย แต่ก่อน 176 แต่ดันเตี้ยกว่าเพื่อนที่ตัวสูงๆ
ตอนนี้วัดได้ 174 แต่สูงเกินเพื่อนไปหมดแล้ว (มึงวัดกูผิดป่ะเนี้ย -*-)
ตรงนี้รู้สึกว่า ถ้าเตี้ยกว่า160 จะอยู่ในประเภทที่ 2 คือความสูงตั้งแต่ 149-159
และรอบอกต่ำกว่า 72 ก็จะอยู่ในประเภทไม่ได้ขนาด รอการพิจารณา อะไรแบบนั้น
ตรงด่านนี้มีพวกผมเจอแจ๊คพอทครับ ก็อีคนวัดรอบอกแม่งสั่งลุกนั่งเฉยเลย
ไม่มีเหตุผลอะไรเลย แบบว่า ขอแสดงความเทพนิดนึง อะไรแบบนั้นหรือเปล่า
และหลังจากนี้ก็เกือบเสร็จการตรวจร่างกายแล้วครับ
สามารถใส่เสื้อได้เลย เพราะเดี๋ยวแค่ปัมป์นิ้วมือเข้ากับเอกสาร ส.ด. 43
ก็เป็นอันเสร็จพิธีไปหนึ่งอย่าง สำหรับพวกต้องจับ
ก็นั่งรอพวกที่สามารถผ่อนผันได้กันไป
เวลาที่พวกผ่อนผันต้องเข้าไปเนี้ย จะอยู่ประมาณเที่ยงๆบ่ายๆนู่นแหละ
แต่ว่าต้องมารายงานตัวเซ็นชื่อก่อนในตอนเช้าก็คือมาตามเขานัดอะแหละดีแล้ว
ก็มีเอกสารเหมือนกันหมด มีที่เพิ่มเติมมาคือที่ไปขอของมหาลัยฯมาเท่านั้นเอง
ตอนนี้ได้เจอตัว มาริโอ้ เมาเร่อ ตัวเป็นๆครับ รู้สึกจะสูงใกล้เคียงผมเนี้ยแหละ
แต่หล่อมาก ขาวมาก เหมือนในหนังเปี๊ยบ~บบบบบบบบ ใส่เสื้อยืดสีชมพู
ตรงนี้เพื่อนผมบอกว่า "ดูหน้าจืดกว่าในทีวีนิดนึง อาจเพราะไม่ได้แต่งหน้าล่ะมั้ง"
แต่ต้องยอมรับเลยครับว่าแม่งหล่อจริงๆ มีคนถ่ายรูปเพียบเลย
สัสดีเลยต้องรอให้พวกสาวๆถ่ายรูปกันไปก่อน แล้วค่อยเรียกทีหลัง
ตอนนั้นรู้สึกว่าคนทั้งโรงเรียนจะแห่กันไปมุงมาริโอ้หมดเลย
ตั้งแต่ที่เขาประกาศเรียกชื่อผ่านลำโพงว่า "มาริโอ้ เมาเร่อ !"
ผมเลยพูดกับเพื่อนว่า "เออ ไปดูกันหน่อยไหม น่าสนใจ"
แต่จมูกแม่งโด่งเวอร์ๆอะ จมูกหรืออะไรเนี้ย โด่งกว่าในหนังเยอะเลย เหอะๆ
หลังจากนั้นก็รอครับ รอให้พวกที่ผ่อนผัน ผ่อนผันกันหมด แล้วก็ไปเซ็นชื่อ กลับบ้านได้
แล้วเขาจะเรียกพวกที่ไม่มาอีกครั้ง เป็นครั้งที่ 3 ซึ่งตอนนี้คงไม่ดีแน่ๆถ้ามาสายขนาดนี้
ระหว่างรออย่างสุดท้ายก็คุยๆกันไปครับ พวกผู้ใหญ่ก็พูดนู่นพูดนี่ให้ฟัง ฯลฯ
แต่ผมรู้แค่ว่าวันนั้นผมเครียดมากๆ และร้อนมากๆ กินอะไรไม่ค่อยลงเท่าไหร่
อย่างเรื่องที่ว่าถ้าต้องเป็นเนี้ย เวลาไปฝึกคงฝึกไม่ไกล แค่ในกรุงเทพฯอย่างใน มทบ11 ราบ11 ไรเงี้ย
ถ้าไปฝึกที่ราบ11เนี้ย แบบว่าไปฝึกเสร็จ ก็แอบไปเล่นบีบีกัน ไรเงี้ย 55+
แต่อาจจะไม่ใช่ก็ได้ แต่ถ้าต้องไปฝึกที่อื่นเนี้ย จะได้ไปไกลๆเลย เพราะมันจะได้กลับบ้านยากๆ -*-
แล้วก็ว่า ถ้าไปฝึกแล้วไม่เอาเงินเดือนเนี้ย จะได้ออกเร็วกว่าปกติ อาจจะแค่ 7 เดือนก็ได้ปลด
ส่วนระยะเวลา ก็แล้วแต่หน่วยด้วย ส่วนรายละเอียดผมไม่รู้นะ ก็ฟังๆไว้ก่อน
ส่วนถ้าจะยัดเงินก็อยู่ที่ สองหมื่น สามหมื่น ซึ่งเขตผมแม่งเรียกสามหมื่นแหนะ (เขาบอกยังถูกไป)
ถ้าจะยัดจริงๆต้องรีบๆทำแต่เนิ่นๆเข้าไว้ อย่างเพื่อนผมที่ไปจับด้วยกัน เขาก็เลือกที่จะยัดช้าไปหน่อย
เลยอดไป ต้องไปจับใบดำใบแดง แต่เพื่อนผมอีกคนนึง ไอ้หนุ่ยเรียนเอแบค อยู่เขตพระโขนง
ไปรายงานตัวแล้ววันที่ 2 เมษา ซึ่งมันยัดไป สองหมื่น แล้วในใบเขาจะเขียนเอาไว้ว่า
เหยียดแขนได้ไม่ตรง แขนเบี้ยว อะไรประมาณนั้น พอฟังแล้วแบบว่า
"มึงก็เล่นบอลทุกวัน สุขภาพก็แข็งแรง แม่งเขียนให้มึงได้ไงวะว่าแขนเบี้ยว หน้าฟาดหน้าจริงๆ"
รู้สึกว่าคนรวยก็เป็นเงี้ยแหละ มีตังค์ก็ยัดๆไป จะได้หมดๆเรื่อง -*-
ถ้าเกิดจับได้ใบแดง สำหรับเรื่องการลดหย่อนเนี้ย
วุธม.6 ไม่สามารถลดหย่อนได้นะครับ เป็นสองปีตามปกติ
และถ้าใช้วุธปริญญาลดหย่อน ก็จะได้ปีเดียว
แล้วถ้าเข้าสมัคร
วุธม.6 จะสามารถลดหย่อนได้ เป็นแค่ปีเดียว
ส่วนวุธปริญญาสมัครเนี้ย แค่ครึ่งปี ก็ปลดแล้ว
พวกวุธ ปวส. ก็เท่ากับปริญญานะครับ ใช้ได้เช่นกัน
แต่ว่าต้องได้รับการรับรองว่าจบแล้วจริงๆเท่านั้นถึงจะใช้ได้
ถ้าระบุไว้ว่ารอการพิจารณา อะไรเทือกๆนี้ จะใช้ไม่ได้นะครับ เขาถือว่ายังไม่จบ
แล้วก็มาถึงเวลาที่ทุกๆท่านรอคอยครับ การจับใบดำใบแดงนั่นเอง
ก่อนอื่นเลยในแต่ละเขตจะมีหลายแขวง อย่างเขตประเวศจะมีสามแขวง
แขวงประเวศ แขวงหนองบอน แขวงดอกไม้
(ที่จริงแล้วผมอยู่แขวงหนองบอน แต่ในใบเขียนไว้ว่าประเวศ เลยต้องไปตามนั้น -*-)
แล้วเขาจะให้ตัวแทนมาจับสลาก ว่าแขวงไหนจะได้จับเป็นแขวงแรก
ตรงนี้เขาเชิญพระที่ต้องมาเกณฑ์ทหารเป็นคนจับ เหอะๆ
ผลออกมาคือ แขวงแรกเป็นหนองบอน ประเวศ และดอกไม้
ทีนี้เขาจะเรียกให้คนในแขวงนั้นๆเข้าไปก่อน ไปนั่งรวมๆกันไว้ก่อน
แล้วเขาจะเรียกเป็นรายคนอีกที ให้มานั่งเรียงกันตามหมายเลข
ของผมหมายเลข 91 ก็ค่อนข้างจะอยู่แรกๆเหมือนกัน
แต่เพราะเป็นแขวงที่ 2 ที่โดนเรียก เลยอยู่ประมาณกลางๆ
ส่วนไอ้วินเพื่อนผมอยู่แถวแรกเลยครับแขวงหนองบอน
พอหลังจากเรียกทุกคนเข้าไปนั่งจนครบเนี้ย ก็จะมีประธานเข้ามาพูดเปิดพิธี
อธิบายวิธีนู่นนี่นั่น ทำลายหลักฐาน แล้วก็นำเอาถังเขียวๆออกมาครับ
เขาจะใส่สลากที่เป็นใบแดงลงไปทีละใบ มี ทบ. ทร. ทอ.
เขตผมทหารบกจะมีเยอะสุด รองมาก็ทหารเรือ แล้วทหารอากาศจะรับแค่สองคนเท่านั้น
รวมแล้ว 81 ใบที่เป็นใบแดง และใบดำทั้งหมด 190 ใบ
ใบแดงเขาจะค่อยๆใส่ไปทีละใบๆ ค่อยๆนับจำนวนไปเรื่อยๆครับ
ส่วนใบดำ จะใส่ไปทีเดียวหมดเลย พอนับเสร็จแล้วก็เข้าสู่พิธี
แล้วเขาก็จะเรียกผู้โชคดีรายแรกไปจับครับ
ซึ่งคนนั้นเขาได้ใบแดงฉลองงาน แบบว่ากลายเป็นที่เฮอาปาจิงโกะของเหล่าบรรดาญาติพี่น้องได้ดีนัก
มีคนเชียรให้ได้ใบแดงเยอะครับ สำหรับพวกคนที่มีญาติๆ เพื่อนๆมาด้วยกัน เหอะๆ
ตรงนี้ทำให้ผมหายเครียดไปได้พอสมควรทีเดียว แต่ก็ยังไม่เลิกสั่นกลัวเท่าไร เหอๆ
แล้วก็ถึงตาเพื่อนผมครับ ไอ้วิน พอถึงเวลาจับเนี้ย ผมก็เชียร์อยู่เหมือนกันว่าอยากให้มันได้ดำเท่านั้น
เพราะเห็นว่ามันเครียดมากๆ มันก็บอกเหมือนกันว่าแฟนมันก็ร้องไห้ แล้วยังเรียนอยู่อีก งานการก็มีทำ
แล้วสุดท้าย มันก็จับได้ใบดำ โคตรดีใจด้วยแทนเลย ดูมันรู้สึกดีมากๆหลังจากที่มันได้ใบดำ
ต่อจากนั้นก็เป็นไฮไลท์ของงานครับ สัสดีประกาศ "ขออัญเชิญพระ ..........."
โอ้ ทีนี้ตาพระจับใบดำใบแดง เสียงคนทั้งโรงเรียนเรียนเฮ ช่วยกันเชียร์ "ใบแดง ใบแดง"
แล้วพระนั่นก็แบบว่า เหมือนอายๆกลัวๆยังไงก็ไม่รู้ เอามือลวงไป ควักออกมาแล้ว
เปิดประกาศ "ใบดำ" ทุกคนโห่หมดเลย แต่ที่ทำเอาผมอึ่งมากกว่านั้นคือ
พระรูปนั้นหมดความเป็นพระไปชั่วขณะครับ เขาทำท่ากระโดดขึ้นดีใจ ชูนิ้วชี้ขึ้น เอียงตัวไปข้างหลัง
ทำหน้าทำปากประมาณว่า "โคตรสะใจเลยโว้ย" เหมือนนักมวยปล้ำได้แชมป์ซัมเมอร์แสลมยังไงยังงั้น
ผมคิดในใจประมาณว่า "นี่พระจริงๆหรอวะเนี้ย จะไหว้ดีไหมเนี้ย จีวงจีวรปลิวเห็นท่อนบนหมดแล้ว"
เห็นดังนั้นก็เป็นที่ฮือฮากันอย่างมาก หมดความน่าเชื่อถือไปเลย
ที่ผมเห็นเนี้ย มีพระสามรูปมั้ง ที่ต้องไปจับ แล้วก็จับกันไปเรื่อย ใบดำก็ทยอยๆออกกันไป
สำหรับลักษณะของใบดำใบแดงนั้น จะไม่ใช่ Red Card Yellow Card
เหมือนที่เขาแจกกันในบอลพรีเมียร์ลีก นะครับ ไม่ใช่เป็นใบๆแบบนั้น
ใบดำใบแดงที่ผมเห็นมาจะเป็นกระดาษธรรมดาสีขาว ตัดเป็นสี่เหลี่ยมไม่ใหญ่มากนัก
ที่พริ้นท์ตัวหนังสือลงไป เช่นใบดำจะพิมพ์คำว่า "ดำ" เฉยๆ
ฟ้อนน่าจะเป็น Microsoft Sans Serif ขนาด 22 ตัวหนา พิมพ์สีดำ
ก็ไม่รู้นะครับว่าใช่หรือเปล่า แต่ก็น่าจะประมาณนี้แหละ
ส่วนใบแดง จะพิมพ์เป็น ทบ. ... ทร. ... ทอ. ... ขนาดเดียวกัน พิมพ์สีแดง
ไม่ใช่พิมพ์สีแดง แล้วเป็นคำว่า "แดง" เฉยๆนะครับ เหอะๆ
แล้ว ... ด้านหลัง จะเขียนตัวเลขไทยไว้ด้วยปากกาน้ำเงินเช่น ๒ ๔
เป็นตัวบอกผลัด เช่นผลัดที่ 2 หรือผลัดที่ 4
อย่างผลัดที่ 2 เนี้ย ก็ไปเป็นประมาณเดือนพฤศจิกานู่นเลย เกือบๆปลายปี
แล้วกระดาษนั่นจะม่วนๆเอาไว้แล้วห่อด้วยพลาสติกอีกทีนึงซึ่งจะตัดมาพอดีเป๊ะๆ
ที่บอกเนี้ย บอกให้รู้เฉยๆนะ ไม่ใช่ไว้ทำปลอมแปลง
แต่ยังไงก็ทำไม่ได้หรอกครับ เพราะจำนวนบัตรเขาจะนับมาพอดีกับจำนวนคน
ถ้ามันเหลือ ก็แปลว่าซวยทั้งหมดเลย เหอะๆ
แล้วอีกอย่างนึงตอนไปจับเนี้ย เขาจะให้แบบมือให้ดู จะมาเล่นกลอะไรตอนนั้นคงเป็นไปไม่ได้หรอก
สำหรับคนที่จับได้ใบดำก็แค่เซ็นชื่ออีกครั้ง แล้วก็กลับบ้านได้เลย ไม่ต้องทำอะไรอีกแล้ว
ไม่ต้องไปหาสัสดีอีก และชีวิตนี้คุณก็ไม่ต้องเกี่ยวข้องอะไรกับทหารอีกเลย
เวลากรอกใบสมัครงานก็ติ๊กที่ช่อง "จับได้ใบดำ" ไป สบายใจไปได้เลย
สำหรับคนที่ได้ใบแดงก็จะเสียเวลาอีกนิด เซ็นชื่อ แล้วก็จะได้รับเอกสารหมายเรียกอีกทีนึงคือ
ได้ใบ ส.ด. 40 หมายนัดเข้ารับราชการทหาร (เป็นหมายนัดแล้วนะครับ ไม่ใช่หมายเรียกแล้ว)
แล้วก็ใบ ส.ด. 43 ใบรับรองผลการตรวจเลือก (คือใบตรวจร่างกายนั่นแหละ)
ก็เอาไอ้เนี้ย กลับบ้านไปนอนกอดซะ รอเวลาที่เขาเรียกไปรายงานตัว
พูดถึงกฎหมายกันหน่อย
ถ้าไม่ได้ไปรายงานตัว ธรรมดาต้องไปแจ้งความนะครับ แต่ถ้าไม่ทำอะไรเลยจริงๆ
จะโดนมาตราที่ 45 โทษติดคุกไม่เกิน 3 ปี
ถ้าจับได้ใบแดงแล้ว ไม่ไปรายงานตัว หนีทหาร ก็จะโดนมาตราที่ 46
ติดคุกตั้งแต่ 3 เดือนถึง 4 ปี
ถ้าทำร้ายตัวเอง หรือให้ใครช่วยทำร้ายให้บาดเจ็บ แขนขาด ตาบอด ไตวาย หัวใจหยุดเต้น
อะไรก็ตามแต่ เพื่อจะได้ไม่ต้องไปเป็น ก็จะโดนมาตราที่ 48 ติดคุก 1-8 ปีทีเดียว
และสุดท้ายถ้าคุณกล้าหลอกเจ้าหน้าที่ด้วยเหตุผลอะไรก็ตามแต่
แม่ยายตาย เมียป่วย ต้องเลี้ยงลูกเลี้ยงเมีย อะไรก็ว่าไป
ก็จะโดนมาตราที่ 49 ติดคุกไม่เกิน 3 ปี
สำหรับผมแล้วคงต้องเริ่มใส่ใจตัวเองบ้างแล้วล่ะ เดี๋ยวไม่มีแรงทำอะไร จะตายซะก่อน เหอะๆ
อาจจะเริ่มออกกำลังกาย เล่นกีฬา เพราะไม่เคยทำเลยสักอย่าง เล่นแต่คอม -*-
และคงจะหางานทำไปก่อน เรียนอะไรไปตามปกติ แล้วก็เอาพวกปรัชญาอะไรหลายๆอย่าง
ที่เคยพูดถึงเอามาใช้กับชีวิตตัวเองที่ว่า
เมื่อใครได้ทำภารกิจอะไรก็ตาม จะต้องทำให้สุดความสามารถ
และก็นำปรัชญานี้มาใช้กับการเป็นทหาร
I believes that whatever job one does, one should do it to the best of one's abilities,
and applies that philosophy to soldiering.
จนกระทั่งถึงตาผมจับ ผมส่งบัตรประชาชนให้คนอ้วนๆผมหงอกๆคนนึง
แบมือให้เขาดู แล้วเอามือล้วงเข้าไปในถังเขียวๆขนาดพอประมาณ
เมื่อผมสัมผัสโดนถึงท่อนแข็งๆอะไรบางอย่าง อันนึง ผมเลยหยิบมันขึ้นมาเลย
เพราะมันเป็นอันแรกที่โดนมือ ก็หยิบมาเลยโดยที่ไม่ได้คิดอะไร
แล้วก็ยื่นให้คนประกาศ ธรรมดาแล้วคนอื่นๆจะหันหน้าหนีไปทางอื่นเลย
แต่ผมยืนหน้าคนประกาศหัวเกรียนๆตัวเล็กๆใส่แว่น
ผมคิดประมาณว่า "บอกมาดิ กูอยากรู้ กูจะได้อะไร กูอุส่าห์รอมาตั้งนาน กูจะรีบไปพาราก้อน"
ตอนนั้นหัวใจผมเต้นแรง ตื่นเต้นมากๆ แบบว่ารอมาทั้งวัน แล้วสิ่งที่ผมอยากไปมากที่สุดคืองานโซนี่
ตอนนี้ผมไม่หวังอะไรแล้ว รีบๆทำเข้าสิจะได้สบายใจ และรีบจากตรงนี้ไป
เขาค่อยๆเอาอะไรบางอย่างดันกระดาษออกมาจากห่อพลาสติก
เขาค่อยๆคลี่กระดาษที่ม้วนไว้ออกมา แล้วเขาก็พูดตะโกนใส่ไมค์ดังๆว่า
"ทบ.2" 555
" ทบ. ๒ !!!"
"สุภาพบุรุษจุฑาเทพ" วิไลรำภา..นางมารร้าย..วิภารำไร....นี่ต้อวางแผนให้เห็นกันจะจะ..ต่อหน้าหม่อมย่าเอียด ทั้งย่าอ่อน..จึงจะยอมรับว่า ตัวเองชั่วสนิทใจจริง ๆ
"สุภาพบุรุษจุฑาเทพ" วิไลรำภา..นางมารร้าย..นี่ต้องวางแผนให้เห็นกันจะจะ..ต่อหน้าหม่อมย่าเอียด ทั้งย่าอ่อน..จึงจะยอมรับว่า ตัวเองชั่วสนิทใจจริง ๆ / จิตวิปลาส คุณย่าอ่อน ด่า กระนั้น ถูกต้องเสียน่ากระไร.. วิภารำไร..เล่า.. / TRUE MOVE H ไม่เคยได้รับใบแจ้งหนี้เลย ตลอดเวลา 1 ปี..คุณแม่โทร.มาบอกว่า ชื่อ สุวรรณา สุพรรณโกมุท ไม่ใช่ของมึง..แล้วจะของใคร / เป็นเรื่องที่น่าแปลก นังปู สุวรรณา สุพรรณโกมุท เวลาทำงานให้ มีผลประโยชน์ พวกมันเอาไป ทั้งมอเตอร์ไซค์ ค่าน้ำมันรถ เงินซื้อกีตาร์ เงินให้เรียนวิชาชีพต่าง ๆ ... / แต่พอเป็นจดหมายแจ้งหนี้จากทรูมูฟ ก็เห็นว่าเป็นชื่อ สุวรรณา สุพรรณโกมุท ไปไถเงินแม่ทุกครั้ง เดือนนึงไปก็ไม่ต่ำกว่า 5 ครั้ง..ชาวบ้านแปลกใจกันบ้างไหม..แม่ไม่เคยเก็บจดหมายหนี้จากทรูให้ลูกตัวเองเลยแม้แต่ฉบับเดียว.. เจ้าหน้าที่แจ้งว่า มีการจ่ายบิล 2 บิล ยอด 600 กว่าบาท และยอด 400 กว่าบาท..ถามหน่อยคุณป๊อป สุชาติ สุพรรณโกมุท.. ระหว่างที่แม่มึงพูด "มีแต่บริษัท ใครไม่จ่ายเดือนแรก เค้าก็ตัดแล้ว"..กับ ไม่จ่าย ก็เดินหนี้ไปเรื่อย ๆ เพราะคู่สัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร ถือเป็นหนี้ จนกว่าจะยกเลิกสัญญา ..มึงคิดว่าบริษัทเขาจะฉลาดทำอย่างไหนมากกว่า.. ดูอย่างแม่มึงสิง ขายของ ให้คนติดเงิน เชื่อของใหม่ก็ยังให้เชื่อ ไม่เห็นพูด "จ่ายของเก่าก่อน ถ้าไม่จ่าย..ไม่ให้เชื่อของใหม่" จริงมั๊ยคะ คุณป๊อป.. / เหลือเชื่อมั๊ยคะท่านผู้อ่าน... จดหมายแจ้งหนี้ส่งมาทุกเดือนตลอดทั้งปี.. ไม่ให้เจ้าของจดหมายแม้แต่ฉบับเดียว.. แต่พอให้ลูกชายคนเล็ก (อะไรจะช่างพอดีเหมาะเจาะขนาดนี้) เลยให้ลูกชายเปิดดู ..แต่ไม่ให้เจ้าของจดหมายเปิดดูเอง.. แล้วรู้ได้อย่างไรว่ามียอดหนี้ 4พันกว่าบาท (พูดทางโทรศัพท์).. / "เอาดีใส่ตัว เอาชั่วใส่คนอื่น".. / นี่ถ้าเกิดเป็นจดหมายแจ้ง..บอกให้ไปรับรางวัลที่ส่งชิงโชคไป นังปู สุวรรณา สุพรรณโกมุท.. นอกจากความซวยที่เป็นลูกของบ้านนี้แล้ว..ความโชคดี จดหมาย ยังถูกโยนทิ้งไปอีกด้วยหรือนี่.../ มึง(นังปู..ลูกสาวคนเดียวที่ช่วยพ่อแม่ทำมาหากินมากที่สุด)..ไปผ่อนใช้หนี้เอาเอง ให้มึงกิน รวมเดือนละ 6,000 (2,000+4,000) ไปใช้หนี้เอาเองเดือนละ 100 200...
TRUE MOVE H ไม่เคยได้รับใบแจ้งหนี้เลย ตลอดเวลา 1 ปี..คุณแม่โทร.มาบอกว่า ชื่อ สุวรรณา สุพรรณโกมุท ไม่ใช่ของมึง..แล้วจะของใคร
TRUE MOVE H ไม่เคยได้รับใบแจ้งหนี้เลย ตลอดเวลา 1 ปี..คุณแม่โทร.มาบอกว่า ชื่อ สุวรรณา สุพรรณโกมุท ไม่ใช่ของมึง..แล้วจะของใคร / เป็นเรื่องที่น่าแปลก นังปู สุวรรณา สุพรรณโกมุท เวลาทำงานให้ มีผลประโยชน์ พวกมันเอาไป ทั้งมอเตอร์ไซค์ ค่าน้ำมันรถ เงินซื้อกีตาร์ เงินให้เรียนวิชาชีพต่าง ๆ ... / แต่พอเป็นจดหมายแจ้งหนี้จากทรูมูฟ ก็เห็นว่าเป็นชื่อ สุวรรณา สุพรรณโกมุท ไปไถเงินแม่ทุกครั้ง เดือนนึงไปก็ไม่ต่ำกว่า 5 ครั้ง..ชาวบ้านแปลกใจกันบ้างไหม..แม่ไม่เคยเก็บจดหมายหนี้จากทรูให้ลูกตัวเองเลยแม้แต่ฉบับเดียว.. เจ้าหน้าที่แจ้งว่า มีการจ่ายบิล 2 บิล ยอด 600 กว่าบาท และยอด 400 กว่าบาท..ถามหน่อยคุณป๊อป สุชาติ สุพรรณโกมุท.. ระหว่างที่แม่มึงพูด "มีแต่บริษัท ใครไม่จ่ายเดือนแรก เค้าก็ตัดแล้ว"..กับ ไม่จ่าย ก็เดินหนี้ไปเรื่อย ๆ เพราะคู่สัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร ถือเป็นหนี้ จนกว่าจะยกเลิกสัญญา ..มึงคิดว่าบริษัทเขาจะฉลาดทำอย่างไหนมากกว่า.. ดูอย่างแม่มึงสิง ขายของ ให้คนติดเงิน เชื่อของใหม่ก็ยังให้เชื่อ ไม่เห็นพูด "จ่ายของเก่าก่อน ถ้าไม่จ่าย..ไม่ให้เชื่อของใหม่" จริงมั๊ยคะ คุณป๊อป.. / เหลือเชื่อมั๊ยคะท่านผู้อ่าน... จดหมายแจ้งหนี้ส่งมาทุกเดือนตลอดทั้งปี.. ไม่ให้เจ้าของจดหมายแม้แต่ฉบับเดียว.. แต่พอให้ลูกชายคนเล็ก (อะไรจะช่างพอดีเหมาะเจาะขนาดนี้) เลยให้ลูกชายเปิดดู ..แต่ไม่ให้เจ้าของจดหมายเปิดดูเอง.. แล้วรู้ได้อย่างไรว่ามียอดหนี้ 4พันกว่าบาท (พูดทางโทรศัพท์).. / "เอาดีใส่ตัว เอาชั่วใส่คนอื่น".. / นี่ถ้าเกิดเป็นจดหมายแจ้ง..บอกให้ไปรับรางวัลที่ส่งชิงโชคไป นังปู สุวรรณา สุพรรณโกมุท.. นอกจากความซวยที่เป็นลูกของบ้านนี้แล้ว..ความโชคดี จดหมาย ยังถูกโยนทิ้งไปอีกด้วยหรือนี่.../ มึง(นังปู..ลูกสาวคนเดียวที่ช่วยพ่อแม่ทำมาหากินมากที่สุด)..ไปผ่อนใช้หนี้เอาเอง ให้มึงกิน รวมเดือนละ 6,000 (2,000+4,000) ไปใช้หนี้เอาเองเดือนละ 100 200...
วันอาทิตย์ที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2556
พายมูสเลมอน พิมพ์ วงกลม4.5"สูงประมาณ2 ซม.
พายมูสเลมอน พิมพ์ วงกลม4.5"สูงประมาณ2 ซม. / แป้งพาย แป้งสาลีอเนกประสงค์ร่อน 150 กรัม / ผงฟู 2 กรัม / เกลือ 2 กรัม / เนยสด(จืด) 72 กรัม / น้ำตาล Icing 45 กรัม / ไข่ไก่ (1/2 ฟอง) 25 กรัม /...Lemon Curd ไข่ไก่ (2 ฟอง)90 กรัม / ไข่แดง (ไข่ไก่ 4 ฟอง) 75 กรัม / น้ำตาลทรายขาว 60 กรัม / เนยสด(จืด) 40 กรัม/ น้ำ lemon 80 กรัม / ผิว lemon 3 กรัม สับหรือซอยเล็กยาว / น้ำ 30 กรัม / เจลลาตินแผ่น 4 กรัม ../ มูสเลมอน วิปปิงครีม 100 กรัม / Icing 20 กรัม / lemon curd 80 กรัม / วิธีทำ... warm เตาอบ 180องศาC ประมาณ 15-20 นาที / แผ่นเจลลาิิตินแช่น้ำ 10 นาที บีบน้ำให้แห้ง / ถั่วเขียว ข้าวสาร ในขั้นตอนของการอบพาย /1. ทำแป้งพาย ร่อนแป้งสาลี ผงฟู เกลือเข้าด้วยในกันอ่างผสม ค่อย ๆ เทส่วนของแป้งร่อน ลงใน food processor ใส่เนยจืด ปั่นให้เข้ากันจนมีลักษณะเป็นเม็ดทราย / ใส่ Icing และไข่ไก่ลงในโถปั่น ปั่นจนเข้าักันดี / จากนั้น นำแป้งพายออกจากเครื่องปั่น ใช้สันมือ กดรีดให้แป้งพายมีเนื้อเนียน / รวบแป้งเป็นก้อนกลม แล้วรีดแป้งให้หนาประมาณ 2 ซม. ห่อด้วยพลาสติก wrap เข้าพักในตู้เย็นช่องธรรมดาประมาณ1 ชั่วโมง / 2.นำแป้งพายออกจากตู้เย็น วางบนกระดาษไขที่โรยแป้งนวล (แป้งสาลีอเนกประสงค์)จนทั่ว รีดแป้งด้วยไม้่คลึงแป้ง โดยคลึงจากตรงกลางออก เป็นแผ่นกลมหนา 2.5-3 ซม. ตัดแป้งพายเป็นวงกลมขนาดกว้างกว่าพิมพ์ประมาณ 2 นิ้ว ยกแป้งวางบนพิมพ์ (ไม้คลึงแ้ป้งม้วนให้แป้งพายอยู่ในไม้ พาดบนพิมพ์ คล่อย ๆ คลายแป้งออกจากไม้ให้อยู่บนปากพิมพ์) ใช้มือค่อย ๆ กรุเแป้งลงพิมพ์ ใช้แปรงปัดเศษแป้ง(นวล)ออกจนหมด ใช้ส้อมจิ้มฐานแป้งพายให้ทั่ว..วางกระดาษไข (เท่าฐานแป้งพาย) โรยถั่วเขียวหรือข้าวสารบนกระดาษไขจนเต็ม(ไ่ม่ให้แป้งพองขึ้นมา) เข้าเตาอบ 180 องศาC นานประมาณ 10 นาที ..นำออกจาเตา เอาข้าวสารหรือถั่วเขียวออกจากพิมพ์ แล้่้วนำเข้าอบต่ออีกประมาณ 3-5นาที หรือจนแป้งพายสุกดี นำออกจากพิมพ์ พักบนตะแกรง รอให้เย็น../ 3. ทำเลมอนเคิร์ด ตีไข่ไก่ ไข่แดง น้ำตาล ด้วยตะกร้อจนเข้ากันเป็นเนื้อเนียน(สีเหลืองอ่อน) พักไว้ ตั้งหม้อบนไฟกลางใส่เนย น้ำเลมอน ผิวเลมอนน้ำ ต้มจนเดือด ยกลงจากเตา / (ใส่ลงในส่วนผสมของไข่ไก่และน้ำตาลที่ตีไว้ให้หมด) ยกขึ้นตั้งบนไฟอ่อน โดยคนด้วยตะกร้อมือตลอดเวลา จนส่วนผสมข้นขึ้น ยกออกจากเตา /ใส่เจลลาตินแผ่น (แช่น้ำบีบน้ำแห้งแล้ว) คนให้เข้ากัน เทเลมอนเคิร์ดลงในถาดแบนกลม ปิดด้วยพลาติก wrap ใ้ห้แนบผิวหน้าเคิร์ด /พักในตู้เย็นช่องธรรมดาประมาณ 30 นาที / 4. แบ่ง lemon curd ไว้ 80 กรัม ทำหน้า lemon นำเลมอนเคิร์ดที่เหลือมาตีให้เหลวเป็นครีม นำบรรจุงลงในแป้งพายอบที่เตรียมไว้ พักในตู้เย็นช่องธรรมดา ประมาณ 15 นาที / ระหว่างนั้นทำมูสเลมอน โดยตีวิปปิงครีมให้ฟูจนตั้งยอดแข็ง ใส่ Icing ตีส่วนผสมให้เข้ากัน ใส่เลมอนเคิร์ดที่แบ่งไว้ ตีให้เข้ากัน / ตักราดบนพาย lemon พักไว้ในตู้เย็นช่องธรรมดาประมาณ 30 นาที ให้อยู่ตัว..โรยผิวเลมอน เสิร์ฟ....จนครับ..หลานนอกไส้ ได้เงินไปเรียนปริญญาโท นิดา บริหารธุรกิจ..น.ส.พิมพา สุพรรณโกมุท ค่ารถ ค่ากิน ค่าอยู่ น้ำไฟฟรี.. ไม่ต้องทำความสะอาดบ้านแม้แต่อย่างเดียว มีเครื่องซักผ้าให้ใช้.. / ส่วนนังปู น.ส.สุวรรณา สุพรรณโกมุท พ่อให้เดือนละ 2,000 ไถค่าทำงานตอนเด็กได้มาอีกเดือนละ 4,000 มีให้กินให้ใช้เดือนละเป็น 6,000 (ไปตลาดกับแม่พ่อ ตั้งแต่ตี 3 ทำงานจนถึงถึง 3ทุ่ม ทำทุกอย่าง) จนครับ ไม่ีมีเงินไปเรียนอะไรหรอก (มึงจะเรียนอะไรกันนักกันหนา เรียนมาก็ไม่ทำมาหากิน ทำอะไรขาย) ..ต้องซื้อสมุดปากกาไปนั่งจดสูตรอาหาร ตั้งแต่เช้าเปิดห้องสมุด จนถึงเวลาปิดห้องสมุด เกือบ 2ทุ่้มทุกวัน วันอาทิตย์ ห้องสมุดปิด 17.00 น...ปิดแอร์ไล่ 16.30 น. จดเสร็จสูตรนี้พอดี..วันอังคาร เปิดต้องไปนั่งจดใหม่.. ชอบใจก็สอยไปนะคะ พี่น้อง.. จากหนังสือ Pie&Tart ของสำนักพิมพ์แสงแดด เล่มละ 250 บาท.. ไม่มีเงินซื้อหรอกค่ะ..แค่ส้มตำหน้า ปปส.ยามเย็น หอยดองนิดนึงปูตัวนึง..ถุงละ 40 บาทแล้ว.. วันละ 200 ขอแค่พอกินก็เหลือแหล่..จะระเห็ดระหกระเหิน..นั่งรถเดินทางไปไหนให้เสียค่ารถ..อย่าได้หวัง.. ( ไม่ถึงวันที่ 10 ไม่ต้องมาให้เห็นหน้านะ..เห็นหน้าเป็นเอาเงินอย่างเดียว..ให้ทำอะไรก็ไม่ทำ..ก็ทำแล้วตอนเด็ก ๆ ทำทุกอย่าง ทำทุกวัน..ยังไม่ได้มอเตอร์ไซค์ขี่ไปโรงเรียนเหมือนคุณพี่ป๊อป สุชาติ สุพรรณโกมุท ได้มอไซค์ผู้ชาย มีคลัช คาวาซากิ พร้อมน้ำมัน ไปถึงกล้วยน้ำไท..โรงเรียนช่างอุตสาหกรรมกรุงเทพ..เรียนตั้งแต่ ปวช.ยัน ปวส. พ่อตาย ยกมรดกที่ดิน 515 ตร.วา. (5 แปลง) มีนบุรี รวมทั้งบ้านเช่าเกือบ 20 กว่าห้อง มีค่าเช่าเก็บกินเดือนละเกือบ 30,000 ////// ส่วนน้องป้อม สุเทพ สุพรรณโกมุท ก็ได้มอเตอร์ไซค์ ฮอนด้าหรือยามาฮ่า จำไม่ได้ สีแดง 1 คัน..ไม่ต้องทำงานอะไรแม้แต่้ล้างชามสักใบ..ขี่ไปเรียนที่บพิตภิมุข ทุ่งมหาเมฆ ..ทั้งที่นังปูทำงานทุกวัน..ได้แค่ค่ารถขึ้นสองแถว รถเมล์ ไปตลาด ไปเรียนหนังสือ ที่ทุ่งมหาเมฆเหมือนกัน....555 ชีวิต..
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)