วันเสาร์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2556

วันนั้น แ่ม่ของลูกชายโทร.เข้ามือถือเรา.. ขอให้เราไปลูกชายให้เขาหน่อย..เพราะแม่มีอบรมที่โรงแรม The Emerald รัชดา.. บอกลูกเป็นไข้สูงด้วย..

วันนั้น แ่ม่ของลูกชายโทร.เข้ามือถือเรา.. ขอให้เราไปลูกชายให้เขาหน่อย..เพราะแม่มีอบรมที่โรงแรม The Emerald รัชดา.. บอกลูกเป็นไข้สูงด้วย.. / พอถึงบ้าน ให้เขาอาบน้ำเปิดฝักบัว สายจากเครื่องทำน้ำอุ่น.. เราก็ไม่รู้.. ฉีดบนตัวลูกเลย ลูกสะดุ้ง แล้วลูกก็ไม่ยอมบอกว่า "น้ำเย็น" จะบ้าตาย.. พอปิดฝักบัว ถึงรู้ว่าน้ำเย็น รีบเช็ดตัวลูกใหญ่เลย.. ผิดพลาดมากเลยอี๊ / แม่ให้ไปที่โรงแรมวันรุ่งขึ้น ไปรับลูกชายกลับมาที่คอนโดฯ.. เราก็ไป (เมื่อวานเย็นแวะซื้อ หมอนลมเป่ารูปดอกไม้สีชมพู 5 กลีบ เป่าลมแล้วพองไปทีละกลีบ เป็นของเล่นล่อลูก)...ไปถึงเขางอแง ติดแม่ เกาะแจ.. เอาของเล่นล่อให้แกะลูกออก..แม่ให้ตังค์ บอก พาลูกชายไปกินข้าวร้านตามสั่งข้างโรงแรม..ลูกเป็นไข้ แดดก็ร้อนแล้ว เดินลงถึงชั้น Lobby ถามลูกกินในโรงแรมนี้มั๊ย ลูกบอก "เอา กินในโรงแรมนี่แหละอี๊" / เลยสั่้งข้าวต้มกุ้ง (120 บาท) รู้ว่าลูกกินไม่เยอะ.. แต่อยากให้เขาผ่อนคลาย สบาย ๆ (กลับถึงบ้านบอกแม่ ทำท่าทางไม่พอใจ..ว่าเราใช้เงินเปลือง..ทำไมต้องกินข้าวโรงแรม แพงจะตาย)... / โทร.สั่งให้รถทำงานของ Office (แม่เป็นหัวหน้าคุมคิวรถ) ..มารับอี๊กับลูกชายกลับคอนโดฯ... ซื้อบะหมี่ ลูกก็แทบจะไม่กิน..ซื้อข้าวก็แทบจะไม่กิน.. ให้กินยาลดไข้(อย่างแรง) เพราะแม่บอก ไปหาหมอที่พญาไทมา.. เขาให้ยามากิน.. (เป็นแบบลดไข้อย่างแรง ในรายที่ไข้สูงกว่า 37 องศาC ถ้าจำไม่ผิด แม่บอก ยานี้ห้ามกินติดต่อกันเกิน 2 วัน..เพราะจะทำให้เกล็ดเลือดต่ำ หรือช็อคได้) ..เวลาลูกหลับ เอาผ้าเช็ดตัวผืนเล็ก ชุบน้ำธรรมดาบิดแห้ง เช็ดตัวตามซอกรักแร้ ซอกข้อพับขา ซอกคอ หน้า หลัง ขาหนีบ..(ครบบ้างไม่ครบบ้าง) เราให้กินยา จดเวลากินยา จำนวน CC. ระยะห่างกี่ชั่วโมง.. หนึ่งวันผ่านไป แม่กลับมา นอนคอนโดฯ.. /วันรุ่งขี้น เราดูลูกที่คอนโดฯ ลูกเลยอาบน้ำเย็นโดยไม่ตั้งใจ เราเปิดแอร์ ในครัว มันเป่าห่าง ๆ ...(เวลาลูกเป็นไข้ แม่จะไม่ให้เปิดพัดลมเลย..ให้ลูกเหงื่ออกเยอะ ๆ ให้เช็ดตัวด้วน้ำอุ่น(ออกร้อน)จัด... เราก็เช็ดตัวด้วยน้ำธรรมดาจากก๊อก อาจารย์หมอก็บอกอย่างนั้น..เราก็เปิดพัดลม แหงนหน้าขึ้น กะลมเป่าแผ่ว ๆ ผ่านตัวนิดหน่อยให้พอเย็น ลูกจะได้หลับลึก หลับสบาย..ลูกหลับก็เช็ดตัวไป ไม่ต้องถอดเสื้อผ้า (อาจารย์หมอบอก..เราจึงรู้สึกว่า เดา..ทำ.ได้ถูกทางพอสมควร)... / แม่อบรมเสร็จแล้ว.. วันรุ่งขึ้น เราบอก 2 วันแล้ว ไข้ไม่ลดแล้วนะ... ต้องหาหมอแอ๊ดมิดแล้ว.. (ก่อนหน้านี้แม่บอกให้ยามากินก่อน..ถ้าไข้่ไม่ลดไปหาหมออีกที)...ขึ้นรถกระบะ แม่ขับ ถึงทางแยกจะเลี้ยวออกบางแคแล้ว.. แม่พูดกับลูก กลับบ้านเลยหรือจะไปแวะหาหมอก่อน แน่นอน ลูกก็ต้องตอบว่า "ไม่ไปหาหมอ กลับบ้านเลย" วันนั้นให้กินยา บ่าย 3โมงครึ่ง 1หลอด (จำซีซีไม่ได้) ..เราบอกพูดเหมือนธรรมดา (แต่ด่าในใจ..นี่แม่หรือนี่).. "ไหน ๆ ก็หมอบอกแล้ว ก็แวะหาหมอก่อนเลย..พรุ่งนี้จะได้ไม่ต้องออกมาอีก ขับรถเสียเวลา".. พูดซ้ำหลายครั้ง ยืนยัน (ตอนแรกแม่จะให้เรากลับเลย..ไม่ต้องตามลูกไปส่งที่บ้าน ลูกก็ขอให้ไปนอนด้วยที่บ้าน)... / พอถึงรพ. พยาบาลเช็คไข้ ให้พบหมอ.. เราก็ฟัง หมอบอกเลย "ผมให้คุณแม่เลือก คุณแม่เลือกให้รับยาไปให้ลูกกินก่อน..แต่วันนั้นใจจริงหมออยากให้ลูกชายของคุณแม่นอนรพ แอ๊ดมิดเลย.." น๊าน..เราถึงบางอ้อเลย..(ทั้งที่อยู่บางแค).. เราถามเลย "ถ้าไข้ไม่ลดตามนี้..ต้องนอน แอ๊ดมิดเลยวันนี้ใช่มั๊ยคะหมอ" / "คือหมอคิดว่าต้องนอนแล้วล่ะ ถามลูกกินยากี่โมง กี่ซีซี" แม่ทำอิดออด.. / เราเลยหลอกล่อให้ลูกระบายสีในภาพ ลูกระบายได้ดี สวย น้ำหนักมือดี..ไม่เลยขอบ.. เราขอหลอดซริงค์ฉีดยามาให้ลูกเล่น..ทำเป็นหมอฉีดยาลูก (เพื่อไม่ให้ลูกกลัวเข็มฉีดยา..เพราะเดี๋ยวต้องโดนฉีดแน่นอน) ลูกก็เ่ล่น.. / พอเข้าห้องเตรียมตัว เปลี่ยนเสื้อผ้า..ลูกร้องโวยวาย..จะตายเอาเสียให้ได้.. ไม่ยอมฉีด พยาบาลหลายคน แม่ก็ต้องล็อค ฉีดยา ใส่เข็มสายน้ำเกลือ..เสร็จ หายร้องไห้..เข้าห้องพัก ลูกรำคาญพูด จะดึงบอก "เอานี่ออกไปเดี๋ยวนี้เลย" / ต้องพูด ว่า "ต้องกินน้ำเกลือก่อนลูก แทนอาหาร" / แม่ทำแย้ง..มีความรู้แบบหมอเดี๊ยะ.. "ไ่่ม่ให้พูดว่ากินน้ำเกลือ..ต้องพูดว่าให้น้ำเกลือเข้าร่างกาย (จำไม่ได้แล้ว คำวิชาการภาษาหมอซะด้วย..แม่มีน้องสาวเป็นพยาบาลเก่ง 1 คน)... / สุดท้ายหมอสรุป ลูกเป็นไข้หวัดใหญ่ ต้องนอนซะ 3 หรือ 4 วัน (ค่ารักษา ถ้าจำไม่ผิด 11,900 เกือบ 12,000 ไม่ใช่ 19,000) แม่พูดว่า "ลูกมีประกันสุขภาพ.. ไม่น่ามาเป็นตอนนี้เลย ถ้าอีก 2 วัน ล่ะก็ถึงจะเบิกได้" ลูกไม่สบาย เลือกไ้ด้ด้วยเหรอ... เงินเค็ม เกลือขึ้น จนลูกทรมานเพราะไม่สบายหลายครั้งแล้ว..พ่อแม่ไม่เคยรู้สึกเลย..ว่าชีวิต ความเจ็บป่วยของลูกมันทรมาน..ให้ลูกรอ.. / พ่อบอก "ให้ลูกรอกินยาจีน.." เราให้กินยาฝรั่งไปก่อนแล้ว 6 โมงเย็นแ้ล้ว ไม่เห็นพ่อแ่ม่กลับมาเลย.. พอใกล้ถึงบ้าน จะ 2 ทุ่มแล้วแม่โทร.เข้าบ้าน ..บอกให้กินยาแล้ว ได้ยินเสียงพ่อบ่นอารมณ์เสียจากหูโทรศัพท์ "แม่ไม่ได้บอกมันเหรอ..ว่าให้รอ เราจะให้ลูกกินยาจีน"... / วันนั้น เราไปหาลูก พอดีไม่สบาย..แม่ชงยาจีนให้เป็นแก้ว.. ขมจะตายห่า.. บังคับให้กิน (แก้วขนาด 22ออนซ์ แก้วยาวทรงสูง) ได้เราเห็นก็สงสาร (กินตั้งแต่เช้าก่อนไปโรงเรียน).. กินยาไป จิบน้ำไปก็ได้นะลูก โห..แม่เห็นเท่านั้นแหละ ตวาดลั่น Office คนหันมามองกันเต็มเลย..ตวาดแว๊ด ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ (ขนาดกูแก่เท่ามึง กูยังกลัวเสียงมึงเลย อีแม่โรคจิต)..ทำหน้ายักษ์ จิ๊บส์ปาก ..เข็ดเีขี้ยวเคี้ยวฟัน "ทำไม ทำไม ใครบอกให้กินยากับกินน้ำ (พร้อมทำหน้ายักษ์ ตวาดปากกว้างแทบจะกินลูกได้เลยทีเดียว ซ้ำ ซ้ำ ซ้ำ พูดไปด่าไป ตะคอก ตวาดไป ไม่จบ) / ลูกบอกแม่ด้วยน้ำเสียงธรรมดา "ก็อี๊บอกลูกว่า..ยามันขมมาก กินยากินน้ำตามหน่อยก็ได้น่ะแม่" แม่ด่าทันที..อะไรวะ สมองคิดเหตุผลอธิบายลูกไม่เป็นเลยเหรอ อายุขนาดนี้ 40 กว่าแล้ว เป็นหัวหน้าคน ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ระดับต้นแล้วด้วย.. ทำไมไม่มีความเป็นผู้ดี คำพูดแบบคนที่ได้รับการอบรม หรือผ่านการเข้าวัดเข้าวา ทำบุญ ฟังเทศน์ ฟัีงธรรม สวดชินบัญชร..ได้จนจบ..เป็นเรื่องเป็นราว / แถมด้วย ประชด .."งั้นกินยากินน้ำให้หมดเลย ยาเอาไปเททิ้ง ไม่ต้องกินแล้ว) / เราก็ได้แต่หน้าจ๋อย..กลัวมันด่าลูก อย่างเอาเป็นเอาตาย.. เฮ้อ..ชอบว่าลูก" ลูกท้าทายแม่ใช่มั๊ย" ซ้ำ ซ้ำ ซ้ำ (อีแม่บ้าอำนาจ) /ตอนกลับ เขาให้ตังค์เราอีก 1 พัน (เพราะเราบอกจะไปอยู่กำแพงเพชร ให้เป็นเหมือนช่วยค่ารถ) เราคืนให้แม่ไป.. แม่ยื่นให้ลูกชายบอกลูก "ลูก..เอาให้อี๊นะครับ "ลูกรับมาจากแม่ แล้วยื่นให้อี๊ (นั่งหน้ารถ) "ให้อี๊ครับ" (เราจำต้องยอมรับ) "ขอบคุณครับลูก".....

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น