วันจันทร์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2554

เจ้าของบ้านเช่า ขอทวงห้องคืนแล้ว ถ้าอยู่ถึงสิ้นเดือน

ต้นเดือน เจ้าของบ้านได้รับจดหมายที่สอดไว้หน้าประตูเหล็ก
*
"กริ๊ง ๆๆ ๆ " .... ถ้าให้คนอื่นมาขนของเป็นใครกิ่งก็ไม่รู้จัก ไม่ยอมหรอกค่ะ พี่ต้องอยู่ด้วย / งั้นก็ได้ค่ะ
*
"พี่อยู่ไปอยู่ที่ไหน แถวนี้ห้องเช่าราคาแบบนี้ไม่มีหรอกค่ะ" / "ค่ะพี่รู้ ก็ไม่ใช่ไม่อยากอยู่ แต่ไม่มีเงิน เขาไม่ให้"
*
เมื่อคืน 11 ธค.54 ... ไปซื้อกระดุมแป๊ะ.. "พี่ จะออกสิ้นเดือนจริง ๆ ใช่มั้ยคะ..มีคนมาถามห้องเช่า ยังไงก็ขอคำตอบไม่เกิน 20 นี้ได้มั้ยคะ?" / "ก็ไม่ออกหรอกค่ะ แต่เขาไม่ให้ ไม่มีเงินจริง ๆ งั้นขอเป็นไม่เกิน 25 ได้มั้ยคะ" / "ก็ได้ค่ะ"
*
คนเช่าห้องชั้น 2 ติดบันได (น่าจะใช่) เวลาออกจากบ้านก็จะล็อคแม่กุญแจด้านนอกทุกที ไอ้เราออกทีหลัง ต้องใช้ความสามารถพิเศษ มือเดียวไขแม่กุญแจให้ได้ทุกครั้ง ไม่งั้นออกจากบ้านไม่ได้
*
หลายสัปดาห์ก่อน ห้องนี้ก็ทำกับข้าวแบบผัดหลายกระทะ กลิ่นพริกฉุนจมูกขึ้นมาเลย แสบคอ แสบตา..จาม... คุณนายทำกับข้าวตั้งแต่ 4 ทุ่ม ถึง 5 ทุ่มกว่า เก็บล้างอีก..กว่าจะเสร็จเที่ยงคืน กว่ากลิ่นในห้องเราจะหมด ก็โน่น ตี 1 กว่า ๆ ...เสื้อผ้าห้องอาจารย์สาธิตเกษตรตากไว้ ถึงจะได้กลิ่นน้ำยาปรับผ้านุ่ม..ไม่งั้นมีแต่กลิ่นพริก..เราเปิดประตูออกไปดมเต็ม ๆอีกที ส่ายหัว ปิดประตูธรรมดา
*
วันต่อมา คุณนายเขากลับเข้ามาบ้าน ปิดประตูโครมแรก สักพักปิดประตูอีกโครม แล้วก็มีอีกนิดหน่อย
ก่อนหน้านี้ก็ทำกับข้าวอย่างนี้ อาทิตย์ละครั้งมั้ง ...เข้าใจว่อาจจะต้องหารายได้พิเศษเลี้ยงลูก.. แต่ชาวบ้านไม่ต้องหลับไม่ต้องนอนกัน นอนดมกลิ่นผัดผักบุ้ง ผัดถั่วงอก หรือผัดบวบ อะไรหลาย ๆ อย่าง ใส่พริกแบบโลกแตก.. พัดลมระบายอากาศก็เปิดให้กลิ่นออกจากห้องของเขา..ไอ้เราอยากอยู่ค่าเช่าถูก..ก็ต้องทนเอา..  ตึกของพ่อแม่ ไม่มีบุญไม่วาสนาได้อยู่ (ไม่ต้องฝันว่าเขาจะยกให้เป็นเจ้าของ โฉนดเป็นชื่อเราน่ะเรอะ ไม่เคยหวังเลย แค่ตึกห้องแถว จะให้เราทำมาหากินก็ยังไม่คิดจะให้เลย ค่าเช่าเดือนละ 8,000 เขาก็เก็บไว้ให้ลูกชายหลานสาวของเขาใช้.. ที่บางพลี บางเสาธง ถ้าจำไม่ผิด..ตอนที่คุณนายแม่วิภา ให้นั่งรถไปกับสุชาติ สุพรรณโกมุท ไปช่วยขนเอาทีวีของคนเช่าบ้านหนีค่าเช่า เอาไปทิ้ง.. สุดท้ายมันได้ค่าน้ำมันรถ ค่าเหนื่อย ไอ้เรา..กลับบ้านตัวเปล่า น้ำสักแก้วก็ยังไม่ได้กินของมันเลย
*
วาสนาดีสุด ก็ตอนที่ไปเซ็น "ไม่ขอรับมรดก" ให้ป๊อป สุชาติ สุพรรณโกมุท ได้กินข้าวผัดกะเพราะไข่ดาว 1 จาน ของมันเท่านั้น..
*
สงสัยต้องร่อนเร่ พเนจร อีกแล้ว..จะไปซุกหัวนอนที่ไหนเนี่ย ที่อมตะนครก็ไม่มีใต้สะพานลอยคนข้าม หรือพื้นที่ว่างใต้ทางด่วนแบบกรุงเทพซะด้วย.. 2 พี่น้องนั่น คงมีทรัพย์สิน มรดก มีเงินกิน มีเงินใช้ มีเตียงดีดีนอน มีผ้าห่มอุ่น ๆ ห่มให้หลับสบาย.. แค่นี้คุณนายแม่วิภา จงมีความสุข ก็มีความสุขอย่างล้นเหลือ
*
ส่วนเราลูกสาวคนเดียวที่เดินทางด๊อกๆๆไปตลาดกับเขาทุกวัน ช่วยแม่ซื้อของ หิ้วของ จัดของ ขายของ หุงข้าว ทำกับข้าว ล้านจานล้างถาด เก็บกวาดเช็ดถู ทุกอย่างที่เขาสั่ง..เขาว่า เป็นลูกไม่ดี.. "ค่าเช่าเอาไปให้หมดเลยมั้ย ยกมือท่วมหัว ..ทำพวงมาลัยดินหอม..เขาก็พูด "ทุ้ย ถ่มน้ำลายจริงจัง".. จะเช่าก็ "กูไม่ให้เงิน" จะทำหนังสือ "ทำหาเงินทำเอาเอง เป็นหมื่นล่ะสิ" แต่ถ้าสุชาติ สุพรรณโกมุท จะทำเว็บซ้ายเว็บขวา ขายเครื่องกรองน้ำ ค่าทำเว็บร่วม 20,000 คงจะออกเงินให้อย่างเต็มใจ
*
ไม่รู้จะทำอะไร เงินค่าเช่าก็ไม่มีให้เขา เงินค่ากินค่าใช้ ก็หมดแล้ว.. เงินทุนทำมาหากินก็ไม่มี.. ที่ไหน ที่ไหนก็ต้องจ่ายค่าเช่าทั้งนั้น.. ช่วยทำมาหากินทุกอย่างที่เขาสั่ง สุดท้ายเราต้องมารอความตายอย่างหมาข้างถนน ตึกเขาก็มี รถเขาก็มี.. เราไม่เคยมีรายชื่ออยู่ในผู้จะได้รับสมบัติ มรดก จากคุณนายแม่วิภา จงมีความสุข ตึกทุกหลัง 3 ล้าน 4 ล้าน เป็นของลูกชายของเขาหมด..บางทีอาจมีเก็บไว้ให้หลานสาวนอกไส้ คุณหนูหลิน พิมพา สุพรรณโกมุท ด้วยก็เป็นได้ ส่วนหลานสาวในไส้ "ปลวกน้อยของอาม่า" ไม่ต้องห่วงได้แน่นอน ไม่ตึกก็2ตึก... วู้ดดี้ ดีโน่ น่ะเหรอ บอกพวกมันแล้วว่าอย่าไปหวัง "พวกมันกลัวจะเอาไปให้แม่สาว นิจยา ปิ่นปรีเปรม" ที่ตอนนี้ก็ลอยคอ รับจ้างหั่นไก่ในโรงงาน .. อยู่ไปวัน ๆ คนพวกนี้ไม่เคยถามถึง ไม่เคยไปดูดำดูดี ยกบ้าให้หลังหนึ่งแล้วก็จบกันไป.. มีแต่ด่าไล่หลัง มันเลว มันชั่ว.. Edogเยาวพันธ์ ผสมโรงกับผัวมันด่าใส่ลูกเลี้ยง "แม่มันบ้า แม่มันบ้า ฯลฯ" สักวันก็จะถึงตาของลูกหลานมึง Edog เยาวพันธ์
*

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น