"คุณเคยเลี้ยงลูกแบบนี้หรือไม่" กาลครั้งหนึ่นานมาแล้ว..มีครอบครัว 3 คนพ่อแม่ลูก.. พ่อขับรถไปทำงานตั้งแต่ก่อนตี 4 ส่วนแม่ตื่นสาย..ปลุกลูกตื่น

"คุณเคยเลี้ยงลูกแบบนี้หรือไม่" กาลครั้งหนึ่นานมาแล้ว..มีครอบครัว 3 คนพ่อแม่ลูก.. พ่อขับรถไปทำงานตั้งแต่ก่อนตี 4 ส่วนแม่ตื่นสาย..ปลุกลูกตื่น / จอดรถซื้อขนมปังปิ้งหน้าหมู่บ้านให้ลูกกิน..หมูปิ้ง..ไปถึงโรงเรียนอนุบาล.. วันนั้นเป็นหน้าหนาว ลมเย็น จอดรถกระบะริมรั้วข้างบ้านผอ.โรงเรียนอนุบาล ซอยสถานทูตจีน. ให้ลูกถอดชุดนอน..หยิบขวดน้ำสิงห์ 1.5 ลิตร ราดบนหลังลูกราดให้น้ำผ่านตัวหน้า-หลัง.. 1 ขวด ลูกสะดุ้งเล็กน้อยแต่ก็ไม่คิดอะไร ไม่มีการแปรงฟัน ล้างหน้า ไม่มีน้ำอุ่นเช็ดตัว.. แม่โวยวายเสียงแว๊ดแหว.. "นี่ลูกยืนดีดี เหยียบขี้หมาแล้วเห็นมั๊ย (ซ้ำ)" ลูกปีนขึ้นเบาะแค็บอารมณ์วิ่งเล่นซนสนุก แม่แว๊ดแหวอีก.. "ดูซิเหยียบขี้หมาแล้วก็ไปวิ่งบนผ้า เลอะหมดแล้ว.เลอะขี้หมาหมดแล้ว สายแล้วนะ..เดี๋ยวให้ครูจัดการซะเลยดีมั๊ย" / เราบอก "ลูกมานั่งตรงนี้ จะทำให้.." ลูกก็สงบเงียบ นั่งห้อยขาที่เบาะฝั่งนี้ เราเอาน้ำที่เหลือในขวดนั้น..(ขวดเดียว ขวดเดิม) ราดที่เท้า ถูกฝ่าเท้าให้สะอาด บอก "แต่งตัวซะลูก สายแล้ว เดี๋ยวเข้าแถวไม่ทัน" ... เป็นแบบนี้ทุกครั้ง... / มีคนเคยพูด เขาเลี้ยงลูกเหมือนลูกเป็นภาระ ไม่ใช่ลูกเป็นความรัก เลี้ยงโดยหน้าที่ ความรับผิดชอบที่ดีที่สุด... เราเห็นด้วยอย่างยิ่ง.../ อีกครั้ง..ลูกใส่ชุดกีฬาเทควันโด..ใส่ถุงเท้าบนรถ รองเท้าผ้าใบยังไม่ใส่ จะถึงแยกฟอร์จูนแล้ว ติดไฟแดง.. เราบอก "ใส่รองเท้าได้แล้วลูก สายแล้ว.." ลูกก็เล่น.."ก็...ว่าผม..ใส่รองเท้าผิดข้าง" (แต่ทำหน้าทะเล้น หัวเราะ) แม่แว๊ดแหวใส่.."ใส่รองเท้าเดี๋ยวนี้เลยนะลูก ไม่งั้นถึงโรงเรียน จะให้ครูพละจัดการลูก" ซ้ำ ซ้ำ ซ้ำ พูดซ้ำพูดซาก..ลูกคงกลัวครูมาก.. เราได้แต่สงสารลูก ส่ายหัวแทน... / ทุกวันนี้เห็น ฟันข้างเขี่ยว ข้างซ้าย 1 ซี่ กร่อนสีเหลือง ๆเป็นมุม ๆ ถามลูก "ฟันแท้หรือฟันน้ำนม" ลูกบอก "ไม่รู้"... / น่าจะผุมาก ๆ แล้ว โตขึ้นสุขภาพช่องปากคงไม่ดีเหมือนพ่อ.. จะได้ยินเสียงพ่อดูดเศษอาอหารจากซอกฟันผุ ซรื๊ด ซรื๊ด ทุกครั้งหลังกินอาหาร... / ส่วนแปรงสีฟัน ก็ให้ลูกใช้จนขนแปรงบาน.. ถ้าไม่บานจนหมด ก็คงจะไม่เปลี่ยนให้ลูก.. http://home.truelife.com/detail/705214 ***** HOME > Hilight ถึงเวลาเปลี่ยนแปรง! 0 0Google +0 0 เขียนเรื่องสุขภาพหลายเรื่องแล้วครับ แต่ไอน์สไตน์น้อยไม่ค่อยจะได้หยิบยกเรื่อง "ฟัน" มาพูดถึงสักเท่าไหร่ วันนี้ฤกษ์งามยามดี พอดีจังหวะที่คนที่บ้านบอกให้ซื้อแปรงสีฟันอันใหม่กลับบ้านเนื่องจากอันเก่าครบอายุการใช้งานแล้ ไอน์สไตน์น้อยจึงนึกถึงเรื่อง "การเปลี่ยนแปรง" ขึ้นมาได้ด้วยเหตุนี้เองครับ มีคนจำนวนไม่น้อยไม่มีกำหนดการใช้แปรงสีฟันอย่างแน่นอน หลายคนใช้จนขนแปรงบานออกเป็นอันจบ เอาไปทิ้งได้ ถึงเวลาซื้ออันใหม่ แต่ทราบไหมครับว่าจริงๆ แล้ว เวลาที่เหมาะสมในการใช้แปรงสีฟันหนึ่งอันมีระยะเวลาเท่าไหร่ และรวมถึงการเลือกแปรงสีฟันที่ถูกต้องควรทำอย่างไร คำตอบก็คือควรเปลี่ยนแปรงสีฟันอันใหม่ทุก 3-4 เดือนครับ หรือถ้าคุณเป็นคนแปรงฟันบ่อยกว่าปกติ หรือขนแปรงบานหรืองอ ก็ควรจะเปลี่ยนครับ แต่สำหรับคนที่แปรงฟันปกติ แปรงสีฟันที่ดีและได้มาตรฐานควรมีอายุการใช้งานไม่น้อยกว่าสามเดือนครับ และสาเหตที่ต้องเปลี่ยนแปรงที่หมดอายุการใช้งานแล้วก็เพราะ แปรงที่หมดอายุการใช้งาน จะประสิทธิภาพในการกำจัดคราบจุลินทรีย์จะลดลง และอาจทำอันตรายต่อเหงือกได้ ส่วนวิธีการเลือกซื้อแปรงสีฟันก็คือ ควรเลือกชนิดที่มีขนแปรงอ่อน ขนาดพอเหมาะกับปาก และด้ามจับถนัดมือ นอกจากนี้ การเก็บแปรงสีฟันหลังการแปรงฟันก็เป็นเรื่องสำคัญไม่น้อยนะครับ และเป็นส่วนที่คนทั่วไปอาจจะละเลยหรือนึกไม่ถึง เมื่อแปรงฟันเสร็จ ล้างแปรงด้วยน้ำสะอาด จนหมดคราบยาสีฟัน ผึ่งแปรงให้แห้งในที่อากาศถ่ายเท หากแปรงสีฟันยังเปียกชื้น จะเกิดการหมักหมม จนเกิดเชื้อราขึ้น เห็นเป็นคราบสีเหลือง หรือดำ ตามซอกขนแปรงครับ ติดตามชมสาระน่ารู้อันหลากหลายและน่าสนใจมากในเวอร์ชั่นภาพเคลื่อนไหวแบบเต็มๆ และจุใจ ผ่านทางรายการ Knowledge Gang ทางช่องทรูวิชั่น 67 รับรองทั้งมันส์ทั้งได้ความรู้...อย่าลืมติดตามกันนะครับ เติมเต็มอาหารสมอง อัพเดททุกวันกับKnowledge Guru ที่ http://knowledge.truelife.com/ **** วันนั้นลูกอาบน้ำ นั่งเล่น้ำ แม่โวยวายใหญ่ "ลูกเล่นน้ำ เอาสบู่ถูพื้น..รู้มั๊ย พื้นห้องน้ำมันสกปรกมาก มีเชื้อแบคทีเรีย เชื้อแบคทีเรียจะเข้าก้นลูกนะ (ซ้ำ ซ้ำ ซ้ำ) แปรงขัดห้องน้ำ แม่ล้วงชักโครกล้วงลึกสุด ๆ แล้วถูพื้นห้องน้ำต่อ..มันสกปรกมากนะ เชื้อโรค เชื้อแบคทีเรียจะเข้าก้นลูก นะ อย่าเล่นพื้นห้องน้ำ" (10 ปีผ่านไปยังไงก็อย่างนั้น เอาแปรงหัวกลม ขัดรูชักโครกสุด ๆ ล้วงลึก ๆ สุด ๆ แล้วก็เอาแปรงนี้แหละมาขัดพื้นห้องน้ำต่อ...ไม่ใช้แปรงสำหรับขัดพื้นต่างหากอีกอัน ขี้เหนียว ประหยัด หรือเค็มเหลือเกิน) http://www.l3nr.org/posts/536809 ****** เริ่มจากการเก็บกวาดก่อนจะทำความสะอาดพื้น เริ่มแรกต้องเคลียร์พื้นที่ให้โล่ง ด้วยการเก็บข้าวของบนพื้น รวมไปถึงผ้าเช็ดเท้าออกก่อน เพื่อเป็นการกำจัดสิ่งกีดขวาง เมื่อจัดการเรียบร้อยแล้วก็ตามด้วยการกวาดพื้นกำจัดฝุ่นผง อย่าลืมไล่กวาดตามร่องกระเบื้องด้วย หรือถ้าจะให้ดีก็ใช้เครื่องดูดฝุ่นเลยก็ได้ เพื่อให้แน่ใจว่าฝุ่นและเศษสกปรกจะหมดเกลี้ยงจริง ๆ เลือกน้ำยาทำความสะอาดให้ถูก เพื่อการทำความสะอาดอย่างล้ำลึก เราก็ควรต้องเข้าใจชนิดกระเบื้องก่อน ว่าควรหรือไม่ควรใช้วิธีไหนทำความสะอาดกระเบื้องบ้าง เพราะถ้าไม่ศึกษาให้ดี ก็อาจจะเผลอทำให้พื้นกระเบื้องเสื่อมสภาพและพังได้ อย่างพื้นกระเบื้องหินอ่อน เป็นกระเบื้องชนิดที่ค่อนข้างไวต่อสารเคมี ดังนั้นควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน และถ้าเป็นพื้นกระเบื้องพอร์ซเลน ควรใช้น้ำยาทำความสะอาดที่มีเบสเป็นอัลคาไลน์ เจือจางด้วยน้ำร้อน เพื่อกำจัดคราบหินปูนและคราบเปื้อนให้หมดจด ส่วนถ้าเป็นกระเบื้องเซรามิกก็ง่ายหน่อย เพราะเป็นกระเบื้องชนิดที่สามารถใช้น้ำยาทำความสะอาดทั่วไปทำความสะอาดได้ไม่มีปัญหาค่ะ กำจัดความสกปรกให้สิ้นซาก นอกจากจะต้องรู้จักชนิดกระเบื้องแล้ว เราก็ควรต้องรู้จักชนิดของคราบเปื้อนด้วย เพื่อจะได้เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดได้อย่างเหมาะสม ช่วยให้ทำความสะอาดคราบเปื้อนแต่ละชนิดได้ง่ายขึ้น อย่างเช่น คราบสบู่ในห้องน้ำที่เกาะติดแน่น ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติกำจัดคราบสบู่ร่วมกับแปรงขัด เพื่อจะได้กำจัดคราบสบู่ได้อย่างหมดจด และกระเบื้องห้องครัว ก็ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยกำจัดคราบมันและเชื้อโรค หรือกระเบื้องพื้นผิวขรุขระก็ควรใช้แปรงขัดแทนการใช้ม็อบธรรมดา เนื่องจากอาจจะมีคราบสกปรกฝังแน่นอยู่ตามร่องกระเบื้องได้ ป้องกันความสกปรก การมีพื้นกระเบื้องที่สะอาดอยู่เสมอ นอกจากจะต้องทำความสะอาดเป็นประจำแล้ว เราก็ควรปกป้องพื้นกระเบื้องไม่ให้สกปรกด้วย เริ่มจากไม่ใส่รองเท้าเข้าบ้าน ซักผ้าเช็ดเท้าบ่อย ๆ เพื่อไม่ให้มีเศษฝุ่นมากเกินไป จนกระจายไปตามพื้นกระเบื้องได้ และหากทำอะไรหก / เขาว่าเราสกปรก.. ไม่ล้างชามข้าวหมา ไม่ล้างชามน้ำหมากิน.. แต่พ่อเขาเอาสก๊อตไบรท์ขัดล้างชาม..ขัดถูชามข้ามหมากับชามน้ำ.. แล้วก็ล้าง.. แม่ก็เอามาล้างชามข้าวคนกินต่อได้.. / พ่อจะใช้ช้อนกินข้าวคนคลุกข้าวในชามข้าวหมา (ข้าวผสมเศษอาหารเหลือกิน) เสร็จแล้วก็ล้าง คนกินต่อได้..ไม่สกปรกแต่อย่างใด...