วันจันทร์ที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2554

7 กพ.54

ฝากบัตรเอทีเอ็ม ไปเช็คยอด เล็กกลับมาให้พันนึง บอก "โทรไปถามแม่เอ็งว่าโอนเงินให้หรือยัง แม่เอ็งบอกเขาโอนไม่เป็น ให้เอ็งยืมพันนึงก่อน แล้วจะโอนให้ทีหลัง  แม่เอ็งถาม ตกลงเอ็งไม่กลับไปขายของจริง ๆ หรือไง"

โธ่เอ๊ยพันนึงเนี่ยนะ มีเรอะจะให้อีก เขาไม่ได้อยากให้หรอก ยังไงซะก็ต้องเอาเราไปใช้งานขายของ เป็นหมาเฝ้าสมบัติขายของให้ได้อยู่ดี

"ก็รอไปสิ รอให้Iแจ๋กลับมาขายก่อนสิ"

อย่างอื่นมีให้ขายเยอะแยะในชั่วโมงเร่งด่วน ไม่ให้ขาย ยังไงก็จะให้ขายกับข้าว

วันนั้นที่วัด 2 แม่ลูกคุยกัน คุณชายลูกรัก "ที่ดินแดง ให้Iแจ๋ขายน้ำ วันละ 200 น่าจะได้ คอนโดหน้าบ้านตั้ง 400 ห้อง วันละ 400 ไม่น่าจะได้"  ตกลง 2 แม่ลูกนี้เขาจะกงการบงการชีวิตชาวบ้านอย่างไรกันนะ มีแผนอะไรกันอีก สุดที่จะคาดเดา

วันนั้นที่วัด "จะให้ไอ้โน่เลี้ยงล่ะสิ" โอ๊ย ใครจะไปคิด มันยังเรียนไม่จบเลย
แต่คุณนายแม่คงจะหวังให้คุณชายลูกรักเลี้ยง(ให้ตลอดรอดฝั่งล่ะมั้ง)
คุณสมศรีกับคุณสมสุนีย์เดินมาด่าแช่ง "มีสมบัติหาเท่าไหร่ก็ให้ลูกผลาญจนหมด" จะเป็นความจริงหรือไม่ หรือว่าลูกคนไหนจะเป็นคนผลาญสมบัติ อันนี้ตอบไม่ได้ แต่ขอไม่ใช่เป็นเราก็แล้วกัน

หวังว่าบริษัทคงจะโทร.มาบอกว่า15ให้รีบไปรับเช็ค คงไมคิดจะอยู่ทีดินแดงแล้วล่ะ
เจ้าของบ้านยังไงก็ไม่ให้เราอยู่ดีดีหรอก จะต้องยำเราให้ได้

วันนั้น คุณชายลูกรักได้ยินเสียงคนอยู่ในห้องชั้น4 รีบ "วิ่ง" ขึ้นมาเคาะประตู (ไอ้เราก็อยู่ดาดฟ้าได้ยิน เสียงเคาะประตูถี่ยิบ)
คุณหนูหลินพิมพา เปิดประตูออกมา คุณพี่ชาย(ที่แสนดี)ถาม "กลับมาแล้วเหรอ กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่" (สงสัยมันคงได้ยินเสียงเราเดินขึ้นมา แล้วคิดว่าเรางัดประตูเข้าไปล่ะมั้ง ไอ้ทุเรศ)

เออ..แต่วันนึงเราเคาะประตูดัง ๆ ถี่ๆ เพื่อที่จะบอกว่า "โซ่ยเจ็กเขามาป้วนเปี้ยนแถวนี้ ระวังอย่าออกไป" คุณหนูหลินพิมพา เขาอยู่ในห้องไม่ยอมเปิดประตู เคาะหลายนาที เขาก็ไม่ยอมเปิด เราก็เลยขึ้นดาดฟ้าไป ชั่งเขาเถอะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น