วันเสาร์ที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ตระกูล "จงมีความสุข" ช่วยอ่านหน่อย ถ้าไม่รังเกียจ จากนังปู สุวรรณา (ลูกแซ่หยี น้องสาวคนเล็กของคุณเกียรติชัย จงมีความสุข" คุณทรงวุฒิ จงมีความสุข (ก๊อหมุก)

หนังสือราชการ "กรมธนารักษ์" ที่ กค0311/20230 การบอกเลิสัญญาเช่าที่ดินฯ ซอยพิพัฒน์ 2 หนังสือราชการ "กรมธนารักษ์" ที่ กค0311/20230 การบอกเลิสัญญาเช่าที่ดินราชพัสดุบริเวณซอยพิพัฒน์ 2 / ผู้เช่ายินยอมให้บอกเลิสัญญาเช่าได้ .....ไม่น้อยกว่า 30 วัน.. ท่านและบริวารจะต้องออกจากที่ดินที่เช่า ขนย้ายทรัพย์สินของท่านฯ.....ให้แล้วเสร็จภายใน 31 ธันวาคม 2556 / โทรศัพท์ 022782426 / ต้องใช้ใบเสริ็จค่าเช่าหลายใบ จากค่ตอบแทนการใช้ประโยชน์ฯ จะเพิ่มทุกๆ ปี..เงินประกันการเช่า.. / กรมธนารักษ์ได้บอกเลิกสัญญาเช่าที่ดินมาตั้งแต่ปี 2545 (10 ปีที่ผ่านมา) แต่เนื่องจากยังให้ผู้เช่าใช้ประโยชน์การที่ดินอยู่ตลอด 10 ปีที่ผ่า่นมา / การดำเนินโครงการใด ๆ ยังไม่มี เพราะยังอยู่ในระหว่างการศึกษาโครงการ การจะนำที่ดินผืนนี้ไปทำประโยชน์อื่นใด จะต้องเข้า ครม.ขออนุมัติก่อน..จึงจะทำการเปิดขายซองประมูลราคาได้.. เพราะฉะนั้น ข้อมูลที่ว่า "เบียร์ช้างประมูลได้แล้วแต่ยังไม่ได้ตกลงราคา" จึงไม่มีมูลความจริง.. (คาดว่าตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ผู้เช่าที่ดินน่าจะต้องได้ข่าวสารข้อมูล เบาะแสมาบ้าง..ว่าทางการจะเอาที่ดินคืนเมื่อไหร่ ถึงแม้ทางการไม่บอก แต่ก็รู้กันทุกคนแล้วตั้งแต่ปี 2545 ว่ากรมธนารักษ์ได้บอกเลิกสัญญาเช่า และให้จ่ายเป็นค่าตอบแทนในการใช้ประโยชน์..ทุกคนมีเวลาเตรียมตัวหาบ้านที่อยู่ หาที่ทำมาหากินใหม่.. แต่ทำไม..นังปูถึงถูกขู่บังคับจะให้ขายของที่ร้านผัก แม้จนกระทั่งถึงวันนี้..ทั้ง ๆที่รู้ว่า ที่ดินพร้อมจะถูกเรียกคืนได้ทุกปี.. ก่อนหน้านี้.."เค้าจะทำอะไรมาขายหน้าบ้านดีมั๊ย" / "ไม่ต้องมาเลย..เดี๋ยวมากัดกับไอป๊อป" / "ตลอด 10 ปีที่นังปูออกจาก ไม่ได้ทำงาน" เล่าให้อี๊ฟัง / "จริงหรือ ..ตั้งแต่อออจากงาน พยายามหาที่เรียนทำขนมเบเกอรีื ทำอาหาร ไม่เคยมีใครส่งเสริม ที่ไปเรียนก็ใช้เงินเออร์ลี่ของตัวเอง..ไม่ได้ขอเงินพ่อ ไม่ได้ขอเงินแม่.. ตอนหนีไปอยู่กับสาว (แม่วูดดี้)..ก็ไม่มีใครตามกลับมาขายของอะไรเลย..ไม่มีใครถามว่ามีเงินใช้มั๊ย..กินอยู่สะดวกสะบาย สบายดีหรือไม่... ร่อนเร่ เป็นลูกจ้างขายซีดี อยู่ร้านซีดี ที่ปราจีนบุรี.. ได้เดือนละ 4,000 บาท..จ่ายค่าเช่าบ้านเดือนละ 2,000 บาท..บ้านต้องเช่า ข้าวต้องซื้อ ยืมเงินเถ้าแก่มา..ตอนหลังไม่ทำ..ก็ต้องโทร.ไปขอยืมเงินแม่ 5,000 บาท แม่บอก "ไม่ค่อยมีเงินนะ" นั่งรถทัวร์ไปเอามาใช้หนี้ให้เถ่าแก่ก่อนออกจากลูกจ้างซีดี..ลูกสาวเขาก็เป็นคนดูถูกคน.. เรียกเขาว่า "เด็กนรก" / แล้วก็ร่อนเร่ไปไหนต่อไหน..ตั้งแต่ปี 2544- ตอนแรกแม่ให้เงินใช้เดือนละ 2,000 บาท แลกกับการอยู่ห้องเก็บของหลังบ้าน(เก็บของออกแ้ล้วทาสีใหม่ แต่สุดท้ายทำอาหารก็มีหนูวิ่งบนลูกกรงเหล็ก วิ่งบนเพดาน แมลงสาบยั๊วะเยี๊ยะ)ตอนหลังหนีไปอยู่บ้านสาว ขนเครื่องครัวทำเบเกอรี่ไปหมด ..ไม่มีเงินลงทุน ทำขนมขาย.. สุดท้ายก็ต้องหนีออกจากบ้านสาว (เพราะเขาเองก็จ๊นจน พี่น้องก็ไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้)มีแต่บ้าที่พ่อแม่ยกให้อยู่อาศัยเท่านั้น น้ำยังต้องใช้น้ำฝนเลย ไม่มีน้ำประปา ใช้น้ำคลอง.. เีลี้ยงน้อง Poom เกิด พย.2547 (ตั้งแต่เกิดถึง 1 ขวบ 10 เดือน หนีออกจากบ้านเขา แล้วกลับไปอีก เขาให้เงินเป็นค่าเฝ้าบ้าน อยู่ถึง 2 ขวบ 3 เดือน ) หนีออกจากบ้านเขา 1 กพ.2550 ไปเช่าบ้านแถวนั้น..ไม่มีเงิน..เลยต้องขอกลับมาอยู่บ้าน..กลับมาได้อยู่ห้องเก็บของชั้น 2 (สกปรก รก เลอะเทอะ) ต้องเลื่อนโซฟาสีฟ้าของคุณป๊อปไปอีกครึ่งห้อง.. เหลือพื้นที่สำหรับทำกับข้าว เตียงไม้กระดาน นอนไม่ถึงครึ่งห้อง..ที่เหลือก็เก็บของสกปรกอย่างนั้น..ก็ต้องอยู่ หลังบ้านก็มีหนูวิ่งขึ้นมาแล้ว..ขี้หนูเต็มเลย.. ตากผ้าก็เหม็นอับ ไม่มีแดด...สรุปกลับมาอยู่ห้องเก็บของ ต้นปี 2550 จนถึงปี 2554 (ป๊าตาย 17 กพ.2554 ปีหน้า 2556 เื่ท่่ากับป๊าตายมา 2 ปีแล้ว) ...2550-2554 เท่่ากับอยู่บ้านดินแดง 4 ปี (อยู่ห้องดาดฟ้า ตอนหลัง)แม่ให้เงินใช้ตอนแรกเดือนละ 3,000 ,,แล้วก็มาเป็นเดือนละ 4,000 แล้วก็มาเป็นเดือนละ 5,000 แต่ปี 2553-2555 ปีนี้ หลังจากป๊าตายก็ไม่ได้ให้เงินใช้ฟรีๆ (แลกกับคำด่า "70 กว่ายังต้องเลี้ยง 40 กว่า หรือ 75 แล้วยังก็ต้องทำงานขายของเลี้ยง 45..ให้มาขายของที่ร้านผัก โชห่วย ก็ไม่มา ขี้เกียจ เอาแต่กินแล้วก็นอน ขี้เกียจ") /***********************แล้วพูดได้ยังไงว่า "10 ปีที่ผ่านมา นังปูไม่ได้ทำงาน" เลี้ยงน้อง Poom ได้ค่าเบี้ยเลี้ยงเดือนละ 4,000 มาปี 2549 เขาถึงได้ให้เดือนละ 6,000 เขาบอกว่า "ให้เดือนละ 6,000 มาตั้งแต่ต้น..เพราะต้องแบ่งเงินใส่ซอง ค่าใช่จ่ายค่าฟอกไตแม่..และค่าเบี้ยเลี้ยงคนเลี้ยงลูกคนละ 6,000 บาท (ซึ่งความเป็นจริง 2 อาทิตย์ เขาจะให้ค่าเบี้ยเลี้ยง 2,000 (1เดือน 2 ครั้งก็เป็น 4,000) เอาเงินเข้าบัญชีธนาคาร แต่ตอนหลังจะไปแล้ว เลยฉีดสมุดบัญชีทิ้ง แต่จดไว้.. เขายังบอกว่า วันนี้ชนวันนี้ก็เท่ากับ วันนี้ชนวันนี้ ก็เท่ากับเป็นเดือนละ 6,000 ไง..(ความจริงเป็นไง จบบัญชี ใครโกงเรื่องตัวเลข.ไม่ได้หรอก รู้หมด) แต่เขาสามารถพูดว่า วันนั้นชนถึงวันนี้ เป็นเดือนละ 6 พัน.. (ตัวเลข ป.2 ยังดูเป็นเลย)....สรุป 2545-2550..นังปู สุวรรณา สุพรรณโกมุท ไม่ได้รับเงินช่วยเหลือจากแม่ เป็นเวลา 5 ปี (ตอนเลี้ยงน้อง Poom พ่อ แม่ ก็ไม่ได้เรียกให้กลับมาดูแล..ไม่ได้เรียกให้กลับมาช่วยขายของ ไม่ได้ใ้ห้เงินฝากแม่น้อง Poom มาให้เราใช้..บอกแค่ ชื่อเราไม่ได้อยู่ในทะเบียนบ้าน 16/4 ซอยพิพัฒน์แล้ว อยู่ที่ทะเบียนบ้าน 138/2ซอยพิพัฒน์ 2..แล้วเราก็รับจ้างเลี้ยงเด็ก ด้วยค่าจ้างเดือนละ 4,000 บาทต่อไป ..ไม่ได้เอาทางบ้านแม้แต่บาทเดียว... สรุป ตีให้ถัวเฉลี่ยเลย ปีแรก 2550เดือนละ 3,000 (ตก 36,000) ปีที่ 2 (2551) เดือนละ3,000(ตก 36,000) ปีที่ 3 เดือนละ 4,000 (ตก 48,000) ปีที่ 4 เดือนละ 5,000 (ตก 60,000) รวมที่ขอเงินแม่ใช้ (ทั้ง ๆ ที่ตอนเด็กทำงานขายของยืนขายให้ทุกอย่าง..ไม่เคยได้มอเตอร์ไซค์ ไม่เคยได้ค่าน้ำมันรถมอเตอร์ไซค์ ไม่เคยได้กีตาร์ ไม่ได้ค่าจ้าง ค่าแรงแม้แต่บาทเดียว) ขายทอดมัน เงินก็ลงเก๊ะทุกบาททุกสตางค์ ... 2550-2554 รวม 5 ปี ประมาณเป็นเงิน 180,000 บาท...(แต่ถ้าแม่คิดว่า 10ปีที่เราไม่ได้ทำงาน แล้วขอเงินแม่ ก็ต้องเฉลี่ยออกมาเป็น ปีละ 18,000 บาท)..... เขียนโดย fannyknit ที่ 2:41 ส่งอีเมลข้อมูลนี้ BlogThis! แบ่งปันไปที่ Twitter แบ่งปันไปที่ Facebook

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น