วันอังคารที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

คุณวิภา จงมีความสุข หลานนอกไส้ หรือลูกชาย 2 คน หรือลูกสาวคนเดียว จะเป็นผู้รับภาระเลี้ยงดูตอนแก่ เจ็บ ..ใกล้ตาย..

คุณวิภา จงมีความสุข หลานนอกไส้ หรือลูกชาย 2 คน หรือลูกสาวคนเดียว จะเป็นผู้รับภาระเลี้ยงดูตอนแก่ เจ็บ ..ใกล้ตาย.. / ระหว่าง 1.หลานสาวนอกไส้ (หลานของอดีตสามี) ผู้ที่อาผู้หญิง 2 คน เลี้ยงดูอย่างไม่ต้องทุกข์ร้อน กินเหมือนอา แต่งตัวเสื้อผ้าแบรนด์เนม เรียนจบปริญญาตรี ไม่ต้องช่วยทำงานอะไร ไม่ต้องดิ้นรนช่วยอาทำมาหากิน.. แต่ก็ยังเป็นทุกข์เพราะอยู่กับกับอา หันมาได้รับความช่้วยเหลือจากป้าสะใภ้ อาอึ้ม ให้กิน ให้อยู่ อย่างสุขสบาย ก็ไม่ต้องดิ้นรนทำมาหากินอีก เพราะเดี๋ยวจะถูก 2 อาตามมาทำร้าย.. ส่งเสียให้จบปริญญาโท ว่าเป็นเงินให้ยืม.. อยู่กับอา เรียนปริญญาตรี ยังได้เดือนละ 5,000 บาท กินใช้ประจำวัน..อยู่บ้านอาอึ้มห้องชั้น 4 น่าจะได้เดือนละ 6,000 บาท (ล้วน ๆ เป็นไปได้หรือไม่ว่า หลานสาวนอกไส้ ออกจากบ้านไปเรียนปริญญาโท ใช้เงินวันหนึ่ง ๆ ไม่ถึง 100 บาท) / หรือ 2. ลูกชายคนโต ที่เรียนโรงเรียนใกล้บ้าน สหศึกษา (โรบินสันปัจจุบัน) มีคนเห็นหนีเรียน เลยส่งไปเรียนหนังสือกับญาติที่แถวดาวคะนอง (งานที่บ้้านไม่ต้องทำ) สุดท้ายคงจะไม่ไหว ส่งไปเรียนโรงเรียนดัดสันดาน โรงเรียนกิน(แล้วก็)นอน.. "ดาราสมุทร" ศรีราชา จ.ชลบุรี จนจบ ม.3 จบมาก็เรียน ปวช. ต่อ ปวส. โรงเรียนช่างอุตสาหกรรมกรุงเทพ แถวกล้วยน้ำไท เรียนมาเรียนไป เอาเมีย..(ยังเรียนพาณิชย์ไม่จบเลย) ทำงานไม่ถึง 3 เดือนก็ลาออกจากงาน มาให้แม่เลี้ยง .. ว่าแต่ลูกชายคนโตนี้ได้อะไรบ้างล่ะ ตอนเรียนก็ได้.. กีตาร์ ทำกิจกรรม ดรัมเมเยอร์ นักกีฬา / รถมอเตอร์ไซค์ + น้ำมันรถ ขี่ไปเรียนหนังสือที่กล้วน้ำไท / ได้เงินแต่งเมีย จัดโต๊ะจีน ทั้งที่แปดริ้ว และที่ภัตตาคารนิวรินคำ สีลม / ได้เงินไปเรียนซ่อมมอเตอร์ไซค์ / ได้เงินไปทำทุนเปิดร้านขายอะไหล่มอเตอร์ไซค์ที่พนมสารคาม (ไม่มีคนเลย และแม้แต่คนเดิน) สุดท้ายเจ๊ง / ได้เงินทุนไปขายตุ๊กตา ตัวต่อ พวกทามิยา S Doll ที่แปดริ้ว / ได้เงินส่งลูกชาย 2 คนเรียน "เซนต์หลุยส์" ฉะเชิงเทรา / ได้เงินไปซื้อเครื่องกลึง ทำน๊อต เครื่องละกว่า 30,000 บาท (เกือบสิบปีที่แล้ว) / ได้เงินลงทุนรับซื้อขายของเก่า พวกกล่องกระดาษ ฯลฯ / ได้เงินทุนไปทำเลี้ยงหมู กับพี่ชายเมีย (สุดท้ายอ้างว่าพวกเขาหลอกเอาเงินไปลงทุน) / ได้ค่ารักษาพยาบาล มอเตอร์ไซค์คว่ำ (โทษพี่ชายเมียที่ซ้อนท้ายไปทำให้ซวย) รักษาผ่าตัดม้ามทิ้งที่ รพ.เปาโล / ผ่าตัดไส้ติ่ง ที่ รพ.เปาโล / รักษา งูกัดนิ้ว (ลงไปช่วยลอกคลองบ้านเมียเก่า) ที่ รพ.โสธราเวช / เงินค่าเปอร์เซ็นต์ ค่าทำงานจากการจดมิเตอร์ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเช่าห้อง ของทุกบ้าน (ของแม่ทั้งนั้นที่ให้) / มีรถยนต์ขับไปซื้อผักที่ตลาดวงเวียนใหญ่ ก็ยังได้เงินค่าทำงาน ค่าน้ำมันรถ ค่าเหนื่อย วันละหลายร้อยอยู่ / นึกได้แค่นี้ก่อน / หรือ 3.ลูกชายคนเล็ก ที่อยู่อย่างสุขสบาย ไม่ต้องทำงาน แม้แต่ล้างชามใบเดียว ไข่ดาวสักลูกยังทอดไม่เป็นเลย.. ไม่ต้องตื่นขึ้นมาช่วยขายของ ไม่ต้องขึ้นผัก เทของ ไม่ต้องยืนขาแข็งช่วยแม่ขายของ ได้มอเตอร์ไซค์ + น้ำมันรถ ขี่ไปเรียนที่ บพิตภิมุข (จากร้านผักซอยพิพัฒน์ 2 ไปสวนพลู) / หรือ 4.ลูกสาวคนเดียว..ที่ถูำกปลุกให้ไปตลาดไปเฝ้าของหัวมุมตึกตลาดคลองเตย (เพราะพ่อไปติดผู้หญิง) ต้องไปกับแม่ 2 คน แม่ซื้อผัก ลูกสาวคนเดียวนั่งเฝ้าของ ..หรือไปตลาดวงเวียนใหญ่ พ่อขับรถไป ลูกสาวยังเล็กก็เฝ้าของผักในรถกระบะ Datsun สีเขียว.. ไปโรงเรียนก็เป็นเด็กเปิด-ปิด ประตูรถนักเรียน เดินไปรับส่งนักเรียนมาขึ้นรถ.. ตั้งแต่รถ Datsun สีเขียว รถบรรทุก 6 ล้อ (ของเก่า) รถตู้ Toyota สีขาว.. ช่วยพ่อทำขายของ ทั้งต้มเครื่องใน ก๋วยเตี๋ยว เด็กติดรถทัวร์ (พ่อทำทัวร์) ช่วยขายไอศกรีม "นัท" ตราใบไม้ / ตามคำสั่งแม่ ให้ไปขนม้วนเทปวิดีโอที่พ่อไปเช่าห้อง ทำห้องอัด(ไม่ถูกกฎหมาย) ที่อนุสาวรีย์ ใส่เข่ง ขนลงลิฟท์ ใส่รถขนกลับบ้านร้านผัก / เฝ้าร้านผัก ตอนกลางวันให้แม่นอน ปลุกถามราคาของเวลามีลูกค้ามาซื้อผัก ชั่งแล้วถามกี่ขีด เท่าไหร่ ใส่ถุง เก็บเงินใส่เก๊ะ (มีจิ๊กเงินทอนบ้างในตะกร้าใต้เตียงผ้าใบ) / ไปตลาดสามย่านทุกเสาร์อาทิตย์ ถ้ายังไม่ปิดเทอม ปิดเทอมได้ไปเที่ยวพักผ่อนที่บ้านนอก กำแพงเพชร อย่างมากก็ประมาณ 2 อาทิตย์ ปิดเทอ ก็ต้องตื่นไปตลาดวงเวียนใหญ่ ตี 3 กว่า ๆ ทุกวัน ไปตลาดสามย่านทุกวัน คนเดียว ไปรถเมล์ กลับสามล้อ / เคยติดรถเก๋งของ อาแปะเย็นตาโฟ วัดแขก เฮียขับไปกับอาม่า..ไปตลาดสามย่าน ครั้งหรือสองครั้ง / ตั้งกับข้าวไหว้อากงอาม่า ทุกวันไหว้ ถ้าไม่ได้ไปโรงเรียน ช่วยจัดเก็บของไหว้ ตอนไปไหว้เชงเม้ง / จัดของในตู้สบู่ยาสีฟัน ตักข้าวสาร เป็นถังส่งลูกค้า (อ้อ ก็ทำได้นี่.. ตอนนี้แก่แล้ว..ก็ให้มันทำต่อไป ให้มันหาเงินเลี้ยงตัวมันเองต่อไป ยังไม่พิการเหมือนลูกชายคนโต ทำงานหนักไม่ได้แล้ว.. "ไอปีอปขาดีขึ้น เพราะไม่ต้องทำงานหนัก" (แจ๋ยิ่นหมอยบอกอย่างนั้น) ฯลฯ นึกไม่อออก / ปิดเทอมแม่สั่งให้ไปรับจ้างทำงาน แปะป้ายราคาเสื้อชั้นในของ Triumph ตึกสิวดล กลางวันเดินกลับมากินข้าวที่บ้าน ก่อนเข้างานรีบจ้ำ ๆ ไปทำงานต่อให้ทันเวลา ไม่สาย, รับจ้างพับผ้าเช็ดหน้าใส่ถุง (แจ๋ยิ่นหมอย รับจ้างเย็บโพ้งริมผ้าเช็ดหน้า ตัดเป็นชิ้น) , อันนี้ไปเอง.. เพื่อนชวนไปหารายได้พิเศษ ขายกระเป๋านักเรียน Bonny ไปกับเพื่อน ขายที่โรบินสันราชดำดำ ข้างไดมารู ทำงานเช้า เลิกงานตามเวลาห้าง.. ได้เงินมาซื้อรองเท้าส้นสูง(เอง) มีก็ขอค่ารถแม่ไปทำงาน.. / เรียนหาความรู้พวกการฝีมือก็ที่สวนลุม ได้ค่าวัสดุ อุปกรณ์ จากแม่ แจ๋ยิ่นหมอยพาไป / ..ใครกันนะ จะเป็นผู้ที่โชคดี ได้มีโอกาสให้เลี้ยง ดูแลคุณแม่วิภา หรือคุณป้าวิภา จงมีความสุข ตอน(นี้) แก่ เจ็บ.. จนถึงใกล้ตาย.. แบกพาไปหาหมอที่โรงพยาบาล... ลูกชายคนโต ต้องเลี้ยงลูกสาว ไม่มีเวลา อยู่ที่ ปากซอยบึงนายพล ต้องดิ้นรนหากิน ให้เงินเดือนเมีย.. ลูกชายคนเล็ก ก็ต้องหาเลี้ยงเมีย (น้ำขวดลิตร กินไม่ถึงครึ่งขวดทิ้งแล้ว กินทิ้งกินขว้าง บ้านช่องไม่ทำความสะอาด อยู่อย่างเดียว แต่แม่ไม่ว่าพวกเขาเอง มาว่าใส่นังปู นังกระโถน) หรือ หลานหลิน น้องหนู พิมพา สุพรรณโกมุท ผู้มาทีหลังสุด ไม่ต้องทำงาน ย้ำ "ไม่ต้องมาช่วยเลย เดี๋ยว 2 อาหลังแบงค์จะมาทำ้ร้า มาด่า" อยู่ห้องชั้น 4 68/16 ซอยบุญอยู่ ถนนดินแดง .. เช้าไปเรียน ค่ำ ๆ กลับมานอนดูทีวี.. เรียนจนจบปริญญาโท นิด้า บริหารธุรกิจ .(แม่บอก "เขาใช้ไม่ได้ไหร่" สงสัยจะแค่ 20,000 ล่ะมั๊ง) สุดท้ายเรียนสูง ทำงานเงินเดือนเยอะ ๆ ก็จะต้องบอกว่า "ไม่มีเวลามาดูแลอาอึ้ม เพราะถ้าลาออกก็เสียดายเงินเดือนแพง ๆ" หรือลูกสาวคนเดียวที่ช่วยพ่อแม่ทำมาหากินตั้งแต่เด็ก ทุกอย่าง ไ้่ม้จิ้มฟันยันเรือรบ ไม่เคยปฏิเสธ เพราะเป็นหน้าที่ ..ไม่เคยเรียกร้องค่าจ้าง ค่าแรง หรือพักเหนื่อย หรือขอไปเรียนทำอะไรแพง ๆ ไม่เคยร้องขอมอเตอร์ไซค์ ค่ารถเมล์ ก็รถเมล์ไปเรียนหนังสือ .. สุดท้ายก็ต้องพูดว่า "นังปูไม่สามารถดูแลแม่ได้ตอนแก่ เจ็บ หรือใกล้ตาย เพราะต้องดิ้นรนด้วยตัวเอง ทั้งที่ไม่มีทุน นี่ถ้าไม่ได้ช่วยพ่อแม่ทำมาหากินตั้งแต่เด็กล่ะก็ วันนี้คงจะต้องไปนอนข้างถนน มีเพื่อนสังคมเป็นชาวเก็บขยะของเก่าขายเป็นแน่แท้.. ได้อยู่ดาดฟ้า (มึงเสือกหนีขึ้นไปอยู่เอง ไม่ได้มีใครไล่นะ จะบอกให้.. ) แจ๋ยิ่นหมอยถาม "เอามั้ย แม่เอ็งเขายกห้องไปไอปีอปให้เอ็งครอง ให้เอ็งอยู่เอาไปเลย.." อีนังปูก็โง่เซ่อเนอะ ตอบไปด๊ายว่า "ไม่เอา กูไม่เอาของเหลือเดนจากไอป๊อปมัน" ทุกห้องล็อคแม่กุญแจหมด หรือห้องชั้นห้อง หลังจากปูกระเบื้องในห้องด้านหลังแล้ว(เสือกไปเปิดดูวันหลัง หลังจากลองบิดลูกบิด เอ๊ะประตูเปิดได้ ถึงได้รู้ว่า..อ๋อ..เขาปูกระเบื้อง เก็บของ โซฟา สกปรกเลอะเทอะออกหมดแล้ว ..ตอนหลินมาอยุ่ เลยได้อยู่ห้องชั้น 4 ..ตอนเรากลับมาอยู่ได้อยู่ห้องนี้ ถ้าจะอยู่ จะนอน ก็เก็บเอาเอง.. เราเก็บจัดแบ่งห้องครึ่งหนึ่ง เก็บของสกปรก อีกเกือบครึ่งห้องวางเตียงไม้ สำหับนอน ทำดอกไม้ที่พื้นห้อง) แจ๋ยิ่นหมอยถาม "เอามั๊ย แม่เอ็งเขาจะกั้นห้องชั้น 2 (ห้องแม่ ก็คือมีเจ้าของทุกห้องอยู่ดี ) ครึ่งหนึงให้เอ็งอยู่อย่างสบาย ห้องก็มีแค่นั้น จะลงทุนทำไมให้เสียเงิน.. ไม่มีแสงสว่าง ต้องเปิดไฟทั้งวัน กลางวันก็ร้อน เพราะห้องป้อมด้านหน้า ก็ต้องปิดประตู... สรุปทุกวันนี้คือ ห้องชั้น 3 คุณชายป๊อป ยังเหมือนเดิม ล็อคแม่กุญแจ Solex อย่างดี.. เอาเงินมาให้ลูก 2 คน ถ้าร้อนนักก็เปิดแอร์นอนสบาย สักชั่วโมง 2 ชั่วโมง.. แล้วค่อยขับรถยนต์กลับไปที่บ้านปากซอยบึงนายพล.. ห้องชั้น 2 ลูกชายคนเล็กก็นอนทั้ง 2 ห้อง (ผัวห้องนึง เมียห้องนึง) นังปูลงมาถ้าเป็นตอนเช้า ลองบิดลูกบิด ห้องชั้น 2 จะถูกล๊อคลูกบิด.... หรือ คุณแม่มีเงินมากมาย ต้องจ้างคนอื่นที่ไม่ใช่ลูก ไม่ใช่หลานมานั่งดูแล เช็ดขี้ เช็ดเยี่ยว ตอนพะงาบ พะงาบ.. อาจจเหมือนซาโกว ที่เคยถูกดูถูกไว้ก็ได้.. ว่า "แล้วเป็นไง ไม่มีหลานสาว(ที่แสนดี) ช่วยทำงานบ้าน.. ต้องจ้างคนอื่นมาทำงานแล้วล่ะสิ" ..เออหนอ ให้ทุกข์แก่ท่าน ทุกข์นั้นถึงตัว... สาธุ...ส่วนหลานหลิน Pimpa Suhankomut ก็ทำงานสบาย เงินเดือนสูง ๆ อยู่คอนโดฯ เรียนจนจบปริญญาเอก Dogter เอ๊ยไม่ใช่ Doctor มีผู้ชายดีดี (แต่โง่เป็นควาย) มาขอแต่งงาน เป็นแม่บ้านแม่เรือนที่แสนดี ไม่เที่ยว ไม่ใช่ของแบรนด์เนม แฟ๊บสบู่ยาสีฟันก็ใช้ของถูก ๆ (ไม่เหมือนตอนอยู่กับซาโกว.. เขาซื้อยี่ห้ออะไรใ้ห้ใช้ ไม่เอา ต้องซื้อเองใหม่ เลือกชนิดผลิตภัณฑ์เอง.. ส่วนเงินก็ซาโกวจ่ายให้อยู่ดี) คนพวกนี้ ดวง "นารีอุปถัมภ์" ส่วนนังปู สุวรรณา สุพรรณโกมุท ดวง "นารีพิฆาต" (ทำงานให้แทบตายต้องดิ้นรนทำมาหากินเลี้ยงตัวเอง ถ้าขอทานขอเงินเขา ก็ต้องแลกกับการถูกว่า "75 แ้้ล้วยังต้องหาเลี้ยง 45" ชั่งมันเถอะ... "ฟ้ามีตา เวรกรรมมีจริง" ดังคำกล่าวอันศักดิ์สิทธิ์ของท่านแม่วิภา จงมีความสุข....

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น