วันจันทร์ที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2555

4 มิย.55 .... อาซ่อษา อาษาจะไปส่งที่สถานีขนส่ง กำแพงเพชร...ตอนแรกคิดว่าจะให้หมูไปส่ง แต่เพิ่งไปส่งลูกไปโรงเรียน.. เลยเก็บกระเป๋าไปขึ้นรถบ้านก๊ออ๋า..กับซ่อษา ไปส่ง..เราจะให้สตางค์100ให้เหวินไว้กินหนม...ซ่อบอก ไม่เอา... "งั้นไว้คราวหน้าแล้วกันนะซ่อ"..."อืม..ไว้คราวหน้า" * ถามเล็ก แม่กูเขาส่งเงินตอนต้นเดือนมาเท่าไหร่.. ยายหนู แจ๋ เำิ่พิ่งไปขุดหน่อไม้กลับมา เล็กไปทำบุญวัดบ้านไร่หลักขวัญ...เล็กเดินไปถามแจ๋ที่บ้านแซ่คิ้ว ...บอก "แม่เอ็งเขาส่งมาครั้งละ 2 พัน...เงินหมดแล้วเหรอ...งั้นยืมแม่ (ยายหนู) ให้เป็นค่ารถกลับกรุงเทพ 1 พัน"..."เอาเลขที่บัญชีมาเดี๋ยวโอนคืนให้"...."ไม่้ต้องหรอกเดี๋ยวกูไปเอาแม่เอ็ง..หรือไม่ก็เดี๋ยวเข้ากรุงเทพไปหาแม่เอ็งเอง..." ขอบคุณ * วันหนึ่ง..มึงอย่าฉีดได้มั้ย..ไอ้เด็ตตอลน่ะ เหม็นจะตายห่า .. ห้ามฉีด...หลายวันต่อมา ...มึงจะฉีดก็ฉีดซะให้เสร็จก่อนเที่ยงคืน กูขึ้นนอนหลังเที่ยงคืน... เมื่อคืน 3 มิย.55 ตื่นกลางดึก เดินมีเสียงเอี๊ยดอ๊าด ปลวกแทะกระดานจนผุจะพังทั้งชั้นอยู่แล้ว... คุณแจ๋พูดทันทีที่เราขึ้นไป... "มึงไม่ต้องฉีดนะ.." ..."ฉีดอะไร"... "ก็ไอ้ที่มึงฉีดน่ะ ไม่ต้องฉีด" "ส้นตีน"....."มึงจะมากไปแล้วนะนังปู มึงจะมากไปแล้วนะนังปู...มึงจะไปไหน ก็ไปเลย ไปไหนก็ไปเลย..กลับไปเลย" (กูอุตส่าห์เปลี่ยนมาใช้น้ำเปล่าล้างฝ่าเท้าแล้วนะเนี่ย แล้วก็ไม่ได้ฉีดหลังเที่ยงคืนด้วย) * วันที่ 3 มิย.55 แม่ยายของแดง ลูกแซ่คิ้วมาเยี่ยมบ้านหงี่หยี มีแดง เมีย ลูก..กุ้งกับนีโอ.....เล็กไปตลาดกับซ่อษาไปซื้อกับข้าวมาไหว้พระวันพระใหญ่ทั้งพระจีนพระไทย... *แจ๋รับแขก..ยายหนูพาดูกระชายบอก กระชายชอบร่มไม้ ตะไคร้ไม่ชอบร่มไม้ ตะไคร้ชอบแดด * คนเล็ก (เข้าว่าใจว่าหมายถึงหนุ่ม ลูกชายคนเล็กของแซ่คิ้ว)... ไม่ฉลาด หนุ่มไม่ฉลาด... มีลูกสาว ไม่รู้จักพามาหายาย ยายรักหลานสาวจะตาย... ถ้าพามา จะเอาอะไรยายก็ซื้อให้...ไม่ฉลาด.. แดงก็เหมือนกัน.. ก็เอาอย่างนี้...ตอนนั้นแจ๋ไปเยี่ยมตอนเตี่ยเขาไม่สบาย (หมายถึงพ่อกู)..นั่งฟังไปเรื่้อย ๆ อยู่ชั้นบน...เตี่ยเขาดีใจมากเลยที่แจ๋ไปเยี่ยม น้ำตาไหลร้องไห้..เขาบอกไอ้ป๊อปก็มาเยี่ยม เมียเขาก็มา เมียเขาดีมากเลย... ต้องเอาอย่างนี้ คนเราน่ะ จะเห็นใจกันก็ตอนใกล้ตาย...อย่างกรณีนี้ เตี่ยเกลียดลูกชายคนโตจะตาย แต่พอไม่สบายหนัก ลูกชายคนนี้กลับเป็นคนแบกเขาไปหาหมอ เตี่ยอยากกินอะไรก็ซิ้อให้ (พูดย้ำซ้ำ ๆ อีก) (เอแต่เท่าที่จำได้ แม่ของลูกชายคนโตป๊อป..พูดว่า ไม่ต้องซื้ออะไรให้เค้ากิน เค้ากินไม่ได้แล้ว เปลืองเงิน)...พอตอนเตึ่ยเขาตาย แจ๋ไปสหรัฐเลยไม่ได้ไปงานศพ เตี่ยรักลูกชายคนเล็กจะตาย แต่ไม่ยกอะไรให้เลย ที่ดินทุกอย่างยกให้ลูกชายคนโตทั้งหมดคนเดียว... ลูกชายคนโตก็มีน้ำใจ บอกแบ่งให้ลูกชายคนเล็กบ้าง (ไม่ัยักกะพูดถึงลูกสาวคนเดียว...ที่ตอนพ่อใกล้ตายไม่ได้ไปแบกไม่ได้พาไปหาหมอ..ตอนหมดลมหายใจ ก็ไม่ได้อยู่ให้เขาเห็นหน้า...ก็จะไปทำไมเล่า ก่อนตายก็ไปเฝ้าแล้วตั้งหลายวัน...ถูกโทษใส่ร้ายว่า "ไม่มาดูแล"...ก็ตอนไปขอเศษเงินคราวโน้น..นั่งกอดเอว "วรรณา" ตลอดเวลาบอก ...(ปู) เอ็งไม่ต้องมาอีกแล้วนะ มันสายไปแล้ว.ควักแบงค์ให้ 20 บาท เราบอก ไม่พอ กว่าจะควักให้เปลี่ยนเป็น 200 บาท..เดี๋ยวผู้หญิงไม่ซื่อสัตย์.. เดี๋ยวจะโอนเงินไปให้ใช้..(วันหนึ่งเงินไม่พอเปิดบัญชี โทร.มือถือจนนิ้วหงิก ไม่รู้กี่ร้อยครั้ง...พอโทร.กลับมาว่า "ทำไมเหลวไหลอย่างนี้...ออกไปไม่ได้ ไม่มีคนเฝ้าร้าน" สุดท้าย เราต้องนั่งรถเมล์ 514 กลับไปขอเงินคุณนายวิภา... "มึงเรียกมันว่าแม่สิ เรียกมันว่าแม่สิ ไหว้มันด้วย ไหว้มันเหมือนไหว้แม่เลย" * ไปกินเอ็มเคกัน แจ๋นึกแล้วว่าเดี๋ยวต้องกลับมาทำอะไรกินกันอีก สุกี้น่ะกินไม่อิ่มท้องหรอกแดง (พูดซ้ำ...รู้ดี) (คนกินสุกี้เขากินเพื่อพบปะสังสรรค์ เสวนา..ไม่ได้ยัดห่าเอาอิ่มท้องแบบต้องไปใช้แรงงาน..) * เล่าให้คนในบ้านฟัง แดงพาลูก 2 คนไปกินอาหารญี่ปุ่น แซ่คิ้วแม้บ่้นใหญ่เลยว่าใช้เงินเปลือง สุรุ่ยสุร่าย...แต่พอซื้อของให้นีโอเป็นพันบาท ไม่เห็นแซ่คิ้วแม้บ่นสักคำ" * มานี่ทีไร นีโอก็ไม่เอาใคร ไม่เล่นกับบูมจะเล่นกับหยีคนเดียว (ก็เล่นกับเด็ก 7 ขวบครึ่ง เ่ล่นเหมือนไม่ใช้สมองเล่น ...ไม่ได้เล่นแสอนให้เด็กคิด..ชอบทำเสียงเล็กเสียงแหลม.. ทำเป็นตามใจเด็ก" (เหมือนคนแก่ที่ปัญญาอ่อนมากกว่า) * นี่จะเล่าให้ฟัง...แดง..สมัยก่อนนนะ หงี่คิ้ว (ต้องเรียกหงี่คิ้วกุ๊งมั้ง) นอนเฝ้าคนงานในไร่น่ากลัวมากเลย คนงานกลัว ก็ทำงานขยันกัน..แซ่คิ้วบ่น เหนื่อย ๆ ๆๆ ...มันต้องอย่างนี้นะแดง...แค่แซ่คิ้ว อยู่ในรถ เปิดเสียงเพลงดังๆ คนงานก็กลัวกันแล้ว..เปิดวิทยุเสียงดังก็พอแล้ว (เน้นเสียงดัง ต้องอย่างนี้จริง ๆ แค่นี้ก็พอได้ผล) ...(พูดซ้ำอีกสักรอบ) * เล่าให้คนในบ้านฟัง..อาหยีเล็ก (พี่สาวของแซ่คิ้วแม้) บ้ารึเปล่า...ก่อนออกไปนะ แซ่คิ้วแม้เขาก็ถาม จะกินอะไรมั้ย จะทำให้กินก่อน...หยีเล็กดันปากเสีย...(ทำเสียงเหมือนเชียว ตวาดห้วนๆ)..."ไม่ต้องกินก็ได้ ไม่ต้องกินก็ได้" ..."ดูซิ แทนที่จะปากดี บอกแซ่คิ้วแม้ดีดีว่า เออ..ไปข้างนอก ซื้อราดหน้ากลับมาฝากสักถุงก็พอ แค่นี้แซ่คิ้วแม้เขาก็ซื้อให้แล้ว" หยีเล็กปากไม่ดีเอง..ถ้าปากดีสักหน่อยเขาก็ซื้อมาให้กินแล้ว... "มึงไม่ได้ยินรึไงว่ามันตวาด ไม่ต้องกินก็ได้"...แจ๋พูด "กูไม่ได้ทันฟัง เลยพลอยโดนด่าไปด้วย" (คนอย่างนี้น่ะหรือไม่ทันฟัง หูนี่นะคอยแต่จะจับเรื่องจับราวให้ถูกเป็นผิด ให้ผิดเป็นถูกอยู่เสมอ)...แซ่คิ้วกับแซ่คิ้วแม้โกรธใหญ่เลยด่ากันในรถ ด่าหยีเล็กใหญ่เลย..ดูซิกูจะทำกับข้าวให้มันกินก่อนมันกลับตวาดกลับ... แจ๋.."แหมถ้าหยีเล็กปากดีพูดดีดีกับเขาหน่อยเขาก็ซื้อให้กิน..หยีเล็กอยากออกไปด้วย แต่เขาไม่ชวน เลยพาล" ... (ไอ้บ้า..ถ้าจะซื้อมาให้กิน..ก็ต้องถามว่า "เล็กอยากกินอะไรมั้ยเดี๋ยวขากลับจะซื้อมาฝาก...แต่นี่บอกจะทำให้กินก่อน ก็ขี้เหนียวไม่อยากเสียเงินซื้อให้ไง คนป่วยเป็นมะเร็ง สาวแก่ตัวคนเดียว แขนก็บวม..เอาไว้ให้พวกมึงเป็นแบบเขาบ้างคงจะเ้ข้าใจ) * วันที่ไปส่งกัณฑ์ไปที่มหาวิทยาลัยพะเยา... ก๊ออ๋า ซ่อษา เล็ก กัณฑ์ ไปกัน 4 คน...หงี่หยีกับแจ๋อยู่บ้าน...แจ๋เปิดประตูเข้ามา โวยวายใส่แม่ใหญ่... "ดูซิเปิดไฟเต็มบ้าน เปิดทุกดวงเลย แต่ไม่อยู่บ้าน ไอ้เหวินไปไหน สันดาน สันดาน เหี้ยจริง ๆ พอพ่อแม่ไม่อยู่ก็หนีไปเล่นเน็ตที่ตลาด นี่คืนนี้่คงไม่กลับบ้านแน่เลย"...แล้วก็เดินไปดูกลับมาอีกรอบ เข้าบ้าน "ไอ้สันดาน หนีไปเที่ยว..." จัดการโทรศัพท์ไปถามแม่เหวินว่าเหวินเบอร์โทร.อะไร... แจ๋จัดการโทร.เข้าเครื่อง มีคนรับสาย "ไม่ใช่เหวินหรือคะ ใช่เหวินหรือเปล่าคะ ไม่ใช่เหวินหรือคะ งั้นขอโทษค่ะ โทร.ผิด".... หงี่หยีบอก "ไม่ต้องบอกพ่อแม่เขาว่าลูกไม่อยู่บ้าน เดี๋ยวเขาเป็นห่วง" แจ๋เสียงแหลมใส่ทันที่ "รู้แล้ว รู้แล้ว" (หงุดหงิดมาก..หลานไม่อยู่บ้าน) "หันมาบ่นกับหงี่หยี สันดาน สันดาน เหี้ยจริงๆ...เมื่อกี๊ไหงเห็นรถเครื่องซ้อนท้ายคนอีกคน ไปทางนี้...(พูดไปพูดมา หงี่หยีบอกไม่ใช่มั้ง"...แจ๋โทร.กลับไปที่ทีมไปพะเยาอีก คงไม่ติด..หรือไม่ก็โทร.เข้าเครื่องเหวินแต่ปิดเครื่อง บ่นบ้า "มันปิดเครื่องมันเปิดเครื่อง มันปิดเครื่อง".....สุดท้ายสักพัก เดินไปอีกแล้ว..สรุปคือ "เหวินขึ่รถเครื่องไปซื้อขนมที่้ร้านตรงหัวโค้ง" (ตอนแรกเราก็คิดว่าเหวินคงไปซื้อขนม แต่สงสัยนิดนึงว่าร้านยายอ้วน (ร้านตาหมง) ค่ำแล้วคงปิดแล้ว ลืมไปว่า ร้านค้าหัวโค้งเปิดถึงมืดหน่อย)....แจ๋ยังคงบ่นบ้าไม่เิลิก "ไอ้ห่า ไอ้เหวินไปซื้อขนมก็ไม่บอก ทำไมไม่บอก ไปซื้อขนมก็ไม่บอก" (ประสาทแดก มันโหล่จะตาย...ขึ้นรถเมล์ในกรุงเทพก็ไม่เป็น..ข้ามถนนก็ไม่เป็น.. ขี้กลัวขี้ขลาดจะตาย.. ไม่รู้จักนิสัยหลานตัวเอง ไม่รู้จักนิสัยตัวเอง..ที่ จะ 60 แล้ว..ทำตัวเป็นผู้รู้ว่า...กูนี่แหละ กูรู กูรู้ (ไปซะทุกเรื่อง).... * เล็กเอางี้สิ ให้ไอกัณฑ์ขอเอาเกรดไปเทียบขอกลับไปเข้า มหาวิทยาลัยที่มันสอบเข้าได้ครั้งแรก (เล็กบอกได้สาธารณสุขมั้ง) คุณอัญญาลูกคุณเปิ็ดสอบหมอได้ไม่เอาอันแรก สละสิทธิ์ ตอนหลัง เขาเอาเกรดไปเทียบขอกลับไปเอาทีเ่ดิม..คุณเป็ดน่ะรู้เรื่องดี คุณอัญญาเขาก็ทำอย่างนี้..เล็กบอก "ไอ้กัณฑ์มันไม่ได้ไปรายงานตัว ไม่ได้ไปสละสิทธิ์" (หรืออะไรสักอย่าง) แจ๋ "โทร.ถามไอ้กัณฑ์ให้มันลองดูซิ เผื่อจะได้" * "นังตี่ มึงจะยู้รถเครื่อง ยู้่ออกทำไม ให้บ้านมันเลอะ มึงจะยู้รถเครื่อง ยู้เข้ายู้ออกทำไมให้บ้านมันเลอะ ..เดี๋ยวไถ่กู๊จะถูกบ้าน.." สักครู่มีสายเข้ามือถือ..."อ๋อแต่งตัวเสร็จแล้วใช่มั้ย งั้นเดี๋ยวไปรับ" ขี่รถเครื่องของเล็กบรื๊ออกไป (ไหนบอกจะถูกบ้าน) ที่แ้ท้ไปรับหยีเล็กไปอนามัยปากซอย ไปเช็คเบาหวานฟรี (จนกลับมาทั้งวันก็ไม่เห็นจะได้กวาดได้ถูกเลย) * กลับมาเ่ล่าลั่นบ้าน (เราอยู่ข้างบน เพราะแค่เตียงผ้าใบพับ แต๊ก ๆ ๆ ๆ ๆ) ก็กางเต็มจะครึ่งพื้นที่ชั้นล่างแล้ว.. หยีเล็กบ้ารึเปล่า...ไม่รอหมอใหญ่ เกือบ 9 โมง...ตอนแรกให้กูกลับมาก่อน ขี่รถเครื่องถึงบ้าน..ก็โทร.ให้กูไปรับ โวยวายบอก "ไม่รงไม่รอแล้วหมอใหญ่..ไปตรวจที่ตลาด 150 ตรวจที่นี่แค่ 130 เอง...หยีเล็กบอก ห่วงบ้าน ห่วงหมา หมายังไม่ได้กินข้าว...พอกูขี่รถไปรับส่งเข้าบ้าน หยีเล็กตรงไปกินข้่าวทันที ไม่เห็นหมงหมาอะไรเลย...เออ..จะบอกกูว่าหิวข้่าวก็บอกมากูจะได้รับกลับ ทำเป็นพูดอ้างห่วงหมาห่วงแมว" ...เลยว่าให้ พอหยีเล็กขึ้นรถเครื่องก็ว่าทันทีเลย "นี่หยีเล็ก ไหวนะ..ขนาดไปหาหมอที่รามา..ไปหาตั้งแต่ ตี 4 ตี 5 ยังต้องรอหมอเลย..นี่แค่นี้เอง..ทำไมหยีเล็กไม่รอหมอใหญ่" * แจ๋บ่นบ้า...."นังตี่ก็ใส่น้ำยาปรับผ้านุ่มซะเหม็นหึ่งเลย กูจะเป็นลม" (แพ้กลิ่้นหอมอย่างแรง คนใส่น้ำหอมได้กลิ่นไม่ได้..กลิ่นน้ำยาปรับผ้านุ่มได้กลิ่นไม่ได้" ...วันหนึ่งไม่รู้พูดกับใคร ..."ทิมมี่นะ บ้านทิมมีืีเลี้ยงแมว ขี้เยี่ยมเหม็นจะอ้วกแตกตาย...(พูดซ้ำ) บ้านทิมมี่เลี้ยงแมวเยี่ยวขี้เหม็นกูจะอ้วกแตก" * ไปกรุงเทพไปหาหมอ ไม่มีญาติให้พักด้วยแล้ว...พอไปกรุงเทพไปหาหมอ พักบ้านเขาก็คงไปใช้เขา จนเขาไม่ต้อนรับแ้ล้ว... * เล็กบอก "อย่างหยีเล็กน่ะ..เขาไม่ได้เตรียมตัวอยู่เป็นสาวแก่...เขาไม่เตรียมเงินเตรียมทองไว้รักษาตัว ไว้กินอยู่อย่างสบายตอนแก่..พวกเราเห็นอย่างนี้ก็ต้องรู้จักเตรียมตัว ก็น่ะเตรียมตัวเป็นอย่างดี...ไว้ตอนแก่อยู่คนเดียวไม่เป็นภาระคนอื่น" (..อืม..พุดอย่างนี้ค่อยน่าฟัง น่าคิด...เห็นด้วย) * แจ๋...หยีเล็กนะ บ่นดังลั่นบ้าน เขาจะล้างแท๊งค์น้ำก็ไม่บอก ไม่โทร.เรียกกู ก็รู้อยู่แล้วว่าโทร.เรียกก็ไปทำให้...ทำคนเดียวแล้วก็มาบ่น * เดินจากบ้านแซ่คิ้วมา เดินตรงไปที่โต๊ะกลม บ้านก๊อสุ่ง กับซ่อดำ พูดดังลั่น (ตะโกน) แซ่คิ้วแม้นะ บ้านเขาก็ไม่เปิดพัดลม ขนาดลูกเค้ามายังไม่เปิดพัดลมเลย มีพัดคนละอัน ถือแล้วก็พัดเอา..แต่กลางคืนนอนห้องแอร์... น้ำนะ ซักผ้าเสร็จก็ขึ้นจากเครื่อง แล้วก็ซักมือ เอาน้ำจากซักผ้าไปรดน้ำต้นไม้ ไม่ให้เสียน้ำแม้แต่หยดเดียว...ขี้เหนี่ยว.. ไอ้เราเลยไม่กล้าเปิดพัดลม ไม่กล้าเปิดน้ำใช้เลย...(เล่าซ้ำ ทำนองเดิม...ดังลั่น)...เห็นเขาใช้กันประหยัดกันขนาดนี้ ถ้าพวกเขามาเห็นบ้านนี้ใช้น้ำใช้ไฟ เปิดทิ้งเปิดขว้่างอย่างนี้เขาคงไม่ให้ยืมเงินหรอก เวลาไม่มีเงินไปยืมเงินเขา เขาใช้ประหยัดอย่างนั้น บ้านนี้เปิดน้ำเปิดไฟเปิดทิ้งเปิดขว้าง (กูนั่งฟังมันเกี่ยวกันมั้ยเนี่ยกับเรื่องยืมเงินมาทำอ้อยเป็นแสนสองแสนน่ะ พอได้เงินอ้อยแล้วก็เอาไปคืน) * เล็กบอก... เวลาเขารู้ว่าบ้านนี้จะไปไหนที เขาก็ให้เงินใช้เฉย ๆ โดยที่ไม่ต้องยืม...เขาก็มีน้ำใจมาก เพราะัฉะนั้น เวลาเขาให้ช่วยอะไร ขอแรงอะไร ก็ต้องสำนึกบุญคุญ ช่วยเขาอย่างเต็มที่......(อืม..เข้าใจละ..คนรวยน่ะเขาก็มีวิธีประหยัดคนละแบบ อย่้างบ้านนี้เขาก็ประหยัดประหยัดไฟ) * จะว่าไปแล้ว ..ถ้าสมมติว่า บ้านแซ่คิ้วแม้ เขาใส่น้ำยาปรับผ้านุ่มเขาฉีดน้ำหอม ยิ่นหมอยจะกล้าบ่นพวกเขามั้ย...แต่ขอโทษ ผ้าถูบ้าน ถูกบ้านเสร็จแล้ว ...แช่ในถุงน้ำจนน้ำเน่าเหม็น ผ้าบางๆ ขี้นราดำเป็นปื้น ถูบ้านเสร็จแล้ว ก็ตั้งถังข้างถังน้ำอาบ..แทนที่ขยับเข้าข้างฝา ถ้ายังไม่เสร็จ..ไม่รู้เจ้านายบ้านไหนสอน...สะอาดจริง ๆ บางทีก็เอาขึ้นจากน้ำ(เน่า) แล้วก็กระดกเอาด้ามลง ผ้างี้เหม็นเน่า จนแทบอ้วก..(แต่กูก็อยากดม ว่าเหม็นเ่น่าอะไร) สงสัยไม่มีใครสอนว่าไม้ถูบ้านก็ควรต้องตากแดดให้แห้ง หรือไม่ก็ถ้าฝนตกก็ต้องตากในที่ร่มให้แห้ง..โครตดัดจริตเลย (จมูกผู้ดี เหม็นไปหมดทุกอย่าง)..อ๋อ ยกเว้น..."ถ้ากลิ่นกอฮอ พอทนได้" (ไม่จริงมั้ง) *

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น