วันศุกร์ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ถั่วงอก ศูนย์งอกงาม ตรงข้าม บ.ข.ส.ลพบุรี คุณนิมิตร์ เีทียมมงคล ใจบุญทำอาหารมังสวิรัติ และให้ความรู้เรื่องปลูกถั่วงอก ขั้นเทพ

* วีดีโอเขาโชว์.. เมล็ดถั่วเขียวไร่ทิพย์ ถุงละ 500 กรัม.. เคาะบริเวณใส ดูว่ามีฝุ่นถั่ว กระจายเกาะผิวซองพลาสติกด้านใน (ถ้าด้านนอกแปลว่าถุงรั่วนะคะ อิอิ) ถั่วงอกตัดรากไร้สารพิษ ภูมิปัญญาชาวบ้านที่ทำได้ในครัวเรือน ........นิมิตร์ เทียมมงคล กับการเพาะถั่วงอกตัดราก แบบอินทรีย์ในวงบ่อซีเมนต์ มีเลขการบริโภคถั่วงอกของคนไทย เฉพาะกรุงเทพมหานครและเขตปริมณฑลมีปริมาณมากถึง 200,000 กิโลกรัม ต่อวัน เมื่อคำนวณการบริโภคทั้งประเทศภายในวันเดียวจะมีการบริโภคถั่วงอกไม่น่าจะต่ำกว่า 1 ล้านกิโลกรัม ดังนั้น อาชีพในการเพาะถั่วงอกจึงมีกระจายอยู่ทั่วประเทศ และเป็นอีกอาชีพหนึ่งที่เกษตรกรและประชาชนให้ความสนใจ เนื่องจากเป็นอาชีพที่มีการลงทุนต่ำและคืนทุนได้เร็ว คุณนิมิตร์ เทียมมงคล อยู่บ้านเลขที่ 98 หมู่ที่ 3 ตำบลโคกลำพาน อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี 15000 โทร. (036) 613-031 และ (081) 251-8285 ที่เริ่มต้นจากการเพาะถั่วงอกตัดรากไร้สารพิษในตะกร้าพลาสติค ปัจจุบันได้ประยุกต์วิธีการเพาะเพื่อให้มีผลผลิตมากขึ้น โดยเพาะในบ่อซีเมนต์เพาะถั่วงอกเนื่องจากเปิดร้านขายอาหารมังสวิรัติ โดยใช้ชื่อร้านว่า "ศูนย์งอกงาม" ร้านตั้งอยู่ตรงข้ามกับ บ.ข.ส. ลพบุรี ในแต่ละวันจะมีผู้คนเข้ามารับประทานอาหารมังสวิรัติเป็นจำนวนมาก และเมนูอาหารที่ได้รับความสนใจเป็นพิเศษคือ อาหารที่ทำจากถั่วงอก อาทิ ยำถั่วงอกตัดราก ก๋วยเตี๋ยวต่างๆ ฯลฯ หลักพื้นฐาน 3 ประการ ในการเพาะถั่วงอกตัดรากแบบอินทรีย์ 1. เมล็ดถั่วเขียว ที่จะนำมาเพาะจะต้องมีเปอร์เซ็นต์ความงอกสูง สายพันธุ์ที่คุณนิมิตร์แนะนำและใช้อยู่คือ พันธุ์ "กำแพงแสน 2" เนื่องจากเป็นถั่วเขียวที่มีเมล็ดใหญ่ ทำให้ต้นถั่วงอกที่เพาะได้มีขนาดต้นโต ยาว และอวบอ้วน น่ารับประทาน 2. ภาชนะที่ใช้เพาะถั่วงอกจะต้องทึบแสงและมีการระบายน้ำดี เช่น การเพาะในตะกร้าพลาสติคให้เอาถุงดำมาคลุมไว้และตั้งไว้ในห้องมืด หรือถ้าเพาะในบ่อซีเมนต์จะต้องปิดปากบ่อให้มิดชิด 3. มีการให้น้ำอย่างเหมาะสมและเพียงพอที่จะทำให้ถั่วงอกที่เพาะไม่เกิดความร้อนที่สะสมมากเกินไป วิธีการสังเกตง่ายๆ ว่ามีความร้อนสะสมหรือไม่ โดยผู้เพาะใช้มือสัมผัสเมล็ดถั่วเขียวส่วนของชั้นบนสุดว่ารู้สึกร้อนหรือไม่ และในการให้น้ำในแต่ละครั้งจะต้องไม่มีไอจากความร้อนขึ้นมา ถ้าตะกร้าพลาสติคหรือวงบ่อซีเมนต์ที่ใช้เพาะถั่วงอกมีความร้อนสะสมมากเกินไป จะมีผลต่อการเจริญเติบโตของถั่วงอก จะได้ถั่วงอกลำต้นเล็กไม่อวบอ้วน และต้นถั่วงอกมีจำนวนรากฝอยมากไม่น่ารับประทาน การเพาะถั่วงอกแบบนี้เริ่มจาก การคัดเลือกเมล็ดถั่วเขียวจะต้องคัดเมล็ดที่ไม่สวยออก หลังจากนั้นนำเมล็ดมาล้างทำความสะอาด 2-3 น้ำ เทคนิคที่สำคัญ ก็คือจะต้องนำถั่วเขียวที่ทำความสะอาดแล้วมาแช่ในน้ำอุ่นนานประมาณ 8 ชั่วโมง (วิธีเตรียมน้ำอุ่นให้ใช้น้ำเดือด 1 ส่วนผสมกับน้ำเย็นธรรมดา 3 ส่วน) หลังจากแช่น้ำอุ่นแล้วนำมาล้างด้วยน้ำสะอาดอีก 2-3 ครั้งจนน้ำดูใสสะอาด อุปกรณ์ที่ใช้เพาะถั่วงอกแบบตัดรากจะใช้ตะกร้าพลาสติกที่มีปากกว้างประมาณ 15 นิ้ว และมีความสูงประมาณ 12 นิ้ว มีตาข้างรอบตะกร้าเพื่อเป็นรูระบายน้ำ หลังจากนั้นให้วางแผ่นตะแกรงพลาสติกเป็นฐานรองก้นตะกร้า ปูทับด้วยแผ่นกระสอบป่าน ปูแผ่นตะแกรงพลาสติกทับอีกที และโรยเมล็ดถั่วเขียวให้ทั่วตะแกรงหนาประมาณ 1.50 เซนติเมตร ถือว่าเสร็จสิ้น 1 ชั้น จากนั้นปูทับด้วยกระสอบป่าน ตามด้วยตะแกรงพลาสติกแล้วโรยเมล็ดถั่วให้มีความหนาเท่าเดิม ทำซ้ำแบบนี้ 4 ชั้น แต่ในชั้นสุดท้ายเมื่อโรยเมล็ดถั่วเสร็จแล้ว หลังจากปิดทับด้วยตะแกรงพลาสติกแล้วจะต้องปิดทับด้วยกระสอบป่าน 2 ผืนซ้อนกัน หลังจากนั้นรดน้ำให้ชุ่ม นำตะกร้าไปใส่ในถุงดำที่ตัดมุมตรงก้นถุงออกแล้ว ทำการพับปากถุงให้มิดชิดเพื่อไม่ให้อากาศและแสงเข้า นำไปวางไว้ในที่ร่มจะต้องรดน้ำ 3 เวลาเป็นอย่างน้อย (เช้า-กลางวัน-เย็น) รดน้ำจนครบ 3 คืน เช้าขึ้นมาอีกวันก็นำมาใช้ได้ โดยยกเอาแผงถั่วงอกมาแช่ในน้ำ ตัดเอาเฉพาะส่วนต้น ส่วนของรากทิ้งไป วิธีการนี้ง่ายมากเพราะรากของถั่วงอกจะแทงทะลุตะแกรงและกระสอบป่าน เราจะใช้มีดคม ๆ ตัดส่วนของต้นลงแช่น้ำ ผู้สนใจเริ่มต้นเพาะถั่วงอกตัดรากแบบอินทรีย์ในตะกร้าพลาสติคให้เกิดความชำนาญก่อน เมื่อเกิดความชำนาญแล้วจึงมาเริ่มเพาะในวงบ่อซีเมนต์ ผลผลิตถั่วงอกตัดรากที่เพาะในตะกร้าพลาสติคจะได้ประมาณ 6-7 กิโลกรัม ต่อ 1 ตะกร้า ในขณะที่เพาะในบ่อซีเมนต์ที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 50 เซนติเมตร และมีความสูงของวงบ่อ 50 เซนติเมตร จะเพาะถั่วงอกได้ผลผลิตเฉลี่ย 10-12 กิโลกรัม ต่อวงบ่อ มั่นใจในคุณภาพถั่วงอกว่าปลอดสารเคมีทุกชนิดเนื่องจากการันตีด้วยมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ คุณนิมิตร์เริ่มต้นในการเพาะถั่วงอกโดยยึดหลักปลอดสารเคมีมาตั้งแต่ต้น จะไม่มีการใช้สารเคมีหรือแม้แต่การปลูกผักชนิดต่างๆ ที่นำมาเป็นวัตถุดิบประกอบอาหารในร้านศูนย์งอกงาม จะมีการผลิตแบบเกษตรอินทรีย์ทั้งหมด จนได้การรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ (Organic Thailand) จากกรมวิชาการเกษตร ว่าถั่วงอกตัดรากและผักชนิดต่างๆ เช่น วอเตอร์เครส ที่ปลูกในพื้นที่ 3 ไร่ ปลอดจากการใช้สารเคมีทุกชนิด จุดนี้สร้างความมั่นใจให้แก่ผู้บริโภคและสร้างความภูมิใจให้แก่คุณนิมิตร์ที่สามารถผลิตถั่วงอกอินทรีย์ตา มที่ได้ตั้งใจไว้เผยแพร่ความรู้ และสร้างเครือข่ายเกษตรอินทรีย์สู่เกษตรกร ขณะนี้วิธีการเพาะถั่วงอกแบบอินทรีย์ในวงบ่อซีเมนต์ของ คุณนิมิตร์ เทียมมงคล ได้จดทะเบียนสิทธิบัตรเป็นทรัพย์สินทางปัญญาของคนไทยเรียบร้อยแล้ว คุณนิมิตร์ได้บอกเหตุผลหลักของการจดสิทธิบัตรเพื่อป้องกันคนต่างชาติขโมยความรู้และภูมิปัญญาของคนไทยไป แต่สำหรับคนไทยคุณนิมิตร์มีความยินดีที่จะเผยแพร่ความรู้วิธีการเพาะทุกขั้นตอนโดยไม่ปิดบัง เปิดให้เกษตรกรและผู้สนใจเข้าศึกษาดูงานและมาฝึกปฏิบัติจริงได้ที่บ้าน ไม่มีการหวงวิชาแม้แต่น้อย มีเกษตรกรหลายครัวเรือนมีรายได้เพิ่มเติมจากการเพาะถั่วงอกตัดรากและปลูกผักแบบอินทรีย์ เป็นเงิน 2,000-3,000 บาท ต่อเดือน ปัจจุบันคนในหมู่บ้านที่สนใจจะเรียนรู้วิธีการทำการเกษตรแบบอินทรีย์แบบคุณนิมิตร์ได้มีการรวมตัวกันตั้งเ ป็น "กลุ่มเรียนรู้เกษตรอินทรีย์ ตำบลโคกลำพาน" มีสมาชิกจำนวน 60 คน กำลังการผลิตถั่วงอกตัดรากแบบอินทรีย์ ใน 1 วงบ่อซีเมนต์ ปัจจุบัน คุณนิมิตร์มีวงบ่อ จำนวน 90 วงบ่อ โดยเพาะถั่วงอกหมุนเวียนไปมา จำนวน 15 วงบ่อ ต่อครั้ง หรืออาจจะมากขึ้นตามออเดอร์ที่สั่งเพิ่มเข้ามา และจะเพาะสัปดาห์ละ 2 วัน เพื่อให้มีถั่วงอกจำหน่ายส่งขายทุกวันจันทร์และวันพฤหัสบดี ในแต่ละครั้งจะผลิตถั่วงอกตัดรากได้เฉลี่ย 200-400 กิโลกรัม ใน 1 วงบ่อซีเมนต์ จะใช้เมล็ดถั่วเขียวพันธุ์กำแพงแสน 2 อัตรา 1.8 กิโลกรัม จะเพาะถั่วงอกได้ประมาณ 10-12 กิโลกรัม เอกลักษณ์ของถั่วงอกตัดรากแบบอินทรีย์ คุณนิมิตร์ได้บอกถึงเอกลักษณ์และคุณสมบัติเด่นของถั่วงอกของร้าน "ศูนย์งอกงาม" จะมีลักษณะดังนี้ "ต้นยาวและขาว รสชาติหวานกรอบ ที่หลายคนได้รับประทานแล้วบอกว่าเหมือนกับกินมันแกว ไม่มีกลิ่นเหม็นเขียว เนื่องจากเป็นถั่วงอกอินทรีย์ ทำให้เก็บรักษาได้นาน ถ้าบรรจุใส่ถุงพลาสติคมัดปากถุงให้แน่นเก็บทิ้งไว้ในอุณหภูมิปกติ จะไว้ได้นานเป็นเวลา 3 วัน แต่ถ้าเก็บไว้ในตู้เย็นจะเก็บได้นานถึง 7-10 วัน" ในอดีตการเพาะถั่วงอกตัดรากของคุณนิมิตร์จะเน้นให้ได้ต้นถั่วงอกที่มีลักษณะอ้วนสั้น แต่พบปัญหาลักษณะการอวบน้ำมากกว่าต้นยาว มีอายุการจำหน่ายสั้นและเกิดเน่าเสียได้ง่าย สำหรับเกษตรกรและผู้สนใจเพาะถั่วงอกไว้รับประทานเองและต้องการต้นถั่วงอกที่อวบอ้วน คุณนิมิตร์ได้บอกถึงเทคนิคอยู่ที่การถ่วงน้ำเพื่อต้นถั่วอวบอ้วนในคืนที่ 2 ของการเพาะ ซึ่งเป็นช่วงที่ต้นถั่วงอกเจริญเติบโตได้ดีที่สุด เป็นระยะของการยืดยาวของต้นมากที่สุดและเป็นช่วงที่ต้องการน้ำและความชื้นมาก สำหรับการเพาะถั่วงอกในตะกร้าพลาสติค ปกติจะมีการรดน้ำให้ตะกร้าพลาสติค 3 เวลาแล้ว ในคืนที่ 2 จะต้องรดน้ำบนถุงดำที่ปิดตะกร้าแน่น รดจนให้น้ำขังเป็นแอ่งบนปากตะกร้าโดยน้ำหนักของน้ำจะไปกดทับต้นถั่วงอก จะส่งผลให้ต้นถั่วงอกมีขนาดของต้นที่อวบอ้วน เทคนิคสำคัญตอนที่นำเอาถั่วงอกขึ้นจากน้ำ จะต้องผึ่งในตะกร้าสักพัก เพื่อให้ถั่วงอกสะเด็ดน้ำแล้วรีบบรรจุลงถุงพลาสติกมัดยางให้แน่นโดยไม่ให้อากาศเข้า สามารถเก็บถั่วงอกไร้รากและปลอดสารพิษเก็บไว้ในตู้เย็นได้นาน 5-7 วัน โดยถั่วงอกไม่เหลือง วิธีการเพาะถั่วงอกแบบนี้สามารถทำบริโภค ได้ในครัวเรือน, ต้นทุนต่ำ และปลอดสารพิษ ขั้นตอนการบรรจุถุงและการเก็บรักษา เมื่อต้นถั่วงอกตัดรากสะเด็ดน้ำแล้ว จะต้องรีบนำไปบรรจุลงถุงพลาสติค ทันทีและมัดปากถุงให้แน่น ถ้าปล่อยให้ถั่วงอกสัมผัสอากาศนานๆ ต้นถั่วงอกจะเปลี่ยนจากสีขาวเป็นสีเหลืองแล้วจะคล้ำดำในที่สุด เมื่อนำไปประกอบอาหารไม่น่ารับประทาน คุณนิมิตร์ได้ทำการเกษตรแบบอินทรีย์โดยยึดหลักการที่ว่า "เมื่อสินค้ามีคุณภาพได้มาตรฐาน สินค้าก็จะขายด้วยตัวของมันเอง" ถั่วงอกตัดรากแบบอินทรีย์ของคุณนิมิตร์มีส่งขายให้ห้างสรรพสินค้าในเครือเดอะมอลล์ กรุ๊ป, เลมอน ฟาร์ม, ร้านศูนย์ศิลปาชีพเกาะเกิด จังหวัดพระนครศรีอยุธยา, ร้านโกลเด้นเพลส และท็อปส์ ซุปเปอร์มาร์เก็ต ภายใต้แบรนด์สินค้าที่ คุณหมอประเวศ วะสี ได้ให้ความกรุณาตั้งชื่อให้ว่า "ถั่วงอกรักชาติ" ด้วยลักษณะของถั่วงอกที่ขึ้นตั้งตรงอย่างเป็นระเบียบเหมือนคนเข้าแถวเรียงกัน หนังสือ "การเพาะถั่วงอกตัดรากแบบอินทรีย์ในวงบ่อซีเมนต์" แจกฟรี พร้อมกับ "ไม้ผลแปลกและหายาก" พิมพ์ 4 สี จำนวน 120 หน้า เกษตรกรและผู้สนใจเขียนจดหมายสอดแสตมป์จำนวน 50 บาท ส่งมาขอได้ที่ ชมรมเผยแพร่ความรู้ทางการเกษตร เลขที่ 2/200 ถนนศรีมาลา ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร 66000 โทร. (056) 613-021, (056) 650-145 และ (081) 886-7398 แหล่งที่มา : www.rakbankerd.com ทวีศักดิ์ ชัยเรืองยศ มะเอ@รักควาย: วันนี้แช่ถั่วเขียวไว้แล้วค่ะ เตรียมอุปกรณ์ทุกอย่างไว้เรียบร้อยแล้ว แล้วจะนำภาพขั้นตอนต่างๆในการเพาะ มาลงให้เพื่อนๆได้ชมกันค่ะ *4 *24 *25 *3 นำร่อง [0] ดัชนีข้อความ [#] หน้าถัดไป ** ขวดน้ำดื่มสิงห์ ตัดขวดเป็นฝา เริ่มจากข้อที่ 3 จากก้นขวดขึ้นมา ตัดเป็นรูปตัวยู U ทรงสี่เหลี่ยม / เจาะรู 2 แถว ห่างกันประมาณ 2 ซม. (ดูจากซีดีกะโดยสายตา ต้องไปกะเอาเองอีกทีนะคะ) จำนวนแถวละ 5 รู (2 แถวก็10 รู) / ใส่เมล็ดถั่วเขียว จากก้นขวดถึงขอบข้อแรก (ต้องลองดูเอง ว่าแน่นไปหรือไม่ ถ้าแน่นไปคราวหน้าก็ลดจำนวนถั่วเขียวลงนิดหน่อยละกัน) / ใส่น้ำสะอาดถึงข้อที่ 2 แช่ด้วยน้ำอุ่น (น้ำร้อน 1 ส่วน น้ำเย็น 3 ส่วน) เป็นเวลา 6-8 ชั่วโมง ใส่น้ำล้างให้สะอาด วางขวดแนวนอน (อ้อ เจาะรูที่ฝาขวด ตรงกลาง 1 รู ใกล้รอบฝา เว้นระยะห่าง อีก 5 รู (ครึ่งวงกลม) ไม่รอบเป็นวงกลม) / วางขวดแนวนอน ใส่น้ำจากด้านบนฝาเปิดสี่เหลี่ยม (ซึ่งห่อด้วยตาข่ายพลาสติกเกล็ดปลา สีดำ เมตรละไ่ม่น่าจะเกิน 30 บาท หรือราคาประมาณนี้ ตาละเอียด) เวลารดน้ำจะเป็นคล้าย ๆ หยดน้ำฝน / ห่อตาข่าย สอดตาข่ายใต้ฝาสี่เหลี่ยม แล้วห่อม้วนรอบขวดให้มิดสนิท กันแสงเข้า / วางขวดแนวนอน (อีกแล้ว) จับขวดส่ายไปมา ซ้าย ขวา ซ้ายขวาง จนกว่าถั่วจะสะอาด แล้วตั้งไว้ในที่ชื้น ไม่ร้อน แสงสว่่างน้อย หรือมืด (จำไม่ได้ระ) 2 วัน 3 คืน รดน้ำผ่านฝาวันละ 3 ครั้ง (อาจจะหลังอาหารก็ได้มั๊งคะ) / ดึงส่วนที่จะกิน แล้วปิดรัดด้วยหนังยาง เข้าตู้เย็นได้ ยิ่งเพิ่มวันยิ่งอร่อย (จริงหรือคะ) / ขวดสามารถล้างและนำกลับมาเพาะถั่วงอกได้อีกหลายครั้ง จนกว่าจะหมดสภาพ... (ไ่ม่ได้เอาสมุดจดมา.. ลืม.. แก่แล้ว.. ถ้าไม่ลืมคราวหน้ามาเพิ่มเติมข้อมูลใหม่)...

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น