วันพฤหัสบดีที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

สภาทนายความ.. ขอให้ฟ้องขอเงินเดือนละ 2,000 บาทล่วงหน้า ที่พ่อตายทิ้งไว้ให้

เรียน หัวหน้าสำนักงานสภาทนายความแห่งประเทศไทย *** ดิฉัน น.ส.สุวรรณา สุพรรณโกมุท มีความเดือดร้อน และมีความประสงค์จะขอความอนุเคราะห์จากสภาทนายความฯ แต่งทนายว่าความ "ขออำนาจศาลมีคำนั่ง ให้นายสุชาติ สุพรรณโกมุท จ่ายเงินที่บิดา นายธรรมพล สุพรรณโกมุท แจ้งไว้ด้วยวาจา มีคำสั่งให้เงิน น.ส.สุวรรณา สุพรรณโกมุท จากรายได้ค่าเช่าเดือนละ 2,000 บาท (ไม่ได้ระบุว่าให้ถึงเมื่อไหร่) รวมเป็นเงินประมาณ 360,000 บาท (จากอายุ 46-60 ปี) *** เนื่องด้วย นายธรรมพล สุพรรณโกมุท บิดาของดิฉัน ได้ถึงแก่กรรมลง.. และพินัยกรรมได้ระบุเป็นลายลักษณ์อักษร ยกที่ดิน รวมจำนวน 515 ตารางวา (จากหลายแปลง) ให้นายสุชาติ สุพรรณโกมุท (บุตรชายคนโตของข้าพเจ้า (คือนายธรรมพล สุพรรณโกมุท) ) ทั้งนี้ มารดาของดิฉัน นางวิภา จงมีความสุข ได้บอกกล่าวดิฉันว่า บิดาสั่งเสียให้นายสุชาติ สุพรรณโกมุท แบ่งรายได้ค่าเช่าให้ น.ส.สุวรรณา ใช้เดือนละ 2,000 บาท (โดยไม่ได้ระบุว่าให้เป็นเวลากี่ปี หรือจนกระทั่งดิฉันเสียชีวิตหรือไม่) ... ทั้งนี้ ไม่มีเป็นเอกสารหรือลายลักษณ์อักษรอื่นใด.. อนึ่ง นายสุชาติ สุพรรณโกมุท (พี่ชาย) เ็ป็นคนไม่มีน้ำใจ ไม่มีพี่ ไม่ีมีน้อง .. ในช่วงระยะเวลาที่ดิฉันอยู่ห้องดาดฟ้า ที่บ้านของมารดา.. ดิฉันถูกนายสุชาติ สุพรรณโกมุท และภรรยา นางเยาวพันธ์ ใช้คำพูด พูดจาแดกดัน โยนข้าวของกระแทก พูดจา ด่า ข่มขู่.. อีกทั้งดิฉัน post ข้อความในบล็อคส่วนตัว ซึ่งเขาก็เห็น.. แต่ก็ไม่โอนเงินให้ใช้ ถ้าไม่ถึงกำหนดวันสิ้นเดือน... เช่น ดิฉันนั่งรถไฟไปลงสถานีฯ ปากช่อง... เพื่อทดลองใจว่า เขาจะมีน้ำใจ โอนเงินเข้าบัญชีให้หรือไม่ (เป็นขอเบิกล่วงหน้า) วันรุ่งขึ้นดิฉันกลับเข้ากรุงเทพฯ เขาก็ไม่ยอมโอนเงินเข้าบัญชีให้ ประเด็นสำคัญคือ หากในอนาคต นายสุชาติ สุพรรณโกมุท (พี่ชาย) ถึงแก่กรรม ทั้งอสังหาริมทรัพย์ และสังหาริมทรัพย์ทั้งหมด ย่อมตกแก่ทายาทโดยชอบธรรม (บุตรสาวคนเดียวของนายสุชาติ น้องยูริ) หรือภรรยา (นางเยาวพันธ์) ซึ่งดิฉันเกรงว่า ดิฉันจะไม่ได้รับเงินเดือนละ 2,000 บาทอีกต่อไป เนื่องจากไม่มีสัญญาว่าจะให้เงิน เป็นลายลักษณ์อักษรใด ๆ หรือทายาท (ลูกสาว) หรือภรรยา อาจทำการขายอสังหาริมทรัพย์ และหรือ สังหาริมทรัพย์ทั้งหมดที่มี.. รวมทั้งค่าของเงินภายในอนาคตจะลดค่าเงินลง สมมติ เช่น ราคาทองคำ ซึ่ง ณวันที่ 1 พย.55 เงิน 2,000 บาท ใช้ซื้อของได้เท่านี้.. 1 หรือ 2 หรือ 3 ปีผ่านไป ค่าเงินลดลง (ลักษณะเดียวกับราคาทองคำ) ก็เท่ากับว่าค่าเงินของ 2,000 บาท แทบจะซื้อของ กิน ใช้ ไม่ได้อะไรเลย.. (บิดาไม่ได้สั่งด้วยวาจาว่า จะให้เงินเพิ่มทุกปี ของแต่ละเดือน) .... ดังนั้น... ดิฉัน มีความเดือดร้อนในการใช้ชีวิตประจำวัน ซึ่่งเดือนละ 2,000 บาท เท่ากับมีเงินใช้วันละไม่ถึง 70 บาท.. รวมทั้งดิฉัน คาดว่าน่าจะป่วย มีก้อนเนื้อในช่องท้อง (ท้องแข็งทั้งช่วงบนและท้องช่วงล่าง) อีกทั้งป่วยเป็นโรคฟันผุ จนไม่เหลือเนื้อฟัน ... และซี่ทีผุ ก็จะผุต่อไปเรื่อย ๆ ไม่มีเงินรักษา ถึงแม้จะใช้บัตร 30 บาท..ก็ยังมีค่าใช้จ่ายส่วนอื่น ๆ อีก.. / ดิฉันอาศัยอยู่ในห้องชั้นดาดฟ้า (ซ่อมหลังคาแล้ว) เวลาฝนตกหนัก ผ้าเทปพลาสติก กับเทปตะกั่ว ก็ถูกน้ำฝนหยดจนซึม ไหลหยดลงพื้นห้อง.. ถ้าอากาศร้อนหรือหน้าร้อน ก็ร้อนมาก (ไม่สวมเสื้อผ้า ยังเหงื่อไหลตลอดเวลา) ต้องดื่มน้ำเย็นแก้กระหาย และลดความร้อน ... ดิฉันขอยืมเงินมารดา ก็ไม่ให้ เนื่องจาก มารดาต้องการให้ หลานสาวของอดีตสามี (หลานของบิดาดิฉัน) ส่งให้ น.ส.พิมพา สุพรรณโกมุท เรียนจบปริญญาโท สถาบันฯ นิด้า บริหารธุรกิจ และได้อยู่ห้องพักอาศัย ชั้น 4 เป็นห้องอย่างดี มีประตูลูกบิดปิดล็อคแม่กุญแจอย่างมิดชิด ส่วนดิฉันเป็นลูกสาแท้ ๆ ช่วยพ่อแม่ทำงาน ทำมาหากิน ตั้งแต่เด็ก ๆ ต้องหนีขึ้นไปอาศัยอยู่ในห้องดาดฟ้า.. หลังจากที่บิดาถึงแก่กรรม มารดาได้รับคอนโดมิเนียม (มารดาไม่เปิดเผยข้อมูลใด ๆ แก่ดิฉัน..ทราบภายหลังจากการสอบถามคุณอา น้องสาวบิดา ว่า บิดา (นายธรรมพล) มีคอนโดมิเนียม อยู่แถววัดคู้บอน 2 ห้อง ไกลมาก) ... *** ราคาทองคำ ปี 2545 น่าจะประมาณบาทละ 10,000 กว่าบาท / ราคาทองคำ ณ 2 พย.55 ซื้อ: 24,900 บาท / ขาย:25,000 บาท *** หมายเหตุ ดิฉันน.ส.สุวรรณา สุพรรณโกมุท ไม่ขอฟ้องร้อง ขอแบ่งคอนโดมิเนียมจากมารดาแม้แต่ห้องเดียว (ทรัพย์สินที่ได้จากนายธรรมพล สุพรรณโกมุท จากการที่นางวิภา จงมีความสุข มีชื่อร่วมอยู่ในโฉนดคอนโดมิเนียมก่อนนายธรรมพล จะถึงแก่กรรม) .. ดิฉันต้องการเงินก้อนหนึ่งเพื่อใช้เป็นทุนในการประกอบอาชีพ รักษาโรคประจำตัว และเช่าห้องพักอาศัย (ราคาถูก ไม่ติดแอร์) ... *** จีงเรียนมาเพื่อขอความเมตตาจากศาล ได้โปรดมีคำสั่งให้นายสุชาติ สุพรรณโกมุท มอบเงินจำนวน 360,000 บาท ขอบพระคุณอย่างสูง น.ส.สุวรรณา สุพรรณโกมุท

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น