วันพฤหัสบดีที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555
สภาทนายความแห่งประเทศไทย ขอให้ว่าความ "ขอเงินล่วงหน้า จากอายุ 46-60 ปี" ให้น.ส.สุวรรณา สุพรรณโกมุท (ฉบับแก้ไขแล้ว)
เรียน หัวหน้าสำนักงานสภาทนายความแห่งประเทศไทย
ดิฉัน น.ส.สุวรรณา สุพรรณโกมุท มีความเดือดร้อนและยากจน และมีความประสงค์จะขอความอนุเคราะห์จากสภาทนายความฯ แต่งทนายว่าความ "ขออำนาจศาลมีคำนั่ง ให้นายสุชาติ สุพรรณโกมุท จ่ายเงินที่บิดา นายธรรมพล สุพรรณโกมุท แจ้งไว้ด้วยวาจา มีคำสั่งให้เงิน น.ส.สุวรรณา สุพรรณโกมุท จากรายได้ค่าเช่าเดือนละ 2,000 บาท (ไม่ได้ระบุว่าให้ถึงเมื่อไหร่) รวมเป็นเงินประมาณ 360,000 บาท (จากอายุ 46-60 ปี)
เนื่องด้วย นายธรรมพล สุพรรณโกมุท บิดาของดิฉัน ได้ถึงแก่กรรมลง วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2554 และพินัยกรรม (เจ้ามรดกเขียนพินัยกรรมไว้ 16 มกราคม 2554) ได้ระบุเป็นลายลักษณ์อักษร ยกที่ดิน รวมจำนวน 515 ตารางวา (จากหลายแปลง) ให้นายสุชาติ สุพรรณโกมุท (บุตรชายคนโตของข้าพเจ้า (คือนายธรรมพล สุพรรณโกมุท) ) รวมมูลค่า น่าจะประมาณเกือบ 5 ล้านบาท (ไม่รวมราคาสิ่งปลูกสร้าง และรายได้ค่าเช่า) ทั้งนี้ มารดาของดิฉัน นางวิภา จงมีความสุข ได้บอกกล่าวดิฉันว่า บิดาสั่งเสียให้นายสุชาติ สุพรรณโกมุท แบ่งรายได้ค่าเช่าให้ น.ส.สุวรรณา ใช้เดือนละ 1,000 บาท (นายสุชาติ ได้แย้งว่า เดือนละพันจะไปพอให้อะไร ให้มันใช้เดือนละ 2 พัน.. บิดาบอก 2 พันก็ 2 พัน) โดยไม่ได้ระบุว่าให้เป็นเวลากี่ปี หรือจนกระทั่งดิฉันเสียชีวิตหรือไม่ ทั้งนี้บิดาไม่ได้เขียนเอกสารเป็นลายลักษณ์อักษรแต่อย่างใด ซึ่งดิฉันได้รับเงินจากการปิดบัญชีเงินฝากธนาคารของบิดา (นายธรรมพล) เป็นเงินประมาณ 7,000 บาท เป็นค่าเซ็นชื่อ “ไม่ขอรับมรดก” ที่สำนักงานที่ดินเขตหนองจอก และสำนักงานที่ดินเขตมีนบุรี (ซึ่งหลังจากงานศพบิดา ดิฉันถามมารดาว่า พ่อมีอะไรเหลือให้บ้างไหม เช่นทองเท่าหนวดกุ้ง แม่บอก “ไม่มี เขาไม่ได้ให้ เขายกให้ไอป๊อปหมด เขาไม่ได้พี่โกงน้อง ถ้าอยากกได้ให้ไปทวงเงินกับเมียคนล่าสุด (อีดอก สมญานามที่แม่ตั้งให้เขา) มันเอาไป 3 แสนเกือบ 4 แสนบาท ไปทวงกับมันสิ” ส่วน 7,000 บาทนี้ มารดาถาม “จะเอามั๊ย มีเงินของท่านเตี่ยอีก 7 พัน” (หลังจากที่บิดาถึงแก่กรรมไปแล้ว เกือบ 3 เดือน)
อนึ่ง นายสุชาติ สุพรรณโกมุท (พี่ชาย เป็นคนไม่มีน้ำใจ ไม่มีพี่ ไม่มีน้อง ในช่วงระยะเวลาที่ดิฉันอยู่ห้องดาดฟ้า ที่บ้านของมารดา.. ดิฉันถูกนายสุชาติ สุพรรณโกมุท และภรรยา นางเยาวพันธ์ ใช้คำพูด พูดจาแดกดัน โยนข้าวของกระแทก พูดจา ด่า ข่มขู่.. อีกทั้งดิฉัน post ข้อความในบล็อคส่วนตัว ซึ่งเขาก็เห็น แต่ก็ไม่ใส่ใจโอนเงินให้ใช้ ถ้าไม่ถึงกำหนดวันสิ้นเดือน เช่น ดิฉันนั่งรถไฟไปลงสถานีฯ ปากช่อง เพื่อทดลองใจว่า เขาจะมีน้ำใจ โอนเงินเข้าบัญชีให้หรือไม่ (เป็นขอเบิกล่วงหน้า) วันรุ่งขึ้นดิฉันกลับเข้ากรุงเทพฯ เขาก็ไม่ยอมโอนเงินเข้าบัญชีให้ ประเด็นสำคัญคือ หากในอนาคต นายสุชาติ สุพรรณโกมุท (พี่ชาย) ถึงแก่กรรม ทั้งอสังหาริมทรัพย์ และสังหาริมทรัพย์ทั้งหมด ย่อมตกแก่ทายาทโดยชอบธรรม (บุตรสาวคนเดียวของนายสุชาติ น้องยูริ) หรือภรรยา (นางเยาวพันธ์) ซึ่งดิฉันเกรงว่า ดิฉันจะไม่ได้รับเงินเดือนละ 2,000 บาทอีกต่อไป เนื่องจากไม่มีสัญญาว่าจะให้เงิน เป็นลายลักษณ์อักษรใด ๆ หรือทายาท (ลูกสาว) หรือภรรยา อาจทำการขายอสังหาริมทรัพย์ และหรือ สังหาริมทรัพย์ทั้งหมดที่มี.. รวมทั้งค่าของเงินภายในอนาคตจะลดค่าเงินลง สมมติ เช่น ราคาทองคำ ซึ่ง ณวันที่ 1 พย.55 เงิน 2,000 บาท ใช้ซื้อของได้เท่านี้ 1 หรือ 2 หรือ 3 ปีผ่านไป ค่าเงินลดลง (ลักษณะเดียวกับราคาทองคำ) ก็เท่ากับว่าค่าเงินของ 2,000 บาท แทบจะซื้อของ กิน ใช้ ไม่พอเลย (บิดาไม่ได้สั่งด้วยวาจาว่า จะให้เงินเพิ่มทุกปี ของแต่ละเดือน)
ดังนั้น ดิฉันมีความเดือดร้อนในการใช้ชีวิตประจำวัน ซึ่งเงินเดือนละ 2,000 บาท เท่ากับมีเงินใช้วันละไม่ถึง 70 บาท รวมทั้งดิฉัน คาดว่าดิฉันน่าจะป่วย มีก้อนเนื้อในช่องท้อง (ท้องแข็งทั้งช่วงบนและท้องช่วงล่าง) อีกทั้งป่วยเป็นโรคฟันผุ จนไม่เหลือเนื้อฟันแล้ว อย่างน้อย 3 ซี่ และซี่ทีผุ ก็จะผุต่อไปเรื่อย ๆ ไม่มีเงินรักษา ถึงแม้จะใช้บัตร 30 บาท ก็ยังมีค่าใช้จ่ายส่วนอื่น ๆ อีก
ดิฉันอาศัยอยู่ในห้องชั้นดาดฟ้า เป็นบ้านของมารดา (ซ่อมหลังคาแล้ว) เวลาฝนตกหนัก ผ้าเทปพลาสติก กับเทปตะกั่ว ก็ถูกน้ำฝนหยดจนซึม ไหลหยดลงพื้นห้อง.. ถ้าอากาศร้อนหรือหน้าร้อน ก็ร้อนมาก (ไม่สวมเสื้อผ้า ยังเหงื่อไหลตลอดเวลา) ต้องดื่มน้ำเย็นแก้กระหาย และลดความร้อน ดิฉันขอยืมเงินมารดาเพื่อที่จะหาอาชีพและลงทุนซื้อของมาขายหรือทำผลงานออกมาขาย มารดาก็ไม่ให้ เนื่องจาก มารดาต้องการให้ หลานสาวของอดีตสามี (หลานของบิดาดิฉัน) มารดาส่งเสียให้ น.ส.พิมพา สุพรรณโกมุท เรียนจบปริญญาโท สถาบันฯ นิด้า บริหารธุรกิจ และได้อยู่ห้องพักอาศัย ชั้น 4 เป็นห้องอย่างดี มีประตูลูกบิดปิดล็อคแม่กุญแจอย่างมิดชิด ส่วนดิฉันเป็นลูกสาวแท้ ๆ ช่วยพ่อแม่ทำงาน ทำมาหากิน ตั้งแต่เด็ก ๆ ต้องหนีขึ้นไปอาศัยอยู่ในห้องดาดฟ้า (หนีเสียงที่นางเยาวพันธ์ โยนของลงพื้นห้องชั้น 3 ขณะนั้นดิฉันอาศัยในห้องเก็บของชั้น 2 และทำงานปั้นดินดอกไม้ไปด้วย ทำให้ไม่มีสมาธิ)
หลังจากที่บิดาถึงแก่กรรม มารดาได้รับคอนโดมิเนียม (มารดาไม่เปิดเผยข้อมูลใด ๆ แก่ดิฉัน) ทราบภายหลังจากการสอบถามคุณอา น้องสาวบิดา ว่า บิดา (นายธรรมพล) มีคอนโดมิเนียม อยู่แถววัดคู้บอน 2 ห้อง ไกลมาก)
หมายเหตุ ดิฉันน.ส.สุวรรณา สุพรรณโกมุท ไม่ขอฟ้องร้อง ขอแบ่งคอนโดมิเนียมจากมารดาแม้แต่ห้องเดียว (ทรัพย์สินที่ได้จากนายธรรมพล สุพรรณโกมุท จากการที่นางวิภา จงมีความสุข มีชื่อร่วมอยู่ในโฉนดคอนโดมิเนียมก่อนนายธรรมพล จะถึงแก่กรรม) .. ดิฉันต้องการเงินก้อนหนึ่งเพื่อใช้เป็นทุนในการประกอบอาชีพ รักษาโรคประจำตัว และเช่าห้องพักอาศัย (ราคาถูก ไม่ติดแอร์)
จีงเรียนมาเพื่อขอความเมตตาจากสภาทนายความฯ ทนายความ และศาล ได้โปรดมีคำสั่งให้นายสุชาติ สุพรรณโกมุท มอบเงินสด จำนวน 360,000 บาท (ตามค่าเงิน ณ ปัจจุบัน) ให้แก่ดิฉัน น.ส.สุวรรณา สุพรรณโกมุท ขอบพระคุณอย่างสูง
น.ส.สุวรรณา สุพรรณโกมุท
ตัวอย่างค่าเงินที่ลดแต่ละปี เช่น ราคาทองคำ ปี 2545 น่าจะประมาณบาทละ 10,000 กว่าบาท /
ราคาทองคำ ณ 2 พย.55 ซื้อ : 24,900 บาท / ขาย : 25,000 บาท ที่มาของข้อมูล http://www.goldpricethai.com/th/
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น