ได้บิลค่าเช่าห้อง น่าจะเป็นของเดือนที่แล้ว 3,309.-
ตอนสารทจีน เทศกาล คุณนายแม่วิภา ใช้ให้เราไปซื้อขนมเทียนที่บ้านไถ่หยีที่วงเวียนใหญ่
เอาตะกร้าไปใส่ นั่งรถเมล์ไป-กลับ
ตรุษจีน สารทจีน ผัดหมี่ซั่วไหว้อากงอาม่า ชงน้ำชา จัดผลไม้ใส่ถาด ไหว้เสร็จเก็บของ
อุ่นกับข้าว ทำไก่รวนเค็ม หมูสามชั้น ก็หั่นเอามารวนเหมือนกัน ใส่เกลือ พริกไทย ผัดคนละกระทะ (เต็ม)
ไม่ได้ทำไก่ เป็ด แต่ก็จัดลงถาดซาแซ
ก่อนไหวตรุษจีน จะช่วยกันปั้นขนมบัวลอยใส่กระจาดไม้ไผ่ อยู่กันจนดึก เราก็นั่งทำนั่งปั้นช่วยปั้นจนหมด จำไม่ได้ว่ามีลูกคนอื่นช่วยหรือไม่
ก่อนเที่ยงคุณนายแม่วิภา จะใช้ให้ไปแลกแบงค์ย่อย เหรียญบาท เหรียญห้าบาท ที่แบงค์สีขาว
หรือเค้าโกรธที่เราทำเงินเขาหาย 2,000 บาท
เจียวน้ำมันหมูจากมันหมูแข็งที่เริ่มมีกลิ่นเล็กน้อยในกระทะ คุณนายแม่วิภาหั่นให้ เราเอาลงกระทะ ใส่หอมแดงทั้งเปลือกลงไปด้วย เพื่อช่วยลดกลิ่น เจียวเสร็จตักขึ้นใส่หม้ออลูมิเนียมใบใหญ่ เอาไว้ตักใส่ถุงขายวันรุ่งขึ้น เรายังช่วยตักใส่ถุง ม๊าชั่ง แล้วเราช่วยมัดปากถุงด้วยหนังยางเส้นเล็กสีแดง
เจียวน้ำมันหมูทำกับข้าว มีกากหมูอร่อย ๆ กิน (เลยอ้วน) ใส่อวยอลูมิเนียมมีฝาปิด
ทำหมูหยอง คุณนายแม่วิภา หั่นหมูเป็นก้อนสี่เหลี่ยม ใส่เครื่องปรุงในหม้ออลูมิเนียมใบเล็ก ตั้งไฟอ่อนให้เปื่อย น้ำแห้งติดก้นหม้อ เราก็เอาขึ้นแล้วใส่ครกตำให้เป็นเส้นฝอย ตั้งกระทะ ไฟอ่อน เอาหมูลงค่อย ๆ คั่วจนแห้ง ได้หมูหยองที่อร่อยมาก
ตอนไปช่วยซื้อของที่ตลาดวงเวียนใหญ่ ป๊าขับรถยูเทิร์ตก่อนขึ้นแยก แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าซอยไปออกตลาดวงเวียนใหญ่ หาที่จอดรถ เราลงไป งานแรกก็นั่งเลือกมะเขือเปาะ แตงกวา ซื้อกระเทียม เห็ดฟาง มะนาว ฯลฯ เสร็จแล้วเอาไปไว้ที่รถ กลับมา..เดินไปในตลาดฝั่งเดียวกัน ซื้อเส้นก๋วยเตี๋ยว เต้าหู้ขาว เต้าตู้เหลือง เต้าหู้ไข่ เต้าหู้หลอด (สีขาวตรานางพยาบาล) ...ใส่ตระกร้าเอาไปไว้ที่รถ...ข้ามไปตลาดฝั่งโน้น เดินไปซื้อผักคะน้า...หิ้วกลับมาที่รถ เดินไปช่วยหิ้วพริกแกง หน่อไม้เหลือง ช่วยหิ้วไก่หิ้วเนื้อ กุ้ง หมึก ปลา..หอยกะพง หอยลาย...ปลานิล ปลาแดง ปลาทูสด เนื้อวัวซื้อประมาณ 1 กก. ม๊าใช้มีดยาวปลายแหลมหั่นขายให้ลูกค้า จัดเข่งปลาทู เข่งเล็ก เข่งใหญ่ ลงในกะละมังเทเห็ดฟาง มะเขือเปาะ มะเขือเทศ แตงกวา แตงร้าน หอมใหญ่ ยกถาดไข่ไก่มาวางเข้าที่
ช่วยหยิบกุ้งสดใส่ถุง ชั่ง มัดปากถุง หยิบถั่วงอก ขนมจีน(แป้งหมัก) ใส่ถุง ช่วยห่อปลาทู เอาใบตองฉีกวางบนกระดาษหนังสือพิมพ์ ห่อ แล้วใช้หนังยางมัด พับด้านที่มีหัวปลา ใส่ถุงหูหิ้ว
ช่วยตักปลาร้า ปลากระดี่
เวลาจัดลงถาด จะเรียง ปีกไก่ น่องไก่ สะโพกไก่ให้อย่างสวยงาม ปลาก็หันหัวไปทางเดียวกัน
น้ำตาลปี๊ปที่ซื้อมาจากปากคลองตลาด เราก็จะช่วยแงะใส่ถุง ใช้ตะหลิวเหล็กงัดขึ้นมาก บางทีก็ได้แบบแข็ง บางทีก็ได้แบบอ่อน (งัดง่ายหน่อย) ซื้อปลาร้า(ปลากระดี่) เต้าหู้ยี้(สีแดง) มะนาวดอง (ใส่ขวดโหลใส)
สมัยก่อนโน้น "เฮงซังเฮง" ขายนุ่นใส่ถุงกระดาษใบใหญ่ แขวนบนขื่อไม้เพดานด้านบน เราต้องใช้ไม้ตะขอเกี่ยวสอยเชือกผูกปากถุงลงมา...
เออ..มีอะไรที่เขาใช้เรา แล้วเราไม่ทำมั่งนะ..พยายามนึก
คุณชายสุชาติก็กลับมาทำ ตอนช่วงปิดเทอมมั้ง ช่วงที่เราได้ไปพักผ่อนที่บ้านนอก
กำแพงเพชร กิโล4
ป๊าขายไอติม (อากงยกบ้านให้..ที่ร้านขายข้าวซอยไก่ หลังแบงค์...วันนี้) ยี่ห้อ peanut มั้ง
กลับมาขายไอติมตักที่บ้านโซ่ยเจ็ก ที่ยกให้ป๊าแล้ว ช่วยป๊าขายก๋วยเตี๋ยวหมูแดง
เอาหมูหมักสีแดง แล้วต้ม ....หั่น ก็ยังขายไม่เป็น ไม่ประสบความสำเร็จ
ป๊าขายก๋วยเตี๋ยว ขายต้มเครื่องใน (ป๊าคงชอบกิน) ไม่ประสบความสำเร็จ
สุดท้าย เลยย้ายไปขายของที่หนองจอกกระมัง...หรือหนีเมียไปก็ไม่รู้...
ขายบ้านหลังแบงค์ ได้ 3 ล้าน ไปซื้อที่ที่หนองจอก 2 แปลง ตอนนี้เพิ่งรู้ว่าเขาซื้ออีก 1 แปลง
สุดท้ายลูกชาย 2 คน (ของคุณนายวิภา) ได้เอาไปกิน
ถ้าเราไม่สมควรได้อะไรเลย...ก็ต้อง..สมควร...ตายสถานเดียวแล้วมั้ง
ไปที่ชอบ ที่ชอบ...ก็ไม่ได้ไป...
ไปที่อยากไป...ก็ไปไม่ได้...เพราะไม่มีปัจจัย
14,000 คุณนายวิภาพูดให้เป็น 20,000
3 เดือนนี่ใช้อะไร 30,000 / 40,000
อย่าว่าแต่สองหมื่นเล้ย..ย..
สองแสนยังน้อยไปเสียด้วยซ้ำ..นี่เอาสมองส่วนไหนคิดเนี่ย
ลูกสาวคนเดียว อายุปาเข้าไปใกล้ 50 แล้ว ยังคิดจะให้เป็นลูกจ้าง
เป็นทาสขายโชห่วยเฝ้าสมบัติให้เขา วันละ 200 ไม่พอกินหรือไง?
ลูกผัวก็ไม่มีหาเลี้ยง เงินค่าเช่าของป๊าเดือนละสองพันยังพูดว่า...ไม่ใช่จะมีให้นะ...
แต่ลูกชายคนโต เอาบ้านและที่ดินไป 2 แห่ง ค่าเช่าที่เอาไปกินได้ตลอดชีวิตของมันและครอบครัว
หรือบางทีเราอาจจะไม่มีค่าเช่าเดือนละสองพันกินอีกต่อไป..
เพราะมันตระบัดสัตย์...เอาบ้านเอาที่ดินไปจำนอง โละบ้านเช่า ทำโรงงานผลิตเรซิ่น ผลิตเครื่องกรองน้ำ
ก็จะเป็นของพวกมันโดยสมบูรณ์ ถ้าเราจะขอทานเดือนละสองพัน มันก็จะพูดได้ว่า..
"ไม่มีห้องให้เช่า ไม่มีค่าเช่าให้มึงแล้ว มึงจะเอาอะไร ไปทำมาหากินเอาเองแล้วกัน" (ไปทำมาหากินเอาเองแล้วกัน ถ้ามึงไม่กลับมาขายของ(โชห่วย))
รอวันตายอย่างเดียว...
ลูกชายคนเล็กได้ที่ดินเปล่า ติดถนนไป...อีกหน่อยก็คงสร้างบ้านเช่า หรือขายแล้วเอาเงินไปซื้อบ้านและที่ดิน อยู่บ้านสวย ๆ สบาย ๆ กับเมียมัน...
เราจะไปสิงสถิตย์อยู่ที่ไหน...ทำมาหากินอะไร..ซุกหัวนอนที่ไหน
เป็นขี้ข้าใคร ได้เงินวันละเท่าไหร่ จะมีเงินเก็บไหม..
คำตอบ"ไม่มี" เพราะนอกจากขายโชห่วยแล้ว ให้วันละ 200
มึงไม่มีทางทำมาหากินอย่างอื่นแล้วได้เงิน คนอื่นเขาขายกันได้ ทำไมกูทำแล้วขายไม่ได้
อ๋อ..มึงทำดีเกินไป ทุนเยอะเกินไป ขายแพงเกินไป..ไม่มีคนซื้อ
ทำขนมห้าบาทสิบบาทล่ะ...อ๋อ..คนเขาทำขายแล้วเยอะแยะไป มึงทำไม่ดี ก็ขายไม่ได้
ของเหลือก็ต้องทิ้ง...
แต่ลูกชาย2คนของคุณนายวิภา ทำอะไรก็สำเร็จ เจริญรุ่งเรือง...
ที่ดินที่กำแพง 10 กว่าไร่ อยู่กลางป่าอ้อย เราจะเอาไปทำอะไร
คุณนายวิภาให้หลานเช่าทำไร่อ้อย ปีละ 6 พัน เขาก็ไม่ได้ให้เรา
กว่าเขาจะตาย แล้วเราได้ค่าเช่าปีละ 6 พัน..กูคงตายก่อนแล้วล่ะ
ไม่หวังว่าจะได้อะไรอีกแล้ว...แม้แต่บาทเดียว..จากคุณนายแม่วิภา จงมีความสุข
ขอให้เรา..จงมีความทุกข์...ต่อไป...จนตาย
ได้ตั๋วไปเที่ยวระยองกับกรีนเวฟ...บอกเขาว่าได้ไปเที่ยวฟรี
ในใจก็วั๊งหวังว่าเขาจะให้เงินติดกระเป๋าไว้กินไว้เที่ยว
แต่ไม่เลย...เขาเฉย ๆ เราก็ซื้อลอตเตอรี่เล่นๆ2 ใบ ถูกเลขท้าย 3 ตัวใบนึง 421
เลยพอมีสตางค์ซื้อเสื้อผ้าใหม่ มีค่ารถ...ไปเที่ยว..
โห..ทำไมชีวิตกูมีแม่..ใจดีขนาดนี้นะ...
ไอ้ลูกที่เกเร ไอ้ลูกที่ไม่เคยช่วยทำมาหากิน ค้าขาย หลานนอกไส้(ผู้น่าสงสาร)
มาจากเมืองจีน...ไม่เคยที่จะต้องมาช่วยทำมาหาเลี้ยงคนครอบครัวนี้
ทำไมได้รับความสงสารเหลือเกิน ส่งเสียจนเรียนจบปริญญาโท...
ไม่อยากคิดอะไร....
กูทำน้อยกว่าพวกมึงตรงไหนเหรอ...ทำไมกูถึงต้องมาเป็นแค่หมาข้างถนน...
อนุบาล-ป.6 เรียนโรงเรียนเอกชน
มัธยม เรียนโรงเรียนรัฐบาล สอบเข้าเองได้ ไม่ต้องเสียแป๊ะเจี๊ยะ
พาณิชย์ เรียนโรงเรียนเอกชน ก็แพงหน่อย
ปวส. เรียนโรงเรียนรัฐบาล
ไอ้สุชาติ เรียนกี่โรงเรียน
โรงเรียนสหพาณิชย์ (โรบินสันสีลม) แจ๋เห็นนั่ง..หนีเรียน
ตอนไหนไม่รู้..ส่งไปอยู่กับญาติที่ดาวคะนอง..ไปเรียนหนังสือที่นั่น
แล้วสุดท้ายมั้งเลยต้องส่งไปเรียนโรงเรียนประจำดาราสมุทร ถึง ม.3
เรียน ปวช. เกี่ยวกับช่างกล
เรียนปวส. ช่างกล ที่โรงเรียนช่างอุตสาหกรรม กล้วยน้ำไท
โรงเรียนเอกชนทั้งหมด
ป้อมเรียนโรงเรียนเอกชน อนุบาล-ป.6
ม.1-ม.6 โรงเรียนวัดสุทธิวราราม
ปวช. - ปวส. บพิตภิมุข สาธร
ปริญญาตรี ม.กรุงเทพ
เราไม่เคยป่วยหนักถึงขั้นนอนโรงพยาบาล อย่างมาก็ก็แค่คลินิก "หมอพงษ์" ข้างบ้าน
หรือหนักสุดก็ เป็นหวัด ร้องเหมือนใกล้ตาย หายใจไม่ออก
ป๊าขับรถไปหาหมอที่คลินิกแถวคลองเตย
อยากให้พวกเขาบอกจังเลยว่า...เราผลาญเงิน ผลาญทรัพย์สินอะไรพวกเขาบ้าง
หรือคุณวิภาโกรธที่เราขโมยสตางค์ในตะกร้าไปซื้อของไร้สาระ ตอนที่เฝ้าร้านให้คุณนายวิภานอนบนเตียงผ้าใบหลับกลางวัน (วันเสาร์ อาทิตย์ หรือช่วงเราปิดเทอม)
ขโมยเงินในเก๊ะไปเยอะหน่อย..ตอนยืนช่วยขายของ...
เราชั่วร้ายมากเลยเหรอ...สมควรตายขนาดนี้เลยเหรอ????
ลูกชาย 2 คน ป่วย นอนโรงพยาบาลเอกชน เสียกี่หมื่นกี่แสน
คุณนายวิภา ไม่เห็นจะเคยบ่นอะไรเลย...
เฮ้อ..อ..อ..กูจะตายเมื่อไหร่ดีวะเนี่ย
เออ.ก็อีกไม่กี่วันแหละ...ตายหนีค่าเช่าห้องละกัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น