วันเสาร์ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

ห้องสมุดซอยพระนาง.. / 13กค.57/ บทสนทนาภาษาอังกฤษ 99 ชั่วโมง / พ.อ.นิจ ทองโสภิต (ละเอียดนะ ถึงจะเก่าไปหน่อย ไม่เคยได้ยินชื่ออาจารย์เลย)

กดโดนปุ่มอีกแล้ว..พิมพ์ไว้หายเกลี้ยงเลย เอาใหม่ / ห้องสมุดซอยพระนาง.. / บทสนทนาภาษาอังกฤษ 99 ชั่วโมง / พ.อ.นิจ ทองโสภิต (ละเอียดนะ ถึงจะเก่าไปหน่อย ไม่เคยได้ยินชื่ออาจารย์เลย) 2 English Conversation for Thai students by COLONEL NIT TONGSOPIT Speakers : Gary L. Brongersma ; Lina Damon UNIT1 GREETINGS การทักทายปราศรัย .../ Smith : Good morning, Captain Preecha. สวัสดีครับ ร้อยเอกปรีชา Capt. Preecha : Good morning, Mr. Smith สวัสดีครับคุณสมิธ Smith : How are you? สบายดีหรือครับ? Capt. Preecha : Very well, thank you, and you? สบายดีครับ, ขอบคุณ แล้วคุณเล่าสบายดีหรือ Smith : Fine, thanks. สบายดีครับ ขอบคุณ Capt. Preecha : Lovely day, isn't it? วันนี้อากาศดีจริงนะ Smith : Yes, isn'itM ครับอากาศดีจริง Memorize the above dailog. จงท่องจำบทสนทนาข้างบน ฿฿ 1.คำทักทายปราศัยโดยทั่วๆ ไป มีดังต่อไปนี้ ในการพูดขอให้คำนึงถึงการออกสำเนียง (intonation)ให้ถูกต้องด้วย.. Good \ morning. Good after \ noon. Good \ evening. How do you \ do? Hel \ lo. Hi \ bob. 2.คำทักทายปราศรัยโดยทั่ว ๆ ไปก็คือ Good morning, Good adternoon และ Good evening คำ Good evening ใช้ตั้งแต่ 18.00 น. ล่วงไปแล้ว จนกระทั่งเช้าวันรุ่งขึ้น และพึงระวังอย่าใช้คำว่า Good evening กับ Good night ปะปนกัน คำว่า Good night มิได้ใช้สำหรับทักทายปราศรัย แต่ใช้ในการกล่าวอำลาในตอนกลางคืนเท่านั้น คำว่า Good day ก็ไม่ค่อยมีใครพูดในสมัยนี้แล้ว สำหรับประโยคว่า How do you do? มิได้เป็นคำถามและจำเป็นต้องตอบ คนอเมริกันชอบใช้คำนี้ในการทักทายปราศรัยเสมอ ๆ คำว่า Hello ใช้พูดในการทักทายปราศรัยอย่างไม่เป็นทางการ (informal) ส่วนคำว่า Hi ใช้ในหมูมิตรที่สนิทสนมกันมากเท่านั้น 3.หลังจากกล่าวคำทักทายปราศรัยตามหมาย 2 แล้ว ก็จะมีการถามสารทุกข์สุขดิบ โดยการพูดว่า 3.1 How \ are you? How are \ you? สบายดีหรือ 3.2 How are \ you today? วันนี้สบายดีหรือ 3.3 How are \ you this morning? เช้าวันนี้สบายดีหรือ 3.4 How are \ you this afternoon? บ่ายวันนี้สบายดีหรือ 3.5 How are \you this evening? เย็นวันนี้สบายดีหรือ 3.6 How have you \ been? เป็นอย่างไรบ้าง ** โปรดสังเกต ใน 3.14 คือกล่าวประโยค How are you? นั้น มีการออกสำเนียงเป็น 2 แบบ ผู้กล่าวคนแรกใช้สำเนียงต้น คือ เน้นหนักที่ are ส่วนผู้กล่าวคนหลังใช้สำเนียงที่ 2 คือเน้นหนักที่ you ประโยคตั้งแต่ 3.2 - 3.5 ใช้พูดตามกาลเวลานั้น ๆ ส่วนประโยค How have you been? ใช้พูดในโอกาสที่มิตรสหายหรือคนรู้จักชอบพอได้พบปะกัน หลังจากที่ไม่ได้พบกันมาเป็นเวลานาน **4.คำตอบสำหรับคำถามสารทุกข์สุขดิบ ในหมาย 3 คือ 4.1 Ver well thank you, and you? สบายดี ขอบคุณ แล้วคุณล่ะ 4.2 Fine, thanks. How are you? สบายดี ขอลบคุณ คุณล่ะสบายดีหรือ 4.3 I'm quite well. How are you? ผมสบายดี แล้วคุณล่ะ 4.4 Quite well. สบายดี 4.5 Just Fine. How are you? ก็สบายดี แล้วคุณล่ะ 4.6 Splendid. สบายดีมาก **5.โดยทั่ว ๆ ไป ก็มักตอบว่าสบายดี ตามหมาย 4 ถึงแม้เราจะรู้สึกไม่ค่อยสบายบ้าง แต่เราก็อาจตอบตามความเป็นจริงก็ได้ โดยพูดว่า (ในกรณีเช่นนี้ไม่ต้องกล่าวคำ Thank you ก็ได้) 5.1 Not so well. I have a cold. (How are you?) ไม่ค่อยสบาย ผมเป็นหวัด 5.2 Not very well. I hve a headache. ก็ไม่ค่อยสบายนัก ผมปวดศีรษะ **6. หากคู่สนทนาของท่านตอบว่า ไม่ค่อยสบาย ตามหมาย 5 ท่านก็ควรแสดงความเห็นอกเห็นใจ โดยพูดว่า 6.1 I'm sorry to \ hear it. ผมเสียใจด้วยนะ 6.2 That's too \ bad. แหม! แย่จริง **7. หลังจากการถามสารทุกข์สุขดิยแล้ว คู่สนทาก็มักจะพูดถึงเรื่องดินฟ้าอากาศ โดยกล่าวว่า 7.1 (It's a) nice day, isn't it? วันนี้อากาศดีนะ 7.2 Lovely day, isn't it? อากาศสบายดีนะ 7.3 Wonderful day, isn't it? อากาศวิเศษจริงนะ 7.4 Beautiful day, isn't it? อากาศดีนะ 7.5 Miserable day, isn't it? อากาศแย่จริงนะ 7.6 Cold this morning, isnt' it? เช้านี้อากาศหนาวนะ 7.7 Hot today, isn't it? วันนี้ร้อนจริงนะ 7.8 Windy this afternoon, isn't it? บ่ายนี้ลมแรงจริงนะ 7.9 Cloudy this evening, isn't it? เย็นนี้มืดครึ้มนะ 7.10 Warmer tonight, isn't it? คืนนี้อากาศอุ่นขึ้นนะ **8. การพูดการคุยเกี่ยวกับดินฟ้าอากาศ ตามหมาย 7 นั้น เป็นการพูดตามสภาพอากาศที่เป็นจริง ขณะที่คู่สนทนากำลังพูดคุยกันอยู่นั้น ประโยคต่อไปนี้ แสดงถึงสภาพลมฟ้าอากาศที่แตกต่างออกไปอีก และยังใช้พูดในโอกาสใดก็ได้ หากจะอุทานเกี่ยวกับลมฟ้าอากาศ เช่น ร้อนจริงนะ หนาวจริงนะ เอ๊ะ! น่ากลัวฝนจะตก ฯลฯ 8.1 Awfully cold, isn't it? หนาวจริงนะ 8.2 Awfully hot, isn't it? ร้อนจริงนะ 8.3 Awfully windy, isn't it? ลมแรงจริงนะ 8.4 Looks like rain, doesn't it? ดูท่าฝนจะตกนะ 8.5 Nice and warn today, isn't it? อากาศดีและอบอุ่นนะ 8.6 Lovely evening, isn't it? เย็นนี้อากาศดีนะ 8.7 Isn't it a lovely day? วันนี้อากาศดีนะ 8.8 Wasn't it hot toaday? วันนี้ร้อนนะ **9. คำพูดของอีกฝ่ายหนึ่งต่อเรื่องลมฟ้าอกาศ ก็คือ 9.1 Yes, isn't it? (doesn't it, wasn't it . etc.) ใช่ หนาวนะ 9.2 Yes, it is. ใช่ ร้อน (หนาว) นะ 9.3 It certainly is. ใช่ ร้อน (หนาว) จริง ๆ **10.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น