วันพฤหัสบดีที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555
นั่งทำการบ้านกัน "นี่ไง ของขวัญวันเกิดของลูก เป็นสมุดบันทึก (ที่แม่ให้ป้าไว้ปีก่อน ยังไม่ได้เขียน ที่จริงอยากจะเอาสมุดบันทึกที่ได้จากมูลนิธิอมตะ ปกผ้าขาวม้าทำไปให้ แต่หายไปแล้ว) ...ข้างใน.. แยก สระ a e i o u คำศัพท์ตัวอย่างที่สะกดด้วยสระเหล่านี้..อ่านออกเสียง เอ โอ หรือ ยู อ่านออกเสียง อู อับ อัก เช่น ugly อ่าน อักลี ..รวมทั้ง ตัว y ที่จะสะกดคำศัพท์...ไม่รู้ว่าลูกจะได้อ่านหรือเปล่า..เพราะโรงเรียนนี้ การบ้านภาษาอังกฤษเยอะมาก..ทั้ง เคมบริดจ์..และ actiity ลูกบอก ลูกเขียน a ตัวพิมพ์เล็กไม่เป็น.. ป้าก็เห็นใน class book ตัว a เขียนเป็นตัวเขียนเล็ก.. งงเหมือนกัน ตัวอื่นเป็นตัวพิมพ์เล็ก ..ป้าเอาหนังสือพิมพ์แจกฟรี ไปวางบนโต๊ะวางของของลูก... หวังว่าลูกจะเปิดดูบ้าง ถึงแม้จะอ่านยังไม่ออก... (นี่น่ะเหรอ..ของขวัญวันเกิดของป้าให้ผม..เออ.นี่แหละลูก ของขวัญวันเกิด)
ไม่กี่วินาทีที่แล้ว · ที่ถูกแก้ไข · ถูกใจ
*
นั่งรถแท็กซี พ่อบอกอยากให้ลูกไปเรียนเอาภาษาที่อินเดีย.. เลยบังกะลอขึ้นไปหน่อย บังกะลอมีแต่แขกดำส่วนใหญ่.. ค่าใ้ช้จ่ายพอพอกับเมืองไทย.. แต่ลูกยังสะกดคำศัพท์ อ่านไม่ได้ แปลไม่ออกเลย..
45 นาทีที่แล้ว · ถูกใจ
*
ป้าบอกให้ลูก ถ้าซื้อซีดีหนัง ให้ซื้อซีดี ที่เป็น soundtrack หรือ subtitle ...ลูกจะให้ฝึกดูปากคนพูด และฟังเสียง สำเนียง
45 นาทีที่แล้ว · ถูกใจ
*
"ป้าครับ ภาษาอังกฤษ มีทั้งแบบ อเมริกัน และแบบอังกฤษ ใช่มั๊ยครับ" / "ใช่ลูก"
44 นาทีที่แล้ว · ถูกใจ
วันพุธที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555
29 พย.55 ไปขอเงินท่านเตี่ย 2,000 บาท (ถามเรื่องขายของ) ไอแจ๋เขาไปช่วยแซ่คิ้ว ตัดอ้อย ไม่ว่างมาขายของ
29 พย.55 ไปขอเงินท่านเตี่ย 2,000 บาท (ถามเรื่องขายของ) ไอแจ๋เขาไปช่วยแซ่คิ้ว ตัดอ้อย ไม่ว่างมาขายของ / จะมาเบิกเงิน 2,000 ของป๊า ซื้อกางเกงขายาว 2 ตัว ตัวละประมาณ 300 บาท (อาจต้องเสียค่าเย็บปลายขากางเกงขึ้นด้วย) กางเกงใน 2 ตัว ซื้อเสื้อใส่อีก 2 ตัว (ไม่ซักทุกวันเปลืองน้ำ) / "ห้องทีนี่กว้าง ๆ ไม่มานอนรึำไง ไม่ต้องเสียค่ารถ" (ซ้ำ) / /อ๋อ..นั่งรถเมล์ฟรี ไม่ต้องเสียค่ารถ มาตอน 6 โมงเช้าก็ทันถมถืด" / "มันมาด่าอีกแล้ว.. ที่นี่บ้านมึงรึไง ให้เหลนขายก็ไล่ไม่ให้ขาย" (พิมพา สุพรรณโกมุท เธอจะรับผิดชอบยังไง สร้างความเดือดร้อนให้กับคนให้ข้าวให้น้ำเธอทุกคน ให้เรียนด้วย ปริญญาตรี ปริยญาโท)..../ (เลาะฝาตะแกรงเหล็กสีขาวออก เปิดเป็นช่องพอเป็นทางเดินไปได้) / "ในนั้นก็ให้คนอื่นเช่าขายผักขายหมู วันละ 100" / "แล้วให้ใครเช่า" / "ใครก็อยากจะมาเช่า มีคนมาขอเช่าเยอะแยะไป.. ให้พวกมันขาย ไม่จ่ายค่าเช่า ก็ต้องไล่ไป ไม่ให้ขายสิ" / "งั้นเดี๋ยวมาวันที่ 1" / "ทำกับข้าวกิน 3 มื้อ" (ไม่เข้าใจ) / ..จำได้แค่เนี้ย...
วันอังคารที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555
ศูนย์ฝึกอาชีพสวนลุม ... สาย 13 เลี้ยวซ้าย ลงป้ายแรก เดินข้ามถนน เข้าประตู เลี้ยวซ้ายเดินไปเรื่อย ๆ
ดูเหมือนป้าเขาจะออกไม่อยากคุยด้วย..บ่เป็นหยังดอก.. สวนลุม ถิ่นเก่า เรียนตั้งแต่เป็นพื้นไม้กระดาน หลังคาโค้ง.. ย้ายไปบ่อนไก่ ไกลหลาย... เขาบอก ฮู้แล้วสิบอกต่อเด้อ..ถ้ามีพื้นฐานมาเองบ้างก็จะเป็นเร็วหน่อย.. เพราะคนเรียนเห็นแก่ตัว (เก่า ๆ ) ก็มี..ประเภทคนใหม่ไปเรียน..มีการพูด "ขอแซงคิวหน่อยนะ" (หน้าด้านจริง ๆ เลย)
*
http://suanlumtrain.com/
*
ลงทะเบียน เสาร์นี้ยังทัน คอร์สนี้ ....
*
ไปกันนะครับพี่น้อง
*
ท่านแม่บอก "ไม่ต้องเรียน กูจะให้มึงมาช่วยขายของ" ค่าแรงวันละ 233.33 บาท บวกกับของท่านเตี่ยอีกเดือนละ 2,000 เป็นเดือนละ 9,000 ต้องทำงานแลกเงิน.. แต่คนอื่น แค่ขับรถไปเก็บค่าเช่า ก็มีกินมีใช้เดือนละประมาณ 30,000 บาท.. ไม่รวมราคาที่ดินและสิ่งปลูกสร้างอีกประมาณ 5-6 ล้านบาท..ครับพี่น้อง
*
ส่วนหลานสาวนอกไส้ ก็ได้เงินทุนไปเรียนปริญญาโท.. นิด้า บริหารธุรกิจ พิมพา สุพรรณโกมุท ขอแสดงความยินดีด้วย...
*
วันอาทิตย์ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555
25 พย.55 ขอตังค์หน่อย จะมาขายของวันที่ 1 ธค.55....
25 พย.55 ขอตังค์หน่อย จะมาขายของวันที่ 1 ธค.55.... / จะมาขายของ ให้มาขายเมื่อไหร่ / "มาเมื่อไหร่ก็มา มาเมื่อไหร่ก็มาขาย" / จะให้ขายอะไรบ้าง.. "ก็ขายที่มีนี่แหละ" (ประมาณน้ำบรรจุขวด กาแฟกระป๋อง เหล้า บุหรี่ โชห่วย แฟ๊บ สบู่ ยาสีฟัน) ... ท่านแม่ควักให้หลายร้อย (เราไม่ได้นับว่าเท่าไหร่) .. แจ๋ยิ่นหมอย ยืนตรวจเช็คสมุด ปากกาติ๊กรายการ.. ลูกป๊อป จัดของ เห็นมีขวดน้ำมะนาว (ใหญ่) เครื่องปรุงรส (ห้องโน้นล่ะ.. กูก็ให้เขาเช่าขายของ) ....ถาม "ค่าแรงเป็นไงเท่าไหร่" / "ก็ให้มึงเดือนละ 7,000" / "แ้ล้วของท่านเตี่ยล่ะ" / "ก็ให้มึงเดือนละ 7,000 รวมกับของท่านเตี่ยเป็นเดือนละ 9,000) / มีคนเดินมาด่าอีกแล้ว "โฮะโฮะโฮะ ฯลฯ" จำไม่ได้แล้ว...
วันศุกร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555
23 พย.55 พี่ ๆ ทุกคนทักว่ามีน้อง เป็นคนท้องเหรอ ถ้าไม่ท้องทำไมท้องใหญ่ ไปหาหมอตรวจซะนะ จะได้ไม่เป็นมะเร็งไปช่อง 9 หาเพื่อน ไม่อยู่กลับบ้านหนีม๊อบ
23 พย.55 พี่ ๆ ทุกคนทักว่ามีน้อง เป็นคนท้องเหรอ ถ้าไม่ท้องทำไมท้องใหญ่ ไปหาหมอตรวจซะนะ จะได้ไม่เป็นมะเร็งไปช่อง 9 หาเพื่อน ไม่อยู่กลับบ้านหนีม๊อบ / ขึ้นรถเมล์ แม้แต่อาอึ้มแก่ ๆ ยังเอามือมาจับท้องเรา แล้วลุกให้นั่ง มีสุาภพบุรุษ ลุกให้นั่งทุกครั้งเลย... จะไปหาหมอที่ไหนดี รามาฯ หรือ มเหสักข์ 30 บาท.. แต่ที่แน่ ๆ ไม่ได้กินข้าวมา 3 วันแล้ว (ไม่ต้องแดก ตามคำสั่ง) ปวดท้อง ปวดกะเพาะ กินแต่น้ำประปา จากก๊อก...คงใกล้ตายในเร็ว ๆ นี้...
วันจันทร์ที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555
สุวรรณา สุพรรณโกมุท ขอยกเงินให้คุณแม่วิภา จงมีความสุข ทั้งหมด 400,000 บาท
สุวรรณา สุพรรณโกมุท ขอยกเงินให้คุณแม่วิภา จงมีความสุข ทั้งหมด 400,000 บาท / "แม้แต่เงินของท่านเตี่ยเดือนละ 2,000 บาท กูก็จะไม่ให้ไอป๊อปมันโอนให้มึง" .... "500 บาทให้จ้างช่างมาดูปั๊มน้ำ เอามาคืนรึยัง" "เงินยืมกูไป 10,000 เอามาคืนหรือยัง" "เงินของมึง แม้แต่บาทเดียวกูก็ยังไม่เคยได้ของมึง" งั้นเอาอย่างนี้แล้วกัน.. ข้าพเจ้า น.ส.สุวรรณา สุพรรณโกมุท บุตรสาวคนเดียวของนายธรรมพล สุพรรณโกมุท และนางวิภา จงมีความสุข... ผู้ซึ่งเคยทำงานตอนเด็ก ๆ ช่วยพ่อแม่ทำมาหากินทุกอย่าง.. เมื่อบิดาถึงแก่กรรม ได้สั่งเสียเป็นวาจาให้บุตรชายคนโต นายสุชาติ สุพรรณโกมุท ให้เงินรายเดือนแก่ข้าพเจ้าจากเดือนละ 1,000 บาท เป็นเดือนละ 2,000 บาท ทั้งนี้ หากคำนวณ จากอายุ 45-60 ปี ของข้าพเจ้า จะเป็นเงินประมาณ 400,000 บาท.. ข้าพเจ้า น.ส.สุวรรณา สุพรรณโกมุท .. ขอมอบเงินเดือนละ 2,000 บาท นี้ ให้คุณแม่วิภา จงมีความสุข.. เพื่อเป็นการชดใช้หนี้ และหักหนี้ที่ข้าพเจ้ายืมคุณแม่มา ..เป็นเงินทุกบาททุกสตางค์ และหวังว่าข้าพเจ้าจะไม่มีหนี้เงินใด ๆ ติดค้างต่อคุณแม่วิภา จงมีความสุข อีกตลอดชีวิตของข้าพเจ้า... อนึ่ง.. บัญชีเงินฝากธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาเซ็นทรัลเวิร์ลด์ ข้าพเจ้าได้ทำลายฉีกทิ้งไปแล้ว.. จึงไม่มีความจำเป็นต้องรอรับเงินเดือนละ 2,000 บาทอีก หรือถ้าหากโอนเงินเข้ามาในบัญชีนี้ ข้าพเจ้าก็จะไม่รับเงิน ..ซึ่งถือเป็นการโอนมาเปล่า ๆ ไม่มีประโยชน์ใด ๆ อีก แต่ข้าพเจ้ามั่นใจว่า..ต่อให้ข้าพเจ้า น.ส.สุวรรณา สุพรรณโกมุท ต้องไปนอนข้างถนน เหมือนคนจรจัดที่นอนตามหน้าบ้านร้านค้า.. หรือต้องกินอาหารตามถังขยะ.. ก็ไม่มีวันที่คนพวกนี้จะให้เงินข้าพเจ้าไปกินข้าว.. "ไม่ต้องแดก ไม่ต้องแดก" ..ดังคำที่คุณแม่วิภา จงมีความสุข ได้กล่าวไว้...
270 บาท ค่าแรงรับจ้างล้างชาม (หมดแล้ว) ถ่ายรูป 6 ใบ 100 บาท
270 บาท ค่าแรงรับจ้างล้างชาม (หมดแล้ว) ถ่ายรูป 6 ใบ 100 บาท../ วันนี้ไ่มู่รู้จะเอาอะไรกิน..
68/16 มีถุงขยะการ์เม้นต์สีฟ้า ในถังขยะของบ้านนี้ เลยโยนออกไป..
68/16 มีถุงขยะการ์เม้นต์สีฟ้า ในถังขยะของบ้านนี้ เลยโยนออกไป..แล้วหยิบถุงขยะหญ้าใส่ในถังขยะแทน..ไม่รู้ว่าเจ้าของบ้านเจ้าของถุงขยะการ์เม้นท์สีฟ้านี้ (วางในถังขยะจมไปเกินครึ่งถัุง มีถุงขยะอยู่ข้างล่างอีก ถ้าไม่มีถุงขยะของบ้านนี้ สงสัยถุงสีฟ้าคงวางเต็มถังเลย) ไม่มัดปากถุง เมื่อคืนเห็นเจ้าของบ้านข้าง ๆ ออกมา แล้วก็เฉย ๆ.. บางทีอาจไม่ใช่ของบ้านเลขที่ 68/17 เพราะซ๊อ(น้อย)บ้านนี้เค้าเคยพูดกับเราว่า "ชั้นไม่ให้ลูกน้องชั้นทิ้งขยะในบ้านเธอแล้ว จะเอายังไงอีก"...
ลูกขอเงินสด 1 ล้าน แม่ให้ลูก 5 คน คนละ 5 ล้าน ...ได้เลย ไม่ต้องรอให้แม่ตายก่อน
ลูกขอเงินสด 1 ล้าน แม่ให้ลูก 5 คน คนละ 5 ล้าน ...ได้เลย ไม่ต้องรอให้แม่ตายก่อน / จะดีมาก ดีน้อย แม่ให้ลูก 5 คน เท่ากัน เงินสด สด ใ้ห้ไปเลย..ไม่ต้องรอให้แม่ตายก่อน... เรื่องจริงที่ยายเล็ก คนเพชรบุรี เล่าให้ฟัง.. ยายเล็กใจดี..กลัวจะนังปูจะปวดขา.. สุดท้ายก็ปวดแขน ทำงานแลกเงินกินกันตายไป 1 วัน ...270 บาท
วันศุกร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555
17 พย.55 (500 ที่ให้ไปเรียกช่างดูปั๊มน้ำ เอามาคืนรึยัง) นังปู สุวรรณา สุพรรณโกมุท ขอเงินท่านแม่ .."ไม่ให้ ไม่ให้"..
17 พย.55 (500 ที่ให้ไปเรียกช่างดูปั๊มน้ำ เอามาคืนรึยัง) นังปู สุวรรณา สุพรรณโกมุท ขอเงินท่านแม่ .."ไม่ให้ ไม่ให้".. / ถามประโยคแรกเลย "500 เอามาคืนรึยัง "/ นังปู "500 อะไร" / ท่านแม่ "500 ที่กูให้ไปตามช่างมาดูปั๊มน้ำ เอามาคืนรึยัง" "500 เอามาคืนรึยัง"
*
อุตส่าห์กลัวบ้านไฟไหม้ปั๊มน้ำ ไล่ปิดปั๊มน้ำ.. 500 เอามาคืนรึยัง.. อาจจะต้องถามแบบที่ป๊าถาม "มึงจะเอาชีวิตกูมั้่ย มึงจะเอาชีวิตกูมั๊ย" ตอนที่ป๊าไปขอยืมเงินท่านแม่.. (แต่ท่านแม่คงไม่อยากได้ชีวิตนังปูหรอก เพราะถ้าเอามาเป็นลูกจ้างขายของไม่ได้ ก็ไม่รู้จะเอามาทำไม..ไม่มีประโยชน์)
*
ถั่วงอกขวดน้ำสิงห์ ขวดเล็ก (กินต้นอ่อนธัญพืชงอก บำรุงสุขภาพนะคะ)
ถั่วงอกขวดน้ำสิงห์ ขวดเล็ก
*
ถ้าไม่ตาย..จะเอาถั่วงอกขวดน้ำสิงห์ ขวดเล็กมาโชว์... ย้ำ ว่าถ้าเค้ายังไม่ตาย.. จะเอามาโชว์ บอกวิธีก่อนก็ได้ ..เผื่อใครจะไปลองทำถั่วงอกกินพอดีมื้อ..(คนทำยังไม่รู้จะออกมาเป็นยังไง) ขวดน้ำดื่มสิงห์ขวดเล็ก (จะมีร่องน้อยกว่าขวดใหญ่) เอาที่ฝาก่อน ปิดฝา เจาะรู กลางฝา 1 รู เจาะอีก 5 รู.. (ครึ่งวงกลมของฝาล่าง เว้นระยะพอสวยงาม) เว้นจากก้นขวดขึ้นมา 1 ร่อง (สำหรับใส่ถั่วเขียวไร่ทิพย์ ไม่ถึงครึ่งของ 1 ข้อก้นขวด ใส่น้ำอุ่น จากน้ำร้อน 1 ส่วนใส่น้ำธรรมดา 2 ส่วน อุ่นมาก) ใส่ให้ถึงขอบข้อที่เว้นไว้ (ตัดเป็นฝาเปิดก่อนนะคะ.. คือ ตัดเป็นรูปตัว U แบบมุมเหลี่ยม เป็นฝา กะระยะเว้นเป็นแนวตรงกลาง 1 เส้น ระหว่างการตัดฝาเปิด 2 ฝา ..เพื่อให้หยิบถั่วงอกได้ง่ายขึ้น.. / อีกด้านหนึ่งเจาะรู 2 แถว ประมาณ 2-3 mm กะว่าถั่วที่พองแล้วไม่ร่วงออจากรู (อย่าลืมเว้นจากก้นขวดขึ้นมา 1 ข้อ เท่าระยะฝาเปิดอีกด้าน) .. เจาะรูประมาณ 10-12 รู (แถวละ 5 หรือ 6 รู) แช่ถั่วประมาณ 6-8 ชั่วโมง (6ก็พอมั๊งจะเห็นงอกเล็ก ๆ นิดนึีง) ใส่น้ำในขวด แนวนอน เขย่าขวด ซ้ายขวาแนวนอน ล้างน้ำดำ ๆ ที่แช่ถั่ว จนน้ำใส / (อาจใส่ตระแกรงจากตาข่าย PVC ตาละเอียดสุด สีดำ ต้องใช้ตอนรดน้ำ) วางในกะละมังสีดำ เอาผ้าซับในสีดำ ชุบน้ำบิดหมาดคลุมไ่ม่ให้ถูกแสงสว่าง.. รดน้ำวันละ 3 ครั้ง (2 คืน 3 วัน เก็บกินได้) ดูว่าอวบใช้ได้..อย่าให้รากยาว หรือรากฝอยงอกมา ไม่สวยไม่น่ากิน... ยังไม่ได้ลองว่าถ้ารดน้ำมากกว่าวันละ 3 ครั้ง จะเป็นอย่างไร
*
ถั่วงอกคอนโดฯ ยังไม่ได้แกะตัวหนังสือที่จดมา หวัดมาก... ถ้าเจ้าของ blog ยังไม่ (อด) ตาย..จะมาเล่าให้ฟัง แต่ทำไม่ได้ เพราะพื้นที่ไม่อำนวย จะกินยังไม่มีเลย..
*
ถั่วงอกขวดน้ำสิงห์ ขวดเล็ก (กินต้นอ่อนธัญพืชงอก บำรุงสุขภาพนะคะ) ไม่ว่าจะเป็นอัลฟาฟา (ทางยุโรป) งางอก ถั่วงอก ไควาเระ โต้วเหมี่ยว ผักอะไรอีกอย่างนะ.. อ๋อ วอเตอร์เครส..บางเว็บบอก ซื้อตามห้าม เอามาปักจิ้มก็ขึ้นใหม่.. ไปลองดู ไม่ต้องใช้พื้นที่อะไรมาก
"จะมาขอเบิกที่เหลือของวันที่ 20 อีก พันนึีง" ใส่เลย "ไม่ให้ ไอหลินเค้าไม่ได้อะไรนะจะบอกให้"...
"จะมาขอเบิกที่เหลือของวันที่ 20 อีก พันนึีง" ใส่เลย "ไม่ให้ ไอหลินเค้าไม่ได้อะไรนะจะบอกให้"... / "ไม่ให้ กูแบ่งสมบัติให้ทุกคนแล้ว.. กูตายก็เอาไป..ไอหลิน..เค้า..ไม่ได้อะไรนะจะบอกให้" (ไม่ให้งั้นก็เปิดสิ) ..."มึงเอาถั่วงอกมาทำไม มึงเอาถั่วงอกมาทำำไปไม มึงไปเอาถั่วงอกของมันมาให้กูทำไม มึงไปเอาถั่วงอกของมันมาให้กูทำไม ไม่ต้องไปเอาของมัน ไม่ต้องไปเอาของมัน (ก็ซาโกว โซ๊ยโกว เขาเต็มใจให้ฟรี ๆ ปรารถดี อยากให้ลูกหลานที่ของดี ๆ ไปทำมาหากิน ให้ร่ำให้รวย.. กูมันคนจน ไม่มีจะกิน ไม่มีทุน เขาให้ความรู้เป็นทุน เขาเต็มใจให้ ก็ยินดีรับไว้ ทำได้ไม่ได้อีกเรื่องหนึ่ง.. ไม่เหมือนลูกใครก็ไม่รู้ แม่อยากให้ทำถั่วงอกขายให้รวย แต่ไม่ยอมทำ หรือทำไม่ได้ (กูก็ไม่รู้) / "กูจะเปิดห้องข้าง ๆ ขายของ มึงจะมาขายมั๊ย".. (เดินไปแร่ว..แร่ว แร่ว แร่ว).. / ความคิด "อืม..จะไปขอเงินเค้า.. เศษสตางค์ที่เหลือในตัว.. ซื้อน้ำซุปฟักทอง น้ำซุปงาดำ หน้า 7-11 กับ โรลใบเตย ของ 7-11 (16+13=29 บาท) หมดตูดเลย.. นี่มาเล่นเน็ต ยังต้องติดเงินเขาไปก่อน.. ถ้าไม่ตายจะเอาไปจ่ายค่าเน็ตวันหลัง.. (ไม่ได้มีมรดกที่ดิน ค่าเช่า กินใช้เดือนละ 30,000 ก็ยังงี้แหละ) ..ไอ้หวัง.ตายแน่...ตายแน่ไอ้หวัง..
*
ไอ้หวังตายแน่- ศรเพชร ศรสุพรรณ
*
http://www.youtube.com/watch?v=kkZOm_eozuA
*
บุญใด ๆ ที่ข้าพเจ้า น.ส.สุวรรณา สุพรรณโกมุท กระทำไว้.. ขออุทิศแด่คุณแม่วิภา จงมีความสุข ให้บรรลุธรรม ไปถึงซึ่งนิพพาน (ไม่เวียนว่ายตายเกิดอีก) ..
วันพฤหัสบดีที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555
มาปลูกไควาเระ จากเมล็ดหัวไชเท้ากัน
http://nannamhome.exteen.com/20120628/entry/page/1#lastcomment
*
nannamhome
View my profile
Previous
สร้างพื้นที่เล็กๆ สร้างความสุขน้อยๆ
แวะมาทักทายคะ
หากินผักกันจ้า
มาเพาะไควาเระไว้กินกันจ้า
วอเตอร์เครสเดินทางไกลจากมิตรสู่มิตร
Recommend
Favourites
Links
Latest Comments
มาเพาะไควาเระไว้กินกันจ้า
สร้างพื้นที่เล็กๆ สร้างความสุขน้อยๆ
หากินผักกันจ้า
เกษตรกรจำเป็น
วอเตอร์เครสสานสัมพันธ์
Archives
Nov 2012
Oct 2012
Sep 2012
Aug 2012
Jul 2012
more
Categories
มาเพาะไควาเระไว้กินกันจ้า
posted on 28 Jun 2012 16:17 by nannamhome
หายไปนานจากบล็อก แว๊บไปทำมาหากินบ้างอะจ้า
วันนี้เลยเอาของดีของมีประโยชน์มาฝากกันจ้า
ไควาเระ นั่นชื่อเป็นญี่ปุ่นเชียว เอะอะไรนะ
ไควาเระ คือ ต้นอ่อนของหัวไชเท้าจ้า
วิธีเพาะก็ไม่อยาก อุปกรณ์ก็ไม่เยอะ มาเริ่มกันเลยจ้า
เตรียมอุปกรณ์ ดังนี้เลยน้าาา
1.ขวดโหล
2.ฟองน้ำ ตักให้เท่าขนาดก้นขวดโหล ถ้าใหญ่ไปจะใส่ไม่ได้นะ ฮ่าาา (บอกทำไมเนี้ย อิอิ)
3.สำลี
4.เมล็ดพันธุ์หัวไชเท้า
5.ฟ็อกกี้
มาเริ่มกันเลยจ้าา
จัดวางเรียงตามรูปเลยจ้า แล้วนำไปวางไว้ใกล้ๆหน้าต่าง แล้วฉีดน้ำเช้า-เย็นจ้าา
สักอาทิตย์จะเจอแบบนี้เลยจ้า >>
1 อาทิตย์ได้กินแล้วจ้าาาา
รวดเร็วมากจ้า แค่นี้ก็ได้กินแล้ว เพาะเองได้ง่ายจัง
มาลองเพาะกันดูนะค่าาา ต้นอ่อนมีประโยชน์มากๆเลยนะ
แต่คนที่เป็นโรคเกี่ยวกับไขข้อไม่แนะนำให้กินนะค่าา
เมนูแนะนำ
สลัด / ต้นจืด /ผัดน้ำมันหอย
อูยยย แค่นี้ก็หิวแล้ว ทั้งสดทั้งกรอบ ปลอดสารพิษด้วย
มันน่าจัดเต็มจริงๆค่าาา
Tags: ต้นอ่อน, ปลูกผัก, ผัก, หัวไชเท้า, ไควาเระ1 Comments
Comment
"ถั่วงอก ขวดน้ำสิงห์" คนสอนบอก ทำมาขายสิ ปลูกถั่วงอกขายรวยแน่นอน..แต่ถามใคร (ให้ฟรี ฟรี) ยังไม่มีคนเอาเลย
"ถั่วงอก ขวดน้ำสิงห์" คนสอนบอก ทำมาขายสิ ปลูกถั่วงอกขายรวยแน่นอน..แต่ถามใคร (ให้ฟรี ฟรี) ยังไม่มีคนเอาเลย
*
วันพุธที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555
จุดด้อย 10 ประการ ที่ทำให้คนไทยล้าหลัง!!! จาก วิกรม กรมดิษฐ์
http://www.geranun.com/archives/234
*
แชร์ไม่มา โกป๊ีซะเลย
*
จุดด้อย 10 ประการ ที่ทำให้คนไทยล้าหลัง!!! จาก วิกรม กรมดิษฐ์
Posted on 2009/01/04 by Geranun™ TalonTV
วันนี้ชวนมาอ่าน มาฟังคนไทยวิจารณ์คนไทย จาก คนดังที่มีแนวคิดตัวเองสุดโต่งคนหนึ่ง คือ คุณ วิกรม กรมดิษฐ์!!! ครับ
ประเด็นที่เขานำเสนอที่จริงมีหลายคนพูดถึงแล้วในหลายหัวข้อ สมัยก่อนผมทำงานกับคนญี่ปุ่น ราว 10 กว่าปี ก็เคยมี ดร.ท่านหนึ่ง ท่านคุยถึงเรื่องนี้ (ศ.ดร.ปรียา อิงคาภิรมย์) เวลาผ่านไป 10 ปี พอคุณวิกรมกลับมาพูดอีกรอบ (แถมมีประเด็นมากขึ้น) ก็เลยชวนให้อยากเอามาฝาก ที่จริงแล้วประเด็นเหล่านี้ รัฐน่าจะขยับตัวได้แล้ว เพราะไม่ใช่เรื่องที่คนไม่กี่คนเห็น แต่น้อยคนที่กล้าพูดตรงๆ ครับ
……………..
10 ประเด็นที่ทำให้คนไทยล้าหลัง…ในมุมมองของ วิกรม กรมดิษฐ์
วิกรม กรมดิษฐ์ออกอากาศทางวิทยุ อสมท.รายการซีอีโอวิชั่น10-11 มกราคม 2550
[01]คนไทยรู้จักตัวตนของเราเองต่ำมากกล่าว คือ รู้จักหน้าที่ของตัวเองต่ำมาก โดยเฉพาะหน้าที่ต่อสังคม ต่างกับชาติที่เจริญแล้ว เขาจะมีสำนึกต่อสังคมส่วนรวมสูงมาก
ของเราจะไม่คำนึงถึงส่วนรวม แต่จะเป็นประเภทมือใครยาวสาวได้สาวเอา จนทำให้เกิดวัฒนธรรมสืบทอดกันมายาวนาน โดยเฉพาะผู้ที่มีอำนาจทุกระดับชั้น จนมีคำพูดว่า ธุรกิจการเมือง ธุรกิจราชการ ธุรกิจการศึกษา ทำให้ทุกคนแสวงหาอำนาจเพื่อจะตักตวงเพราะความไม่รู้จักตัวตน ไม่รู้จักประเทศของตัวเองเช่นนี้แล้ว ทำให้ประเทศชาติของเราล้าหลังไปเรื่อย ๆ
[02]การศึกษาของไทยยังไม่ทันสมัยสอนให้คนเห็นแก่ตัวมากกว่า ขาดจิตสำนึกต่อสังคม แม้แต่ภาษาคนไทยจะเก่งแต่ภาษาของตัวเอง ทำให้เราขาดโอกาสในการแข่งขันกับต่างชาติในเวทีต่าง ๆ ประเทศอื่น ๆ รู้จักคนไทยน้อยมาก เพราะคนไทยไม่กล้าแสดงออก ขี้อาย ไม่มั่นใจในตัวเอง เราจึงตามหลังชาติอื่น เพราะคุณภาพการศึกษาของเราไม่ทันสมัย จะเห็นว่าคนมีฐานะจะส่งลูกไปเรียนเมืองนอกเพื่อโอกาสที่ดีกว่า
[03]คนไทยมองอนาคตไม่เป็นเท่าที่สังเกตเห็นว่าคนไทยกว่า 70% ทำงานแบบไร้อนาคต แบบวันต่อวัน แก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปวัน ๆ น้อยนักที่จะวางแผนให้ตัวเองอย่างเป็นระบบ เป็นขั้นเป็นตอน มีเป้าหมายที่ชัดเจนในอนาคต สะสมความสำเร็จไปอย่างเป็นลำดับ หรือเป็นเพราะไม่กล้าฝัน หรือไม่มีความฝันก็ไม่แน่ใจ และชอบพึ่งสิ่งงมงาย โชคชะตา พอใจทำงานแบบตำข้าวสารกรอกหม้อ ทำให้ประสิทธิภาพของเราไม่ทันกับการแข่งขันระดับโลก
[04]คนไทยไม่ค่อยจะจริงจังในความรับผิดชอบต่อหน้าที่การรับปากของเรามักทำแบบผักชีโรยหน้า หรือเกรงใจ แต่ทำได้หรือไม่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง จากประสบการณ์ทำธุรกิจกับชาวต่างชาติจะพบว่า ประเทศที่ประสบความสำเร็จ เช่น ญี่ปุ่น หรือยุโรป คนเขาจะให้ความสำคัญกับสัญญาข้อตกลงอย่างเคร่งครัด เพราะหมายถึงความเชื่อถือในระยะยาว ซึ่งไม่สามารถประเมินเป็นมูลค่าได้ ปัจจุบันคนไทยถูกลดเครดิตในการเชื่อถือด้านนี้ลงไปเรื่อย ๆ
[05]การกระจายความเจริญยังไม่เต็มที่ประเทศของเรากระจุกตัวความเจริญเฉพาะในเมืองใหญ่ ประชากรประมาณ 60-70% ที่อยู่ห่างไกล จะขาดโอกาสในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของตัวเองและชุมชน ในต่างประเทศ การสร้างนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่ห่างไกล แต่มีองค์ประกอบอื่น ๆ สนับสนุนเขาก็ลงทุน การสร้างเส้นทางคมนาคมเชื่อมต่อระหว่างภูมิภาค จะเป็นประโยชน์ ทำให้เป็นการลดต้นทุนในการดำเนินการทางธุรกิจอย่างมาก ซึ่งเป็นหน้าที่ของภาครัฐที่ต้องส่งเสริม
[06]การบังคับกฎหมายไม่เข้มแข็งและดำเนินอย่างไม่ต่อเนื่องสังคมไทยชอบทำงานแบบลูบหน้าปะจมูก ปราบปรามไม่จริงจัง อาจได้ยินกรณีการดำเนินการตามกฎหมายกับผู้มีอำนาจหรือบริวารก็ตาม จะทำแบบเอาตัวรอดไปก่อน ไม่มีมาตรฐาน ต่างกับประเทศที่เจริญแล้ว ข้อนี้กระบวนการยุติธรรมจะต้องปรับปรุง
[07]สังคมไทยชอบอิจฉาตาร้อน ไม่ค่อยเป็นสุภาพบุรุษ และชอบเลี่ยงเป็นศรีธนญชัย เมื่อจนตรอก ในวงการเราจะพบกระแสของคนประเภทนี้ปะปนมากขึ้นจะเพราะเป็นเพราะสังคมเรายอมรับ หรือยกย่องคนที่มีอำนาจ มีเงิน แต่ไม่มีใครรู้ภูมิหลัง โดยเฉพาะคนที่ล้มบนฟูกแล้วไปเกาะผู้มีอำนาจ เอาตัวรอดหน้าตาเฉย คนพวกนี้ร้ายยิ่งกว่าผู้ก่อการร้ายเสียอีก เพราะทำความเสียหายต่อบ้านเมืองมากกว่า และจะเป็นประเภทดีแต่พูด มือไม่พายเอาเท้าราน้ำ ทำให้คนดีไม่กล้าจะเข้ามาเพราะกลัวเปลืองตัว
[08]เอ็นจีโอบ้านเราค้านลูกเดียวทำให้เราเสียโอกาสในการพัฒนา เพราะเอ็นจีโอบางกลุ่มที่อิงผลประโยชน์อยู่ ถ้าจะพูดกันแบบมีเหตุผล ก็ต้องรับผิดชอบร่วมกัน เอ็นจีโอดี ๆ ก็มี แต่บ้านเรามีน้อย กรณีน้ำท่วมเพราะไม่มีเขื่อนรองรับเพียงพอ พอเกิดน้ำท่วม พวกที่ค้านจะแสดงความรับผิดชอบด้วยหรือเปล่า บ่อยครั้งที่ประเทศเราเสียโอกาสอย่างมหาศาล เพราะการค้านหัวชนฝา เหตุผลจริง ๆ ไม่ได้พูดกัน
[09]คนไทยอาจจะไม่พร้อมในเวทีโลกเพราะไม่ถนัดภาษาอื่น ที่ไม่ใช่ภาษาตัวเองทำให้โลกภายนอกไม่รู้จักคนไทยเท่าที่ควร และการจัดการตัวเองอย่างเหมาะสม เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือในเวทีการค้าระดับโลก ของเราขาดทักษะและทีมเวิร์คที่ดี ทำให้เราสู้ประเทศเล็ก ๆ อย่างสิงคโปร์ไม่ได้
[10]คนไทยเลี้ยงลูกไม่เป็นปัจจุบันเด็กไทยขาดความอดทน ไม่มีภูมิคุ้มกัน เป็นขี้โรคทางจิตใจ ไม่เข้มแข็ง เพราะเราเลี้ยงลูกแบบไข่ในหิน ไม่สอนให้ลูกช่วยตัวเอง ต่างกับชาติที่เจริญแล้ว เขาจะกระตือรือร้นช่วยตนเอง ขวนขวาย แสวงหา ค้นหาตัวเอง และเขาจะสอนให้สำนึกรับผิดชอบต่อสังคม
เว็บของคนที่นำกระแสความคิดเห็น ไม่จำเป็นต้องโปรโมทเว็บ คนก็เข้า
คุณวิกรมแสดงความเห็นว่า การอบรมเยาวชนมาจาก 3 ทาง-หนึ่งภายในครอบครัว- สองจากโรงเรียน- และสามจากสังคม หรือสื่อสารมวลชน
ในส่วนนี้พวกเราทุกคนมีส่วนร่วมรับผิดชอบ เพราะถ้าหากสื่อมวลชนทำเพื่อผลประโยชน์ตัวเอง หรือเพื่ออำนาจต่อรองเท่านั้น และสังคมปราศจากสื่อที่จะทำหน้าที่นำเสนอสาระที่เป็นความจริง โดยไม่มอมเมาบิดเบือนแล้ว เมื่อนั้นสังคมจะวิบัติมากยิ่ง ๆขึ้นอีกต่อไป
วิกรม กรมดิษฐ์ออกอากาศทางวิทยุ อสมท.รายการซีอีโอวิชั่น10-11 มกราคม 2550
………………
ประเด็นหลักๆมีที่คุณวิกรมไม่ได้พูดถึง คือ คนไทย มักไม่ค่อยอยากจะยอมรับนัก เมื่อมีคนมาวิจารณ์ตนเอง ถึงแม้จะเป็นคนไทยด้วยกันเอง และบอกล่วงหน้าได้ว่า เมื่อหลายคนอ่านเสร็จแล้ว ก็จะมีคนบางคนคิดว่า
1. “ไม่เกี่ยวกะฉัน ใครมีหน้าที่ก็ทำไปแล้วกัน”(ประเด็นนี้จบเลยครับ อย่างน้อยให้รู้ไว้ แล้วสักวันถ้ามีโอกาสมาช่วยกันยังดีเสียกว่า ยังพอมีความหวังในการเปลี่ยนแปลงอนาคตของชาติมั่ง)
2. “แล้วคนพูด เขาเป็นใคร วิเศษขนาดไหน ดีมาจากไหน มันก็แค่… ฯลฯ”(ประเด็นนี้พอคิดมุ่งโจมตี”ผู้พูด”ก่อนว่า ดีนักหรือที่มาวิจารณ์เรา ก็จะเกิดอคติ แล้วก็เลือกที่จะไม่รับข้อมูลเลยก็มี หากจะลองพิจารณาเฉพาะประเด็น ผมเชื่อว่ามันก็มีประเด็นที่น่าสนใจทีเดียว)
3.”ที่บอกมาไม่ใช่ไทยเท่านั้น ชาติอื่นๆ ก็เป็น มันเป็นเรื่องธรรมชาติ”(บอกปัดไปเลยอีกแล้วผ่าน เลิกคิด ประเด็นที่พูดถึงก็จะถูกละเลย โดยไม่ได้มองถึงวิธีการที่จะมาช่วยกันปรับปรุงให้กับคนรุ่นต่อไปของชาติ)
4. “คิดแบบนี้ เท่ากับดูถูกชนชาติไทยของเราเอง คนไทยหรือเปล่า”(เปิดประเด็นแบบนี้ ทะเลาะกันไปเลย ไม่ต้องมาคิดเรื่องว่าประเด็นต่างๆนี้ จะต้องปล่อยผ่านไปอีกกี่ปี หรือจะรอให้มันยิ่งสายไป)
อย่างน้อยที่สุดก็ขอฝากประเด็นเหล่านี้ไว้สักวันจะได้มีโอกาสผลักดันให้เกิดอะไรดีดีช่วงเวลานี้เราก็ดูแลเยาวชนในครอบครัว ในมือของเราให้อย่าเป็นใน 10 ข้อนี้ ก็จะถือว่าเป็นประโยชน์ครับ
ปัจจุบันเยาวชนเรากำลังขาดภูมิคุ้มกันทางอารมณ์ และตกอยู่ในการครอบงำของสื่อรอบตัวได้ง่าย ขาดความคิดที่เป็นตัวของตัวเอง ถ้าปล่อยแบบนี้ ลูกเราก็เป็นได้แต่ขี้ข้าเขา เพราะไม่รู้จักคิดเอง ไม่เคยทำอะไรนอกกรอบ ไม่เคยทดลองผิดลองถูกและพัฒนาจากความผิดพลาด
เราจำเป็นต้องฝึกให้เขา แพ้เป็น เอาตัวรอดจากความผิดหวัง จากวัตถุนิยมได้ มีวินัย มีเป้าหมายที่ชัดเจนในชีวิต และมีจิตสำนึกของการดำเนินชีวิต
ฝากถึงกันครับ
ถูกใจ · · เลิกติดตามโพสต์ · แชร์ · ลบ
กินปลานิลทอด ดึงหนังด้วย นึกถึงอาจารย์ทุกคำเลย..
กินปลานิลทอด ดึงหนังด้วย นึกถึงอาจารย์ใหญ่ทุกคำเลย.. ทำให้นึกถึงว่า.. ทำไมอาจารย์คุณหญิงหมอพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ถึงต้องทานมัีงสวิรัติ นอกจากเพื่อปกป้องร่างกายจากโรคประจำตัว..(ในอดีต)
"จุฬาวิชาการ/อาจารย์ใหญ่" มีคำถามอะไรมั๊ยคะ (ยังไม่กริ๊ง...ง..ง..)
"จุฬาวิชาการ/อาจารย์ใหญ่" มีคำถามอะไรมั๊ยคะ (ยังไม่กริ๊ง...ง..ง..) น้องก็บอกว่าร่างสด ใช้สำหรับ สนพ.ปี 6 ผ่า สภาพภายในจะยังไม่แห้ง ใกล้เคียงของจริง เก็บได้ไม่นาน (ส่วนร่างแห้ง ให้ปี 2 ใช้งาน) ถาม... "ร่างสด เก็บได้ไม่นาน.. ต้องใช้งานจำนวนเยอะใช่หรือไม่.. แล้วหลังจากใช้งานเสร็จแล้ว ทำอย่างไรกับอาจารย์ใหญ่ร่างสด" คำตอบคือประมาณว่าใช้จำนวนมากกว่าร่างแห้ง .. และหลังจากเสร็จแล้ว ก็จะเก็บไว้อีก 1 ปี จะทำการขอพระราชทานเพลิงศพ.. / ชั้นล่างถามเรื่อง การบริจารคร่างกาย .. ถึงแม้เขียนในกระเป๋าสตางค์ว่าบริจาคให้สภากาชาดไทย.. ก็ไม่สามารถนำร่างนั้นมาใช้งานได้ (ต้องเป็นร่างที่มีสภาพสมบูรณ์ ไม่ใช่จากอุบัติเหตุ หรือศพมีคดี..) ญาติจะต้องเป็นผู้แจ้งเท่านั้น... เพราะฉะนั้น ท่านใดที่ประสงค์บริจาคร่างเป็นอาจารย์ใหญ่ ควรจะมีเบอร์โทร.ติดต่อ ทำตัวเป็นคนมีญาตินะคะ.. เพื่อไม่ให้ร่างอันสิ้นลมแล้วของท่่าน เสียไปอย่างเปล่าประโยชน์... มีแบบสอบถามเรื่อง การบริจาคร่างกายเป็นอาจารย์ใหญ่ หัวข้อเรื่องความเชื่อทางศาสนา.. จริง ๆแล้ว พระพุทธเจ้าท่านสอนเรื่องความเชื่อว่า ทำบุญสิ่งใด เกิดชาติหน้าจะได้สิ่งนั้น หรือจะได้สิ่งนั้น ทำนองนั้นในชาตินี้ เช่น ทำบุญด้วย ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง แล้วจะมีโชคลาภเป็นทอง.. ร่ำรวย.. (แต่กลับเป็นการทำบาป ส่งเสริมให้พระที่เป็นเบาหวาน อาพาตหนักกว่าเ่ก่า..คนทำบุญจะเป็นเบาหวานด้วยหรือไม่หนอ) .... ถ้าเป็นเช่นนั้น.. ทำไมไม่เชื่อว่า "การทำบุญด้วยการให้ร่างกาย อวัยวะ ที่ไม่จำเป็นต้องใช้งานแล้ว... ชาติหน้า ไม่ว่าจะเกิดเป็นอะไรก็ตาม จะมีร่างกายอวัยวะครบถ้วน สมบูรณ์ มียิ่งกว่ามี" นะ.. อยากรู้จัง.. ว่าชาติหน้าเราจะเกิดอะไร... คงไม่นิพพาน แต่อาจเป็นสีนิปปอน เพ้นท์
เมื่อเช้าบอกม๊าแล้วว่า ปั๊มน้ำมันคนละตัวกัน .. ที่ปั๊ีมเก็บในแท๊งค์ดาดฟ้า
เมื่อเช้าบอกม๊าแล้วว่า ปั๊มน้ำมันคนละตัวกัน .. ที่ปั๊ีมเก็บในแท๊งค์ดาดฟ้า มีคัตเอ้าท์ ใต้บันได..ส่วนปั๊มน้ำ ปั๊มสด ระเบียงห้องโน่.. ไม่มีคัทเอ้าท์ ตอนแรกที่ติด ทำเสียบปลั๊กเีสียบ.. เราไม่รู้ว่า ชั้น 3 ก็ใช้น้ำจากปั๊ม (ทำทีหลัง) เลยดึงปลั๊กออก... ช่างใหญ่เลยตัดปลั๊กออก..แล้วต่อสายไฟตรงเต้าเสียบ ... เพราะฉะนั้น ถ้าวันไหน บังเอิญ..ปั๊มน้ำไม่ขึ้น หรือเราเปิดก๊อกแล้วปิดไม่สนิท ทำให้น้ำไหลอ่อน.. ปั๊มก็ยังเดินอยู่..แล้วถ้าไ่ม่มีใครอยู่บ้านทั้งวัน หรืออาจทั้งคืนด้วย.. ปั๊มน้ำตัวนี้อาจมีสิทธิ์ไหม้ ระเบิด แล้วก็ไหม้ลามไปอีก หลาย 10 ล้านบาท... นี่คือความคิดของคนโง่ เซ่อ บ้า ปัญญาอ่อน.. (ซึ่งมักจะถูกตั้งคำถาม..เข้าใจมั๊ย ๆ ๆ ๆ ๆ )
มิ้น พิม จะโดนตบ ลูกใครบ้างหว่า.. คุยกัน..เสื้อกีฬาสีฟ้า จำนงค์ รร. หรืออะไรที่ไหนเมื่อไหร่..
มิ้น พิม จะโดนตบ ลูกใครบ้างหว่า.. คุยกัน..เสื้อกีฬาสีฟ้า จำนงค์ รร. หรืออะไรที่ไหนเมื่อไหร่.. เสียงออกจากโทรศัพท์มือถือ..อยากจะเอาเรื่องอย่างจริงจัง..น่ากลัวมากเลย..
ส่วนเมื่อเช้าปั๊มน้ำเย็นลงแล้ว..นั่งรถกลับมาดู..อาจะเป็นเพราะ...
ส่วนเมื่อเช้าปั๊มน้ำเย็นลงแล้ว..นั่งรถกลับมาดู..อาจะเป็นเพราะ..ยังมีน้ำในโถลูกลอย.. หรือมีคนใช้น้ำ เปิดวาวล์ใหญ่หน้าบ้าน ..
ก่อนออกจากบ้าน เช็คปั๊มน้ำ (จับฝาครอบเครื่อง ร้อนมาก ร้อนกว่าเมื่อเช้า) เราก็ปิด...
ก่อนออกจากบ้าน เช็คปั๊มน้ำ (จับฝาครอบเครื่อง ร้อนมาก ร้อนกว่าเมื่อเช้า) เราก็ปิด...ก๊อกในห้องน้ำชั้นดาดฟ้า สนิทแน่นอน..ปั๊มยังดังอยู่ ถามโน่ ไม่ได้เปิดก๊อกน้ำค้างไว้.. อืม.. เดินออกไปปิดลิ้นวาวล์สีขาว ปิดวาวล์เขียวที่ท่อแนวตั้งข้างก๊อกน้ำ.. ยังดังอยู่... ไล่ดู ..ปิดวาวล์เขียวข้างลิ้นขาว.. O.K. ปั๊มเงียบแล้ว... 500 ถือเป็นค่ารักษาความปลอดภัย ไม่ให้ปั๊มไหม้ละกันนะท่านแม่.. กว่าท่านป๊อปจะมาซ่อมก๊อกน้ำให้ป้อม..ก็คงจะเลยเวลากลัีบบ้านของพวก Office กัน... เข้าใจว่า ลูกลอยโถเก็บน้ำ..คงทำงานตลอดเวลา น้ำก็ปั๊มไป แต่ไม่มีน้ำให้ขึ้น..ปั๊มน้ำเลยร้อน.
1,000 จะหมดอีกแล้ว ขนาดใช้ประหยัดแล้วนะเนี่ย รถเมล์ก็ฟรี ..กินก็ถูกสุด ๆ ในกรุงเทพฯ
1,000 จะหมดอีกแล้ว ขนาดใช้ประหยัดแล้วนะเนี่ย รถเมล์ก็ฟรี ..กินก็ถูกสุด ๆ ในกรุงเทพฯ / ค่าเรียกช่างไฟ 500 คงไม่มีคืนให้ท่านแม่ เพราะเป็นค่านั่งร้านเน็ต ไม่มีน้ำใช้.. ไม่อยากทำให้พื้นเปียก
ตาเฒ่าหน้าเหี้ยม เอ๊ย หน้าเหลี่ยม ให้เวลาแกไปกินข้าว 15 นาทีแล้วมานั่่งหน้าจอเลยนะ..เข้าใจมั๊ย
ตาเฒ่าหน้าเหี้ยม เอ๊ย หน้าเหลี่ยม ให้เวลาแกไปกินข้าว 15 นาทีแล้วมานั่่งหน้าจอเลยนะ..เข้าใจมั๊ย
มะกี้ มอไซค์ เกือบจิ้มท้ายกัน เพราะเก๋งเลี้ยวขวา..ดัด..เลี้ยวขวาเข้าซอยทันที ไม่ได้เห็นใจคนขับรถตามเร้ย..
มะกี้ มอไซค์ เกือบจิ้มท้ายกัน เพราะเก๋งเลี้ยวขวา..ดัด..เลี้ยวขวาเข้าซอยทันที ไม่ได้เห็นใจคนขับรถตามเร้ย.. 9335 สีขาว.. ป๊าดมาปุ๊ป มอไซค์เบรคกันแทบหัวทิ่ม..แล้วพี่ท่านก็ค่อย ๆ ทะแยงเลี้ยวขวาเข้าซอยตรงหัวโค้งซะงั้น ก่อนถึงป้ายพร้อมพรรณ.. "ใครสอนให้ขับรถแบบนี้นะ"... / วันโน้นก็ที เบนซ์บีบแตร 1 ชุด หันไปมอง.. โห หน้าเบนซ์เกือบเสียบท้าย Swiff ฆล 1666 พี่ท่านมาเสียบรอไฟเขียว..แป๊ปเดียวได้ไป... ถ้าพี่เบนซ์ใจร้อนสักหน่อย.. ไม่เสียดายค่าซ่อมละก็.. เสียบไปเลยค่ะ..
ยำรวมมิตร หน้า 7-11 พร้อมพรรณ ถุงละ 20 ใส่ชามโฟมก็ 20 (จะกำไรเท่าไหร่กันน๊อ...นิดนึงค่ะ)
ยำรวมมิตร หน้า 7-11 พร้อมพรรณ ถุงละ 20 ใส่ชามโฟมก็ 20 (จะกำไรเท่าไหร่กันน๊อ...นิดนึงค่ะ) / รสชาติก็สมราคา ใช้ได้ ไม่ใช่ ใช้พริก น้ำปลา น้ำมะนาว น้ำตาลทราย..ที่สำคัญน้ำร้อนลวกเครื่อง.. ว่าไปนั่น...อุดหนุนกันเด๊อค่ะ../ อีกเจ้า ไก่ทอด ชิ้นละ 13 บาท หรือ 15 จำไม่ได้ระ..ข้าวเหนียว 5 บาท
"จุฬาวิชาการ/อาจารย์ใหญ่" ภายใต้ผิวหนังกำพร้า ข้างในกำด้วยไขมันหนา...เชียว...
"จุฬาวิชาการ/อาจารย์ใหญ่" ภายใต้ผิวหนังกำพร้า ข้างในกำด้วยไขมันหนา...เชียว... ***** หนังกำพร้า หนังแท้ (หรือเรียกเนื้อ) ..ไขมันสีเหลืองอ่อน ๆ หนาสักประมาณ 1/2 นิ้ว (แบบไม่อ้วนนะ) อวัยวะภายใน สามารถถอดและประกอบกลับเข้าไปใหม่ได้.. เช่น หัวใจ (นสพ.ถาม. นีืคืออะไรคะ) ถูกต้องค่ะ หัวใจ.. มาปลงอสุภะักันเถิด..มนุษย์เอ๋ย.. ถ้าเป็นสมัยพุทธกาล พระพุทธเจ้าทรงให้พระภิกษุ (อุปัฌาย์โดยพระพระพุทธเจ้า.. พระที่ไม่ได้อุปสมบถโดยพระพุทธเจ้า จะเรียกว่าพระสงฆ์ ไม่เรียกภิกษุ และในสมัยพุทธกาลมีภิกษุณีเพียงรูปเดียว ..แต่จำไม่ได้แล้วว่าเป็นใคร) สมัยก่อนจะเผาศพ พระภิกษุ จะมาชุมนุมกันเพื่อปลงอสุภะ (ผิดพลาดประการใดขออภัยนะคะ.คงจะอ่านมานานแ้ล้ว) แต่ถ้าใครอยากดูหลากหลาย search ปลงอสุภะ ก็จะได้ชมกันมากมายเลยทีเดียว search engine Google ..การดูผ่าชันสูตรศพ ..อะงั้นยอมรับว่าจิตอ่อนค่ะ ไม่ขอดู.. อาจารย์หมอพรทิพย์ ท่านสุดยอดเลย..
วันอังคารที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555
"กะหล่ำปลีฉ่าน้ำปลา" เดาเอาเองว่าน่าจะทำอย่างนี้
"กะหล่ำปลีฉ่าน้ำปลา" เดาเอาเองว่าน่าจะทำอย่างนี้ (มีคนบอกว่า ต้องเป็นกะหล่ำปลีหัวใจ จะหวานกรอบ ไม่แข็ง) เอาเท่าที่เห็นบนโต๊ะละกัน... กะหล่ำปลีหั่นเป็นชิ้นใหญ่พอสวย ลวกน้ำเดือดให้นิ่มตามชอบ ตักขี้นสะเด็ดน้ำ ตั้งกระทะกะหล่ำลวกลง...สาดน้ำปลาขอบกระทะ (น้ำระเหยเหลือแต่ความเค็มและไอความหอมของน้ำปลา) ผัดให้กะหล่ำปลีรับกลิ่นน้ำปลา.. กินคำไหน หอมคำนั้น... มีน้ำซุปขลุกขลิก
บัตร 30 บาท (ไม่ได้รับเลย ไม่มีซอง) พรุ่งนี้ค่อยไปหาหมอ
บัตร 30 บาท (ไม่ได้รับเลย ไม่มีซอง) พรุ่งนี้ค่อยไปหาหมอ
French Fried ที่ถูกที่สุด..ในย่าย Area ราคาที่ดินแพงที่สุด... ศูนย์อาหารจุฬา (รพ.)
French Fried ที่ถูกที่สุด..ในย่าย Area ราคาที่ดินแพงที่สุด... ศูนย์อาหารจุฬา (รพ.) ชามละ 20 บาท (แต่ถ้ากิน ketchup หนัก ๆ คราวหน้าต้องพกไปเอง) ประมาณ 2 เท่าของเฟรนช์ฟราย ของร้านดัง (ดังทุกร้าน) (ใส่ชามโฟม เสียดายต้นทุน ..คราวหน้าถ้าตั้งใจไปกิน จะเอาชามไปเอง) / ช่ายก้วยชิ้นละ 10 บาท ก็แป้งกรอบ คนฟันดี ไม่มีปัญหาเรื่องเคี้ยว... (ทอดจนร้อนถึงข้างใน เข้าปากแล้วถึงรู้ โห KoTaRa ร้อนมาก ๆ )... แต่อย่าถาม "ทอดหรือยัง.ได้หรือยัง" น้องสาวหงิก "กำลังทอดอยู่้ค่ะ" น้องชายก็ "กำลังทำอยู่ครับ" แต่หน้าเหมือนใครบังคับมาให้ขายของ... (20 บาทจะเอาอะไรมากมาย..จะให้ยิ้มหวานขนาดไหนยะ?) ... / ถ้าไม่อยากนั่งร้อน คนเยอะ (กินแบบไม่เอาบรรยากาศร้านดังร้านอร่อย) มานั่งกินที่นี่ "ข้าวมันไก่ตอนประตูน้ำ" (ป้ายรถเมล์ก่อนถึงแยกประตูน้ำ) .. ราคาปกติ.. แวะไป
ดูโครงอาจารย์ใหญ่เสร็จแล้ว ชั้นล่างมีห้องกิจกรรม..ห้อง... นักเรียนชายชุดสีน้ำเงินให้ความสนใจทดสอบ..มาก ๆ
ดูโครงอาจารย์ใหญ่เสร็จแล้ว ชั้นล่างมีห้องกิจกรรม..ห้อง... นักเรียนชายชุดสีน้ำเงินให้ความสนใจทดสอบ..มาก ๆ คือบูธ มะเร็งเต้านม.. นสพ. (ไม่ใช่หนังสือพิมพ์) นิสิตแพทย์หญิง มีแบบยางเด้งดึ้ง ให้กด จับ พิสูจน์ว่า มีก้อนเนื้องอกในเต้านมเทียมกี่ก้อน.. บูธนี้น้อง ๆ แน่นเลย.. สงสัยทีมนี้อนาคต ถ้าไม่หมอมะเร็งเต้านม ก็จะต้องไปต่อหมอสูตินรีแพทย์ อย่างแน่นอน..
แรงบันดาลใจ ในการเลือกเรียนคณะฯ ในมหาวิทยาลัย.. ถ้าพ่อแม่พาลูกไปจุฬาวิการ ตั้งแต่ยังเด็ก
แรงบันดาลใจ ในการเลือกเรียนคณะฯ ในมหาวิทยาลัย.. ถ้าพ่อแม่พาลูกไปจุฬาวิการ ตั้งแต่ยังเด็ก . พาลูกหลานไป สักปีละคณะ 2 คณะ.. กว่าจะโตใกล้จบ ม.6 (อีก 20 ปีข้างหน้า..ไม่อาจมี ม.6 ก็ได้ ..เหมือนสมัยเรา ไม่มี ม.ศ.) .... เด็กม.6 หลายคน (รวมทั้งไอ้หลานรักของเรา) ยังไม่รู้เลยว่า จบ ม.6 แล้วจะเรียนอะไรต่อ.. แต่ละวิชาชีพ จะต้องเตรียมตัว เตรียมความรู้ขั้นต้นอะไรบ้าง ..ภาษาอังกฤษ ก็ไม่กระดิก.. ถ้าไปเจอ text ก็คงยิ่งกว่าไก่ตาแตก..ภาษาไทยบางทียังอ่านไม่รู้เรื่อง พูดสื่อสารไม่เข้าใจกันเลย..เนอะ..ลองดู
"จุฬาวิชาการ" ตึกแพทยพัฒน์ หรือชื่อทำนองนี้.. ไม่มีชื่อตึกนี้ในแผนที่ ประตู 7 อาสา
สรุปลงสวนลุมป้ายแรก ข้ามถนน เดินเข้าประตู 7 ประตูอาสา.. ตรงโลด.. ซ้าอยมือที่ ตึกแรก ตึก อปร. / ตึกพยาธิวิทยา (นี่ก็เป็นพื้นที่สีขาว ไม่มีชื่อตึกในแผนที่) / ตึกนิติเวช (ตึกนี้ลงทะเบียน ดู "ผ่าชันสูตรศพ") มีป้ายผ้าแขวนไว้หน้าตึก / ตึกแพทยพัฒน์ ...ดูโครงอาจารย์ที่เขาผ่าแล้ว เดินวนรอบตามลูกศร นิสิตหมอ อธิบายกายวิภาค หรือ Anatomy (น้อง ม.ต้น มากัน 2 คน คุยกัน..ข้างในนะ น่ากลัวกว่านี้อีก (มีกล่องแช่อวัยวะ) .. หันไปคุยกับน้อง "น้องมากัน 2 คนยังกอดกันได้...ป้ามาคนเดียวจะกอดกับใครเนี่ย" น้องยิ้ม ๆ "ป้ากอดพวกหนูก็ได้นะคะ" ... เตรียมเลย อุดหนุนเลย ผ้าปิดปากกับยาดมหลอดแดง 20 บาท.. )แก่แล้วมาคนเดียวต้องเตรียมตัวให้ดี.. น้อง ๆ ม.ปลายเก่งมาก... ผู้บรรยายถาม นี่คืออะไร ไบเส็บ (หดเข้าหากัน ทำให้งอข้อศอกได้) ไตรเส็บ ยืดออก ไบเส็บกับไตรเส็บ ทำงานตรงข้ามกัน (ค่ะเข้าใจแล้ว) เตียงต่อไป บรรยาย "คุณน้ามองเห็นมั๊ยคะ" / "ไม่เป็นไรค่ะ มองเห็น" (ดีกว่าเรียกป้าหน่อยนึง) ....อันว่า "หัวใจ" ไม่ได้อยู่ข้างซ้ายของทรวงอกนะคะ.. อยู่ตรงกลางทรวงอก.. แต่ห้องขวาอยู่ด้านหน้า ห้องซ้ายใหญ่กว่า จะเยื้องไปทางด้านซ้ายของทวงอกและอยู่หลังห้องขวา..ส่วนปอด.. มี 2 กีบ กับ 3 กีบ.. น้อง ๆ ตอบได้อีก.. ปอดขวามี 3 กีบ ปอดซ้าย มี 2 กีบ..เพราะจะต้องมีพื้นที่สำหรับวางใจ (ไม่เกี่ยวกับ..ไม่ไว้วางใจ..ในรัฐสภา อิอิ) ..."ม้าม" มี 4 หน้าที่.. ทำลายเม็ดเลือด สร้างน้ำเหลือง.. เก็บสะสมเลือดส่วนหนึ่ง ถ้าเลือดออกจากร่างกาย จะนำเลือดจากม้ามมาใช้ก่อน.. (ไม่รู้ว่าร่างกายมีเลือดสำรองนิดนึงไว้ด้วย) ... แต่ถ้าเกิดอุบัติเหตุ แล้วเป็นที่ม้าม ตัดทิ้งได้..เพราะ ถึงไม่มีม้าม ก็ไม่เป็นอันตรายต่อชีวิตถึงตาย.. (คุณป๊อปถึงตัดม้ามทิ้งได้ อวัยวะไม่ครบ 32 แล้ว)
"จุฬาวิชาการ" ตึกแพทยพัฒน์ หรือชื่อทำนองนี้.. ไม่มีชื่อตึกนี้ในแผนที่ ประตู 7 อาสา.. ก็นั่ง ปอ.504 ลงสวนลุม ป้ายแรก ข้ามถนน.. เข้าประตูนี้ เบิ่งที่แผนที่ (เอาลูกศร ทิศเหนือเป็นหลัก...ถนนอังรีดูนังต์ อยู่ทางซ้ายของแผนที่ ...ถนนราชดำริ อยู่ทางขวาของแผนที่..สลับกับที่ยืนอยู่จริง..เออ.ไม่เหมือนแผนที่ในห้าง Central World แฮะ... หรือบางทีบอก you are here) ... เลยนั่งรถเมล์ฟรี 15 ไปลงสยามกาแฟ เอ๊ย ไม่ใช่ สยามสแควร์ เห็นรถชัตเติลบัส เขายืนคอยกันแถวยาว..ว..ว.. พอดีเห็นน้องสาวใส่เสื้อจุฬาวิชาการ ถามน้อง.. "นั่งสาย 1 หรือสาย 4 แล้วเจ้าไปต่อสาย 3.. แต่ว่า น่าจะอยู่คณะแพทย์ฯ ไปทางถนนอังรีดูนังต์นะคะ" ยืนคิดสักครู่ ออกจากแถว คิดว่าน่าจะแถว ๆ คณะทันตแพทย์ศาสตร์ (มี Dent Cu วิชาการด้วย)... น่าจะมีทุกคณะ .../ เจอ Staff น้องชาย 2 คนบอก "น่าจะอยู่คณะแพทย์ฯ ใน รพ.จุฬานะครับ ฝั่งตรงข้าม เดินไปอีก กิโลหรือ 2 กิโล" ... (สมเดินซะให้หายโง่ไปเลย.. ก็แผนที่ไม่มีชื่อตึกนี่นา..ก็คิดว่า อาจจะอยู่ใน Zone จุฬาฯ ม. ก็เป็นได้) ทั้งที่เซนซ์แรกบอก ต้องอยู่ในคณะแพทยศาสตร์สิ .. เดิน ๆ หิว นั่งกินข้าวหน้า "ราชกรีฑาสโมสร" ค่าเข้า 100 หรือเท่าไหร่ เห็นประตู 3 ประตู 5 บอกตัวเลขราคาต่างกัน.. ไม่เคยดูแข่งม้า.. / ข้าวแกงเจ้านี้ใช้ได้ แกงเขียวหวาน รถไม่เค็มไม่หวาน ออกจืด เติมน้ำปลาพริกเอาเอง.. ราดเขียวหวาน (ไก่นิดเดียว) ไข่ดาว 1 ฟอง ทอดมัน 2 ชิ้น ป้าคิดเงิน 35 บาท
"ถั่วงอก ขวดน้ำสิงห์" ตำรับศูนย์งอกงาม จ.ลพบุรี (ไม่รู้จะออกมาเป็นไง)...
"ถั่วงอก ขวดน้ำสิงห์" ตำรับศูนย์งอกงาม จ.ลพบุรี (ไม่รู้จะออกมาเป็นไง).. ทำไว้ 3 ขวด ไปฝากท่านแม่ 1 ขวด (ให้รดน้ำผ่านตะแกรง) วันละ 3 เวลา (ทุก 8 ชั่วโมง) รดน้ำครั้งแรก ตี 5 ของ 14/11/55 , 2 คืน 3 วัน เก็บกินได้.. / รดน้ำเสร็จ คลุมด้วยผ้าดำ (ใช้ผ้าซับใน..ไม่ต้องซื้อ)...
"ขอเงินไปหาหมอ เมื่อคืนเดินเหยียบกระัป๋องสี ตกบันได 3 ขั้น .."
"ขอเงินไปหาหมอ เมื่อคืนเดินเหยียบกระัป๋องสี ตกบันได 3 ขั้น .." ก่อนถึงหน้าห้องชั้น 3 (ไฟทางเดินกะพริบ ไม่เปิด..ไฟทางเดินชั้น 4 มีโคมครอบ มืดมา 3 อาทิตย์แล้ว) / "อะไร 30 บาท ไม่มีเลยรึไง" / "ไม่มี" / "งั้นเอาไป 500 เลย"
"ม๊า ม๊า ปั๊มน้ำเครื่องหลังห้องโน่ ร้อนจี๋เลย" ปั๊มน้ำไม่ขึ้น (เหมือนคนท้องเสียอย่างแรง)
"ม๊า ม๊า ปั๊มน้ำเครื่องหลังห้องโน่ ร้อนจี๋เลย" ปั๊มน้ำไม่ขึ้น (เหมือนคนท้องเสียอย่างแรง) / จับดูด้านล่าง ร้อนมาก..กลัวจะช๊อต ไฟไหม้ / "งั้นเอาไป 500 ไปเรียกช่างไฟฟ้า ถามอาม่า ร้านหม่วยนี๊" (ร้านค้าหน้าคอนโดฯ) รู้จักมั๊ย" / "ไอวูดลี่ มันรู้ว่าปิดตรงไหน ปิดคัตเอ้าท์" / "ก๊อกน้ำห้องป้อมแตก" เมื่อคืนขึ้นมาปิดวาวล์ในห้องน้ำชั้นดาดฟ้า เกือบลื่นหัวทิ่ม เพราะตะไคร่จับเต็มพื้น เจ้าของพื้นที่เท่านั้นที่เดินแล้วไม่ลื่นหงายท้อง (ไม่ขัดเสียอย่าง) .. ตอนหลังเที่ยงคืน วู้ดดี้มาเปิด แล้วก็ขี้นมาปิดวาวล์..
ปอ.504 ข่าวดีสำหรับ นักเรียน-นิสิต-นักศึกษา 12 บาทตลอดสาย
ปอ.504 ข่าวดีสำหรับ นักเรียน-นิสิต-นักศึกษา 12 บาทตลอดสาย... แต่ข่าวร้ายยามเช้า.. คนขับผอมผิวสีเข้ม. พอถึงหน้า Big C กดแตรปิ๊น ๆ อีกแป๊ป ปิ๊น ๆ (ซ้ำ ซ้ำ) ไล่รถปอ.ที่จอดใต้สะพานลอย แล้วก็ติด ..แซง ขวาตลอด... ขาไปสีลม / ขากลับเจอของแข็ง พกส. ผู้หญิง อายุประมาณ 47 ผมยาวไม่ถึงกลางหลัง แวะลงขอรับ นสพ. M2F แล้วก็ขึ้นมา..ไอ้เรากำลังจะลงป้าย ปปส. คุณเธอก็ยืนที่ประตูก่อนเรา เราก็ขยับ .. ยืนเกาะเสาฝั่งซ้าย พกส.พูด "ระวังประตูหนีบ" (ไอ้เราก็บ่นพึมพำ เบาๆ..คุณเธอหูดีจริง ๆ) "แล้วทำไมมายืนขวางประตู" (ปกติจะเห็นแต่กระปี๋ ยืนใกล้ประตู พอผู้โดยสารจะลง.. จะหลบขึ้นบนรถข้างคนขับเป็นอย่างน้อย) แม่นางกล่าวสวนขึ้นมาทันที "ไม่ได้ยืนขวาง ก็จะลงเหมือนกันเจ๊" (อาจจะฟังไม่ได้ใช้อารมณ์..แต่ฟังไม่ได้ใช้มารยาท) ก็เลยพ่นเลย "แล้วกูจะรู้มั้ยเนี่ย ว่ามึงจะลง (ไปซื้อปาท่องโก๋ขึ้นรถแอร์).." (ผิดระเบียบกี่เด้งล่ะเนี่ย) พขร.ใส่หมวกไหมพรมเปิดหูสีดำ ทะเบียน 14-4077 06.30 ประมาณ / ปอ. 204 เที่ยวเที่ยงครึ่ง จาก Central World พูดเพราะมาก ๆ ๆ ..คุณตาจะลง มีกระเป๋านั๊กหนัก 2 ถุง พี่กระปี๋ ก็ช่วยยกมาส่งคุณลุงตอนลงจากรถ แถวห้วยขวาง ป้ายต้น ๆ..... พอเราจะลง รถเลี้ยว.."เดี๋ยวนะคะ เดี๋ยวนะคะ" ผู้โดยสารลงจากรถ "ขอบคุณค่ะ"
วันอาทิตย์ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555
Lhyn Pimpa Suphankomut ไม่ต้องห่วงซาโกว โซ๊ยโกวนะ..เขาสบายดี 2 พี่น้อง ลูกก็ดี หลานน่ารัก 2 คนก็ดี
Lhyn Pimpa Suphankomut ไม่ต้องห่วงซาโกว โซ๊ยโกวนะ..เขาสบายดี 2 พี่น้อง ลูกก็ดี หลานน่ารัก 2 คนก็ดี ..ถึงแม้ลูกของแหม่ีมจะซน ดื้อ ตามประสาเด็กไปบ้าง แต่ก็น่ารัก.. สามีก็ดี๊ดี ..ไม่ต้องพึ่งพามรดกของพ่อแม่ เป็นหัวหน้าครอบครัวที่ดี.. เสาร์อาทิตย์ก็ทำงาน.. ซื้อรถเก๋งเอง..โดยที่ซาโกวเขาไม่ต้องออกเงินซื้อให้เลย.. ตอนนี้ ซาโกว หัวเข่าไม่ดี เดินขึ้นบันไดไม่ได้.. ก็มีร่มต่างไม้เท้้า..โซ๊ยโกวแข็งแรงมาก ออกกำลัง ทุกวัน.. ดูแลทำกับข้าวกินกัน แล้วบางครั้งก็นั่งแท็กซีไปกินนอกบ้านบ้าง (หลิน พิมพา ก็เคยไปกับซาโกวโซ๊ยโกวทุกครั้งไม่ใช่เหรอ..รึไม่ใช่ เป็นแจ๋วเฝ้าบ้าน) หม่ายนอ... / ฉันก็ไม่ใช่พวกประจบ สอพอ ขอเงิน.. ไม่มีธุรไปหาพวกเขาหรอก.. ถ้าไม่ใช่อาอึ้มของเธอให้ฉันมาช่วยขายของ เป็นไม้กันหมา..ไม่ให้โซ๊ยโกวมาด่า..ฉันเลยต้องเป็นลูกอกตัญญู ต้องมีหน้าที่ไปถามโซ๊ยโกว เพื่อหาความจริง (ซึ่งความจริง หลินก็รู้ดี ทุกคนก็รู้ดี แต่ฉันถามชาวบ้าน รู้จักหลิน พิมพา สุพรรณโกมุท มั้ย..ชาวบ้านบอก ไม่มีใครรู้จักเธอเลย..จะไปรู้จักได้ไง.. เวลาเดินออกจากบ้านซาโกวไปเรียน ..ไม่ชอบใคร ไม่คุยด้วย แม้แต่แม่ค้า..ยังไม่มองหน้าเขาเลย.. ออกไปเรียนแต่เช้า กลับหลังพระอาทิตย์ตกดินไปหลายชั่วโมง..ชาวบ้านที่ไหนเขาจะมารอรู้จักเจ้าหญิงหลินอย่างเธอ) แต่แปลกเนอะ..อะไรที่เป็นทรัพย์สิน มรดก เงินทอง มีเงินกินใช้เดือนละสามหมื่น หรือหลานนอกไส้มีเงินกินเงินใช้เดือนละ 6,000 มีเงินได้ไปเรียนจนจนปริญญาโท นิด้า บริหารธุรกิจ.. ทำไมมีแต่พวกเธอ.. แต่ไอ้เรื่องจะเป็นจะตาย..ไอ้เรื่องต้องมีคนไปทำงานเป็นขี้ข้าให้..แลกกับเงินวันละ 233.33 บาท.. ทำไมอาอึ้มของเธอถึงทำให้ "นังปู สุวรรณา สุพรรณโกมุท" มีตัวตน...ในความคิดของเขา..คือนังปูเพียงคนเดียว.. ทำไมเขาไม่ให้ ลูกป๊อป ลูกป้อม หลานหลิน ..มาช่วยขายของแลกกับเงินวันละ 233.33 บาทล่ะ ..ชาวโลกเน็ตว่าแปลกมั๊ย
Lyhn Pimpa Suphankomut ถ้าไม่มีเงินกินข้าว ..ไม่ว่าซาโกว โซ๊ยโกว จะอยู่หรือไม่อยู่แล้วก็ตาม ..สั่ง.. "แหม่ม" ...
Lyhn Pimpa Suphankomut ถ้าไม่มีเงินกินข้าว ..ไม่ว่าซาโกว โซ๊ยโกว จะอยู่หรือไม่อยู่แล้วก็ตาม ..สั่ง.. "แหม่ม" ...ว่า ถ้า Lyhn Pimpa Suphankomut หลิน กลับมาขอเงิน..ให้แหม่มแบ่งเงินให้หลินไปกินข้าว มีชีวิตให้สบาย อย่าให้หลินอดอยาก.. ..และตอนนี้ซาโกว โซ๊ยโกวเขายังอยู่.. ถ้าเธอไม่มีกิน..ซาโกวบอก..ก็กลับมาขอเงินไปกิน..ได้ ซาโกวให้..ยังไงก็เป็นแท้ ๆ หลานในไส้.. ยินดีดีใจด้วยที่เธอจบปริญญาโท.. และมีชีวิตอย่างมีความสุข (ส่วนอาอึ้มของเธอบอกฉัน ลูกแท้ ๆ คนเดียว ที่ช่วยพ่อแม่ทำมาหากินไม่รู้กี่ปี.."ไม่ต้องแดก ไม่ต้องแดก แม้แต่บาทของท่านเตี่ย 2,000 ก็ไม่ให้) ...เธอคิดดูเอาเองแล้วกัน.. กรณีนี้ "ขี้(เน่า) ดีกว่า ไส้(เน่า)" ใช่มั๊ยคะ?
Lhyn Pimpa Suphankomut นอกขี้เม้ม แบงค์พันสองพันออกจากทีละปึ๊งแล้ว ยัง.ขี้ประหยัดอีกด้วย ..ว่าแต่
Lhyn Pimpa Suphankomut นอกขี้เม้ม แบงค์พันสองพันออกจากทีละปึ๊งแล้ว (อันนี้ฉันก็ไม่รู้นะ ซาโกวโซ๊ยโกวเขาเล่าให้ฟัง ปึ๊งละแสน วาง ๆ ไว้สะเปะสะปะในบ้าน.. หลายปึ๊ง พอไปแบงค์ นับ..จนท์แบงค์บอกไม่ครบ) ยัง.ขี้ประหยัดอีกด้วย ..ว่าแต่..น้องของเธออีก 2 คนที่อยู่เมืองจีน (จะคนละพ่อหรือพ่อเดียวกัน ฉันก็ไม่ได้ถาม) ...เธอบอกน้องว่า Lyhn อยู่สบายที่เมืองไทย กินดี อยู่ดี เรียนดี ไม่ต้องไปออกไปทำงานหาเงินไปเรียนไป หรือทำงานเป็นทาส ซินเดอริลลา.. น้องเธอที่อยู่เมืองจีน เธอเคยส่งเงินให้แม่ ให้น้องใช้บ้างหรือเปล่า?..
เป็นเรื่องธรรมดา และสมควร ที่โซ๊่ยโกวเขาต้องมาด่าอาอึ้มของเธอ .เพราะ..
เป็นเรื่องธรรมดา และสมควร ที่โซ๊่ยโกวเขาต้องมาด่าอาอึ้มของเธอ .เพราะ..(ด่าว่าอะไรบ้าง.. หลานหลินไปถามอาอึ้ม..เอาเองนะ) .. เธอทำให้ซาโกวเขาเสียใจ อาอึ้มเธอไปพูดดูถูกซาโกว หวังดีแต่ประสงค์ร้าย "เป็นไง ตอนนี้หลินไม่อยู่ด้วยแล้ว..ซาโกวคงต้องจ้างลูกจ้างมาทำงานบ้านให้แล้วสินะ" ..ฉันไปเห็น..แ้ล้วก็งั้น ๆ พื้นที่ในบ้านชั้นล่าง อยู่กัน 2 คนพี่น้อง.. กวาดถูก็แป๊ปเดียว ไม่ได้ยากเย็นหนื่อยอะไร.. ครัวก็ทำความสะอาดไม่ได้ยากเย็น.. มีเธออยู่ด้วย..โซ่ยโกวอาจจะต้องล้างชามที่เธอกินแล้วไปเรียน สถาบันฯ เจ้าคุณทหารลาดกระบัง.. อ้อ.. Food Science นี่ก็ไม่ได้สอบเข้าได้ตามปกติ..ต้องเรียนแบบพิเศษ สมทบ คือต้องเสียเงินเพิ่ม เทอมละ 25,000 (ตอนแรกสอบเข้าพวกสัตวบาล ทำคลอดวัวควายได้.. ถามจริง โง่หรือบ้า. ตอนเลือกสอบเข้า..ไม่ศึกษาว่าจะเรียนอะไร โตเป็นวัวเป็นควายหมาเลียตูดไม่ถึง..คิดเองไม่เป็น ไม่รู้เรื่องเลยเหรอ (ถ้าเป็นฉัน นัีงปู โง่ ๆ เซ่อ ๆ ก็ว่าไปอย่าง โง่จริง) ... ว่าชีวิต เรียนอะไรเธอถึงถนัด เรียนอะไรแล้วจะไปทำมาหากินได้ร่ำรวย..ใช้ความรู้.. (แต่พูดกับพี่ป๊อป เรียนมาก็เท่านั้น พวกตรีโกณมิติ science cos tan ไม่ใช้งานอะไรในชีวิตประจำวันเลย)... หึหึ..
"คนที่ไม่ใช่พ่อแม่ แต่้เลี้ยงดูให้ข้าวให้น้ำ ส่งให้เรียนหนังสือจนจบการศึกษาขั้นสูงสุด" ถือว่ามีบุญคุณ....
"คนที่ไม่ใช่พ่อแม่ แต่้เลี้ยงดูให้ข้าวให้น้ำ ส่งให้เรียนหนังสือจนจบการศึกษาขั้นสูงสุด" ถือว่ามีบุญคุณ....มาก..มากยิ่งกว่าคนที่เป็นพ่อแม่ผู้ให้กำเนิด หลายร้อยหลายพันเท่า.. นี่คงไม่ใช่สุภาษิตจีน หรือของประเทศใดในโลก.. แต่คงจะเป็นสามัญสำนึกของมนุษย์ทุกคนบนโลกนี้ทั้งที่มีพ่อแม่ที่มีชีวิตแต่ไม่เลี้ยงลูก หรือลูกที่พ่อแม่เสียชีวิตไปแล้ว../ ฉันเคยเห็น พี่น้องผู้หญิงฝาแฝด 2 คน คนพี่แต่งงานมีลูกแล้ว แต่คนน้องเป็นซินแส ศิษย์เอกอาจารย์ฮวงจุ้ย.. เขาไม่นับถือพ่อแม่แท้ ๆ ของตัวเอง(สักเท่าไหร่..อาจจะต้องนับถือหรือเรียกโดยหน้าที่ของลูก) ..เขาบอก "อาโกว เลี้ยงพวกเขา 2 คนพี่น้องมา อาม่าด้วย เพราะฉะนั้น..อาโกวคือแม่ของเขาเท่านั้น" .. หรือกรณีของ หลานหลิน พิมพา สุพรรณโกมุท.. แม่อยู่เมืองจีนก็โจ๊นจน..ไม่มีปัญญาเลี้ยง..ส่งมาเมืองไทย.. ก็ส่งญาติให้มาดูที่บ้านซาโกว มาดูว่าซาโกวเขาเลี้ยงเธอยังไง เธอคงไม่รู้หรอกว่า..สมัยนั้น เข้าเมืองผิดกฎหมาย.. ทำเอกสารปลอม (เป็นลูกของโซ่ยเจ็ก กับโซ่ยสิ้ม คลอดโดยหมอตำแยที่บ้านนอก) ขอโทษนะ โซ่ยเจ็กมีลูก 3 คน เธอเกิดปีไล่เลี่ยกับลูกสาวคนสุดท้อง (ลูก 3 คนนี้ คลอดที่ รพ.กรุงเทพคริสเตียนทุกคน ถ่ายรูปแรกเกิดน่ารักทุกคน) ..แล้วโซ่ยสิ้มเขาจะเอา..แล้วไปคลอดเธอกับหมอตำแยที่บ้านนอกได้อย่างไรกัน... เธอจำได้ไหม.. จบปริญญาโท นิด้า บริหารธุรกิจ ความรู้และความจำจะต้องดีมาก ๆ แน่นอน... มันเสี่ยงมาก ถ้า ตม. เขามาเอาเรื่องซาโกว..ก็จบกันเลย..จริงมั๊ย...
Pimpa Suphankomut นี่ถ้าอาอึ้มเธอไม่บอกว่า "มัน(โซ๊ยโกว)เขาเดินมาด่า" ล่ะก็ ฉันก็ไม่ไปหาโซ๊ยโกวเขาหรอกนะ..เลยได้ข้อมูลมาอีกเพียบเลย
Pimpa Suphankomut นี่ถ้าอาอึ้มเธอไม่บอกว่า "มัน(โซ๊ยโกว)เขาเดินมาด่า" ล่ะก็ ฉันก็ไม่ไปหาโซ๊ยโกวเขาหรอกนะ..เลยได้ข้อมูลมาอีกเพียบเลย / เอาตั้งแต่ ซาโกวเขาออกเงินให้เธอไปทำฟันปลอม 1 ซี่แบบติดแน่นถาวร (ซึ่งจะต้องทำอีก 2 ซี่ด้านข้างด้วย) หมดเงินไปประมาณเกือบ 30,000 บาท (บาทนะบาทไม่ใช่กีบ) ค่าผ่าฟันคุดอีก 2,000 (นี่ยังจะแถม promotion ให้หลานหลิน พิมพา สุพรรณโกมุท ไปดัดฟันอีก อยากให้สวย จะได้หาผัวดีดี ได้) .. / เธอออกมาบอกเหตุการณ์หน่อยสิ.. ที่ฉันฟังมา "ฉันตบหน้าเขาจริง 1 ที ไม่ได้ตบเสียจนเลือดกลบปาก หรือหน้าคว่ำ หน้าเขียว .. เพราะว่าฉันขอให้หลินช่วยจัดกับข้าวของไหว้หน่อย ไม่งั้นไม่ส่งเรียนโทนะ.." (เพราะหลินไม่เคยช่วยจัดทำของของไหว้อากงอาม่าเลยแม้แต่ครั้งเดียว อ้างว่า..เรียน..ทุกครั้ง" แต่หลินเถียงทันควันตวาดกลับ "ไม่ส่งก็อย่าส่ง ส่งตัวเองเรียนก็ได้" แล้วก็เปิดออกไป.. / วันรุ่นขึ้น ซาโกว โซ๊ยโกว ไปวิ่งที่สวนลุม กลับมาหลานหลิน ก็หนีหายไปแล้ว.. น่าจะ copy รูปภาพใน computer หรือเอาอะไรไปบ้างก็ไม่รู้.. ซาโกวร้องไห้ เป็นปีสองปีเลย.. โซ๊ยโกวต้องคอยปลอบให้ทำใจ.. ซาโกวต้องไปหาหมอ จิตแพทย์..เอายามากิน..
สถิติการเข้าชม fannyknit ชีวิตบัดซบ
2 วินาทีที่แล้ว
youtube.com ปากหม้อ / 46 views*
*
10 พย.55 ..มีคนเห็นนังปูเิิดินไปร้องไห้ไป..เหมือนคนบ้า เสียสติ / 45 views*
*
วรรณา เมียคนสุดท้ายที่ป๊า กวง รักมาก..ก.. บอกว่า / 45 views* *
*
"ฟ้ามีตา เวรกรรมมีจริง" คุณนายวิภา จงมีความสุข กล่.../ 46 views*
*
Pimpa Suphankomut จะเป็นตายร้ายดีอย่างไรนะ จะถูกฆ่า.../ 48 views*
*
พินัยกรรม ธรรมพล สุพรรณโกมุท ยกที่ดินทั้งหมดให้ลูก... / 50 views*
*
ประสบความสำเร็จอย่างสวยสดงดงาม..นอกนั้นก็ประมาณ 2-5 views. ซะเป็นส่วนใหญ่
.. ไม่มีจะกิน แต่มีคนอ่านที่เราเขียน..ก็เพียงพอแล้ว.. เศรษฐกิจ(ไม่)พอเพียง
11 พย.55 นังปูหมาขี้เรื้้อน หิ้วโจ๊กไปฝากท่านแม่ ขอยืมเงินไปเรียนทำกระเป๋าคุณนายที่สวนลุม.."ไม่ต้องเรียน"....
11 พย.5511 พย.55 นังปูหมาขี้เรื้้อน หิ้วโจ๊กไปฝากท่านแม่ ขอยืมเงินไปเรียนทำกระเป๋าคุณนายที่สวนลุม.."ไม่ต้องเรียน".... / เอาใบปลิวของศูนย์ฝึกอาชีพสวนลุม ไปเป็นหลักฐาน "มาขอยืมเงิน จะไปเรียนถักกระเป๋าที่สวนลุม" สวนทันที "ไม่ต้องเรียน กูจะให้มึงมาช่วยขายของ เมื่อวานมันมาด่ากูอีกแล้ว.. มึงต้องมาช่วยขายของ ให้เพิ่มจากท่านเป็นเป็นวันละ 300" นังปู "ไม่ให้ก็ไม่เอา" หันหลังให้เดินออกเลย.. ท่านแม่ตะโกนออกมาเลย.. "อย่าเพิ่งไป มาฟังให้จบก่อน อย่าเพิ่งไป มาฟังให้จบก่อน" อ๊ะฟังก็ได้ จะมีอะไรแหกตากูอีก "ให้มึงมาขายของ เพิ่มจากท่านเตี่ยเป็นวันละ 300 เป็นเดือนละ 9,000 (พูดอย่างใจเย็นที่สุดแล้ว) ขายได้มีกำไรก็เอาไปฝากธนาคาร" ฮ๊ะ เดือนละ 9,000 ... (เดือนละ 9,000 หักของท่านเตี่ย 2,000 เท่ากับว่า 1.ที่บอกให้เดือนละ 4,000 หลังจากไปทำงานรับจ้างเสี่ยงตาย..ท่านแม่บอกจะให้เดือนละ 4,000 คือไม่ต้องทำงาน แบ่งจากค่าเช่าให้หรือขายเหล้าขายบุหรี่ 75 เลี้ยง 45 ก็คือ..ไม่ให้แล้ว 9,000-2,000 เหลือเป็นค่าแรง (ที่ต้องทำงานหาเงินเอง) 7,000 เฉลี่ยวันละ 233.33 บาท (วันนั้นบอก ให้วันละ 300 วันที่บุกมาตี 4 บอกให้วันละ 500 บาทเลย) ... / ท่านแม่บอกว่า "ถ้ามึงไม่มาทำ ..แม้แต่บาทเดียวกูก็ไม่ให้" / "ฮ๊ะ๊ ของป๊า 2,000 ก็ไม่ให้งั้นเรอะ" / "ไม่ให้ ของเตี่ยมึงกูก็ไม่ให้แม้แต่บาทเดียว มึงเอาเงินกูไป แล้วไปนั่งด่าแม่มึงในเน็ต ...... (ไม่ฟังให้ประสาทแดกหรอก"" งั้นจบ เดินออกเลย.. มาฟังให้จบก่อน .. เดินออกมาสิ้มกับเจ็ก (ร้านเจ็กเม้ง) ออกมาดู.. เราก็เดินไป ตะโกนพูดไป.. หน้าด้าน เงิน 2,000 ของพ่อที่ให้กู..มันยังคิดจะโกงกูเลย.. สับปรับ กลับคำพูด 4,000 ก็ไม่ให้กูฟรี ๆ ต้องมาทำงานหาเงินกินข้าวเอง.. กูอยู่เฉย ๆ ตายไปยังดีกว่ามั๊ง... เดี๋ยวก็มีหมาคาบไปรายงานแม่มัน.. แต่ตัวมันมุดอยู่ในรู... แดกเดือนละ 30,000 กว่าบาท.. จากค่าเช่า รถกระบะก็มีขับ ไม่ต้องซื้อ ที่ดินก็มีชื่อเป็นเจ้าของโฉนด 515 ตารางวา.. มันกินอะไร วาสนาถึงได้ดีขนาดนี้ ..นังปู ลูกสาวคนเดียวทำงานตั้งแต่เด็ก ๆ หาเลี้ยงพี่น้องอีก 2 คน.. อ้อไม่สิ ตอนนี้เป็น 3 คน หลานนอกไส้ ไม่ต้องทำอะไรเลย เดือนละ 6,000 สบาย ๆ ไปเรียนปริญญาโท 3 ปี ตก 6,000x12=72,000 3ปีก็ 216,000 ค่าเรียนปริญญาโทนิด้าอีก ร่วม 200,000 กว่าบาท ตีซะ 3 แสน ถ้าจะต้องจ่ายค่าเช่าห้อง ค่าน้ำ ค่าไฟ... รวม ๆ ก็ 416,000 บาท.. แ่ต่ฉันนังปู สุวรรณา สุพรรณโกมุท ได้ค่าเซ็น มันเรียกให้ไปเซ็น ก็เซ็นแบบโง่ ๆ เซ่อ ๆ เพื่อแลกกับเงิน 7,000 ที่ถูกกั๊กไว้ 3 เดือน ..รอจนกระทั่งถึงวันนี้ วันที่ ป๊อป สุชาติ สุพรรณโกมุทท ใส่เสื้อสีชมพู ช็อคกิ้งพิงค์ (ไว้ทุกข์ยังไม่ถึง 100 วันเลย) ยิ้มรับมรดกที่ดิน หลายแปลง รวม 515 ตารางวา เหมาตีราคารวม ๆ วาละ 10,000 ก็ร่วม 5,150,000 (ไม่รวมราคาสิ่งปลูกสร้าง) ... เวรกรรมของนังปู เห็นทีจะต้องผูกคอตาย หรือไม่ก็กระโดดตึกตาย.. เพราะวาสนาไม่ถึงเกณฑ์... ทำงานให้พ่อแม่เลี้ยงส่งเสียพี่น้อง..กูทำแทบตาย..สุดท้ายต้องมาตายอย่างหมาข้างถนน...
วันเสาร์ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555
Pimpa Suphankomut จะเป็นตายร้ายดีอย่างไรนะ จะถูกฆ่าข่มขืนหรือไม่ ที่ต้องไปเช่าห้องอยู่คนเีดียว
Pimpa Suphankomut จะเป็นตายร้ายดีอย่างไรนะ จะถูกฆ่าข่มขืนหรือไม่ ที่ต้องไปเช่าห้องอยู่คนเีดียว.. ฉันคิดเล่น ๆ ว่า.. อืม..หนีออกจากบ้านซาโกว ที่เขาเลี้ยงดูตั้งแต่ 7 ขวบ ถึงจบปริญญาตรี จนตอนนี้อายุ 30 กว่าแล้ว.. นี่อาจเป็นโชคดี ย้ำ โชคดี ของซาโกวกับโซ๊ยโกว ที่เขาไม่ต้องมีภาระ เป็นห่วง กลุ้มใจว่า ต่อไปแก่ตัวอยู่คนเดียว จะทำอย่างไร อยู่กับใคร เจ็บป่วยใครจะพาส่งโรงพยาบาล มีกินมีใช้พอหรือไม่.. ที่แน่ ๆ ..ไม่ต้องให้เงินไปลงทุนทำมาหากินหรือลงทุนค้าขายอะไร.. / ไม่ต้องเลี้ยงข้าวเลี้ยงน้ำ / ไม่ต้องซื้อรถยนต์ให้ขับ / ไม่ต้องซื้อบ้านใหม่ ๆ ดี ๆ ให้อยู่ไปจนแก่ตาย / ฉันยินดีที่จะไม่ได้รับมรดกชิ้นใด ๆ ของแม่แท้ ๆ ที่ฉันช่วยเขาทำมาหากินเลี้ยงลูกชายเขาอีก 2 คน.. แม้แต่ที่ิดินไ่ร่อ้อย 10 กว่าไร ที่แม่บอกจะใส่ชื่อฉัน และจะเป็นมรดกให้ฉัน นังปู สุวรรณา สุพรรณโกมุท หลังจากที่แม่ตายไปแล้ว... 3 แสนกว่าบาท / ส่วนตึกแถวบางพลี ตึกแถวซอยบุญอยู่ ตึกแถวพนมสารคาม คอนโดฯ 2 ห้องที่วัดคู้บอน / สุชาติ กับสุเทพ ก็แบ่งกันให้ลงตัว อ้อ..อย่าลืมยกตึกใด ตึกหนึ่ง ให้หลานหลิน Pimpa Suphankomut ด้วย เพราะหลาน(นอกไส้) คนนี้น่าสงสารมาก..ถูกอา 2 คน ตบจนหน้าคว่ำหน้าเขียวด้วยรองเท้า.. แม่ว่า "ไม่รู้ 2 อานั่น มันจงเกลียดจงชังหลาน(ในไส้)อะไรคนนี้นัก" ..นั่นสิ..ฉันเองก็สงสัย.. แต่ที่แน่ ๆ น้องหนู Lyhn Pimpa Suphankomut เท่านั้นที่รู้ดี.. ถ้าเขาร้ายกับเธอ..เธอจะอ้วนเหมือนหมูตอนเรียนสถาบันฯ พระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ไ้ด้อย่างไร..นั่นแสดงว่า.. กินดี อยู่้ดี มีีความสุข กลับบ้านทุกเที่ยงคืน..เธอเคยเห็นพระอาทิตย์ตกลง หลังจากเธอกลับถึงบ้านแล้ว..สักครั้งหรือไม่นะ..
"ฟ้ามีตา เวรกรรมมีจริง" คุณนายวิภา จงมีความสุข กล่าวไว้..สักวัน...
"ฟ้ามีตา เวรกรรมมีจริง" คุณนายวิภา จงมีความสุข กล่าวไว้..สักวัน...ถ้านังปู สุวรรณา สุพรรณโกมุท ยังไม่ตาย..คงได้เห็น..คนชั่วไ้ด้รับกรรม (ลูกสาวคนเีีดียวที่่ช่วยพ่อแม่ทำมาหากิน เลี้ยงลูกชายของเขาอีก 2 คน.. ทำแทบตาย..สุดท้าย..แม่ส่งเสีย เลี้ยงดู ส่งให้หลานหลิน (หลานนอกไส้้ หลานของอดีตสามี) เรียนจนจบปริญญาโท นิด้า บริหารธุรกิจ.. ส่วนลูกสาวคนเดียว..ปล่อยให้มัน "ไม่ต้องแดก" อดตายเหมือนหมาข้างถนน หรือก็ต้องไปรับจ้าง วันละ 200 เพื่อหาเงินกินข้าวเอง.. อาศัยอยู่ดาดฟ้า เป็นถือว่าเป็นบุญหัวแล้ว...
วรรณา เมียคนสุดท้ายที่ป๊า กวง รักมาก..ก.. บอกว่า
วรรณา เมียคนสุดท้ายที่ป๊า กวง รักมาก..ก.. บอกว่า ..เห็นพ่อเธอ เขาเก็บค่าเช่าห้อง ทั้งเกือบ 30 ห้องในซอยมิตรไมตรี รวมกับค่าเช่าหน้าบ้าน ที่ปากซอยบึงนายพล ก็ร่วม 30,000 กว่าบาท...นะ ทำไมเธอถึงโง่ ไม่รู้เรื่องเลย...
10 พย.55 ..มีคนเห็นนังปูเิิดินไปร้องไห้ไป..เหมือนคนบ้า ๆ บอ ๆ
10 พย.55 ..มีคนเห็นนังปูเิิดินไปร้องไห้ไป..เหมือนคนบ้า ๆ บอ ๆ..เหมือนคนเสียสติ..+ ร่างบันทึก
วันศุกร์ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555
youtube.com ปากหม้อ
http://www.facebook.com/notes/suwanna-suphankomut-ceofancrab/%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%9A%E0%B8%9B%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%9E%E0%B8%99%E0%B8%A1/387155841365142
**
บันทึกของฉัน
ข้าวเกรียบปาหม้อนครพนม
2 วินาทีที่แล้ว
ข้าวเกรียบปาหม้อนครพนม
*
http://www.youtube.com/watch?v=o_wYRZFr0Zc&feature=related
*
ดูบันทึกแบบเต็ม · ถูกใจ ·
เทคนิคการทำไส้สาคูไส้หมู
2 นาทีที่แล้ว
เทคนิคการทำไส้สาคูไส้หมู
*
http://www.youtube.com/watch?v=INQR66Kn1ng&feature=related
*
ดูบันทึกแบบเต็ม · ถูกใจ ·
ถั่วแปบปากหม้อโบราณ(Tua-Pab-Pak-Moh) Thai Dessert
4 นาทีที่แล้ว
ถั่วแปบปากหม้อโบราณ(Tua-Pab-Pak-Moh) Thai Dessert
*
http://www.youtube.com/watch?v=vVC8NcNSQA4&feature=related
ดูบันทึกแบบเต็ม · ถูกใจ ·
ปากหม้อทรงเครื่อง
8 นาทีที่แล้ว
12 ข้าวเกรียบปากหม้อทรงเครื่อง.mpg
*
http://www.youtube.com/watch?v=U1AIMSoLrOM&feature=related
*
ดูบันทึกแบบเต็ม · ถูกใจ ·
ก๋วยเตี๋ยวปากหม้อ ณ สามเสนซอยหนึ่ง ปากหม้อแปดริ้ว
10 นาทีที่แล้ว
ก๋วยเตี๋ยวปากหม้อ ณ สามเสนซอยหนึ่ง
*
http://www.youtube.com/watch?v=_2jmmS8fnLI&feature=related
ดูบันทึกแบบเต็ม · ถูกใจ ·
ช่ายก้วย ไส้ กุยช่าย
10 นาทีที่แล้ว
http://www.youtube.com/watch?v=SD3x9HyF0cc&feature=related
*
ดูบันทึกแบบเต็ม · ถูกใจ ·
ขนมชั้น youtube.com
19 นาทีที่แล้ว
http://www.youtube.com/watch?v=HwfTbGlObh8&feature=related
*
แป้งมัน 2 ถ้วย+2 ชต. / แป้งข้าวโพด 1/2 ถ้วย+1 ชต. / แป้งข้าวเจ้า 1/2 ถ้วย+1 ชต. / แป้งท้าว 1/4 ถ้วย+2 ชต. / น้ำลอยดอกมะลิ 1 ถ้วย+ 3 ชต. / น้ำตาลทรายขาว 3 1/2 ถ้วย (ถ้าชอบหวาน 4 ถ้วย) / หัวกะทิ 3 ถ้วยจากมะพร้าว 1 กก.
*
http://www.youtube.com/watch?v=HwfTbGlObh8&feature=related
พวกมึงด่า แทงข้างหลังกู พวกมึงก็ทำไป.. กูก็ลงเรื่อง..ไปตามเรื่องตามราวของกู อดตายก็ต้องทำ..
http://th.soidb.com/bangkok/immigration/immigration-bureau.html***
มีน้องสาว เมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว.. พ่อฆ่าตัวตาย เมืองจีนยากจน แม่ไม่สามารถเลี้ยงได้ แต่งงานใหม่ .. มีคนแก่ใจดี ช่วยพามาเมืองไทย พิมพา สุพรรณโกมุท (หลิน) ..ไม่มีใครเลี้ยง.. สุดท้ายอาผู้หญิง 2 คน (มีฐานะ) รับเลี้ยง ส่งเสียเลี้ยงดูตั้งแต่ 7 ขวบ (ถึงเมืองไทยยังหลับอยู่เลย) จนจนปริญญาตรี สถาบันฯ เจ้าคุณทหารลาดกระบัง.. ถือว่าเข้าเมืองผิดกฎหมายหรือไม่.. คดีหมดอายุความหรือยังคะ? ตอนนี้หนีออกจากบ้านอา 2 คน มาให้ป้าสะใภ้ส่งจนเรียนจบปริญญาโท. นิด้า บริหารธุรกิจ ..ไม่รู้ทำอะไร อยู่ที่ไหน.. ทำให้อาใหญ่ร้องไห้เสียใจ .. คนอื่นเข้าใจว่า อา 2 คน เลี้ยงหลานในไส้แท้ ๆ อย่างทาส "ทำไมจงเกลียดจงชังหลานคนนี้นัก" เราเคยเห็น อาไปกินร้านอาหาร "บัว" ที่สีลม ก็พาเขาไป ..ตัดชุดรับปริญญาใหม่เอี่ยม ก็ให้ตัด.. ดูจากภาพเก่า ๆ หน้าตาไม่ได้ดูมีความทุกข์อะไรเลย...
*
สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง สีลม บางรัก .. หลิน พิมพา สุพรรณโกมุท เข้าเมืองผิดกฎหมาย บัตรประชาชนปลอม ซาโกวรับรองให้..เธอจำได้หรือเปล่า
http://th.soidb.com/bangkok/immigration/immigration-bureau.html
*
ไม่รู้ยังอยู่ที่เดิม ข้าง สน.ทุ่มงมหาเมฆ ถัดไป "วิทยาลัยอาชีวศึกษาเอี่ยมละออ" ศิษย์เก่า บัญชี รุ่น 2 ครับผม
*
ปิดบัง ยักย้าย มรดก..ขัดขวางไม่ให้ได้รับ...
มรดก/การเสียสิทธิรับมรดก - Wikibooksth.wikibooks.org/.../การเสียสิทธิรับมรด... - Cached - Translate this page
You +1'd this publicly. Undo
สิทธิรับมรดกก็เหมือนสิทธิอื่น ๆ ที่มีเกิดและมีดับ ตามกฎหมายแล้ว ... ไม่เอามรดกภายในอายุ ความ สำหรับกรณีที่สี่นี้เกี่ยวด้วยอายุความ จึงยกไปกล่าวในเรื่องอายุความ ... 1 ถ้าเขายักย้าย หรือปิดบังเท่ากับหรือมากกว่าส่วนที่เขามีสิทธิได้รับ ... ถ้าบุคคลนั้นมีอายุยังไม่ครบสิบหกปี บริบูรณ์ หรือเป็นคนวิกลจริตไม่สามารถรู้ผิดชอบ ..... ม. 1619 ห้ามแต่ช่วงที่เจ้ามรดกยังมีชีวิต อยู่ ...
***
http://th.wikibooks.org/wiki/%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%94%E0%B8%81/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B8%B4%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%94%E0%B8%81
พระอาจารย์ชาญชัยก็พูดดี Amarin printing เชิญมา...
พระอาจารย์ชาญชัยก็พูดดี Amarin printing เชิญมา... ว่ากันด้วยเรื่อง อนุ.. แล้ว มรรค หนทางสู่นิพพาน.. คนเรายังไม่..ลิพ.. ประเภท ยังดูหมอ ขอพร บนบานศาลกล่าว.. แย้งในใจนิดนึง.. ที่เจ็บป่วย เป็นเพราะผิดศีลข้อ 1 (คงหมายถึงชาติก่อนทำให้เขา ชาตินี้ต้องชดใช้..คืนให้เขาไป) ตั้งแต่ศีลข้อ 1 - ข้อ 5 จบ... เจ้าหน้าที่โชว์แผ่นปิด"ฟรี" ฉายหลัง "แหย่หนวดเสื้อ" สมบัติ อรัญญา.. ดูไม่ได้ค่ะ ต้องรีบออกจากสีลม ก่อนบ่าย 3 ไม่งั้นติดเป็นตังเม..
"ยกวัดมาไว้ที่ 7-11" เจอเจ้ แรกๆก็ต่างคนต่างมอง จำเป่าหว่า.. จนเจ้เดินมาถาม ใช่ปูหรือเปล่า
"ยกวัดมาไว้ที่ 7-11" เจอเจ้ แรกๆก็ต่างคนต่างมอง จำเป่าหว่า.. จนเจ้เดินมาถาม ใช่ปูหรือเปล่า / ปูก็สงสัยว่าใช่เจ้หรือเปล่า (ไม่เห็นหน้านาน..นาน มาก) แต่ยังพอมีเค้าเดิมอยู่ เจ้มาฟังนี่ จะ 17 ปีแล้วนะปูอยู่ดินแดง ก็ไกลนะ.. / ถามเจ้"เจ็เห็นปูช่วยแม่ขายของหรือเปล่า" เจ้ตอบ "ก็ไม่ค่อยได้เห็นนะ" (ถาม 2 ครั้ง ตอบเหมือนกัน..เป็นความจริง นั่นอาจะเป็นเพราะ เจ้มาซื้อของสายหน่อย ช่วงสัก 8 หรือ 9โมง) แต่ทำไมถึงยังได้ทักกันถูก เจ้ซื้อของละเอียด..บางคนจะเรียกว่า "จู้จี้" แต่ก็เงินอ่ะนะ.. ใช้สมเหตุ สมผลมากกว่า / เล่าให้ฟัง อ้าวทำไมล่ะ "ลูกสาวคนเดียว" "อ๋อ..นั่นลูกพ่อ" ... มาฟังธรรมะ ให้สบายใจ อย่าไปคิดอะไรนะปู.. ขอบคุณค่ะ.. "เห็นอีกฝั่งปิด ทำไมปูไม่ไปขายของล่ะ" "ขายให้โง่เหรอคะเจ้.. เราช่วยทำงานแทบตาย..เขาหาเงินส่งหลานหลิน(ที่ซาโกวรับเลี้ยง ตอนนั้นไม่มีใครเอาเด็กคนนี้ไปเลี้ยง) "เห็นโกวเธอเขามาด่าแม่เธอ แม่เธอก็ไม่เถียงอะไร" "จะไปเถียงอะไร ก็เอาคนของเขามา แล้วหาเงินส่งเรียนจนจนปริญญาโท กินฟรี อยู่ฟรี น้ำ ไฟ ฟรี.. แต่หลานในไส้แท้ ๆ ของพี่สาว เรียกเขามาขายของ สุดท้ายไล่เขาให้ไปทำงานอย่างอื่น"...
"เรายกวัดมาไว้ที่ 7-11" ตึก CPสีลม.. ชั้น 11 วันนี้คนน้อย..ลุงบอก
"เรายกวัดมาไว้ที่ 7-11" ตึก CPสีลม.. ชั้น 11 วันนี้คนน้อย..ลุงบอก ..มาครั้งแรกเหรอหนู เดี๋ยวมีเข้าแถว รับของว่างขนม เครื่องดื่มร้อนเลือกอย่างหนึ่ง ..ค่ะ..ลุงใจดีมากเลย บอก มาทุกศุกร์เลย จากฝั่งธน / เดินไปก็เจอเลย พวกออกจากลิฟท์ เลี้ยวออกมาไม่เข้าแถว เลี้ยวซ้ายทำฟอร์มรู้จักทักทานคนที่เข้าแถว ยืนเสียบเลย คนที่เขาเข้าแถวหลัง..โน่น..น..น.. (หน้าไม่อายจริงๆ).. / ยัง ยังไม่พอ พอ11.00 น. ประตูเปิด ทะยอยเดินเข้าไป นี่ก็เรียงปึก เจ้าหน้าที่ประกาศ เดินเข้าแถวนะครับ ไม่ต้องแย่งกัน.. ได้เลย..ป้าเสื้อขาว ประกบคู่คุยกับคนในแถว.. ส่วนยัยป้าเสื้อสีชมพู ตอนแรกยืนข้างหลังเรา ไหงเสือกเดินแซงซ้ายมายืนประกอบคนหน้าเรา..ไอ้เราก็ยืนชิดเลยไม่ให้แซง สุดท้ายต้องบ่นพึมพำ "อืม..ต้องยอมรับในความหน้าด้านจริง ๆ" ให้เขาเดินไปเสียงในแถว..ตรงเจ้าหน้าที่พูดโทรโข่งบอก "ฝากบอกเพื่อน ๆ ที่มาใหม่นะครับ ว่าขึ้นลิฟท์ Low Zone" เข้าใจค่ะ ว่าถ้าขึ้น High Zone จะต้องสูญเสียพลังงงานไฟฟ้าในการชักรอกลิฟท์ขึ้นมา.. อันนี้ถูกต้องค่ะ.. ไม่รู้ล่ะ ฉันคนไทย ขึ้นฝั่งไหนไม่สน.. จะขึ้นซะอย่าง.. ตอนแรกก็มี 2 แถวคู่กัน.. พอออกมาจากลิฟท์มา ก็กองกันอยู่หน้าประตู..เบื่อคนไทย.. ทั้ง ๆ ที่ ของว่าที่ CP RAM เขามาบริการ(ฟรี) มีตั้งเยอะ.. ไม่เข้าใจว่าทำไม "ต้องแซงคิว" .. ขอกลับ นี่ก็อีก ลิฟท์ฝั่งโน้นใกล้ห้องประชุม คนเยอะ..เราเดินมาฝั่งนี้ที่ขึ้น ..มีพี่ผู้หญิง ยืนหน้าลิฟท์ ไม่ขวางประตู ข้างละ2 คน เรายืนต่อคนที่ 3 ..เจ๊นี่มาเลยพอประตูลิฟท์เปิด แม่เจ้าประคุณ ยืนตรงกลางประตูเดินเสียงเข้าก่อนเราเฉยเลย.. นี่น่ะเหรอผู้ปฏิบัตธรรม.. อ้วก.. มีบูธ Book Smile ,เสื้อขาย ทำบุญ ..วันนี้วันเดียว หรือลงชื่อไว้ แล้วจะมาให้วันศุกร์หน้า.. หรือไปต่อกันที่ตลาดนัดดารา ช่อง 3 .. มีผู้ชายคนหนึ่ง เหมือนจะมาบ่อย.. แต่..เอากระเป๋าสัมภาระ วางบนเก้าอี้ตัวข้าง ๆ 1 ตัว (นั่งริมห้อง) เอาหนังสือธรรมะบุญวางบนที่วาง..แล้วเฉย ๆ .. จนคนมาฟังเต็มห้องแน่นเลยมีเก้าอี้เสริม.. พี่แกก็เฉย..จนเจ้าหน้าที่ต้องเดินมาถาม "มีใครนั่งมั๊ยครับ" เชิญแขกมานั่งแกก็เอากระเป๋าของออกวางที่พื้น.. พอแขกท่านนี้กลับแล้ว.. แกก็เอากระเป๋าขึ้นมาวางบนเก้าอี้ตามเดิม.. นี่ก็ปฏิบัติเข้าถึง ..ธรรมะ เช่นกัน
วันพุธที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555
"มอเตอร์ไซค์ ฮอนด้า" ของท่านป๊อป สุชาติ สุพรรณโกมุท
"มอเตอร์ไซค์ ฮอนด้า" ของท่านป๊อป สุชาติ สุพรรณโกมุท / คืนหนึ่ง.. เรากลับจากทำงาน ถึงบ้าน จะ 4 ทุ่มแล้ว.. รถมอเตอร์ไซค์ของท่านป๊อปจอดอยู่หน้าประตูบ้าน.. เิดินขึ้นไปเคาะประตูเรียก ไม่ตอบ เดินขึ้น เิดินลง เคาะเรียก เราเข้าห้องเรา เดี๋ยวเขาคงไปเอาเข้าบ้านเอง.. เอ..เที่ยงคืนกว่าแล้ว ลงไปดูหน่อยซิ ..ไม่เอารถเข้าบ้าน ล็อคคอด้วย.. เราเลยเปิดประตูบานพับออก.. ลากรถเข้าบ้าน ลากไปหมุนขาตั้ง ขยับลาก จนเข้าบ้านได้.. น่าจะบอกสักคำว่า "กูตั้งใจจอดหน้าบ้านอย่างนั้น เผื่อจะได้ทำให้รถหาย.. จะได้คันใหม่หรือไม่ก็ประกันจ่ายเงินให้ จะได้ซื้อใหม่" .. นังปู สุวรรณา สุพรรณโกมุท โ่ง่ เซ่อ บ้า ปัญญาอ่อน .. ทำความชั่วอีกแล้ว เขาอยากให้รถหาย ก็เสือกกระเสือกกระสนเอาเข้าบ้าน...
นังปู สุวรรณา สุพรรณโกมุท กับห้องส่วนตัว (ใหม่)
นังปู สุวรรณา สุพรรณโกมุท กับห้องส่วนตัว (ใหม่).. หลังจากไม้อัดเป็นฝากระดานห้องนอน สูง 1 เมตร ..ผ่านไปเป็นหลักปี.. ก็ทำห้องนั้นใหม่ เป็นประตูกมีซี่ ซี่ เราเลยซื้อผ้าลูกไม้ถูก ๆ สีชมพู มาแปะที่ประตู ซื้อเอง ทำเอง ออกเงินเอง.. มีบันไดเดินขึ้นห้อง ตรงชั้นลอย.. อีกเป็นหลักปี.. ทำใหม่ ตีไม้ปิดชั้นลอย มีบันไดขึ้นชั้น 2 ต่อจากบันไดจากชั้นล่างกถึงที่พักเท้า.. ประตูตรงข้ามกับห้องส่วนตัวของคุณชายป๊อป สุชาติ สุพรรณโกมุท...
"กลางคืนนอน..ให้ใส่กางเกงในด้วย" อะไรวะ..."แม่ิวิภา สั่งก่อนนอนทุกคืน"
"กลางคืนนอน..ให้ใส่กางเกงในด้วย" อะไรวะ..."แม่ิวิภา สั่งก่อนนอนทุกคืน" / สมัยนั้น ตรงนี้เป็นพื้นที่โล่ง หลังจากที่คุณชายป๊อปมีห้องส่วนตัวแล้ว หลังอาม่าตาย ก็ได้มรดกเป็นเตียงไม้ (ใหญ่) เรานอนเตียงครั้งแรกในชีวิต.. มีไ้ม้อัดเป็นฝาห้อง ความสูงประมาณ 1 เมตร.. ตอนนั้นที่บ้านไม่ได้จ้างเด็กผู้หญิงมาช่วยทำงานแล้ว.. เช้ามืดวันหนึ่งได้ยินเสียแม่ไปตลาดกับพ่อ.. ลืมตาเห็น "แม่ ชะโงกหน้ามองมาที่เรา" หลังจากนั้นแม่ก็จะสั่ง "กลางคืน..นอน..ให้ใส่กางเกงในด้วย" ... ถูกสั่้งหลายวัน ก็เลยใส่กางเกงใน..นอน..ให้เขาเสียหน่อย.. วันนั้นไม่รู้ว่าแม่คิดอะไร วันนี้เพิ่งนึกออก อ๋อ.. อาจจะกลัวว่าผัวจะลูกทำเมีย..มั๊ง.. ก็ตอนจ้างเด็กผู้หญิงมาช่วยทำงาน (นอนห้องเดียวกับเรา เรายังไม่รู้เรื่องเลย หลับเป็นตาย) เช้าขึ้นมา แม่ด่าอาละวาด.. อ้าว..คนนั้นเสร็จเป็นเมียพ่ออีกคนไปแล้วเหรอ... แล้วก็อีกคน อีกคน ...พอลูกสาวคนเดียวโตพอใช้งาน(ทุกอย่าง อย่างหนัก)ได้.. ก็ไม่ได้จ้างผู้หญิงมาช่วยงานอีก ร่วม ร่อม ป้อม (คนนี้สุดท้ายแม่เรียก จ้างให้เขามาดูแลพ่อ แต่ให้ช่วยงานทำผักด้วย)...
"ทำไมไปยอมเซ็นให้เขา" เฮียพูด "ขยันเรียนนั่นรู้นี่" ก็มีแต่ความรู้แต่ไม่มีทุน พ่อตายยกที่ดิน 515 ตร.วาให้ลูกชายคนโต..หมด..เลย
เฮียพูด "ขยันเรียนนั่นรู้นี่" ก็มีแต่ความรู้แต่ไม่มีทุน พ่อตายยกที่ดิน 515 ตร.วาให้ลูกชายคนโต..หมด..เลย / เล่าหมด ทุกคนบอก ตอนพ่อตายนังปูไม่ได้อยู่..เลยอด ยกให้ไอป๊อปทุกอย่าง.. เฮียบอก "ทำไมไปยอมเซ็นให้เขา" .."ไม่เป็นไร ยังไงก็ดูแม่" ..."ให้หลานหลินเขาดูดีกว่ามั๊งคะเฮีย"
"ทำขนมอะไรได้ก็เอามาฝากเฮียขายได้นะ เอามาเลย เห็นเรียนหลายอย่าง ไม่งั้นเดี๋ยวคืนครูหมด"
"ทำขนมอะไรได้ก็เอามาฝากเฮียขายได้นะ เอามาเลย เห็นเรียนหลายอย่าง ไม่งั้นเดี๋ยวคืนครูหมด... ดูผู้คนรอบข้างที่มีน้ำใจ..
วันอังคารที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555
คุณวิภา จงมีความสุข หลานนอกไส้ หรือลูกชาย 2 คน หรือลูกสาวคนเดียว จะเป็นผู้รับภาระเลี้ยงดูตอนแก่ เจ็บ ..ใกล้ตาย..
คุณวิภา จงมีความสุข หลานนอกไส้ หรือลูกชาย 2 คน หรือลูกสาวคนเดียว จะเป็นผู้รับภาระเลี้ยงดูตอนแก่ เจ็บ ..ใกล้ตาย.. / ระหว่าง 1.หลานสาวนอกไส้ (หลานของอดีตสามี) ผู้ที่อาผู้หญิง 2 คน เลี้ยงดูอย่างไม่ต้องทุกข์ร้อน กินเหมือนอา แต่งตัวเสื้อผ้าแบรนด์เนม เรียนจบปริญญาตรี ไม่ต้องช่วยทำงานอะไร ไม่ต้องดิ้นรนช่วยอาทำมาหากิน.. แต่ก็ยังเป็นทุกข์เพราะอยู่กับกับอา หันมาได้รับความช่้วยเหลือจากป้าสะใภ้ อาอึ้ม ให้กิน ให้อยู่ อย่างสุขสบาย ก็ไม่ต้องดิ้นรนทำมาหากินอีก เพราะเดี๋ยวจะถูก 2 อาตามมาทำร้าย.. ส่งเสียให้จบปริญญาโท ว่าเป็นเงินให้ยืม.. อยู่กับอา เรียนปริญญาตรี ยังได้เดือนละ 5,000 บาท กินใช้ประจำวัน..อยู่บ้านอาอึ้มห้องชั้น 4 น่าจะได้เดือนละ 6,000 บาท (ล้วน ๆ เป็นไปได้หรือไม่ว่า หลานสาวนอกไส้ ออกจากบ้านไปเรียนปริญญาโท ใช้เงินวันหนึ่ง ๆ ไม่ถึง 100 บาท) / หรือ 2. ลูกชายคนโต ที่เรียนโรงเรียนใกล้บ้าน สหศึกษา (โรบินสันปัจจุบัน) มีคนเห็นหนีเรียน เลยส่งไปเรียนหนังสือกับญาติที่แถวดาวคะนอง (งานที่บ้้านไม่ต้องทำ) สุดท้ายคงจะไม่ไหว ส่งไปเรียนโรงเรียนดัดสันดาน โรงเรียนกิน(แล้วก็)นอน.. "ดาราสมุทร" ศรีราชา จ.ชลบุรี จนจบ ม.3 จบมาก็เรียน ปวช. ต่อ ปวส. โรงเรียนช่างอุตสาหกรรมกรุงเทพ แถวกล้วยน้ำไท เรียนมาเรียนไป เอาเมีย..(ยังเรียนพาณิชย์ไม่จบเลย) ทำงานไม่ถึง 3 เดือนก็ลาออกจากงาน มาให้แม่เลี้ยง .. ว่าแต่ลูกชายคนโตนี้ได้อะไรบ้างล่ะ ตอนเรียนก็ได้.. กีตาร์ ทำกิจกรรม ดรัมเมเยอร์ นักกีฬา / รถมอเตอร์ไซค์ + น้ำมันรถ ขี่ไปเรียนหนังสือที่กล้วน้ำไท / ได้เงินแต่งเมีย จัดโต๊ะจีน ทั้งที่แปดริ้ว และที่ภัตตาคารนิวรินคำ สีลม / ได้เงินไปเรียนซ่อมมอเตอร์ไซค์ / ได้เงินไปทำทุนเปิดร้านขายอะไหล่มอเตอร์ไซค์ที่พนมสารคาม (ไม่มีคนเลย และแม้แต่คนเดิน) สุดท้ายเจ๊ง / ได้เงินทุนไปขายตุ๊กตา ตัวต่อ พวกทามิยา S Doll ที่แปดริ้ว / ได้เงินส่งลูกชาย 2 คนเรียน "เซนต์หลุยส์" ฉะเชิงเทรา / ได้เงินไปซื้อเครื่องกลึง ทำน๊อต เครื่องละกว่า 30,000 บาท (เกือบสิบปีที่แล้ว) / ได้เงินลงทุนรับซื้อขายของเก่า พวกกล่องกระดาษ ฯลฯ / ได้เงินทุนไปทำเลี้ยงหมู กับพี่ชายเมีย (สุดท้ายอ้างว่าพวกเขาหลอกเอาเงินไปลงทุน) / ได้ค่ารักษาพยาบาล มอเตอร์ไซค์คว่ำ (โทษพี่ชายเมียที่ซ้อนท้ายไปทำให้ซวย) รักษาผ่าตัดม้ามทิ้งที่ รพ.เปาโล / ผ่าตัดไส้ติ่ง ที่ รพ.เปาโล / รักษา งูกัดนิ้ว (ลงไปช่วยลอกคลองบ้านเมียเก่า) ที่ รพ.โสธราเวช / เงินค่าเปอร์เซ็นต์ ค่าทำงานจากการจดมิเตอร์ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเช่าห้อง ของทุกบ้าน (ของแม่ทั้งนั้นที่ให้) / มีรถยนต์ขับไปซื้อผักที่ตลาดวงเวียนใหญ่ ก็ยังได้เงินค่าทำงาน ค่าน้ำมันรถ ค่าเหนื่อย วันละหลายร้อยอยู่ / นึกได้แค่นี้ก่อน / หรือ 3.ลูกชายคนเล็ก ที่อยู่อย่างสุขสบาย ไม่ต้องทำงาน แม้แต่ล้างชามใบเดียว ไข่ดาวสักลูกยังทอดไม่เป็นเลย.. ไม่ต้องตื่นขึ้นมาช่วยขายของ ไม่ต้องขึ้นผัก เทของ ไม่ต้องยืนขาแข็งช่วยแม่ขายของ ได้มอเตอร์ไซค์ + น้ำมันรถ ขี่ไปเรียนที่ บพิตภิมุข (จากร้านผักซอยพิพัฒน์ 2 ไปสวนพลู) / หรือ 4.ลูกสาวคนเดียว..ที่ถูำกปลุกให้ไปตลาดไปเฝ้าของหัวมุมตึกตลาดคลองเตย (เพราะพ่อไปติดผู้หญิง) ต้องไปกับแม่ 2 คน แม่ซื้อผัก ลูกสาวคนเดียวนั่งเฝ้าของ ..หรือไปตลาดวงเวียนใหญ่ พ่อขับรถไป ลูกสาวยังเล็กก็เฝ้าของผักในรถกระบะ Datsun สีเขียว.. ไปโรงเรียนก็เป็นเด็กเปิด-ปิด ประตูรถนักเรียน เดินไปรับส่งนักเรียนมาขึ้นรถ.. ตั้งแต่รถ Datsun สีเขียว รถบรรทุก 6 ล้อ (ของเก่า) รถตู้ Toyota สีขาว.. ช่วยพ่อทำขายของ ทั้งต้มเครื่องใน ก๋วยเตี๋ยว เด็กติดรถทัวร์ (พ่อทำทัวร์) ช่วยขายไอศกรีม "นัท" ตราใบไม้ / ตามคำสั่งแม่ ให้ไปขนม้วนเทปวิดีโอที่พ่อไปเช่าห้อง ทำห้องอัด(ไม่ถูกกฎหมาย) ที่อนุสาวรีย์ ใส่เข่ง ขนลงลิฟท์ ใส่รถขนกลับบ้านร้านผัก / เฝ้าร้านผัก ตอนกลางวันให้แม่นอน ปลุกถามราคาของเวลามีลูกค้ามาซื้อผัก ชั่งแล้วถามกี่ขีด เท่าไหร่ ใส่ถุง เก็บเงินใส่เก๊ะ (มีจิ๊กเงินทอนบ้างในตะกร้าใต้เตียงผ้าใบ) / ไปตลาดสามย่านทุกเสาร์อาทิตย์ ถ้ายังไม่ปิดเทอม ปิดเทอมได้ไปเที่ยวพักผ่อนที่บ้านนอก กำแพงเพชร อย่างมากก็ประมาณ 2 อาทิตย์ ปิดเทอ ก็ต้องตื่นไปตลาดวงเวียนใหญ่ ตี 3 กว่า ๆ ทุกวัน ไปตลาดสามย่านทุกวัน คนเดียว ไปรถเมล์ กลับสามล้อ / เคยติดรถเก๋งของ อาแปะเย็นตาโฟ วัดแขก เฮียขับไปกับอาม่า..ไปตลาดสามย่าน ครั้งหรือสองครั้ง / ตั้งกับข้าวไหว้อากงอาม่า ทุกวันไหว้ ถ้าไม่ได้ไปโรงเรียน ช่วยจัดเก็บของไหว้ ตอนไปไหว้เชงเม้ง / จัดของในตู้สบู่ยาสีฟัน ตักข้าวสาร เป็นถังส่งลูกค้า (อ้อ ก็ทำได้นี่.. ตอนนี้แก่แล้ว..ก็ให้มันทำต่อไป ให้มันหาเงินเลี้ยงตัวมันเองต่อไป ยังไม่พิการเหมือนลูกชายคนโต ทำงานหนักไม่ได้แล้ว.. "ไอปีอปขาดีขึ้น เพราะไม่ต้องทำงานหนัก" (แจ๋ยิ่นหมอยบอกอย่างนั้น) ฯลฯ นึกไม่อออก / ปิดเทอมแม่สั่งให้ไปรับจ้างทำงาน แปะป้ายราคาเสื้อชั้นในของ Triumph ตึกสิวดล กลางวันเดินกลับมากินข้าวที่บ้าน ก่อนเข้างานรีบจ้ำ ๆ ไปทำงานต่อให้ทันเวลา ไม่สาย, รับจ้างพับผ้าเช็ดหน้าใส่ถุง (แจ๋ยิ่นหมอย รับจ้างเย็บโพ้งริมผ้าเช็ดหน้า ตัดเป็นชิ้น) , อันนี้ไปเอง.. เพื่อนชวนไปหารายได้พิเศษ ขายกระเป๋านักเรียน Bonny ไปกับเพื่อน ขายที่โรบินสันราชดำดำ ข้างไดมารู ทำงานเช้า เลิกงานตามเวลาห้าง.. ได้เงินมาซื้อรองเท้าส้นสูง(เอง) มีก็ขอค่ารถแม่ไปทำงาน.. / เรียนหาความรู้พวกการฝีมือก็ที่สวนลุม ได้ค่าวัสดุ อุปกรณ์ จากแม่ แจ๋ยิ่นหมอยพาไป / ..ใครกันนะ จะเป็นผู้ที่โชคดี ได้มีโอกาสให้เลี้ยง ดูแลคุณแม่วิภา หรือคุณป้าวิภา จงมีความสุข ตอน(นี้) แก่ เจ็บ.. จนถึงใกล้ตาย.. แบกพาไปหาหมอที่โรงพยาบาล... ลูกชายคนโต ต้องเลี้ยงลูกสาว ไม่มีเวลา อยู่ที่ ปากซอยบึงนายพล ต้องดิ้นรนหากิน ให้เงินเดือนเมีย.. ลูกชายคนเล็ก ก็ต้องหาเลี้ยงเมีย (น้ำขวดลิตร กินไม่ถึงครึ่งขวดทิ้งแล้ว กินทิ้งกินขว้าง บ้านช่องไม่ทำความสะอาด อยู่อย่างเดียว แต่แม่ไม่ว่าพวกเขาเอง มาว่าใส่นังปู นังกระโถน) หรือ หลานหลิน น้องหนู พิมพา สุพรรณโกมุท ผู้มาทีหลังสุด ไม่ต้องทำงาน ย้ำ "ไม่ต้องมาช่วยเลย เดี๋ยว 2 อาหลังแบงค์จะมาทำ้ร้า มาด่า" อยู่ห้องชั้น 4 68/16 ซอยบุญอยู่ ถนนดินแดง .. เช้าไปเรียน ค่ำ ๆ กลับมานอนดูทีวี.. เรียนจนจบปริญญาโท นิด้า บริหารธุรกิจ .(แม่บอก "เขาใช้ไม่ได้ไหร่" สงสัยจะแค่ 20,000 ล่ะมั๊ง) สุดท้ายเรียนสูง ทำงานเงินเดือนเยอะ ๆ ก็จะต้องบอกว่า "ไม่มีเวลามาดูแลอาอึ้ม เพราะถ้าลาออกก็เสียดายเงินเดือนแพง ๆ" หรือลูกสาวคนเดียวที่ช่วยพ่อแม่ทำมาหากินตั้งแต่เด็ก ทุกอย่าง ไ้่ม้จิ้มฟันยันเรือรบ ไม่เคยปฏิเสธ เพราะเป็นหน้าที่ ..ไม่เคยเรียกร้องค่าจ้าง ค่าแรง หรือพักเหนื่อย หรือขอไปเรียนทำอะไรแพง ๆ ไม่เคยร้องขอมอเตอร์ไซค์ ค่ารถเมล์ ก็รถเมล์ไปเรียนหนังสือ .. สุดท้ายก็ต้องพูดว่า "นังปูไม่สามารถดูแลแม่ได้ตอนแก่ เจ็บ หรือใกล้ตาย เพราะต้องดิ้นรนด้วยตัวเอง ทั้งที่ไม่มีทุน นี่ถ้าไม่ได้ช่วยพ่อแม่ทำมาหากินตั้งแต่เด็กล่ะก็ วันนี้คงจะต้องไปนอนข้างถนน มีเพื่อนสังคมเป็นชาวเก็บขยะของเก่าขายเป็นแน่แท้.. ได้อยู่ดาดฟ้า (มึงเสือกหนีขึ้นไปอยู่เอง ไม่ได้มีใครไล่นะ จะบอกให้.. ) แจ๋ยิ่นหมอยถาม "เอามั้ย แม่เอ็งเขายกห้องไปไอปีอปให้เอ็งครอง ให้เอ็งอยู่เอาไปเลย.." อีนังปูก็โง่เซ่อเนอะ ตอบไปด๊ายว่า "ไม่เอา กูไม่เอาของเหลือเดนจากไอป๊อปมัน" ทุกห้องล็อคแม่กุญแจหมด หรือห้องชั้นห้อง หลังจากปูกระเบื้องในห้องด้านหลังแล้ว(เสือกไปเปิดดูวันหลัง หลังจากลองบิดลูกบิด เอ๊ะประตูเปิดได้ ถึงได้รู้ว่า..อ๋อ..เขาปูกระเบื้อง เก็บของ โซฟา สกปรกเลอะเทอะออกหมดแล้ว ..ตอนหลินมาอยุ่ เลยได้อยู่ห้องชั้น 4 ..ตอนเรากลับมาอยู่ได้อยู่ห้องนี้ ถ้าจะอยู่ จะนอน ก็เก็บเอาเอง.. เราเก็บจัดแบ่งห้องครึ่งหนึ่ง เก็บของสกปรก อีกเกือบครึ่งห้องวางเตียงไม้ สำหับนอน ทำดอกไม้ที่พื้นห้อง) แจ๋ยิ่นหมอยถาม "เอามั๊ย แม่เอ็งเขาจะกั้นห้องชั้น 2 (ห้องแม่ ก็คือมีเจ้าของทุกห้องอยู่ดี ) ครึ่งหนึงให้เอ็งอยู่อย่างสบาย ห้องก็มีแค่นั้น จะลงทุนทำไมให้เสียเงิน.. ไม่มีแสงสว่าง ต้องเปิดไฟทั้งวัน กลางวันก็ร้อน เพราะห้องป้อมด้านหน้า ก็ต้องปิดประตู... สรุปทุกวันนี้คือ ห้องชั้น 3 คุณชายป๊อป ยังเหมือนเดิม ล็อคแม่กุญแจ Solex อย่างดี.. เอาเงินมาให้ลูก 2 คน ถ้าร้อนนักก็เปิดแอร์นอนสบาย สักชั่วโมง 2 ชั่วโมง.. แล้วค่อยขับรถยนต์กลับไปที่บ้านปากซอยบึงนายพล.. ห้องชั้น 2 ลูกชายคนเล็กก็นอนทั้ง 2 ห้อง (ผัวห้องนึง เมียห้องนึง) นังปูลงมาถ้าเป็นตอนเช้า ลองบิดลูกบิด ห้องชั้น 2 จะถูกล๊อคลูกบิด.... หรือ คุณแม่มีเงินมากมาย ต้องจ้างคนอื่นที่ไม่ใช่ลูก ไม่ใช่หลานมานั่งดูแล เช็ดขี้ เช็ดเยี่ยว ตอนพะงาบ พะงาบ.. อาจจเหมือนซาโกว ที่เคยถูกดูถูกไว้ก็ได้.. ว่า "แล้วเป็นไง ไม่มีหลานสาว(ที่แสนดี) ช่วยทำงานบ้าน.. ต้องจ้างคนอื่นมาทำงานแล้วล่ะสิ" ..เออหนอ ให้ทุกข์แก่ท่าน ทุกข์นั้นถึงตัว... สาธุ...ส่วนหลานหลิน Pimpa Suhankomut ก็ทำงานสบาย เงินเดือนสูง ๆ อยู่คอนโดฯ เรียนจนจบปริญญาเอก Dogter เอ๊ยไม่ใช่ Doctor มีผู้ชายดีดี (แต่โง่เป็นควาย) มาขอแต่งงาน เป็นแม่บ้านแม่เรือนที่แสนดี ไม่เที่ยว ไม่ใช่ของแบรนด์เนม แฟ๊บสบู่ยาสีฟันก็ใช้ของถูก ๆ (ไม่เหมือนตอนอยู่กับซาโกว.. เขาซื้อยี่ห้ออะไรใ้ห้ใช้ ไม่เอา ต้องซื้อเองใหม่ เลือกชนิดผลิตภัณฑ์เอง.. ส่วนเงินก็ซาโกวจ่ายให้อยู่ดี) คนพวกนี้ ดวง "นารีอุปถัมภ์" ส่วนนังปู สุวรรณา สุพรรณโกมุท ดวง "นารีพิฆาต" (ทำงานให้แทบตายต้องดิ้นรนทำมาหากินเลี้ยงตัวเอง ถ้าขอทานขอเงินเขา ก็ต้องแลกกับการถูกว่า "75 แ้้ล้วยังต้องหาเลี้ยง 45" ชั่งมันเถอะ... "ฟ้ามีตา เวรกรรมมีจริง" ดังคำกล่าวอันศักดิ์สิทธิ์ของท่านแม่วิภา จงมีความสุข....
ค้นพบ "ธรรมชาติของความเป็นพ่อเป็นแม่แบบสัตว์ และแบบมนุษย์" ....
ค้นพบ "ธรรมชาติของความเป็นพ่อเป็นแม่แบบสัตว์ และแบบมนุษย์" .... / สัตว์ที่เป็นพ่อเป็นแม่.. จะเลี้ยงลูกอ่อนอย่างประคบประหงมตามสมควร เมื่อถึงวัยที่จะต้องเรียนรู้ พ่อแม่จะสอน ฝึกลูกให้ลูกเรียนรู้ที่จะอยู่ในสังคมธรรมชาติ ทั้งที่่อบอุ่นและโหดร้าย ด้วยตัวของลูก ๆ เอง.. สอนทุกอย่าง โดยเฉพาะเรื่องการดำรงชีวิตด้วยการออกหากิน โดยสัญชาติญาณสัตว์ป่า จะเป็นทั้งผู้ล่าและผู้ถูกล่า ผู้แข็งแกร่งกว่าจะอยู่รอด ผู้อ่อนแอจะต้องล้มตาย..ไปในทีุ่สุด นี่คือกฎของธรรมชาติ.. / มนุษย์ที่เป็นพ่อเป็นแม่..จะมีทั้งเลี้ยงลูกให้โตอย่างเป็นธรรมชาติ และเลี้ยงลูกให้เติบโตอย่างผิดธรรมชาติ. จะเลี้ยงลูกอ่อนอย่างประคบประหงมตามสมควร เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ สอนให้ลูก สอนให้ลูกเรียนรู้ที่จะอยู่และดำรงชีิวิตในสังคมอย่างเป็นธรรมชาติ ถ้าลูกล้ม ลูกจะเรียนรู้ที่จะลุก และปกป้องตัวเองไม่ให้ล้มในครั้งต่อไป พ่อแม่จะไม่มีสิ่งปกป้องไม่ให้ลูกเจ็บ สอนให้ลูกเป็นตัวของตัวเอง ทำทุกอย่างได้ด้วยตนเอง ที่สำคัญ คิดเองเป็น ทำเองได้.. ส่วนพ่อแม่(มนุษย์) ที่เลี้ยงลูกให้เติบโตอย่างผิดธรรมชาติ (เพราะพ่อแม่เองก็คิดและทำมาอย่างผิดธรรมชาติมาตั้งแต่ต้น) จึงเลี้ยงลูกอ่อนด้วยความประคบประหงมยิ่งกว่าไข่ในหิน หาเครื่องปกป้องคุ้มกัน (ทีี่มากกว่าปัจจัย 4) หนาวมากไม่ได้ ล้มมากไม่ได้ หัวกระแทกไม่ได้ ต้องมีของนุ่มนิ่ม หุ้มมุมโต๊ะ กันชนต่าง ๆ ... ทำทุกอย่างใหู้ลูกหมด ไม่ได้พูดคุยกับลูกด้วยเหตุผล... พอโตขึ้นก็ต้องหาสิ่งดีดีให้ ไม่ว่าจะเป็นการศึกษา เงินทองให้ลูกไว้ใช้จ่ายอย่างสุขสบาย.. ระบบพ่อแม่อุปถัมภ์.. จนแก่ ถ้ายังเป็นลูกที่อ่อนแอ ทำมาหากินเองไม่เป็น ยังต้องพึ่งพาสมบัติ มรดก พ่อแม่.. (คือพ่อแม่รับมรดกตกทอดมาจากปู่ย่าตายาย แล้วยังต้องทำให้งอกเงยเพื่อให้ลูกที่อ่อนแอ ได้กินได้ใช้อย่างสุขสบาย) จึงไม่ต้องทำมาหากินเอง ได้แต่กินมรดก ได้เงินจากมรดกที่พ่อแม่ประเคนเก็บไว้ให้ นำไปเลี้่ยงตัวเองและครอบครัวลูกหลานต่อไป... มีคำกล่าวว่า Generation ที่ 3 จะถูกผลาญสมบัติจนหมดสิ้น.. อันนี้จะต้องคอยดูว่าจริงหรือไม่... ส่วนลูกที่ไม่ต้องเลี้ยงประคบประหงม ไม่ต้องเอาใจใส่ ให้ทำงานอย่างหนัก ถึงแม้จะไม่มีสมบัติ มรดก ยังต้องดิ้นรน ค้นหา .. เพื่อให้ตัวเองอยู่รอด .. การขอความช่วยเหลือทางด้านการเงิน เพียงเพื่อการดำรงชีวิตในแต่ละวัน และจะต้องเจียดเงินนั้นมาหาความรู้ ดิ้นรนทำมาหากิน เพราะไม่สามารถเลียนแบบ "ลูกที่อ่อนแอ" ได้.. เพราะพ่อแม่เขาได้ให้ทุกอย่างแก่ "ลูกที่อ่อนแอ" ไปหมดแล้ว.. "ลูกที่แข็งแกร่ง" ฝึกตัวเองมาตั้งแต่เด็ก จะต้องดิ้นรนไปให้ได้.. ถึงแม้จะแก่ใกล้ตาย ก็ต้องทำให้ได้ด้วยตัวเอง.. ถ้าทำไม่ได้ ก็ "สมควรตาย" ...
วันจันทร์ที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555
5 พย.55 (ลืมประโยคสำคัญ) ออกจากบ้านตี 5 ไถเงิน 2,000 (ไหนบอกไม่เอาเงินแม่มึงไง)
"แล้วจะขายอะไรได้ล่ะ" / "ก็ขายข้าวสาร ขายถุง (พลาสติก ทั้งถุงใสใส่อาหารและถุงหูหิ้ว) ไง" ซ้ำ ซ้ำ ซ้ำ / "ขายข้าวสาร ขายถุง วันนึงก็ได้เงินหลายอยู่" ... (คือมึงต้องทำ..ทั้งที่ตอนเด็ก ๆ ก็ทำให้ สิบ ยี่สิบ ปี ..แก่เจ็บใกล้ตาย..ก็ต้องทำ.. ค่าเช่าชั้นบนเดือนละเกือบ 20,000 ค่าเช่าตึกบางพลีเดือนละ 8,500 ค่าเช่าตึกที่พนมสารคาม ฉะเชิงเทรา ไม่รู้เดือนละเท่าไหร่ ค่าเช่าคอนโดฯ 2 ห้องที่ได้จากป๊า.. ค่าเครื่องกรองน้ำ ค่าเช่าที่ดินทำไร่อ้อย 10 กว่าไร่ที่กำแพงเพชร ...ทำให้แทบตาย..สุดท้ายยังไงก็ต้องเป็นหมาข้างถนน.. ส่วนหมาจากที่ไหนก็ไม่รู้ ไม่ต้องทำงาน ไม่ต้องโดนด่า.. คาบไปแดกจนหมด) เวรกรรม.. *****
********
5 พย.55 ออกจากบ้านตี 5 ไถเงิน 2,000 (ไหนบอกไม่เอาเงินแม่มึงไง) ไหนบอกเงินเตี่ย 2 พันพอกินไง / ยกนิ้ว (ข้องอ งอ จากการสับกระดูกหมูหลายสิบปี หาเลี้ยงลูก 3 คน ตอนท้ายต้องขายหาเลี้ยงส่งหลานหลิน พิมพา สุพรรณโกมุท เรียนจบปริญญาโท นิด้า อีก 1 คน) 29 30 31 1 2 3 4 5 อาทิตย์ 2 พัน.. เดินไปเก๊ะ (รอลูกค้าหมดก่อน) ..ตกลงมึงจะใช้เดือนละกี่หมื่น จะขายบ้านเอาเงินมาให้มึงให้หมด / ด่าแม่มึงในเน็ต เที่ยเขียนด่าคนโน้นด่าคนนี้ (ซ้ำ ซ้ำ ซ้ำ) เดี๋ยวกูจะให้เขาด่ามึงในอินเตอร์เน็ตมั่ง (รอมาจะ 2 ปีแล้ว หลังจากป๊าตาย) จริง ๆ ก็ดีนะ.. "คนเราจำได้แต่ความดีของตัวเอง ไม่เคยจำความชั่วของตัวเองได้ ..แม้แต่ครั้งเดียว.. มีคนอื่นจำความชั่วของเรามาแฉให้ชาวบ้านเขาอ่าน เขาฟังบ้างก็ดี.. จะได้สำนึกได้ ว่า ผิด ถูก ชั่ว ดี คืออะไร เอ..รึคิดไม่ได้..ไม่แน่ใจ) / "งั้นก็เอางี้แล้วกัน ไม่มีกิน.. ขอเบิกของป๊าล่วงหน้าแล้วกัน.. ก็จดไว้ แล้วก็หักไป.." / "ไปด่าเขา เดี๋ยวไอป๊อปมันไม่เลี้ยงมึงนะ" (งงว่ะ..คุณเทวดาป๊อป ทำมาหากินเอาเงินอะไรมาเลี้ยงนังปู..มันเป็นเงินพี่เตี่ยสั่งให้เอาจากค่าเช่าของมรดกที่มันได้มาให้ไม่ใช่เหรอ.. ไม่ได้ลงทุนอะไรสักบาทนี่นา.. ค่าเช่าก็เกือบ 20,000 โดยที่ไม่ต้องทำมาหากินอะไร..เหลือซ่อมบ้าน เหลือจ่ายภาษีตั้งเยอะไม่ใช่เหรอ.. / "นังหลินมันอยู่ไหนแล้วตอนนี้" / "จะอยู่ที่ไหนมันก็เรื่องของเขา มึงให้เงินเค้าใช้รึไง" / "แหม เป็นพี่เป็นน้องกัน ถ้าเผื่อร่ำรวย ก็ต้องช่วยน้องสิ น้องลำบากก็ต้องช่วยกัน" ...(เงียบ ZZZZZ) *** "กูสู้มันนะโว้ย วันนั้นด่าไป มันเลยไม่กล้า้มาเลย" / "ให้ไอวุฒิมันดือนละพัน ให้ถูบ้าน ไม่เห็นถูเลย สกปรก" / "ไอวุฒิมันจะไปทำอะไรสะอาด จ้างพี่เหงี่ยมสิ ..เขาทำสะอาด" / "ไหนมึงบอกไม่เอาเงินแม่มึงไง" / "ก็อยากให้หรือเปล่าล่ะ เดือนละ 4,000" ....(เงียบ zzzz) / "ได้ข่าวว่า ชุมชนพิพัฒน์ 2 เบียร์ช้างเขาประมูลได้ แต่ยังไม่ได้ตกลงราคา" / "งั้นไล่ที่เมื่อไหร่ มึงก็ไม่ต้องแดกแล้ว" / "ด่าแม่มึงในเน็ต "หน็อย 75 ยังต้องเลี้ยง 45 แม่มึงมีความผิดตรงไหน " (ซ้ำ ซ้ำ ซ้ำ ซ้ำ ซ้ำ) / "เปล๊า ก็ถูกต้องไง ..45 แล้วยังต้องให้แม่หาเลี้ยง สมควรโดนด่าไง" / "แต่ใครที่ไหน มาแต่ตัว 70 กว่าแล้ว (ไม่ใช่หลานในไส้ด้วยซ้ำ) หาให้กิน ส่งให้เรียนจบปริญญาโท 2-3 ปี ค่าเรียนหมดไปเท่าไหร่ ค่าใช้จ่ายประจำวัน อย่างน้อยต้องมีเดือนละ 6,000 บาท เพราะตอนซาโกว โซ่ยโกว เขาส่งเรียนปริญญาตรี (เลี้ยงตั้งแต่ 7 ขวบ จนจบปริญญาตรี สถาบันฯ เจ้าคุณทหารลาดกระบัง ยังให้ใช้เงินเดือนละ 5,000 บาทเลย (ไม่รวมค่าใช้จ่ายอื่นๆ) / "ซื้อไหม ซื้อไหม ถักแล้วขายได้เงินมั๊ย.." / "มาขายของ ไอณัฐไป ห้องนั้นมีแต่ขยะ" (แล้วเกี่ยวอะไรกับนังปูวะ) นี่ขายของ (หลิน..พิมพา สุพรรณโกมุท.. เธอเห็นเหมือนที่ฉันเห็นไหม... อาอึ้มเธอ.. เปิดโค้ก เทใส่ถุง ตักน้ำแข็ง.. ขายถุงละ 10 บาท.. หยิบขนมที่คนงานก่อสร้างซื้อ ขายเหล้า ขายเบียร์ ขายบุหรี่ 3 ตัว .. ลูกค้านั่งกินเบียร์ สูบบุหรี่หน้าบ้าน.. ควันมะเร็งเต็มปอดเลย.. เธอคิดว่าเธอจะมาดูแลอาอึ้มเธอตอนเจ็บหนัก เป็นมะเร็งหรือเปล่า.. ฉันคิดว่าเป็นหน้าที่เธอแล้วนะ.. เพราะซาโกว เขาบอก เธอไม่ต้องกลับไปอยู่กับเขา เขาหมดภาระแล้ว (นางฟ้าตกสวรรค์ คิดว่าขึ้นบันไดทองไปเรียนปริญญาโท.. พุทโธ่ น่่าสงสาร... นางฟ้าตกสวรรค์ บันไดพลาสติก)... อนิจจา
วันอาทิตย์ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555
หายหัวไปไหนมา senor หน้าเหลี่ยม รอกินข้าวจนเหงือกแห้งแล้วเว้ยเฮ้ย..
หายหัวไปไหนมา senor หน้าเหลี่ยม รอกินข้าวจนเหงือกแห้งแล้วเว้ยเฮ้ย..
*
senor
senor (เซนยอร') n. ภาษาสเปนที่หมายถึง"mister" (ดู)
-S.man, gentleman
Horse Racing .. After Respect Mountain.. Mongolia
In the Nadahm the period I also saw that you to make some chanting outside of the temple also in the top of that mountain what you have will done. * Traditional chanting we do every year , that mountain respective mountain * Why have to do respect that, * Because Jengis Khan ..... * I see * We are brothers and sisters and all generations of Jengis Khan *Every year we respect mountain * This things after traditional all 800 years * After socialist time * that's thing for 3 years * The multi Democracy they coming they chanting * On the top of that mountain that you are chanting I though you make a lot of stone put it together what is the meaning of that * We put the many stone especialy stone highest respect mountain * What is the meaning of these stone * It's the symbol of Victory * And why you burning so manythings... in ... of chanting * Burning we give the landlord We bring the tasty food candies many important put on the ... * That' s mean we give the put of the Landlord We believe everywhere the landlord * And then also after that You comedown and you also have the horse rising, Why you doing to do that * It's also traditionaly * We pray for the sky for the god and the landlord * And after that the comedown from the mountain , we have horse rising and ....happiness for god and the landlord * ท่านเจ้าอาวาสไหว้สวยด้วยค่ะ * http://www.panoramaworldwide.com/thai/tvprogramme/vikrom/868.html *
หลังจากอาละวาด "พังฝาบ้าน นรกดาดฟ้า" อาการก็ดีขึ้นเป็นลำดับ
หลังจากอาละวาด "พังฝาบ้าน นรกดาดฟ้า" อาการก็ดีขึ้นเป็นลำดับ ตะโกนด่าไอ้พวก hear ซะหลายรอบ.. หลอดลมดีขึ้นหน่อย.. ทดลองเผากระดาษหนังสือพิมพ์ ก็เผาไหม้ได้ดี หมดแผ่น (เผา 3 แผ่น) ... คราวหน้า ลงของจริง จัดหนัก เผาัชั้นละ 1 แผ่น ตรงไหนที่กระดาษเยอะหน่อย อาจไหม้เร็ว..อืม..เป็นไปได้
Pimpa Suphankomut Please don't commit suicide.. Just like you FATHER
Pimpa Suphankomut Please don't commit suicide.. Just like you FATHER .. Did you remember that? He died because.. gambling... that right?
N. การพนัน
*******ตารางไถเงิน เตี่ยให้เดือนละ 2,000 นอกนั้นไถเงินแม่ ให้แม่เลี้ยง 75 แล้วยังต้องเลี้ยง 45
ตารางไถเงิน เตี่ยให้เดือนละ 2,000 นอกนั้นไถเงินแม่ ให้แม่เลี้ยง 75 แล้วยังต้องเลี้ยง 45.. เริ่มนับ 5 พย.55 (ของเตี่ยไปเอาเมื่อ 29 ตค.55) 2,000 วันนี้ 5 พย.55 ไปไถเงินคุณแม่วิภา จงมีความสุข 2,000 รวมเป็นเงิน 4,000)
5 พย.55 ออกจากบ้านตี 5 ไถเงิน 2,000 (ไหนบอกไม่เอาเงินแม่มึงไง)
5 พย.55 ออกจากบ้านตี 5 ไถเงิน 2,000 (ไหนบอกไม่เอาเงินแม่มึงไง) ไหนบอกเงินเตี่ย 2 พันพอกินไง / ยกนิ้ว (ข้องอ งอ จากการสับกระดูกหมูหลายสิบปี หาเลี้ยงลูก 3 คน ตอนท้ายต้องขายหาเลี้ยงส่งหลานหลิน พิมพา สุพรรณโกมุท เรียนจบปริญญาโท นิด้า อีก 1 คน) 29 30 31 1 2 3 4 5 อาทิตย์ 2 พัน.. เดินไปเก๊ะ (รอลูกค้าหมดก่อน) ..ตกลงมึงจะใช้เดือนละกี่หมื่น จะขายบ้านเอาเงินมาให้มึงให้หมด / ด่าแม่มึงในเน็ต เที่ยเขียนด่าคนโน้นด่าคนนี้ (ซ้ำ ซ้ำ ซ้ำ) เดี๋ยวกูจะให้เขาด่ามึงในอินเตอร์เน็ตมั่ง (รอมาจะ 2 ปีแล้ว หลังจากป๊าตาย) จริง ๆ ก็ดีนะ.. "คนเราจำได้แต่ความดีของตัวเอง ไม่เคยจำความชั่วของตัวเองได้ ..แม้แต่ครั้งเดียว.. มีคนอื่นจำความชั่วของเรามาแฉให้ชาวบ้านเขาอ่าน เขาฟังบ้างก็ดี.. จะได้สำนึกได้ ว่า ผิด ถูก ชั่ว ดี คืออะไร เอ..รึคิดไม่ได้..ไม่แน่ใจ) / "งั้นก็เอางี้แล้วกัน ไม่มีกิน.. ขอเบิกของป๊าล่วงหน้าแล้วกัน.. ก็จดไว้ แล้วก็หักไป.." / "ไปด่าเขา เดี๋ยวไอป๊อปมันไม่เลี้ยงมึงนะ" (งงว่ะ..คุณเทวดาป๊อป ทำมาหากินเอาเงินอะไรมาเลี้ยงนังปู..มันเป็นเงินพี่เตี่ยสั่งให้เอาจากค่าเช่าของมรดกที่มันได้มาให้ไม่ใช่เหรอ.. ไม่ได้ลงทุนอะไรสักบาทนี่นา.. ค่าเช่าก็เกือบ 20,000 โดยที่ไม่ต้องทำมาหากินอะไร..เหลือซ่อมบ้าน เหลือจ่ายภาษีตั้งเยอะไม่ใช่เหรอ.. / "นังหลินมันอยู่ไหนแล้วตอนนี้" / "จะอยู่ที่ไหนมันก็เรื่องของเขา มึงให้เงินเค้าใช้รึไง" / "แหม เป็นพี่เป็นน้องกัน ถ้าเผื่อร่ำรวย ก็ต้องช่วยน้องสิ น้องลำบากก็ต้องช่วยกัน" ...(เงียบ ZZZZZ)
*** "กูสู้มันนะโว้ย วันนั้นด่าไป มันเลยไม่กล้า้มาเลย" / "ให้ไอวุฒิมันดือนละพัน ให้ถูบ้าน ไม่เห็นถูเลย สกปรก" / "ไอวุฒิมันจะไปทำอะไรสะอาด จ้างพี่เหงี่ยมสิ ..เขาทำสะอาด" / "ไหนมึงบอกไม่เอาเงินแม่มึงไง" / "ก็อยากให้หรือเปล่าล่ะ เดือนละ 4,000" ....(เงียบ zzzz)
/ "ได้ข่าวว่า ชุมชนพิพัฒน์ 2 เบียร์ช้างเขาประมูลได้ แต่ยังไม่ได้ตกลงราคา" / "งั้นไล่ที่เมื่อไหร่ มึงก็ไม่ต้องแดกแล้ว" / "ด่าแม่มึงในเน็ต "หน็อย 75 ยังต้องเลี้ยง 45 แม่มึงมีความผิดตรงไหน " (ซ้ำ ซ้ำ ซ้ำ ซ้ำ ซ้ำ) / "เปล๊า ก็ถูกต้องไง ..45 แล้วยังต้องให้แม่หาเลี้ยง สมควรโดนด่าไง" / "แต่ใครที่ไหน มาแต่ตัว 70 กว่าแล้ว (ไม่ใช่หลานในไส้ด้วยซ้ำ) หาให้กิน ส่งให้เรียนจบปริญญาโท 2-3 ปี ค่าเรียนหมดไปเท่าไหร่ ค่าใช้จ่ายประจำวัน อย่างน้อยต้องมีเดือนละ 6,000 บาท เพราะตอนซาโกว โซ่ยโกว เขาส่งเรียนปริญญาตรี (เลี้ยงตั้งแต่ 7 ขวบ จนจบปริญญาตรี สถาบันฯ เจ้าคุณทหารลาดกระบัง ยังให้ใช้เงินเดือนละ 5,000 บาทเลย (ไม่รวมค่าใช้จ่ายอื่นๆ) / "ซื้อไหม ซื้อไหม ถักแล้วขายได้เงินมั๊ย.." / "มาขายของ ไอณัฐไป ห้องนั้นมีแต่ขยะ" (แล้วเกี่ยวอะไรกับนังปูวะ) นี่ขายของ (หลิน..พิมพา สุพรรณโกมุท.. เธอเห็นเหมือนที่ฉันเห็นไหม... อาอึ้มเธอ.. เปิดโค้ก เทใส่ถุง ตักน้ำแข็ง.. ขายถุงละ 10 บาท.. หยิบขนมที่คนงานก่อสร้างซื้อ ขายเหล้า ขายเบียร์ ขายบุหรี่ 3 ตัว .. ลูกค้านั่งกินเบียร์ สูบบุหรี่หน้าบ้าน.. ควันมะเร็งเต็มปอดเลย.. เธอคิดว่าเธอจะมาดูแลอาอึ้มเธอตอนเจ็บหนัก เป็นมะเร็งหรือเปล่า.. ฉันคิดว่าเป็นหน้าที่เธอแล้วนะ.. เพราะซาโกว เขาบอก เธอไม่ต้องกลับไปอยู่กับเขา เขาหมดภาระแล้ว (นางฟ้าตกสวรรค์ คิดว่าขึ้นบันไดทองไปเรียนปริญญาโท.. พุทโธ่ น่่าสงสาร... นางฟ้าตกสวรรค์ บันไดพลาสติก)... อนิจจา
วันเสาร์ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555
ซอยบุญอยู่ เผาบ้านกันดีกว่า หลายปีก่อน บริษัทเลิศลักษณ์...
ซอยบุญอยู่ เผาบ้านกันดีกว่า หลายปีก่อน บริษัทเลิศลักษณ์... เวลาประมาณตี 2 หรือ ตี 3 ดึกมาก ๆ นังปูนอน เช้าจะต้องไปทำงานช่อง 9 อ.ส.ม.ท. ได้ยินเสียงคนทะเลาะกัน ได้กลิ่นเหม็นไหม้... แหกขี้ตา..เดินลงบันไดไปดูหน้าบ้าน.. เหตุการณ์คือ คุณศักดิ์(ขาว) บริษัทเลิศลักษณ์ 68/18 กับลูกชาย (ไม่รู้จักชื่อ) ลูกชายเอาจักรยาน มาวางหน้าบ้านใกล้เสาไฟฟ้า จุดไฟเผายางรถจักรยาน เป็นเปลวไฟ และควันดำ เหม็นไหม้ ทะเลาะกันได้ยินจับความได้ว่า ลูกชายจะเอารถยนต์มั๊ง.. ยืนอยู่ ดูเขาทะเลาะกัน สักครู่ ปิดประตู ขึ้นไปนอนห้องนอนชั้น 2 (ตอนนั้นทำงานเลยวาสนาดี ได้อยู่ห้องชั้น 2 ตอนนี้เป็นหมาข้างถนน นอนดาดฟ้านรกชั้น 5) .. แสดงว่า "การเผาเป็นวิธีที่เรียกร้องความเป็นธรรม และความยุติธรรม ได้เป็นอย่างดี) ต้องเอาอย่าง.. เพราะฉะนั้น เผาบ้านเลยดีกว่า เผารถมอเตอร์ไซค์ในบ้านก็งั้น ๆ มันไม่ลามไปถึงข้างบ้าน (ที่แสนดี) .... อึ้ม เอาตามนี้แหล่ะ
โน่ไม่อยู่ในห้อง ได้เข้าห้องน้ำ ไม่งั้น โน่จะพูดว่า "ป๊ามา เดี๋ยวป๊าด่า" พร้อมกับชักสีหน้าไม่สบายใจ
โน่ไม่อยู่ในห้อง ได้เข้าห้องน้ำ ไม่งั้น โน่จะพูดว่า "ป๊ามา เดี๋ยวป๊าด่า" พร้อมกับชักสีหน้าไม่สบายใจ / นังปูปวดท้องหนัก.. ไม่เห็นรองเท้าโน่ เปิดประูตูไปเข้าห้องน้ำ (แต่ก่อนลงมาจากดาดฟ้านรกร้อน ได้ยินเสียงปั๊มน้ำ เดินเครื่องตลอด) ... ถ่ายเสร็จ แต่งตัวลงมาจากดาดฟ้านรกร้อน.. เดินลงบันได มืด มืด ต้องใช้มือถือเปิดเอาแสงส่องบันได.. เดินลงมาถึงหน้า้บ้านเห็นรถฮอนด้า แจ๊ส 4672 จอดอยู่หน้าบ้าน..
ฝันไม่ไกล แต่(นังปู)ต้องตะกายไปให้ถึง ไม่งั้น..พวกมันสบายยกทีม.. แต่นังปู ตกเหวตายคนเดียว (พวกมันได้ดี แล้วถึบนังปูตกเหวตายคนเดียว)
ฝันไม่ไกล แต่(นังปู)ต้องตะกายไปให้ถึง ไม่งั้น..พวกมันสบายยกทีม.. แต่นังปู ตกเหวตายคนเดียว (พวกมันได้ดี แล้วถึบนังปูตกเหวตายคนเดียว)
"ไปถามคนทั้งซอยพิพัฒน์ 2 ได้เลยว่าใครทำ..กู (นางวิภา) ทำคนเดียว" ได้สิ เดี๋ยวนังปู คนที่ยืนช่วยขึ้นของ ยืนข้างตราชั่งช่วของขายของจะเอา..
"ไปถามคนทั้งซอยพิพัฒน์ 2 ได้เลยว่าใครทำ..กู (นางวิภา) ทำคนเดียว" ได้สิ เดี๋ยวนังปู คนที่ยืนช่วยขึ้นของ ยืนข้างตราชั่งช่วของขายของจะเอาพินัยกรรมที่ป๊า นายธรรมพล สุพรรณโกมุท เขียนยกที่ดินให้สุชาติ สุพรรณโกมุท บุตรชายคนโตของข้าพเจ้า ทั้งหมด ไปให้ชาวบ้านเขาดู แล้วจะถามคนทั้งซอยพิพัฒน์ 2 ที่ยังพอจะจำได้ เช่น ป้าณี บ้านแสงสุวรรณ พี่เจ้าของร้านเสริมสวยปากซอย อาแหมะ ร้านกาแฟ แหมะของเฮียย้ง ที่เราไปซื้อน้ำแข็งมือทุกวัน อาแหมะเขามาซื้อกับข้าวทุกวัน พี่โถ บ้านหมอชูช่วง.. ถ่ายสำเนาไว้แล้ว พินัยกรรม (กรรมของนังปู ทำแทบตายห่า..ต้องกลายเป็นหมาข้างถนน คนมาทีหลัง คนไม่ต้องทำงาน ได้ดีีมีความสุขกันทุกคน จบปริญญาโทนิด้า ทำลูกมารอรับมรดก)...
จดหมายที่จะส่งไป "คณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย" สมาคมชาวไร่อ้อยเขต 6 ถึง คุณเกียรติชัย และคุณทรงวุฒิ จงมีความสุข (ฉบับแก้ไขแล้ว)
ท่านแม่วิภา จงมีความสุข ต้องถาม "แล้วมีงจะเอายังไงกับกู มึงจะเอาอะไร ขายบ้านให้เงินมึงหมดเลยเอามั๊ย" ตอบ "เอาสิ เพราะนังปูช่วยพ่อแม่ทำมาหากินเลี้ยงพี่เลี้ยงน้อง ส่งเสียให้เรียนโรงเรียนดัดสันดานด้วย ต้องเอาแน่นอน"
ท่านแม่วิภา จงมีความสุข ต้องถาม "แล้วมีงจะเอายังไงกับกู มึงจะเอาอะไร ขายบ้านให้เงินมึงหมดเลยเอามั๊ย" ตอบ "เอาสิ เพราะนังปูช่วยพ่อแม่ทำมาหากินเลี้ยงพี่เลี้ยงน้อง ส่งเสียให้เรียนโรงเรียนดัดสันดานด้วย ต้องเอาแน่นอน" / * 1.เอาเงินค่ามอเตอร์ไซค์ รวม 3 คัน (เพราะคุณชายป๊อปได้ 2 คัน, คุณชายป้อม ได้ 1 คัน) นังปูช่วยทำงานคนเดียว.. ได้ค่ารถเมล์ ตอนนั้นคันละ 13,000 บาท รวมค่าน้ำมันอีก ... ถ้าเป็นตอนนี้ พย.55 ตกคันละ 40,000 บาท รวมค่าน้ำมัน 10,000 บาท รวมคันละ 50,000 บาท คิดเงิน 3 คัน รวมค่าน้ำมัน เป็นเงิน 50,000x3= 150,000 บาท * 2.ค่าเซ็นชื่อ "ไม่ขอรับมรดก" ให้คุณป๊อป สุชาติ สุพรรณโกมุท ได้เงินติดก้นบัญชี (หลังจากป๊าตายไปแล้วเกือบ 3 เดือน ) ได้เงินมา 7,000 บาท ถูกเกินไป..กับค่าที่ดิน 515 ตารางวา.. คิดเล่น ๆ ตร.วาละ 10,000 บาท ก็จะเป็นมูลค่า 515x10,000= 5,150,000 บาท (ห้าล้านหนึ่งแสนห้าหมื่นบาท) .. นังปู ลูกสาวคนเดียวที่ช่วยพ่อแม่ทำมาหากิน ตั้งแต่เด็ก ทำงานทุกอย่าง ถูกตีด้วย.. ต้องการ 10% ของราคาที่ดินของ 515 ตารางวา.. ถ้าจะให้ยุติธรรม. เอาราคาที่ดินของกรมที่ดินเลยก็ได้..ราคาแท้จริง *** 3.นังปู สุวรรณา สุพรรณโกมุท ต้องการเบิกเงินล่วงหน้เดือนละ 2,000 บาท จากอายุ 46-60 ปี เป็นเงิน 360,000 บาท เพราะอีกหน่อยคุณป๊อป สุชาติ สุพรรณโกมุท ถึงแก่กรรม หรือตาย หรือพิการ อาจขายที่ดิน ไม่มีบ้านให้เช่า ไม่มีรายได้.. มาให้เงินนังปูตามที่ป๊า นายธรรมพล สุพรรณโกมุท สั่งให้เงินมันใช้เดือนละพัน (ใจดีมากเลย) แต่คุณป๊อปแย้ง "เดือนละพันจะไปพอใช้อะไร ให้มันใช้เดือนละ 2,000" "อ้าว 2,000 ก็ 2,000" .. โดยที่ป๊า นายธรรมพล สุพรรณโกมุท ไม่ได้เขียนพินัยกรมคำสั่งเป็นลายลักษณ์อักษร ไม่เป็นเอกสารใด และไม่ได้ระบุว่า "จะต้องเพิ่มเงินให้สุวรรณา สุพรรณโกมุท ทุกปี จากเดือนละ 2,000 เป็นเดือนละ 3,000 บาท ในปีถัดไป และในปีถัดไป เพิ่มเป็นเดือนละ 4,000 ทุกเดือน" เพราะค่าเงินลดลง เช่น ราคาทองคำเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว บาทละ 12,000 บาท ราคา ณ ป้จจุบัน ปี 2555 ซื้อขายตกบาทละ 24,000-25,000 บาท ...และป๊า นายธรรมพล สุพรรณโกมุท ไม่ได้ระบุว่าจะให้เงินนังปู สุวรรณา สุพรรณโกมุท ไปจนถึงอายุเท่าไหร่ หรือจะให้ไปจนนังปูมันตาย... / นังปูต้องการเงินก้อน เอาไปลงทุนทำมาหากิน หาเลี้ยงเลี้ยงชีพ ดำรงชีวิตด้วยตัวเอง ไม่ได้หวัง ไม่ได้ต้องการให้ คนที่ถูกเรียกว่าเป็น "พี่ชาย" มาเลี้ยง.. เพราะทุกวันนี้ มันก็ขาพิการ ทำมาหากิน ทำงานหนักไม่ได้ ท่านแม่กลัวมันตาย.. ให้เอาเงินจากค่าเช่าบ้าน ที่ได้รับมรดก(โฉนดมีชื่อสุชาติ สุพรรณโกมุท เป็นเจ้าของ มากอดไว้คนเดียว) สุดท้ายมันตายก็เป็นของลูก(ยูริ) เมีย (คุณนายเยาวพันธ์) ... คนที่มาทีหลัง ไม่ต้องทำอะไรเลย ได้ไปจนหมด ขึ้นสวรรค์กันยกทีม.. ส่วนนังปู ทำงานให้เป็นวัวเป็นควาย.. สุดท้ายไม่ได้อะไร เหตุผลสุดวิเศษคือ "มันไม่ได้อยู่ดูแลเตี่ยมัน ตอนตายมันก็ไม่ได้อยู่" แต่พวกมึงทำไมไม่พูด "ตอนกูไปอยู่กับเขา เขาไม่ได้อยากให้กูอยู่ด้วย พวกมึงรู้ว่า เขาอยู่กับอีดอก กูกลับมาเขาก็ดีใจ ตอนหลังไปขอเงิน ยืนรอข้างกำแพงบ้าน เขาให้ค่ารถกู 20 บาท ค่ารถตู้ออกมาก็ 10บาทแล้ว ไม่มีเงินเลยแม้แต่สลึงเดียวติดตัว.. ต้องอ้อนวอน ขอเปลี่ยนจากแบงค์ 20 เป็นเงิน 200 บาท.. ป๊าเขาบอก "ไม่ต้องมา ไม่ต้องมา เดี๋ยวผู้หญิงไม่ซื่อสัตย์ นั่งกอดเอวกันกลม.. เดี๋ยวป๊าส่งเงินไปให้ ไปเปิดบัญชี และเอาสำเนาหน้าบัญชีมาให้ป๊า ...อีกเดือนกว่า ๆ ม๊าให้เงินมา แต่เอาไปกินบ้างส่วน เงินไม่พอเปิดบัญชี โทร.เข้าเครื่องป๊า เป็นเกือบ 100 สาย ป๊าไม่รับสาย พอรับสาย ขอให้ป๊ามาช่วยออกเงินอีกนิดหน่อย เปิดบัญชีให้หน่อย ป๊าจะได้โอนเงินให้เค้า นั่งรออยู่หน้าธ.ทหารไทย ตลาดมีนบุรี ป๊าบอก "ป๊าออกไปไม่ได้ ไม่มีคนเฝ้าร้าน ผู้หญิงเฝ้าร้านคนเดียวไม่ได้ ทำไมเหลวไหลอย่างนี้ เอาเงินไปกิน ทำไมไม่เปิดบัญชี เหลวไหลจริง ๆ" นังปูนั่งรออีกเป็นชั่วโมง ปวดฉี่ กินน้ำเซ่เว่น โค้กแก้วเล็ก แก้วเดียวแสบท้องไม่มีเงินกินข้าว นั่งรอที่ป้ายรถเมล์ อีก 2 ชั่วโมง นั่งมองรถที่จะยูเทิร์นมาว่าเป็นรถกระบะของป๊าหรือเปล่า แต่แล้วก็สิ้นหวัง ไม่มีวี่แวว.. (เตียมไว้อยู่แล้ว.. ว่าต้องเป็นอย่างนี้แน่นอน.. ค่ารถแอร์สาย 514 นั่งรถกลับไปที่บ้านร้านผักไปขอทานท่านแม่วิภา จงมีความสุข) ตอนกลับจากบ้านป๊าที่ปากซอยประชาร่วมใจ 43 ท่านแม่ด่า "กลับมาทำไม กลับมาทำไม ทำไมไม่ขายของให้รวย ๆ ไปทะเลาะกับยาม อยู่กับเตี่ยมึงสิ ..ขายของให้มันเห็น ขายให้มันเห็นว่าขายรวย รวย" ... / ตอนที่อยู่บ้านป๊า 2 เดือน ตื่นเช้าก็จับไม้กวาดทั้งพื้นทั้งบ้าน เก็บก้นบุรีที่โต๊ะสนุ๊กทิ้งให้หมด จัดของเรียงนม กระทิงแดง เอ็ม150 เข้าตู้เย็นให้เต็ม เอาของเก่าออกก่อน ของใหม่ใส่ไว้ข้างใน เพราะจะเย็นช้า.. หยิบกาแฟกระป๋องขาย ตวงเหล้าใส่ขวดกระทิงแดง ขาย .. ตวงเหล้าเป็นเป๊กให้ตาแก่ขี้เมา พูดจาแทะโลม.. ไปตลาดซื้อข้าวที่ป๊าอยากกิน ราดหน้าที่ บิ๊กซี.. ซื้อของมาขาย ลูกอม แกะถุงใส่ขวดโหล ขายน้ำขวดเป๊ปซีใส่น้ำแข็ง ขาย ขายบุหรี่ ขายเหล้า (เขาก็จุดบุหรี่ดูดตรงนั้น ต้องเอาผ้าอุดจมูก) 2 เดือนที่อยู่ช่วยขายของป๊า.. ไม่เคยได้รับค่าจ้าง ไม่เคยขอค่าแรง จะมีก็เอาเงินในเก๊ะไปซื้อกับข้าว ซื้อกระทะมาผัดหอยลายให้ป๊ากิน ซื้อทีละโล เจ้าประจำแม่ค้าจำหน้าได้แล้ว... ป๊าเก็บค่าเช่าห้องที่หนองจอก ก็ไม่เคยแบ่งให้แม้แต่บาทเดียว... ตื่นเช้าก่อน 6 โมง (ป๊าตืนแล้ว) อยู่ช่วยขายของจนถึงทุ่มสองทุ่ม / นังปู กูถือว่ากูทำให้พ่อทำให้ ทำให้พี่ ทำให้น้อง ครบถ้วนสมบูรณ์ทุกหน้าที่แล้ว.. ต่อไป จะเป็นจะตาย.. ก็อยู่ที่พวกมึง.. กูไม่มีอะไรจะเสีย.. เพราะกูก็ไม่มีอะไรจะได้.. คนที่ไม่ต้องทำ ได้กันไปจนหมด คนมาทีหลังก็ได้กันไปจนหมด.. เหลือหมาข้างถนน นังปู สุวรรณา สุพรรณโกมุท ตัวเดียว.. ที่จะต้องอดตาย.. หรือถ้าไม่อยากอดตาย ต้องยอมไปช่วยขายของ หาเงินค่าแรงวันละ 200 (แล้วถ้าให้วันละ 300 จะพอมั๊ย) ... ต้องทำมาหากินเลี้ยงตัวเองอีกอยู่ดี.. สัญญาเช่ากรมธนารักษ์ บ้านเช่าร้านผักซอยพิพัฒน์ 2 ปีต่อปี ถามท่านแม่ "แล้วถ้าเขาไล่ที่ เค้าจะไปทำมาหากินอะไรต่อ" ท่านแม่วิภา จงมีความสุข ไม่มีคำตอบใด ๆ ให้ ตอบแค่อ้อมแอ้ม "ไปขายของที่หนองจอก" ซึ่งจริง ๆ แล้ว เขาไม่อยากให้ไป เดี๋ยวจะไปทำร้าย ทะเลาะกับลูกปีอป (คือลูกสาวคนเดียว จะไปทำร้ายลูกชายคนโตของเค้า) ... / ขนาด เชงเม้ง ป๊าตายครบปี จะไปไหว้ที่ป๊าที่บ้านปากซอยบึงนายพล ท่านแม่วิภา ยังพูดว่า "จะไปเหรอ อย่าไปทะเลาะกับไอป๊อปก็แล้วกัน" ...
เขียนโดย fannyknit ที่ 22:31 ไม่มีความคิดเห็น:
ท่านแม่วิภา จงมีความสุข ต้องถาม "แล้วมีงจะเอายังไงกับกู มึงจะเอาอะไร ขายบ้านให้เงินมึงหมดเลยเอามั๊ย" ตอบ "เอาสิ เพราะนังปูช่วยพ่อแม่ทำมาหากินเลี้ยงพี่เลี้ยงน้อง ส่งเสียให้เรียนโรงเรียนดัดสันดานด้วย ต้องเอาแน่นอน"
ท่านแม่วิภา จงมีความสุข ต้องถาม "แล้วมีงจะเอายังไงกับกู มึงจะเอาอะไร ขายบ้านให้เงินมึงหมดเลยเอามั๊ย" ตอบ "เอาสิ เพราะนังปูช่วยพ่อแม่ทำมาหากินเลี้ยงพี่เลี้ยงน้อง ส่งเสียให้เรียนโรงเรียนดัดสันดานด้วย ต้องเอาแน่นอน" /
*
1.เอาเงินค่ามอเตอร์ไซค์ รวม 3 คัน (เพราะคุณชายป๊อปได้ 2 คัน, คุณชายป้อม ได้ 1 คัน) นังปูช่วยทำงานคนเดียว.. ได้ค่ารถเมล์ ตอนนั้นคันละ 13,000 บาท รวมค่าน้ำมันอีก ... ถ้าเป็นตอนนี้ พย.55 ตกคันละ 40,000 บาท รวมค่าน้ำมัน 10,000 บาท รวมคันละ 50,000 บาท คิดเงิน 3 คัน รวมค่าน้ำมัน เป็นเงิน 50,000x3= 150,000 บาท * 2.ค่าเซ็นชื่อ "ไม่ขอรับมรดก" ให้คุณป๊อป สุชาติ สุพรรณโกมุท ได้เงินติดก้นบัญชี (หลังจากป๊าตายไปแล้วเกือบ 3 เดือน ) ได้เงินมา 7,000 บาท ถูกเกินไป..กับค่าที่ดิน 515 ตารางวา.. คิดเล่น ๆ ตร.วาละ 10,000 บาท ก็จะเป็นมูลค่า 515x10,000= 5,150,000 บาท (ห้าล้านหนึ่งแสนห้าหมื่นบาท) .. นังปู ลูกสาวคนเดียวที่ช่วยพ่อแม่ทำมาหากิน ตั้งแต่เด็ก ทำงานทุกอย่าง ถูกตีด้วย.. ต้องการ 10% ของราคาที่ดินของ 515 ตารางวา.. ถ้าจะให้ยุติธรรม. เอาราคาที่ดินของกรมที่ดินเลยก็ได้..ราคาแท้จริง *** 3.นังปู สุวรรณา สุพรรณโกมุท ต้องการเบิกเงินล่วงหน้า เืดือนละ 2,000 บาท จากอายุ 46-60 ปี เป็นเงิน 360,000 บาท เพราะอีกหน่อยคุณป๊อป สุชาติ สุพรรณโกมุท ถึงแก่กรรม หรือตาย หรือพิการ อาจขายที่ดิน ไม่มีบ้านให้เช่า ไม่มีรายได้.. มาให้เงินนังปูตามที่ป๊า นายธรรมพล สุพรรณโกมุท สั่่งให้เงินมันใช้เดือนละพัน (ใจดีมากเลย) แต่คุณป๊อปแย้ง "เดือนละพันจะไปพอใช้อะไร ให้มันใช้เดือนละ 2,000" "อ้าว 2,000 ก็ 2,000" .. โดยที่ป๊า นายธรรมพล สุพรรณโกมุท ไม่ได้เขียนพินัยกรมคำสั่งเป็นลายลักษณ์อักษร ไม่เป็นเอกสารใด และไม่ได้ระบุว่า "จะต้องเพิ่มเงินให้สุวรรณา สุพรรณโกมุท ทุำกปี จากเดือนละ 2,000 เป็นเดือนละ 3,000 ในปีัถัดไป และในปีถัดไป เพิ่มเป็นเดือนละ 4,000 ทุกเดือน" เพราะค่าเงินลดลง เช่น ราคาทองคำเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว บาทละ 12,000 บาท ราคา ณ ป้จจุบัน ปี 2555 ซื้อขายตกบาทละ 24,000-25,000 บาท ...และป๊า นายธรรมพล สุพรรณโกมุท ไม่ได้ระบุว่าจะให้เงินนังปู สุวรรณา สุพรรณโกมุท ไปจนถึงอายุเท่าไหร่ หรือจะให้ไปจนนังปูมันตาย... / นังปูต้องการเงินก้อน เอาไปลงทุนทำมาหากิน หาเลี้ยงเลี้ยงชีพ ดำรงชีวิตด้วยตัวเอง ไม่ได้หวัง ไม่ได้ต้องการให้ คนที่ถูกเรียกว่าเป็น "พี่ชาย" มาเลี้ยง.. เพราะุทุกวันนี้ มันก็ขาพิการ ทำมาหากิน ทำงานหนักไม่ได้ ท่านแม่กลัวมันตาย.. ให้เอาเงินจากค่าเช่าบ้าน ที่ได้รับมรดก(โฉนดมีชื่อสุชาติ สุพรรณโกมุท เป็นเจ้าของ มากอดไว้คนเดียว) สุดท้ายมันตายก็เป็นของลูก(ยูริ) เมีย (คุณนายเยาวพันธ์) ... คนที่มาทีหลัง ไม่ต้องทำอะไรเลย ได้ไปจนหมด ขึ้นสวรรค์กันยกทีม.. ส่วนนังปู ทำงานให้เป็นวัวเป็นควาย.. สุดท้ายไม่ได้อะไร เหตุผลสุดวิเศษคือ "มันไม่ได้อยู่ดูแลเตี่ยมัน ตอนตายมันก็ไม่ได้อยู่" แต่พวกมึงทำไมไม่พูด "ตอนกูไปอยู่กับเขา เขาไม่ได้อยากให้กูอยู่ด้วย พวกมึงรู้ว่า เขาอยู่กับอีดอก กูกลับมาเขาก็ดีใจ ตอนหลังไปขอเงิน ยืนรอข้างกำแพงบ้าน เขาให้ค่ารถกู 20 บาท ค่ารถตู้ออกมาก็ 10บาทแล้ว ไม่มีเงินเลยแม้แต่สลึงเดียวติดตัว.. ต้องอ้อนวอน ขอเปลี่ยนจากแบงค์ 20 เป็นเงิน 200 บาท.. ป๊าเขาบอก "ไม่ต้องมา ไม่ต้องมา เดี๋ยวผู้หญิงไม่ซื่อสัตย์ นั่งกอดเอวกันกลม.. เดี๋ยวป๊าส่งเงินไปให้ ไปเปิดบัญชี และเอาสำเนาหน้าบัญชีมาให้ป๊า ...อีกเดือนกว่า ๆ ม๊าให้เงินมา แต่เอาไปกินบ้างส่วน เงินไม่พอเปิดบัญชี โทร.เข้าเครื่องป๊า เป็นเกือบ 100 สาย ป๊าไม่รับสาย พอรับสาย ขอให้ป๊ามาช่วยออกเงินอีกนิดหน่อย เปิดบัญชีให้หน่อย ป๊าจะได้โอนเงินให้เค้า นั่งรออยู่หน้าธ.ทหารไทย ตลาดมีนบุรี ป๊าบอก "ออกไปไ่ม่ได้ ไม่มีคนเฝ้าร้าน ผู้หญิงเฝ้าร้านคนเดียวไม่ได้ ทำำไมเหลวไหลอย่างนี้ เอาเงินไปกิน ทำไมไม่เปิดบัญชี เหลวไหลจริง ๆ" นังปูนั่งรออีกเป็ันชั่วโมง ปวดฉี่ กินน้ำเซ่เว่น โค้กแก้วเล็ก แก้วเดีียว นั่งรอที่ป้ายรถเมล์ อีก 2 ชั่วโมง นั่งมองรถที่จะยูเทิร์นมาว่าเป็นรถกระบะของป๊าหรือเปล่า แต่แล้วก็สิ้นหวัง ไม่มีวี่แวว.. (เตียมไว้อยู่แล้ว.. ว่าต้องเป็นอย่างนี้แน่นอน.. ค่ารถแอร์สาย 514 นั่งรถกลับไปที่บ้านร้านผักไปขอทานท่านแม่วิภา จงมีัความสุข) ตอนกลับจากบ้านป๊าที่ปากซอยประชาร่วมใจ 43 ท่านแม่ด่า "กลับมาทำไม กลับมาทำไม ทำไมไม่ขายของให้รวย ๆ ไปทะเลาะกับยาม อยู่กับเตี่ยมึงสิ ..ขายของให้มันเห็น ขายให้มันเห็นว่าขายรวย รวย" ... / ตอนที่อยู่บ้านป๊า 2 เดือน ตื่นเช้าก็จับไม้กวาดทั้งพื้นทั้งบ้าน เก็บก้นบุรีที่โต๊ะสนุ๊กทิ้งให้หมด จัดของเรียงนม กระทิงแดง เอ็ม150 เข้าตู้เย็นให้เต็ม เอาของเก่าออกก่อน ของใหม่ใส่ไว้ข้างใน เพราะจะเย็นช้า.. หยิบกาแฟกระป๋องขาย ตวงเหล้าใส่ขวดกระทิงแดง ขาย .. ตวงเหล้าเป็นเป๊กให้ตาแก่ขี้เมา พูดจาแทะโลม.. ไปตลาดซื้อข้าวที่ป๊าอยากกิน ราดหน้าที่ บิ๊กซี.. ซื้อของมาขาย ลูกอม แกะถุงใส่ขวดโหล ขายน้ำขวดเป๊ปซีใส่น้ำแข็ง ขาย ขายบุหรี่ ขายเหล้า (เขาก็จุดบุหรี่ดูดตรงนั้น ต้องเอาผ้าอุดจมูก) 2 เดือนที่อยู่ช่วยขายของป๊า.. ไม่เคยได้รับค่าจ้าง ไม่เคยขอค่าแรง จะมีก็เอาเงินในเก๊ะไปซื้อกับข้าว ซื้อกระทะมาผัดหอยลายให้ป๊ากิน ซื้อทีละโล เจ้าประจำแม่ค้าจำหน้าได้แล้ว... ป๊าเก็บค่าเช่าห้องที่หนองจอก ก็ไม่เคยแบ่งให้แม้แต่บาทเดียว... นังปู กูถือว่ากูทำให้พ่อทำให้ ทำให้พี่ ทำให้น้อง ครบถ้วนสมบูรณ์ทุกหน้าที่แล้ว.. ต่อไป จะเป็นจะตาย.. ก็อยู่ที่พวกมึง.. กูไม่มีอะไรจะเสีย.. เพราะกูก็ไม่มีอะไรจะได้.. คนที่ไม่ต้องทำ ได้กันไปจนหมด คนมาทีหลังก็ได้กันไปจนหมด.. เหลือหมาข้างถนน นังปู สุวรรณา สุพรรณโกมุท ตัวเดียว.. ที่จะต้องอดตาย.. หรือถ้าไม่อยากอดตาย ต้องยอมไปช่วยขายของ หาเงินค่าแรงวันละ 200 (แล้วถ้าให้วันละ 300 จะพอมั๊ย) ... ต้องทำมาหากินเลี้่ยงตัวเองอีกอยู่ดี.. สัญญาเช่ากรมธนารักษ์ บ้านเช่าร้านผักซอยพิพัฒน์ 2 ปีต่อปี ถามท่านแม่ "แล้วถ้าเขาไล่ที่ เค้าจะไปทำมาหากินอะไรต่อ" ท่านแม่วิภา จงมีความสุข ไม่มีคำตอบใด ๆ ให้ ตอบแค่อ้อมแอ้ม "ไปขายของที่หนองจอก" ซึ่งจริง ๆ แล้ว เขาไม่อยากให้ไป เดี๋ยวจะไปทำร้าย ทะเลาะกับลูกปีอป (คือลูกสาวคนเดียว จะไปทำร้ายลูกชายคนโตของเค้า) ... / ขนาด เชงเม้ง ป๊าตายครบปี จะไปไหว้ที่ป๊าที่บ้านปากซอยบึงนายพล ท่านแม่วิภา ยังพูดว่า "จะไปเหรอ อย่าไปทะเลาะกับไอป๊อปก็แล้วกัน" ...
สุชาติ สุพรรณโกมุท ได้รถมอเตอร์ไซค์ผู้ชาย "kawasaki" 1 คัน ตอนหลังไปเทิร์นเป็นมอเตอร์ไซค์ผู้หญิง 1 คัน แม่เปลี่ยนรถให้ใหม่
สุชาติ สุพรรณโกมุท ได้รถมอเตอร์ไซค์ผู้ชาย "kawasaki" 1 คัน ตอนหลังไปเทิร์นเป็นมอเตอร์ไซค์ผู้หญิง 1 คัน แม่เปลี่ยนรถให้ใหม่ เท่ากับลูกป๊อป สุชาติ สุพรรณโกมุท ไ้ด้มอเตอร์ไซค์ 2 คัน / สุเทพ สุพรรณโกมุท ได้มอเตอร์ไซค์ ขี่จากบ้านร้านผักซอยพิพัฒน์ 2 ไปเรียนที่บพิตภิมุข ทุ่มหาเมฆ 1 คัน ตอนหลังรถพัง.. รวมเป็นท่านแม่วิภา จงมีความสุข ให้รถมอเตอร์ไซค์ รวม 3 คัน แก่ ลูกป๊อปและลูกป้อม..ส่วนนังปู ได้ค่ารถเมล์ไปเรียนหนังสือ / ป๊า ม๊า กลับจากตลาดวงเวียนใหญ่ เอาไม้เต๊กกอกระทุ้งใต้เหลาเต๊ง.. ตื่น ๆ ๆ ทำงาน อย่ามัวแต่นอนกินบ้านกินเมือง ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ มีนังปูตื่นคนเดียวลุกขึ้นมาช่วยทำงาน ขึ้นของ.. ลูกป๊อป ลูกป้อม ทำอะไร อยู่ที่ไหน..
"ค่าเช่าบ้าน มึงเอาไปให้หมดเลยมั๊ย" ถามหมา ๆ ก็ตอบหมา ๆ ว่า "เอา" แต่จะให้เหรอ..
"ค่าเช่าบ้าน มึงเอาไปให้หมดเลยมั๊ย" ถามหมา ๆ ก็ตอบหมา ๆ ว่า "เอา" แต่จะให้เหรอ.. /
น้ำท่วมบ้านรักผัก กูก็เอาปุ้งเต้าตักน้ำออกจากบ้าน ตักเรื่อย ๆ ไม่หยุดมือ จนฝนหยุดตก ลูกป๊อป ลูกป้อม ทำอะไร อยูที่ไหน
น้ำท่วมบ้านร้านผัก กูก็เอาปุ้งเต้าตักน้ำออกจากบ้าน ตักเรื่อย ๆ ไม่หยุดมือ จนฝนหยุดตก ลูกป๊อป ลูกป้อม ทำอะไร อยู่ที่ไหน / ขุดถนนทำท่อประปา กูไปตลาดวงเวียนใหญ่ หิ้วตะกร้า เอาของเข้าบ้านรักผัก เอาของออกหมดแล้ว หิ้วตะกร้าไปขนของที่รถตู้โตโยตาสีขาว ปากซอย ฝั่งซอยพิพัฒน์ ป๊าจอดรถปากซอย เดินขนของ เดินเข้าเดินออก ขนของจนหมด.. ลูกป๊อป ลูกป้อม..ทำอะไร อยู่ที่ไหน / ป๊าทำตู้ม้า ตู้เกม กูอยู่เฝ้าร้าน แลกเหรียญให้ลูกค้า ไม่เคยเม้มเงิน ไม่เคยของค่าแรง ไม่เคยขอค่าจ้าง ลูกป๊อป ลูกป้อม ทำอะไร อยู่ที่ไหน /
"ทำประกันอัคคีภัยหรือยังครับ" ท่านแม่วิภา จงมีความสุข.. ไฟแช็คมาแล้วนะคะ.. เดี๋ยวกลับไปซื้อ "น้ำมันก๊าด" ขวดละ 50 บาท เชื้อเพลิงพร้อม กระดาษหนังสือพิมพ์เพียบ
"ทำประกันอัคคีภัยหรือยังครับ" ท่านแม่วิภา จงมีความสุข.. ไฟแช็คมาแล้วนะคะ.. เดี๋ยวกลับไปซื้อ "น้ำมันก๊าด" ขวดละ 50 บาท เชื้อเพลิงพร้อม กระดาษหนังสือพิมพ์เพียบ ซื้อตอนนี้ก็หิ้วหนักเปล่า ๆ ...
*
วันนี้หุงข้าว ใส่กล่องออกนอกบ้าน (หากับเอาข้างนอก) 2 กล่อง
วันนี้หุงข้าว ใส่กล่องออกนอกบ้าน (หากับเอาข้างนอก) 2 กล่อง ไม่ไหวนรกดาดฟ้ามันร้อนมาก นี่ยังไม่หน้าร้อนนะเนี่ย.. ถ้าถึงหน้าร้อน ก่อนกุมภาก็ร้อนแล้ว.. ต้องตับแตกตายห่าคาห้องนรกดาดฟ้าเป็นแน่แท้...
หลังชนฝา หมาจนตรอก.. ไม่มีจะกินแล้ว.. อย่าว่าแต่จะทำมาหากินเร้ย.. หลานสาวสุดที่รัก "ยูริ" ผู้คาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิด เรียนโรงเรียนสองภาษา
หลังชนฝา หมาจนตรอก.. ไม่มีจะกินแล้ว.. อย่าว่าแต่จะทำมาหากินเร้ย.. หลานสาวสุดที่รัก "ยูริ" ผู้คาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิด เรียนโรงเรียนสองภาษา (นี่ขนาดไม่ถึง โรงเรียน Inter นะเนี่ย) แต่อ้างว่า "2 หน่อไม่ต้องกินรึไง" กูสิ "ไม่ต้องแดก" ทั้งขู่ "2 พัน กูก็จะไม่ให้ไอป๊อปมันโอนให้มึง ไม่ต้องแดก" / "มึงไม่ไปช่วยกูขายของใช่มั๊ย งั้นกูจะขายบ้านหลังนี้ ไม่ต้องอยู่กัน" ตามสบาย ไม่ใช่บ้านกู โฉนดก็เป็นของมึง.. กูอาศัยได้แค่นรกดาดฟ้า ร้อนจะตายห่า ก็บุญหัวแล้ว.. ถ้าตอนเด็ก ๆ ได้ทำงานเป็นควายช่วยหาเลี้ยงพวกมึงทั้งครอบครัว.. ตอนนี้กูคงถูไล่ออกจากนรกดาดฟ้า ไปตัวดำมอมแมม สกปรก รกรุงรัง เหม็น นอนตามใต้สะพานลอย หรือไม่ก็นั่งขอทาน เดินเก็บของเก่า เศษขวด ขายแ้ล้วมั๊ง ...ส่วนน้องหนู Lyhn Pimpa Suphankomut ก่อนมาก็ถึงประตูบ้าน 68/16 ซอยบุญอยู่ ถ.ดินแดง ก็มีเก๋งฮอนด้าของพี่ชายที่แสนดีไปรับมาส่งหน้าบ้าน.. อยู่ก็ห้องชั้น 4 ไม่ต้องไปเสียค่าเช่า ไม่เสียค่าน้ำ ไม่เสียค่าไฟ มีทีวี(เก่าหน่อย) ก็ยังได้ดู มีเครื่องซักผ้าให้ใช้.. มีที่ตากผ้าให้ตาก.. มีเงินส่งให้เรียนปริญญาโท นิด้า บริหารธุรกิจ... มีเงินรายเดือนให้ใช้เสิร์ฟถึงหน้าประตูห้องนอน.. ถ้าไม่ใช่พี่ป๊อป น้องหนูหลิน ก็ไม่เปิดประตูให้ใครเลย..
"จะเผาบ้าน" สิ้มบอก "ไม่เอานะ อย่าทำ ใจเย็น ๆ ยังไงเขาก็เป็นแม่เรา"
"จะเผาบ้าน" สิ้มบอก "ไม่เอานะ อย่าทำ ใจเย็น ๆ ยังไงเขาก็เป็นแม่เรา" / "สิ้มไม่เอา แต่ปูเอา.. เพราะเราไม่ใช่ลูกเขา.. ทำงานให้พวกมันทุกอย่าง.. สุดท้าย หมาคาบไปแดก ..อีนัง Lhyn Pimpa Suphankomut เป็นใครมาจากไหน..งานไม่ต้องทำอะไรแม้แต่อย่างเดียว.. ได้เงินยืม (หรือให้ฟรี) ก็ไม่รู้ ไปเรียนจนจนปริญญาโท.. เช้าไปเรียน ค่ำกลับ.. "อย่าไปว่าเขา เขาใช้ไม่เท่าไหร่" 4 ปีท่่านผ่านมา.. ออกจากบ้าน ค่าครองชีพ ค่ารถ ค่าเรือ ค่ากิน ถ้าไม่มีวันละ 200 หรือเดือนละ 6,000 บาท ออกจากบ้านได้เหรอ.. ไหนจะซื้ออุปกรณ์การเีรียน ค่าเครื่องเขียน ค่าเสื้อผ้า ค่าหนังสือ จบปริญญาโท..ไอ้ที่ว่าใช้ไม่เท่าไหร่น่ะ มันแค่ พันสองหันรึไง... อย่างน้อยก็ต้องเหยียบ 3 แสนบาท.. หาส่งมันได้.. แต่นังปูเป็นลูกสาวคนเดียวแท้ ๆ ออกมาจากรูเขาเลย (ไม่แน่ใจแล้วตอนนี้) ... อย่าว่าจะขอเงินฟรี ๆ มาลงทุนมาหากินเร้ย.. ขอยืมแค่ไม่กี่บาทยังไม่ได้ให้เลย.. แต่ทำงานเป็นวัวเป็นควายให้ได้.. ตอนนี้เจ็บป่วย มันก็จะยังจิกกะบาลให้เราไปทำงานเป็นทาส เป็นหมาเฝ้าสมบัติ เพื่อแลกกับค่าแรงวันละ 200 บาท (ตอนนี้ขึ้นให้เป็นวันละ 300 จะพอมั๊ย..ถามเหมือนเราใช้ล้างใช้ผลาญ เท่าไหร่ก็ไม่พอ.. เราขอทานเขาคุณแม่วิภา จงมีความสุข เดือนละ 4,000 บาท... แต่น้องหนู Lyhn Pimpa Suphankomut /ได้อยู่ดีกว่า กินก็น่าจะดีกว่า มีเงินนั่งมอเตอร์ไซค์เข้าออกซอย 2 เที่ยว วันละ 20 บาท.. ไอ้เราต้องเดินเข้าออกซอย นอกจากวันไหนรีบ หรือแดดร้อนมาก ก็ต้องยอมควักเนื้อเสียค่ารถมอเตอรไซค์ 10 บาท.. (ได้แค่เที่ยวเดียวเท่านั้น)...
"บัตรประกันสุขภาพ 30 บาท" ไม่มีซองเอกสารในตู้จดหมาย ไม่มีบนโต๊ะในบ้าน อาการปัจจุบันวันนี้ เจ็บคอ ตัน ๆ เหมือนมีเสมหะ แต่ก็ไอไม่ออก ไม่มีเงินไปรักษา 30 บาท
อาการปัจจุบันวันนี้ เจ็บคอ ตัน ๆ เหมือนมีเสมหะ แต่ก็ไอไม่ออก ไม่มีเงินไปรักษา 30 บาท / ไม่มีซองบัตรประกันสุขภาพ 30 บาท ส่งมาที่บ้าน 68/16 ซอยบุญอยู่
Central Chidlom มีห้องเปลี่ยนผ้าอ้อมเด็กด้วย สะดวก สมบูรณ์ ทุกอย่างเหมาะกับเด็กเล็กมา ๆ เลย
Central Chidlom มีห้องเปลี่ยนผ้าอ้อมเด็กด้วย สะดวก สมบูรณ์ ทุกอย่างเหมาะกับเด็กเล็กมา ๆ เลย.. อยากพาลูกไปเดินเล่น shopping แต่ตอนนี้ลูกโตแล้ว อีก 14 วัน ลูกชาก็ครบ 8 ขวบพอดี...
วันศุกร์ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555
"Chanel" Central Chidlom มหกรรมชันแนลหรืออย่างไร ช่างแต่งหน้า ลูกค้าสาวมาแต่งหน้าสวย...
"Chanel" Central Chidlom มหกรรมชันแนลหรืออย่างไร ช่างแต่งหน้า ลูกค้าสาวมาแต่งหน้าสวย... / เครื่องสำอางน่าซื้อมาก ๆ เลย
Central Chidlom เป็นห้องน้ำที่ดีที่สุดที่เคยเข้ามาในรอบอายุ 45 ปี
Central Chidlom เป็นห้องน้ำที่ดีที่สุดที่เคยเข้ามาในรอบอายุ 45 ปี / แอร์เย็นฉ่ำ โถชักโครก นั่งสูง เหมาะกับชาวต่างประเทศเป็นอย่างยิ่ง อุ๊ย..มีห้องนั่งพักผ่อนรอ.. เป็นเก้าอี้โซฟา ยาว..ว..ว... นิ่ม ๆ (ไม่ได้ลองนั่งหรอก) ... มีสุภาพสตรีนั่งกดมือถือ รอสบาย ๆ ... เด็ดสุด Liquid Soap * Jasmine * Rice * Mint ที่ขวด (แต่กลิ่นนำ ๆ ก็ใกล้เีคีียงกลิ่นมะลิ กับข้าว) ก้นขวดติดกับหินอ่อนซิงค์ คงติดด้วยกาวติดตู้ปลา (ซิลิโคนใส ..หรืออาจไม่ใช่ แต่กาวใส ..กาวติดตู้ปลา ไปเดินหาแถวร้านขายอุปกรณ์เกี่ยวกับเลี้ยงปลา ในห้างก็ีมี เคยซื้ออยู่.. ที่มี๊ด MJ เขาใช้กาวใสทาผนังกับขอบอ่างล้างชาม ซีลกันน้ำที่กระเด็นเข้าผนัง คือน้ำกระเด็นโดนผนังครัวแล้ว หยดน้ำก็จะไหลลงอย่างซิงค์ ชอบไอเดียนี้มั่ก ๆ
**** แสดงว่ากาวซิลิโคนตู้ปลา ติดขวดพลาสติกได้.. กาวตราช้าง hotmelt กาวแท่ง ไม่เคยลอง...
ฝรั่งเครียดไม่มีเงินจ่ายค่าโรงแรม ปีนเสา ตกลงมาตาย.. คนผูกขอตาย
ฝรั่งเครียดไม่มีเงินจ่ายค่าโรงแรม ปีนเสา ตกลงมาตาย.. คนผูกขอตาย...ลูกชายฆ่าพ่อ...ลูกชายฆ่าแม่.. / ส่วนกู NangPOO Suwanna Suphankomut จะฆ่าใครดี..ที่ทำให้กูต้องเป็นอย่างนี้... ฆ่าตัวเอง ฆ่าพ่อ (พ่อตายไปแล้วไม่ต้องฆ่า) ฆ่าแม่ (น่าสนใจ..เพราะยังมีลมหายใจอยู่) ฆ่าพี่ (ไม่ต้องหรอก..มันไม่แก่ตายอยู่แล้ว) ฆ่าน้อง..(ชั่วมันเถอะ มันใจร้อนของมันแบบที่แม่มันสอน..ก็คงเหมือนแม่มันแหละ) .... เผา้บ้านดีกว่า เผาวันละชิ้น 2 ชิ้น วันไหน Jackpot ไปติดอะไรสักชิ้น ที่เป็นเชื้อเพลิง แล้วลุกลาม ก็คงจะมันไปอีกแบบหนึี่่ง.. เรือนจำบางขวาง แดน 5 เตรียมต้อนรับ นังปู สุวรรณา สุพรรณโกมุท เป็นสมาชิกได้เร้ย..ย..
Lyhn Pimpa Suphankomut วาสนาดี พี่ POP Suchart Suphankomut / พาหนีออกจากนรก /ซาโกวเขาเลี้ยงเธอ กินดี อยู่ดี หนีเที่ยวขนาดนี้ ยังเป็นนรกสำหรับเธออีกเรอะ...
Lhyn Pimpa Suphankomut วาสนาดี พี่ POP Suchart Suphankomut / พาหนีออกจากนรก /ซาโกวเขาเลี้ยงเธอ กินดี อยู่ดี หนีเที่ยวขนาดนี้ ยังเป็นนรกสำหรับเธออีกเรอะ.../ ฉันนี่สิ นรกดาดฟ้าของแท้.. ไม่มีพี่ชายที่แสนดี ขับรถเก๋งพาหนีออกจากนรก ต้องทนอยู่ต่อไป.. ร้อนให้ตายห่า ก็ต้องอยู่ .. Lyhn Pimpa Suphankomut
โจ๊กอร่อยปากซอยวัดตะพาน มีทั้งฝั่งถ.ดินแดง และถ.ราชปรารถ หน้า 7-11
โจ๊กอร่อยปากซอยวัดตะพาน มีทั้งฝั่งถ.ดินแดง และถ.ราชปรารถ หน้า 7-1 / ซื้อตามสะดวก ในซอยก็มีอีกหลายเจ้า อาแปะ เขาก็บอกว่าอร่อย..มีน้ำเต้าหู้ เต้าฮวย.. ฝั่งถ.ดินแดง..
ตลาดวัดตะพาน เข้าฝั่งถนนดินแดง แกงส้ม แกงหน่อไม้ดอง อร่อย แม่ค้าใจดี
ตลาดวัดตะพาน เข้าฝั่งถนนดินแดง แกงส้ม แกงหน่อไม้ดอง อร่อย แม่ค้าใจดี / แกงหน่อไม้ดอง ไม่เอาไก่ ก็ตามใจ แกงส้มไม่เอาแตงโมอ่อน แม่ค้าก็พยาย๊าม..พยายาม ช้อนแต่ดอกแก กะถั่วฝักยาว.. ไข่ปลาอร่อยมาก..(เกรงใจคนรอข้างหลังอ่ะ) เมื่อวานเพิ่งแกงสายบัวไป วันนี้กุเลยอดแหลก..
ถั่วงอก ศูนย์งอกงาม ตรงข้าม บ.ข.ส.ลพบุรี คุณนิมิตร์ เีทียมมงคล ใจบุญทำอาหารมังสวิรัติ และให้ความรู้เรื่องปลูกถั่วงอก ขั้นเทพ
*
วีดีโอเขาโชว์.. เมล็ดถั่วเขียวไร่ทิพย์ ถุงละ 500 กรัม.. เคาะบริเวณใส ดูว่ามีฝุ่นถั่ว กระจายเกาะผิวซองพลาสติกด้านใน (ถ้าด้านนอกแปลว่าถุงรั่วนะคะ อิอิ)
ถั่วงอกตัดรากไร้สารพิษ ภูมิปัญญาชาวบ้านที่ทำได้ในครัวเรือน
........นิมิตร์ เทียมมงคล กับการเพาะถั่วงอกตัดราก แบบอินทรีย์ในวงบ่อซีเมนต์
มีเลขการบริโภคถั่วงอกของคนไทย เฉพาะกรุงเทพมหานครและเขตปริมณฑลมีปริมาณมากถึง 200,000 กิโลกรัม ต่อวัน เมื่อคำนวณการบริโภคทั้งประเทศภายในวันเดียวจะมีการบริโภคถั่วงอกไม่น่าจะต่ำกว่า 1 ล้านกิโลกรัม ดังนั้น อาชีพในการเพาะถั่วงอกจึงมีกระจายอยู่ทั่วประเทศ และเป็นอีกอาชีพหนึ่งที่เกษตรกรและประชาชนให้ความสนใจ เนื่องจากเป็นอาชีพที่มีการลงทุนต่ำและคืนทุนได้เร็ว
คุณนิมิตร์ เทียมมงคล อยู่บ้านเลขที่ 98 หมู่ที่ 3 ตำบลโคกลำพาน อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี 15000 โทร. (036) 613-031 และ (081) 251-8285 ที่เริ่มต้นจากการเพาะถั่วงอกตัดรากไร้สารพิษในตะกร้าพลาสติค ปัจจุบันได้ประยุกต์วิธีการเพาะเพื่อให้มีผลผลิตมากขึ้น โดยเพาะในบ่อซีเมนต์เพาะถั่วงอกเนื่องจากเปิดร้านขายอาหารมังสวิรัติ โดยใช้ชื่อร้านว่า "ศูนย์งอกงาม" ร้านตั้งอยู่ตรงข้ามกับ บ.ข.ส. ลพบุรี ในแต่ละวันจะมีผู้คนเข้ามารับประทานอาหารมังสวิรัติเป็นจำนวนมาก และเมนูอาหารที่ได้รับความสนใจเป็นพิเศษคือ อาหารที่ทำจากถั่วงอก อาทิ ยำถั่วงอกตัดราก ก๋วยเตี๋ยวต่างๆ ฯลฯ
หลักพื้นฐาน 3 ประการ ในการเพาะถั่วงอกตัดรากแบบอินทรีย์
1. เมล็ดถั่วเขียว ที่จะนำมาเพาะจะต้องมีเปอร์เซ็นต์ความงอกสูง สายพันธุ์ที่คุณนิมิตร์แนะนำและใช้อยู่คือ พันธุ์ "กำแพงแสน 2" เนื่องจากเป็นถั่วเขียวที่มีเมล็ดใหญ่ ทำให้ต้นถั่วงอกที่เพาะได้มีขนาดต้นโต ยาว และอวบอ้วน น่ารับประทาน
2. ภาชนะที่ใช้เพาะถั่วงอกจะต้องทึบแสงและมีการระบายน้ำดี เช่น การเพาะในตะกร้าพลาสติคให้เอาถุงดำมาคลุมไว้และตั้งไว้ในห้องมืด หรือถ้าเพาะในบ่อซีเมนต์จะต้องปิดปากบ่อให้มิดชิด
3. มีการให้น้ำอย่างเหมาะสมและเพียงพอที่จะทำให้ถั่วงอกที่เพาะไม่เกิดความร้อนที่สะสมมากเกินไป วิธีการสังเกตง่ายๆ ว่ามีความร้อนสะสมหรือไม่ โดยผู้เพาะใช้มือสัมผัสเมล็ดถั่วเขียวส่วนของชั้นบนสุดว่ารู้สึกร้อนหรือไม่ และในการให้น้ำในแต่ละครั้งจะต้องไม่มีไอจากความร้อนขึ้นมา ถ้าตะกร้าพลาสติคหรือวงบ่อซีเมนต์ที่ใช้เพาะถั่วงอกมีความร้อนสะสมมากเกินไป จะมีผลต่อการเจริญเติบโตของถั่วงอก จะได้ถั่วงอกลำต้นเล็กไม่อวบอ้วน และต้นถั่วงอกมีจำนวนรากฝอยมากไม่น่ารับประทาน
การเพาะถั่วงอกแบบนี้เริ่มจาก การคัดเลือกเมล็ดถั่วเขียวจะต้องคัดเมล็ดที่ไม่สวยออก หลังจากนั้นนำเมล็ดมาล้างทำความสะอาด 2-3 น้ำ เทคนิคที่สำคัญ ก็คือจะต้องนำถั่วเขียวที่ทำความสะอาดแล้วมาแช่ในน้ำอุ่นนานประมาณ 8 ชั่วโมง (วิธีเตรียมน้ำอุ่นให้ใช้น้ำเดือด 1 ส่วนผสมกับน้ำเย็นธรรมดา 3 ส่วน) หลังจากแช่น้ำอุ่นแล้วนำมาล้างด้วยน้ำสะอาดอีก 2-3 ครั้งจนน้ำดูใสสะอาด
อุปกรณ์ที่ใช้เพาะถั่วงอกแบบตัดรากจะใช้ตะกร้าพลาสติกที่มีปากกว้างประมาณ 15 นิ้ว และมีความสูงประมาณ 12 นิ้ว มีตาข้างรอบตะกร้าเพื่อเป็นรูระบายน้ำ หลังจากนั้นให้วางแผ่นตะแกรงพลาสติกเป็นฐานรองก้นตะกร้า ปูทับด้วยแผ่นกระสอบป่าน ปูแผ่นตะแกรงพลาสติกทับอีกที และโรยเมล็ดถั่วเขียวให้ทั่วตะแกรงหนาประมาณ 1.50 เซนติเมตร ถือว่าเสร็จสิ้น 1 ชั้น จากนั้นปูทับด้วยกระสอบป่าน ตามด้วยตะแกรงพลาสติกแล้วโรยเมล็ดถั่วให้มีความหนาเท่าเดิม ทำซ้ำแบบนี้ 4 ชั้น แต่ในชั้นสุดท้ายเมื่อโรยเมล็ดถั่วเสร็จแล้ว หลังจากปิดทับด้วยตะแกรงพลาสติกแล้วจะต้องปิดทับด้วยกระสอบป่าน 2 ผืนซ้อนกัน หลังจากนั้นรดน้ำให้ชุ่ม นำตะกร้าไปใส่ในถุงดำที่ตัดมุมตรงก้นถุงออกแล้ว ทำการพับปากถุงให้มิดชิดเพื่อไม่ให้อากาศและแสงเข้า นำไปวางไว้ในที่ร่มจะต้องรดน้ำ 3 เวลาเป็นอย่างน้อย (เช้า-กลางวัน-เย็น) รดน้ำจนครบ 3 คืน เช้าขึ้นมาอีกวันก็นำมาใช้ได้ โดยยกเอาแผงถั่วงอกมาแช่ในน้ำ ตัดเอาเฉพาะส่วนต้น ส่วนของรากทิ้งไป วิธีการนี้ง่ายมากเพราะรากของถั่วงอกจะแทงทะลุตะแกรงและกระสอบป่าน เราจะใช้มีดคม ๆ ตัดส่วนของต้นลงแช่น้ำ
ผู้สนใจเริ่มต้นเพาะถั่วงอกตัดรากแบบอินทรีย์ในตะกร้าพลาสติคให้เกิดความชำนาญก่อน เมื่อเกิดความชำนาญแล้วจึงมาเริ่มเพาะในวงบ่อซีเมนต์ ผลผลิตถั่วงอกตัดรากที่เพาะในตะกร้าพลาสติคจะได้ประมาณ 6-7 กิโลกรัม ต่อ 1 ตะกร้า ในขณะที่เพาะในบ่อซีเมนต์ที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 50 เซนติเมตร และมีความสูงของวงบ่อ 50 เซนติเมตร จะเพาะถั่วงอกได้ผลผลิตเฉลี่ย 10-12 กิโลกรัม ต่อวงบ่อ มั่นใจในคุณภาพถั่วงอกว่าปลอดสารเคมีทุกชนิดเนื่องจากการันตีด้วยมาตรฐานเกษตรอินทรีย์
คุณนิมิตร์เริ่มต้นในการเพาะถั่วงอกโดยยึดหลักปลอดสารเคมีมาตั้งแต่ต้น จะไม่มีการใช้สารเคมีหรือแม้แต่การปลูกผักชนิดต่างๆ ที่นำมาเป็นวัตถุดิบประกอบอาหารในร้านศูนย์งอกงาม จะมีการผลิตแบบเกษตรอินทรีย์ทั้งหมด จนได้การรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ (Organic Thailand) จากกรมวิชาการเกษตร ว่าถั่วงอกตัดรากและผักชนิดต่างๆ เช่น วอเตอร์เครส ที่ปลูกในพื้นที่ 3 ไร่ ปลอดจากการใช้สารเคมีทุกชนิด จุดนี้สร้างความมั่นใจให้แก่ผู้บริโภคและสร้างความภูมิใจให้แก่คุณนิมิตร์ที่สามารถผลิตถั่วงอกอินทรีย์ตา มที่ได้ตั้งใจไว้เผยแพร่ความรู้ และสร้างเครือข่ายเกษตรอินทรีย์สู่เกษตรกร ขณะนี้วิธีการเพาะถั่วงอกแบบอินทรีย์ในวงบ่อซีเมนต์ของ คุณนิมิตร์ เทียมมงคล ได้จดทะเบียนสิทธิบัตรเป็นทรัพย์สินทางปัญญาของคนไทยเรียบร้อยแล้ว คุณนิมิตร์ได้บอกเหตุผลหลักของการจดสิทธิบัตรเพื่อป้องกันคนต่างชาติขโมยความรู้และภูมิปัญญาของคนไทยไป แต่สำหรับคนไทยคุณนิมิตร์มีความยินดีที่จะเผยแพร่ความรู้วิธีการเพาะทุกขั้นตอนโดยไม่ปิดบัง เปิดให้เกษตรกรและผู้สนใจเข้าศึกษาดูงานและมาฝึกปฏิบัติจริงได้ที่บ้าน ไม่มีการหวงวิชาแม้แต่น้อย มีเกษตรกรหลายครัวเรือนมีรายได้เพิ่มเติมจากการเพาะถั่วงอกตัดรากและปลูกผักแบบอินทรีย์ เป็นเงิน 2,000-3,000 บาท ต่อเดือน ปัจจุบันคนในหมู่บ้านที่สนใจจะเรียนรู้วิธีการทำการเกษตรแบบอินทรีย์แบบคุณนิมิตร์ได้มีการรวมตัวกันตั้งเ ป็น "กลุ่มเรียนรู้เกษตรอินทรีย์ ตำบลโคกลำพาน" มีสมาชิกจำนวน 60 คน กำลังการผลิตถั่วงอกตัดรากแบบอินทรีย์ ใน 1 วงบ่อซีเมนต์
ปัจจุบัน คุณนิมิตร์มีวงบ่อ จำนวน 90 วงบ่อ โดยเพาะถั่วงอกหมุนเวียนไปมา จำนวน 15 วงบ่อ ต่อครั้ง หรืออาจจะมากขึ้นตามออเดอร์ที่สั่งเพิ่มเข้ามา และจะเพาะสัปดาห์ละ 2 วัน เพื่อให้มีถั่วงอกจำหน่ายส่งขายทุกวันจันทร์และวันพฤหัสบดี ในแต่ละครั้งจะผลิตถั่วงอกตัดรากได้เฉลี่ย 200-400 กิโลกรัม ใน 1 วงบ่อซีเมนต์ จะใช้เมล็ดถั่วเขียวพันธุ์กำแพงแสน 2 อัตรา 1.8 กิโลกรัม จะเพาะถั่วงอกได้ประมาณ 10-12 กิโลกรัม
เอกลักษณ์ของถั่วงอกตัดรากแบบอินทรีย์
คุณนิมิตร์ได้บอกถึงเอกลักษณ์และคุณสมบัติเด่นของถั่วงอกของร้าน "ศูนย์งอกงาม" จะมีลักษณะดังนี้ "ต้นยาวและขาว รสชาติหวานกรอบ ที่หลายคนได้รับประทานแล้วบอกว่าเหมือนกับกินมันแกว ไม่มีกลิ่นเหม็นเขียว เนื่องจากเป็นถั่วงอกอินทรีย์ ทำให้เก็บรักษาได้นาน ถ้าบรรจุใส่ถุงพลาสติคมัดปากถุงให้แน่นเก็บทิ้งไว้ในอุณหภูมิปกติ จะไว้ได้นานเป็นเวลา 3 วัน แต่ถ้าเก็บไว้ในตู้เย็นจะเก็บได้นานถึง 7-10 วัน"
ในอดีตการเพาะถั่วงอกตัดรากของคุณนิมิตร์จะเน้นให้ได้ต้นถั่วงอกที่มีลักษณะอ้วนสั้น แต่พบปัญหาลักษณะการอวบน้ำมากกว่าต้นยาว มีอายุการจำหน่ายสั้นและเกิดเน่าเสียได้ง่าย สำหรับเกษตรกรและผู้สนใจเพาะถั่วงอกไว้รับประทานเองและต้องการต้นถั่วงอกที่อวบอ้วน คุณนิมิตร์ได้บอกถึงเทคนิคอยู่ที่การถ่วงน้ำเพื่อต้นถั่วอวบอ้วนในคืนที่ 2 ของการเพาะ ซึ่งเป็นช่วงที่ต้นถั่วงอกเจริญเติบโตได้ดีที่สุด เป็นระยะของการยืดยาวของต้นมากที่สุดและเป็นช่วงที่ต้องการน้ำและความชื้นมาก สำหรับการเพาะถั่วงอกในตะกร้าพลาสติค ปกติจะมีการรดน้ำให้ตะกร้าพลาสติค 3 เวลาแล้ว ในคืนที่ 2 จะต้องรดน้ำบนถุงดำที่ปิดตะกร้าแน่น รดจนให้น้ำขังเป็นแอ่งบนปากตะกร้าโดยน้ำหนักของน้ำจะไปกดทับต้นถั่วงอก จะส่งผลให้ต้นถั่วงอกมีขนาดของต้นที่อวบอ้วน
เทคนิคสำคัญตอนที่นำเอาถั่วงอกขึ้นจากน้ำ จะต้องผึ่งในตะกร้าสักพัก เพื่อให้ถั่วงอกสะเด็ดน้ำแล้วรีบบรรจุลงถุงพลาสติกมัดยางให้แน่นโดยไม่ให้อากาศเข้า สามารถเก็บถั่วงอกไร้รากและปลอดสารพิษเก็บไว้ในตู้เย็นได้นาน 5-7 วัน โดยถั่วงอกไม่เหลือง วิธีการเพาะถั่วงอกแบบนี้สามารถทำบริโภค ได้ในครัวเรือน, ต้นทุนต่ำ และปลอดสารพิษ
ขั้นตอนการบรรจุถุงและการเก็บรักษา เมื่อต้นถั่วงอกตัดรากสะเด็ดน้ำแล้ว จะต้องรีบนำไปบรรจุลงถุงพลาสติค ทันทีและมัดปากถุงให้แน่น ถ้าปล่อยให้ถั่วงอกสัมผัสอากาศนานๆ ต้นถั่วงอกจะเปลี่ยนจากสีขาวเป็นสีเหลืองแล้วจะคล้ำดำในที่สุด เมื่อนำไปประกอบอาหารไม่น่ารับประทาน
คุณนิมิตร์ได้ทำการเกษตรแบบอินทรีย์โดยยึดหลักการที่ว่า "เมื่อสินค้ามีคุณภาพได้มาตรฐาน สินค้าก็จะขายด้วยตัวของมันเอง" ถั่วงอกตัดรากแบบอินทรีย์ของคุณนิมิตร์มีส่งขายให้ห้างสรรพสินค้าในเครือเดอะมอลล์ กรุ๊ป, เลมอน ฟาร์ม, ร้านศูนย์ศิลปาชีพเกาะเกิด จังหวัดพระนครศรีอยุธยา, ร้านโกลเด้นเพลส และท็อปส์ ซุปเปอร์มาร์เก็ต ภายใต้แบรนด์สินค้าที่ คุณหมอประเวศ วะสี ได้ให้ความกรุณาตั้งชื่อให้ว่า "ถั่วงอกรักชาติ" ด้วยลักษณะของถั่วงอกที่ขึ้นตั้งตรงอย่างเป็นระเบียบเหมือนคนเข้าแถวเรียงกัน
หนังสือ "การเพาะถั่วงอกตัดรากแบบอินทรีย์ในวงบ่อซีเมนต์" แจกฟรี พร้อมกับ "ไม้ผลแปลกและหายาก" พิมพ์ 4 สี จำนวน 120 หน้า เกษตรกรและผู้สนใจเขียนจดหมายสอดแสตมป์จำนวน 50 บาท ส่งมาขอได้ที่ ชมรมเผยแพร่ความรู้ทางการเกษตร เลขที่ 2/200 ถนนศรีมาลา ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร 66000 โทร. (056) 613-021, (056) 650-145 และ (081) 886-7398 แหล่งที่มา : www.rakbankerd.com ทวีศักดิ์ ชัยเรืองยศ
มะเอ@รักควาย:
วันนี้แช่ถั่วเขียวไว้แล้วค่ะ
เตรียมอุปกรณ์ทุกอย่างไว้เรียบร้อยแล้ว
แล้วจะนำภาพขั้นตอนต่างๆในการเพาะ
มาลงให้เพื่อนๆได้ชมกันค่ะ
*4 *24 *25 *3
นำร่อง
[0] ดัชนีข้อความ
[#] หน้าถัดไป
**
ขวดน้ำดื่มสิงห์ ตัดขวดเป็นฝา เริ่มจากข้อที่ 3 จากก้นขวดขึ้นมา ตัดเป็นรูปตัวยู U ทรงสี่เหลี่ยม / เจาะรู 2 แถว ห่างกันประมาณ 2 ซม. (ดูจากซีดีกะโดยสายตา ต้องไปกะเอาเองอีกทีนะคะ) จำนวนแถวละ 5 รู (2 แถวก็10 รู) / ใส่เมล็ดถั่วเขียว จากก้นขวดถึงขอบข้อแรก (ต้องลองดูเอง ว่าแน่นไปหรือไม่ ถ้าแน่นไปคราวหน้าก็ลดจำนวนถั่วเขียวลงนิดหน่อยละกัน) / ใส่น้ำสะอาดถึงข้อที่ 2 แช่ด้วยน้ำอุ่น (น้ำร้อน 1 ส่วน น้ำเย็น 3 ส่วน) เป็นเวลา 6-8 ชั่วโมง ใส่น้ำล้างให้สะอาด วางขวดแนวนอน (อ้อ เจาะรูที่ฝาขวด ตรงกลาง 1 รู ใกล้รอบฝา เว้นระยะห่าง อีก 5 รู (ครึ่งวงกลม) ไม่รอบเป็นวงกลม) / วางขวดแนวนอน ใส่น้ำจากด้านบนฝาเปิดสี่เหลี่ยม (ซึ่งห่อด้วยตาข่ายพลาสติกเกล็ดปลา สีดำ เมตรละไ่ม่น่าจะเกิน 30 บาท หรือราคาประมาณนี้ ตาละเอียด) เวลารดน้ำจะเป็นคล้าย ๆ หยดน้ำฝน / ห่อตาข่าย สอดตาข่ายใต้ฝาสี่เหลี่ยม แล้วห่อม้วนรอบขวดให้มิดสนิท กันแสงเข้า / วางขวดแนวนอน (อีกแล้ว) จับขวดส่ายไปมา ซ้าย ขวา ซ้ายขวาง จนกว่าถั่วจะสะอาด แล้วตั้งไว้ในที่ชื้น ไม่ร้อน แสงสว่่างน้อย หรือมืด (จำไม่ได้ระ) 2 วัน 3 คืน รดน้ำผ่านฝาวันละ 3 ครั้ง (อาจจะหลังอาหารก็ได้มั๊งคะ) / ดึงส่วนที่จะกิน แล้วปิดรัดด้วยหนังยาง เข้าตู้เย็นได้ ยิ่งเพิ่มวันยิ่งอร่อย (จริงหรือคะ) / ขวดสามารถล้างและนำกลับมาเพาะถั่วงอกได้อีกหลายครั้ง จนกว่าจะหมดสภาพ... (ไ่ม่ได้เอาสมุดจดมา.. ลืม.. แก่แล้ว.. ถ้าไม่ลืมคราวหน้ามาเพิ่มเติมข้อมูลใหม่)...
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)