วันเสาร์ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2554

สุชาติ สุพรรณโกมุท ไอ้หน้าตัวเมีย..จะด่ากูทั้งที ฝากปากแม่ด่า..น่าไม่อาย กิ๊ว กิ๊ว

ทุกประโยค ต้องพูด ต้องด่าซ้ำ 2 ครั้งเป็นอันดับแรก
*
"มึงยืมเงินกูไปหมื่นนึง เมื่อไหร่จะคืน" "ไหนว่าจะไปขายของได้เงินไง เมื่อไหร่จะคืนเงินหมื่นนึงกูซักที"
"จะให้กุขาย...สระอีเหรอ..ทุนก็ไม่มี"
"อะไร เงินหมื่นนึงไม่พอเหรอ"
"หมากินขี้ ไม่ได้กินข้าว"
"ตัดขาดกันไปเลย ไม่ต้องมาเหยียบที่นี่อีก บาทนึงกูก็ไม่ให้..ชดใช้หนี้ให้มึงไม่มีวันหมดสิ้นสักที"
"เอาเลขที่บัญชีมา สิ้นเดือนให้แจ๋โอนให้ 2 พัน" (อ้าวที่เขียนให้เมื่อเดือนที่แล้วเอาไปทิ้งไหนล่ะ ..ถ้าไม่ตัดสินใจมาเอาเงินวันนี้ ไม่ต้องกินข้าวกันพอดี)
"มีคนเขาบอกกูว่ามึงฝากเงินไว้ทีแม่แสนนึง กูไม่เห็นเงินมึงสักบาท" (อะไรนะ ไม่เคยพูดว่าให้..คุณนายวิภารีบพูด..เสียงดัง "ฝาก ฝาก")
"ใครพูดล่ะ" / "มีคนเขาบอกกูมาก็แล้วกัน" / "บอกมาสิว่าเป็นใคร กูไม่เคยพูด กูไม่เคยพูด กูไม่ใช่คนตอแหล" (หรือถ้าเคยพูดจริงมันสำคัญนักเหรอ..เพราะกูก็ไม่เคยพูดทวงเงินแสนนึงที่ว่านี่เลย)
"อะไรนิดอะไรหน่อยก็ทวงบุญคุณ อะไรนิดอะไรหน่อยก็ทวงบุญคุณ" (กูทวงบุญคุณแล้วจะได้เหรอ..คนเรานะ..ถ้ารู้จักบุญคุณคน..แม้แต่น้ำเปล่าแก้วเดียว..คนที่ได้รับบุญคุณก็ต้องรีบหาทางขอบคุณให้ได้สักวันหนึ่ง...พวกมึงน่ะเหรอรู้จักบุญคุณคน..ไม่มีวันเสียหรอก)
"เค้าด่ากู 40 50 ปี เค้าด่ากู 40 50 ปี"
"เป็นล้านกูก็มี เป็นล้านกูก็มี"
"ลูกหลานคนไหน ก็ก็ให้คนนั้น ลูกหลานคนไหนดี กูก็ให้คนนั้น" เส้นเสียงดัง (ไม่ต้องบอกก็รู้..แต่พูดอีกทีก็ดี จะได้มีคำพูดเป็นหลักฐานที่ดี)
"ทำไมค่าจักรที่กูให้มึง ทำไมมึงไม่พูด" (ที่ยังไม่พูดเพราะอยากรู้ว่าคุณนายวิภาจะพูดไหม..จะด่าอะไรอีกมั้ง..ตามคิด นี่แหละทวงบุญคุณ)
"ค่าตู้เสื้อผ้ากับตู้ล็อคเกอร์ เอา 3,500 ค่าโต๊ะวางคอมพิวเตอร์ที่ไอ้ป๊อปซื้อต่อครึ่งราคาอีก 1,200 เป็น 4,700) แต่คุณนายวิภา คิดเลข (ด้วยความโกรธ โมโห) เลยคิดเป็นเงิน 6,000 จริง ๆ ให้ค่าเช่าของป๊ามาแล้ว 2 พัน (ถ้าไม่ตายจะไปใช้คืนให้)
"หักค่าจักกับค่าโทรทัศน์ไปอีก 2 พันด้วย"
"เขียนใส่สมุดให้กูด้วย"  (เขียนแล้ว รู้ว่าต้องมาเขียน) "ไหน ๆ อยู่หน้าไหน..ต้องให้เห็นกับตา"
เซ็นชื่อ "สุวรรณา สุพรรณโกมุท" "ไม่มีหนี้อะไรอีกแล้ว"
"ด่า..ด่า..ด่า... เอาไปเลย กูแถมค่ารถให้ด้วย รวมเอาไปเลย 6,000 แล้วไม่ต้องมาเหยียบที่นี่อีก..ใช้หนี้ให้มึงไม่หมดไมสิ้นสักที)
"เตี่ยมึงตายไปแล้วกูก็ไม่กลัวนะโว้ย (ซ้ำ") (รู้แล้วเห็นมาตั้งแต่ยังเป็นสาว..แม่ลูกพูดเหมือนกันเลย..
ตอนมันลงบันได้มา..ด่ากูเสียงดัง..พ่อแม่กูก็ไม่กลัวนะโว้ย..กูจะฆ่ามึงให้ตายทีนี่..ก็ไม่มีใครรู้ไม่มีใครเห็น..)
แจ๋บอก "เอ็งก็มาขายของชำสิ ไม่เหนื่อยหรอก" / "ถ้าไม่เหนื่อยแจ๋ก็ขายไป กูชอบเหนื่อย"
"ตอนเย็นยุ่ง ๆ ขายดีพอพอกับเซ้เว่น" จริงเหรอ..งั้นแจ๋ก็ขายไป..
*
อืมอะไรอีกนะ..เหมือนจะมีอีก..ลืม ๆ อยู่
*
ลองคิดดู บ้านดินแดง ถ้าซาโกวเขาไม่ให้ขายให้ (ดูเหมือนจะไม่ได้เอากำไรนะ ถ้าจำไม่ผิด) ทำไมไม่พูดว่า "มึงด่ากูมา 30-40 ปี แล้ว กูไม่ซื้อหรอก ไม่ว่าจะถูกหรือให้ฟรีกูก็ไม่เอา" แต่คุณนายวิภาก็ซื้อต่อจากเขา..อยู่มา 20-30 ปีนี่..เขาไม่มีความดีบ้างเลยเหรอ
*
เขาโอนที่ทำมาหากินที่ร้านผัก เขาโอนให้เป็นกรรมสิทธิ์เป็นเอกสารทางราชการ..ตอนนี้มีเงินมีทอง มีรายได้ ร่ำรวยแล้วลืมตัวเหมือนวัวลืมตีน..
*
ตอนไอ้ป๊อปมันเรียนหนังสือที่โรงเรียนประจำดาราสมุทร..ซาโกว โซ่ยโกว เขาก็ทำเค้ก 2 ปอน์ให้ 2 กล่องฝากไปให้มาเซอร์ (master) เขาไม่ได้มาเก็บเงินค่าของด้วย กูยังไม่ซื้อเนยที่ Food Land เลย
อร่อยมาก หน้าหอมเนย เค็ม ๆ มัน ๆ
*
ทำไมตอนเขาจ้างไปทำบ้าน ซ่อมบ้าน ซ่อมห้องน้ำ สารพัด..ทำไม คุณนายวิภาไม่ห้ามลูกชายว่าอย่าไปทำให้เขา..พวกมันด่ากูมา 40-50 ปี พวกมันเลว..เหอะๆ ถ้าไม่หวังผลประโยชน์จากเขา..จะไปทำให้เขาเหรอ..พอเขาทำอะไรไม่ถูกใจก็ขุดเรื่องเก่า ๆ มาด่า..สารพัดอีกนั่นแหละ..
ถ้าพวกซาโกว โซ่ยเจ็กเขาไม่จ้างไอ้ป๊อป..ถ้าไม่มีแม่อย่างคุณนายวิภาจ้างลูกชายคนนี้ทำงาน..จะมีใครเขาจ้างไอ้ป๊อปทำงาน..นอกจากข้างบ้านดินแดง 2 ข้าง เขาจ้างก็เพราะถูกล่ะมั้ง...
รู้ก็รู้ว่าทำงานแบกเหล็กแบกลูกกรงเหล็กคนเดียว มันหนัก หักโหมเสียสุขภาพ ควรจ้างคนช่วยขน..ก็ไม่ทำ..แล้วตอนนี้เดี้ยง..คุณแม่ก็สงสารเห็นใจ อยากให้สบาย ทั้งทำงาน เป็นอยู่ ยังไม่ 50 เลย ได้อยู่อย่างสุขสบายเสียแล้ว..บนกองมรดก..ค่าเช่าบ้าน คู้ซ้าย คู้ขวา
*
โซ่ยเจ็กมาบ้านร้านผักก็คุยดีกับเขา..ทำไมไม่ด่าเขาล่ะ...มาด่าลูกชายกูทำไม..เวลาลับหลังเขาก็ด่าเขา..เลว
*
ไอ้ป๊อปด่าลูกมัน..อย่าไปเอาเงินมัน อย่ากินของมัน (แม้แต่เงินค่าขนมที่รินฝากมาให้เด็ก 2 คน)
*
ไอ้หน้าตัวเมีย ไอ้ตอแหล..มึงอ่านเสร็จแล้วก็คาบเฉพาะข้อความที่เป็นประโยชน์กับมึง..แล้วให้แม่มึงด่ากู..ทุกคนรู้อยู่แก่ใจ
*
"มีการมาพูดว่าเลี้ยงพี่เลี้ยงน้อง มีการมาพูดว่าเลี้ยงพี่เลี้ยงน้อง"
"ไปถามดูได้เลยทั้งซอยพิพัฒน์ 2 ว่าใครทำ...กูทำคนเดียว...ไปถามดูได้เลยทั้งซอยพิพัฒน์ 2 ว่าใครทำ..กูทำคนเดียว...แล้วใครขับรถไปขนกับข้าว..หมาตัวไหนที่ไปเฝ้ารถ..หมาตัวไหนไปช่วยหิ้วตะกร้า..หมาตัวไหนไปตลาดสามย่าน"
"หนอย..ว่ากูไม่พูดว่ามึงไม่มีความดี" (ประโยคนี้ไม่เข้าใจความหมาย..พูด ๆ ไป)
*
"ได้เงินแล้ว คุณนายแม่วิภาจะด่าอะไร ๆ ก็ยืนฟังเฉย ๆ ไม่เถียงสักคำ"
"โห..ตู้เสื้อผ้า ผุหมดแล้ว มึงอยากได้..ขนเอาไปเลย"
"ขนเอาไปเลย...เอาตู้เสื้อผ้าของกูลงมาให้เปียก ผุ ใช้มา 20-30 ปี ให้กูขนกลับไปเหรอ" (ใช้มุขเดียวกับตู้เย็น "มึงใช้มา20-30 ปีแล้ว ให้เขาฟรีเขายังไม่เอาเลย..แต่เขาก็ขนไปไม่ใช่เรอะ?)
"ไม่เอา กูจะเอาค่าเสียหาย"
"เท่าไหร่ว่ามาเลย แล้วไม่ต้องมาอีก..เป็นล้านกูก็มี" (แต่ในใจพูดต่อว่า "แต่กูไม่ให้มึงแม้แต่บาทเดียว)
"ให้ที่ดินที่กำแพง 10 กว่าไร่มึงก็ไม่เอา" (ไม่เอาสมบัติของเขา เขาก็ด่า มีเรื่องอะไรที่คุณนายวิภาไม่สามารถด่ากูได้มั่งเนี่ย"
"ก็มึงพูดเองว่าไม่เอาสมบัติ..ตอนนี้จะมาเรียกร้องเอาอะไร" (ซ้ำ)
"เชอะ จะฟ้องร้อง เชิญเล้ย เชิญ..ไปฟ้องเอาเลย"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น