บัวลอย 5 สี... Master Penpan Sithitrai...

ชื่อของบัวลอยนี้เกิดจากสีของเม็ดบัวลอย 5 สี เหลือง ส้ม ม่วง แดง เขียว ... ขั้นตอนการทำ เตรียมแป้ง ใช้แป้งข้าวเหนียว 1 ส่วน ผสมกับ แป้งมัน 1/4 ส่วน ร่อนให้เข้ากัน แล้วแบ่งเป็น 5 ส่วน / หันมาเตรียมส่วนผสมสีบัวลอย โดยเม็ด สีเหลือง ม่วง นำฟักทองเนื้อ และเผือกหอม มาปอกเปลือก แล้วใช้มีดเฉาะเป็นชิ้นเล็ก ๆ ห่อผ้าขาวบางแล้วนำไปนึ่งจนสุก การเฉาะจะช่วยเพิ่มพื้นที่สัมผัสความร้อนของชิ้นอาหาร ให้สุกเร็วกว่าการหั่น เมื่อสุกดีแล้ว ให้เทเผือกและฟักทองแยกใส่ภาชนะ แล้วนำสากมาห่อด้วยพลาสติกเพื่อป้องกันกลิ่นพริกที่ติดอยู่ลงไปปนกับขนม และป้องกันไม่ให้เนื้อฟักทองและเผือกนึ่งติดสาก จึงนำไปโขลก เนื้อฟักทองและเผือกทีละชนิดในภาชะนที่ใส่ไว้ให้ละเอียด / ก่อนใส่แป้งที่แบ่งไว้ลงนวดผสมชนิดละ 1 ส่วน ปริมาณแป้งและเนื้อเผือกกับฟักทองนั้น ให้ยึดเนื้อสัมผัสของแป้งขณะนวดเป็นสำคัญ หากส่วนผสมยังเหลวติดมือ ควรเติมแป้งลงไปอีกทีละน้อย แล้วค่อย ๆ นวดจนเรียนดีและไม่ติดมือถือว่าใช้ได้ / บังวลอยสีอื่น สีแดง ให้นำบีตรูต มาปั่นผสมกับน้ำ แล้วนำไปต้ม แล้วกรองผ่านผ้าขาวบาง ได้สีแดง ใส่ลงนวดกับแป้งให้เนียนดี พักไว้ / เม็ดบัวลอสีส้ม ทำจาก หัวแครอต ปอกเปลือกแล้วปั่นกับน้ำเปล่าจนละเอียด นำมากรอง ผ่านผ้าขาวบาง ก่อนนำไปนวดกัแป้งจนเนียนดี / เม็ดบัวลอบยสีเขียว ใช้น้ำใบเตย หรือสีผสมอาหารสีเขียวผสมน้ำ นวดกับแป้งจนเนียนดีเช่นกัน /// เมื่อได้แป้งบัวลอย 5 สี.. ให้เติมน้ำสะอาดใส่หม้อใบใหญ่ต้มให้เดือด ข้าง ๆ กัน เตียมภาชะในใส่น้ำเย็นไว้ / แล้วค่อย ๆ ปั้นแป้งบัวลอยแต่ละสีเป็นเม็ดกลมขนาดเท่าปลายนิ้วก้อยใส่ลงไป รอจนแป้งสุก โดยสังเกตจากเม็ดบัวลอยจะลอยขึ้นบนผิวน้ำ จึงใช้กระชอนช้อนเอาเม็ดบัวลอย ใส่ลงในน้ำเย็นเพื่อให้บัวลอยคงเม็ดสวยไม่นิ่มเละ กะว่าเม็ดบัวลอย คลายร้อนแล้วตักใส่กระชอนพักไว้ (แต่ที่เราเห็นแม่ค้า จะต้มเม็ดบัวลอยในน้ำเชื่อมใส ตักขี้นใส่ถุง เติมน้ำเชื่อม ถ้าเช่นนี้ น่าจะต้มเม็ดบัวลอบในน้ำเชื่อมใส แล้วตักแช่ในน้ำเชื่อมใสแบบหล่อน้ำแข็งก้นอ่าง เพื่อให้น้ำเชื่อมรัด เหมือนทับทิมกรอบ จะดีมั๊ยนะ) ... หันมาเตรียมน้ำกะทิบัวลอย โดยผสมหัวกะทิที่คั้นจากมะพร้าวขูดขาว น้ำหนัก หัวกะทิ 1 กิโลกรัม ผสมน้ำมะพร้าวน้ำหอม 2.5 ถ้วย น้ำตาลทรายตามชอบ ผสมคนให้เข้ากันในหม้อ แล้วยกขึ้นตั้งไฟกลาง พอเพือดสักพักปิดไฟทันที (อย่าให้เป็นลูก ก้อน) ขั้นตอนนี้ห้ามใช้ไฟแรงเด็ดขาด เพราะจะทำให้กะทิแยกตัวและห้ามต้มนานเกินไป เพราะน้ำมะพร้าวน้ำหอมที่ใส่ลงไปจะเปลี่ยนเป็สีแดง น้ำกะทิบัวลอยที่ดีนั้น ต้องไม่แยกชั้นและควรมีสีขาวดุจน้ำนม หากชอบรสเค็ม ตัดเกลือลงไปได้เล็กน้อย หลังจากปิดไฟแล้ว รสช่าติของน้ำกะทิบัวลอยนี้สำคัญมาก เพราะควรปรุงให้รสหวานกลมกล่อม แต่ไม่ควรหวานจัด จากนั้นจึงใส่เนื้อมะพร้าวอ่อน ที่หั่นเป็นชิ้นหรือใช้พิมพ์ดอกไม้กดเป็นดอก ใส่ลงไปพร้อมกับเม็ดบัวลอยที่พักสะเด็ดน้ำไว้ พักไว้สักครู่ ให้เม็ดบัวลอยดูดรสชาติของน้ำกะทิไว้ในตัวแป้งสักพัก จึงตักใส่ถ้วยรับประทานขณะอุ่น ๆ เท่านี้ก็ได้บัวลอยเบญจรงค์สีสวยถ้วยอร่อย..