วันพุธที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2555

แม่วิภา..อย่างนี้ต้องจด

หลังจากเอาลูกกุญแจไขเก๊ะ หยิบเงิน 1 พันบาทแล้ว... ก็เอาลูกกุญแจไขประตูตู้ด้านล่างริมซ้ายมือสุด..มือควานหาสมุด..เพื่อจะจดว่า..."นังปูเดือนนี้มันใช้เงินไป 7 พันแล้ว" (เกิน 6 พัน)...แต่ควานหาสมุดจดไม่เจอ (คงจะเป็นสมุดบันทึกเล่้มเล็กที่ตอนนั้นจดว่าเรามาเอาเงินค่าเสียหายต่าง ๆ นานา จนไม่มีจะให้ไถอีกแล้่ว)..แต่ไม่ต้องกลัว..เดี๋ยวแม่เขาก็หาสมุดเจอ..แล้วก็จดเองจนได้แหละ..ไม่ต้องห่วง * "ค่าเช่าเก็บเท่าไหร่ก็ไม่พอให้มึง"... *

คำพูดดีดีของแม่..ยังไม่หมด

แล้วไงล่ะ..ถักขายได้กี่แสนแล้ว.. ถักขายได้กี่แสนแล้ว ..งานก็ไม่ทำ มีงานให้ทำ ขายของก็ไม่ทำ..ถักขายก็ไม่ได้เงิน.. ตรงนี้ไล่ที่ก็เหลือ 4 พัน มีให้เท่านั้นแหละ..

แม้แต่หนวดกุ้ง ยังไม่เหลือให้ใช้เลยเหรอ..

เมื่อวานเปิดประตูห้องชั้น 2 จะเข้าไปเอาเสาอากาศหนวดกุ้ง ที่แจ๋เอาลงมาจากชั้นดาดฟ้า..จะเอาไปเสียบทีวีที่ดาดฟ้า ดูความเคลื่อนไหว AEC ปรากฏว่า.. ทีวีเครื่องเล็ก (ที่คุณหนูหลินเคยใช้ดู) กับเสาอากาศหนวดกุ้ง (ที่เราซื้อไว้ตอนอยู่บ้านป๊า 2 เดือน) ไม่มีเสียแล้ว..สมบัติ มรดก เงินสด ทองคำ ทรัพย์สิน ไม่มีอะไร นอกจากเงินค่าเซ็น "ไม่ขอรับมรดก" 7,000 บาท ..นี่เสาอากาศยังเอาไปเลย..ชีวิตกู...

วันจันทร์ที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ตรงนี้ถ้าไล่ที่ ก็เหลือให้เดือนละ 4 พันเท่านั้นนะ

ตรงนี้ถ้าไล่ที่ ก็เหลือให้เดือนละ 4 พันเท่านั้นนะ...พอกินไม่พอกินก็เรื่องของมึง... ค่าเช่าเก็บเท่่าไหร่ก็ไม่พอให้มึง..งานก็ไม่ทำ ให้ขายของก็ไม่ทำ..ใช้แต่เงิน *

สมมติว่า ผู้ชายคนเมื่อเช้า..กระชากไปตบคว่ำ หรือแทงล่ะ

่สมมติว่า ผู้ชายคนเมื่อเช้า..กระชากไปตบคว่ำ หรือแทงล่ะ...พอค้นทรัพย์สินแล้ว..ปรากฏว่า..ไม่มีเงินติดตัวแม้แต่สลึงเดียว มันคงถุยน้ำลายใส่.. "ไม่น่าตาถั่วเลย..ฆ่านังนี่เสียเวลาเปล่า ๆ" ในขณะที่ใครบางคนหรือหลายคน ยังนอนหลับสบาย..อยู่บนกองเงินกองทอง กองที่ดิน... สาธุ *

สิ้มจวง เรียกกินโจ๊กหลายครั้งแล้ว เกรงใจ

สิ้มจวง เรียกกินโจ๊กหลายครั้งแล้ว เกรงใจ..ซื้อกับข้าวแล้ว..สิ้มถาม เช้านี้กินอะไรมารึยัง..ตอบ.."กินแซนต์วิช" จะไปอิ่มอะไร กินโจ๊ก..นะ.. * คงกินเป็นชั่วโมงแ้ล้ว..ก็เลย โจ๊กก็ดี สั่้งมาชามนึง..ให้แบงค์ 20 สองใบ..ให้หมูเยอะมาก ข้าวก็เยอะ.. * "ถ้าไม่เงิน..วันหลังไม่คุยด้วยนะ".. มีลูกค้ารอจ่ายตังค์อยู่..สิ้มเลยหยิบ 20 บาทใบเดียว. สิ้มบอก "ถือว่าเก็บตังค์แล้วนะปู"... "งั้นวันหลังนะสิ้ม" ขอบคุณมากค่ะ *

วันอาทิตย์ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2555

19 มิย.55 เจอคน..มาจอดรถบอก "จะไปส่ง" ไปขอเบิิก 1 พัน ของวันที่ 1 กค.55 แต่...

19 มิย.55 ฃ เวลาประมาณ 5.50 น. ..ขึ้นรถเมล์ฟรีสาย 107 (มั้ง) ลงสวนลุม เดินเข้าศาลาแดง (คุณหนูโดนรถทับตาย ไส้แตก กลางถนน)... เดินจากป้ายรถเมล์..เรื่อยๆ มีรถมอเตอร์ไซค์สีดำ คนขี่เป็นชายสวมเสื้อโปโลสีเทาดำ กางเกงสีดำ ไม่สวมหมวกนิรภัย..ทำทีชะลอรถจักรยานยนต์...เราคิดว่าเขาจะถามทาง (มีคนถามเรื่อย)..มีอะไรหรือคะ.. เขาถาม "จะไปไหน.." ท่าไม่ดี..บอก "จะไปธุระ) เขาบอก "ไม่มีอะไร..จะไปส่ง" (เอาละสิ) ....เราก็เฉย ๆ ...หยิบโทรศัพท์มือถืออกมา..ถ้าเห็นท่าไม่ดีอีก..ต้องกด 191 แล้วตะโกนเรียกตำรวจดังๆ เสียแล้ว... ไม่มีคนเดินแถวนั้นเสียด้วย..(เดินมาหน่อยเห็นผู้ชายผมสีทอง แต่ตัวออกแนวพังค์ๆ.. กำลังกินอาหารด่วน..เขาก็หันไปมองเหมือนกัน...) เห็นเขาขี่รถ ออกขวาไปที่รถสามล้อ..ติดไฟแดง จะเลี้ยวขวา..เขาจอดรถทาบข้างสามล้อ พูดอะไร?... เอามือจับเสาของสามล้อด้านซ้าย.. พอไฟเขียว.. เขาก็ขี่รถเครื่องออกซ้าย เข้าถนนสีลมไป.. สามล้อดูท่่าจะงง .. งง.. เหมือนกัน.. ไปขอเบิิก 1 พัน ของวันที่ 1 กค.55 แต่...แม่บอกว่า... "เดือนนี้ใช้เป็น 7 พันแล้วนะ มันเกิน 6 พันแล้ว..งานไม่ทำ ไม่ทำงาน..มีงานให้ทำขายของก็ไม่ทำ..ใช้แต่เงิน (มากเสียด้วย)" *

วันพุธที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2555

คุยกับเล็กบอกว่า... "บางทีหลินอาจจะคืนเงินแม่เอ็งแล้วก็ได้...."

คุยกับเล็กบอกว่า... "บางทีหลินอาจจะคืนเงินแม่เอ็งแล้วก็ได้ แต่แม่เอ็งเขาอาจจะไม่ได้บอกให้เอ็งรู้ก็ได้"

เราลืมคำพูด "ดีดีของแม่" ไปได้อย่างไร

แม่.. "ไม่เห็นทำความสะอาดบ้านสักที เบิกค่าอุปกรณ์ไปแล้ว"... เรา.. "ค่าอุปกรณ์อะไร" แม่ "ก็ค่าอุัปกรณ์ทำความสะอาดบ้านไง เอาไปแล้วก็ไม่ทำงาน..ต้องเสียเงินจ้างยัยเหงี่ยมไปทำความสะอาด" เรา... "งั้นเดี๋ยวหักคืนไป 300 บาท" * แม่ "รู้มั้ยหมดค่าซ่อมหลังคาไปเท่าไหร่...เสียค่าซ่อมหลังคาไป 3 พันกว่าบาท" สรุปว่าเราเป็นคนทำหลังคาพังงั้นเหรอ * แม่.. "มึงเคยให้เงินกูซักบาทมั้ย มึงไม่เคยให้เงินซักบาท เลยนะจะบอกให้" แม่... "มึงเคยให้เงินกูเป็นแสนสองแสนรึไง...มึงไม่เคยให้เงินกู้เลยซักบาทนะจะบอกให้" * เรา.. "เงินหมดแล้ว" แม่.. "ทำไมหมด.." เรา... "ก็ซื้อเสื้อ 1 ตัว..ผ้าถุง 2 ผืน..ซื้อต้นไม้ ซื้อดิน ซื้อไหมพรม (อยากทำอะไรต้องลงทุนเองไง)..ค่ารถทัวร์" แม่.. (เสียงแหลมสวนทันที) "ค่ารถทัวร์ ค่ารถทัวร์อะไร..จะไปไหนอีก" เรา.. "ก็ค่ารถทัวร์ไปกำแพง และค่ารถทัวร์จากกำแพงกลับกรุงเทพไง..." * แม่ (พูดไม่ค่อยได้ยินเสียง..ในลำคอ)... "เงินสดใช้ไปหมดแล้ว" (ทำนองว่าใช้จัดการงานศพเตี่ยไปหมดแล้ว..เดาเอาเอง...เขาไม่ได้พูดตรง ๆ ไม่ได้พูดให้ชัดเจน) * น่าจะหมดแล้วนะ..ไม่ได้อัดกล้องไว้

วันนั้นใครถาม "ยืมแม่มา 2 แสนสิมาปลูกบ้าน"

วันนั้นใครถาม "ยืมแม่มา 2 แสนสิมาปลูกบ้าน"... ตอบ "แค่ไม่ไปเอาเงินเขาเพิ่มนี่ก็บุญแล้ว" * แจ๋พูดต่อทันที "ใช่ใช่ มึงอย่าไปเอาเงินเขา" * วันนั้นไม่รู้คุยเรื่องอะไรกัน...ด่าแตงกับนัท..ไม่รู้จักขายให้รวย..(สมัยก่อนกับสมัยนี้ัมันเหมือนกันที่ไหน..คุยกับนัท..ก็ขายได้กับแม่ค้าที่ทำอาหารสำเร็จรูปขาย...มีขาประจำก็ไม่เท่าไหร่.. ขี่รถเครื่องไปซื้อผักเอง..ไม่กี่อย่างเอง..ดูบนร้าน ก็มีอย่างละนิดละหน่อย) *

ซ่อดำ บอก "ยืมแม่มา 2 แสนสิ มาปลูกบ้าน "

ซ่อดำ บอก "ยืมแม่มา 2 แสนสิ มาปลูกบ้าน "... * "หึหึ ซ่อ..อย่าว่าแต่สองแสนเลย... แค่ 6 พัน..แล้วอย่าไปเอาเงินเขาเพิ่มอีกก็บุญแล้ว" ...ซ่อเงียบไป

กูโดนแม่มึงด่า แถมยังโดนมึงด่าอีก..กูไม่ได้อะไรเลย

แจ๋พูด "กูืทั้งโดนแม่มึงด่าแถมยังมาโดนมึงด่าอีก...กูไม่ได้อะไรเลย" (พูดย้ำ 2 ครั้ง) *

แจ๋...สาปส่งมึงไปเลย

วันนั้นมีวัดขับรถกระบะเข้าบ้านมา เอาซองผ้าป่ามาให้ทำบุญ..แจ๋ไม่มีแบงค์ย่อย ขอยืมเรา 20 บาท เรามีแบงค์ 50 บาท..งั้นเอานี่ไป ... * ตอนเย็นแจ๋คืนให้ 50 บาท..เราบอก ไม่ต้องคืนหรอกทำบุญด้วยกัน ชาติหน้าจะได้เกิดมาเจอกันอีก * แจ๋รีบหาแบงค์มาคืนให้อีก 20บาท..บอก..."กูไม่ทำบุญร่วมกับมึงหรอก สาปส่งมึงไปเลย" *

ไปเอาเงิน 1,000สุดท้าย ครบ 6,000 แล้ว กินถึงสิ้นเดือน

ออกจากบ้านตีห้ากว่า ๆ เดินออกไป ค่ารถเมล์ 6.50 บาทสาย 13 เสริมหมดระยะรพ.จุฬา ลงป้ายนี้..เดินลอดทางรถไฟใต้ดินออกศาลาแดง เดินไปร้านผักสีลม..คุยกับนัทนิดหน่อย..ขานี้ไม่ค่อยสบาย นอกจากภูมิแพ้ (เกษรละอองฯลฯ) ไอเยอะนะวันนี้ * กินก่อนก็ได้ ไม่รีบ.. มีหนุ่มมา..เอาเบียร์สิงห์ ประมาณ 5 กระป๋อง (น่าจะเป็นพม่า)..จะมาขอแลกเป็นเหล้าขาว 1ขวดกับอะไรอีกอย่าง... ยายบอก "ถ้าซื้อกับยาย กี่กระป๋องก็ให้แลก ถ้าซื้อที่ 7-11 ก็ให้แลกไม่ได้หรอก" เราก็ช่วยพูดย้ำเห็นด้วย.. * "มาเอาที่เหลืออีกพัน กินถึงสิ้นเดือน".... "ใช้ไม่ให้เกิน 6พันไม่ใช่เหรอ" แม่ "กู 70 กว่ายังต้องทำ ขายจนแทบจะขายไม่ไหวแล้วรู้รึเปล่า..แต่มึงไม่ต้องทำงาน..กูต้องทำหาเลี้ยง...ก็ถ้าเกิน 6 พัน ก็ต้องหาใช้เองแล้วนะ..แม่ที่ดีที่สุดในโลกขนาดนี้ หาไม่ได้อีกแล้วนะ แม่ดีขนาดนี้หาไหนในโลกนี้ไม่มีอีกแล้วนะ..จะบอกให้.." กำลังเดินออกจากร้าน ..."70กว่ายังต้องมานั่งทำหาเลี้ยง40 กว่า...ย้ำ...70กว่าแล้วยังต้องมานั่งทำหาเลี้ยง 40กว่า" *

วันเสาร์ที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2555

แกหายหัวไปไหนเนี่ย..กก เด็กเหรอ เดี๋ยวตายนะ แมล่ง

หายหัวไปไหน..โผล่มาซะดีดี นะเฟร้อย ไม่ง้าน ตาย...ตัด...ขาด

เอาต้นไม้ลงตอนฝนตก

ตัดผ้าซับใน(ยังไม่ได้ใช้) รองก้นหลุมถาดเพาะ..ขนาด 35 หลุม... เอาวอเตอร์เครสลงไปก่อน มีผักเป็ดน้ำ (สีแดง) มีแขนงแตกรากเล็ก ๆ สีขาว... ฝนก็ตก มือเลอะเทอะมากเลย.. น้ำฝนที่ตกลงพื้นกระเด็นโดนมือ คันมากเลย..น้ำสกปรก มีแต่คราบขี้ดินที่รองเท้าที่เดินบนถนนมา..แหวะ ที่มีพวกหนูแมลงสาบวิ่งกันยัวะเยี๊ยะ สองวันก่อน มีหนูตัวเบ้อเริ่ม โดนเหยียบเละ แพร่ด..เห็นเนื้อแดง ๆ ด้วย..กลางซอย..นั่นแหละมาด้วยเลย...คันมือคันไม้มาก...ยิ่งแพ้สิ่งสกปรกง่ายซะด้วยเรา * เอาพริกขี้หนูสวนลง ท่าจะแย่ ใบเริ่มเหี่ยวแล้ว เม็ดเขียวก็ยังไม่แดง ดอกเหี่ยว...เอามัลเบอรี่ (ใบเหลือง นี่ก็จะท่า มันบ่รอดเหมือนกัน)....หันไปเห็น ว๊าย.. มะฮอกกานี ดินแห้งเลย ต้องเอากรรไกร ตัด ฉีกถุง วางลงในกระบะโฟม (ของเก่า) แต่เอาลงดินลึกไม่ได้ ติดต้นหม่อน เอาวะ..ดีกว่าปล่อยให้แห้งตายแหงแก๋..ดินที่ซื้อมาจากโลตัส ออกจะเป็นดินร่วน ดินที่ติดกับต้นมะฮอกกานี (20 บาท) ..ออกจะสีน้ำตาล แน่น ๆ ...สงสัยอาจจะเป็นดินเหนียว.. * ต้นหญ้าหวานก็ใบเหลือง (แต่ละต้น ร่อแร่ ไม่น่ารอดเอาเสียเลย) ต้นฟักข้าว ดูใบยังเขียวสดอยู่ (มีหญ้าขึ้นแย่งอาหารด้วย ถอนออกต้นสองต้น).... * คันขา น้ำฝนกระเด็นจากพื้นใส่ขา..คันมาก.ก.ก... * มันจะรอดสักต้นมั้ยเนี่ย..ถ้าตายก็ไม่กี่บาท..แต่เสียดาย กว่าจะหิ้ว กว่าจะหอบกันมาถึงบ้าน...

เช้านี้หิ้วพัดลม Hatari ไปให้คุณแม่วิภาดูว่ามันเจ๊งแล้วจริงๆ

9 มิย.55... เช้านี้หิ้วพัดลม Hatari สีชมพู เป็นพัดลมหน้ากว้าง 16 นิ้วมั้ง ไปให้คุณแม่วิภาดูว่ามันเจ๊งแล้วจริงๆ ออกจาบ้านตีหน้าครึ่งกว่า ๆ วันเสาร์ รถไม่ค่อยแน่น 514 12-13 บาท (ก็เปิดทั้งวันทั้งคืน ไม่เคยหยอดน้ำัมัน แถมอาอากาศดาดฟ้าก็ร้อน ๆ ๆ ๆทุกวัน) * "ถ้าอินเตอร์หน่งอินเตอร์เน็ทมาก ๆ จะเหลือ 3,000 นะจะบอกให้" (ซ้ำ) * "เอาพัดลมตัวเล็กไปมั้ย จะได้ไม่ต้องซื้อ" .."ไม่เอา จะซื้อตัวใหม่"... "เงินมึงเยอะรึไง" * "ก็ขอเบิกของวันที่ 20 แล้วกัน เอาพันนึง..แล้ววันที่ 20 มาเอาที่เหลืออีกพัน..ไม่ต้องกลัว จะอยู่ให้ถึง ปลูกผักปลูกหญ้ากินแล้ว คงจะพอ.." * "ปลูกที่ไหน ดาดฟ้ารึไง"... * ...เมื่อวานเดินโลตัสยังนึกอยู่ว่าจะซื้อพัดลม เพราะลมมันอ่อย ๆ มาก ๆ ..กลับถึงบ้าน เมื่อวานเปิดไม่ติดเลย... แกะใบพัดออก แกนหมุนดูเหมือนคล้าย ๆ กับว่า จะติดแน่นกับมอเตอร์ข้างใน ...นอนแบบไม่มีพัดลม... *

วันศุกร์ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2555

วันนั้นกีฬาวิ่ง แกนุ่งเกงเล..เห็นแก "ขาโก่ง" ด้วยว่ะ 555

วันนั้นกีฬาวิ่ง แกนุ่งเกงเล..เห็นแก "ขาโก่ง" ด้วยว่ะ 55.. สงสัยจะขี่ม้าบ่อยไปเนอะ

ตาเฒ่าพันปี เค้าตังค์หมดแล้วนะ..รอวันตายอย่างเดียว

ตาเฒ่าพันปี เค้าตังค์หมดแล้วนะ..รอวันตายอย่างเดียว....ไม่ต่อสู้เพื่อเรียกร้องเพื่อให้ได้อะไรมา ไม่อยากได้.... ก็มีแค่นี้แหละ มีลมหายใจเป็นเดิมพัน...ช่างแม่ง ช่างมัน... ฟ้ามีตา ฟ้ามีตา ฟ้ามีตา..นรกมีจริง...คำสาปแช่ง เป็นจริง..ขนาดแช่ง.. "ใครที่ทำร้ายกูทั้งต่อหน้าหรือลับหลังขอให้มีอันเป็นไป" นึกเสร็จปุ๊ป คุณหนูหลิน พิมพา สุพรรณโกมุท..ตกมอเตอร์ไซค์ให้เห็น ๆ ต่อหน้าต่อตาเลย..

แจ๋พูด "อย่างนี้ต้องยิงทั้งเหลืองทั้งแดงสิถึงจะถูกต้อง"

แจ๋พูด "อย่างนี้ต้องยิงทั้งเหลืองทั้งแดงสิถึงจะถูกต้อง ไม่ใช่ยิงแดงฝ่ายเดียว ต้องยิงฝ่ายเหลืองให้ตายเหมือนกันด้วย เสธ.แดงตายฝ่ายเดียว...มันไม่ยุติธรรม" (สาธุ ผู้รักความยุติธรรม รู้จักด้วยเหรอ ไอ้ความถูกต้อง ยุติธรรมน่ะ)

แจ๋เล่าให้คนในบ้านฟัง ที่บ้านแซ่คิ้ว เขาพูด

แจ๋เล่าให้คนในบ้านฟัง ที่บ้านแซ่คิ้ว เขาพูด..(ไม่รู้ใครพูด) เล่าไปหัวเราะไป..."อะไรนะ ทำดีแต่ประสงค์ร้าย"... "ทำดี แต่ประสงค์ร้าย"...คล้าย ๆ คนพูดเลย... ถ้าเป็นผลประโยชน์ที่จะเข้าตัว ที่ตัวจะได้..ก็พูดว่าเขาดี... ใครที่ไม่มีผลประโยชน์ ก็คอยแต่จะใช้ปากแขวะ..ว่าเขาเป็นคนไม่ดี.. ฝ่ายตรงข้ามดีทุกประการ... ไม่รู้นะเนี่ย ว่าไอ้ที่เราไปไหนมาไหนด้วย จะเป็นคนแบบนี้..มารู้อีกทีตอนอายุใกล้ 60 ..มิน่าล่ะถึงสอน "สาว" แม่วู้ดดี้ "อย่าไปยอมรับว่าไปเอาผัวเขา ไอ้ไก่ แม่ไอป๊อปถาม..อย่าไปยอมรับ ให้ปฏิเสธไปว่าไม่ได้ไปเอาไอ้ไก่ (ผัวยายหมวย ข้างบ้านถัดไปอีก 2 ห้อง) เห็นมั๊ยแจ๋บอกแล้วว่าอย่าไปยอมรับ..ไอ้สาวไปยอมรับ แม่เอ็งเขาเลยโกรธมาก..อัปเปหิ ไปเลย...ไม่ยอมเชื่อแจ๋..แล้วก็เป็นอย่างนี้แหละ *

แจ๋อบรมหลาน "คนเราน่ะ ปากหวานเข้าไว้ ไม่เสียหลายหรอก"

ไม่รู้หลานคนไหน แจ๋อบรมสอน "ไถ่กู๊นะ ทำงานแม่บ้าน..นั่งกินข้าว ใครเดินผ่านก็ต้องเรียก...ชื่อ..เจี๊ยะ..ถ้าเดินผ่านหลายคน ก็ต้องเรียกเจี๊ยะทุกคน กว่าจะกินเสร็จ" "คนเราน่ะ ปากหวานเข้าไว้ ไม่เสียหลายหรอก" (ไม่แ่น่ใจว่า จะเข้าทำนอง "ปากหวาน ก้นเปรี้ยว" หรือเปล่า ออกแนวประจบ สอพลอ ตอแหล) มิน่า่ล่ะ มัวแต่เรียกเจี๊ยะ คงเสียเวลาทำงานไปเยอะ.. * มิน่าล่ะ ที่แจ๋เคยเล่า... "บ้านนี้นะ เมียคนนี้ก็ว่าแจ๋เข้าข้างซ๊อเมียน้อยคนนั้น ส่วนทางนี้ก็ว่าแจ๋เข้าข้างเมียคนนี้" สงสัยจะเข้าทำนองนก 2 หัวน่ะสิ... เจ้านายทั้ง 2 ข้าง เขาเลยตีกัน...แบบนี้แหละี่ที่เรียกว่า "หวังดี ประสงค์ร้าย" อาจจะไม่ตั้งใจก็ได้...คงจะทำเป็นแบบว่า...พูดกับฝ่ายนี้อย่างหนึ่ง แล้วก็ไปพูดกับอีกฝ่ายว่าอย่างหนึ่ง คือความจริงไม่ตรงกัน...เขาเลยทะเลาะกัน.. *

กูไม่มีจะต้องได้ ไม่มีอะไรจะต้องเสีย...แต่หลายคนมี...

กูไม่มีอะไรจะต้องได้..ไม่มีอะไรจะต้องเสีย... แต่หลายคนมี..ค่อย ๆ ทำไปก็แล้วกัน... อดตายน่ะเรื่องเล็ก ไม่ใช่ว่ากูจะไม่เคยอด...คราวนี้ถ้าอดตายก็ไม่แปลก...มาแลกกัน... กูไม่มีชื่อที่จะต้องเสีย..แต่คนอื่นไม่รู้...

บันทึกภาพเสียงเอาไว้ กูจะได้ไม่ลืม คุณแม่วิภาเขาบอกว่า ถ้าด่ามาก ๆ ในอินเตอร์หน่งอินเตอร์เน็ท จะลดเงินเหลือ 3 พัน

จาก 4,000 บาท + ของท่านเตี่ยอีก 2,000 บาท เป็น 6,000 บาท * คุณนายแม่วิภา จงมีความสุข เขาบอกว่า...ถ้าด่ามากในอินเตอร์หน่งอินเตอร์เน็ตอีก จะลดเงินลงเหลือ 3,000 (1,000 ของแม่ กับของเตี่ย 2,000) น่ากลัวมาก..สงสัยจะเหลือ 0 สตางค์มากกว่ามั้ง...ไม่เป็นไร เดี๋ยวเขียนป้าย ห้อยคอนั่งขอทานใต้สะพานลอยดินแดงนี่แหละ..เล่าให้ชาวบ้านรู้...เขียนชื่อบล็อคเกอร์ ชื่อ facebook แจกเป็นใบ ๆ เผื่อมีใครสมเพท อยากเข้าไปดู จะได้รู้ว่า ตกอับเพราะปากพล่อย "บอกไม่เอาสมบัติ" หรือจากสาเหตุอื่น...ที่พ่อแม่ทั้งโลกเขาไม่ทำกัน... * http://www.youtube.com/watch?v=PtENCr-4DqI&feature=channel&list=UL *

ได้คูปองเงินสด TESCO LOTUS 15 บาท ซื้อดินปลูกต้นไม้

ได้คูปองเงินสด 15 บาท เลยนั่งรถเมล์ฟรี 2 ทอดออกจากห้วยขวาง ไปต่อรถที่แยกห้วยขวาง..ขากลับหิ้วถุงดิน ขึ้นรถเมล์ฟรี 2 ทอด..สาย 54 ลงตลาดห้วยขวาง ต่อสาย 13 ลงดินแดง..ค่าดิน 39 บาท หักคูปองเงินสด 15 บาท จ่ายเงินสดเพิ่มอีก 24 บาท * เดินออกจากซอยบุญชูศรีเมื่อเช้า ตอนเย็นก็เดินกลับเข้าบ้าน แวะกินบะหมี่เกี๋ยว 1 ชาม 40 บาท...ไม่มีรถมอเตอร์ไซค์ ไม่มีเงินเติมน้ำมันรถ..วาสนาคนเราไม่เท่ากัน...ทั้งที่ทำงานหนักกว่า...ตอนเด็ก ๆ *

แจ๋พูดระหว่างดูละคร "ลูกเหี้ยแค่ไหนแม่ก็รัก"

น่าจะเป็นวันหยุด แจ๋นั่งบนเตียงผ้าใบสีแดง ข้างตู้ของกัณฑ์(สีฟ้า) ตี่นั่งบนเตียงไม้พับได้ เรานั่งกับพื้นหน้าพัดลม(เย็น) * นั่งดูละครอยู่ คงเป็นเรื่องเกี่ยวกับลูกทำไม่ดี...แจ๋ก็พูดลอย ๆ ขึ้นมาว่า "ลูกเหี้ยแค่ไหนแม่ก็รัก" (เราก็ชำเลืองหางตา เห็นตี่ก็คงจะงง งง เหมือนกัน) ไม่มีใครรับ..แล้วก็พูดต่ออีกที "ลูกเหี้ยแค่ไหนแม่ก็รัก" ทุกคนเฉย พูดอีก "ลูกเหี้ยแค่ไหนแม่ก็รัก" ก็เฉย พูดอีก "ลูกเหี้ยแค่ไหนแม่ก็รัก" (ไม่รู้จะหมายถึงคนพูดเองหรือเปล่า) เลยไม่ดูละคร มานั่งนับในใจว่า คุณแจ๋เขาจะพูดกี่ครั้ง สรุป "ลูกเหี้ยแค่ไหนแม่ก็รัก" พูด 4 ครั้ง (ถ้าพูดอีกเป็นครั้งที่ 5 แล้วยังไม่รู้ตัวเองว่า "้บ้า") ก็ต้องปล่อยเขาไปแล้ว..พวกจิตไม่ว่าง..จะกัดใครไม่ดูตาม้าตาเรือ..คิดว่าคนอื่นสันดานปากพล่อยเหมือนตัวเองมั้ง...แต่ถ้าเอ่ยชื่อด่า "นังปู" ล่ะก็..กูจะสอยให้ร่วงเลย...60 แล้ว ยังปากกินหมาเน่าอยู่อีก..มึงไม่ได้มีเงินเหมือนคนอายุ 70 กว่านะ..จะได้มีอำนาจ ด่าใครแล้ว เงินมันก็ง้างปาก เถียงไม่ได้...เถียงไม่ขึ้น *

วันพฤหัสบดีที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2555

อ๋อต้นเมเปิล เป็นของสวนสุโขทัย โบรชัวร์เขาบอกจะวนอยู่ในกรุงเทพทุกเดือน

ปูเหลียวค่อยถามอีกที..เป็น FRAGRANCE MAPLE ไม่รู้ว่าเป็น species เดียวกันกับที่ใช้ทำ Maple Syrup หรือเปล่า...แต่ดูรูปใบ จะออกแนวคล้ายของทาง Canada นะ * อย่าลืมเรือนไทยทรงปั้นหยานะเฟร้ย ตาเฒ่า แกจะใส่ "กาแล" ด้วยก็ได้นะ... http://www.pd.co.th/v5/th/knowlage_detail.php?t_id=00115 * อั๊ยหยา..หาพบน้อย เพราะคนจะสร้างต้องมีกะตังค์(KoTaRa) เยอะ..สงสัยอดว่ะแก

7 มิย. 55 ไปขอ(ทาน)รับเงิน 1,000 ที่้ร้านชำสีลม

วันนี้จะเอาเท่าไหร่.....วันนั้นยืมเล็กมา 1,000 เอาของวันที่ 10 เหลืออีก 1,000... * ถ้าด่าในอินเตอร์นงอินเตอร์เน็ตอีก จะให้นิดหน่อย เหลือแค่ 3,000 * ไม่อยากจะบอกเดี๋ยวเค้ามีของแถมให้ตัวเองดู *

"เกษตรแฟร์" วันสุดท้าย คนเยอะ เดินชนกัน..ตาเฒ่าพันปี แกเปิดเครื่องค้างของเมื่อวานไว้เหรอ ข้าไปสอยต้นไม้มาอีกละ (บ้า)

เดินไปเดินกลับ จนเมื่อย ขากลับจะซื้อสักถุง แมล่ง มีแต่ต้นไม้จริง ๆ ว่ะ..มีขายดินอยู่ร้านเดียว ซื้อไม่ฝนตกซะก่อน เซ็๋ง duck มะแล่ง..พอรอรถเมล์ืขึ้นรถเมล์ ฝนสะเกือกหยุดซะงั้น.. ไม่เป็นระ..เดี๋ยวไป JJ ก็ดั้ยเฟร้ย * เดินหาร้านรุจี น้องเค้าน่ารักมาก เก็บเมล็ด ถั่วพูสีม่วงไว้ให้ด้วย อะแรกคิดว่าจะม่วงปิ๊ดปี๋ทั้งฝัก มีม่วงอ่อนริมๆหยัก (ผิดหวังนิดหน่อย) 6 เมล็ดมั้ง บางเมล็ดดูพิการเล็กน้อย... ยังไงเวลาผัดก็ดำอยู่แล้ว..ถามน้องบอก กินได้เหมือนฝักเขียวน่ะแหล่ะ * เดินไปเดินมา..ได้พริกขี้หนูสวนมา 1 ต้น ตอนแรกถามคนขายบอก 35 เดินกลับไป เขาบอก 30...ถาม พริกขี้หนูสวนโบราณรึเปล่าหรือเป็นพริกขี้หนูสวน พันธุ์ปัจจุบันที่ต้นเตี้ย ...เขาบอกพันธุ์โบราณ เผ็ดหอม ..ขอเบอร์ card หมด..ขอจดเบอร์ เจ้าของเขาคงขี้เกียจบอก.. พริกเอามากจากของคนอื่นมาขาย..ของเขาน่ะ เป็นขายต้นชวนชม...จะจริงจะปลอมก็ต้องลองดู มีแต่เม็ดอ่อนสีเขียว.(เขาบอกกลับไปต้องลงดินให้ด้วย เพราะกระถางเล็กใส่แต่เครื่องเพาะ กาบมะพร้าวเป็นส่วนใหญ่) 15 วันใส่ปุ๋ย 1 ครั้ง สูตรเสมอ 15-15-15..กระถางใหญ่ 100 มีเม็ดแดงด้วย ถ้ารอดข้าจะเด็ดไปให้แกกินสัก 2-3 เม็ด * หญ้าหวาน เฟร้ย หญ้าหวาน ...มีผู้ชายขาย อย่างเดียวเลย กระถางใหญ่ 100 มั้ง ไอ้เราสะตุ้งสะตังค์ กะจิ๊ดริด..เลยซื้อกระถางเล็ก 50 บาท เขาบอกชิมได้ทุกใบ...เป็นยานะจะบอกให้ * เมล็ดพันธุ์ผักของเจียไต๋ ซื้อ 10 ซอง หรือ ครบ 100 บาทขึ้นไป เฉพาะงานนี้ แถมหนังสือคู่มือ(่น่ารัก)การเพาะปลูกผัก (ยังไม่ได้อ่านว่ะ) ซื้อแต่เมล็ดพันธุ์ลูกผสม น้องคนขายบอกจะทนโรคดีกว่า อร่อยกว่า...แต่ได้ยินคนซื้อเดินคุยกันบอก "พวกลูกผสมไม่ดี อย่าปลูกเลย" *

วันพุธที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2555

เฮ้ย ตาเฒ่าพันปี มีบูธนึงว่ะ มีต้นเมเปิ้ลขาย แบบญี่ปุ่น เขาบอก ปลูกในที่เย็น

เฮ้ย ตาเฒ่าพันปี มีบูธนึงว่ะ มีต้นเมเปิ้ลขาย แบบญี่ปุ่น เขาบอก ปลูกในที่เย็น ในรูปมีใบสีแดง เมื่อแก่จัด ใช่เลยว่ะ .ข้าไม่รู้เอาโบรชัวร์ (ข้าไม่ชัวร์) ไปไว้ไหน หาไม่เจอว่ะ.. แกให้ลูกน้องไปหาทีเดะ ซื้อไปปลูกที่บ้านแก่ เอ๊ย บ้านแก..บ้านแกอากาศเย๊นเย็นไม่ใช่เหรอ..ฮะ เอางี้เดะ ..ที่ญี่ปุ่นเขามีสวนป่าเมเมิ้ลที่จังหวัด มิโนะ...บางภาพเขาก็ถ่ายกับสวนญี่ปุ่น สะพานข้ามคูน้ำแบบญี่ปุ่น..บ้านแกก็เอาเป็นแบบ สวนป่าเมเปิ้ล ใต้ต้นเมเปิลก็เป็นบ้านไม้เรือนไทย ยกพื้นสูง มีเทอเรส ไม้กระดาน..เท่นะเฟร้ย..จัดมา...บ้านแกจะได้เป็นที่เที่ยวแถวนั้นว่ะ...สรุป ข้าชอบแบบเนี้ยนะเฟร้ย...

สวนบุญบันดาล อินทผลัม กิ่งพันธุ์ก็มีนะ

่ว่านสี่ทิศ พริกกระดิ่ง มะละกอพันธุ์กลางดง 08-7843-9920

มะุม่วงพันธุ์ STAR WARS ก็มีนะ...

มะุม่วงพันธุ์ STAR WARS ก็มีนะ... มะใช่อะไร พันธุ์ อาร์ทู-อีทู (แต่ของสตาร์วอร์สน่ะ อาร์ทูดีทู) http://www.google.co.th/imgres?imgurl=http://4.bp.blogspot.com/_NpINLHeo8rM/TRMF2tugyRI/AAAAAAAA3Qg/d3gMkOprOnA/s1600/9.jpg&imgrefurl=http://www.crookedbrains.net/2012/02/creative-r2-d2-inspired-designs-product.html&h=550&w=520&sz=43&tbnid=tktTsTJ2B4HRDM:&tbnh=96&tbnw=91&zoom=1&usg=__cElc7fPs0WLz_NYIkm7VO_evmb0=&docid=4yeWyDqH02SdDM&hl=th&sa=X&ei=cv_OT5jGFoLqrQfjvpH1Cw&ved=0CGcQ9QEwBQ&dur=734 * มะม่วงจินหวง (ไม่รู้จะหวงไปทำไม) จินหวง อาร์ทูอีทู มะม่วงไต้หวัน เห็นมีหลายปีแล้วนะ ..ทำไมตอนนี้มีปลูกที่เมืองไทย ไต้หวันเขาไม่ทำขายส่งออกแล้วเหรอเปล่านะ * สวนสุโขทัย มะม่วงเกาสง ฟอร์จูน จินหวง จีหวง อวี้เหวิน ฯลฯ ไปดูเอาเอง..089-7901057, 085-1378994

วันอังคารที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2555

เมล็ดพันธุ์ผัก เจียไต๋ แผงเบ้อเริ่มเทิ่งเลย บูธงี้ ยาวเชียว

เมล็ดพันธุ์ผักเีจียไต๋ แผงเบ้อเริ่มเทิ่มเลย มีเมล็ดพันธุ์เยอะมาก อยู่ระหว่าง หมดล็อคของกิน ริมรั้วม.เกษตร เดินเลาะไป บูธอยู่หัวมุมถนนพอดี แต่ไม่ถึงประตู 2

หงี่หยีเห็นนุ่งผ้าถุึง เออ..ใส่โสร่งค่อยดูดีหน่อย ดูดีกว่านุ่งผ้าขาวม้า

หงี่หยีเห็นนุ่งผ้าถุึง เออ..ใส่โสร่งค่อยดูดีหน่อย ดูดีกว่านุ่งผ้าขาวม้า.. * "ก็ไม่ใช่ไม่อยากนุ่งผ้าถุง แต่ไหงไม่มีเงิน มีเงินแล้วค่อยซื้อมาใส่ ก็ผืนละ 140 บาท 2 ผืนก็ 260 เขาลดให้..ไม่ได้มีวาสนามีมรดก มีเงินมีค่าเช่าบ้าน จะได้มีเสื้อใส่เปลี่ยนสีได้ทุกวัน เอาเงินมาให้ลูกทุกวันเสาร์ เห็นเสื้อโปโลไม่ซ้ำสีกันสักวัน" *

เดี๋ยวต้องไปเหมาหาต้นไม้ ไปให้บ้านกำแพงปลูกเยอะหน่อย

เดี๋ยวต้องไปเหมาหาต้นไม้ ไปให้บ้านกำแพงปลูกเยอะหน่อย ต้อนรับ AEC ปลูกอะไรขายก็รวย...ให้เขาปลูกขายให้รวย มีเงินมีทอง ปลูกตึก 2 ชั้น บ้านใหม่ ...ไม่ต้องเป็นหนี้แบงค์ ไม่ต้องเป็นหนี้พี่น้อง..ไม่ต้องเป็นหนี้บุญคุณใคร ตามชดตามใช้ตามช่วย ไม่รู้จักจบจักสิ้น....เกิดใหม่อีกกี่ชาติ็ก็ยังไม่รู้ต้องตามชดใ้ช้คนให้ยืมเงินแบบไม่คิดดอกเบี้ยอีกหรือเปล่า...นี่แหละ คนรู้จักบุญคุณคน สงสัยกุ๊งกับอาผอเลี้ยงลูกเยอะ ๆ ไม่เหมือนกันมั๊ง ..หงี่หยี แซ่หยี พี่น้องคงเลี้ยงมาไม่เหมือนกัน คิดคนละอย่าง ทำคนละอย่าง เลี้ยงลูกสอนลูกให้มีนิสัยและการกระทำเหมือนแม่ คนละอย่าง...แต่เหมือนกันอยู่อย่างเดียว เข้าข้างกระดอตัวผู้

อ๋อ ไอ้ป๊อปมันหายแล้ว มันไม่ต้องทำงานหนัก เท้าก็หายเจ็บ

คุยสัพเพเหระ...แจ๋บอก กลางวงสนทนาเรื่องก้อนเนื้อที่ส้นเท้าของเล็ก "อ๋อ ไอ้ป๊อปมันหายแล้ว มันไม่ต้องทำงาน ใส่รองเท้านิ่ม ๆ ก็หายแล้ว เท้าหายเจ็บแล้ว"

เล็กทำงานหนัก จนเป็นก้อนเนื้องอกในส้นเท้า แจ๋บอกอยากให้ไปหาหมอ

้้้เล็กทำงานหนัก จนเป็นก้อนเนื้องอกในส้นเท้า แจ๋บอกอยากให้ไปหาหมอ แต่เล็กบอก "กูไม่ได้เป็นอะไร กูรู้ตัวกูดี กูกลัวตายเป็นที่สุด" นั่นสิ กูก็เห็นด้วย เพราะเล็กเป็นคนที่ต้องทำงานไร่ งานขุดหน่อไม้ เป็นคนทำงานหลักของบ้าน คนเดียว..ต้องรักษาตัวให้ดี เพราะเล็กตายไม่ได้ เป็นอะไรหนักไม่ได้ จะไม่มีคนอื่นทำงานไร่ ทั้งคุมรายได้ คุมค่าใช้จ่าย คนงานเบิก แถมจะต้องเคลีย์ปัญหา คนงานเมาตีเมีย...หนีมาให้เล็กช่วย... คนงานผู้ชายบ้านอื่น นุ่งกางเกงในตัวเดียว เมาหนัก แล้วมามุดมุ้งคนงานบ้านเล็กกลางดึก ก็ต้องตื่นมาเคลีย์เรียกเจ้านายเขามาเอาตัวกลับไป ไม่อยากแจ้งตำรวจ เป็นเรื่องเป็นความ เสียงานเสียการคนงาน...ผู้หญิงคนนี้เก่งนะเฟร้ยขอบอก เฮ้ย...ตาเฒ่า...หาคนแก่ มาดูแล พี่สาวกุหน่อยเดะ...คุมงานไร่ได้นะเฟร้ย

เด๋ววันหน้าวันหลัง ค่อยมาประเมินรายได้ของนายสุชาติ สุพรรณโกมุท

เด๋ววันหน้าวันหลัง ค่อยมาลองประเมินรายได้ของนายสุชาติ สุพรรณโกมุท หลังจากได้รับมรดกเป็นที่ดินทุกแปลงของบิดา นายธรรมพล สุพรรณโกมุท หักที่ดินที่ีพี่ชายมีน้ำใจแบ่งให้น้องชายคนเล็กอีก แปลงครึ่งแปลง... * แถมหักด้วยค่าใช้จ่ายที่มีน้ำใจให้น้องสาวคนเดียว ที่ช่วยพ่อแม่ของมันทำมาหากินตอนเด็ก ในขณะที่ตัวมันอยู่โรงเรียนกินนอน เรียนอย่างสุขสบาย ไม่ต้องแบกหาม ล้างชาม หวาดหน้าบ้าน ไม่ต้องทำกับข้าว มีหน้าทีเรียนให้ดีอย่างเดียว..แล้วก็นั่งรถทัวร์กลับบ้านตอนปิดเทอม ช่วยงานตอนปิดเทอม แล้วก็กลับไปเรียนโรงเรียนประจำ จนจบ ม.3 ระหว่างเรียนก็มีกิจกรรม เล่่นกีฬา เล่นกีตาร์ ...เป็นนักกีฬาพุ่งแหลน มีเหรีญรางวัลมากมาย..ยังไม่ทันแก่ตายก็ไม่ต้องทำงานหนัก ได้ทรัพย์สมบัติ มรดก เพราะทำความดีัไว้มากมาย จากการที่แบกเตี่ยมันไปหาหมอที่โรงพยาบาล จนถึงวันสิ้นลม..ก็ยังอยู่ให้เห็นหน้า เป็นกำลังใจอันล้นเหลือ *

แจ๋ มึงคิดว่าแม่มึงรวยนักรึไง ทุกวันนี้เขากัดฟันขายของชำหาเลี้ยงมึงนะ นังปู จะบอกให้มึงรู้เอาไว้

แจ๋ มึงคิดว่าแม่มึงรวยนักรึไง ทุกวันนี้เขากัดฟันขายของชำหาเลี้ยงมึงนะ นังปู จะบอกให้มึงรู้เอาไว้ * งั้นมาลองสรุปรายได้ของคุณนายวิภา จงมีความสุขสักหน่อย เอาแบบ ไม่รู้เลยนะว่า เงินสดเท่าไหร่ บ้านและที่ดิน ทองคำ ทรัพย์สินอะไรเท่าไหร่..เอาแค่ที่รู้แบบโง่ ๆ เซ่อ ๆ * 1. ค่าเช่าห้องชั้นบน ร้านขายผัก น่าจะเกือบ 10 กว่าห้อง งั้นตีัแค่ 10 ห้องก็พอ 10,000.00 ไม่รวมค่าน้ำค่าไฟ... ห้องละ 1,000 / 10 ห้องก็ประมาณ (หลายปีก่อนบางห้องก็ห้องละ 1,300) 2. ค่าเช่าตึกที่บางพลี คุณนายวิภา พูดว่า เดือนละ 8,500 บาท 8,500.00 3. ค่าเช่าร้านขายผัก (เพิ่งรู้) ว่าเก็บแตงกับผัวเขา เดือนละ 3,000 บาท ไม่รวมค่าน้ำค่าไฟ 3,000.00 4. ค่าเช่าคอนโดฯ 2 ห้อง (ได้มาอย่างอัตโนมัติ มีชื่อร่วมกับป๊า แจ๋บอกแม่เอ็งให้เช่าเดือนละ 1,000) 2,000.00 5. ได้ยินแจ๋พูดว่า "แซ่หยีเขาขายได้วันละ 500 กว่าบาท ขายดีจะตาย" (200x30) 6,000.00 แต่กำไรไม่รู้เท่าไหร่ สมมติกำไรวันละ 200 (ที่เขาจะจ้างบังคับให้เราขายเองวันละ 200 บาท) 6. ค่าตู้น้ำกด (น้ำกรอง) 1 ตู้ ไม่รู้วันละเท่าไหร่ สมมติว่ากำไรวันละ 50 บาท (50x30) 1,500.00 7. ค่าเครื่องซักผ้า 3 เครื่อง ถ้าจำไม่ผิด (สมมติว่ากำไรวันละ 50 บาท 50x30) 1,500.00 32,500.00 สมมติว่า รายได้ค่าเครื่องกรองน้ำกับเครื่องซักผ้าเป็นของไอ้ป๊อป ก็หักออก 3,000 บาท 29,500.00 ก็จะยังคงเหลือเป็นรายได้ของคุณนายวิภา เป็นเงินประมาณ 1 ปี เป็นเงินประมาณ 29,500x12= 354,000 บาท 354,000.00 เดี๋ยวจะหาว่าไม่ FAIR หักค่าภาษีรัฐ (หรืออาจมีภาษีสังคม) ออกอีกสักหน่อยเป็นไร อีก 50,000 บาท ปีนึงก็เหลือซะ รายได้ของคุณนายวิภา จงมีความสุข 304,000 บาท 304,000.00 คุณนายวิภา บอก "กูกินละไม่ถึง 20 บาท" ก็ตีซะเดือนละ 20x30 = 8. ค่าเช่าที่ดิน ที่ก๊ออ๋าเช่าทำไร่อ้อย ปีละ 6,000 บาท (เท่าที่เคยได้ยิน อาจไม่ใช่แค่นี้) 6,000.00 รวมรายได้โดยประมาณ 310,000.00 1 ปีก็ 6,000x12= 72,000 บาท (ไม่หักค่าใช้จ่ายในการเล่นหวยรัฐ หวยใต้ดิน) ก็น่าจะเหลือกินเหลือใช้ปีละประมาณ 242,000 บาท 238,000.00 หักเงินขอทานให้ไอ้ลูกจัญไร ที่ไม่ยอมทำงาน ไม่ยอมทำมาหากิน อีกปีละ 4,000x12=48,000 ต้องเหลือ 238,000-48,000= 190,000 บาท 190,000.00 * นี่ยังไม่นับไม่ถามว่ามีทรัพย์สินอีกเท่าไหร่ เช่น ตึกแถว 1 ห้องที่พนมสารคามเมืองใหญ่ เลยบางคล้า ฉะเชิงเทราไปอีก ราคาที่ดินรวมสิ่งปลูกสร้าง หรืออาจมีรายได้ค่าเช่าตึก 1 ห้อง มีที่ไหนอีกไม่รู้ รู้เท่านี้ ถ้านับเฉพาะตึก ดินแดง ตีละ 3 ล้าน, ตึกบางพลี 3 ล้าน, ตึกที่พนมสารคามเมืองใหม่ 2 ล้าน รวมราคาทรัพย์สินที่เป็นที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ประมาณ 8 ล้าน (ไม่นับรวมเงินสดในธนาคาร หรือทองคำรูปพรรณ)

ส้นตีน ..วันนั้นที่ตะโกนด่ากลับไป

ส้นตีน... แม่งได้ที่ดินมรดกทั้งหมดอย่างถูกต้องตามพินัยกรรม ถูกต้องตามกฎหมาย... แต่ทำไม รถกระบะ ไม่มีชื่อแม่ง.. มันยังเอาไปเป็นของมันเลย.. หรือเขียนพินัยกรรมรถรถกระบะ ทรัพย์สมบัติทุกชิ้นให้มันอีกฉบับหนึ่ง เอามาดูเด๊ะ * ยกที่ดินให้...ที่เขียนไว้ในพินัยกรรม... แต่ไม่ได้พูด ไม่ได้เขียนถึง "รวมสิ่งปลูกสร้าง รายได้จากการให้เช่าทรัพย์สิน รายได้จากการขายทรัิพย์สิน".. ทุกอย่างก็เป็นของลูกชายคนโตของนายธรรมพล สุพรรณโกมุท คนเดียว...แม้แต่ลูกชายคนโตกว่า ก็ไม่ได้สักสลึงนึง... *

กลับมาเห็นตั้งแต่คราวที่แล้วแล้ว ว่ามีรอยพื้นรองเท้า

กลับมาเห็นตั้งแต่คราวที่แล้วแล้ว ว่ามีรอยพื้นรองเท้าที่ผ้าใบปูพื้นนอน ของกู... ไม่รู้ว่าเป็นรอยเท้าของใคร เป็นรอยขี้ดิน เลอะเป็นจุด เล็ก ๆ พื้นรองเท้า น่าจะเป็นขนาดของรองเท้าผู้หญิง ไม่ใช่รองเท้าผู้ชาย.. ย่ำบนผ้าใบที่นอของกู ตั้งแต่ปลายตีน ย่ำจนถึงหัวนอนเลย เป็นคราบขี้ดินรอยพื้นรองเท้า...ไม่มีใครสั่งใครสอนเลยเหรอ หรือไม่มีสามัญสำนึก ว่าไอ้ผ้าใบสีน้ำเงิน (ทำมาจากเบาเป่าลม ที่มันรั่ว) เป็นผ้าปูนอนของกู ย่ำเสียเลอะเทอะ สงสัยแม่งมายืนอ่านกระดาษที่กูเขียนแปะไว้ข้างฝา... แม่เขาไม่ยอมโอนเงินให้กูก่อน แม้แต่วันสองวัน ต้องวันที่ 1 เท่านั้น ก็ไม่มีเงิน ต้องกินน้ำประปา ประทังไป หิวจนแสบไส้ ก็ต้องรอ..รอไม่ไหว ต้องเดินออกไป เดินไปถึงรถเมล์ รอรถเมล์ฟรี เป็นนานกว่าเกือบชั่วโมง.. ลงสวนลุม เดินจากสวนลุม ทะลุ ศาลาแดง ไปบ้านร้านผัก เพื่อไปขอทาน(เงิน) พร้อมกับโดนด่า ว่ายังไม่ถึงวัน due ..จะเอาเงิน ก็ต้องยอมหน้าด้าน แลกกับการโดนด่า...ว่าใช้เงินเ้ปลือง ไม่ยอมทำงาน ให้ทำอะไรก็ไม่ทำ... * กูก็เอาแค่เดือนละ 4 พัน แบ่งจากค่าเช่า ตึักที่บางพลี (แต่แม่เขาด่าว่า...กูต้องขายของชำ เหล้า บุหรี่ หาเงินเลี้ยงมึง)... เพราะตอนนั้น แม่ยกมือ2มือ ท่วมหัว.. พูดประชดดัง ๆ "ค่าเช่าบ้าน มึงเอาไปให้หมดเลยมั้ย..ค่าเช่าบ้านมึงเอาไปให้หมดเลยมั้ย) ...เอาสิ เพราะกูไม่เอาสมบัติ ไม่เอามรดก เป็นภาระ..ไม่มีเงินจ่ายภาษี กูไม่รอถึงแก่ แล้วถึงจะมีเงินเก็บกินหรอก...ต้องรอแม่ตายก่อนน ...เขาถึงจะเอาชื่อกูไปใส่ไว้ในโฉนดที่ดิน 10 กว่าไร่ที่กำแพง..ไว้ ถ้าเขาตายที่ดินถึงจะเป็นของกูโดยอัตโนมัติ ไม่ต้องเีสียค่าโอน ไม่ต้องเสียภาษี ไม่มีค่าใช้จ่าย...ส่วนอันอื่นไม่มีสิทธิ์ ไม่มีเอี่ยว...บ้านดินแดง โอนเป็นชื่อกูแล้ว ผ่าตัดหัวเข่ายังเดินไม่ได้ ก็ยอมที่จะใช้ไม้เท้า ยัน 2 ขา ให้นั่งแท็กซี่ไปด้วยกัน...เสียเงินค่าโอน 20,000 เพื่อโอนกลับไปเป็นของชื่อคุณนายวิภา จงมีความสุข ตามเดิม..และยื่นเงินแบงค์พันสองใบ ให้เราให้เจ้าหน้าที่เก็บเงิน...เพื่อเป็นกำลังให้เจ้าหน้าที่ เขาก็รับไว้ไม่ปฏิเสธ ....แล้วก็นั่งแท็กซี่กลับ เสียค่าแท็กซี่...จบ * กูก็มือเปล่า มีแต่คนอื่นได้ทรัพย์สิน มรดก ได้เงินสด ได้ทองคำ (แต่เขาบอกว่าไม่มีใครได้ทองคำ เพราะขายไปหมดแล้ว ตอนเตี่ยรักษาตัว ตอนทำงานศพเตี่ย ไม่มีเหลืออะไรเลย) นอกจาเงินติดก้นบัญชี 7,000 กว่าบาท ที่่ต้องยึดบัตรประชาชน ไปถ่ายเอกสารไว้ก่อน รอให้ถึงวันโอนที่ดินที่สำนักงานที่ดินเขตมีนบุรี กับที่เขตหนองจอก เซ็นชื่อ "ไม่ขอรับมรดก" ที่สำนักงานที่ดินเขตมีนบุรีแล้ว ถึงจะันั่งรถ Honda Jajj (ประหยัดน้ำมัน ไม่ต้องขับสองคัน) ระหว่างทางไปสำนักงานที่ดินเขตหนองจอก ถึงจะแวะเอาเอกสารบัตรประชาชน สำเนาถูกต้อง ถอนเงินปิดบัญชีทหารไทย สำนักงานอยู่ในซอยเล็ก ๆ (สาขาย่อย) ... แล้วก็ไปเซ็น "ไม่ขอรับมรดก" ที่สำนักงานที่ดินเขตหนองจอก... * เสร็จเรื่องโอนที่ดิน เซ็นชื่อ "ไม่ขอรัีบมรดก" แล้ว (เหมือนตอนที่ป๊าพาไปที่สำนักงานที่ดินเขตหนองจอก เพื่อโอนขายคอนโดฯให้คนซื้อ..สนง.ที่ดินเขาปั๊มให้เซ็นชื่ือ..รับรองว่าเป็นโสด ไม่แต่งงาน ไม่ได้จดทะเบียนสมรส อะไรทำนองนี้"..เพื่อจะไม่มีปัญหาฟ้องร้องการซื้อขายในภายหลัง

บอกเอ็งก่อน เดี๋ยวเอ็งหาไม่เจอ จะมาด่า

แจ๋บอกเอ็งก่อน เดี๋ยวเอ็งหาไม่เจอ เดี๋ยวจะมาด่า ... วันนั้นแจ๋เฝ้าบ้างช่างทำหลังคา นอนห้องแม่เอ็ง เลยเอาหนวดกุ้งของเอ็งลงมาเสียบดูทีวี ที่ห้องแม่เอ็ง..ไม่ได้เอาขึ้นไปเก็บ เดี๋ยวจะมาด่าแจ๋....ต้องรีบบอกเอ็งไว้ก่อน

แล้วเอ็งจะไปหาหมอรามาเมื่อไหร่ ค่ารักษาให้แม่เอ็งจ่ายใช่มั้ย (ขำขำ)

โอ๊ย ไม่ต้องมาจ่ายให้กูหรอก..เดี๋ยวเงินมันหมด เก็บห้อง เก็บบ้าน เอาไว้ให้ลูกหลานที่ตกระกำลำบาก เขามาอาศัยอยู่เถอะ ...เขาต้องเป็นแม่พระ ทำบุญ กับลูกหลาน (ขี้) ...ลูกคนไหนดีก็ให้ลูกคนนั้น หลานคนไหนดีกูก็ให้หลานคนนั้น..เป็นล้านกูก็มี (พูดซ้ำหลายครั้ง)

ได้ยินแว่ว ๆ ไอ้ป๊อปมันเก่ง

ได้ยินแจ๋กับคุยเล็ก แว่ว ๆ "ไอ้ป๊อปมันก็ทำอย่างนี้ เอาเหล็กคานขึ้น" ...ก็เห็นไอ้ป๊อปมันทำอย่างนี้ * แจ๋... "ยังไงกูก็ต้องนับถือ ต้องชมว่า ไอ้ป๊อปมันเก่ง มันแบกเหล็กทั้งอันคนเดียว ทำบ้านให้แม่เอ็ง ไม่จ้างใครด้วย ไอ้ป๊อปมันเก่งจริงๆ มันทำคนเดียวให้แม่เอ็ง กูต้องนับถือมันว่ามันเก่งจริงๆ" * เหรอ ถ้ามัีนเก่งจริง ๆ ทำไม...แม่มันไม่ให้มันเปิดร้าน เปิดบริษัท รับเหมาก่อสร้างบ้าน รับเหมาะทำเหล็กล่ะ เงินดีจะตาย..มานั่งทำตรายาง อันละ 200 300 ..มีกำไรเท่าไหร่กันเชียว.. ทำร้านกลางดงหนองจอก ไม่ใช่ย่านการค้า ไม่ใช่ย่านธุรกิจ มีแต่บ้านคน พอมืดก็เหมือนบ้านนอก...มีแต่รถวิ่ง... ซอยนั้นปลูกบ้านทำตึก ตอกเสาแรง ๆ ก็ไม่ได้ เพราะมีแนวท่อแก๊สของ ปตท.ยาวเลย จากชลบุรีไปถึงไหนก็ไม่รู้... * อ๋อเงินใส่ซองที่ ปตท.เขาให้มา 2 แม่ลูกนั่นก็จัดการซะเรียบร้อยแล้ว... *

ไปเล่นเน็ตมั๊ยแจ๋ เค้าสอนให้ .."ไม่เอา ไม่ชอบ"

ไปไหม ไปเล่นเน็ตกัน เดี๋ยวเค้าสอนให้ ...แจ๋ หน้าหงิก "ไม่เอา ไม่ชอบ ไม่เอา ไม่ชอบ"... โลกทั้งใบอยู่ในหน้าจอคอมพิวเตอร์เครื่องเดียว ทำตัวเป็นน้ำชาล้นถ้วย กบในกะลา คิดว่าไอ้โค้งๆ เหนือหัวกบ นั่นคือหลังคาโลกกระมัง... * เล็กคงไม่อยากเล่นหรอก เพราะถ้าเล่นเดี๋ยวติด ...ก็แค่ใช้เอาว่า..ไปห้องสมุด ไปหาหนังสืออ่าน ยืมกลับมาอ่านที่บ้านเอา ไม่อยากเสียเงิน ไม่อยากเสียงาน...ต้องทำงานให้ยายหนู ขุดหน่อไม้วันเว้นวัน" ...."ทำไมเอ็งไม่หาอะไรปลูก ที่ขุดเก็บไว้ ระหว่างวันที่ไม่ได้ขุดหน่อไม้ แล้วเป็นรายได้ของเอ็ง ไอ้เงินหน่อไม้เป็นของยายหนูก็เป็นของเขาไป เอ็งทำให้เขา ส่วนที่เอ็งปลูกขุดระหว่างเว้นวัน ก็เป็นรายได้ของเอ็ง"....."เฮ้ยที่บ้านกูน่ะ ธรรมเนียม คือทำอะไร รายได้เป็นของแม่หมด จะเอาอะไรซื้ออะไรก็บอกเขา เบิกเขา เขาก็ให้ มันเป็นธรรมเีนียมของบ้านนี้ ส่วนลูกคนไหนแต่งงานแยกเรือนไปเขาก็แบ่งที่ดินให้ไปทำกิน.." "อ๋องั้นเงินอ้อยก็เป็นของเอ็งใช่มั๊ย" "เออ..เงินอ้อยน่ะของกู แต่ก็เป็นเงินที่ต้องเก็บไว้ใ้ช้จ่ายทั้งปี. ."ไม่เหมือนของทางบ้านเอ็ง ต่างคนต่างทำ แก่งแย่งกัน แยกกันทำมาหากิน พี่น้องไม่มีการช่วยเหลือกัีน แก่งแย่งกัน" ..."ดูสภาพกู กูมีปัญญาอะไจะไปแย่งอะไรกับพวกมัน..ตอนป๊าตาย เงินสดกูก็ไม่เคยเห็น ทองคำกูก็ไม่เคยเห็น ต้องด่าในเน็ตจนมันทนไม่ได้ ถึงถ่ายเอกสาร "พินัยกรรม" มาให้กูดูว่า มันได้ทรัพย์สมบัติ มรดกมาอย่างถูกต้องตามพินัยกรรม ถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ได้โกง (ย้ำ ถ่ายเอกสารนะ ยังไงก็ยังไม่กล้าเอา พินัยกรรมตัวจริงมาให้ดู)" * "เออ.มึงรู้อย่างนี้แล้ว ก็ต้องเก็บเงินไอ้ที่ืแม่เอ็งเขาให้เอ็งมา แบ่งเก็บเอาไว้เป็นทุนทำมาหากิน พยายามทำมาหากินเป็นของตัวเอง จะได้มีกินมีใ้ัช้ตอนแก่" * กูว่าต้องตั้งสมาคมสาวแก่แห่งกิโล 4 แล้วมั๊ง....หัวเราะกัน 555 555 555 .."เออว่ะ" *

มีงจะบ้าเรอะ ถ้าทำได้ กูก็ทำจนรวยไปแล้ว ที่ดินแบบนี้

แจ๋ว่า "มึงจะบ้าเรอะ ถ้าทำได้ กูก็ทำจนรวยไปแล้ว ที่ดินแบบนี้ จะไปปลูกอะไร ร้อนแล้งจะตายห่า...ถ้ามึงจะทำ กูยกให้มึงไปเลยไร่นึง ถ้ามึงทำได้".... "ก็มึงไม่ใช่คนที่อยู่กับดิน ไม่ใช่คนปลูกพืช ไม่ใช่คนปลูกต้นไม้ ไม่มีความรู้ในเรื่องการทำมาหากินกับการปลูกพืชผักขาย..มึงถึงทำไม่เป็นไง อย่างไอเ็ล็ก มันปลูกอยู่ ก็พยายามทำขาย" * ได้ยินเล็กคุยกับแจ๋ เงินอ้อย เป็นของกูก็จริง แต่ก็ต้องเก็บไว้ใช้ตลอดทั้งปี กูต้องปลูกพืชผัก ที่ขายมีรายได้ระหว่างปีด้วย ถึงจะได้มีเงินเก็บไว้ใช้จ่ายในครอบครัว เพราะเงินอ้อยก็จะเก็บไว้ปลูกบ้านที่ปลวกแทะ (ก็เห็นแล้วว่า ปลวกแทะ จนลมพัดมาทีนึง ไม้กระดานผุก็หลุดไปทีละแผ่น จนแทบจะเหลือแต่ตัวปูนของชั้นล่าง วันนั้นกูก็เดินไปเก็บผ้า ตรงที่จอดรถไถ..อีกสักพัก ยายหนูเรียกตาทวนมา ..เอาไม้ตอกค้ำเสาที่ีโรงจอดรถไถ..ดีนะที่มันไม่หล่นใส่หัวกูซะก่อน) ฝนมา ลมมาแต่ละที ยายหนูกับยายเล็ก ต้องช่วยกันเดินเช็ครอบบ้านว่าไม้แผ่นไหนจะหลุด ตรงไหนจะร่วงอีก)... * จริงๆ บ้านเอ็งน่าจะมีพื้นที่สีเขียวไว้นั่งเล่นชมวิว ก็ทำรั้วเตี้ย ๆ แบบสวนสมุนไพร อนามัยปากซอยสิ...แล้วก็ปลูกหญ้า ปลูกดอกไม้สวย ๆ ให้มีสีสัน สีเขียว บ้าง..นั่งเล่นกัน หาชิงช้า โต๊ะมานั่งคุยกัน... "แหมมึงไม่รู้รึไง แม่กูน่ะ ถ้ากูปลูกอะไร ดอกไม้ ต้นไม้ที่สวยแต่กินไม่ได้ เขาฟันของกูทิ้งหมด...ต้องปลูกอะไรที่กินได้ ขายได้ เขาถึงจะยอมให้ปลูก" ...เออ..งั้นเหรอ... * ตอนกลับ หงี่หยีถาม เห็นเอ็งมีเม็ดมะรุม ถ้าเอ็งไม่ปลูก ก็ทิ้งไว้เดี๋ยวไหงปลูกได้... คนชอบกินแกงส้ม ถ้าปลูกได้ดีก็ขายได้... อ๋อ มะรุมก็เป็นยาด้วยแหละหงี่หยี ซื้อมาจากเจียไต๋... * กูก็เห็นว่าที่ดินเยอะแยะ ถ้าปลูกพืชผักที่ขายได้ระหว่างปี ช่วยอีกทางน่าจะดีกว่ารอเงินอ้อย ปีละครั้งเพียงอย่างเดียว...หาพืชแปลก ๆ กินได้.. ขายได้.. ที่ไม่เกร่อ.. เล็กบอก "อยากให้ไอ้แจ๋หาแผงปลูกผักขายเอง ...จะได้มีรายได้" "เออ..วันนั้นกูดูในเน็ต พริกขี้หนูสวน กก.ละ 30 บาท แต่ในโลตัส ลดราคาแล้วนะ ยังโลละ 160 เลย... " ..."ก็คืออย่างนี้ ของที่ออกจากเกษตรกรน่ะ อย่างที่บ้าน มันก็จะถูก กว่าจะถึงมือคนกิน ก็แพงระหว่างทาง"... "ปลูกพริกชี้่ฟ้า ทำพริกแห้ง แบบพริกแห้งบางช้างสิ..."..."โอ๊ย มึงไม่รู้อะไร บ้านกูน่ะ แม่กู ก็ปลูกมาแล้วทุกอย่าง" "กูหมายถึงปลูกทีละอย่าง ทำเยอะ ขายส่งเป็นเรื่องเป็นราว" ....เล็ก "ก็นั่นแหละ บ้านกูก็ปลูกทีละอย่าง ปลูกมาทุกอย่างแล้ว เจ๊งทุกอย่างที่ปลูก ก็เลยไม่ปลูกอะไรอีกเลย แม่กูน่ะเขาปลูกเอาไว้กิน เอาไว้แจกเพื่อนบ้าน" ..."ใจดีจังเลยะนะ แม่ึมึงเนี่ย" * ถามเล็ก "รายได้ต่อปีจากปลูกอ้อย ผลผลิตต่อไร่ได้ปีละเท่าไหร่" .... "ก็ตกปีละ 20,000 ต่อไร่.." "งั้นวันนึีงก็ได้ไม่ถึง 100 บาทต่อวันน่ะสิ...ค่าพันธุ์ ค่ายาคุมหญ้า ค่าปุ๋ย ค่าคีบ ค่าน้ำมัน" * เห็นที่ตลาดเขาเอาผ้าใบมาขึงกับโครงเหล็ก ใส่น้ำ หล่อน้ำให้ปลา พอขายหมด ก็เหยียบผ้าใบเอาน้ำออกหมด...แบบนี้ถ้าเอาไว้เก็บน้ำได้ก็น่าจะดีนะ ...พอไม่ใช้ก็เก็บผ้าใบขึ้นได้ *

เห็นแจ๋ถ่ายวิดีโอ บูม น่ารัก

เออ แจ๋เอาไปใส่ไว้ใน youtube สิ... "บ้า เรื่องในครอบครัว ไม่ให้คนอื่นดู เรื่องอะไรไปให้คนอื่นดู เก็บไว้ดูเองในครอบครัว" (แต่ไม่รู้ปีก่อนใครบ้า..."บูม บูม พูดซิ เก็บตกจบแล้วคร้าบ" จะเอาส่งไปให้รายการ เก็บตก เผื่อได้ออกทีวี" * เล็กก็ช่วยพูด "มึงต้องเข้าใจ ที่นี่คนแก่เขาเปิดคอมฯไม่เป็น กูยังเข้าไม่เป็นเลย" * ไปไหม ไปเล่นเน็ตกัน เดี๋ยวเค้าสอนให้ ...แจ๋ หน้าหงิก "ไม่เอา ไม่ชอบ ไม่เอา ไม่ชอบ"... โลกทั้งใบอยู่ในหน้าจอคอมพิวเตอร์เครื่องเดียว ทำตัวเป็นน้ำชาล้นถ้วย กบในกะลา คิดว่าไอ้โค้งๆ เหนือหัวกบ นั่นคือหลังคาโลกกระมัง... * เล็กคงไม่อยากเล่นหรอก เพราะถ้าเล่นเดี๋ยวติด ...ก็แค่ใช้เอาว่า..ไปห้องสมุด ไปหาหนังสืออ่าน ยืมกลับมาอ่านที่บ้านเอา ไม่อยากเสียเงิน ไม่อยากเสียงาน...ต้องทำงานให้ยายหนู ขุดหน่อไม้วันเว้นวัน" ...."ทำไมเอ็งไม่หาอะไรปลูก ที่ขุดเก็บไว้ ระหว่างวันที่ไม่ได้ขุดหน่อไม้ แล้วเป็นรายได้ของเอ็ง ไอ้เงินหน่อไม้เป็นของยายหนูก็เป็นของเขาไป เอ็งทำให้เขา ส่วนที่เอ็งปลูกขุดระหว่างเว้นวัน ก็เป็นรายได้ของเอ็ง"....."เฮ้ยที่บ้านกูน่ะ ธรรมเนียม คือทำอะไร รายได้เป็นของแม่หมด จะเอาอะไรซื้ออะไรก็บอกเขา เบิกเขา เขาก็ให้ มันเป็นธรรมเีนียมของบ้านนี้ ส่วนลูกคนไหนแต่งงานแยกเรือนไปเขาก็แบ่งที่ดินให้ไปทำกิน.." "อ๋องั้นเงินอ้อยก็เป็นของเอ็งใช่มั๊ย" "เออ..เงินอ้อยน่ะของกู แต่ก็เป็นเงินที่ต้องเก็บไว้ใ้ช้จ่ายทั้งปี. ."ไม่เหมือนของทางบ้านเอ็ง ต่างคนต่างทำ แก่งแย่งกัน แยกกันทำมาหากิน พี่น้องไม่มีการช่วยเหลือกัีน แก่งแย่งกัน" ..."ดูสภาพกู กูมีปัญญาอะไจะไปแย่งอะไรกับพวกมัน..ตอนป๊าตาย เงินสดกูก็ไม่เคยเห็น ทองคำกูก็ไม่เคยเห็น ต้องด่าในเน็ตจนมันทนไม่ได้ ถึงถ่ายเอกสาร "พินัยกรรม" มาให้กูดูว่า มันได้ทรัพย์สมบัติ มรดกมาอย่างถูกต้องตามพินัยกรรม ถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ได้โกง (ย้ำ ถ่ายเอกสารนะ ยังไงก็ยังไม่กล้าเอา พินัยกรรมตัวจริงมาให้ดู)" * "เออ.มึงรู้อย่างนี้แล้ว ก็ต้องเก็บเงินไอ้ที่ืแม่เอ็งเขาให้เอ็งมา แบ่งเก็บเอาไว้เป็นทุนทำมาหากิน พยายามทำมาหากินเป็นของตัวเอง จะได้มีกินมีใ้ัช้ตอนแก่" * กูว่าต้องตั้งสมาคมสาวแก่แห่งกิโล 4 แล้วมั๊ง....หัวเราะกัน 555 555 555 .."เออว่ะ" *

ตอนเด็กให้แม่ล้างก้นให้ หัวเกือบทิ่ม

ตอนเด็ก ๆ จำได้ว่า...ถ่ายหนักเสร็จแล้ว เดินไปตะโกนเรียกแม่ขายของอยู่หน้าบ้าน "ม๊า เสร็จแล้ว..." มานั่งรอ ก็ยังไม่มา ลุกเดินไปตะโกนเรียกอีก "ม๊าเสร็จแ้ล้ว..." รอสักครู่ ม๊าเดินมา เอาขันจ้วงตักน้ำในโอ่ง แล้วเอาปลายเ้ท้่าถูก้นเราพร้อมกับราดน้ำไปด้วย นั่งยอง ๆ หัวจะคะมำไปข้างหน้า ทรงตัวได้แล้วก็นั่งให้มั่นคง ม๊าก็เอาปลายเท้าล้างก้นให้อีก เสร็จแล้วก็ใส่เสื้อผ้า... * ไม่รู้ว่าลูกชายอีก 2 คนของม๊า เขาล้างก้นให้ลูกชายเขาแบบนี้เหมือนกันหรือเปล่านะ *

ตาเฒ่า ว่าง ๆ แกจะเรียกข้า ว่า "สังกะ สะกั๊ง" ก็ได้นะ

ตาเฒ่า ว่าง ๆ แกจะเรียกข้า ว่า "สังกะ สะกั๊ง" ก็ได้นะ 555

ไหนไหนก็ไหนไหน...ตอนเด็ก ๆ ฉายา "สกั๊ง"

ตั้งแต่เรียนชั้นประถม ไปโรงเรียนตื่นขึ้นมา ก็ไม่ได้อาบน้ำ แต่งตัวไปโรงเรียน ตัวคงเหม็นมาก เพื่อน ๆ ทุกคนเรียก "สกั๊งค์" เป็นที่รังเกียจ โดนล้อทุกวัน จนถึง ป.6 ก็ยังถูกเพื่อนว่าอยู่ ไม่ค่อยมีใครคบ จะมีก็แต่เพื่อนผู้หญิง 2 คน ที่ดีมาก ไม่เคยพูดว่า ยอมเป็นเพื่อนด้วย คนหนึ่งชื่อ "จรีพร สุมะนังกุล (เอ๋)" เขาเป็นพี่สาวคนโต มีน้องสาวอีกหลายคน "เอ๋ อ๋อ โอ๋ อุ๋ม" ผิวคล้ำ ตาโต ผมหยิก...อีกคนชื่อ "รัตนา จำนามสกุลไม่ได้ ชื่อเล่น "หุย" มีน้องสาวเรียนห้องเดียวกันอีกคน แต่ไม่ค่อยสนิทด้วย... หุย ก็เป็นคนหน้าตาดี ผิวขาว ตาสวย พูดดี อารมณ์ดี หัวเราะง่าย... * อยู่พาณิชย์สีลม ตอนเช้าก็อาบน้ำก่อนไปโรงเรียน แต่คงเป็นเพราะเดินไปโรงเรียน ประหยัดค่ารถเมล์ เช้า ๆ เดินออกกำลังกาย ก็คงเหงื่อออกเยอะ ..ตกบ่ายก็คงมีกลิ่นตัว..ก็มักจะมีเพื่อนผู้ชายกลุ่มหนึ่ง 3-4 คน เขาก็นั่งกระซิบล้อเลียน ทำนองว่า "ตัวสกั๊งค์ ตัวเหม็น" จนจบชั้น ปวช.2 ก็แยกห้อง เขาไปเรียนการตลาด ส่วนเราอาจารย์ให้เรียนห้องบัญชี ตอนแรกเราเลือกเรียน เลือกเอง จะเรียน เลขานุการ หุ่นและหน้าตาคงไม่ให้ อาจารย์ก็เลยยัดให้ไปเรียน "บัญชี" กูไม่ชอบตัวเลขเลย * สอบเทคนิคกรุงเทพไม่ได้..เลยสอบเข้า วิทยาลัยอาีชีวศึกษาเอี่ยมลออ.. วันสอบ วิชาสุดท้ายลืมสอบ เดินกลัีบบ้านสบาย ๆ พอถึงบ้าน สักพักหนึ่ง นึกขึ้นได้ ว่า เฮ้ยยังไม่ได้สอบอีกวิชาหนึ่ง รีบแต่งตัวกลับไปสอบให้ทัน เกือบไม่ทัน...สุดท้่ายสอบได้ ถ้าสอบไม่ได้คงโดนแม่ด่า เพราะจะต้องเสียเงินไปเรียนโรงเรียนเอกชน...

กางเกงในสีแดงตัวเดียว

ตอนเด็ก ๆ จำได้ว่า ไปโรงเรียนดวงถวิล มีกางเกงในสีแดงตัวเดียว ใส่จนเป้าขาดหมดแล้ว กลางคืนซัก แล้วก็ตากราวลวดอลูมิเนียม ข้างประตูออกหลังบ้างชั้นบน.. ขาดแล้วทำไง..ก็ใส่ทุกวันนั่นแหละ ใส่กางเกงในแบบไม่มีเป้า ก็เย็น ๆ ...คุณครูคงเห็นหลายวัน...ไม่รู้ว่าบอกทางบ้านหรือเปล่า ...วันต่อมาแม่ก็ซื้อกางเกงในตัวใหม่มาให้ แต่ไม่ใช่สีแดง..ก็เหมือนเดิม ซักกลางคืนเช้าก็ใส่ไปโรงเรียน *

มีสายเข้า แหมกำลังคิดถึงอยู่พอดี งั้นเตี๊ยมกับข้างบ้านไว้สิว่า..

มีสายเข้ามือถือแจ๋ "แหมกำลังคิดถึงอยู่พอดี ขอบคุณที่โทร.มาหา... " ได้ยินไม่ชัด เดาว่าคงมีคนมาขอทำงานแม่บ้านกระมัง แจ๋ "งั้นเธอก็เตี๊ยมกับคนข้างบ้านไว้สิ ว่าได้เดือนละ 3,000 บาท ใช่ต้องเตี๊ยมให้คนข้างบ้างพูด จะได้พูดเหมือนกันว่า ว่าได้เดือนละ 3,000 บาท) *

แจ๋บอกแดง เตี๊ยต้องทำอย่างนี้สิ

แดง บอกเตี๊ยว่า ไปผ่าตัดที่กรุงเทพสิ นี่อะไร รักษา ที่เชียงใหม่ พอจะผ่าตัดบอก เครื่องมือไม่พร้อม แจ๋ว่าไปผ่าตัดที่กรุงเทพดีว่า หมอก็ดี เครื่องมือผ่าตัดก็พร้อม หย่ำเองก็ขับรถไปเยี่ยมไปดูเตี๊ยง่าย แดงเองก็เถอะ ขับรถจากขอนแก่นไปเชียงใหม่ไม่ใช่ง่าย ๆ น๊า..(พูดย้ำ พูดซ้ำ ว่าความคิดนี้เป็นความคิดที่ถูกต้อง..ต้องทำแบบนี้ถึงจะดี...เหมือนกันจริง ๆ ตัวกูคิดถูกต้อง เป็นศูนย์กลางของโลกใบนี้ กูพูดอย่างนี้ก็ต้องทำอย่างนี้ถึงจะถูกต้อง ถึงจะดี...) * แต่ไม่ได้ยินเสียงแดงตอบกลับอะไร...คนเขารู้มากกว่า แจ๋ ไม่รู้ตั้งเท่าไหร่ อายุขนาดนี้แล้ว ทำตึกคอนโดฯให้เ

โน่บอก กู๊ปูเข้าห้องน้ำห้องโน่ ทำห้องน้ำเลอะ

แจ๋ก็ไม่รู้นะ ไอ้โน่มันพูด มันบอกว่า "กู๊ปูขอเข้าห้องน้ำแล้วทำห้องน้ำเลอะ" ..."กูนี่นะทำเลอะ กูขอ เข้าแค่เฉพาะถ่ายหนักเ่่ท่านั้น เวลาเสร็จแล้ว ก็ล้างในโถนั่ง แล้วก็กดก้านกดน้ำค้างจนน้ำหมดแท็งค์ แล้วก็ใช้ฝักบัวอาบน้ำ ฉีดน้ำแรง ๆ บนขอบโถรองนั่ง ยกขอบโถรองนั่งขึ้น แล้วก็ฉีดที่ขอบบนของโถอีกหลายวินาที..มันเลอะขนาดนั้นเลยเหรอ... * เอ็งทำไมไม่เข้าห้องน้ำที่ดาดฟ้า แจ๋ก็เข้าใจว่าเอ็งนั่งไม่ไหว ไม่เข้าหรอก กลัวผีนก ที่มันเข้กาไปตายใต้หลังคา ห้องน้ำอ่างใส่น้ำที่เป็นกระเบื้องก็เลอะ ไม่ได้ล้าง ถ้ารองน้ำไว้ก็เป็นพี่เพาะยุง เดี๋ยวพอเอ็งกลับไปอยู่บ้านดินแดง แม่เอ็งเขาบอกให้เอ็งไปเอาเงินที่แม่เอ็ง ไปซื้อไอ้เก้าอี้ที่ครอบโถสนั่ง วางบนโถส้วม(ซึม) ช่างเขาบอกว่า เปลี่ยนไม่ได้ ทำยาก เปลี่ยนโถส้วมเป็นแบบโถนั่งไม่ได้ มันทำยาก ทำไม่ได้..แม่เอ็งเขาบอกจะให้เงินเอ็งไปซื้อ เก้าอี้สามขาเอาไว้นั่งถ่ายในห้องน้ำดาดฟ้า... * ลงทุนจริง ๆ เพื่อความสะอาดสบายของกูจริงจริ๊ง...

เอ็งจะเอาห้องไหนอยู่ห้องไหน แม่เอ็งเขาให้เอ็งเลือกครอบครองได้ตามใจเอ็๋งเลย

แม่เอ็งเขาบอก เอ็งจะกลับไปอยู่่ห้องไหน แม่เอ็งเขาให้เอ็งเลือกครองได้ตามสบาย ถ้าจะอยู่ห้องชั้น 3 ห้องไอ้ป๊อปเขาก็ให้เอ็งอยู่ ให้เอํงครองครองเลย ไอ้ป๊อปมันอยู่ที่หนองจอกแล้ว มันจะย้ายของออกไปให้เอ็งอยู่... "กูไม่เอาของเหลือเดนของมัน กูไม่เอาของเหลือเดนของมัน" ..."งั้นเอ็งจะอยู่ห้องชั้น 2 ห้องแม่เอ็ง ตรงข้ามห้องไอ้ป้อมเอามั๊ยแม่เอ็งเขาบอกจะกั้นห้องให้เอ็งอยู่ แจ๋เก็บห้องให้สะอาดเรียบร้อยแล้ว เอ็งกลับไปก็เข้าไปอยู่ได้เลย" "ไม่เอา ไม่ต้องมาเสียเงินทำให้กูหรอก ห้องแค่นั้นน่ะนะ จะกั้นห้อง..ห้องน้ำก็ต้องใช้สายยางรองน้ำใส่โถกดน้ำ วันดีคืนดี ท่อน้ำประปาที่ไหลจากแท็งค์ข้างบนก็หลุด น้ำไหลไม่หยุด"... ไม่มีลม ไม่มีแสงสว่าง เดี๋ยวต้องเปิดไฟ เปลืองไฟอีก..ขนาดไฟทางเดิน คุณนายวิภาพูด "้ใช่หลอดตะ้เกียบ เอาพอเห็นก็พอ เปลืองไฟ" * "งั้นเอ็งก็ไม่ต้องมาพูดว่าใครๆอีกนะ ว่าไม่ให้เอ็งอยู่...เอ็งไม่ต้องมาว่าใครอีกนะว่าไม่ให้เอ็งอยู่" (กู..หึหึ) *

แจ๋บอกแดง ต้องอย่างนี้สิแดง ให้เตี๊ยผ่าตัดที่กรุงเทพ

แดง เตี๊ยน่ะรักษาที่เชียงใหม่ไม่ดีหรอก พอจะผ่าตัดเขาบอกว่าเครื่องมือไม่พร้อม แจ๋ว่า ต้องให้เตี๊๋ย (แซ่คิ้ว) ไปรักษผ่าตัดที่่กรุงเทพ หมอก็ดี หมอใหญ่ รักษาดีกว่า เครื่องมือผ่าตัดก็พร้อมกว่า หย่ำเองก็ขับรถไปเยี่ยมเตี๊ยไปดูเตี๊ยสะดวก แดงเองก็เถอะ ขับรถจากขอนแก่นไปเีชียงใหม่ไม่ใช่ง่าย ๆ น๊า.. ถ้ารักษาที่เชียงใหม่... (เหมือนใครน๊า กูรู้ดี กูเป็นศูนย์กลางของโลกใบนี้..กูคิด กูพูด คนที่ได้ฟังต้องทำตาม ถึงจะได้ผลดี ถึงจะถูกต้อง เหมือนที่คุณนายวิภาพูดกับซ่อแม่เจี๊ยบ "เนอะซ่อ มันต้องอย่างนี้ คนนั้นต้องได้สมบัติที่ดินเท่านั้น เท่านี้ .....วันนั้นไปกินข้างกับริน ที่ภัตตาคารซีฟู๊ดแถวเยาวราช ริน แจ๋ นังปู กินไป แจ๋ก็หันไปพูดกับริน "รินว่ามั้ย ปูกินเหมือนซาโกวเลย (พูดย้ำ พูดซ้ำ อีกหลายครั้ง) ค่อย ๆ เล็ม ค่อย ๆ แทะ (ก้ามปู) กินเหมือนผู้ดี ค่อยๆ เคี้ยว....รินก็เออออห่อหมกไปด้วย...แจ๋เคยพูด ต้องสำนึกบุญคุณ "รินน่ะเขาพาแจ๋ไปหาหมอ เอาก้างปลาออกจากคอ ก้างปลาติดคอ ต้องจำบุญคุณนี้จนวันตาย เป็นบุญคุณต้องช่วยเขาทุกอย่าง ต้องซื้อปลาดุกย่างแกะใส่กล่องไปให้ริน รินชอบกินมาก) *

สงสัยหยีเล็กคงไปว่าอะไรแซ่คิ้วแม้ เขาถึงไม่พูดด้วยเลย

หยีเล็ก โทร.มาถามว่าแซ่คิ้วแม้อยู่บ้าน หงี่หยีหรือเปล่า..พอวางสายก็เดินมาถามอีกทีเลยว่าไม่เห็นแซ่คิ้วแม้... แจ๋เล่าว่า หยีเล็กเคาะประตูห้องก็ไม่เปิด ไม่มีเสียง หยีเล็กก็เลยสงสัยว่าหายไปไหน เดินตามหา บ้ารึเปล่า... คงจะไปว่าอะไรแซ่คิ้วแม้เขาล่ะ เขาถึงงอนไม่พูดด้วย สุดท้ายหยีเล็กก็ต้องไปง้อเขา.. ก็มาอาศัยเขาอยู่น่ะ เขาเลี้ยง ก็ไม่เกรงใจเขา ไปว่าเขา.. คนเราน่ะ มาอาศัยเขาอยู่ เขาเลี้ยงก็ดีแค่ไหนแ้ล้ว ยังจะปากไม่ดีไปว่าเขาอีก... * นังปูถาม "แล้วหยีเล็กเป็นน้องหรือเป็นพี่ของแซ่คิ้วแม้" ..แจ๋ตอบทันที "จะเป็นพี่หรือเป็นน้องก็ไม่สำคัญ หยีเล็กเป็นพี่สาว แต่จะเป็นพี่หรือเป็นน้องก็ไม่สำคัญ ตัวเองน่ะ ตัวคนเดียว มาอาศัยเขาอยู่ เขาเลี้ยง ก็ต้องรู้ตัวเองสิ ว่ามาอาศัยเขาอยู่ ต้องรู้จักเกรงใจ...ไม่ใช่ตามใจตัวเอง พูดอยากได้โน่นอยากกินนี่..ใช้คนไม่เกรงใจ" (อ๋อเหรอ มาอาศัย ก็เลยถูกถล่ม ข่มเหง) * วันที่แม่ยายแดงมา... หยีเล็กก็ไปถามซักไซร้แซ่คิ้วแม้ น้ำเสียงห้วน ๆ "เขาขอตามมาเหรอ เขาขอตามมาเหรอ มาทำไม" ...แจ๋ "บ๊ะ ก็คนเขาอยากจะตามมาเที่ยวแล้วจะเป็นอะไรไป เขาเป็นแขก หยีเล็กมีหน้าที่อะไรไปถามเขาว่า เขาขอตามมาเหรอ ทำไมเขาจะขอตามมาเที่ยวบ้านลูกเขยไม่ได้ บ้ารึเปล่า"... * แซ่คิ้วกับแซ่คิ้วแม้ บ่นด่าใหญ่เลย ..."นี่ก็ถามแล้วว่าจะอยากจะกินอะไร จะทำให้กินก่อน ดูซิมันยังมาตวาดกลับ ไม่ต้องกินก็ได้...เดี๋ยวไล่แม่งไปอยู่ที่อื่นเลย ไม่ให้อยู่แล้ว" คนที่ต้องอาศัยน้องสาวกับน้องเขยอยู่ ตัวเองป่วยเป็นมะเร็ง แขนก็เดี้ยง ไม่ได้ค่อยออกกายภาพบำบัด ไม่มีเงินทองมากมาย หรืออาจจะไม่ค่อยมีเสียด้วยซ้ำ มาอาศัยเขาอยู่..ก็ไม่รู้เขาจะรู้สึกอึดอัดบ้างหรือเปล่านะ... *

คุยกับเหวิน ไถ่กู๊ไปนั่งเฝ้าช่างทำหลังคาให้แซ่หยี เขาให้มา 500 บาท

ปู แม่เอ็งเค้าให้แจ๋ไปนั่งเฝ้าช่าง ทำหลังคาห้องดาดฟ้าของเอ็ง 3 วัน 3 คืน จนช่างซ่อมเสร็จ... (แต่ไม่พูดว่าได้เงินด้วย) วันที่คุยกับเหวิน ไถ่กู๊รับจ้า่ง อย่างเล่นกับนีโอ 3 วัน ได้เงิน 1 พัน..หยีผอ (แซ่คิ้วแม้) ให้...เฝ้าบ้านช่างทำหลังคาให้แซ่หยีผอ 3 วัน 3 คืน ให้มา 500 บาท (นึกในใจต่อ ให้ค่ารถด้วยหรือเปล่านะ เพราะตอนแรกแจ๋จะกลับกับเลี๊ยบ ขับรถเก๋งกลับกำแพง ไม่ต้องเสียค่ารถ)... *

แล้วแจ๋รู้หรือเปล่าว่า นวดอโรมาเธอราปี สุคนธบำบัดน่ะ เงินดีจะตาย

แล้วแจ๋รู้หรือเปล่าว่า นวดอโรมาเธอราปี สุคนธบำบัดน่ะ เงินดีจะตาย เงินดีกว่านวดแผนโบราณแบบราชสำนัก หรือเชลยศักดิ์เสียอีก คงเป็นอย่างเดียวมั๊งที่แจ๋ไม่เรียน เพราะเ้รียนไม่ได้ แพ้กลิ่นทุกอย่าง เพราะนวดพวกนี้เขาใช้น้ำมันหอมระเหย จุดเครื่องหอม กำยาน ขืนนวดล่ะก็ อาจตายเพราะทนกลิ่นหอมไม่ไหว ไม่ว่าจะเป็นลาเวนเดอร์ (กลิ่นนี้เล็กแพ้อย่างแรง อันนี้ไม่ได้ดัดจริตเสแสร้ง)... วันวันนั่งดูวิดีโอ นวด.."โอ้โหต้องหัดนวดให้ไว้อย่างเขา เขานวดงี้ มือไม้พลิ้วเชียว".... * "กัณฑ์มาให้ไถ่กู๊ตัดผมให้ ใช้ปัตตาเลียน ตอนเรียนนะ ตัดมาแล้วหลายสิบหัว วันละ 10 กว่าหัว...เหวิน มาให้ไถ่กู๊ตัดผมให้ บูม มาให้ไถ่กู๊ตัดผมให้ ไถ่ผอตัดเก่งนะ สวยด้วย" ไม่มีใครยอมมาให้เป็นคุณหนูทดลองฝีมือให้สักคน ต้องพิจารณาตัวเองแล้วนะ *

ไอ้กัณฑ์โง่ ทำไมไม่เรียนกายภาพ พี่อ๋อยบอกว่าเงินดี เป็นพยาบาลน่ะ...

ไอ้กัณฑ์โง่ ทำไมไม่เรียนกายภาพเงินดีจะตาย พี่อ๋อยบอก เป็นพยาบาลน่ะ ไม่เห็นดีเลย มีแต่เดินไปเดินมา เป็นพยาบาลน่ะไม่ดีหรอก มีแต่เดินไปเดินมา กายภาพน่ะเงินดีจะตาย

คงทำเพราะรักมั๊ง เอากล้องวิดีโอถ่าย แบงค์ หลายพี่อ๋อย ดึกดื่นเที่ยงคืนตีหนึ่งตีสอง ยังแดกยัดห่าไม่หยุดเลย

ก็รู้อยู่ Bank มีพ่อแม่เป็นอย่างนี้ อยู่แต่กับคนเลี้ยง พฤติกรรมก็ไม่ค่อยจะเหมือนเด็กที่ได้รับความอบอุ่นจากพ่อแม่คนเลี้ยง พฤติกรรมก็จะแปลก ๆ หรือจะไม่ค่อยน่ารักสักเท่าไหร่ ยายหยิ่น (แจ๋) ก็เอากล้องวิดีโอไปอัด clip Bank บอก "จะอัดเอาไว้ให้ Bank ดูตอนโต" คนดีๆเขาทำกันเหรอ คนดีดีความคิดดีดี เขามีแต่จะถ่ายภาพ อัดเทป อะไรที่เด็กทำน่ารัก น่าดู โตขึ้นเขาดูจะได้รู้ว่าตอนเด็ก ๆ เขาน่ารักขนาดไหน...นี่ไม่มี มีแต่ถ่ายอะไรที่เด็กทำแล้ว..ว่าเขาว่าน่าเกลียด ทุเรศ ..ยังจะถ่ายให้เขาดู ไม่คิดว่าจะทำให้เด็กคิดมาก อาจเป็นโรคจิตหรอกเหรอ... * ถ้าเขาชอบ เขาเต็มใจให้ถ่าย เขาจะปิดไฟให้มืดสนิททำไม เขาจะหนีกล้องทำไม เขาไม่อยากพูด ไม่อยากตอบ ยายหยิ่น ก็พูดคำถาม ถามอยู่นั่นแหละ เป็นการตอกย้ำการกระทำ เด็กหนีกล้อง ไม่พูด ก็ถามแล้วถามอีก... ลองใช้ส้นตีนก่ายหน้าผากคิด (ประโยคเด็ดของคุณนายวิภา จงมีความสุข) บ้างนะ ว่าทำอย่างนี้เป็นการดีกับ Bank หรือไม่

ต้องบันทึกทุกอย่าง เหมือนที่แจ๋เอาเครื่องอัดเสียงมาอัดเสียงกู

วันนั้นไงที่เราด่าไอ้๊ป๊อป กับเมีย(ที่แย่งผัวชาวบ้าน) "กูจะฆ่ามึงทั้ง 2 คน ฯลฯ" แจ๋เอาเครื่องอัดเสียง อัดลงเทป เอาสิ มึงบ้ามากูก็บ้าให้มึงอัด..คุณนายวิภา ก็เฉย..ให้มันทำต่อไป... อัดเสร็จ แจ๋ก็เปิดเสียง วันหลังยังมาเล่าให้ฟัง ว่า เปิดให้ไอ้ป๊อป เปิดให้คนทั้งบ้าน(ที่กำแพง)ฟัง มีแต่คนหัวเราะ ว่านังปูมัน บ้า เพราะฉะนั้น การบันทึกสิ่งที่แจ๋พูดก็ต้องทำเหมือนกัน จะ 60 แล้ว อีกไม่กี่วัน เคยแต่ส่องกระจกดูหน้าหวีผม แต่ไม่เคยส่องกระจกส่องความคิดพฤติกรรมว่า ดี หรือ บ้า มีแต่ว่าคนอื่น พูด ๆ ก็หลุดปาก "อีบ้า" หรือไม่่ก็ "บ้ารึเปล่า" ถามแต่คนอื่น แต่ไม่เคยถามตัวเอง

งานเกษตรแฟร์ ไม่รู้ร้านไหน เอาต้น "แมกโนเลีย" มาขายด้วย

ต้นใหญ่มาก มีรูปภาพดอก "แมกโนเลีย" ด้วย น่าสนใจ ต้องเดินหาเอาเองนะ ไม่กล้าถาม เพราะซื้อไม่ได้ ไม่มีรถกระบะขนต้นไม้อ่ะ

แจ๋เดินมาจากบ้านแซ่คิ้ว

เรากำลังเล่นกับโมโม่อยู่...แจ๋เดินมา พูดทันที "ไหว้อะไรเสร็จแล้วน่ะ ถอนเก็บเอาไปทิ้งถังขยะด้วย เดี๋ยวไอ้บูมหยิบไปเล่น" อ๋อ ไอ้กระดาษที่เขียนแช่ง "ขอให้สุชาติ สุพรรณโกมุท (ป๊อป) มีอันเป็นไป แต่ไม่ถึงตาย" น่ะเหรอ ...ได้สิ ปักธูปไว้ 4 ดอก ปักกลางแจ้ง แดดแจ๋... เราเดินหยิบไปเอาก้านธูปทิ้งถังขยะ แต่กระดาษเอาก้อนหินทับไว้รอบ... * ว่าแต่ไอ้คอตตอนบัดส์ ที่จุ่มยาแดง ทาง่ามนิ้วเท้าของแจ๋ เห็นวางกับพื้นข้างตู้ไว้ 3 วัน ไม่เห็นบูมหยิบมาเล่นเลย.. บูมแขยงดินแฉะ ที่เมื่อวานเพิ่งฝนตกยังไม่แห้ง และเราก็ไม่เคยบูมเดินมาเล่น วงอิฐมอญครึ่งวงกลมแถวนี้ ข้า่งศาลพระภูมิของบ้านบูมเ้ลย..แม้แต่วันเดียว * วันที่แม่ยายแดงมา..."แม้เห็นลูกแก้วมั้ย จะเอาไปเล่นกับนีโอ ตี่เห็นลูกแก้วมั้ย จะเอาไปเล่นกันนีโอ หาเจอลูกเดียว ต้องเอาไปเล่นกับนีโอ ไม่ั้งั้น เดี๋ยวนีโอร้องไห้" ... 7 ขวบครึ่งนี่อ่ะนะ จะร้องไห้...เว่อร์ไปรึเปล่า เป็นเหตุผลที่....มากเลย... * เล่นให้คนในบ้านฟัง...แจ๋.. "ไปกับเขาด้วย ก็ไม่ได้กิน พวกเด็ก ๆ ลูกแดง ไม่กินข้าวเอง ต้องป้อน (พูดซ้ำอีกครั้ง) จริง ๆ แล้ว ไม่อยากไปกินด้วยหรอก แต่แซ่คิ้วแม้เขาชวน เล็กบอก...ก็เขาคงชวนไปช่วยดูเด็ก ๆ ละมั๊ง.. (กูเห็นด้วย..เพราะชอบอยู่แล้ว ไอ้เรื่องไปประจ๋อประแจ๋กับบ้านแซ่คิ้วแม้... หวังว่าเขาจะเรียกใช้งาน จะได้ค่าเงินค่าจ้า่งละมั๊ง) * วันนั้น เหวินนั่งเปล แกว่งไปแกว่งมา แล้วก็หยุด แจ๋บอก "แน่นอนสิ ถามได้..ทำงานก็ต้องได้เงิน ก็ไถ่กู๊รับจ้า่งนี่...วันนั้นไปช่วยดูนีโอ 3 วัน ยังได้มาพันนึงเลย".... *

ไม่ต้องกลัว กูยังมี สไปร์ท เอ๊ย เซอร์ไพรส์ ให้พวกมึงอีกเยอะ แล้วแต่ว่าสมองกูจะไขออกมาได้ตอนไหน

ด่าได้ด่าไป ...กู้มี surprise อ่านออกมั้ยเนี่ย... อะไรเอ่ย..คอยดูไปละกัน สนุกแน่... *

มึงอยากทำอะไร เดือนละ 6 พัน เอาทุนเอาเองนะ กูไม่มีให้มึง

เอาง่าย ๆ ก่อนละกัน... * ตอนนั้น ไอ้ป๊อป ไปลงทุนขายตุ๊กตาโมเดลที่แปดริ้ว หอบลูกจูงเมียไปเช่าหน้าร้านขาย (ไม่รู้ทุนของใคร) เอาลูกเรียนที่โรงเรียนเซ็นต์หลุยส์ ... ตอนวู้ดดี้สอบ ที่เซ็นต์หลุยส์ โน่ไม่สบาย พากันไปรักษาที่โรงพยาบาลพญาไท พยาบาลเอาผ้าขนหนูผืนใหญ่ห่อมัดไว้ แล้วก็แอ็ดมิททันที แม่มันไปเฝ้า กูก็ไปช่วยเฝ้า ตอนกลับ ช่วยหอบข้าวของกลับบ้าน ขึ้นรถแท็กซี่กลับบ้านดินแดงกัน... *

คนตอแหลแต่ไม่ได้สมบัติ อรัญญาก็ไม่ได้...หึหึ

แจ๋..."เอ็งน่ะมันปากเสีย ไม่ได้สมบัติเพราะปากพล่อย บอกไม่เอาสมบัติ ก็เลยไม่ได้...ถ้าเอ็งปากดีหน่อยก็คงจะได้สมบัติมรดกกับเขาบ้าง"... (ถนัดจริง ๆ เรื่องสอนให้คนประจบ สอพลอ ตอแหล) วันนั้นทำเป็นสอนหลาน (ตี่) ต้องทำอย่างนี้สิ..ทำหน้าแยกเขี้ยวยิงฟัน ฮี่ฮี่ (ยิ้มหวาน)..(กูดูแล้วก็ทุเรศว่ะ) สอนให้หลานทำตัวตอแหล หาแฟนรวย ๆ ..แหม..ทำไปได้... * วันหนึ่ง อยู่ประตูข้างครัว เล็กกำัลังคุยเรื่องจะปลูกบ้าน แบบบ้านกับหมู ไอ้เราก็เสนอ "มึงทำไมไม่ขอยืมเงินคุณนายวิภาล่ะ ยืมแค่ 2 แสนเอง แหมเป็นพี่น้องกัน รักกันนักหนาไม่ใช่เรอะ" * คุณแจ๋ เดินมาประตูหน้าบ้าน ตะโกนดังเลย. "เอ็งคิดว่าแม่เอ็งรวยนักรึไง เอ็งคิดว่าแม่เอ็งรวยนักรึไง ทุกวันนี้เขากัดฟันทนขายของหาเลี้ยงนะ จะบอกให้" ...ตะโกนด่ากลับทันที "ส้นตีน่ะ แล้วไอ้ที่กูหาเลี้ยงพวกมัน ช่วยพ่อแม่ทำมาหากินตั้งแต่เด็ก ๆ ไม่ใช่หาเลี้ยงพวกมันเหรอ ให้พวกมันมีรถมอเตอร์ไซค์ขี่ มีเงินเติมน้ำมัน กูน่ะต้องนั่งรถเมล์ไปโรงเรียนนะโว้ย...ส้นตีน" * หงี่หยี "ได้เดือนละ 6 พันก็ดีเนอะ สบาย ๆ แม่เอ็งเขาให้" (หึ กว่าจะให้ แน่ใจเหรอว่าเต็มใจให้..เห็นมีแต่ด่า ...40 กว่ายังต้องหาเลี้ยง...หรือไม่ก็ 70 80 แล้วยังต้องหาเลี้ยงมึง) * อะไรนะ....เตี่ยเขาบอก ลูกชายเขาดี พาเมียเขาก็ดี ไปเยี่ยมทุกวัน (แต่ีที่คุณนายวิภา แม่ไอ้ป๊อปพูดกับเรา...จะไปเยี่ยมอะไรกันทุกวัน ไม่ต้องทำมาหากินกันพอดี...เคยมีอยู่วันนึง พาเยี่ยมป๊าตอนเย็น ก็เห็นไอ้ตัวผัวยืน ไอ้ตัวเมีย นั่งเฝ้า นิ่ง ๆ) * แปลกเนอะ พินัยกรรมเขียนยกที่ดินทั้งหมดทุกแปลงให้นายสุชาติ สุพรรณโกมุท ลูกชายคนโตของข้าพเจ้า..16 มค.54 / เจ้ามรดก ตาย 17 กพ.54....นี่รู้ล่วงหน้าตั้งเป็นไหน ๆ งานศพพ่อมัน ไม่คิดที่จะถ่ายรูปงานศพให้พ่อมันเลย...ลูกกตัญญู ประเสริฐ อภิชาติบุตร สาธุ สาธุ สาธุ *

ทำงานให้มันไวไวหน่อย พ่อคู๊ณ..ขึ้นหัวด่วนย่ะ

ไวหน่อย วัยรุ่นใจร้อน..ขึ้นหัวไวหน่อย อย่าโอ้เอ้..ใช้งานหนักจริงวุ้ย

งานเกษตรแฟร์ 5 มิย.55

สาย 24 รถเมล์ฟรี จากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ...ถ้าหิวมาก ลงประตู 1 เข้าประตู 1 ของกินเพียง เดินเลาะริมซ้ายทางเดิน ..ถ้าเอางานต้นไม้ เข้าประตู 2 ..(ตรงประตูทางออกประตู 2 มี ง.สระอู โดนเหยียงแบนเต๊ดเลย กองอำนวยการถามตัวใหญ่ไหม ก็ประมาณครึ่งเมตรอะ..ขนาดประมาณ 1 นิ้ว (แบบแบนแล้วนะ) อึ๋ยส์....ขนลุกส์ * เหลืออีก 2 วัน...วันนี้ต้องไป...ได้เมล็ดพันธุ์ผักพืชพื้นบ้าน...ผักเสี้้ยน ฟักข้าว (น้องผู้หญิงคนขายบอก ต้องกระเทาะเปลือก..ถาม เอา ฆ้อนทุบเหรอ..น้องบอก ไม่ใช่พี่...เอากรรไกรอันใหญ่ตัดเล็มริมเปลือกให้ดู บอก ควรปลูกทุกเมล็ด เพื่อให้ได้ทั้งต้นตัวเมีย ตัวผู้ ต้นกระเทย..แช่น้ำก่อน 1 คืน) เมล็ดผักเหลียง ที่ชุมพรนั่นแหละ (อ๊ะมีเมล็ดด้วยเหรอ) เขาบอก ต้องเพาะทันทีในทราย เพราะว่าเป็นเมล็ดสด ต้องปักต้นเอียง 45 องศา จะแตกต้นใหม่ (คงจะอย่างนั้น เพราะผู้ใหญ่บ้านที่หลังสวนก็บอกอย่างนั้น) ไม่มีทราย เดี๋ยวปักดินมั่ว ๆ เอาไปก่อนละกัน...ไม่ขึ้นก็ไม่ว่ากัน...น้ำเต้าเซียนเล็ก (ผลแก่ สีน้ำตาลทอง สวยงามมาก..ก..ก..) มะอึก (ใส่น้ำพริกกะปิ) ชมจันทร์ (บานดึก อดดูตอนเช้านะจะบอกให้) (ซองละ 20 3 ซอง 50 บาท) 6 ซอง ก็ร้อยนึง..ยังมีอีกตั้งเยอะ มีเมล็ด อะไรนะ คาโบลี โบลา นี เขาบอกเด็กเมืองนอกไม่มีมะละกอให้ไอ้นี่ทำส้มตำแทน มีทั้งเปลือกสีม่วงและเ้ปลือกสีเขียว....ซองละ 50 บาท สั่งถั่วพูสีม่วงไว้ (เห็นลุงลูกค้าประจำเขาสั่ง สั่งมั่ง) * ต้นมัลเบอรี่ หม่อนออกเป็นช่อ กินผล ซื้อที่ร้านที่มีลองกองขาย ผู้หญิง ต้นละ 50 บาท ใบน้อยมาก เหลืองด้วย (กลัวไม่รอดอ่ะ) เขาบอกทำต้นส่งโครงการหลวง ลูกหม่อนเยอะ นิยมทำไวน์มากกว่าอบแห้ง เพราะเสียน้ำเยอะ ไม่คุ้ม ขากลับเดินมองฝั่งโน้น เยื้องกับร้านนี้ (ตอนซื้อบอกขอซื้อถุงใหญ่จะใส่ต้นไม้รวมกัน เขาไม่ขาย บอกไม่พอ ต้องรอแฟนก่อน ไม่ค่อยอยากพูดด้วย เลยไม่เอาก็ได้) ฝั่งตรงข้าม เยื้องกับร้านนี้มีต้นมัลเบอรี่ เยอะด้วย ต้นสวยใหญ่กว่า เขียนป้ายบอก ต้นละ 50 บาท..(ควรซื้อร้านนี้ มีน้องผู้ชายเป็นคนขาย)... * กำแพงแสนไวท์ ออนซีเดียม ดอกสวย กระถางละ 60 2 กระถาง 100...086-3675975 K.เมธี * อะไรละเนี่ย...200 อ๋อ ไม่รู้ แต่ไอยเรศ 150 คุณสมศักดิ์ แซ่...081-9484916 * F83 คุณรัฐ จันทร์...ชาลีเบบี้ 250.- ไอยเรศ 150.- 081-4916 อีกร้าน มะลิฉัตร ฝั่งตรงข้ามต้นละ 80 2 ต้น 150 ผู้หญิงขาย มะลิฉัตรมาหลายร้าน * คุณเตชินทร์ แจ่มสาย 080-0567104 มะค่าโมง กะฮอกกานี ต้นละ 20 กระเช้าสีดา สวนอยู่เพชรบูรณ์ ต้นเดือน อยู่เซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์ มะตูมไข่ 40 ต้นพิมเสน 50 มะตูมนิ่ม ทำยา 100.- * อ่อมแซ่บ (ต้น) ต้นเฉาก๊วย ผักแพว น้ำว้า... เตชินทร์ 189-7285693 087-307-2316 (อันบนเบอร์บ้าน โทร.อาจไม่เจอ เจอคนที่บ้านรับสาย) เปราะหอม 80.- (ที่ใส่เครื่องพริกแกงเขียวหวานน่ะนะ) * จตุจักร หน้ากองอำนวยการ F85 จำปาแคระ จำปาจิ๋ว (ดอกจิ๋ว) ต้นละ 1,000 กิ่งตอน 300.- อยากได้จำปีร้อยมาลัย 300.- โทร.สั่งล่วงหน้าก่อน (ควรจะ) * พันธิวา แดงนาเพียง มะเขือกินใบ 089-790-1057 พริกสีม่วงต้นละ 25 บาท คุณแม่ จตุจักรโครงการ 19 ไฮเดรนเยีย 150.- มะรุม ซิลเวอร์ดอลลาร์ * ไม่รู้ร้านไหน อ๋อ ชมรม... ขายมะรุมฝักหวาน ฝักเบ้อเริ่มเทิ่มเลย * H156 มะพร้าวกะทิน้ำหอม 80-100 บาท * H93 สาเกข้าวเหนียว 120 น้ำดอกไม้สีทอง กรกต คูลา 089-811-8637 * H175 ปรีชา ยังคำ..สวนปราจีน มะไฟแดง ออกเปรี้ยวกว่ามะไฟเหลือง แต่ช่อสวยงามมาก 400.- * ว่าน 4 ทิศ อินโด สวยงามมาก ดอกใหญ่สีแดงสด ถาม คนขายบอกเป็นไม้ตัดดอกได้ (ไอ้เราไม่เคยนะ ไม่แ่น่ใจ) 120.- ร้านไหนไม่รู้ * แขกดำ..แหวน.. ขนุนเหลืองพิชัย 200.- เหลืองระยอง (ลูกนึงกินได้ทั้งหมู่บ้านใหญ่มาก) หวานดำรง (ใช่ปะ) ส่วนใหญ่มีขายเกือบทุกร้าน ตั้งแต่ 120.+ สวนประภาสไม้ผล บางละมุง ชลบุรี ...พริกไทยซีลอน (ชิมแล้ว เผ็ดเหมือนกัน ถ้าใส่ผัดขี้เมาก็น่าจะเวิร์ค) เป็นไม้พุ่มไม่ใช่ไม้เถาไม้เืลื้อยปลูกกระถางได้...150.- มะละผลสุก ศรีสุภา รคเรศ เหลืองธรรมชาติ 081-8474745 กิ่งพันธุ์ทุเรียนเม็ดในยายปราง 300.- คนขายบอกรสชาติแนวชะนี +ก้านยาว.... อะไรหว่า 40 บาท * มะขามเปรี้ยวฝักโค้ง 50 มะขามเทศยักษ์ 120 H204 พ.อ.อ.กิตติ ชุ่มสกุล อะโวคาโด 250.- * น้องที่ขายเมล็ดพันธุ์พืชพื้นเมือง มีถั่วพูสีม่วงด้วย คุณรุจี ลี้เจริญ สวนนครปฐม 086-7999044 */ H 153 นายเสงี่ยม เรียบเรียง / ทุเรียนนวลทองจันทร์ 500 (ผสมกันหลายอย่าง) กระเทยเนื้อเหลือง หมอนทอง (กิ่งสวย โต..400..ก้านยาว 500) น่าซื้ออ่ะ * ไอ้นี่น่าซื้อ เลื่อยจากเกาหลี ชุดละ 900 กว่าบาทมั้ง หมดงานนี้ซื้อที่บริษัท 1,824 บาท เลื่อยโค้งได้ด้วย ใบเลื่อยคมมาก * ซื้อฮอร์โมนถั่วเหลือง กับอีกอย่าง แถมต้นวอเตอร์เครส หน้าด้านมาก ขออย่างละต้น เขียวกับแดง ไ่ม่รู้ัจะขึ้นให้ละป่าว *

วันจันทร์ที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2555

เดินจากป้ายรถเมล์ ซอยลือชา (กะปี๋บอก ใต้ทางด่วนไม่มีป้่ายนะค๊า ปอ.77)

ไม่รู้นี่หว่าว่าเรียกว่าซอยลืมชา เอ๊ย ซอยลือชา... ลงรถเสร็จก็หลังสะพายเป้เสื้อผ้า 1 ใบ..มือขวาลากกระเป๋า 199 บาท ซื้อที่บิ๊กซี ใส่เครื่องมืออุปกรณ์ ไหมถัก..มือซ้าย ถือตะกร้าใส่ของกระจุกกระจิก แต่ใบเบ้อเริ่ม เดินไปลากไปใต้ทางด่วน ทะลุ ถนนดินแดง...เดินลากเข้าซอยบุญชูศรี..ออกศาลเจ้า เดินถึงประตูบ้าน ลากเข้าบ้าน...เฮ้อจบซะที... บันไดขั้นที่ 2 ชั้นดาดฟ้า เขาอ๊อกเสร็จแล้ว..ตอนแรกคิดว่าต้องปีนข้ามขึ้นไป...แล้วก็กระโดด เสี่ยงตายข้ามบันได้โบ๋ลงมาซะแร้ว...
แหม..อัพเดทน่าดูเลยตะ พ่อซุป..(หน่อไม้)...ก็เห็นนี่นา ...ท่าโยนกุญแจก็เท่ KoTaRa เลยว่ะ..เมื่อไหร่จะได้กินข้าวกับแกวะ ไอ้เฒ่า..วันเฟือง เอ๊ยฟันฟางของข้าจะผุหมดปากแล้ว..เดี๋ยวก็ต้องดูดอาหารเหลวกันพอดี ฮ่วย..บักสีเด๋อ
4 มิย.55 .... อาซ่อษา อาษาจะไปส่งที่สถานีขนส่ง กำแพงเพชร...ตอนแรกคิดว่าจะให้หมูไปส่ง แต่เพิ่งไปส่งลูกไปโรงเรียน.. เลยเก็บกระเป๋าไปขึ้นรถบ้านก๊ออ๋า..กับซ่อษา ไปส่ง..เราจะให้สตางค์100ให้เหวินไว้กินหนม...ซ่อบอก ไม่เอา... "งั้นไว้คราวหน้าแล้วกันนะซ่อ"..."อืม..ไว้คราวหน้า" * ถามเล็ก แม่กูเขาส่งเงินตอนต้นเดือนมาเท่าไหร่.. ยายหนู แจ๋ เำิ่พิ่งไปขุดหน่อไม้กลับมา เล็กไปทำบุญวัดบ้านไร่หลักขวัญ...เล็กเดินไปถามแจ๋ที่บ้านแซ่คิ้ว ...บอก "แม่เอ็งเขาส่งมาครั้งละ 2 พัน...เงินหมดแล้วเหรอ...งั้นยืมแม่ (ยายหนู) ให้เป็นค่ารถกลับกรุงเทพ 1 พัน"..."เอาเลขที่บัญชีมาเดี๋ยวโอนคืนให้"...."ไม่้ต้องหรอกเดี๋ยวกูไปเอาแม่เอ็ง..หรือไม่ก็เดี๋ยวเข้ากรุงเทพไปหาแม่เอ็งเอง..." ขอบคุณ * วันหนึ่ง..มึงอย่าฉีดได้มั้ย..ไอ้เด็ตตอลน่ะ เหม็นจะตายห่า .. ห้ามฉีด...หลายวันต่อมา ...มึงจะฉีดก็ฉีดซะให้เสร็จก่อนเที่ยงคืน กูขึ้นนอนหลังเที่ยงคืน... เมื่อคืน 3 มิย.55 ตื่นกลางดึก เดินมีเสียงเอี๊ยดอ๊าด ปลวกแทะกระดานจนผุจะพังทั้งชั้นอยู่แล้ว... คุณแจ๋พูดทันทีที่เราขึ้นไป... "มึงไม่ต้องฉีดนะ.." ..."ฉีดอะไร"... "ก็ไอ้ที่มึงฉีดน่ะ ไม่ต้องฉีด" "ส้นตีน"....."มึงจะมากไปแล้วนะนังปู มึงจะมากไปแล้วนะนังปู...มึงจะไปไหน ก็ไปเลย ไปไหนก็ไปเลย..กลับไปเลย" (กูอุตส่าห์เปลี่ยนมาใช้น้ำเปล่าล้างฝ่าเท้าแล้วนะเนี่ย แล้วก็ไม่ได้ฉีดหลังเที่ยงคืนด้วย) * วันที่ 3 มิย.55 แม่ยายของแดง ลูกแซ่คิ้วมาเยี่ยมบ้านหงี่หยี มีแดง เมีย ลูก..กุ้งกับนีโอ.....เล็กไปตลาดกับซ่อษาไปซื้อกับข้าวมาไหว้พระวันพระใหญ่ทั้งพระจีนพระไทย... *แจ๋รับแขก..ยายหนูพาดูกระชายบอก กระชายชอบร่มไม้ ตะไคร้ไม่ชอบร่มไม้ ตะไคร้ชอบแดด * คนเล็ก (เข้าว่าใจว่าหมายถึงหนุ่ม ลูกชายคนเล็กของแซ่คิ้ว)... ไม่ฉลาด หนุ่มไม่ฉลาด... มีลูกสาว ไม่รู้จักพามาหายาย ยายรักหลานสาวจะตาย... ถ้าพามา จะเอาอะไรยายก็ซื้อให้...ไม่ฉลาด.. แดงก็เหมือนกัน.. ก็เอาอย่างนี้...ตอนนั้นแจ๋ไปเยี่ยมตอนเตี่ยเขาไม่สบาย (หมายถึงพ่อกู)..นั่งฟังไปเรื่้อย ๆ อยู่ชั้นบน...เตี่ยเขาดีใจมากเลยที่แจ๋ไปเยี่ยม น้ำตาไหลร้องไห้..เขาบอกไอ้ป๊อปก็มาเยี่ยม เมียเขาก็มา เมียเขาดีมากเลย... ต้องเอาอย่างนี้ คนเราน่ะ จะเห็นใจกันก็ตอนใกล้ตาย...อย่างกรณีนี้ เตี่ยเกลียดลูกชายคนโตจะตาย แต่พอไม่สบายหนัก ลูกชายคนนี้กลับเป็นคนแบกเขาไปหาหมอ เตี่ยอยากกินอะไรก็ซิ้อให้ (พูดย้ำซ้ำ ๆ อีก) (เอแต่เท่าที่จำได้ แม่ของลูกชายคนโตป๊อป..พูดว่า ไม่ต้องซื้ออะไรให้เค้ากิน เค้ากินไม่ได้แล้ว เปลืองเงิน)...พอตอนเตึ่ยเขาตาย แจ๋ไปสหรัฐเลยไม่ได้ไปงานศพ เตี่ยรักลูกชายคนเล็กจะตาย แต่ไม่ยกอะไรให้เลย ที่ดินทุกอย่างยกให้ลูกชายคนโตทั้งหมดคนเดียว... ลูกชายคนโตก็มีน้ำใจ บอกแบ่งให้ลูกชายคนเล็กบ้าง (ไม่ัยักกะพูดถึงลูกสาวคนเดียว...ที่ตอนพ่อใกล้ตายไม่ได้ไปแบกไม่ได้พาไปหาหมอ..ตอนหมดลมหายใจ ก็ไม่ได้อยู่ให้เขาเห็นหน้า...ก็จะไปทำไมเล่า ก่อนตายก็ไปเฝ้าแล้วตั้งหลายวัน...ถูกโทษใส่ร้ายว่า "ไม่มาดูแล"...ก็ตอนไปขอเศษเงินคราวโน้น..นั่งกอดเอว "วรรณา" ตลอดเวลาบอก ...(ปู) เอ็งไม่ต้องมาอีกแล้วนะ มันสายไปแล้ว.ควักแบงค์ให้ 20 บาท เราบอก ไม่พอ กว่าจะควักให้เปลี่ยนเป็น 200 บาท..เดี๋ยวผู้หญิงไม่ซื่อสัตย์.. เดี๋ยวจะโอนเงินไปให้ใช้..(วันหนึ่งเงินไม่พอเปิดบัญชี โทร.มือถือจนนิ้วหงิก ไม่รู้กี่ร้อยครั้ง...พอโทร.กลับมาว่า "ทำไมเหลวไหลอย่างนี้...ออกไปไม่ได้ ไม่มีคนเฝ้าร้าน" สุดท้าย เราต้องนั่งรถเมล์ 514 กลับไปขอเงินคุณนายวิภา... "มึงเรียกมันว่าแม่สิ เรียกมันว่าแม่สิ ไหว้มันด้วย ไหว้มันเหมือนไหว้แม่เลย" * ไปกินเอ็มเคกัน แจ๋นึกแล้วว่าเดี๋ยวต้องกลับมาทำอะไรกินกันอีก สุกี้น่ะกินไม่อิ่มท้องหรอกแดง (พูดซ้ำ...รู้ดี) (คนกินสุกี้เขากินเพื่อพบปะสังสรรค์ เสวนา..ไม่ได้ยัดห่าเอาอิ่มท้องแบบต้องไปใช้แรงงาน..) * เล่าให้คนในบ้านฟัง แดงพาลูก 2 คนไปกินอาหารญี่ปุ่น แซ่คิ้วแม้บ่้นใหญ่เลยว่าใช้เงินเปลือง สุรุ่ยสุร่าย...แต่พอซื้อของให้นีโอเป็นพันบาท ไม่เห็นแซ่คิ้วแม้บ่นสักคำ" * มานี่ทีไร นีโอก็ไม่เอาใคร ไม่เล่นกับบูมจะเล่นกับหยีคนเดียว (ก็เล่นกับเด็ก 7 ขวบครึ่ง เ่ล่นเหมือนไม่ใช้สมองเล่น ...ไม่ได้เล่นแสอนให้เด็กคิด..ชอบทำเสียงเล็กเสียงแหลม.. ทำเป็นตามใจเด็ก" (เหมือนคนแก่ที่ปัญญาอ่อนมากกว่า) * นี่จะเล่าให้ฟัง...แดง..สมัยก่อนนนะ หงี่คิ้ว (ต้องเรียกหงี่คิ้วกุ๊งมั้ง) นอนเฝ้าคนงานในไร่น่ากลัวมากเลย คนงานกลัว ก็ทำงานขยันกัน..แซ่คิ้วบ่น เหนื่อย ๆ ๆๆ ...มันต้องอย่างนี้นะแดง...แค่แซ่คิ้ว อยู่ในรถ เปิดเสียงเพลงดังๆ คนงานก็กลัวกันแล้ว..เปิดวิทยุเสียงดังก็พอแล้ว (เน้นเสียงดัง ต้องอย่างนี้จริง ๆ แค่นี้ก็พอได้ผล) ...(พูดซ้ำอีกสักรอบ) * เล่าให้คนในบ้านฟัง..อาหยีเล็ก (พี่สาวของแซ่คิ้วแม้) บ้ารึเปล่า...ก่อนออกไปนะ แซ่คิ้วแม้เขาก็ถาม จะกินอะไรมั้ย จะทำให้กินก่อน...หยีเล็กดันปากเสีย...(ทำเสียงเหมือนเชียว ตวาดห้วนๆ)..."ไม่ต้องกินก็ได้ ไม่ต้องกินก็ได้" ..."ดูซิ แทนที่จะปากดี บอกแซ่คิ้วแม้ดีดีว่า เออ..ไปข้างนอก ซื้อราดหน้ากลับมาฝากสักถุงก็พอ แค่นี้แซ่คิ้วแม้เขาก็ซื้อให้แล้ว" หยีเล็กปากไม่ดีเอง..ถ้าปากดีสักหน่อยเขาก็ซื้อมาให้กินแล้ว... "มึงไม่ได้ยินรึไงว่ามันตวาด ไม่ต้องกินก็ได้"...แจ๋พูด "กูไม่ได้ทันฟัง เลยพลอยโดนด่าไปด้วย" (คนอย่างนี้น่ะหรือไม่ทันฟัง หูนี่นะคอยแต่จะจับเรื่องจับราวให้ถูกเป็นผิด ให้ผิดเป็นถูกอยู่เสมอ)...แซ่คิ้วกับแซ่คิ้วแม้โกรธใหญ่เลยด่ากันในรถ ด่าหยีเล็กใหญ่เลย..ดูซิกูจะทำกับข้าวให้มันกินก่อนมันกลับตวาดกลับ... แจ๋.."แหมถ้าหยีเล็กปากดีพูดดีดีกับเขาหน่อยเขาก็ซื้อให้กิน..หยีเล็กอยากออกไปด้วย แต่เขาไม่ชวน เลยพาล" ... (ไอ้บ้า..ถ้าจะซื้อมาให้กิน..ก็ต้องถามว่า "เล็กอยากกินอะไรมั้ยเดี๋ยวขากลับจะซื้อมาฝาก...แต่นี่บอกจะทำให้กินก่อน ก็ขี้เหนียวไม่อยากเสียเงินซื้อให้ไง คนป่วยเป็นมะเร็ง สาวแก่ตัวคนเดียว แขนก็บวม..เอาไว้ให้พวกมึงเป็นแบบเขาบ้างคงจะเ้ข้าใจ) * วันที่ไปส่งกัณฑ์ไปที่มหาวิทยาลัยพะเยา... ก๊ออ๋า ซ่อษา เล็ก กัณฑ์ ไปกัน 4 คน...หงี่หยีกับแจ๋อยู่บ้าน...แจ๋เปิดประตูเข้ามา โวยวายใส่แม่ใหญ่... "ดูซิเปิดไฟเต็มบ้าน เปิดทุกดวงเลย แต่ไม่อยู่บ้าน ไอ้เหวินไปไหน สันดาน สันดาน เหี้ยจริง ๆ พอพ่อแม่ไม่อยู่ก็หนีไปเล่นเน็ตที่ตลาด นี่คืนนี้่คงไม่กลับบ้านแน่เลย"...แล้วก็เดินไปดูกลับมาอีกรอบ เข้าบ้าน "ไอ้สันดาน หนีไปเที่ยว..." จัดการโทรศัพท์ไปถามแม่เหวินว่าเหวินเบอร์โทร.อะไร... แจ๋จัดการโทร.เข้าเครื่อง มีคนรับสาย "ไม่ใช่เหวินหรือคะ ใช่เหวินหรือเปล่าคะ ไม่ใช่เหวินหรือคะ งั้นขอโทษค่ะ โทร.ผิด".... หงี่หยีบอก "ไม่ต้องบอกพ่อแม่เขาว่าลูกไม่อยู่บ้าน เดี๋ยวเขาเป็นห่วง" แจ๋เสียงแหลมใส่ทันที่ "รู้แล้ว รู้แล้ว" (หงุดหงิดมาก..หลานไม่อยู่บ้าน) "หันมาบ่นกับหงี่หยี สันดาน สันดาน เหี้ยจริงๆ...เมื่อกี๊ไหงเห็นรถเครื่องซ้อนท้ายคนอีกคน ไปทางนี้...(พูดไปพูดมา หงี่หยีบอกไม่ใช่มั้ง"...แจ๋โทร.กลับไปที่ทีมไปพะเยาอีก คงไม่ติด..หรือไม่ก็โทร.เข้าเครื่องเหวินแต่ปิดเครื่อง บ่นบ้า "มันปิดเครื่องมันเปิดเครื่อง มันปิดเครื่อง".....สุดท้ายสักพัก เดินไปอีกแล้ว..สรุปคือ "เหวินขึ่รถเครื่องไปซื้อขนมที่้ร้านตรงหัวโค้ง" (ตอนแรกเราก็คิดว่าเหวินคงไปซื้อขนม แต่สงสัยนิดนึงว่าร้านยายอ้วน (ร้านตาหมง) ค่ำแล้วคงปิดแล้ว ลืมไปว่า ร้านค้าหัวโค้งเปิดถึงมืดหน่อย)....แจ๋ยังคงบ่นบ้าไม่เิลิก "ไอ้ห่า ไอ้เหวินไปซื้อขนมก็ไม่บอก ทำไมไม่บอก ไปซื้อขนมก็ไม่บอก" (ประสาทแดก มันโหล่จะตาย...ขึ้นรถเมล์ในกรุงเทพก็ไม่เป็น..ข้ามถนนก็ไม่เป็น.. ขี้กลัวขี้ขลาดจะตาย.. ไม่รู้จักนิสัยหลานตัวเอง ไม่รู้จักนิสัยตัวเอง..ที่ จะ 60 แล้ว..ทำตัวเป็นผู้รู้ว่า...กูนี่แหละ กูรู กูรู้ (ไปซะทุกเรื่อง).... * เล็กเอางี้สิ ให้ไอกัณฑ์ขอเอาเกรดไปเทียบขอกลับไปเข้า มหาวิทยาลัยที่มันสอบเข้าได้ครั้งแรก (เล็กบอกได้สาธารณสุขมั้ง) คุณอัญญาลูกคุณเปิ็ดสอบหมอได้ไม่เอาอันแรก สละสิทธิ์ ตอนหลัง เขาเอาเกรดไปเทียบขอกลับไปเอาทีเ่ดิม..คุณเป็ดน่ะรู้เรื่องดี คุณอัญญาเขาก็ทำอย่างนี้..เล็กบอก "ไอ้กัณฑ์มันไม่ได้ไปรายงานตัว ไม่ได้ไปสละสิทธิ์" (หรืออะไรสักอย่าง) แจ๋ "โทร.ถามไอ้กัณฑ์ให้มันลองดูซิ เผื่อจะได้" * "นังตี่ มึงจะยู้รถเครื่อง ยู้่ออกทำไม ให้บ้านมันเลอะ มึงจะยู้รถเครื่อง ยู้เข้ายู้ออกทำไมให้บ้านมันเลอะ ..เดี๋ยวไถ่กู๊จะถูกบ้าน.." สักครู่มีสายเข้ามือถือ..."อ๋อแต่งตัวเสร็จแล้วใช่มั้ย งั้นเดี๋ยวไปรับ" ขี่รถเครื่องของเล็กบรื๊ออกไป (ไหนบอกจะถูกบ้าน) ที่แ้ท้ไปรับหยีเล็กไปอนามัยปากซอย ไปเช็คเบาหวานฟรี (จนกลับมาทั้งวันก็ไม่เห็นจะได้กวาดได้ถูกเลย) * กลับมาเ่ล่าลั่นบ้าน (เราอยู่ข้างบน เพราะแค่เตียงผ้าใบพับ แต๊ก ๆ ๆ ๆ ๆ) ก็กางเต็มจะครึ่งพื้นที่ชั้นล่างแล้ว.. หยีเล็กบ้ารึเปล่า...ไม่รอหมอใหญ่ เกือบ 9 โมง...ตอนแรกให้กูกลับมาก่อน ขี่รถเครื่องถึงบ้าน..ก็โทร.ให้กูไปรับ โวยวายบอก "ไม่รงไม่รอแล้วหมอใหญ่..ไปตรวจที่ตลาด 150 ตรวจที่นี่แค่ 130 เอง...หยีเล็กบอก ห่วงบ้าน ห่วงหมา หมายังไม่ได้กินข้าว...พอกูขี่รถไปรับส่งเข้าบ้าน หยีเล็กตรงไปกินข้่าวทันที ไม่เห็นหมงหมาอะไรเลย...เออ..จะบอกกูว่าหิวข้่าวก็บอกมากูจะได้รับกลับ ทำเป็นพูดอ้างห่วงหมาห่วงแมว" ...เลยว่าให้ พอหยีเล็กขึ้นรถเครื่องก็ว่าทันทีเลย "นี่หยีเล็ก ไหวนะ..ขนาดไปหาหมอที่รามา..ไปหาตั้งแต่ ตี 4 ตี 5 ยังต้องรอหมอเลย..นี่แค่นี้เอง..ทำไมหยีเล็กไม่รอหมอใหญ่" * แจ๋บ่นบ้า...."นังตี่ก็ใส่น้ำยาปรับผ้านุ่มซะเหม็นหึ่งเลย กูจะเป็นลม" (แพ้กลิ่้นหอมอย่างแรง คนใส่น้ำหอมได้กลิ่นไม่ได้..กลิ่นน้ำยาปรับผ้านุ่มได้กลิ่นไม่ได้" ...วันหนึ่งไม่รู้พูดกับใคร ..."ทิมมี่นะ บ้านทิมมีืีเลี้ยงแมว ขี้เยี่ยมเหม็นจะอ้วกแตกตาย...(พูดซ้ำ) บ้านทิมมี่เลี้ยงแมวเยี่ยวขี้เหม็นกูจะอ้วกแตก" * ไปกรุงเทพไปหาหมอ ไม่มีญาติให้พักด้วยแล้ว...พอไปกรุงเทพไปหาหมอ พักบ้านเขาก็คงไปใช้เขา จนเขาไม่ต้อนรับแ้ล้ว... * เล็กบอก "อย่างหยีเล็กน่ะ..เขาไม่ได้เตรียมตัวอยู่เป็นสาวแก่...เขาไม่เตรียมเงินเตรียมทองไว้รักษาตัว ไว้กินอยู่อย่างสบายตอนแก่..พวกเราเห็นอย่างนี้ก็ต้องรู้จักเตรียมตัว ก็น่ะเตรียมตัวเป็นอย่างดี...ไว้ตอนแก่อยู่คนเดียวไม่เป็นภาระคนอื่น" (..อืม..พุดอย่างนี้ค่อยน่าฟัง น่าคิด...เห็นด้วย) * แจ๋...หยีเล็กนะ บ่นดังลั่นบ้าน เขาจะล้างแท๊งค์น้ำก็ไม่บอก ไม่โทร.เรียกกู ก็รู้อยู่แล้วว่าโทร.เรียกก็ไปทำให้...ทำคนเดียวแล้วก็มาบ่น * เดินจากบ้านแซ่คิ้วมา เดินตรงไปที่โต๊ะกลม บ้านก๊อสุ่ง กับซ่อดำ พูดดังลั่น (ตะโกน) แซ่คิ้วแม้นะ บ้านเขาก็ไม่เปิดพัดลม ขนาดลูกเค้ามายังไม่เปิดพัดลมเลย มีพัดคนละอัน ถือแล้วก็พัดเอา..แต่กลางคืนนอนห้องแอร์... น้ำนะ ซักผ้าเสร็จก็ขึ้นจากเครื่อง แล้วก็ซักมือ เอาน้ำจากซักผ้าไปรดน้ำต้นไม้ ไม่ให้เสียน้ำแม้แต่หยดเดียว...ขี้เหนี่ยว.. ไอ้เราเลยไม่กล้าเปิดพัดลม ไม่กล้าเปิดน้ำใช้เลย...(เล่าซ้ำ ทำนองเดิม...ดังลั่น)...เห็นเขาใช้กันประหยัดกันขนาดนี้ ถ้าพวกเขามาเห็นบ้านนี้ใช้น้ำใช้ไฟ เปิดทิ้งเปิดขว้่างอย่างนี้เขาคงไม่ให้ยืมเงินหรอก เวลาไม่มีเงินไปยืมเงินเขา เขาใช้ประหยัดอย่างนั้น บ้านนี้เปิดน้ำเปิดไฟเปิดทิ้งเปิดขว้าง (กูนั่งฟังมันเกี่ยวกันมั้ยเนี่ยกับเรื่องยืมเงินมาทำอ้อยเป็นแสนสองแสนน่ะ พอได้เงินอ้อยแล้วก็เอาไปคืน) * เล็กบอก... เวลาเขารู้ว่าบ้านนี้จะไปไหนที เขาก็ให้เงินใช้เฉย ๆ โดยที่ไม่ต้องยืม...เขาก็มีน้ำใจมาก เพราะัฉะนั้น เวลาเขาให้ช่วยอะไร ขอแรงอะไร ก็ต้องสำนึกบุญคุญ ช่วยเขาอย่างเต็มที่......(อืม..เข้าใจละ..คนรวยน่ะเขาก็มีวิธีประหยัดคนละแบบ อย่้างบ้านนี้เขาก็ประหยัดประหยัดไฟ) * จะว่าไปแล้ว ..ถ้าสมมติว่า บ้านแซ่คิ้วแม้ เขาใส่น้ำยาปรับผ้านุ่มเขาฉีดน้ำหอม ยิ่นหมอยจะกล้าบ่นพวกเขามั้ย...แต่ขอโทษ ผ้าถูบ้าน ถูกบ้านเสร็จแล้ว ...แช่ในถุงน้ำจนน้ำเน่าเหม็น ผ้าบางๆ ขี้นราดำเป็นปื้น ถูบ้านเสร็จแล้ว ก็ตั้งถังข้างถังน้ำอาบ..แทนที่ขยับเข้าข้างฝา ถ้ายังไม่เสร็จ..ไม่รู้เจ้านายบ้านไหนสอน...สะอาดจริง ๆ บางทีก็เอาขึ้นจากน้ำ(เน่า) แล้วก็กระดกเอาด้ามลง ผ้างี้เหม็นเน่า จนแทบอ้วก..(แต่กูก็อยากดม ว่าเหม็นเ่น่าอะไร) สงสัยไม่มีใครสอนว่าไม้ถูบ้านก็ควรต้องตากแดดให้แห้ง หรือไม่ก็ถ้าฝนตกก็ต้องตากในที่ร่มให้แห้ง..โครตดัดจริตเลย (จมูกผู้ดี เหม็นไปหมดทุกอย่าง)..อ๋อ ยกเว้น..."ถ้ากลิ่นกอฮอ พอทนได้" (ไม่จริงมั้ง) *