"ก็มันเป็นคนอย่างนี้ไง ชีวิตมันถึงได้เป็นอย่างนี้" (คุณผู้ชายคงหมายถึง ก็มันเลวไง ถึงต้องมาเป็นขี้ข้า เลี้ยงลูกให้เรา..ทั้งที่เราก็ไม่ได้อยากให้มันมาเลี้ยงนักหรอก อยากให้อาโกวของเพื่อนศิษย์เอกฮวงจุ้ยมาเลี้ยงมากกว่า)
*
ซ่อมหนังสือ ก.ไก่ กับหนังสือนับเลข กะว่าจะหนีไปก่อนที่เขาจะกลับมา คิดว่ากลับค่ำ ปรากฏว่าเขากลับมาแค่เย็น..คุณหนู..ไม่สบายเพิ่งกลับจากโรงพยาบาล งอแงนิดหน่อย
..
คุณผู้ชาย ตาลีตาเหลือก เปิดประตูห้องที่เราเคยนอน เปิดไฟ เปิดตู้เหล็ก ดูหลังตู้เหล็กว่ามีของอะไรหายไปหรือไม่..ก่อนหน้านั้นมองสำรวจกองของที่เราจะขนออกไป
..
คุณผู้หญิงเดินขึ้นไปบนบ้านชั้น 2 เปิดห้อง คงจะขึ้นไปสำรวจทรัพย์สิน
...
หลังจากขนของขึ้นรถแท็กซี่ไปแล้ว เขาก็คงจดทะเบียนรถ ถามด้วยความห่วงใย ว่าย้ายไปไหน..
..
"ไม่รู้เอาเงินเอาทองเราไปมั่งหรือเปล่า"
"ไม่รู้จักเด็กไม่รู้จักผู้ใหญ่"
"บ้านนี้ไม่ใช่ซ่อง นึกอยากจะไปก็ไป นึกอยากจะมาก็มา"
..
เราขนของที่เอาไปไม่หมดใส่ท้ายรถกระบะจอดรถนอกบ้าน...วันรุ่งขึ้นกลับไป รถจอดอยู่ในบ้าน
ทำไงดี เรียกแท็กซี่ไปขน (แท็กซี่ก็กลัวว่าเราจะมาโขมยของเหมือนกัน) ปีนรั้วบ้าน หมารู้จักเราก็เลยไม่เห่าไม่กัด..
ขนของผ่านลูกกรงประตูเหล็ก ให้โชเฟอร์แท็กซี่รับ (ของไม่มีค่าอะไรเลย)
ย้ายไปบ้านเช่าฝั่งซอยตรงข้าม เดือนละ 2,200 บาท น้ำไฟต่างหาก
...
อีก 2 วันต่อมา..เราเอารถเข็นคันเล็กจะไปขนกระถางต้นมะลิที่ปลูกไว้ที่ข้างกำแพงหมู่บ้าน
..ยาม รปภ.หน้าหมู่บ้านเดินตามมา เราก็ไม่รู้..เดินตามมาถึงหน้าบ้าน..(เจ้าของบ้านคงสั่งเขาไว้)
เหมือนเราจะมาโขมยของในบ้านเขาเลย..เป็นนางโจรโดยไม่รู้ตัว..
เราก็ขนกระถางต้นไม้ ลังโฟมที่ปลูกต้นมะลิไว้ ลากเดินไปหน้าหมู่บ้าน ข้ามถนน ไปปลูกไว้ที่ชั้นล่างของบ้านเช่า..ห้องเราอยู่ชั้น 2
...
เจ๊เกษรใจดีมากเลย..ไม่เก็บล่วงหน้าขอเขาไว้..
...
เห็นเศษกระดาษที่เขียนมา "ผงซักฟอกหมดวันที่เท่าไหร่" ที่เราแปะไว้บนถังผงซักฟอก "เปา" สีม่วง
เศษกระดาษแผ่นนี้มาอยู่ในกะละมังที่เราใส่ท้ายรถ..เขาคงเอามาใส่ไว้ให้ดู..ว่า "กูไม่ต้องการให้มึงบอกกู"
...
ไม่บ่อยครั้ง แต่ก็ซาบซึ้ง
..."เดี๋ยวเราจะออกไปข้างนอก เดี๋ยวเราจะออกไปข้างนอก" (เป็นวันอาทิตย์)
จำภาพได้ (แสยะยิ้มมุมปาก เห็นฟัน พร้อมกับพ่นหัวเราะ หึหึหึ หึหึหึ) ประมาณว่า "จะเอาเงินล่ะสิ"
จำได้ว่า 2 อาทิตย์เขาจะให้เงินเราครั้งหนึ่ง ครั้งละ 2 พัน..(แล้วแต่ว่าจะตรงกับวันหยุดเสาร์ อาทิตย์หรือไม่)
...
ตอนหลังกำลังออกจากบ้านเขารอบ 2 มั้ง เราเอาที่เราจดมาให้เขาดู
..เขาพูดว่า "ก็นี่ไง วันที่เท่านี้ ชนวันที่เท่านี้ เท่ากับเดือนละ 6 พัน" (เราคงเถียงเขาไม่ได้) เพราะความจำเราคงไม่เสื่อม เงิน 2 พัน (แบงค์ 2 ใบในมือ)...จริง ๆ แล้ว เราไปเปิดบัญชีบ.กรุงเทพ เพื่อดูตัวเลข (ไม่ได้สังหรณ์ใจอะไรหรอก..รวมทั้งเอาเงินเศษสตางค์เงินตู้น้ำไปแลกแบงค์ ก็ยอมรับว่าเราใช้เงินเปลืองมาก..เอาเงินในกระปุกออมสินของคุณหนูไป 1 พัน (แต่เราก็ลืม เถียงเขาว่าเราไม่ได้เอาไป เพราะฝากระปุกรูปกล่องฟิล์มมันแน่นมาก..ขอโทษ เราลืมจริง ๆ กะว่า เงินเบี้ยเลี้ยงงวดต่อไปจะเอาไปคืน..แล้วก็ลืม..ใช้เงินหมด) แต่ไม่ต้องกลัวนะ ถ้าไม่ตาย ลืมตาอ้าปากได้เมื่อไหร่ จะเอาไปคืน..
...
อืม ได้เดือนละ 4 พัน ปีกว่า..วันนั้น เพื่อนลูกศิษย์เอกฮวงจุ้ย..ถามเราว่าได้ค่าตอบแทนเท่าไหร่ ดูลูกเค้ากี่โมงถึงกี่โมง ก็ตั้งแต่เค้าออกจากบ้าน ถึง 3 หรือ 4 ทุ่ม...หลังจากนั้น งวดจ่ายเบี้ยเลี้ยง 2 อาทิตย์ ถึงได้แบงค์พัน สามใบ น่าจะสัก 3 เดือนมั้ง หลังจากได้เดือนละ 4 พัน
....
คุณผู้ชายเรียกคุณผู้หญิง "เปิดไฟหน้าบ้านหน่อยซิ มีคนก็เหมือนไม่มี" (เรากำลังจะเดินมาเปิดพอดี ทั้งที่มองแล้วยังไม่มืด แต่ก็รู้ว่าเขาเคร่งต่อฮวงจุ้ยมาก)
....
วันนั้น เครื่องกรองน้ำคงจะตัน น้ำหยดออกจากก๊อก เราก็ปิดวาล์วเครื่องกรองน้ำขาเข้า
คุณผู้ชายตะโกนถามคุณผู้หญิงดังลั่น..."ใครปิดเครื่องกรองน้ำ ใครปิดเครื่องกรองน้ำ" (เราทำอะไรก็ผิดทุกอย่าง เป็นคนเลวทุกอย่าง)
....
วันนั้น ล้างชามกลัวหมาที่คุณผู้ชายเพิ่งอาบน้ำให้มัน กลัวเขาจะเลอะ
เลยย้ายโซ่ไปล็อคบนพื้นแห้ง...
คุณผู้ชายลงมาเห็น ตะโกนถามคุณผู้หญิงดังลั่น "ใครย้ายหมามาไว้ตรงนี้ ใครย้ายหมามาไว้ตรงนี้"
....
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น