วันอาทิตย์ที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2555

11 มีค.55 จะเขียนดีมั้ย แต่เขียนสักหน่อยดีกว่า เรื่องนี้ไม่ Share

หลายวันก่อน เดินออกไปซื้อกับข้าวที่ตลาด ขากลับเดินเข้ามา เป็นเวลาสายมาก แดดร้อน..
*
เดินมาถึงตึกที่มีรถจอดอยู่ริมรั้ว มี่ผู้ชายคนหนึ่งเดินสวนทางฝั่งตรงข้าม..ฉันได้ยินเสียงรถยนต์ จึงหันไปมอง เพื่อดูว่าเข้ามากใกล้ขนาดไหน ปกติจะหลบรถยนต์ให้เขาไปก่อน..หันไปเห็น รถ "วอลโว สีขาว ทะเบียน..4190" จำได้ว่าเป็นรถของบ้าน "KC" กระจกใส สังเกตเห็นผู้หญิงรูปร่างผอมบางเป็นผู้ขับรถ..ก็หลบรถตามปกติ ยืนหลบเท้ายังเหยียบอยู่บนรางน้ำ ตัวฉันอยู่ใต้หลังคาบ้าน กะว่าเขาคงไปพ้น..หันไปอีกที เพราะรถยังไม่มาสักที..เห็นเขาหยุดรถ ให้ผู้ชายคนนี้เดินให้พ้นท้ายรถที่จอดริมรั้ว..ฉันก็รอ..พอคุณผู้หญิงเธอเร่งคันเร่ง..รถผ่านตัวฉันไป (ด้วยความรู้สึก ทำไมถึงได้ขับรถเร็วขนาดนี้..ทั้งที่ปกติ รถขนาดใหญ่เวลาขับกัน จะชะลอความเร็ว ช้า ๆ เพื่อกะให้พ้นรถคันข้าง ๆ) (จากที่เคยโดนแบบนี้มาครั้ง 2 ครั้งทำให้ฉันเตรียมตัวและเตรียมใจ เลยไมค่อยตกใจสักเท่าไหร่)ตัวรถห่างจากแขนฉันแค่คืนเดียวเอง..ตกใจเล็กน้อย.. จึงมองป้ายทะเบียนท้ายรถ (ซึ่งผู้ขับรถได้ชะลอความเร็วรถลง ..เป็นเวลานานพอที่ฉันจะมองเลขทะเบียน 4190 ได้อย่างชัดหลายวินาที)..ราวกับว่าเธอผู้นั้น จะมองกระจกหลังเพื่อดูปฏิกิริยาของฉัน..สักครู่จึงเร่งความเร็วรถขับต่อไปอย่างปกติ...เคยเห็นผู้หญิงคนหนึ่งขับรถแบบรีบมากในซอยบุญอยู่นี้แหละ..เธอรีบเสียจน กระจกรถของเธอเกี่ยวกับกระจกรถกระบะที่จอดริมซอย (เขาก็ชิดแล้วนะ) คนขับผู้ชายเอามือจับขยับกระจกพับเข้าไป แล้วก็กางออกมาเป็นปกติ...ความเร็วรถของคุณผู้หญิงเธอขับ ความเร็ว ..เร็วคงที่ ...
*
เดินถึงบ้าน เห็นรถวอลโว 4190 สีขาว กระจกใส จอดอยู่บ้านประตูสีน้ำตาลเข้ม 68/14-8/15 หลายปีก่อน ก็เป็นอย่างนี้ คือรถคันนี้ขับด้วยความเร็วกว่าปกติที่จะขับกันในซอย เกือบเฉี่ยวฉัน มันก็เจอแบบไม่กี่ครั้งหรอก..แต่คิดว่าคราวหน้าไปไหนมาไหน จะต้องพกปากกา สมุด เพื่อจดบันทึก เหตุการณ์ที่คาดว่าจะเป็นอันตรายต่อเรา..ถ้าเป็นอันตรายถูกเฉี่ยว ชนให้ได้รับบาดเจ็บ..ก็คงต้องถึงขั้นแจ้งความดำเนินคดี..เพราะเคยลงบันทึกประจำวัน..ว่าคุณป๊อปขี่จักรยาน 2 ล้อ ที่โซ่ยเจ็กให้.ขี่มาอย่างเร็วมาก.แทบจะเฉี่ยวชนฉันที่ปากซอย พร้อมตะโกนด่า "หลบโว้ย" โหคนเดินมาปกติธรรมดา เขาตะโกนด่าให้หลบโว้ย..ก็คงเป็นโชคดีของฉันที่มอเตอร์ไซค์วินปากซอยเขาคงช่วยไว้ทัน..เขาเห็นกันทั้งวิน
*
ถ้าเจอแบบนี้อีก..ฉันจะไปสถานีตำรวจดินแดงเพื่อลงบันทึกประจำวัน..ไว้เป็นหลักฐาน..เหมือนที่เคยทำมาแล้ว กรณีที่ซ๊อ (เมียน้อย คุณศักดิ์ 68/17) คู่กรณีมีปากเสียงกันเรื่อง ถังขยะหน้าบ้าน 68/16 ล้ม..ฉันบ่นเฉย ๆ ..เปิดประตูยังไง ถังขยะล้มเลย (ประตูบ้านเขาเลยเสาไฟฟ้ามา..) ซ๊อคงได้ยิน เดินปรี่ออกมาเลย.. ตะโกนเสียงฉุนเฉียว "ไม่เห็นโว้ย.."..ฯลฯ สุดท้ายจบที่ ซ๊อพูดน้ำเสียงเยาะหยัน.. "พี่ชายก็แสนจะดี๊ดี.." และ "ว่าง ๆ ไปเช็คสมองบ้างนะ" (สงสัยคุณป๊อป พี่ชายที่แสนดีให้ข้อมูลดี..เฉพาะมัน)เลยไปสถานีตำรวจดินแดง เขียนเรื่องราว เป็นสำนวน เพื่อขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจลงบันทึกประจำวัน (เผื่อว่าวันหน้าถ้ามีเหตุการณ์ไม่คาดฝัน จะได้มีเอกสารหลักฐานว่าฉันมีปากเสียงกับใครบ้าง..ตัวคนเดียวไม่อยากมีเรื่องกับใครหรอก)..ตำรวจพึ่งได้..ตำรวจถามว่า "นี่เขียนเองเลยเหรอ" (ค่ะเขียนเอง ดูหนัง พวก "คดีแดง" มาเยอะค่ะ
*
ผู้หญิงคนนี้อายุประมาณ 40 ปีขึ้นไป รูปร่างผอมสูงน่าจะเกือบ 160 ซม.
*
เคยเห็นผู้หญิงคนนี้..พูด..พอเห็นฉันเดินจะเข้าประตูบ้าน 68/16 (ซึ่งฉันเดินออกไปทางปากซอย และเดินกลับ ไม่ได้เดินไปทางท้ายซอย ไม่ได้เดินผ่านหน้าบ้าน 68/15) เธอพูดดัง ๆ .."ไม่รู้ใครเหี้ยมาก มันเอาตีนเหยียบล้อรถด้วย ดูสิเป็นรอยรองเท้าเต็มเลย..อุตส่าห์เอายางรถยางมาวางไว้ไม่ให้ใครมาจอดรถ เหี้ยจริง ๆ เหยียบยางรถยนต์เข้ามา..แม่งอย่าให้รู้นะว่าเป็นใคร..จะกระทืบแม่งให้.. (จำไม่ได้แล้ว) พูดซ้ำ ซ้ำ (ฉันได้แต่..เออ.นั่นสิใครล่ะ)
*
อีกหนหนึ่ง..ฉันซื้อต้นไม้มาปลูกหน้าบ้าน เพราะบ้านชั้น 2 ไม่มีแดด มีทั้งลงกระถางและอยู่ในถุงเพาะสีดำ..มีดอกกระเจียวด้วย..วันหนึ่งเดินเข้าบ้าน ได้ยินเสียงผู้หญิงของบ้าน 68/15 พูดดัง ๆ ว่า "มันเอาต้นไม้มาวางไว้ ไม่ให้รถบ้านเราจอด (น้ำเสียงโมโห โกรธ) พูดซ้ำ (ฉันไม่รู้หรอกว่าเป็นเสียงใคร)..ฉันได้แต่หัวเราะขำอยู่ในใจ..แต่หน้าบ้าน ที่กว้าง ถึง 2 คูหา..กลับติดป้ายเขียนไว้ "ห้ามจอดรถฝั่งตรงข้าม เพราะ(บ้านนี้)มีรถเข้าออกตลอด" เคยเห็นผู้หญิงคนนี้ ออกมาต่อว่า ผู้ชายคนหนึ่งที่จอดรถเก๋งสีดำไว้ นานเหมือนกัน..ว่าเขาใหญ่เลย "วันหลังอย่ามาจอดฝั่งตรงข้ามบ้านนี้นะ มีรถเข้าออกตลอด" น้ำเสียงโมโห ผู้ชายคนนั้นได้แต่ งง งง (ตอนนั้นยังไม่ได้ทุบทำคอนโดมีเนียม รั้วของบ้านเก่า ..ต่อมาเขาทุบจะทำคอนโด..เป็นรั้วสังกะสี สีเขียวเข้ม)
*
เวลาเดินเข้าซอย หรือเดินออกจากซอย (เพราะต้องประหยัดค่ารถมอเตอร์ไซค์ เข้าออก ก็ 20 บาท) ถ้าเห็นแม่บ้านของบ้าน KC ก็จะพยายามข้ามไปเดินฝั่งตรงข้าม หรือถ้ามีที่พอ ไม่มีรถมา หรือเดินเกือบจะใกล้กันแล้ว ฉันจะเดินเลี่ยงออกไปทางถนนในซอย ระยะห่างมากพอที่จะไม่ให้ส่วนใดของร่างกายฉันไปโดนเขา..ไม่มีเจตนาจะข้องแวะ ไม่อยากมีเรื่องกับคนบ้านนี้.. เดินสวนกันฉันก็จะมองท้องฟ้า..รีบเดินให้พ้นๆ
*
กลางคืนจะได้ยินเสียง 2 คนผัวเมีย พูดทะเลากัน อะไรบ้างไม่รู้ ได้ยินชัด ๆ ..เฮ็ดไม่เฮ็ด..ก็อย่างนี้แหละ
*
เลยนึกถึง วันหนึ่ง ปลูกต้นไม้เล็ก ๆ ริมขอบระเบียงห้องชั้น 2 เอาสายยางรดน้ำต้นไม้ ฉีดเบา ๆ ..คุณป๊อป กลับมา ตะโกนด่าขึ้นมาทันที "ไอ้เหี้ย แม่งรถน้ำต้นไม้ กระเด็นโดนหัวชาวบ้าน" ด่าเสียงดัง ด่าแล้วด่าอีก....ฉันไม่รู้นี่ หลังจากนั้นก็ไม่ได้รดน้ำต้นไม้อีกเลย..
*
วันหนึ่ง ฉันเดินออกจากบ้าน จะไปร้านค้าท้ายซอย มีน้ำโดนหัวฉันเหมือนฝนตก ทั้งที่แดดออก..เงยขึ้นไปปรากฏว่า บ้าน KC เขาฉีดสายยางรดน้ำต้นไม้ ..มาถึงถนนกลางซอยเลย..ตะโกนขึ้นไป "โอ๊ยคุ๊ณ รดน้ำต้นไม้โดนหัวชาวบ้านหมดแล้ว"..ปรากฏว่าเธอยังคงรดน้ำอย่างนั้นต่อ และฉีดให้เลยออกมามากขึ้นด้วย..เลยไม่รู้จะทำยังไง
*
บางวันจะเห็นมอเตอร์ไซค์ ขี่รับผู้โดยสารออกมาจากท้ายซอย ก็โดนน้ำที่รดต้นไม้ โปรยปรายลงหัว..ฉันได้แต่ตะโกนบอก ระวังหน่อย บ้านนี้เขารดน้ำต้นไม้นะ ..(เดี๋ยวมอไซค์จะหาว่าบ้านฉันรดน้ำต้นไม้)..แต่พวกเขาคงจะโดนกันจนชินแล้วหล่ะนะ ฉันว่า
*